เลือดชาวนา

หลังจากเปิดหมวดหมู่ใหม่ ก็เลยอัดแต่เรื่องในหมวดหมู่ใหม่ไปเยอะ..วันนี้มาเข้าเรื่องที่อยู่ในหัวตามเดิมบ้าง

หลายอย่างเกิดขึ้นและดับไปในหัว บางอย่างดับไปแล้วแต่ยังมั่นอยู่ในสัญญา คือยังจำได้อยู่ แต่บางอย่างได้หายไปแล้วกับกาลเวลา ไอเดีย หรือแรงบันดาลใจเกิดขึ้นในใจผมหลายครั้งมาก แต่น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถรักษาพวกเขาให้อยู่กับเราตลอดไป .. แต่มันต้องมีวิธีสิ ต้องมีวิธีที่จะรักษาไอเดียและแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นในใจ ณ เวลานั้นๆ ให้อยู่กับเราตลอดไป เพื่อใช้เป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องตามครรลอง

อังคารที่ผ่านมา มีความรู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพบรรพบุรุษของผมเกิดขึ้น ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่ามันเกิดขึ้นน้อย และหลังๆแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยกับอาชีพนี้ นั่นคือ อาชีพชาวนา !!

ชาวนาผู้น่าสงสาร ทำงานหนักทั้งปี แต่มีหนี้ท่วมตัว ฝนไม่ตกข้าวก็พัง ฝนตกมากข้าวก็เน่า มีลูกสาวลูกชาว ประดาลูกๆ ก็ไม่อยากเป็นชาวนา ไม่มีความภาคภูมิใจในอาชีพบรรบุรุษนี้แล้ว อยากเรียนต่อ เรียนสูงๆ ..ชาวนาผู้น่าสงสาร จะเอาเงินที่ไหนส่งลูกเรียน ในเมื่อข้าวราคาแสนถูก ผลิตผลแต่ละปีก็ย่ำแย่ ไม่น้ำแห้ง ก็น้ำท่วม แต่สุดท้ายด้วยความรักลูก ก็ต้องยอมสละสมบัติชิ้นสุดท้ายอันเป็นที่ทำงานมาทั้งชีวิต นั่นคือ ที่นา !!

ชาวนาผุ้น่าสงสารทำนาเหมือนเดิม แตกต่างแต่ว่า นานั้นไม่ใ่ช่ของตนอีกต่อไป ความหวังสุดท้ายอยู่ที่ลูกชายลูกสาวที่ส่งเสียไปร่ำเรียนถึงในกรุง

ชาวนาผู้น่าสงสารยังมีสัตว์เลี้ยงที่น่าสงสารยิ่งกว่าอีก นั่นคือ ควาย  ~ โง่เหมือนควาย ไอ้ควาย!!

คนฉลาดในเมืองหลวงคอยตักตวงเอาผลประโยชน์จากชาวนาผุ้น่าสงสารที่พลัดหลงเข้ามาในเมืองหลวง กดขี่ข่มเหง คนที่ทนต่อสภาพกดดันนั้นได้ กลายเป็นอดีตชาวนาผู้มีประสบการณ์ทางมิจฉาชีพในเมืองหลวงสูง เขาผันตัวเองเป็นผู้ตักตวงผลประโยชน์ หลอกลวงคนอื่นบ้าง นั่นคือ ผลผลิตจากอดีตที่เจ็บปวดของเขา

ชาวนาผู้น่าสงสารที่ไม่เข้าในเมืองหลวง ก็กลับถูกผู้อยู่ในเมืองดั้นด้นไปจนถึงชายทุ่ง หลอกลวงขอซื้อที่ด้วยราคาที่แทบจะถูกกว่าล้อรถยนต์

ความภาคภูมิใจในอาชีพชาวนาเมื่อในอดีตสูญสิ้น เมื่อกล่าวถึงอาชีพนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า “จน” และค่อนข้าง “โง่” จนเมื่ออังคารที่ผ่านมา ผมดูรายการคนค้นฅน ตอน  ตุ๊หล่าง เลือดชาวนา ความภาคภูมิใจในอดีตค่อนก่อตัวขึ้นใหม่

ตุ๊หล่าง เป็นผู้ที่ไม่หยุดคิดในการพัฒนาตนเองและวิชาชีพชาวนาเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง อาชีพชาวนาเป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่ในความคิดของตุ๊หล่าง และเขาทำให้ทุกคนรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ตุ๊หล่างทำให้ทุกคนรู้ว่า ชาวนา ไม่ใช่อาชีพที่ยากจนหรือถึงจนก็จนแค่ภายนอก แต่ภายในใจนั้นเปี่ยมสุขอย่างล้นเหลือ ชาวนาอย่างตุ๊หล่างมิได้ทำแค่นา แต่ได้ทำหน้าที่ของนักอนุรักษ์ อนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้สารพิษเพื่อฆ่าแมลงในนา แต่เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาเพื่อให้ช่วยฆ่าแมลงแทน ให้ธรรมชาติปรับธรรมชาติอย่างสมดุล โดยมนุษย์เป็นแค่ผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด  ตุ๊หล่างบอกว่า รู้สึกตัวเองด้อยพัฒนาลงทันที หากปีไหนไม่ได้ทำนา ทุกปีที่ลงมือทำนา นั่นหมายถึงการได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ตุ๊หล่างเลี้ยงข้าวด้วยความรัก เขาชื่นชมและคัดเลือกพันธุ์ข้าว ทะนุถนอมดูแลอย่างดี เหมือนกับที่คนปลูกกล้วยไม้ดูแลกล้วยไม้อย่างดี การเอาใจใส่อย่างดีส่งผลให้ผลิตผลดี

จากคนค้นฅน ตอน ตุ๊หล่าง เลือดชาวนา ทำให้หลายๆคนเกิดความคิดไม่แตกต่างกันว่า ไม่ว่าอาชีพไหนก็สามารถประสบความสำเร็จและมีความสุขได้ หากรัก ใส่ใจ และตั้งใจพัฒนาในอาชีพของตนอย่างไม่หยุด ภาษาพระเรียกว่า อิทธิบาท ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา รักงาน พยายามทำงาน ใส่ใจในงาน ตรวจสอบงาน

อาชีพที่สบาย ทำง่ายได้เงินง่ายและอยู่ได้จนตาย  ไม่มีในโลก .. โลกเปลี่ยนทุกวัน อาชีพก็ต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาทุกวันให้ทันโลก และสำคัญที่สุด ทุกอาชีพสุจริต เป็นอาชีพที่มีเกียรติเสมอ