หลุด4เหี้ย

หลุด 4 หลุด เข้าโรงตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้พึ่งมีโอกาสเข้าร้านวีดีโอจึงเช่ามาเบิ่งชม..

หลุดสี่หลุดเป็นหนังสั้นสี่เรื่องจิตหลุดโดยสี่ผู้กำกับ ผมชอบหนังสั้นเพราะรวบรัดดี ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก ผีจะออกก็ออกตั้งแต่เนิ่น คนจะชั่วก็ชั่วได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ไม่ต้องปูพื้นมากมายเสียเวลา

หลุดแรก “เกรียนล้างโลก” สั้นมาก สั้นจริงๆ มีฉากเดียวคือโต๊ะกลางแจ้ง นั่งคุยกันตามประสาวัยรุ่นที่ต้องเริ่มต้นประโยคด้วยเหี้ย และลงท้ายด้วยสัตว์..เหมือนเป็นโครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ ต้องเปิดประโยคด้วย “เหี้ย” หรือ “ห่า” และปิดประโยคด้วย “สัตว์” หรือ “แม่ง”

หลุดแรกทำเอาผู้ชมหวั่นไหวกันเลยทีเดียว หวั่นไปถึงว่าหลุดต่อๆไปจะมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า เพราะมันสั้นและบอกตามตรงยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เหมือนหนังทำเล่นๆ

หลุดที่สอง “ร้านของขวัญแด่คนที่คุณเกลียด” เรื่องนี้เปิดประเด็นได้น่าสนใจและสยองเล็กๆ แต่มันมีดีแค่นั้นเอง กลางเรื่องจืดชืด นิ่งสนิทจนต้องเผลอหลับ แถมตอนจบมีหักมุมแบบกวนตีน..เหี้ยเอ้ย ผมไม่ได้ด่าหนัง แต่พระเอกเขาพูดประโยคนี้เกือบทุกบทสนทนาอีกเช่นเคย โครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ๆ

หลุดที่สาม “คืนจิตหลุด” ได้นักแสดงขั้นเทพอย่างอนันดานับว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย พี่แกเล่นหนังได้เทพจริงๆ บทโรคจิตพี่แกตีบทซะแตกกระจุย เรื่องนี้ถ้าดูในโรง แม่ที่พาลูกเล็กๆเข้าไปดูด้วย สงสัยต้องรีบพากลับบ้าน เพราะมีฉากสยองขวัญสั่นประสาทอย่างฉากตัดนิ้วตัวเองทีละนิ้วๆ ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเดียวบทอ่อนและการหักมุมแบบไม่น่าหักทำให้หนังสนุกน้อยลง จบแบบ..เหี้ยเอ้ยเช่นกัน

และหลุดสุดท้าย “ฮู อา กง” เรื่องนี้อารมณ์เดียวกับบุปผาราตรีภาคแรก ขำก็ขำ พอบทจะน่ากลัวก็โคตรน่ากลัว แต่แล้ว..หนังก็จบแบบปัญญาอ่อนและเหี้ย..อีกเช่นกัน คือ ดูจะเป็นหนังครอบครัวๆ พูดจากันดีมีการศึกษากว่าสามตอนก่อนหน้านี้ แต่แล้วนางเอกที่หมวยใสน่ารักก็พูดคำว่า “เหี้ย” ซะเอง เท่านั้นไม่พอ ผีอากงที่พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย แต่พูด “เหี้ย” ชั๊ดชัด

ผมว่าทั้งสี่เรื่อง ไม่น่าเรียกตัวเองว่าหลุดสี่หลุด น่าจะเรียกว่า “หลุดสี่เหี้ย” มากกว่า

เหี้ยเต็มโรงไปหมด ไม่ได้จะถือสาคำๆนี้เท่าไรนะครับ ถ้าตัวละครมันเหมาะกับคำๆนี้ อย่างอนันดาหรือเด็กวัยรุ่นในตอน “เกรียนล้างโลก” ก็ไม่รู้สึกเท่าไร แต่นี่เหมือนตั้งใจให้ทั้งสี่เรื่อง มีเหี้ย เหี้ย และเหี้ยเต็มโรงไปหมด

คุณไม่ได้ด่าคนดูใช่มั้ย