ฤกษ์ดี

เช้าวันอาทิตย์กับอากาศค่อนข้างสดใส แดดอ่อนๆจางๆ โผล่หน้ามาตามม่านหน้าต่าง นาฬิกาพึ่งบอกเวลา 8 โมง แต่ผมต้องรีบลุกแล้วละ ไม่ ๆ ผมไม่ได้ลืม วันอาทิตย์ไม่ได้ทำงาน แต่วันนี้ผมจะไปออกรถใหม่!
ดูฤกษ์ดูชัยมาหลายเดือนแล้ว เพื่อรอวันนี้ อาจารย์บอกว่า ฤกษ์ออกรถสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ปีมะเมีย ราศีกรกฏอย่างผมต้องวันที่ ๑๙ มกราคม ค.ศ. ๒๐๐๙ เวลา ๐๙.๐๙ นาที เมื่อปีที่แล้วพลาดเรื่องฤกษ์นี่แหละ ถึงทำให้การออกรถต้องเลื่อนมาเป็นปีนี้ วันนี้ผมจะต้องไม่พลาด ว่าแล้วต้องรีบซะหน่อย ออกรถเสร็จแล้วค่อยกลับมาอาบน้ำ ทานข้าวให้สบายใจดีกว่า คืนชักช้าเวลาดีจะผ่านพ้นไป ถ้าไม่ได้วันนี้ อาจารย์บอกต้องรออีกสองปี ถึงออกรถได้..บ้าไปแล้ว สองปี! ผมต้องนั่งรถเมล์อีกสองปี แค่คิดก็สยอง..

ผมรีบเดินออกจากบ้านด้วยชุดนอนเสื้อยืดสีขาว และกางเกงเลสีเขียว ไม่มีชั้นใน สำหรับวันอาทิตย์ที่ทุกคนต่างหยุดงาน ชุดแบบนี้ดูจะเป็นเรื่องปกติ พอเดินออกจากบ้าน ก็เห็นนักศึกษาในชุดนอนเดินเข้าเซเว่น ยืนซื้อเต้าหู้ จ่ายกับข้าว ฯลฯ แล้วจะแปลกอะไรถ้าผมจะใส่ชุดนอนเข้าโชว์รูมรถยนต์

พอเดินไปสามป้ายรถเมล์ก็จะพบโชว์รูมรถยนต์ที่ผมเฝ้ามองตลอด ๓ ปี เพื่อวันนี้  ความค้นแค้น อึดอัด เหม็นสาป เหนื่อยล้าบนรถเมล์ ทำให้ผมกัดฟัน ทำงานอย่างบ้าคลั่ง อดมื้อกินสองมื้อ เก็บหอมรอมริบ เพื่อมีเงินสดๆสักก้อนที่จะออกรถ เพื่อนหลานคนแนะนำให้ซื้อเงินผ่อน ผมไม่สนใจ ผมไม่อยากให้เม็ดเงินที่ผมอดทนเก็บมาตลอดเล็ดลอดเป็นดอกเบี้ยเล็กเบี้ยน้อย ดุจกระสอบข้าวที่รั่ว แม้เป็นเมล็ดข้าวเล็กน้อยที่รั่วจากกระสอบ แต่นั่นคือหยาดเหงื่อแรงงานของชาวนาล้วนๆ ชาวนาย่อมเสียดาย และย่อมต้องอุดรอยรั่วกระสอบข้าว บางคนบอกว่าต้องรีบใช้รถ รอไม่ทันที่จะเก็บเงินก้อนได้ขนาดนั้น ผมไม่คิดเช่นนั้น ก็ทุกคนมีแต่ความคิดใจร้อนแบบนี้ อยากได้อะไรก็จะเอาปุ๊บปั๊บแป๊บเดียวให้ได้ดั่งใจ ปัญหาทั้งหลายจึงตามมา ถ้าเงินสดไม่พอก็แสดงว่าเราไม่มีกำลังพอที่จะมีรถนะสิ..จะไปฝืนมีทำไม เมื่อมีหนี้สินต้องชดใช้ทุกเดือนตลอดเวลาที่ผ่อนอยู่ ถ้าเกิดเดือนไหนมีปัญหามาจะทำอย่างไร จะไหวมั้ย..ชอบให้อนาคตเป็นคนตัดสินใจให้ ทั้งๆที่ตัวเองสามารถตัดสินใจเองแท้ๆ

๐๘.๔๕ นาที ผมมายืนอยู่หน้าโชว์รูมแล้ว ก่อนจะก้าวขาเข้าไม่ลืมที่จะก้าวขาซ้ายเข้าก่อนตามคำบอกของอาจารย์ ขวาร้าย ซ้ายดี

ผมก้าวยาวๆอย่างมั่นใจ ใบหน้าเปี่ยมสุขสุด ยืนอย่างองอาจด้วยชุดนอนกางเกงเลหน้ารถที่หมายปอง เธอดูดีมาก ขาวสะอาด แววตาปราดเปรียว พร้อมจะทะยานไปข้างหน้าอย่างผู้นำ เมื่อผมเอื้อมมือสัมผัสเธอ ผมรู้สึกได้ทันทีว่า นี่แหละคือสิ่งที่ผมค้นหามาทั้งชีวิต นี่แหละ..ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ และเธอก็เกิดมาเพื่อผม เธอไม่ยอมให้ใครซื้อไป เพื่อรอผม ผมมั่นใจ ~ รถย่อมเลือกคน มิใช่คนเลือกรถ

เมื่อมั่นใจว่าใช่แล้ว ผมจึงมองหาเซลล์เพื่อปลดแอกให้แก่เธอ แล้วเราจะไปด้วยกัน

ทันทีที่ผมหันมองเซลล์ สายตาผมก็ปะทะเข้ากับความรู้สึกที่เหยียดหยาม ดูถูก สบประมาท จากเซลล์กลุ่มนั้น มีเสีียงกระซิบกระซาบให้เรียกรปภ. ผมเข้าใจทันที วันนี้ผมมาในชุดนอนที่ดูปอนเหมือนคนไม่มีเงิิน ผมอยากจะโปรยเงินให้ทั่วโชว์รูมจริงๆ ทำไมคนเดียวนี้ถึงชอบตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอกนัก!

 

๐๙.๐๐ นาที ผมมีเวลาไม่มากแล้ว ผมไม่อยากจะรออีกสองปีเพื่อซื้อรถ ผมรอไม่ไหวแล้ว เธอเองก็คงเช่นกัน
“น้องครับ พี่จะซื้อรถ พี่จะเอาคันนี้ วันนี้ และเดี๋ยวนี้” ผมพูดเสียงเข้ม เวลาเก้านาทีคงพอ
“เออ..พี่ค่ะ ซ..ซื้อได้ ต..แต่ พี่ไม่มี..”
“มี” ผมตอบเสียงดัง ด้วยความโมโห “ทำไมพวกคุณถึงชอบตัดสินคนที่ภายนอกนัก” 
“ผมมีเงินซื้อรถ ซื้อสดๆด้วย ซื้อสด” ผมพูดพร้อมชูกระเป๋าโน๊ตบุคที่ไม่มีโน๊ตบุค แต่เต็มไปด้วยแบงค์พันให้ดู 

แต่แทนที่จะได้รับการต้อนรับอย่างดี กลับมีรปภ.เดินเข้ามาในโชว์รูมอีกคน พร้อมของในมือ ดูคุ้นๆ แต่ผมไม่สนใจ
“นี่ ใช่ของคุณหรือเปล่าครับ” ยามพูดขึงขัง
“นั่น..ห่ะ เฮ้ย…ตั้งแต่เมื่อไรวะเนี่ยะ?” ผมตกใจสุดขีดทิ้งกระเป๋าเงิน รีบวิ่งไปฉวยกางเกงเลจากมือยามมาใส่ทันที

“ที่หนูบอกว่าพี่ไม่มีนะ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเงิน แต่หมายถึงไม่มีกางเกงต่างหาก..แต่พี่ก็ไม่ฟังเลยย”

 
๐๙.๑๙ นาที  
“ฮัลโหล..อาจารย์หรอครับ” 

“คือ วันนี้คงไม่ได้เอารถไปให้อาจารย์เจิม”

“ก็คงอีกสองปีโน่นแหละครับ”

 “……..ฯลฯ………”

 

คำเตือน : เวลาไปออกรถ ควรแต่งตัวสุภาพ ไม่จำเป็นต้องรอฤกษ์ ทำดีเมื่อไร ฤกษ์ดีเมื่อนั้น