เที่ยว..วันธรรมดา
เกิดความประทับใจจากเมื่อปีที่แล้ว ที่ทุ่งดอกกระเจียวที่สระพรั่งด้วยดอกกระเจียวและกลุ่มหมอก ปีนี้ไปด้วยความคาดหวังว่าต้องสวยไม่แพ้ปีที่แล้ว ..ช่วงเดือนเดียวกันและวันก็ไม่ต่างกันมากนักจากปีที่แล้ว..
Find your Heart, Find the Happiness.
เกิดความประทับใจจากเมื่อปีที่แล้ว ที่ทุ่งดอกกระเจียวที่สระพรั่งด้วยดอกกระเจียวและกลุ่มหมอก ปีนี้ไปด้วยความคาดหวังว่าต้องสวยไม่แพ้ปีที่แล้ว ..ช่วงเดือนเดียวกันและวันก็ไม่ต่างกันมากนักจากปีที่แล้ว..
นับตั้งแต่เข้าสู่วงการ “วิ่ง” การไปร่วมวิ่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่าเป็นการวิ่งที่ตื่นเต้นที่สุด ทั้งเส้นทางวิ่งที่รายล้อมด้วยวัดวาอารามที่ดูขลัง และสำคัญที่สุดการเดินทางเพื่อไปร่วมวิ่ง
เป็นรายการวิ่งที่พลาดเมื่อปีที่แล้ว เพราะตรงกับรายการวิ่งบนทางด่วนศรีรัช ปีนี้เลยบอกน้องที่หมู่บ้านไปว่า ถ้าหาเบอร์วิ่งได้หาให้ด้วย และเมื่อถึงวันวิ่งน้องก็หามาให้จนได้สมใจ
งานนี้ถือเป็นฮาล์ฟมาราธอนครั้งที่ 4 และเช่นเคยครับ ไปวิ่งคนเดียวแม้ตอนสมัครจะสมัครด้วยกันสองคนก็ตาม!
ไปพักผ่อนเฉยๆนี่แหละครับ แต่จะไปวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันเสาร์อาทิตย์นั้นนะหรือ คนก็เยอะเกิ๊น เลยเลือกเดินทางวันศุกร์และกลับบ่ายๆวันอาทิตย์ดีกว่า ไปโคราชไปเยี่ยมพี่กุ้ง พี่ต้อมผู้ดูแลรีสอร์ทอารมณ์ดี และวินดีรีสอร์ท วันแรกไปโคราชก่อน ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพี่กุ้งพี่ต้อมเช่นเคย ..ทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องกันที่น่าเอาตัวอย่างในเรื่องความรักพี่รักน้องและเรื่องการต้อนรับปฏิสันถาร ดูแลดีมาก ทั้งที่พัก อาหารการกิน กระทั่งพาไปเที่ยวในที่ๆพอจะไปได้ในเวลาอันจำกัด การดูแลเอาใส่ใจต่อแขกนี้ ใช่ว่าจะทำกับคนรู้จักเท่านั้นนะครับ แกดูแลแขกที่มาพักที่รีสอร์ทด้วยอัธยาศัยอันดีเช่นกัน จึงทำให้รีสอร์ทเล็กๆ มีคนเข้ามาพักเต็มตลอดปี เช้าวันเสาร์แม้จะตื่นสายสักหน่อย แต่ผมก็ไม่ลังเลที่จะหยิบรองเท้าออกไปวิ่ง ..เมื่อตอนเย็นแอบเห็นแล้วละว่าแถวนี้มีสวนสาธารณะกว้างขวางและมีคนออกกำลังกายมากมาย สวนนี้มีชื่อว่่า “สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว” ตรงกลางเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รอบๆมีถนนอย่างดีสำหรับวิ่ง เดิน และปั่นจักรยาน แยกเลนสำหรับนักปั่นและนักวิ่งโดยเฉพาะครับ คือดีงามมาก กว้างพอสมควร วิ่ง 1 รอบระยะทาง 3.2 กิโลเมตร เช้าวันนั้นจัดไป 10 กิโลเมตร อยากจะวิ่งให้มากกว่านั้น แต่แดดเริ่มแยงตา เสียดายที่ตื่นสายไปหน่อย.. วันที่สองจากโคราชมา มุ่งหน้าเขาใหญ่ งานนี้จัดที่พักพรีเมี่ยมเลยครับ เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ สนนราคาที่พักคืนละ 4,200 บาท ถือว่าแพงที่สุดเท่าที่เคยพักมา ตัวโรงแรมอยู่ในถนนธนรัชต์ที่จะมุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่ไม่ห่างจากปาลิโอมากนัก ตัวโรงแรมอลังการอย่างที่เขาว่าจริงๆ สไตล์ยุโรป (ยุโรปไหนนี่ไม่รู้) บรรยากาศในตัวโรงแรมก็เหมือนอยู่ต่างประเทศ เปิดเพลงคันทรี่เบาๆ ทั่วโรงแรม แต่ละตึกเน้นปลูกต้นตีนตุ๊กแกให้เลื้อยไปทั่วตัวโรงแรม งานนี้เอาภาพมาโชว์อย่างเดียวดีกว่า เล่าแล้วบรรยายไม่ถูก..
การไปวิ่งจอมบึงมาราธอนถือเป็นความใฝ่ฝันของนักวิ่งทั้งหลาย เพราะไม่ใช่ว่าใครจะไปวิ่งได้ นอกจากมีเงิน มีเวลาแล้ว ยังต้องลุ้นว่าสมัครแล้วจะได้รับเลือกให้ไปวิ่งหรือเปล่า ตอนสมัครวิ่งใจยังไม่พร้อมสำหรับมาราธอนเลยเลือกในระยะที่ตัวเองสามารถทำได้ก่อน นั่นคือระยะฮาล์ฟ แต่พอถึงเวลาจริงกลับเสียดายระยะมาราธอน.. เราน่าจะจบมาราธอนแรกเสียทีนี่เลย
.อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจางหาย ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ..”
เข้าสู่วัย 10 ขวบแล้วสำหรับจิ๊กกี๋ ถ้าเป็นคนก็เริ่มเข้าสู่วัย 70 นิสัยเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม ขี้อ้อน ขี้กลัว กลัวฝนกลัวฟ้าร้องกลัวฝนตก สายตาเริ่มพร่ามัว มองไกลๆไม่ค่อยเห็นตามประสาหมาสูงอายุ แต่ยังเป็นหมาที่กินยาก ฉี่ยาก อึยากเช่นเคย เอาภาพมาอัพเดตไว้เท่านี้แหละ
(ต่อจากตอนที่แล้ว) ด้วยความที่ช่วงนี้ออกกำลังกายบ่อย วิ่งทุกอาทิตย์ ร่างกายจึงฟิตเป็นพิเศษ ขับรถเป็นร้อยกิโลก็ยังไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ยังคงมีความสุขกับการขับรถท่องเที่ยว ประมาณบ่ายสองโมงที่ออกจากมอหินขาว ผมมุ่งหน้าสู่อำเภอเทพสถิตย์แหล่งที่ดารดาษด้วยดอกกระเจียวและบรรยกาศที่เย็นสบายเกือบทั้งปี เส้นทางส่วนใหญ่ลัดเลาะไปตามทุ่งนา หมู่บ้านน้อยใหญ่ ผมต้องการปั้มแก๊ส ตอนนี้หน้าปัดโชว์หน้าจอว่าแก๊สใกล้หมดแล้ว น้ำมันก็เหลือไม่ถึงขีด เส้นทางข้างหน้าอีกไกลแค่ไหน มีปั้มมั้ยยากคาดเดา ขับรถด้วยความกังวลเล็กๆเรื่องน้ำมัน ขณะที่คนข้างๆหลับไปนานแล้ว จนในที่สุดผมก็เจอปั้ม PT เติมเบนซินไป 500 บาทก่อนกันพลาด หลังจากนั้นขับรถต่อมาจนเข้าเขตอำเภอเทพสถิตย์ พอย่างเข้าเขตอำเภอผมรู้สึกได้ถึงความเย็น สดชื่น ตลอดทางเราจะพบรถอีแต่น รถไถ และรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าคนแถวนี้ทำนาทำไร่เป็นหลัก บ่ายสี่โมงผมมาถึงที่พัก เส้นทาง@LOVE รีสอร์ท ตัวรีสอร์ทไม่ติดถนนใหญ่ แว่บแรกที่เห็นทางเข้าเป็นถนนลูกรัง ผมใจคอไม่สู้ดีเท่าไร จนกระทั่งวิ่งมาถึงตัวรีสอร์ท ..ประทับใจครับ เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านติดกับไร่มันสำปะหลัง ถึงเป็นรีสอร์ทไม่ใหญ่มาก แต่การตกแต่งรวมถึงการออกแบบให้ความรู้สึกอบอุ่น น่ารัก เป็นครอบครัว ตัวที่พักจะอยู่รอบๆ เว้นสนามหญ้าตรงกลางไว้สำหรับวิ่งเล่น หรือปั่นจักรยานเล่นได้ ที่นี่มีจักรยานปั่นเที่ยวฟรี มี wifi มีอาหารอร่อย โดยเฉพาะผัดหมี่โคราชรสชาตแบบฉบับโคราชแท้ ห้องพักมีหลายแบบ ทั้งแบบบ้านเดี่ยวปูนเปลือย , บ้านแบบห้องแถวติดกัน หรือแบบเต๊นท์ก็มี แต่ละแบบก็มีความน่ารักและน่าพักแตกต่างกันไป ทั้งหลายทั้งปวงยังไม่เท่ากับความมีอัธยาศัยไมตรีอันดีของเจ้าของรีสอร์ท ยิ่งทำให้ที่นี่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของรีสอร์ทตัวน้อยๆอีก 3 ตัว ที่คอยวิ่งป่วนต้อนรับแขกจนทั่วรีสอร์ท (หมายถึงน้องหมา) บรรยากาศรีสอร์ทดีขนาดนี้ มีหรือผมจะพลาด พอเช็คอินเข้าห้องพักเสร็จสรรพผมเลือกจักรยานที่ชอบ 1 คัน ปั่นออกไปซูดโอโซนในไร่มันสำปะหลัง ไร่มันที่มีภูเขาเป็นแบ็กกราวด์ไกลๆ ช่างงดงามนัก จนมืดค่ำผมกลับมาที่พัก คืนนี้คงได้นอนเต็มอิ่ม พรุ่งนี้ต้องตืนแต่เช้าเพื่อไปชมทุ่งดอกกระเจียว รุ่งเช้า ประมาณหกโมงครึ่ง ผมขับรถจากที่พักออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ต้องซื้อตั่วเพื่อเข้าชมและเมื่อเข้าไปแล้ว จะต้องซื้อตั๋วอีกครั้งสำหรับนั่งรถเข้าไปในอุทยานซึ่งมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพราะเมื่อคืนมีฝนตก ทำให้เช้าวันนี้อากาศดีเป็นพิเศษกล่าวคือมีหมอกปกคลุมเต็มพื้นที่ไปหมด ผมซูดอากาศเข้าไปเต็มปอด นานแล้วที่ผมไม่ได้ซูดอากาศแบบไม่ต้องรู้สึกตะขิดตะขวงใจแบบนี้ ผมไม่สามารถจะบรรยาบรรยากาศได้ครบถ้วนทั้งหมด จะบอกว่ามันสวยงามมาก อากาศดีมาก หมอกที่ปกคลุมตามชายป่าสีเขียว บนพื้นก็มีต้นหญ้าสีเขียว มีดอกกระเจียวประปราย งดงามครับ งดงามอย่างยากจะบรรยาย คุ้มค่าที่ได้มา ผมใช้เวลาที่ทุ่งดอกเจียวนานพอสมควร…