เที่ยวเมืองต้าลี่-ลี่เจียง-แชงกรีล่า ตอนที่ 1

ช่วงที่กรุงเทพมหานครถูกรายล้อมด้วยข้าศึกคือน้ำ ผมมีโอกาสได้ละทิ้งความเครียดเรื่องน้ำท่วมมุ่งสู่มหาดินแดนอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ เมืองจีน !!

การเดินทางไปครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทที่มีโควต้าสองที่นั่งสำหรับผมและพี่อีกคน(พี่ชาติ) ดูแลการเที่ยวตลอดทริปโดยบริษัทอาเจนต้า มีเวลาสำหรับการท่องเที่ยว 5 คืนกับ 6 วัน ทริปนี้แม้ได้ชื่อว่าไปเมืองจีน แต่อย่างที่ทราบกันนะครับ เมืองจีนกว้างใหญ่ไพศาล การเดินทางจึงโฟกัสไปที่ 3 เมือง คือ ต้าลี่ ลี่เจียง และแชงกรีล่า

ออกเดินทางตอนสายๆในวันที่ 26 ตุลาคม 2554 เจอกับคณะอีก 30 ชีวิตที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เครื่องบินนำไปสู่เมืองต้าลี่เป็นที่แรกสำหรับทริปนี้ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นเองฮ่ะ อ่านหนังสือพิมพ์ยังไม่จบเล่มเลยก็ถึงละ การเดินทางครั้งนี้ผมซ่ามาก ใส่กางเกงขาสั้นทั้งๆที่รู้ว่าเมืองต้าลี่อากาศอยู่ที่ 18 – 20 องศาเท่านั้น

 

ประมาณบ่ายสองโมงก็ถึงเมืองคุนหมิง ไม่ได้มาเที่ยวคุนหมิงครับ แต่ที่นี่มีสนามบินเราต้องลงที่นี่ก่อนนั่งรถไปยังเมืองต้าลี่ต่อไป

สนามบินของคุนหมิงห้ามถ่ายรูปครับ ก็เลยได้แต่แอบๆถ่ายมาได้เท่านี้ ทีแรกก็นึกว่าจะห้ามเฉพาะในสนามบิน แต่เมื่อได้ไปเที่ยวหลายๆที่ในจีน ถึงได้รู้ว่า ..คนจีนหวงเรื่องการถ่ายภาพมาก นัยว่ากลัวคนอื่นจะก็อปปี้ตัวเอง แต่ตัวเองก็อปปี้คนอื่นแหลกลาญ

 

จากสนามบินคุนหมิงก็ขึ้นรถทัวร์ต่อครับ นั่งรถค่อนข้างนานมุ่งหน้าสู่เมืองต้าลี่ ระหว่างทางแวะปั้มแห่งหนึ่งเพื่อให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำ เมืองจีนขึ้นชื่อมากเรื่องห้องน้ำ โดยเฉพาะห้องน้ำในปั้มหรือตามที่ท่องเที่ยว..และก็เป็นดั่งที่เขาโจษจัน ห้องน้ำแห่งนี้ไม่มีประตู นั่งขี้กันแบบเผชิญหน้า ~

เราจะข้ามในรายละเอียดเรื่องห้องน้ำไปดีกว่า เพราะจริงๆมีเรื่องที่แย่กว่าห้องน้ำนั่นอีก !!

เดินทางมาถึงเมืองต้าลี่ในเวลาประมาณ 5 โมงกว่าๆ ซึ่งได้เวลาสำหรับมื้อเย็นพอดี

 

หลังจากลิ้นได้ลิ้มรสชาติของอาหารจีนมื้อแรก ก็ได้รับรู้ทันทีว่า ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้..มันจืดชืดไร้รสชาต แถมน้ำมันก็เยิ้มเยอะ รสชาตมันห่างจากอาหารไทยมาก จนหลายๆคนรวมทั้งผมไม่สามารถทานอย่างเต็มปากเต็มคำได้ แต่ก็ทานพอบรรเทาหิว

 

หลังจากจบมื้อค่ำก็ได้เวลาย่ำราตรีครับ เมืองต้าลี่แบ่งเป็นเมืองต้าลี่ใหม่และต้าลี่โบราณ โดยที่เมืองต้าลี่โบราณจะเป็นการปรับปรุงจากเมืองโบราณมาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ส่วนเมืองต้าลี่ใหม่เป็นเมืองใหม่ที่สร้างในภายหลังแบบสมัยใหม่

ภาพด้านบนเป็นบรรยากาศในเมืองโบราณต้าลี่ในยามค่ำคืน ร้านรวงส่วนใหญ่เป็นของฝาก ของที่ระลึกครับ บรรยากาศค่อนข้างเย็นสบายอยู่ที่ 18-20 องศา ใส่กางเกงขาสั้นเดินเล่นสบายๆ แต่คนส่วนใหญ่ใส่เสื้อหนาวแบบจัดเต็ม ..

เช้าวันต่อมา (วันที่ 27 ตุลาคม 2554) หลังจากเสร็จกิจมื้อเช้าอันแสนรันทดใจ ไกด์ชาวจีนแซ่ลู่ ก็พาเราไปชมเจดีย์สามยอดของเมืองต้าลี่ มีวลีสำหรับเจดีย์นี้ว่า หากใครมาต้้าลี่แล้ว ไม่มาเจดีย์สามยอดนี้ ถือว่ามาไม่ถึง (วลีนี้จะไปปรากฏทุกเมือง)

เจดีย์ 3 ยอด หมายถึง อดีต อนาคต และปัจจุบัน แต่ผมจำไม่ได้ละว่าอันไหนคืออดีต อนาคต และปัจจุบัน

จากนั้นก็เป็นการเดินทางอันยาวนานอีกครั้งหนึ่งเพื่อไปยังเมืองต่อไป นั่นคือ “ลี่เจียง”

ขอปิดท้ายโพสต์แรกแห่งการเดินทางเมืองจีน ด้วยภาพคู่กับไกด์สาวชาวจีน “ลูลู่”