แฮรี่ พ็อตเตอร์ ตอน เจ้าชายเลือดผสม

ของฟรีไม่มีในโลก..ของฟรีมักไม่ดี ของดีมักไม่ฟรี…
คำนิยามนี้ ถูกต้อง 99 % อีก 1 เปอร์เซ็นต์ คือ มันมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้กับคนๆหนึ่งอย่างน้อย 1 ครั้ง แน่นอนไม่ใช่เรื่องของการพนันขันต่อ อย่างเช่นหวย แต่มันเป็นเรื่่องของโชค และอะไรสักอย่างที่บอกไม่ถูก แต่มันจะพอดิบพอดี และจะทำให้เรารู้สึกดีกับคำว่าของฟรีนั่น

ผมเคยได้รับของฟรีชนิดดีเกินคาดมาอย่างน้อย 1 ครั้ง ที่จำได้แม่นที่สุดคือ ได้คูปองไปเที่ยวฟรีมูลค่า 2 หมื่นบาท 2 วัน 3 คืน จากการส่งเมสเสจไปร่วมในรายการวิทยุที่ผมพึ่งเคยฟังแค่ครั้งเดียว!! นอกจากนั้นยังเคยได้ตั๋วไปดูหนังฟรีหลายครั้ง แต่นั่นไม่นับว่าเป็นของดี เพราะส่วนใหญ่ได้นั่งแถวเกือบหน้าสุด และโรงหนังก็เล็กๆ อยู่ในที่ๆคนไม่ค่อยรู้จัก เช่น อาร์ ซี เอ, เซ็นจูรี่ มูฟวี่พลาซ่า อนุสาวรียชัย ฯลฯ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ได้ของฟรีอีกแล้ว ของฟรีชนิดดีเกินคาด คือ ได้ตั๋วฟรีของแฮรี่พ็อตเตอร์ โรงหนังขนาดใหญ่ในพารากอน  ได้ที่นั่งชนิดไม่ต้องแงนหน้าดูจอ คือได้แถว E

ของฟรีจะมีมูลค่าราคาขึ้นมาทันที ถ้าของๆนั้น เป็นสิ่งที่เราอยากได้อยู่แล้ว และมันมีมูลค่าดีอยู่แล้วในตัวของมัน ผมตั้งใจจะดูอยู่แล้วแฮรี่พ็อตเตอร์ หลังจากอ่านจบทั้ง 7 เล่ม และติดตามดูมาตลอดทั้ง 5 ภาคที่ผ่านมา

วันนี้ได้ดูหนังดี ที่นั่งดี และโรงหนังดีขนาดใหญ่ประมาณด้วยสายตาน่าจะสัก 800 ที่นั่ง (มั่วนิ) เข้าเรื่องหนังบ้างดีกว่า

ถ้าใครได้อ่านแฮรี่พ็อตเตอร์มาก่อน จะได้อรรถรสในการชมภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าภาคไหน โดยเฉพาะภาคนี้ ทำได้เหมือนหนังสือมากที่สุดภาคหนึ่ง และคนที่อ่านเล่ม 6 จะรู้ว่าภาคนี้ เจ้าชายเลือดผสม เป็นภาคที่เศร้าสะเทือนใจที่สุด เป็นตอนที่มีความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการพ่อมด เหมือนต้นโพธิ์ที่เป็นที่อาศัยของเหล่าปักษาล้มลง เหมือนดวงอาทิตย์ไม่โผล่ขึ้นในตอนเช้าในวันที่ีหนาวเหน็บ อารมณ์ตอนอ่านเศร้ายังไง มาดูในภาพยนตร์ก็เศร้าอย่างนั้น ไม่ต่างกัน แสดงถึงหนังที่ทำอิงกับหนังสือได้ดีมากทีเดียว

ภาคนี้ถือเป็นภาคเปิดศึกต่อท่อให้ภาคจบเป็นภาคที่มันส์ระทึก จำได้ว่าตอนอ่านแทบหยุดหายใจ สมกับเป็นนิยายที่ยิ่งใหญ่ จบได้อลังการและสมบูรณ์แบบทีเดียว หากใครที่ยังไม่ได้อ่านแฮรี่พ็ตอเตอร์ ผมว่าชีวิตนี้ยังขาดอะไรไปนะ คุณอาจเคยพลาดหลายสิ่งที่ดีๆในชีวิตหลายครั้ง และนี่ก็นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่คุณพลาด!!

หลังจากหนังจบ ถัดจากแถวที่ผมนั่งไป 2 แถว ผู้หญิงคนหนึ่งลุกขึ้นด่าผู้ชายที่นั่งข้างหลังตัวเองว่า “ขอโทษนะค่ะ ทีหลังดูหนังอย่าเตะเก้าอี้ มันรำคาญมากกกก” ขึ้นต้นด้วยขอโทษ แต่ลงท้ายเหมือนด่า ผมชื่นชมเธอที่กล้าหาญชาญชัยสมเป็นหญิงไทยสมัยนิยม และถ้าผมเป็นผุ้ชายที่ถูกว่านั่น ก็คงเคืองและอายไม่น้อย มารยาทในโรงหนังถึงแม่ไม่เคยสอน แต่ผมก็เข้าใจและถือปฏิบัติมาอย่างดีตั้งแต่อดีตจวบปัจจุบัน คงยากจะถูกใครต่อว่า

ดูหนังก็เพื่อความบันเทิงครับ แต่ความบันเทิงของเราก็อย่าไปให้เสียความบันเทิงของคนอื่น

วันหยุดนี้ก็ลองตีตั๋วไปดูแฮรี่พ็อตเตอร์ ตอน เจ้าชายเลือดผสม รับรองไม่ผิดหวัง (ยกเว้น ไปเจอคนในโรงหนังไม่ดี อันนั้นไม่นับนะ)