คิดถึงแม่ขึ้นมา..น้ำตามันก็ไหล

ในยุคที่ทุกคนต่างมีอิสระเสรีในการแสดงออกทางประชาธิปไตย จึงมีภาพคนชุมนุม หรือผู้แสดงออกทางความคิดความเห็นทางการเมืองอย่างหลากหลาย และเมื่อไม่ได้อย่างที่หวังอย่างที่ตั้งใจ ก็รวบรวมผู้มีอุดมการณ์เดียวกับตน หรือวานจ้างคนให้มามีส่วนร่วมด้วย มีการแบ่งข้าง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสี สีต่างๆถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละฝ่าย

อะไรก็ไม่ร้ายแรงเท่า เมื่อแต่ละฝ่ายเริ่มทวีความรุนแรง เริ่มไม่ฟังแกนนำ เริ่มทำตามความชอบใจ เอาอารมณ์ตนเป็นที่ตั้ง เอาความเกลียดชังเป็นแรงขับเคลื่อน ทางฝ่ายผู้รับเองอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ครั้นจะอยู่เฉยๆก็อาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งควบคุมไม่อยู่ หรือจะระงับเหตุก็กลัวจะบานปลาย ทำให้อีกฝ่ายได้รับความบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ระหวังเหตุการณ์อยู่ในรอยต่อนี่เอง.. เจ้าของพื้นที่ ~ กรุงเทพกำลังระอุ เราจึงเห็นภาพกรุงเทพร้องไห้ หลังจากเคยเห็นพระจันทร์ยิ้มมาเมื่อต้นปี

กรุงเทพเริ่มวุ่นวาย รถราไปไหนไม่ได้ ผมรีบกระวีกระวาดออกจากที่ทำงาน แต่กระนั้นก็ยังเจอกับฝูงม็อบเข้าอย่างจัง คนกำลังบ้าคลั่ง ทั้งผู้ชุมนุม และผู้สัญจรที่รถกระดิกไม่ไหนไม่ได้ ทำให้ร้อนใจแทบบ้า

สงกรานต์ปีนี้ ผมตั้งใจจะไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ สงกรานต์ไทยถูกกำหนดให้เป็นวันครอบครัว ลูกๆที่ระเห็ดระเหเร่ร่อนมาทำงานในกรุงเทพ ก็จะถือฤกษ์ในวันนี้กลับไปหา ไปกราบ ไปรดน้ำ ขอพร

หลายปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยกลับไปในวันครอบครัวเช่นนี้ ด้วยข้ออ้างต่างๆนานา รถเยอะ คนเยอะ ติดงาน ฯลฯ ปีนี้จึงตั้งใจอย่างยิ่งว่า จะไปให้ได้ ฟังเพลงแม่ของเสกโลโซยิ่งทำให้คิดถึงแม่ “คิดถึงแม่ขึ้นมา น้ำตามันก็ไหล อยากกลับไป ซบลงที่ตรงตักแม่…” 

หลังจากนั่งแงกบนรถอยู่ร่วมชั่วโมง ด้านหน้ามีผู้ชุมนุมเอารถมากั้นไว้ พร้อมแกนนำตะโกนด่า แต่ติต่างว่าปราศัย รถทุกคันที่ติดแง่กอยู่ตรงนั้น อยู่ในภาวะที่กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง หลายคนเริ่มก่นด่ากลุ่มผู้ชุมนุม แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะกริ่งเกรงผู้ชุมนุมจะเข้ามาทำร้าย

ท่ามกลางแดดในเวลาเที่ยงวันของเดือนเมษาที่ร้อนระอุ ผมนึกหวั่นใจเกรงว่าสงกรานต์นี้ จะคลาดแคล้วการไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่อีกเช่นที่ผ่านมา การจะเคลื่อนตัวออกจากจุดนี้คงทำได้ยาก หากสละรถไว้ รถคันงามที่ยังผ่อนไม่หมด อาจมีอันตรายหรืออาจเป็นตัวการที่ทำให้การจราจรเลวร้ายกว่าที่เป็น คิดภาพถ้าทุกคนบนรถที่จอดติดบนถนนในตอนนี้ สละรถกันทุกคน ถนนเส้นนี้ก็จะกลายเป็นสุสานรถ และอาจเป็นอาวุธให้ผู้ชุมนุมใช้เผาไล่เจ้าหน้าที่อีก

คิดได้ดังนั้น จึงได้แต่นั่งดูเหตุการณ์ต่อไป

เมื่อเหตุการณ์ทำท่าจะกลับมาเป็นปกติได้ยาก ผู้ชุมนุมเริ่มทวีจำนวนมากขึ้น ทั้งชาย หญิง วัยรุ่น หรือกระทั่งคนแก่ ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และคนแรกที่ผมนึกถึง ณ ขณนั้น แม่!

“ฮัลโหล แม่ครับ” 
”ฮัลโหล แม่ .. แม่อยู่ที่ไหน ทำไมเสียงดังจัง”

เมื่อยังไม่ได้รับเสียงตอบกลับ  ผมจึงถามซ้ำอีกครั้ง

“ฮัลโหล ลูก ตอนนี้แม่กำลังยุ่ง” เสียงแม่ตอบพร้อมกับเสียงเอ็งอึงกึ่งโห่ร้อง

“แม่อยู่ไหน?” ผมถามอย่างร้อนใจ

“แม่มาชุมนุม!!”

“ห่ะ..”
“แม่ว่าอะไรนะ”
”แม่มาชุนมุม แถวบ้านเรามากันเยอะเลย แม่เลยมากับเขา เขาให้วันละ 500 แนะ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ”

“ม..แม่”

ผมน้ำตาไหล นี่เราเลี้ยงดูแม่ไม่ดี ปล่อยให้แม่อดๆยากๆหรือเปล่านี่ ถึงทำให้แม่ต้องออกมาทำแบบนี้

“แม่ชุมนุมอยู่ที่ไหน?”

“เดี๋ยวน่ะ..” เสียงแม่หันไปถามคนข้างๆว่า ที่นี่ที่ไหน
”เขาเรียกที่นี่ว่า อนุสาวรีย์ชัยนะ แม่ไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ตรงไหน”

มันคือจุดเดียวกันกับที่รถผมและคนอื่นๆติดอยู่ อนุสาวรีย์ชัยคือหัวใจของการเดินรถมวลชนทั่วกรุงเทพฯ

ผมวางโทรศัพท์ และเดินออกจากรถช้าๆ แดดกลางเที่ยงวัน ร้อนระอุขนาดนี้ แล้วแม่ผมละ แม่ผมยืนกลางถนนตากแดดประท้วงอยู่อย่างนั้น ทำได้อย่างไร?

คิดได้ดังนั้น ผมจึงเดินออกจากรถ มุ่งไปด้านหน้าผู้ชุมนุม ท่ามกลางคนบนรถที่มองเป็นตาเดียวกัน และกลุ่มผู้ชุมนุมที่เริ่มให้ความสนใจเมื่อผมเดินผ่านแนวกั้นทหารที่ยืนเป็นรั้วอยู่ ผมยืนอยู่ตรงกลางระว่างทหารและผู้ชุมนุมในที่ว่างๆ อันเป็นรอยต่อของความรุนแรงที่เริ่มใกล้กันเข้ามาทุกที

“แม่” ผมตะโกนเรียกทั้งน้ำตา ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม

“แม่ ออกมาหาผมหน่อย ฮือ อ แม่”  ผมร้องอย่างคนเป็นบ้า

ผมร้องเรียกอยู่นาน ยังไม่ปรากฏมีใครออกจากกลุ่มผู้ชุมนุม จิตใจห่อเหี่ยว ท้อ เศร้า ผมคุกเข่าร้องไห้อยู่ตรงนั้นราวคนเสียสติ

ขณะนั้นก้มร้องไห้อยู่บนพื้นถนนที่ร้อนระอุอยู่นั่นเอง มีใครบางคนเดินมาตรงหน้า และใช้มือโอบไหล่ ผมรู้สึกถึงความอบอุ่น ความรัก ความห่วงใยที่มาพร้อมกับมือคู่นั้น ยังไม่ทันเห็นผู้มาตรงหน้า ผมร้องออกมาอย่างลืมตัว

“แม่”

และพอมองขึ้นมา ก็เป็นแม่ของผมจริงๆ แม่..แม่ ผมร่ำร้องและกอดแม่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

ผมก้มกราบลงที่เท้าเล็กๆคู่นั้น แม่ดูแก่มาก แดดที่แผดเผาทำให้แม่ดูคล้ำ แม่อยู่ในชุดมีสีที่กลุ่มผู้ชุมนุมให้ใส่เพื่อแสดงความเป็นอันเดียวกัน

กลุ่มผู้ชุมนุมทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ ต่างมองมาเป็นจุดเดียว ที่ผมและแม่ ผมอยากให้ทุกคนคิดถึงแม่ ใช้เวลาในวันแบบนี้อยู่กับแม่ อยู่กับครอบครัว เรามีทางแก้ปัญหาและแสดงออกทางความคิดเห็นด้วยวิธีอื่นอีกมากมายที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรง

 

ผมเดินออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมกับแม่ การชุมนุมยังดำเนินต่อไป และเมื่อผมกลับถึงบ้านถึงได้ทราบข่าวว่า เกิดการปะทะจนเกิดมีผุ้บาดเจ็บ และความเสียหายเกิดขึ้น ขณะที่แม่นอนหลับไปนานแล้วด้วยความอ่อนเพลีย

 

..