ทำไมโลกนี้..ต้องมีบุหรี่อย่างเธอ

-1-

…การผลิตบุหรี่ในยุคแรกทำด้วยมือโดยผู้สูบเองหรือโดยคนงานโรงงานซึ่งมวนบุหรี่บนโต๊ะ ปะกาวปิด และห่อ ใน ค.ศ. ๑๘๘๐ นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน เจมส์ เอ บอนแซก คิดค้นสร้างเครื่องทำบุหรี่อัตโนมัติขี้นเป็นเครื่องแรก ยาสูบถูกหยอดลงบนริ้วกระดาษเป็นทางยาว เครื่องจักรจะมวนบุหรี่ ปะกาวปิด แล้วตัดด้วยใบมีดที่หมุนอยู่ตลอดเวลา

วิธีการทำงานของเครื่องจักรอัตโนมัตินี้เป็นต้นแบบของการผลิตบุหรี่จำนวนมหาศาลซึ่งทำให้บุหรี่กลายเป็น “สิ่งที่ให้ความพึงพอใจ” ที่หาซื้อได้ง่ายมากของนักสูบทั่วโลก

-2-

ถ้าแบ่งระดับชีวิตแบบหยาบๆ 3 ระดับ คือ ระดับประถม มัธยม และอุดมศึกษา
ผมคิดว่า ช่วงชีวิตวัยมัธยมคือช่วงที่สนุกที่สุด

กลุ่มพวกเรามีกัน 6 คน 2 ใน 6 เป็นผู้หญิง และ 1 ใน 2 หญิงนั้นเป็นทอม
แต่ด้วยความเป็นเพื่อน พวกเราไม่เคยแยกแยะแบ่งวรรณะว่า หญิงต้องให้เกียรติ หรือชายต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษ สิ่งที่ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้เช่นกัน นั่นรวมไปถึงการสุบบุหรี่
คงมีแต่ดิ๊ด หญิงแท้หนึ่งเดียวที่ไม่สูบบุหรี่ เหตุผลง่ายมาก พ่อเธอโคตรดุ และเธอแพ้ควันบุหรี่อย่างรุนแรง (จมูกดีมากถ้ามีกลิ่นบุหรี่อยู่ในระยะ 30 เมตร)

พวกเรายกเว้นติ๊ดมาเจอกัน และรู้จักกันในห้องบ๊วย (ซึ่งเป็นห้องที่พวกเราสิงสถิตย์จนจบ)
ติ๊ดเป็นแฟนไอ้หน่องซึ่งเป็นทอม จึงเข้ากลุ่มของพวกเราโดยอัตโนมัติ ติ๊ดอยู่ห้องคิง ติ๊ดจึงเป็นเพื่อนที่พวกเราภูมิใจมาก

ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่บอกว่า ทุกที่สามารถเป็นที่เรียนได้ พวกเราจึงเรียนนอกห้องมากกว่าเรียนในห้องเรียน ห้องเรียนที่พรั่งพร้อมด้วยสื่อการเรียนรู้มัลติมีเดียครบครัน โรงหนัง, โต๊ะสนุ๊ก, โบว์ลิ่ง, ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

แม้จะเรียนอย่างทะลักทุเล พวกเราก็กอดคอกันจบจนได้ (แทบจะต้องกอดขาลงคลานคุกเข่ากราบเท้าผอ.ผู้เซ็นต์อนุมัติ หลังจากใช้วิธีขู่เข็ญบังคับไม่สำเร็จ)

พอก้าวเข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย..พวกเราต้องแยกกันคนละทางสองทาง ส่วนใหญ่เรียนมหาวิทยาลัยเอกชน หรือไม่ก็ราชภัฏ

ส่วนไอ้หน่องต้องแยกจากติ๊ดเพราะติ๊ดเอ็นท์ติด ไอ้หน่องเอ็นท์ไม่ติด เพราะไม่ได้เอ็นท์ และไม่ได้เรียน..

พวกเราดีใจและภาคภูมิใจกับติ๊ดมาก ติ๊ดยังเป็นเพื่อนที่เราภาคภูมิใจเสมอ
แม้จะแยกกันเราสัญญาว่าจะไม่ลืมกัน และยังคงติดต่อกันเป็นระยะๆ

-3-

การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดมะเร็งปอดถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์ และก่อสารมะเร็งชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ โรคถุงลมโป่งพองก็มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีหน้าตาแก่เร็วกว่าปกติ เนื่องจากควันบุหรี่จะเพิ่มรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง เพราะการสูบบุหรี่มีผลเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม (metabolic rate) หญิงมีครรภ์ที่สูบบุหรี่อาจทำให้แท้งลูกได้

-4-

เข้าปีที่ 2 ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย พวกเรา ยกเว้นติ๊ด ก็ยังคงติดต่อกันและพบปะกันบ้าง
พวกเราบางคน เริ่มบ่นน้อยใจติ๊ด แต่หลายคนเข้าใจ

พอมาระยะหลังๆ พวกเราเกือบจะลืมไปแล้วว่ามีเพื่อนชื่อติ๊ด เพราะนอกจากไม่ได้มาพบเจอกันแล้ว การสื่อสารทางอื่นก็ไม่อาจทำได้เลย

ในที่สุด เราจึงพากันไปเยี่ยมมันที่บ้าน

บ้านของติ๊ดอยู่ในซอยไม่ลึกมาก แม้เป็นครั้งแรกที่มาก็หาไม่ยากนัก
บ้านสองชั้น มีรั้วล้อม ไม่น่าเชื่อว่าติ๊ดเป็นเพื่อนเรา เพราะบ้านค่อนข้างดี ดูมีฐานะ

หลังจากกดกริ่งหน้าบ้าน หญิงวัย 50 ต้น ๆ ผิวขาว แต่งตัวเรียบง่าย ก็เดินมาเปิดประตูและทักทาย บางคนเดาว่าเป็นคนใช้ แต่หลายคนบอกหน้าตาเหมือนติ๊ด น่าจะเป็นแม่ มีการพนันกันเล็กน้อยสำหรับเรื่องนี้

“มาหาใครหรือจ๊ะ” เธอทักทาย
“ติ๊ดอยู่มั้ยครับ..”

เจ้าของบ้านนิ่งไปชั่วครู่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แต่พอสังเกตได้ ก่อนจะถามว่า
“พวกเธอเป็นอะไรกับติ๊ด”
“พวกเราเป็นเพื่อนติ๊ดครับ”
“พวกเธอเป็นเพื่อน..? เป็นเพื่อน ทำไมพึงมาหาติ๊ดเอาตอนนี้”
“ทำไมละครับ”

คุณป้าเจ้าของบ้านพอรู้ว่าพวกเราเป็นเพื่อน จึงเปิดประตูบ้านให้เข้าด้านใน ก่อนจะให้ความกระจ่างต่อไปว่า
“ตั้งแต่ติ๊ดเข้ามหาวิทยาลัยได้ ก็ตั้งใจเรียน และทำกิจกรรมกับเพื่อนตลอด แต่พร้อมๆกับการตั้งใจ ร่างกายก็ออดๆแอดๆเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ทุกครั้งที่แม่เห็นติ๊ดไอมาก แม่ไม่สบายใจ แต่ติ๊ดก็บอกไม่เป็นไร แค่หวัดธรรมดา จนครั้งสุดท้าย พ่อบังคับให้ไปหาหมอ จึงรู้ว่า..”

พวกเราเริ่มรู้สึกไม่ดี เมื่อคุณป้าปาดน้ำตา
“หมอบอกว่า ติ๊ดเป็นมะเร็งในปอด พวกเราสับสนมาก คนในบ้านนี้ไม่มีใครสูบบุหรี่ ติ๊ดเองก็ไม่สูบบุหรี่ แต่ทำไมถึงเป็นโรคนี้ได้…”
พวกเราหันมองตากันวูบ

“แล้วตอนนี้ติ๊ดอยู่ไหน เป็นยังไงบ้างครับ”

คุณป้ายิ่งร้องไห้ใหญ่จนพวกเราใจเสีย และพอจับใจความในสิ่งที่ป้าแกพูดอย่างละล่ำละลัก

ติ๊ดทรมานกับโรคร้ายเกือบสองปี และเมื่อสองเดือนที่แล้ว เธอก็จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ

ไม่มีคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์นี้ พวกเราทุกคนเข้าใจที่ติ๊ดเป็นมะเร็งในปอดดี ขณะเดินกลับ พวกเราคนหนึ่งล้วงบุหรี่ขึ้นมาด้วยความเคยชิน ก่อนจะยัดเข้าปาก หันมองหน้าเพื่อนคนอื่นๆ เผื่อใครจะสนใจสูบแก้เซ็งด้วย แต่ต้องตกใจที่สายตาทุกคนจับจ้องอยู่ที่บุหรี่มวนนั้น

บุหรี่ นับแต่นี้..พวกเราคงไม่ญาติดีกับมันแล้ว

-5-

ไม่รู้ว่า นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน เจมส์ เอ บอนแซก ผู้คิดค้นสร้างเครื่องทำบุหรี่อัตโนมัติขี้นเป็นเครื่องแรก จะยังภูมิใจอีกไหม ถ้ารู้ว่ามนุษยชาติส่วนหนึ่ง กำลังจะตายเพราะเครื่องประดิษฐ์ของเขา..

 

ภาพประกอบจาก : Julia Engel on Unsplash