กระต่ายไล่โจร(?)

เคยดูทีวีเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงๆ อุบัติเหตุจริงๆ อย่างเช่นรายการเรื่องจริงผ่านจอ ที่มักจะเอาภาพวงจรปิดการโจรกรรมบ้าง ลักขโมยของเล็กๆน้อยๆ ของในห้างร้านจนกระทั่งถึงของใหญ่ๆ เช่น รถ, บ้าน เป็นต้น

เห็นแล้วก็กลัวอยู่เหมือนกัน แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า เหตุการณ์แบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นกับเรา

แต่แล้ว..เหตุการณ์แบบในทีวีก็เกิดขึ้นจริงกับผม!!!

เย็นวันนี้หลังจากเลิกงานในเวลาห้าโมงเย็น ผมก็กลับบ้านไวตามปกติ พอเดินมาถึงห้องขณะจะไขกุญแจ ก็เหลือบไปเห็นข้างๆประตูมีรอยงัดแงะ แว่บแรกคิดว่า..เอ ไอ้จุ๊บ(กระต่ายของผม) มันมาแทะประตูห้องตั้งแต่เมื่อไรหว่า คิดในเวลาติดๆกันต่อไปว่า นี่มันสูงเกินที่กระต่ายจะแทะได้ ใจคอเริ่มไม่ได้ ขณะเดียวกันผมก็เหลือบไปดูที่กุญแจ กุญแจคล้องถูกงัด กุญแจลูกบิดก็ถูกงัด!

ผลักประตูเพียงเบาๆประตูก็เปิดอ้าออกโดยง่าย ผมตัวเย็น ใจหายวูบ รีบก้าวเข้าไปในห้อง สิ่งแรกที่ดูคือ macbook! ผมไม่ได้ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะคอม จะเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างมิดชิด จะใช้เมื่อไรถึงจะหยิบออกมา รีบเปิดตู้ดู ปรากฏว่าแมคบุคสุดเลิฟ ยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม ใจชื้นขึ้นมาหน่อย รีบสำรวจดูของอื่นๆ ปรากฏว่าของทุกอย่างยังอยู่อย่างเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยการถูกค้น รื้อ หรือปรากฏว่ามีอะไรหาย? ยังความปลาดใจให้เกิดแก่ผมยิ่งนัก

ผมโทรเรียกเจ้าของหอมาดู แกมาถึงก็แสดงความกังวลที่เห็นประตูถูกงัดจนเสียหาย อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้ใครรู้ กลัวคนอื่นจะกลัวและจะย้ายออก ดูแกจะกังวลกว่าผมมาก รีบไปหาอุปกรณ์มาซ่อม และปลอบผมให้หายกังวลว่า ต่อจากนี้ไปตอนบ่ายๆคงต้องเดินมาตรวจบ่อยๆ เพราะปกติกลางวันจะเงียบ คนออกไปทำงานซะส่วนใหญ่ กลางคืนมียามคอยรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว

นั่งดูแกซ่อมประตูพลางพยายามคิดกันว่า ขโมยคนนี้คือใคร เป็นคนใน(หอ)หรือคนนอก คนนอกก็อาจเข้ามาได้แม้ประตูหอจะมีระบบคีย์การ์ดก็เถอะ ขโมยอาจถือโอกาสที่มีคนเข้า แล้วเดินตามเข้าไป หรือถ้าเป็นคนใน เจ้าของหอให้ความคิดเห็นว่า แกสงสัยอยู่คนหนึ่ง ซึ่งพึ่งย้ายมาอยู่ไม่นาน อยู่ห้องริมในชั้นเดียวกันนี้ ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง ยังเป็นนักศึกษาเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ในเวลากลางวันก็จะมีเพียงเด็กคนนี้อยู่ในชั้นนี้คนเดียว แต่ก็ไม่สามารถปักใจเชื่อได้ เพราะไม่มีหลักฐาน ประเด็นที่ว่าใครคือขโมย ก็ยังสรุปไม่ได้

ประเด็นต่อไปคือ ทำไมขโมยคนนี้ถึงไม่เอาสิ่งของใดๆออกไป ถึงแม้เอาของใหญ่ไปไม่ได้ อย่างทีวี ตู้เย็น ของใคร คงเอาไปไม่ได้ เพราะจะเป็นที่สงสัยของคนปากซอย แต่กระนั้น ทำไมของเล็กๆน้อยๆ ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ ถึงไม่ได้ถูกรื้อค้นอย่างที่ควรจะเป็น สิ่งที่ผิดปกติเพียงนิดเดียวที่ผมเห็น คือ ปลั๊กทีวีถูกเสียบไว้ (ปกติก่อนออกไปทำงานทุกครั้งผมจะดึงปลั๊กออก) แต่อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อเช้าผมลืมถอด ข้อนี้ยังไม่แน่ใจนัก ปกติผมไม่เคยลืมจะถอดปลั๊ก

ข้อสันนิษฐานที่ผมคุยกะเจ้าของหอ คือ เป็นไปได้ไหมที่ขณะเจ้าขโมยกำลังงัดห้องได้ พอดีมีคนเดินผ่านมา มันก็เลยรีบหนีออกไป นี่คือเหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ ที่ผมคุยกับเจ้าของหอ

แต่มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมตั้งข้อสังเกต แต่ไม่ได้บอกเจ้าของหอ นั่นคือ ห้องผมนั้นผมเลี้ยงไอ้จุ๊บ กระต่ายวัยฉกรรจ์ไว้ด้านนอกระเบียง ทุกครั้งที่ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง ไอ้จุ๊บแม้จะอยู่นอกระเบียงที่ถูกประตูปิดไว้ ก็พยายามกระโดดยืนบนกาละมังเพื่อโผล่หน้ามาที่หน้าต่างบานเกร็ด เป็นไปได้ไหมว่า ขณะที่เจ้าโจรชั่วงัดเข้าห้องมานั้น ไอ้จุ๊บนึกว่าผมกลับมาแล้ว ก็กระโดดยืนขึ้นตามปกติ เสียงไอ้จุ๊บนี่เอง คงทำให้เจ้าขโมยตกใจ นึกว่ามีคนอยู่นอกระเบียง วิ่งหนีเตลิดไป แต่ข้อสันนิษฐานนี้ก็ขัดกับเหตุผลที่ว่า ประตูห้องถูกล็อคไว้ด้านนอกอย่างแน่หนา ใครจะใจร้ายกระทั่งล็อกคนไว้ในห้องทั้งวัน แต่ก็ไม่แน่จังหวะนั้น อาจตกใจจนคิดได้ไปต่างๆนานา แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ต้องยกความดีความชอบทุกอย่างให้กับไอ้จุ๊บ

จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผมโชคร้ายถูกโจรงัดห้อง แต่โชคดีที่โจรไม่ได้ขโมยอะไรไปเลย นี่น่าจะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง ให้ผมระวังตัวมากขึ้น (มากขึ้นกว่าเดิมที่ระวังมากอยู่แล้ว) การมีของมีค่าอยู่กับตัวเยอะๆมีแต่โทษ มีแต่ทุกข์จริงๆ

ขุมทรัพย์ที่โจร ขโมย หรือใครๆ แย่งเอาไปไม่ได้  นั่นคือ บุญ