จ่าฝูง

ลูกแพะอ้อยอิ๋งยืนเลียแผลให้แพะผู้แม่ ซึ่งนอนหายใจรวยริน สีหน้าบ่งถึงความเหนื่อยล้าและเจ็บปวด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เกินการคาดคิด ขณะที่ทุกคนหลับสนิท สุนัขจรจัดตัวหนึ่งเตร็ดเตร่ตามทางเล็กๆมา กระทั่งถึงบ้านเธอ กลิ่นสิ่งมีชีวิตเชื้อเชิญให้มันกระโจนข้ามรั้วเข้ามา ด้วยความเหนื่อยล้าจากเมื่อกลางวัน ทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงผู้บุกรุก

เธอรู้สึกตัวอีกที เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่น่องขาซ้าย เมื่อลืมตาขึ้น เธอหวีดร้องสุดขีด สุนัขจรจัดพยายามลากเธอออกไปด้านนอก โชคยังดี เสียงที่หวีดร้องของเธอไม่ไร้ผลเสียทีเดียว ฝูงแพะหลายสิบตัวแตกตื่นด้วยเสียงนั้น วิ่งออกมาจากที่พัก แม้ไม่มีอาวุธคือเขี้ยวอันแหลมคมอย่างสุนัข และถึงแม้มีเขาอันแข็งแกร่ง แต่ด้วยพื้นฐานเป็นผู้ที่ไม่นิยมความรุนแรง หมู่แพะเหล่านั้น จึงได้แค่กระโจนไปข้างหน้าขู่สุนัขให้ล่าถอยไป

ผลจากการจู่โจมของสุนัขจรจรไร้หัวนอนปลายเท้าครั้งนี้ ทำให้แม่แพะบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดเดินไม่ได้ ผู้ที่รับภาระจึงตกมาแก่แพะผู้ลูกวัย ๑ ขวบเศษ ทุกๆเช้าแพะผู้ลูกจะลัดเลาะตามชายทุ่ง หลังจากกินหญ้าจนพอแล้ว ก็เลือกเด็ดยอดหญ้าอ่อนๆคาบไปฝากแม่แพะด้วย และทุกวัน ลูกแพะจะเฝ้าดูแลเลียแผลให้แพะผู้แม่อยู่ไม่ห่าง

วันแล้ววันเล่าลูกแพะยังคงปฏิบัติเช่นเดิม แม่แพะเองก็มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น แผลหายดีเกือบปกติ แต่ยังไม่สามารถยืน เดิน วิ่งได้เหมือนอย่างเมื่อก่อน แต่เคราะห์กรรมของแพะแม่ลูกดูเหมือนยังไม่หมดสิ้น วันนั้นท้องฟ้ามืดครื้ม ฝนทำท่าจะตก แต่แม่แพะยังไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย แม้เวลาจะล่วงเลยเวลาเที่ยงไปแล้ว ทุกวันลูกแพะจะกลับมาก่อนเที่ยง ดูแลแม่ และจะออกไปอีกทีเมื่อบ่ายคล้อย ยิ่งคิดยิ่งเป็นห่วง แม่แพะนอนชะเง้อดูต้นทางลูกอย่างห่วงใย ซึ่งเธอสามารถทำได้แค่นั้น เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ จนเข้าสู่เวลาเย็นย่ำ ความมืดเริ่มปกคลุมทั้วพื้นที่ โชคยังดีที่แม่แพะยังมีน้ำให้ประทังหิว แต่เวลานี้ความหิวไม่อาจเทียบได้กับความเป็นห่วงลูก เธอเริ่มร้องหาลูก การร้องในเวลาค่ำคืนนับเป็นการฝืนกฏ เพราะนั่นจะเป็นการนำพาอันตรายมาสู่ตัวเอง แต่เธอเลือกที่จะทำโดยไม่เกรงกลัวอันตราย และการกระทำของเธอในครั้งนี้นับเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุด

ฝูงสุนัขป่าไม่ต่ำกว่า ๕ ตัวเดินมาตามเสียงนั้น และปรากฏตัวรายล้อมแม่แพะ เธอตื่นตระหนกกับแขกผู้มาเยือนในยามวิกาล แต่กระนั้นยังข่มความกลัวไว้ ยังคงร้องเรียกหาลูกแพะอยู่อย่างนั้น ครั้งนี้ฝูงแพะตัวอื่นๆ ไม่มีเหมือนครั้งก่อนนั่นแล้ว เพราะตั้งแต่เธอเดินไม่ได้ ฝูงแพะซึ่งมีการเปลี่ยนที่หากินอยู่ตลอดเวลา ก็ได้เคลื่อนฝูงไป ทิ้งแม่แพะกับลูกไว้เพียงลำพัง

ลูกไปไหน..มาช่วยแม่ทีเถอะลูกเอย ย ย ..ย

สิ้นเสียงร้องครั้งสุดท้าย สุนัขป่าจ่าฝูงก็ย่างกรายเข้าใกล้ สายตามันจับจ้องที่แม่แพะแล้วเงยหน้าขึ้นท้องฟ้า คำรามกึกก้องทั้วป่า เสียงเกรี้ยวกราดน่ายำเกรง มันเขยิบตัวเข้าใกล้แม่แพะยิ่งขึ้น แยกเขี้ยวหมายขย้ำเข้าที่แผลเก่าของแม่แพะ เพื่อหวังฉีกเนื้อให้ขาดกระเซ็น แม่แพะหลับตาพริ้มนึกปลงถึงโชคชะตา สิ่งที่เธอหวังในใจตอนนี้ เพียงหวังให้ลูกชายปลอดภัย และอย่าได้มาในขณะนี้ เพราะนั่นหมายถึงชีวิตที่ต้องถูกสังเวยอีกเช่นกัน

และแล้ว..แม่แพะกลับรู้สึกประหลาดใจยิ่ง แทนความเจ็บปวดจากคมเขี้ยวของสุนัขป่าจ่าฝูง เธอกลับได้ลิ้มรสถึงสัมผัสอันสบายที่คุ้นเคย เธอลืมตาขึ้น ร้องด้
วยความดีใจ

ลูกก ก แม่..

ภาพที่ปรากฏตรงหน้า เป็นลูกแพะจริงๆ มันกำลังก้มลงเลียแผลของแม่แพะ และรายล้อมด้วยลูกแพะนั้น คือฝูงสุนัขป่า
“แม่ ผมขอโทษที่ผมไม่สามารถนำหญ้ามาให้แม่ได้”
“ไม่เป็นไรลูกๆ ไม่เป็นไร ลูกกลับมาปลอดภัย แม่ดีใจยิ่ง” เธอกล่าวน้ำตานองหน้าด้วยความดีใจ แต่ก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ที่ลูกมาพร้อมกับฝูงสุนัขป่า
“แม่ครับ..” ลูกแพะน้ำตาไหล กล่าวต่อไปไม่ได้ สร้างความตระหนกแก่แม่แพะยิ่ง
“ต่อไปนี้ ลูกคงไม่ได้เจอแม่อีกแล้ว”
“ท..ทำไมละลูก ทำไมลูกพูดอย่างนี้”
ลูกแพะสะอื้นยิ่งขึ้น ยิ่งทำให้แม่แพะตกใจหนักขึ้นไปอีก
“วันนี้ ลูกออกไปหาหญ้าไกลกว่าเดิม เพราะละแวกนี้หญ้าแทบไม่มีแล้ว ลูกได้เผชิญหน้ากับฝุงสุนัขป่าที่ยืนอยู่ด้านหลังนี้ ก่อนที่พวกมันจะขย้ำลูกด้วยความหิวโหย ลูกได้ขอร้องมันอย่างหนึ่ง โชคดีที่จ่าฝูงมีคุณธรรม มันจึงยอมให้.. ยอมให้ลูกพบแม่เป็นครั้งสุดท้าย” พอได้ฟังลูกแพะเล่า แม่แพะเข้าใจเหตุการณ์ได้ทุกอย่าง ถึงกับร้องไห้ไม่หยุด ภาพลูกแพะยืนเลียแผลให้แม่ ตลอดจนการร่ำร้องของแม่แพะลูกแพะ อยู่ในสายตาของฝูงสุนัขป่าโดยตลอด

สัญชาตญาณของสัตว์นักล่าล้วนถูกปลูกฝังให้ฆ่าทุกอย่างที่พอเป็นอาหารได้ จ่าฝูงนอกจากมีหน้าที่บริบาลรักษาปกครองฝูงสุนัขป่าแล้ว การให้ความยุติธรรมแก่หมู่สัคว์ล้วนเป็นหน้าที่ด้วย ความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจก็เป็นคุณสมบัติส่วนหนึ่งที่ถูกเลือกให้เป็นจ่าฝูง และที่ยิ่งกว่านั้น จิตใจที่แฝงไว้ด้วยคุณธรรมนับว่าสำคัญยิ่งในฐานะผู้นำ ไม่ว่าสังคมไหนล้วนต้องมี ไม่ใช่ ควรมี หรือ น่าจะมี แต่..ต้องมี

ดังนั้น เมื่อแม่แพะและลูกแพะร่ำลานานพอแล้ว ก็ถึงเวลาที่ลูกแพะที่ต้องรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้กับจ่าฝูง นั่นคือกลับไปเป็นอาหารให้ฝูงสุนัขป่า แต่เมื่อหันหลังกลับมา ปรากฏว่า มีเพียงความว่างเปล่า เหล่าสูนัขป่าได้ล่าถอยไปแล้ว จะด้วยเหตุผลใดไม่มีใครรู้

จ่าฝูงอาจนึกศรัทธาในความกตัญญูของลูกแพะ หรืออาจมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้ฝุงสุนัขต้องล่าถอยไป คำตอบสำหรับเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม ผู้ที่ดีใจที่สุด คือ แม่แพะและลูกแพะ

แต่สัญญาต้องเป็นสัญญา เมื่อไรที่สุนัขป่ากลับมาทวงสัญญา ลูกแพะก็พร้อมทีจะทำตามสัญญาเสมอ

พื้นฐานของสิ่งมีชีวิตคือคุณธรรม
ปัจจุบัน เราโหยหาสิ่งนั้นกันแล้วหรือ?