ภาพวิวธรรมชาติ ต้นไม้ ภูเขา น้ำตก ผ่านตาจากหน้าจอที่มีคนแชร์ผ่านเฟสบุคและทวิตเตอร์ แว่บหนึ่งผมหลับตาและจินตนาการถึงตัวเองอยู่ท่ามกลางที่เหล่านั้น แค่คิด ความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยวก็ผุดขึ้นมา “วันเสาร์นี้เราไปเที่ยวกันเถอะ” ผมบอกแฟน
“เอาสิ ไม่ติดอะไรอยู่แล้วนิ” พร้อมกับคำตอบจากแฟน ผมเสริชหาที่พักทันทีเป้าหมายคือ “ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ”
แต่ไปชัยภูมิทั้งที จะไปแค่ที่เดียวก็ดูจะขาดทุนไปซักหน่อย
หลังจากกางแผนที่ในกูเกิ้ลแล้ว พบว่า ทุ่งดอกกระเจียวอยู่ในอำเภอเทพสถิตย์ซึ่งห่างจากกรุงเทพประมาณ 280 กิโลเมตร ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในจังหวัดชัยภูมิเช่น มอหินขาว หรือน้ำตกตาดโตน ตั้งอยู่ไกลออกไปอีก 130 กิโลเมตร ผมจึงเลือกที่พักที่ทุ่งดอกกระเจียว เพื่อตื่นไปดูดอกกระเจียวได้แต่เช้า ส่วนวันแรกเลือกไปเที่ยวในสถานที่อื่นๆ ที่ไกลออกไปก่อน
และที่พักที่จองได้อยู่ไม่ไกลจากทุ่งดอกกระเจียว ฝั่งอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม คือ เส้นทาง@LOVE รีสอร์ท การเลือกที่พักในการท่องเที่ยว ก็เหมือนการซื้อหวย ดีกว่านิดหน่อยก็ตรงที่ว่า เราสามารถหาข้อมูลจากอินเทอร์เนตได้บ้างว่า ที่พักไหนมีข้อดีข้อด้อยอย่างไรบ้าง เราจึงมีโอกาสถูกหวยมากกว่าการสุ่มๆ เลือกเอา แต่หลายๆครั้ง ผมพบว่า ถึงเราจะหาข้อมูลอย่างดีเพียงใด เราก็อาจพบกับความผิดหวังได้เช่นกัน .. ครั้งนี้ผมจึงไม่ได้คาดหวังไว้มากนัก
เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง เช้าวันศุกร์ที่รถรายังคงติดตามปกติในกรุงเทพ แต่เส้นทางออกต่างจังหวัดสวนทาง คือ โล่งมาก นี่คือสวรรค์สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเราจะหาได้เฉพาะในวันธรรมดาเท่านั้น
เป้าหมายแรกของวันนี้คือน้ำตกตาดโตน ในใจอยากเดินทางต่อไปอีกหน่อยเพื่อไปมอหินขาวด้วย แต่ดูข้อมูลในอินเทอร์เนตบอกว่า ถนนยังเป็นลูกรังอาจไม่เหมาะสำหรับมารชมพู จึงคิดว่าจะไปหาข้อมูลจากคนแถวนั้นก่อนค่อยตัดสินใจอีกที
ผมเลือกเส้นทางสี่คิ้ว – ชัยภูมิ วิ่งตรงจากปากช่องผ่านลำตะคองมุ่งหน้าสี่คิ้ว จะมีทางแยกออกไปทางสี่คิ้ว ด่านขุนทด ระหว่างทางช่วงนี้ถนนสาหัสมาก เพราะกำลังปรับปรุงถนน ต้องวิ่งบนถนนที่ปุปะประมาณ 1 ชั่วโมง วิ่งจนพ้นสี่คิ้ว ด่านขุนทดและเริ่มเข้าเขตชัยภูมิแล้วนั่นแหละถนนถึงเริ่มดี วิ่งสบาย
ด้วยความที่วิ่งสบายนี่เอง ผมเผลอทำผิดกฏหมายจราจรจนต้องถูกให้หยุดรถ!
ปกติถนน 2 เลน ต้องวิ่งซ้าย จะวิ่งขวาต่อเมื่อต้องแซงคันหน้าเท่านั้น และเมื่อแซงแล้วต้องกลับเข้าซ้ายเหมือนเดิม ผมวิ่งขวายาวๆ จนกระทั่งเจอด่านเรียกให้หยุด
คุณตำรวจเดินมาหาผมหลังรถจอดนิ่ง
“จะไปไหนกันครับ” ตำรวจเริ่มบทสนทนาก่อน
“ไปชัยภูมิครับ”
“บนทางหลวง วิ่งแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่ปรับเงินหรอก แค่ตักเตือน จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้นะ แต่ถ้าโดนจับอีก ตำรวจท่านอื่นเขาเรียกเก็บเงินแน่นอน”
“ขอบคุณครับ คุณตำรวจ” ผมกล่าวขอบคุณพร้อมยกมือไหว้
พอพ้นตำรวจ คุณแฟนที่นั่งข้างๆ ก็ตื่นและเริ่มบ่น “บอกแล้ว ไม่เคยเชื่อกันเลย ต่างจังหวัดวิ่งแบบนี้ไม่ได้ บลา ๆ ๆ ”
หลังจากนั้น ผมก็ขับรถเลนซ้ายยาวๆ จนกระทั่งเข้าตัวเมืองชัยภูมิ เลยตัวเมืองจนกระทั่งถึงเป้าหมายแรกของเรา “น้ำตกตาดโตน”
น้ำตกตาดโตนอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองชัยภูมิประมาณ 20 กิโลเมตร เดินทางไปง่าย แต่เนื่องจากเป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง จึงไม่ค่อยนิยมลงเล่น ประกอบกับเป็นฤดูฝน น้ำมีสีเหลืองขุ่น ไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก แต่ตัวน้ำตกเองมีความสวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง จะหามื้อเที่ยงที่นี่ทาน ก็ยังไม่เห็นร้านอาหารที่ถูกใจนัก จึงตกลงใจกับแฟนว่า ออกไปหาทานกันข้างนอกดีกว่า ก่อนออกจากน้ำตกได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า มอหินขาว เดินทางไปยังไงและไปสะดวกไหม?
“ไปได้เลยครับ ทางดีแล้ว”
เมื่อได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ ผมจึงมุ่งหน้าไปยัง “มอหินขาว” หรือที่ได้ชื่อว่า “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” ทันที!
ถ้าดูจาก Google map จะเห็นว่าระยะทางไม่ไกลแค่ 22 กิโลเมตร ถ้าลาดยางวิ่งสบาย แนะนำสำหรับท่านที่ใช้ google map นำทาง อย่าเลือกไปทางลัด เพราะทางลัดจะเป็นทางลูกรัง แถมต้องลัดเลาะผ่านไร่มันสำปะหลัง ระยะทางต่างกัน 4 กิโลเมตร แต่ระยะเวลาอาจจะใช้มากกว่า แนะนำให้วิ่งตามทางลาดยางไปเรื่อยๆดีที่สุดครับ
พอใกล้เข้าเขตมอหินขาว จะเริ่มเห็นทิวขาวเป็นเนินสูงต่ำ อากาศเย็นสบาย มีลมพัดเป็นระยะ และข้อดีสำหรับการมาเที่ยวในวันธรรมดา คือ ไม่ค่อยมีคนครับ ทำให้ได้ภาพมอหินขาวแบบไม่มีภาพคนติดมาด้วย
มอหินขาว เป็นกลุ่มหินสูงประมาณ 12 เมตร หินที่เด่นที่สุดเป็นหิน 5 ต้นที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่าน และได้รับการขนานนามว่า “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” เลยทีเดียว
ใช้เวลาที่มอหินขาวได้พักใหญ่ ก็ได้เวลาที่ต้องไปที่พัก ณ อำเภอเทพสถิตย์แล้ว ซึ่งไกลจากมอหินขาวประมาณ 134 กิโลเมตร
คงต้องต่อตอน 2 แล้วละครับ มาลุ้นกับผมว่า ผมจะถูกหวยหรือไม่เรื่องที่พัก