หมาแก่และดอกทิวลิปเดี่ยวดาย บทที่ 3

บทที่ 3 รักแท้

. . . . . .

. . . . . .

เคยคิดไหมว่าชีวิตเราที่ดำเนินมาจนถึงวันนี้ เพราะมีพระเจ้าคอยกำหนดไว้ หรือมันแค่ดำเนินไปตามเหตุปัจจัยที่ควรจะเป็น?

ความรักละ? มีใครกำหนดไว้ให้ไหม..

ศาสนาพุทธสอนว่าความรักเกิดจากเหตุ 2 ประการ คือเคยอยู่ร่วมกันในชาติปางก่อน หรือความเกื้อกูลกันในปัจจุบัน (ปุพเพ วะ สันนิวาเสนะ ปัจจุปันนะ หิเตนะ วา)

เมื่อหาเหตุผลไม่ค่อยได้เรามักจะโยนให้เป็นเรื่องของชาติก่อนที่พิสูจน์ไม่ค่อยได้ บางคนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลด้วยกันจนกระทั่งแต่งงานมีลูกและแก่ตายไปด้วยกัน แต่บางคนคิดว่าตัวเองเจอรักแท้ เมื่อเวลาผ่านรักเริ่มจืดจางจึงเห็นเนื้อแท้ คำว่ารักจึงกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว

สำหรับผม ผมเชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง เพียงแต่เรายังไม่มีความอดทนพอที่จะเจอมัน รักแท้ก็เหมือนความสำเร็จที่ต้องใช้เวลาและความพยายามเพื่อไปให้ถึง ความพยายามต้องมาจากคนสองคนที่มีจุดหมายเดียวกัน นั่นคือความรัก ฝั่งใดฝั่งหนึ่งโอนเอนหวั่นไหวแม้เพียงน้อย วิมานอาจพังทลายลง กลายเป็นผู้พ่ายแพ้ตรอมตรมจมอยู่กับความผิดหวังจนตาย

ความสัมพันธ์ฉันท์คนสนิทระหว่างผมกับมนญายังคงดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดูเหมือนเธอจะเป็นลูกบ้านคนเดียวที่ให้ความสนิทสนมกับยามอย่างไม่ถือตัว คนอื่นๆมองผมเป็นเพียงยามกะกลางคืน แต่สำหรับมนญาเธอดูเหมือนเพื่อนต่างวัยที่ทักทายกันอย่างสนิทสนม บ่อยครั้งที่เธอแวะเวียนมาใช้เวลาพูดคุยอย่างออกรสออกชาต น่าแปลกที่เด็กรุ่นใหม่อย่างเธอกลับรู้เรื่องต่างๆมากมายที่เด็กในวัยเดียวกันไม่ค่อยให้ความสนใจ

ภาษาพระท่านว่า วิสสาสประมา ญาตี ความสนิทสนมเป็นญาติอย่างยิ่ง.

บางวันที่มนญาไม่ได้ผ่านมา ผมแอบชะเง้อหาด้วยความเป็นห่วง เหมือนมันขาดอะไร ผมกระสับกระส่ายอยู่ไม่เป็นสุข ไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้เรียกว่าอะไร แค่ความเป็นห่วง ความคิดถึง หรือความรัก

วันหนึ่งผ่านไปอย่างร้อนรน และเมื่อผ่านสามวันที่ผมไม่ได้เจอเธอ ก็เกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ ความคิดถึงมันรบกวนจิตใจจนผมไม่สามารถทำอะไรได้ ในที่สุดเมื่อก้าวเข้าสู่วันที่สี่มนญาก็กลับมา!

“ติดงานเหรอ ไม่เจอตั้งหลายวัน?” ผมตั้งคำถามอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกเกินเลย แต่ในใจอยากจะบอกเธอไปว่า คิดถึงเธอมาก เธอไปไหนมา เธอมีอะไรจะเล่าให้ฉันบ้างไหม ฉันมีเรื่องราวมากมายอยากจะเล่าให้เธอฟัง

“คิดถึงฉันเหรอ?” เธอพูดพร้อมยักคิ้วลิ่วตาทำนองทีเล่นทีจริง

นาทีนั้นความในใจมันพุ่งพล่านเกินจะเก็บไว้ ผมจึงเผลอพูดออกไปอย่างไม่อาย

“ฉันคิดถึงเธอมากเลยนะ เธอไปไหนมา เป็นอะไรหรือเปล่า…” และอีกมากมายที่ผมพรั่งพรูออกมาจากใจ

แทนคำตอบมนญาเอื้อมมือมาจับมือผม ทุกอย่างไม่ไหวติง เงียบ อบอุ่น ปลอดภัย มันเกิดขึ้นเร็วมาก เราสบตากันทุกอย่างก็คลี่คลาย ผมเข้าใจแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือ “ความรัก”

เวลา 4 ทุ่มที่อากาศค่อนข้างเป็นใจ อยู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างไร้เหตุผล มนญาเข้ามาหลบฝนในป้อมยาม หน้าเราสองคนอยู่ใกล้กันแค่ 2-3 ฝ่ามือ ผมรับรู้ถึงลมหายใจอันร้อนผ่าวจากมนญา ขณะที่ภายนอกฝนกระหน่ำเทอย่างหนักราวกับฟ้ารั่ว แต่ในป้อมยามกลับนิ่งเงียบ เราสบตากันขณะที่มือยังกุมกันไว้ ทันใดนั่นเองผมทำสิ่งที่หัวใจสั่งให้ทำ..

ผมบรรจงประทับจูบบนฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา วินาทีนั้นราวกับโลกนี้หยุดนิ่ง ไร้เสียงใดใด มีแต่เสียงหัวใจที่เต้นโครมคราม ผมรับรู้ถึงรสสัมผัสแห่งความรักที่ส่งผ่านริมฝีปากของเธอนิ่มนวล หอมหวาน น่าหลงใหลเหมือนตกอยู่ในภวังค์

เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วินาที แต่ผมรู้สึกว่ามันนานพอที่ให้หัวใจของผมเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

เมื่อได้สติ ผมรีบผละตัวออกจากเธอ ขอโทษต่อสิ่งที่กระทำลงไป มนญายิ้มให้อย่างอ่อนหวาน เธอบอกไม่เป็นอะไร คืนนั้นเราพูดอะไรกันอีกมากมายจนฝนหยุดลงและเธอขอตัวกลับบ้านไป

หัวใจผมยังคงเต้นโครมครามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ก่อนหน้านี้หัวใจดวงนี้แห้งเฉา แต่หลังจากที่เธอก้าวเข้ามาจนถึงเหตุการณ์วันนี้หัวใจเหมือนถูกเยียวยาด้วยไออุ่นและความรักอันเต็มเปี่ยม เธอคือผู้เข้ามาปลุกหัวใจที่ด้านชาให้มีชีวิตอีกครั้ง หลังจากนี้ผมกับเธอคงมีความรู้สึกต่อกันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ได้แต่หวังว่าเธอเองคงรู้สึกเหมือนกัน

นานเท่าไรแล้วที่หัวใจของผมไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ กระวนกระวายเมื่อไม่ได้เจอ แต่เพียงได้เห็นหรือได้ยินเสียงผ่านสายโทรศัพท์ หัวใจก็พองโต น้ำเสียงที่แข็งกร้าวกลับเปลี่ยนเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา พลันเพลง 14 อีกครั้ง ของพี่เสกก็ผุดขึ้นในหัวใจ ท่อนที่ว่า “..เธอทำให้ชั้นรู้สึกเหมือนตอน 14 ตอนที่ชั้นมีแฟนคนแรก..” พี่เสกได้พูดแทนผมไปทั้งหมดแล้ว มนญา เธอทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นนะ เผื่อเธอไม่รู้

ทุกคนอยากมีรักแท้ ทุกครั้งที่มีรักก็ได้แต่หวังให้ความรักครั้งนี้เป็นรักแท้ รักแท้ที่จะอยู่กับเราจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน แต่ก็ลืมไปว่า รักแท้ถ้าดูแลไม่ดีก็มีวันหมดอายุ กฏของธรรมชาติคือทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หน้าตา ความคิดความอ่าน นิสัยใจคอที่เห็นกันในวันนี้ เมื่อผ่านไปอีกหลายปี เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง รับได้ไหม? ยังจะรักเหมือนเดิมไหม?

เมื่อแรกรัก น้ำต้มผัก ยังว่าหวาน
เมื่อจืดจาง น้ำตาล ยังว่าขม
เมื่อแรกรัก ทำสิ่งใด เธอก็ชม
เมื่อรักขม ทำสิ่งใด เธอก็เมิน.

รักเกิดขึ้นจากคนสองคน รักแท้ก็ต้องดูแลโดยคนสองคน จะให้คนใดคนหนึ่งเป็นฝ่ายรดน้ำใส่ปุ๋ยแต่เพียงคนเดียวไม่ได้ การดูแลรักแท้เช่นเดียวกับดูแลต้นไม้ ต้นไม้ต้องการปุ๋ยและน้ำอย่างสม่ำเสมอ ต้นรักก็เช่นกัน ต้องหมั่นเติมความรักอย่าให้ขาด อย่ามากไปและอย่าน้อยไป วันใดที่เกิดพายุทำให้ต้นไม้โอนเอนอ่อนแอก็ช่วยกันประคับประคอง ความรักที่ผ่านความยากลำบากมาด้วยกันจะเป็นภูมิต้านทานให้ผ่านวันร้ายๆไปได้ ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดีจะให้ร่มเงาแก่คนปลูก ความรักก็เช่นกัน เมื่อเชื่อมั่นในความรัก ความรักจะดูแลเราเอง

ผมเชื่อของผมอย่างนั้นนะ

เหตุการณ์ในค่ำคืนที่ฝนตกโปรยปราย ละอองฝนทำให้ประตูกระจกเป็นฝ้า ผมและมนญา เรามีจูบแรกด้วยกัน นับเป็นวันฝนตกที่สุดแสนจะโรแมนติกที่สุดของผม ค่ำคืนที่น่าจดจำกับเหตุการณ์ที่น่าประทับใจจะยังคงอยู่ในใจเสมอแม้จะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม

คืนนั้นผมหยิบสมุดบันทึกมาเขียนเรื่องราวที่ประทับใจนี้เก็บไว้ ตั้งชื่อหัวข้อเล่นๆว่า

มนญา หมาแก่ รักเธอ รักแท้

.

.

.