Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

Month: June 2006

อ่านต่อ

เสียงจากความมืด

เรื่องสั้นสั้น 30 June 200614 June 2019

คงเคยได้ยินมาบ้างแล้วนะครับ กรณีที่เพื่อนหรือคนที่เรารู้จักเสียชีวิตไปแล้ว แต่เรายังไม่ได้ลบเบอร์เขาออกจากมือถือของเรา แล้วเวลาดึกของวันหนึ่ง ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น ขณะงัวเงียจะรับโทรศัพท์อย่างเคยชิน แว่บหนึ่งก็มองหน้าจอมือถือ ยังไม่คิดอะไร ยกโทรศัพท์มาประกบที่ข้างหู แต่ไม่ทันโทรศัพท์จะถึงหูและฟังเสียงปลายสาย ก็เอ่ะใจ..จึงดูหน้าจอมือถืออีกครั้ง แล้วชื่อที่ปรากฏในหน้าจอนั้นคือ .. คนที่เสียชีวิตแล้ว กดวางแล้วโยนโทรศัพท์นั้นทิ้งทันที.. ยังไม่ทันได้ฟังและพูดอะไรเลย และหลังจากวันนั้นก็ได้สอบถามไปยังญาติผู้เสียชีวิต ได้รับข้อมูลว่า สิ่งของส่วนตัวผู้ตายส่วนใหญ่ ถ้าไม่เผาไปพร้อมกับศพ ก็ถวายวัดหมดแล้ว.. ! เรื่องประมาณนี้ คงเคยได้ยินได้ฟังบ้างใช่มั้ยครับ แต่เรื่องที่จะเล่านี้ คล้ายๆกัน แต่มันมีมากกว่านั้นครับ เกิดขึ้นกับไอ้แจ๊ส.. ไอ้แจ๊ส พ่อเป็นตำรวจ แม่เป็นครู เป็นรุ่นน้องผมประมาณ 2-3 ปี ผมรู้จักไอ้แจ๊สจากพี่ชายของมัน พี่ชายมันเป็นเพื่อนผม เมื่อก่อนผมชอบไปค้างที่นั่น ดึกๆ เวลาหิว ไอ้แจ๊สทำหน้าที่เป็นพ่อครัวที่ดีเสมอ หลังจากถูกพี่มันบังคับและขู่ (ถ้าเมิงไม่ทำนะ กูจะบอกพ่อว่ามึงสะสมหนังโป๊) แจ๊สจึงลวกมาม่าให้พวกเรากินอย่างจำยอม แจ๊สมีเพื่อนเยอะมาก ทั้งหญิงและชาย ชอบพามาแนะนำให้รู้จักอย่างไม่ซ้ำหน้า เพื่อนส่วนใหญ่เป็นเพื่อนเที่ยว เพื่อนกินมากกว่า แต่ในที่สุด แจ๊สก็ได้เพื่อนตาย..! ตอนที่เพื่อนคนนี้ตาย แจ๊สไม่สามารถไปร่วมงานศพได้ เพราะงานศพจัดที่ต่างจังหวัดทางภาคเหนือค่อนข้างไกล และกระทันหัน เสียชีวิตวันเดียว วันต่อมาก็เผาแล้ว เพื่อนของแจ๊สคนนี้ชื่อมี้ เป็นหญิงมาดมั่น น่ารัก สดใส เธอเสียชีวิตพร้อมกับผู้โดยสารบนเรือด่วนอีก 4 คน เรือที่เทอใช้โดยสารในวันเกิดเหตุ เกิดพลิกคว่ำกลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชี่ยวกราด ผู้โดยสาร 20 กว่าชีวิตว่ายน้ำได้ จึงรอด มี้เป็นคนเหนือ ว่ายน้ำไม่เป็น เธอจมน้ำเสียชีวิต กว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยกู้ศพขึ้นมา ร่างเธอก็ขึ้นอึดจนจำแทบไม่ได้ หลังจากมี้เสียชีวิตไปประมาณ 2 อาทิตย์ ทุกคนเกือบลืมเรื่องเศร้าๆของมี้หมดแล้ว แต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง เป็นวันศุกร์ปลายเดือนที่ทุกคนมักไปเที่ยวยามค่ำคืน คืนนั้นก็เช่นกัน แจ๊สไปกับเพื่อนๆในกลุ่ม กลับถึงบ้านตอนเกือบตีสามด้วยอาการสลึมสลือด้วยฤทธิ์แอลกอฮอ ขณะกำลังไขกุญแจบ้านด้วยความลำบากยิ่ง โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้น แจ๊สกดรับทันทีโดยไม่ทันดูหน้าจอว่าใครโทรเข้า “ฮาาาา..า โหลล” “……” “ฮาาโหล ใครอ่ะ” สองมือของแจ็สยังไขกุญแจอย่างยุ่งยาก โทรศัพท์เหน็บข้างหู ใช้ไหล่หนีบไว้ “ฮาโหลๆๆๆๆ ๆ ๆ ไม่พูดจะวางแล้วน่ะ”…

ผี
อ่านต่อ

ทำไมโลกนี้..ต้องมีบุหรี่อย่างเธอ

เรื่องสั้นสั้น 26 June 20068 June 2019

-1- …การผลิตบุหรี่ในยุคแรกทำด้วยมือโดยผู้สูบเองหรือโดยคนงานโรงงานซึ่งมวนบุหรี่บนโต๊ะ ปะกาวปิด และห่อ ใน ค.ศ. ๑๘๘๐ นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน เจมส์ เอ บอนแซก คิดค้นสร้างเครื่องทำบุหรี่อัตโนมัติขี้นเป็นเครื่องแรก ยาสูบถูกหยอดลงบนริ้วกระดาษเป็นทางยาว เครื่องจักรจะมวนบุหรี่ ปะกาวปิด แล้วตัดด้วยใบมีดที่หมุนอยู่ตลอดเวลา วิธีการทำงานของเครื่องจักรอัตโนมัตินี้เป็นต้นแบบของการผลิตบุหรี่จำนวนมหาศาลซึ่งทำให้บุหรี่กลายเป็น “สิ่งที่ให้ความพึงพอใจ” ที่หาซื้อได้ง่ายมากของนักสูบทั่วโลก -2- ถ้าแบ่งระดับชีวิตแบบหยาบๆ 3 ระดับ คือ ระดับประถม มัธยม และอุดมศึกษาผมคิดว่า ช่วงชีวิตวัยมัธยมคือช่วงที่สนุกที่สุด กลุ่มพวกเรามีกัน 6 คน 2 ใน 6 เป็นผู้หญิง และ 1 ใน 2 หญิงนั้นเป็นทอมแต่ด้วยความเป็นเพื่อน พวกเราไม่เคยแยกแยะแบ่งวรรณะว่า หญิงต้องให้เกียรติ หรือชายต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษ สิ่งที่ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้เช่นกัน นั่นรวมไปถึงการสุบบุหรี่คงมีแต่ดิ๊ด หญิงแท้หนึ่งเดียวที่ไม่สูบบุหรี่ เหตุผลง่ายมาก พ่อเธอโคตรดุ และเธอแพ้ควันบุหรี่อย่างรุนแรง (จมูกดีมากถ้ามีกลิ่นบุหรี่อยู่ในระยะ 30 เมตร) พวกเรายกเว้นติ๊ดมาเจอกัน และรู้จักกันในห้องบ๊วย (ซึ่งเป็นห้องที่พวกเราสิงสถิตย์จนจบ)ติ๊ดเป็นแฟนไอ้หน่องซึ่งเป็นทอม จึงเข้ากลุ่มของพวกเราโดยอัตโนมัติ ติ๊ดอยู่ห้องคิง ติ๊ดจึงเป็นเพื่อนที่พวกเราภูมิใจมาก ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่บอกว่า ทุกที่สามารถเป็นที่เรียนได้ พวกเราจึงเรียนนอกห้องมากกว่าเรียนในห้องเรียน ห้องเรียนที่พรั่งพร้อมด้วยสื่อการเรียนรู้มัลติมีเดียครบครัน โรงหนัง, โต๊ะสนุ๊ก, โบว์ลิ่ง, ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ แม้จะเรียนอย่างทะลักทุเล พวกเราก็กอดคอกันจบจนได้ (แทบจะต้องกอดขาลงคลานคุกเข่ากราบเท้าผอ.ผู้เซ็นต์อนุมัติ หลังจากใช้วิธีขู่เข็ญบังคับไม่สำเร็จ) พอก้าวเข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย..พวกเราต้องแยกกันคนละทางสองทาง ส่วนใหญ่เรียนมหาวิทยาลัยเอกชน หรือไม่ก็ราชภัฏ ส่วนไอ้หน่องต้องแยกจากติ๊ดเพราะติ๊ดเอ็นท์ติด ไอ้หน่องเอ็นท์ไม่ติด เพราะไม่ได้เอ็นท์ และไม่ได้เรียน.. พวกเราดีใจและภาคภูมิใจกับติ๊ดมาก ติ๊ดยังเป็นเพื่อนที่เราภาคภูมิใจเสมอแม้จะแยกกันเราสัญญาว่าจะไม่ลืมกัน และยังคงติดต่อกันเป็นระยะๆ -3- การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดมะเร็งปอดถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์ และก่อสารมะเร็งชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ โรคถุงลมโป่งพองก็มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีหน้าตาแก่เร็วกว่าปกติ เนื่องจากควันบุหรี่จะเพิ่มรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง เพราะการสูบบุหรี่มีผลเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม (metabolic rate) หญิงมีครรภ์ที่สูบบุหรี่อาจทำให้แท้งลูกได้ -4- เข้าปีที่ 2 ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย พวกเรา…

บุหรี่ มะเร็ง
อ่านต่อ

รักของพ่อ

เรื่องสั้นสั้น 12 June 20068 June 2019

ชายชราวัย 60 ต้น กับสิ่งที่แกทำทุกวันที่หลายคนไม่ค่อยจะเข้าใจ ลุงสนคนเก็บขยะ กับสิ่งที่แกทำมากว่า 10 ปีทุกๆเช้าหลังจากตระเวนเก็บขยะซึ่งแกต้องตื่นตั้งแต่ตี 4-5 เพื่อออกไปเก็บขยะ แกจะซื้อขนม ตุ๊กตา หรือของเล่นเล็กๆน้อยๆ มาฝากเด็กๆในละแวกบ้านเสมอ บางวันแกอดข้าว แต่ก็ไม่เคยอดที่จะมีของฝากสำหรับเด็กๆ ลุงสน เป็นใคร ทำไมถึงต้องอดเพื่อให้เด็กๆที่ไม่ใช่ลูก? ลุงสนประสบความล้มเหลวกับชีวิตครอบครัวภรรยาแกหนีไปกับชายคนใหม่ แต่เพียงเวลาไม่ถึงปี เธอคนนั้นก็กลับมา และเพียงเวลาไม่ถึงปีอีกเช่นกัน เธอคนนั้นก็จากไป พร้อมทิ้งของต่างหน้าไว้ให้ระลึกถึง นั่นคือ ลูก แกไม่เคยมีความคิดเลยว่า เด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อสายแกหรือไม่ แกเลี้ยงดู ทะนุถนอม ให้ความรักอย่างที่พ่อแม่จะพึงให้ได้แก่ลูกคนหนึ่ง เด็กหญิงเติบโตมาด้วยความรักจากบิดาและบรรดาญาติๆในละแวกนั้น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านที่ว่าแกเลี้ยงลูกของชู้ แกไม่สนใจ ความรักที่มอบให้ลูกสาวคนนี้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน พอเด็กหญิงเลยวัย 4 ขวบได้เพียงไม่กี่เดือน ผู้เป็นแม่ได้กลับมาอีกครั้ง เสียงทัดทานของลุงสนไร้น้ำหนักยิ่ง เธอกลับไปแล้ว..พร้อมกับเด็กหญิงผู้เป็นดวงใจ ลุงสนร่ำไห้..และตั้งแต่นั้นมา ความรักที่แกเคยมีให้กับเด็กคนนั้นเท่าไร แกก็เฝ้ามอบให้กับเด็กในละแวกบ้านทุกวัน หลายคนมองว่าแกเป็นผู้ให้อย่างเดียว ไม่เคยได้รับ แต่แท้จริงแล้ว แกรู้สึกอยู่เสมอว่าสิ่งที่แกได้รับนั้นมากกว่าของที่ได้ให้แก่เด็กๆ ..แกได้รับอะไร ??รอยยิ้มและความสุขของเด็กๆ นั่นคือสิ่งที่แกได้รับมาตลอดเวลากว่า 10 ปี … แล้ววันหนึ่ง วันที่ทุกคนรู้ในชื่อว่าเป็นวันพ่อแห่งชาติลุงสนยังคงเป็นที่รักของเด็กๆเช่นเคย ขณะที่แกกำลังมีความสุขกับหน้าที่ของผู้ให้ ใครคนหนึ่งกำลังยืนมองเขาอยู่ และเมื่อลุงสนหันไปสบตา ใครคนนั้นก็เดินเข้ามาในระยะใกล้ และก้มลงคุกเข่ากราบแทบเท้าของลุงสน.. ท่ามกลางความสนใจของเด็กๆ และชาวบ้านแถวนั้นเมื่อเธอคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่นองหน้า คำแรกที่เธอเอ่ยทำน้ำตาของลุงสนพรั่งพรู เธอเอ่ยคำที่ลุงสนไม่คิดว่าจะได้ยินอีกแล้วในชีวิตนี้ “พ่อ” ความรักเป็นสิ่งที่ดีเสมอ ไม่ว่าเราจะมอบให้ใคร สิ่งที่ได้รับกลับคืนย่อมเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน แม้ว่าจะนานเท่าใด.   ภาพประกอบจาก unsplash-logoJason Leung

ความรัก พ่อ
SuperDJ ตอน ดีเจสระอา อ่านต่อ

SuperDJ ตอน ดีเจสระอา

เรื่องยาว 6 June 20069 June 2015

ผมชื่อสระอา พงษ์พุฒิพงษ์ อายุ 22 ปี น้ำหนัก 60 สูง 172 จบครุศาสตร์ เอกภาษาไทย จากมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อแห่งหนึ่ง(เขาก็มีชื่อกันทุกมหาลัยนั่นแหละ) ปัจจุบันมีอาชีพเป็นดีเจ อยู่คลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง อาจมีคนสงสัยว่า จบครุศาสตร์ ทำไมมาเป็นดีเจ ทำไมไม่เรียนนิเทศตั้งแต่ต้นเลยละไอ้ทิด? ตอบง่าย ๆ ครับ แรกเริ่มเดิมทีผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองชอบอะไร ที่เรียนครุศาสตร์ เพราะแม่เป็นครู พ่อเป็นเบาหวาน เอ้ย เป็นทหาร (แต่ตอนหลังท่านก็เป็นเบาหวานจริง ๆ นะแหละ) แม่ท่านก็อยากให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านเป็นครูที่ดี เหมือนที่ท่านเป็น ทั้ง ๆ ที่ไม่ดูสารรูปลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้เลย เกเรที่หนึ่ง ย้ายโรงเรียน 2-3 ครั้ง แต่สุดท้ายก็กลับมาเรียนที่โรงเรียนที่แม่สอนเองนะแหละ ที่ย้ายโรงเรียนนะไม่ใช่ไปตีกะใครที่ไหนหรอก แม่เองนะแหละ เห็นว่าโรงเรียนที่ตัวเองสอนไม่ค่อยดี อยากไปเรียนในตัวเมือง โรงเรียนดัง ๆ แต่พอไปเรียนไกลหูไกลตา ครูประจำชั้นก็รายงานกลับมาว่า ด.ช. สระอา พงษ์พุฒิพงษ์ ไม่เคยไปโรงเรียนเลย อะแหมม จะให้เข้าได้ไง รอบๆโรงเรียนพรั่งพร้อมไปด้วยร้านเกมส์ โต๊ะสนุ๊ก เธค บาร์ ข้าง ๆโรงเรียนบรรยากาศครึกครึ้น พอมองลอดรั้วไปในโรงเรียน เห็นครูหน้าดุ ๆ นักเรียนซึมๆ เซาๆ ใครจะอยากเข้าไปในโรงเรียนนั่นละ เป็นทัณฑสถานก็ไม่ปาน หลังจากพยายามเคี่ยวเข็ญ ขู่บังคับ จนจบมัธยมได้ แม่ปฏิเสธการตั้งใจจะเอ็นทรานซ์ของผม (จริงๆผมปฏิเสธการให้เอ็นทรานซ์ของแม่) เพราะรู้ว่าผลมันออกตั้งแต่ผมยังไม่เอ็นท์ แม่พาผมไปเรียนมหาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง อธิการบดีเป็นเพื่อนซี้กับแม่ (ทราบภายหลังว่าเป็นกิ๊กเก่าของแม่สมัยเรียนปี 1) ชีวิตผมจึงค่อนข้างสบายในรั้วมหาวิทยาลัย เรียน 2 วัน หยุด 5 วัน แม้ไม่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่เกรดเฉลี่ย 3.00 ก็ไม่เลวนัก นับว่าเป็นอานิสงส์จากกิ๊กเก่าของแม่แท้ ๆ หลังจากจบปริญญาตรี เป็นบัณฑิตสมใจแม่แล้ว ก็เตร่ไปเตร่มากับเพื่อนฝูง แม่ให้ไปสมัครสอบบรรจุเป็นครู วันนั้นผมอายประชาชีเป็นที่สุด มีที่ไหนโตเป็นควาย แต่งตัวก็วัยรุ่น ให้แม่พาไปสมัครสอบ ตอนกรอกใบสมัครแม่ก็นั่งประกบชี้ให้เขียนโน่น เซ็นต์นี่อีก…

รำลึกความหลังกับเพลง 'ตุ๊กตา'

เรื่องทั่วไป 21 April 2010

วัยเด็กอันแสนกันดารของผมนั้น มีโอกาสน้อยมากที่จะได้ดูทีวีหรือเล่นเกมส์ อย่างดีก็แค่ละครวิทยุจากคณะเกศทิพย์  ตอนนั้นทั้งหมู่บ้านแทบจะนับทีวีได้เลยว่ามีกี่เครื่อง หมู่บ้านที่มีกว่า 200 หลังคาเรือนในขณะนั้นมีทีวีอยู่ 3 เครื่อง 1 ใน 3 เครื่องเป็นทีวีขาวดำ และทุกเครื่องจอ 14 นิ้ว ทีวีของคนข้างบ้านเป็นขาวดำ ส่วนอีก 2 เครื่องที่เป็นทีวีสีนั้น เจ้าของไม่ใคร่ให้เด็กหรือคนอื่นดูด้วย เก็บไว้ดูคนเดียวซะมากกว่า ทีวีของคนข้างบ้านที่อนุญาตให้เด็กๆดูได้ฟรี เพราะบ้านเขามีธุรกิจของขาย เด็กดูไปก็หิวไป เดี๋ยวก็วิ่งไปขอตังค์พ่อแม่มาซื้อขนม ก็ยังพอได้กำรี้กำไรอยู่บ้าง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีละครสุดฮิตคนติดกันทั้งหมู่บ้าน รวมถึงตัวผมด้วย นั่นคือ ละครเรื่องตุ๊กตา เป็นละครแนวผีทางช่องเจ็ดสีทีวีเพื่อคุณ ..แต่น แต๊น แต.. ในยุคนั้น ละครเรื่องนี้ถือว่าเป็นละครผีที่น่ากลัวที่สุดรองจากละครเรื่อง ‘ห้องหุ่น’ (บ้างก็บอกว่าเรื่องตุ๊กตาน่ากลัวว่าห้องหุ่นด้วยซ้ำ) สมัยนั้น เด็กๆจะกลัวมาก ถ้าเด็กที่ร้องๆอยู่แล้วมีคนบอกว่า เดี๋ยวผีตุ๊กตามา เด็กจะเงียบทันที หรือแค่ผู้ใหญ่ฮัมเพลงประกอบละครเรื่องตุ๊กตาในเวลากลางคืน เด็กก็จะร้องไห้กลัวผีขึ้นมาในทันใด..มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยละ วันนี้ได้ไปเจอเพลง ‘ตุ๊กตา’ จึงเอามารำลึกความหลังซะหน่อย..ฟังแล้วก็ยังน่ากลัวเหมือนเดิม !!!

ตุ๊กตา
อ่านต่อ

น่าน..งัย

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 February 201428 October 2015

จังหวัดน่านเป็นจังหวัดเล็กๆในภาคเหนือ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และภูเขาส่วนใหญ่ไม่มีต้นไม้ เนื่องจากเมื่อก่อนคนที่นั่นมีค่านิยมตัดไม้มาสร้างบ้าน บ้านต้องมีท่อนไม้ใหญ่ๆ ถึงจะแสดงถึงฐานะ ปัจจุบันค่านิยมนี้เริ่มหมดไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็นตามบ้านเก่าแก่ของคนน่าน ผลที่เกิดจากค่านิยมนี้ทำให้ภูเขาหลายๆลูกในจังหวัดน่านไม่มีต้นไม้!! ระยะทางจากรุงเทพไปน่านประมาณ 860 กิโลเมตร ถ้าจะไปเที่ยวแนะนำให้ไปในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลปีใหม่ ที่ไม่แนะนำเพราะผมเจอมาแล้วกับตัว! ถึงจังหวัดน่านจะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่การเดินทางไปทางเหนือยังไงเสียก็ต้องอาศัยทางเดียวกันอยู่ดี ดังนั้น ระหว่างทางทั้งไปและกลับผมรถติดเต็มๆ การท่องเที่ยวครั้งนี้ผมเลือกขับรถไปเองครับ โดยน้องพิงกี้ หรือมารชมพู ไปพร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน 2 คัน ไม่มีการจองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์ อาหาร และเครื่องนอนแล้ว ใยต้องกลัวอะไร? เดินทางวันแรกวันที่ 28 ธ.ค. 56 แต่เช้าตรู่ รถไม่เยอะมาก แต่ก็ใช้ความเร็วมากไม่ได้สักเท่าไร วันแรกเลยไปไม่ถึงน่าน ได้แค่จ.แพร่ อ.สูงเม่น อากาศยังไม่หนาวมากเท่าไร วันต่อมาออกเดินทางท่องเที่ยวเล็กๆน้อยๆในแพร่ก่อน แล้วมุ่งหน้าไปดอยเสมอดาว จ.น่าน ระหว่างทางไปดอยเสมอดาว วิวข้างทางสวยงามมากครับ แต่ไม่มีเวลาจอดถ่ายรูป ต้องรีบไปดอยเสมอดาวเพื่อหาที่นอนให้ได้ก่อนในคืนนี้ ณ ดอยเสมอดาว ปกติที่นี่จะแทบไม่มีคน หรือถ้ามีก็รับคนได้สูงสุดไม่เกิน 30-40 คน แต่วันนี้ที่เราเดินทางไปถึง คนร่วมร้อย!! จุดกางเต๊นท์ที่เจ้าหน้าที่จัดให้เต็มหมดแล้ว ที่เหลือต้องหาจุดกางเอง ซึ่งแทบจะไม่มีที่กางแล้ว ที่ๆเราได้อย่าใช้ชื่อว่าเป็นที่กางเต๊นท์เลยครับ เพราะมันเป็นพื้นที่ไม่เรียบ นั่งตรงๆไม่ได้จะไหล ไม่ต้องพูดถึงนอน นอนไม่หลับเลยทั้งคืน!! แต่อากาศหนาวมาก ตื่นเช้าเริ่มรู้สึกไม่สบาย … หลังจากเก็บเต็นท์เครื่องนอน และทานข้าวต้มที่ทำขึ้นเองในตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไป อ.บ่อเกลือ อ. บ่อเกลือตั้งอยู่บนดอยสูง ถนนถึงแม้จะดี แต่ก็มีความโค้ง เลี้ยวเยอะค่อนข้างน่ากลัว ต้องใช้เกียร์ต่ำตลอด และพอถึง อ.บ่อเกลือซึ่งอยู่บนดอย อากาศกลางวันกับกลางคืนต่างกันสุดขั้ว ส่งผลให้วันรุ่งขึ้น ผมป่วย 100% มีไข้ และไอรุ่นแรง วันต่อมาเดินทางลงจากบ่อเกลือเข้าเมืองน่าน เพื่อที่จะพักในตัวเมืองน่าน ก่อนออกเดินทางกลับในวันถัดไป …เรามาส่งท้ายปีเก่าที่เมืองน่านครับ ตัวเมืองน่านเองเป็นเมืองที่เงียบ ๆ เล็กๆ  แม้จะเป็นช่วงปีใหม่ก็ยังเงียบ แต่มีงานส่งท้ายปีใหม่ที่ศาลาว่าการน่าน เช้าของวันปีใหม่ อาการไข้ดีขึ้น…

ไม่รู้ว่าหลอก..แต่เต็มใจให้หลอก

เรื่องทั่วไป 13 May 2010

วันก่อนมีโอกาสคุยกะเพื่อนที่ฝั่งธนฯ  เพื่อนคนนี้มีอัธยาศัยดี หน้าตาเป็นมิตรกะคนทั่วไป ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ซึ่งบุคลิกอย่างนี้ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี ข้อเสีย คือ นอกจากจะทำให้คนรอบข้าง(ที่เรารู้จัก)รู้สึกดีแล้ว ยังมีผลถึงคนรอบข้าง(ที่เราไม่รู้จัก)อีกด้วย เขาเป็นเหมือนแรงดึงดูดเอามิจฉาชีพ 18 มงกุฏมาหาตัวเองเรื่อยๆ ด้วยบุคลิกยิ้มง่า่ย อัธยาศัยดี และขี้เกรงใจนี่เอง  จึงทำให้เป็นที่หมายปองของมิจฉาชีพบ่อยๆ และครั้งนี้ก็เช่นกัน มันมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง (อีกแล้ว) ว่า ผมโพสต์ไว้วันที่ 13 พ.ค. รอดูวันที่ 16 ซึ่งเป็นวันหวยออก มันจะถูกหวยจริงๆหรือไม่? 18 มงกุฏรายนี้ร้ายจริงๆ นอกจากจะหลอกเอาเงินไปแล้ว ยังหลอกให้เสียเงินซื้อหวย(ผิดๆ) อีกต่างหาก .. เงินที่เสียค่าโง่ไป 700 บาทนะไม่เท่าไร แต่ถ้าคนถูกหลอกเชื่อจริงๆจังๆ ซื้อหวยหมดเป็นพัน หรือถึงหมื่น .. นี่นับว่าร้ายแรงเลยทีเดียว

พิภพ หวย

เมืองต้องคำสาป

เรื่องทั่วไป 8 March 2010

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ..ร้อนขนาดอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันเช็ดตัว ตัวก็เกือบแห้งแล้ว แอร์คอนดิชั่นแต่ละบ้านทำงานหนักเป็นพิเศษ ทำความเย็นให้บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ขณะเดียวกันมันก็ระบายความร้อนให้โลก คนกลุ่มเล็กๆเย็นสบายนอนห่มผ้าหนาๆหลับฝันดี ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ร้อน โลกก็ร้อน!! ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อยแล้วนะครับ สำหรับเรื่องโลกร้อน หลายคนพยายามผูกให้เข้ากับคำทำนาย(ของใครไม่รู้) ที่บอกว่าโลกจะแตกในปี 2012 มีภาพยนตร์หลายเรื่องทำออกมาเขย่าขวัญกันอีก เพิ่มความน่าเชื่อถือของคำทำนายดังกล่าวมากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ ขณะนี้ทั่วโลกเกิดวิกฤตการณ์แปลกประหลาดของธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เริ่มตั้งแต่.. แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เฮติ.. แผ่นดินไหวที่ชิลี.. แผ่นดินไหวที่ตุรกี.. น้ำท่วมที่อเมริกา.. โคลนถล่มในอีกหลายประเทศแถบตะวันออกกลาง.. ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย.. ซึนามิถล่มที่อินโดนีเซีย.. น้ำในแม่น้ำโขงแห้งที่สุดในรอบ 30 ปี.. …ฯลฯ….. ตอนนี้นานาประเทศกำลังตกใจต่อวิกฤตการณ์เหล่านี้มาก ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนอีก  หลายๆประเทศตกอกตกใจและเริ่มคิดถึงแนวทางแก้ไข รวมถึงการป้องกันและการเตรียตัวรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้.. เวลาเดียวกันกับที่นานาประเทศกำลังเตรียมตัวรับมือกับวิกฤตการณ์นี้ ประเทศไทยก็เตรียรับมือเหมือนกัน แต่ไม่ได้เตรียมตัวรับมือวิกฤตการณ์ธรรมชาติอะไรหรอกนะครับ..เตรียมรับมือกับวิกฤตการณ์คนไทยด้วยกันนี่แหละ…เห็นชาติโน้นชาตินี้เขาประสบปัญหากลัวจะน้อยหน้า ก็เลยสร้างปัญหาขึ้นซะเองเลย.. แม้ตอนนี้นักเรียนจะปิดเทอมแล้ว  แต่เราก็มีกีฬาสีให้ชม..มหกรรมกีฬาสีทำลายชาติกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้วในไม่กี่วันข้างหน้า ชาวประชาตื่นเต้นจนตัวสั่น ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยง พี่ป้าน้าอาพ่อเฒ่าแม่เฒ่าในชุดสีแดงต่างไม่หวั่นไหวต่อความร้อนแรงแห่งแดด แดดจะร้อนเท่าไรหากเทียบกับใจที่ร้อนแทบระเบิดเมื่อนายใหญ่ถูกยึดทรัพย์ไปกว่าครึ่ง ..แค้นครั้งนี้ต้องมาชุมนุม เมื่อครั้งในอดีตชาวบ้านบางระจันรวมกันด้วยพี่ป้าน้าอาทั้งหญิงชาย รวมผนึกกำลังเพื่อป้องกันดินแดนเกิดจากอริศัตรูคือพม่ารามัญ ครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันไม่อาลัยในชีวิตหากเทียบกับผืนแผ่นดินไทยที่ยิ่งใหญ่ ยามสละเลือดแลชีวิตเพื่อต้านพม่า วีรกรรมครั้งนั้น ทำให้อนุชนรุ่นหลังรำลึกถึงและกล่าวขวัญกันสืบมาจนปัจจุบัน.. หวนกลับมาถึงพี่ป้าน้าอาในชุดสีแดงในปัจจุบัน… ชาวบ้านบางระจันหันหน้าออกนอกประเทศ หันหลังให้แผ่นดินมาตุภูมิ เตรียมประจัญกับข้าศึก.. กลุ่มเสื้อแดงหันหลังออกนอกประเทศ หันหน้ามาสู่แผ่นดินเกิด..เตรียมประจัญหน้ากับคนไทยด้วยกันเอง.. เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเขมรแบ่งกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ฆ่าฟันกันเอง มีคนตายเป็นล้าน เรามองเพื่อนบ้านแล้วพูดว่า “ประเทศเขมรเหมือนถูกสาป คนในชาติต้องมาฆ่ากันเอง” มาวันนี้..เรายังจะกล้าพูดประโยคเดิมได้อีกหรือไม่นะ ฤๅคำสาปมันเดินได้  ..มันกำลังเดินมายังประเทศไทยแล้ว

ได้เวลา..เอาเลือดบ้าออก

ไดอารี่ 12 January 2010

หยุดเสาร์-อาทิตย์ กิจกรรมออกกำลังกายและงดมื้อเย็นของผมก็มีอันต้องหยุดไปด้วย ตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าวันอาทิตย์นี้ จะไปบริจาคเลือดให้ได้ หลังจากปีที่แล้ว ไปแค่ครั้งเดียว และครั้งเดียวนั้นก็ถูกปฏิเสธจากสภากาชาดด้วยข้อหา “เลือดลอย”  ก่อนบริจาคเลือดจะมีกระบวนการวัดความดัน และเจาะเลือดตรวจก่อน หลังจากสูบเลือดจากปลายนิ้วเสร็จแล้ว เขาจะหยดแหมะลงในน้ำยาสีฟ้า ถ้าเลือดปกติมันจะดิ่งลงก้นขวดในทันที ถ้าเลือดจาง มันจะค่อยๆจม หรือไม่จมเลย ที่เราเรียกว่า “เลือดลอย” นั่นแหละครับ สาเหตุมาจาก นอนดึก พักผ่อนน้อย หรือเคยบริจาคเลือด แต่ไม่กินยาบำรุงเลือด ผมอยู่ในจำพวก ไม่กินยาบำรุงเลือดที่เขาาให้มา สาเหตุคือ ผมแพ้ยาวิตามินเม็ดสีแดงมันๆ หวานๆ นั่นอย่างรุนแรง ร่างกายจะสร้างปฏิกิริยาต่อต้น พะอืดพะอมจนจะอาเจียนพู่งปรี๊ดกลับมาทางเดิมให้ได้ ..อาการแพ้มันเกิดขึ้นเพราะผมอุตริเอง เมื่อสมัยบริจาคเลือดยุคแรกๆเมื่ออายุ 17-18 พอได้ยาบำรุงเลือดมา ก็กระดกหมดทั้งถุง ตั้งแต่บัดนั้นละครับ ผมเกลียดยานี้อย่างรุนแรง อย่าว่าแต่กินเลย เห็นหน้ายาก็เกิดอาการแล้วละ วันนี้ตั้งใจว่าจะบริจาคจริงๆ เย็นวันก่อนไปบริจาคเลยปฏิเสธแอลกอฮอลล์จากเพื่อนๆในงานแต่งจนสิ้น ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการบริจาคเลือดครับ ก่อนจะบริจาคเลือด นอกจากต้องนอนให้พอ กินอาหารให้อิ่ม ไม่กินยาพารา ยาแก้อักเสบแล้ว ภายในวันนั้นก่อนบริจาคเลือด ต้องอย่ากินอาหารมันๆ เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ฯลฯ วันนี้คนมาบริจาคเยอะพอสมควร เวลาบ่าย 2 โมงแล้ว คิวยังยาวเฟื้อย มีเทคนิคนิดหนึ่งสำหรับคนที่ไปบริจาคแล้ว พบว่ามีคิวยาวมาก แนะนำให้ว่า ก่อนกรอกรายละเอียดในการบริจาคเลือดให้ไปกดบัตรคิวก่อน กดบัตรคิวทั้งข้างบนและข้างล่าง คิวข้างล่างเพื่อเจาะตรวจเลือดวัดความดัน ส่วนคิวด้านบนเพื่อเจาะเก็บเืลือด เอาคิวทั้งสองที่มาก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการบริจาค อาจจะช่วยให้เร็วขึ้นอีกนิดนึง เลือดผมค่อนข้างดี เร็ว และแรง อาจเพราะอั้นมาทั้งปี หลังจากไปนอนกำแบๆ แป๊บเดียว ก็เต็มกระปุกแล้ว เต็มก่อนคนที่เข้าไปก่อนซะอีก  วันนี้เจอพวกแปลกๆมาบริจาคเลือด แบกกล้องตัวใหญ่มาด้วย แล้วก็เที่ยวถ่ายทุกช็อตตั้งแต่ทางเดิน จนกระทั่งบันไดเลื่อน ถ่ายๆ พอตัวเองต้องนอนให้เลือด ก็ยังอุตส่าห์หยิบกล้องตัวใหญ่กระเตงถ่ายแขนตัวเองที่มีเข็มปักอยู่อย่างยากลำบาก.. ไม่รู้ถ่ายไปอวดใคร แต่เอาเถอะ..ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แถมยังได้บุญด้วย ผมก็ขออนุโมทนาด้วยคนน่ะ หลังจากบริจาคเลือดแล้วว่าจะเข้าไปกราบพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตรฯ แต่วน 2 รอบ ยังหาที่จอดไม่ได้เลย แดดก็ร้อน รถก็เยอะ คนก็แยะ เลยถอดใจ วันหลังค่อยมาใหม่ละกัน…..

อ่านต่อ

“อดทนเวลาที่ฝนพรำ.

สุขกะภาพ 28 September 20163 November 2017

.อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจางหาย ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ..”

ฝนตก รถติด

ผู้ชนะสิบทิศ

เรื่องทั่วไป 26 May 2009

ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย จริงๆมีแผนจะไปเที่ยวสัตหีบกับเพื่อนๆที่ทำงานในวันเสาร์ที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่มีเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเดินทางไปกับเพื่อนๆได้ ฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้ไม่อยากคิดถึงการเดินทาง การเที่ยว คิดถึงสภาพท้องถนนที่คลาคลำด้วยรถ ถนนลื่น อุบัติก็เกิดขึ้นง่าย ทะเลคงไม่สวยนัก หากท้องฟ้าไม่สดใส น้ำตกเองคงขุ่นคลั่กหากมีฝน ภูเขาหินผาก็ลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ในหน้าฝน หน้าฝนจึงเป็นฤดูที่ไม่เหมาะแก่การเที่ยวเท่าไรนัก แล้วเหมาะแก่อะไรละ?? อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ผมเลือกของแรกเป็นหลัก ผสมด้วยข้อสอง และไม่ละข้อสาม!   เหตุที่ผมไม่สามารถไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้ นั่น เพราะติดงานศพครับ ผู้วายชนม์เป็นอดีตข้าราชการทหารผู้ยิ่งใหญ่ ทำคุณประโยชน์แก่สยามประเทศเป็นอเนกอนันต์ ในอดีตท่านเคยออกรบในสงครามเวียดนามในนาม “จงอางศึก” และทำคุณประโยชน์ในฐานะชายชาติทหารแก่ประเทศชาติอย่างมากมาย ด้วยคุณงามความดีนี่เอง ในงานศพถึงคลาคลำด้วยแขกมากหน้าหลายตา และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ ท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อพระองค์ท่านทราบข่าวก็เสียชีวิต ก็ทรงประทานพวงหรีด เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัว ผมได้มีโอกาสไปที่บ้านของอดีตนายทหารผู้ยิ่งใหญ่ จึงได้พบเบื้องหลังแห่งความยิ่งใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพความยิ่งใหญ่, บันทึกต่างๆที่ท่านเขียนบันทึกไว้ตลอด(ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทุกคนรักการอ่านและการบันทึก ข้อนี้ผมได้ยินมาจากหลายๆท่าน) รวมถึงหนังสือหลากหลาย และหนังสือกองหนึ่งที่สะดุดตาผมยิ่งนัก นั่นคือ หนังสือนิยาย “ผู้ชนะสิบทิศ” โดยยาขอบ แต่ละเล่มมีความหนากว่า 500 หน้า พิมพ์แบบเก่า หนังสือมีความเก่าแก่หน้ากระดาษออกสีเหลืองจนซีด รวมทั้งหมด 10 เล่ม ผมลองหยิบเล่มหนึ่งมาอ่านคำนำที่ยาวเกือบ 5 หน้า เป็นหนังสือที่มีคำนำจากผู้เขียนยาวมาก จึงพบว่า คำนำนี้มิใช่คำนำอย่างหนังสือทั่วๆไป แต่เป็นคำนำที่ผู้เขียนได้กล่าวแก้ต่างจากมีผู้โจมดีในสมัยนั้น เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านเขียน โดยถูกกล่าวหาว่าไปลอกคนอื่นบ้าง ไม่ได้คิดเองบ้าง ต่างๆนานาๆ ก็ไม่แปลกใจใครที่ดัง มีชื่อขึ้นมา มักจะเจอข้อกล่าวหาทั้งสิ้น อาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการกล่าวอ้าง นอกจากนี้ท่านยังได้กล่าวขอบคุณ กล่าวถึงความยากลำบากในการประพันธ์ รวมถึงการกล่าวฝากฝังหนังสือยิ่งใหญ่ไว้ในแผ่นดิน   พออ่านคำนำจบ ก็ให้เกิดความกระหายอยากอ่านเนื้อหา ก็เลยอ่าน ตั้งใจว่าจะอ่านฆ่าเวลา อ่านผ่านไปบทแรก บทสอง บทสาม ก็เกิดความติดใจในรสประพันธ์ประหนึ่งกวางติดใจในรสหญ้าอ่อน ศัพท์สำนวนล้วนเป็นภาษาเก่า ต้องทำความเข้าใจ แต่กระนั้นก็หาใช่อุปสรรคไม่ ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุก ยิ่งอ่านก็ยิ่งวางไม่ลง ใครที่เคยอ่านแฮรี่พ็อตเตอร์แล้วติดงอมแงมวางไม่ลง ก็คงจะเข้าใจอาการนี้ของผมได้อย่างดี วางไม่ลง พอหลับตาลงก็ฝันถึง..   ผู้ชนะสิบทิศ เคยเป็นละครที่ยิ่งใหญ่ในอดีต…

New Divide

พูดจาภาษาฝรั่ง, เรื่องทั่วไป 9 November 2009

อังกฤษวันละคำ วันนี้ขอเสนอคำว่า ‘divide’ divide   [də’vaɪd]  เป็น ได้ทั้ง verb และื noun แปลว่า แบ่ง, หาร, ปัน, แยก, จัดสรร, จัดกลุ่ม, แยกกลุ่ม ถ้าเป็นนามก็ใส่คำว่า “การ” ด้านหน้า เช่น การแบ่งแยก divide into groups  แบ่งกลุ่ม divide into  แยกส่วน divide up the work  แบ่งงาน divide among  กั้นแบ่ง พูดถึง divide การแบ่งแยก ปัจจุบันนี้บ้านเมืองเราก็แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน 2 กลุ่ม ซึ่งในความจริงอาจมีมากกว่า 2 กลุ่ม แต่ ณ ตอนนี้ที่เห็นชัดสุดก็คงไม่พ้น 2 กลุ่มนี้ เพราะเขาแสดงตัวชัดเจน เราจะไม่วกเข้าสู่เรื่องนั้น เราจะยังอยู่ในเรื่องของ divide  มาดูตัวอย่างประโยค divide กันสักเล็กน้อย When people or things are divided or divide into smaller groups or parts, they become separated into smaller parts. ทีนี้มาดูตัวอย่างกันแบบเป็นเรื่องเป็นราว มีเพลงของ Linkin Park ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Transformers 2 ชื่อเพลงว่า New Divide I remember black skies, the lightning all around me I remembered each…

อ่านต่อ

เที่ยวถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 September 202129 July 2022

หลังจากกักตัวอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่โควิดระบาดรอบ 2 รอบ 3 มาเป็นแรมเดือน..ก็ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2564 เป็นต้นมา จนถึงเดือนกันยายนี้ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนไกลเลย เต็มที่ก็แค่เซเว่นหน้าหมู่บ้าน อาการคิดถึงธรรมชาติ การเดินทางกำเริบเป็นระยะ จนกระทั่งรัฐบาลสั่งคลายล็อกเปิดจุดท่องเที่ยวบางแห่งได้ เราจึงเริ่มมองหาที่เที่ยวบ้าง และที่นี่คือที่แรกที่เราออกเที่ยว หลังการคลายล็อก ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดแบ่งเป็น ถ้ำธารลอดใหญ่และถ้ำธารลอดเล็ก ถ้ำธารลอดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดใหญ่มีลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ มีความกว้าง 60 เมตร ตัวถ้ำด้านล่างยาว 60 เมตร กว้าง 40 เมตร และสูง 40 เมตร บนเพดานถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ที่แสงแดดส่องลอดเข้ามาในถ้ำได้ ทำให้ภายในถ้ำสว่างและมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ ที่ฟากหนึ่งของผนังถ้ำมีภาพเขียนสีรูปพญานาค ซึ่งชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพญานาค นอกจากนี้แล้วยังมีหลักฐานปรากฏว่าบริเวณนี้เป็นที่ฝังศพของมนุษย์โบราณ จากการค้นพบโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนำไปจัดไว้ให้ชมที่พิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ โครงการพระราชดำริห้วยองคต อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้ออกเดินทางกัน 3 คนครับ (ก่อนหน้านี้มี 5 แต่ติดธุระมาได้แค่นี้) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าก็ถึงยังจุดหมายปลายทาง จัดการกางเต็นท์ที่พักเรียบร้อย ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็เตรียมตัวเดินเท้าท่องเที่ยวธรรมชาติ เสน่ห์ของที่นี่คือนอกจากมีที่บริการจุดกางเต๊นท์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำครบครันแล้ว ยังมีกิจกรรมเดินป่าขนาดกำลังน่ารักให้เราเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอีกด้วย จุดเริ่มต้นการเดินเริ่มจากถ้ำธารลอดเล็ก ภายในถ้ำกว้างขวางมืดแต่มีไฟติดตามจุดพอให้เห็นทางเดินได้ ภายในถ้ำมีสายน้ำไหลผ่าน และพอผ่านจุดนี้ไปก็จะเข้าสู่การเดินป่า เป็นป่าที่มีทางเดินสะดวกครับ เด็กเล็กตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไปสามารถเดินได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง เพราะมีบางจุดที่มีความเสี่ยง ทางเดินจะเป็นทางเรียบ และค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ แต่มีบันไดให้เดิน ไม่ลำบากมาก ตลอดทางก็จะมีน้ำตกเป็นระยะให้ได้ถ่ายภาพ หรือลงไปเล่นได้ตามใจชอบ บรรยากาศดีมาก ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆก็จะถึงจุดที่เรียกว่าถ้ำธารลอดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูงมีลักษณะคล้ายถ้ำพระยานคร แต่โปร่งกว่า มาถึงจุดนี้ถ้ามีเวลาก็สามารถเดินทางต่อไปอีกนิดหนึ่งจะถึงวัด (ขออภัยที่จำชื่อวัดไม่ได้) เราใช้เวลาในการเดินชมธรรมชาติไปและกลับประมาณ 4 ชั่วโมง กลับถึงเต็นท์ก็ได้เวลาสำหรับอาหารเย็นแล้ว ค่ำคืนนี้มีฝนพร่ำๆ พอให้นอนสบาย นอนฟังเสียงฝนคละเคล้ากับเสียงน้ำตกไกลๆได้บรรยากาศการมาพักผ่อน เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าครับ ประมาณตีห้าครึ่ง ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายไปที่น้ำตกสไลเดอร์ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอุทยานห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร วิ่งไปกลับก็จะได้ระยะ 10 กิโลเมตรพอดี ระยะทางที่ค่อนข้างเป็นเนินซะส่วนใหญ่ ประกอบกับความฟิตก็ไม่ได้มีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำการให้วิ่งในวันนี้เหนื่อยเป็นพิเศษ…

กาญจนบุรี ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
อ่านต่อ

ตะลุยแก่งกระจาน

ท่องเที่ยว 12 December 201514 June 2019
เพชรบุรี แก่งกระจาน

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH