Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

Month: November 2006

เจ้าหญิงสุคันธา # 3 อ่านต่อ

เจ้าหญิงสุคันธา # 3

เรื่องยาว 30 November 2006

นานมาแล้ว..มีเจ้าหญิงพระองค์หนึ่งเธอเป็นพระธิดาองค์เดียวของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ในแคว้นอี้เทียน ทรงมีพระนามว่า เทียนฟู่ เป็นพระราชาหม้ายมาหลายปี พอเจ้าหญิงมีอายุ 20 ปี พระราชาทรงประสงค์จะให้เธอมีพระสวามีด้วยความที่ตลอดเวลา 20 ปี เจ้าหญิงไม่เคยพบปะสนทนาพูดคุยกับชายใดเลย พระนางจึงรู้สึกตื่นเต้น และขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวที่จะต้องคุยกับบุรุษเพศ “บุรุษนี่ เขาพูดจากันยังไงน่ะ?” เธอถามหญิงรับใช้หญิงรับใช้คนที่หนึ่งซึ่งมีอายุเท่าองค์หญิงทูลว่า “ชื่อว่าบุรุษนั้น เป็นผู้ที่มีความอ่อนโยน ให้เกียรติต่อสตรีเสมอ คำพูดทุกคำล้วนเปี่ยมด้วยคำอ่อนหวาน”“บุรุษมีแต่คำพูดเหลาะแหละเชื่อถือไม่ได้ คำพูดจาไม่ได้ต่างจากร่างกายที่กระด้างของเขาเลย” หญิงรับใช้วัย 25 กล่าวบ้าง“บุรุษทุกคนคอยแต่หาโอกาสจากสตรีเพศ คิดแต่เรื่องลามกสกปรก” หญิงรับใช้วัย 30 กล่าวองค์หญิงรู้สึกสับสนกับคำตอบที่ขัดแย้งกัน จึงถามยังหญิงรับใช้ที่สูงวัยบ้าง“อันบุรุษหรือสตรีหามีความแตกต่างกัน ด้วยทั้งสองต่างเป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน บุรุษหรือสตรีจะดีหรือไม่ดี ก็เพราะตัวของเขาเองหาเกี่ยวกับเพศไม่ เพียงเพราะบุรุษคนเดียวที่เราได้รู้จัก ไม่อาจตัดสินบุรุษทั้งโลกได้ และไม่ควรทำอย่างนั้น..” เจ้าหญิงทรงพอพระทัยกับคำตอบนี้มาก เพราะทำให้พระองค์เปลียนทัศนคติที่เคยมีต่อบุรุษใหม่ บุรุษไม่ใช่คนที่น่ากลัวอย่างที่เคยคิด เมื่อข่าวเรื่องการประกาศหาคู่สมรสขององค์หญิงกระจายออกไป เจ้าชายตามเมืองต่างๆ ก็ต่างจัดขบวนมาสู่ขออย่างมิคาดสาย เมื่อมีมาก เพื่อความยุติธรรม พระราชาจึงตรัสในสมาคมนั้นว่า..”เนื่องจากเจ้าชายมากมายต่างมาสู่ขอองค์หญิง เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านให้ความรักต่อธิดาของเรา แต่เพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมกับธิดาของเรามากที่สุด สมบัติใดๆอย่างอื่นเราไม่ต้องการ เราต้องการคนที่มีความรักต่อธิดาของเราอย่างแท้จริง” มีเสียงจอแจของเหล่าบุรุษผู้มาแสดงตนเพื่อขอเป็นราชบุตรเขยเสียงเหล่านั้นถูกสะกดให้เงียบด้วยเสียงอันน่าเกรงขามของพระราชา “ห่างจากเมืองนี้ ชั่วภูเขา 12 ลูก มีสวนดอกไม้อันกว้างใหญ่ ณ ที่นั้นมีเพียงดอกไม้ดอกเดียวที่มีความโดดเด่น ไม่เหมือนดอกใดๆในโลก ซึ่งลูกของเราชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง หากใครสามารถนำดอกไม้ดอกนั้นมากำนัลแด่ธิดาของเราในวันฉลองวันเกิดครบ 20 ปี เราจะมอบธิดาให้แก่บุรุษคนนั้น แต่เราขอเตือนท่านทั้งหลายไว้ในที่นี้ด้วยว่า สวนดอกไม้แห่งนั้นล้วนรายล้อมด้วยอันตรายที่ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น ขอให้พวกท่านจงระวังตัว คนที่ได้ดอกไม้มา ถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถเหมาะสมแก่ธิดาของเรา การคัดเลือกราชบุตรเขยเริ่มต้น ณ​ บัดนี้..”

เจ้าหญิงสุคันธา
ชู้ อ่านต่อ

ชู้

เรื่องสั้นสั้น 7 November 2006

ปัจจุบันเรียก “กิ๊ก”อาจจะต่างกันโดยชื่อ แต่ความน่ารังเกียจ เหมือนกัน! เค้าโครงจากเรื่องจริงนะ เรื่องต่อไปนี้..พระเอกของเรื่องชื่อ บี (นามสมมติ) หน้าตาหล่อราวพระเอกเกาหลี ทำงานอยู่ในร้านตัดผม จึงไม่วายถูกพี่ๆ ทั้งกระเทย เกย์ทาบทามให้ไปเป็นเด็กในสังกัดตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่มันก็ปฏิเสธ แน่นอนการปฏิเสธคนพวกนี้ ก็เหมือนการปฏิเสธความเจริญในหน้าที่การงาน บี ให้เหตุผลสั้นๆว่า “ขยะแขยง” เนื่องจากเป็นคนหน้าตาดี จึงไม่ยากที่จะมีคนมาเคียงข้างอย่างไม่ซ้ำหน้า ครั้งหนึ่งบีไปรู้จักกับสาวเจ้านางหนึ่ง หน้าตาจิ้มลิ้ม น่ารักน่าเอ็นดู หลังจากความสัมพันธ์ถึงขึ้นลึกซึ้ง จึงมารู้ภายหลังว่า..เธอ มีแฟนแล้ว รู้มากไปกว่านั้นอีกในเวลาต่อมา คือ ไม่ใช่แค่แฟน แต่เป็นสามีภรรยากันตามกฏหมายแล้ว.. บี ไม่สนใจ เมื่อไรที่สามีไม่อยู่ สาวเจ้าก็จะชักชวนไปที่คอนโดของเธอบ่อยๆ วันเกิดเหตุ เป็นวันที่บีรู้ความลับอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ สามีของสาวเจ้าเป็น ตำรวจ!ตาย ตาย แค่เป็นชู้กับเมียช้าวบ้านนี่ก็แย่แล้ว นี่เป็นชู้กับเมียตำรวจ.. ความซวยมาเยือนจนได้ วันนั้นนายตำรวจกลับบ้านโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า อาจเป็นการวางแผนเพื่อทดสอบภรรยาของตัวเอง เนื่องจากระยะหลังหล่อนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปหรือเปล่า? ขณะคุณตำรวจผู้สามีเปิดประตูเข้ามา บี กับสาวเจ้ายังคลอเคลียอยุ่บนเตียง“ตายแน่ๆ วันนี้เอาชีวิตมาทิ้งเพราะหญิงแท้ๆ” บีคิด “มึงแน่มาก” ตำรวจขบกรามแน่น และกล่าวสืบต่อไปว่า“ทำต่อดิ”“เอ่อ..ผะ..ผม” บี เหงื่อแตกผลั่ก“กูบอกให้ทำต่อ..ไม่งั้นมึงได้กินไอ้นี่แน่” ตำรวจพูดพลางยกปืนเล็งมาทางเขา ไม่มีทางเลือก จึงเริ่มบทรักที่ค้างคา จากความกลัวกลับกลายเป็นความรัญจวนใจ คิดในแง่ดี ถึงตายได้ตายคาอกก็ถือว่าคุ้ม..สำหรับหนุ่มเพลย์บอย เมื่อบทรักกำลังดำเนินไปอย่างออกรส บีเริ่มรู้สึกว่าผู้ร่วมกิจกรรมรัก มิได้มีแค่สองคน ! เขาเผยอตาเหลือบไปดู นายตำรวจที่มุมห้องหายไป เครื่องแบบถูกถอดวางอยู่ตรงมุมห้องนั้น..ขณะนี้นายตำรวจคนนั้นกำลังคลอเคลียอยู่กับเขา.. นายตำรวจประทับจูบที่แผ่นหลังเขา หนวดแข็งๆ ถูไปตามแผ่นหลัง ..เขาขนลุกชูชันสยิวกิ้ว ขณะเดียวกันความขยะแขยงก็บังเกิดมาแทนที่ความเสียวซ่าน…น นายตำรวจเริ่มบทรักอย่างเคลิ้บเคลิ้มต่อไป เลื่อนกายลงไปจนถึงเบื้องล่าง!บี ชายหนุ่มจอมเจ้าชู้ ถึงกับขนลุกซู่กับลีลาของคุณตำรวจวิตถาร เหตุการณ์วันนั้นจบลงอย่างไร บี ไม่ได้เล่าเพิ่ม เอาแต่ร้องไห้ปิ่มใจจะขาดจากผู้กระทำกลายมาเป็นผู้ถูกกระทำอย่างระกำใจ บีหนุ่มเพลย์บอย..ถอดเล็บถอดเขี้ยวไปพักใหญ่ เราไม่ได้เจอหน้ามันนานมาก แต่ล่าสุด หลังจากค้นหาตัวเองและบำบัดอาการทางจิต บีกลับมาแล้ว.. บี บอกว่า “ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้” พูดพลางสะบัดหน้า เดินบิดก้นหายไป กลิ่นน้ำห้องคละคลุ้ง.. เออ..ไปที่ชอบๆนะ อีบี!

อ่านต่อ

เที่ยวเมืองกาญจน์

ท่องเที่ยว 2 December 201525 August 2022
กาญจนบุรี โก๋ เมืองกาญจน์

ผีอำ

เรื่องทั่วไป 26 June 2008

ในโลกนี้มีหลายอย่าง ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบได้ และหนึ่งในหลายอย่างนั้น คือ เรื่อง ผี เมื่อตอนเด็กๆ เคยกลัว และเคยคิดว่าตัวเองเจอ ไม่สิ ไม่ได้เจอ เพียงแต่รู้สึกเหมือนว่า สิ่งๆนั้นเป็นผี! แต่พอโตขึ้น มานั่งพิจารณาดีๆ สิ่งๆนั้นๆ ที่เคยคิดว่าเป็นผีเมื่อตอนเด็กนั้น อาจไม่ใช่ผีก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าในตอนดึกข้างหน้าบ้าน ที่ผมเข้าใจว่าเป็นวิญญาณของยาย, เสียงคนเดินบนหลังคาบ้านตอนดึก รุ่งเช้าผมเป็นไข้, เท้าของทหารที่ยืนหน้าห้องที่โรงเรียน เมื่อครั้งที่ผมไปนอนค้าง และเมื่อฝนตกพร่ำๆ ฟ้าครึ้ม กลางบ่าย 3 โมง มีลุงแก่ๆยืนข้างทาง พอเดินเลยไปหน่อยหนึ่ง แล้วหันมาดูอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่มีแล้ว.. เหตุการณ์ที่กล่าวมานั้น คือ เหตุการณ์เมื่อตอนเด็ก ซึ่งในสมัยเด็กเราเข้าใจเหตุการณ์นั้นว่า ผีหลอก แต่เมื่อโตขึ้นมานั่งพิจารณา ก็ให้เกิดความสงสัยว่า นั่นเป็นผีจริงหรือเปล่า เสียงฝีเท้าข้างหน้าบ้านตอนดึกสงัด .. อาจจะเป็นใครก็ได้มาเดิน, เสียงคนเดินบนหลังคา อาจจะเป็นแมว, เท้าของทหารที่มายืนหน้าประตู (อันนี้คงนึกภาพไม่ออกกัน ลองคิดถึงประตูห้องเรียนที่ปิดสนิท แต่บานประตูมีขนาดสั้นกว่าขอบประตู เมื่อปิดจึงไม่มิด จะเห็นเฉพาะขา ถ้ามีคนมายืนหน้าห้อง) อาจจะเป็นใครก็ได้ บังเอิญผ่านมา และผมก็บังเอิญเห็น! และลุงแก่ๆที่มายืนข้างทางนั้น น่าจะเป็นลางอะไรสักอย่างที่มาช่วยผม เพราะวันนั้น ผมหนีฝน กำลังจะขึ้นกระท่อมร้าง แต่เมื่อเจอเหตุการณ์นี้เข้า จึงไม่กล้าขึ้นกระท่อมดังกล่าว แต่วันต่อมา เมื่อขึ้นไปบนกระท่อมนั้น ปรากฏว่ามีตะขาบตัวใหญ่มาก ซึ่งวันฝนตกนั้น ถ้าผมขึ้นไป อาจถูกมันต่อยเอาก็ได้.. นั่นคือเหตุการณ์ในวัยเด็ก จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ผมยังไม่เคยมีประสบการณ์แนวๆนี้อีก ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ปรารถนาจะมีหรอกน่ะ มาวันนี้ผมได้มาเจออีกเหตุการณ์หนึ่ง  ที่ใครต่อใครเรียกมันว่า ผีอำ ผีอำ สำหรับคนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่สำหรับผม มันก็คือฝันร้ายเท่านั้นเอง เพียงแต่เป็นฝันที่คล้ายจะเป็นจริง คืนวันนั้น ผมฟังรายการ เดอะ ช็อก ซึ่งเป็นรายการผีๆ หลายคนรู้จักดี ในจินตนาการผมจึงมีเรื่องเหล่านี้อยู่ไม่น้อย พอหลับได้พักเดียวเท่านั้น ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้หลับ ยังนอนอยู่ และนอนตะแคงไปทางขวา ผมรู้สึกร้อน อยากจะลุกมากินน้ำ แต่พอจะขยับตัว มันขยับตัวไม่ได้  แต่ลืมตาได้ พอลืมตาเท่านั้นแหละ …ในห้องผมกลายเป็นห้องเก่าๆ หยากไย้เต็มไปหมด…

อ่านต่อ

ทริปทุเรียน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 June 201416 June 2019

ไปเที่ยวระยองครับ.. ครั้งสุดท้ายที่ไปเที่ยวต่างจังหวัด คือ เมื่อปีใหม่  ครั้งนี้อยากไปเที่ยวแนวธรรมชาติ เลยไประยอง ไปกินทุเรียน! ได้ไอเดียจากอ.วีระ แกพึ่งพามิตรรักแฟนเพลงไปเที่ยวชิมทุเรียนที่ระยองมา เราไม่มีโอกาสได้ไปกับแก เลยต้องไปเองครับ เป้าหมายคือ สวนบ้านเรา อ.แกลง สวนเดียวกับที่ อ.วีระไป  และที่พักที่ทำการจองไว้ คือ โรงแรมโกลเด้นท์ ซิตี้ เมืองระยอง ที่พัก กับ ที่เที่ยว อยู่กันคนละที __ แต่ไม่ใช่ปัญหา ถือว่าขับรถเที่ยว เช้าวันเสาร์ออกเดินทาง วิธีเดินทางง่ายมากครับ ขับรถมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าชลบุรี พอพ้นจุดพักรถบนมอเตอร์เวย์ขับต่อไปไม่นาน ก็จะมีป้ายระยองออกขวา ไปทางบ้านบึงครับ ทีนี้ก็ขับยาวอย่างเดียวจนถึงระยอง ผมไปถึงสวนบ้านเรา เวลา 11.00 น. โดยประมาณ จ่ายค่าบุพเฟ่ 200 บาท/คน และหลังจากนั้นก็ได้เวลากินอย่างไม่ยั้ง ไม่ว่า่จะเป็นทุเรียนหมอนทอง เงาะ ลองกอง และมังคุด สวนทีนี่ดูแลโดยคุณขจร แกบอกทำสวนมาได้ 7 ปีแล้ว แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดบุฟเฟต์ เพื่อเปิดตลาดสำหรับนักชิมผลไม้ ทีนี่มีพันธุ์ทุเรียนกว่า 100 สายพันธุ์ แต่ช่วงนี้มีเหลือแค่หมอนทองกับชะนี “ถ้าให้ดีควรมาช่วงหลังสงกรานต์ ช่วงนั้นจะได้ชิมทุเรียนหลายพันธุ์และทุเรียนจะอร่อยมากในหน้าร้อน” กินทุเรียนอิ่มหน่ำก็ตีรถเข้าระยองครับ ระหว่างทางก็แวะเที่ยวชายหาดของจ.ระยอง  มาถึงโรงแรมที่พักในตัวเมืองระยองในเวลา 5 โมงเย็น ระยองเป็นจังหวัดปานกลาง ไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก ในตัวเมืองมีรถมาก เจอคนขับรถแย่ๆ  2-3 ครั้ง ทำเอาเสียความรู้สึกไปเหมือนกัน แต่ก็ทำใจว่า คนขับรถแย่ๆที่ไหนก็มี!! เช้าวันอาทิตย์ ต้องเดินทางกลับกรุงเทพละ แต่ก่อนกลับต้องหาของฝากก่อน เลยไปแวะตลาดบ้านเพซื้ออาหารสด อาหารทะเล และแวะไปสวนทุเรียนบ้านเราอีกครั้ง เพื่อซื้อของฝาก จากเมื่อวานที่เห็นของฝากเป็นทุเรียนทอดหลายถุง พอทัวร์มาลงเท่านั้นแหละ เกลี้ยงเลย…จึงได้แค่ทุเรียนหมอนทอง แวะเอาไปฝากพ่อตาที่ บางแสน ชลบุรี ก่อนจึงบึ่งรวดเดียวถึงกรุงเทพ ___รวมระยะทางทั้งไปและกลับ 700 กว่ากิโลเมตร ใช้แก๊ส LPG ไป 700 กว่าบาท จบทริป..ทุเรียน ปล. เย็นวันนั้นกลับถึงบ้าน 5…

ทุเรียน ระยอง สวนบ้านเรา

08-08-08

เรื่องทั่วไป 8 August 2008

ไม่ได้ใบ้หวยแต่อย่างใดครับ แต่ชื่อหัวข้อนั่นมาจากวัน เดือน และปีนี้ ชาวจีนถือว่าเลขแปด เป็นเลขมงคล เพราะแปดตามเสียงของภาษาจีนกลางออกเสียงว่า ปา ซึ่งมีความหมายว่ารวย เมื่อเลขแปดมารวมกันถึงสามตัว ก็มีความหมายว่า รวย รวย รวย แสดงว่าคนจีนถือเงินทอง ความร่ำรวยถือเป็นมงคล แต่คงไม่ใช่เฉพาะคนจีน เดี๋ยวนี้ใครต่อใครต่างถือว่า เงินทอง ความร่ำรวยเป็นมงคลทั้งนั้นแหละครับ ขัดแย้งกับพระพุทธศาสนาอย่างสิ้นเชิง ปากก็บอกว่านับถือพุทธๆ แต่เที่ยวถือเงินทองเป็นมงคลนี่ ขัดต่อพุทธเห็นๆ พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนว่า เงินทองเป็นมงคล แต่ได้สอนมงคล ๓๘ ประการไว้ เริ่มตั้งแต่ อเสวนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวนา..การไม่คบคนพาล๑ การคบหาแต่บัณฑิต๑..เป็นต้น ก่อนที่พระองค์จะทรงสอนมงคล ๓๘ ประการนั้น ก็มีการถกเถียงกันในหมู่นักปราชญ์มานานนมแล้ว ว่า อะไรกันแน่เป็นมงคล บ้างก็ว่า สิ่งที่ได้ฟังแล้วไพเราะหู นั่นแหละเป็นมงคล บ้างก็ว่า สิ่งที่ได้เห็นแล้วเกิดความปลาบปลื้มบันเทิงใจนั่นแหละเป็นมงคล บ้างก็ว่า อารมณ์ที่เกิดในจิตใจที่เป็นอารมณ์ที่เป็นกุศล นั่นแหละเป็นมงคล หากสนใจเนื้อหามงคล ๓๘ โดยละเอียด คลิกที่นี่เลยครับ วันนี้ไม่ได้ตั้งใจมาเล่าเรื่องมงคล แต่มากล่าวถึงเลขมหัศจรรย์ 08-08-08 อีกนานกว่าจะเวียนบรรจบมาพบกับเลขวัน เลขเดือน และเลขปีเช่นนี้อีก ส่วนเรื่องที่ว่าเลข 8 ถือว่าเป็นเลขมงคล มีความหมายว่า รวย รวย รวย นั้น ผมไม่สู้จะตื่นเต้นเท่าไรนัก พระพุทธเจ้าสอนอย่างชัดเจนแล้วครับ มงคล ๓๘ ประการดังกล่าวแล้วข้างตน วันนี้เป็นวันสุดยอดมงคลของจีน นอกจากจะเป็นวันมงคลดังกล่าวแล้ว วันนี้เป็นวันเปิดงานโอลิมปิกที่จีนอีกด้วย.. ยิ่งใหญ่ทีเดียว และนับจากนี้ ก็คงจะได้ติดตามมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ จะรอดูว่า ปีนี้เป็นปีอภิมหามงคลของจีนหรือไม่ ถ้าเป็นของจีนจริง จีนต้องได้เป็นจ้าวเหรียญทอง จะรอดูและรอเชียร์ ~

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ห้วยน้ำดัง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 17 December 202023 August 2022

กลายเป็นประเพณีของผมไปซะแล้วครับ สำหรับการท่องเที่ยงทางเหนือช่วงหน้าหนาว จุดเริ่มต้นก็จะคล้ายๆกันทุกปี นั่นคือไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายที่ลำพูน หลังจากนั้นค่อยเลือกเป้าหมายต่อไปว่าจะไปไหน ปีที่แล้วไปอินทนนท์ ส่วนสำหรับปีนี้เราเลือก “แม่ฮ่องสอน“ แม่ฮ่องสอน พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน และยังคงเป็นป่าไม้ตามธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีเนื้อที่ป่าไม้ ประมาณ 10,976.979104 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,860,611.94 ไร่) คิดเป็นร้อยละ 85.99 ของเนื้อที่จังหวัด มีทิวเขาเรียงตามแนวทิศเหนือ–ใต้ขนานกัน  ดูจากข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นของจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว บันเทิงแน่นอนครับ การขับรถขึ้นลงเขาอันสลับซับซ้อนคดเคี้ยวเป็นตัวเอส ต้องมีความระมัดระวังสูงมาก ไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากนัก ผู้ที่มีธาตุเบาอาจมีการมึนหัวและอาเจียนได้ หลังจากไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางจากลำพูนตัดเชียงใหม่มุ่งสู่แม่ฮ่องสอน เป้นหมายแรกของวันนี้คืออำเภอยอดฮิตนั่นคือ ปาย ก่อนถึงปายมีร้านกาแฟเล็กอยู่บนยอดเขาระหว่างทาง เราพักกินน้ำกินท่าพอให้หายเมารถก่อน หลังจากได้พักดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย ก็เริ่มเดินทางต่อ และจุดหมายต่อมาของเราก็คือจุดชมวิวยอดฮิตอีกเช่นกัน อยู่ก่อนถึงอำเภอปาย นั่นคือ “ห้วยน้ำดัง” ห้วยน้ำดัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 112,187.5 ไร่ ภูมิศาสตร์เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำที่มีทัศนียภาพงดงาม มีความสูงตั้งแต่ 400-1,962 เมตร จากระดับน้ำทะเล โพสต์นี้ต้องจบตรงนี้ก่อน เรามัวแต่ดื่มด่ำกับธรรมชาติจนลืมไปว่าคืนนี้เรายังไม่มีที่นอน! ตอนต่อไปเราจะไปหาที่หลับที่นอนในอำเภอปายกัน…

ปาย แม่ฮ่องสอน

ผู้ชนะสิบทิศ

เรื่องทั่วไป 26 May 2009

ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย จริงๆมีแผนจะไปเที่ยวสัตหีบกับเพื่อนๆที่ทำงานในวันเสาร์ที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่มีเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเดินทางไปกับเพื่อนๆได้ ฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้ไม่อยากคิดถึงการเดินทาง การเที่ยว คิดถึงสภาพท้องถนนที่คลาคลำด้วยรถ ถนนลื่น อุบัติก็เกิดขึ้นง่าย ทะเลคงไม่สวยนัก หากท้องฟ้าไม่สดใส น้ำตกเองคงขุ่นคลั่กหากมีฝน ภูเขาหินผาก็ลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ในหน้าฝน หน้าฝนจึงเป็นฤดูที่ไม่เหมาะแก่การเที่ยวเท่าไรนัก แล้วเหมาะแก่อะไรละ?? อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ผมเลือกของแรกเป็นหลัก ผสมด้วยข้อสอง และไม่ละข้อสาม!   เหตุที่ผมไม่สามารถไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้ นั่น เพราะติดงานศพครับ ผู้วายชนม์เป็นอดีตข้าราชการทหารผู้ยิ่งใหญ่ ทำคุณประโยชน์แก่สยามประเทศเป็นอเนกอนันต์ ในอดีตท่านเคยออกรบในสงครามเวียดนามในนาม “จงอางศึก” และทำคุณประโยชน์ในฐานะชายชาติทหารแก่ประเทศชาติอย่างมากมาย ด้วยคุณงามความดีนี่เอง ในงานศพถึงคลาคลำด้วยแขกมากหน้าหลายตา และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ ท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อพระองค์ท่านทราบข่าวก็เสียชีวิต ก็ทรงประทานพวงหรีด เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัว ผมได้มีโอกาสไปที่บ้านของอดีตนายทหารผู้ยิ่งใหญ่ จึงได้พบเบื้องหลังแห่งความยิ่งใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพความยิ่งใหญ่, บันทึกต่างๆที่ท่านเขียนบันทึกไว้ตลอด(ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทุกคนรักการอ่านและการบันทึก ข้อนี้ผมได้ยินมาจากหลายๆท่าน) รวมถึงหนังสือหลากหลาย และหนังสือกองหนึ่งที่สะดุดตาผมยิ่งนัก นั่นคือ หนังสือนิยาย “ผู้ชนะสิบทิศ” โดยยาขอบ แต่ละเล่มมีความหนากว่า 500 หน้า พิมพ์แบบเก่า หนังสือมีความเก่าแก่หน้ากระดาษออกสีเหลืองจนซีด รวมทั้งหมด 10 เล่ม ผมลองหยิบเล่มหนึ่งมาอ่านคำนำที่ยาวเกือบ 5 หน้า เป็นหนังสือที่มีคำนำจากผู้เขียนยาวมาก จึงพบว่า คำนำนี้มิใช่คำนำอย่างหนังสือทั่วๆไป แต่เป็นคำนำที่ผู้เขียนได้กล่าวแก้ต่างจากมีผู้โจมดีในสมัยนั้น เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านเขียน โดยถูกกล่าวหาว่าไปลอกคนอื่นบ้าง ไม่ได้คิดเองบ้าง ต่างๆนานาๆ ก็ไม่แปลกใจใครที่ดัง มีชื่อขึ้นมา มักจะเจอข้อกล่าวหาทั้งสิ้น อาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการกล่าวอ้าง นอกจากนี้ท่านยังได้กล่าวขอบคุณ กล่าวถึงความยากลำบากในการประพันธ์ รวมถึงการกล่าวฝากฝังหนังสือยิ่งใหญ่ไว้ในแผ่นดิน   พออ่านคำนำจบ ก็ให้เกิดความกระหายอยากอ่านเนื้อหา ก็เลยอ่าน ตั้งใจว่าจะอ่านฆ่าเวลา อ่านผ่านไปบทแรก บทสอง บทสาม ก็เกิดความติดใจในรสประพันธ์ประหนึ่งกวางติดใจในรสหญ้าอ่อน ศัพท์สำนวนล้วนเป็นภาษาเก่า ต้องทำความเข้าใจ แต่กระนั้นก็หาใช่อุปสรรคไม่ ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุก ยิ่งอ่านก็ยิ่งวางไม่ลง ใครที่เคยอ่านแฮรี่พ็อตเตอร์แล้วติดงอมแงมวางไม่ลง ก็คงจะเข้าใจอาการนี้ของผมได้อย่างดี วางไม่ลง พอหลับตาลงก็ฝันถึง..   ผู้ชนะสิบทิศ เคยเป็นละครที่ยิ่งใหญ่ในอดีต…

เป็นเหี้ย

ไดอารี่ 3 May 2011

หยุด 3 วันมีโอกาสอยู่บ้านแบบเต็มๆ จึงจัดชุดใหญ่ ‘บิ๊กคลีนนิ่งเดย์’ เริ่มจากหอมผ้าไปลงถัง, ถูกบ้าน และ.. ใส่ปุ่ยให้ต้นไม้ ตอนนี้ต้นลีลาวดีที่อยู่หลังบ้านกำลังหัดออกดอก หลังจากผลิตแต่ใบมากว่า 3 เดือนแล้ว ผมจึงหมั่นไปดูแลทุกค่ำเช้าราวกับพ่อที่รอลูกคนแรกคลอด ต้นองุ่นที่หน้าบ้านก็เบ่งบานเต็มที่ หลังจากได้น้ำฝนบวกกับปุ่ยชีวภาพตอนนี้กำลังเลื้อยขึ้นระแนง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีกประมาณ 8 เดือนนับจากนี้องุ่นจะมีลูกมาให้เราเชยชม ชวนชมที่ชวนกันมาจากคอนโดหลังถูกทิ้งตากแดดตัวเหี่ยว ตอนนี้มีใบสดชื่น แข่งกันออกดอกอย่างสนุกสนานเช่นเดียวกับอมรเบิกฟ้าที่พามาจากคอนโดตอนนี้ดอกสีขาวเบ่งบานและร่วงหลายครั้งแล้ว ขณะที่่ดอกสีชมพูมีเพียงใบให้ดูต่างหน้า คนขายบอกว่าสีชมพูออกดอกน้อย ต้อนม่วงมณีดอกสีม่วงเต็มต้นกำลังเป็นพุ่มสวย แต่ด้วยใบที่มีรสกรอบอร่อยจึงเชื้อเชิญบุ้งมากัดกินซะแหว่งหวิ่นเช่นเดียวกับส้มจี้ดถูกทั้งบุ้งและหนอนกัดกินกันอร่อย ต้นคล้ากับต้นกกได้น้ำไม่เคยขาด จึงเบ่งบานสวยสด มีอีกหลายต้นที่จำชื่อไม่ได้ เลยมิได้เอ่ยชื่อไว้ในที่นี้ ต้องกราบขออภัย ขณะตัดแต่งใส่ปุ่ยให้ต้นไม้นั่งเชยชมกับธรรมชาติอยู่นั้น แขกผู้มิได้รับเชิญก็แอบคลืบคลานเข้ามาในรั้วบ้าน!! ตัวไม่ใหญ่ขนาดเท่านิ้วโป้งผู้ใหญ่ วิ่งปรูดเข้ามาในซอกต้นไม้ในบ้าน ผมรีบวิ่งไล่เพื่อขับออกจากบ้านทันที พอเข้าไปใกล้ถึงได้รู้ว่ามันคือ “เหี้ย” ตัวน้อย น้องเหี้ยมาจากไหนไม่รู้วิ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามาในรั้วบ้าน จิ๊กกี๋หมาที่เห่าดุเหลือเกินกับทุกสิ่งที่อาจหาญละเมิดอาณาเขตเข้ามาแม้กระทั่งผีเสื้อที่เผลอบินเข้ามามันยังกระโดดงับจนปีกขาด!! แต่ครั้งนี้มันปล่อยน้องเหี้ยน้อยวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างหน้าตาเฉย ผมพยายามชี้ให้จิ๊กกี๋ดูให้มันไปช่วยจับ นอกจากไม่มาแล้วมันยังมองไปทางอื่นทำท่าไม่สนใจ เป็นหน้าที่เจ้าบ้านอย่างผม ต้องไล่จับอย่างทุลักทุเลได้รับความช่วยเหลือจากป้าข้างบ้านช่วยอีกแรงนึงทำให้จับได้เร็วขึ้น ผมนำมันไปปล่อยข้างนอกกำแพงหมู่บ้าน ..ให้มันไปสู่ที่ชอบๆ ไปในที่ๆมันชอบ อย่าชอบบ้านผมเลย ก็ไม่รู้ว่าเหี้ยมันเลวยังไงนะ ใครทำตัวไม่ดีถึงถูกด่าว่า “เหี้ย” ผมว่าถูกด่าว่า “ไอ้เหี้ย” ยังรู้สึกแย่น้อยกว่าถูกด่าว่า “ไอ้นักการเมือง” ผมจะโกรธมาก โกรธจริงๆ แค่คิดก็ขยะแขยง สะอิดสะเอียนเวียนหัวแล้ว

เหี้ย

ทะเล-ทะเลาะ

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 October 200816 June 2019

ปีนี้ ถ้านับครั้งนี้ด้วย ก็จะเป็นแค่ครั้งที่สอง ที่ผมจะไปทะเลลลลลลลลลลล…ล พูดถึงทะเล ก็จะมีภาพเหล่านี้ลอยเข้ามาในหัว แน่นอนไปทะเลต้องมี..ทะเล ท้องฟ้าสีฟ้าสด.. ทราย.. สายลม.. เสียงหัวเราะ.. ความสุข.. นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวผมเมื่อนึกถึงทะเล อาทิตย์นี้ผมได้ไปทะเล กับที่ทำงาน ชั่งใจอยู่นานสองนาน สามนาน สี่นาน ห้านาน..ว่าจะไปดีหรือไม่ เพราะการไปครั้งนี้ค่อนข้างไปกันหลายชีวิต ใช่ว่าจะมีแต่แผนกเรา มีหลายๆแผนกไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และส่วนใหญ่ชอบกินเหล้า ผมตัดสินใจ ด้วยการอวดอ้างสรรพคุณความสนุกจากเพื่อนคนหนึ่ง “การไปทะเลกะคนเยอะๆๆ นี่สนุกนะ ทริปนี้มีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย รับรองๆ สนุกแน่ๆ สนุกจริง” ผมตัดสินใจอย่างยากเย็น ด้วยอยากพักผ่อนจริงๆ หลังจากที่เหนื่อยมาหลายวันมากแล้ว กลัวไม่สนุก กลัวไม่ได้พักผ่อน ~ และสุดท้ายก็ตัดสินใจ ไป… ~ ตามกำหนดการณ์ คือ ออกเดินทางเจ็ดโมง แต่เลทไปจนถึงแปดโมงกว่า ไม่เป็นไรไม่ถือสา แต่ที่ผมเริ่มจะรับไม่ได้ คือ การเดินทางครั้งนี้ไปด้วยรถทัวร์พัดลม โอ้วววว ไม่นะ ครั้งสุดท้ายที่ผมเดินทางด้วยรถทัวร์พัดลม คือเมื่อสัก 3 ปีก่อน เดินทางไปทอดผ้าป่าสามัคคีกับพิภพที่สกลนคร ครั้งนั้นทั้งเหนื่อย ร้อน และหนวกหู เพราะเครื่องเสียกระหึ่มรถมาก ครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากครั้งนั้นเลยยย เครื่องเสียงดังมาก ยิ่งกว่าในผับเสียอีก โอ้ ไปถึงทะเลเกือบบ่าย ทะเลที่ว่า คือหาดแม่รำพึง ระยองนี่เองครับ เลยไปไม่ไกล ภาพทะเล ความสนุกที่วาดไว้บนหัวหายหมดสิ้น ทะเลร้อนมาก หาดก็ไม่น่าลงเล่นเท่าไร ที่พักแย่ไปใหญ่ หาที่เป็นส่วนตัวไม่ได้เลย เพราะไปกันเยอะ กิจกรรมก็ขำๆดี แต่ผมไม่สนุกด้วย ตกกลางคืนงานเริ่มส่อแววล่ม เมื่อบรรดาขี้เมาเริ่มมีการกระทบกระทั่งกัน จอโปรเจกเตอร์ตัวใหญ่ที่ไว้ฉายคาราโอเกะ ภาพแจ่มดี แต่เครื่องเสียงห่วยชนิดไม่น่าให้อภัย เครื่องเสียงไม่ดีอยู่แล้ว คนร้องกลับเป็นขี้เมาอ้อแอ้ ผมทนกับสภาพนี้ไม่ไหวแล้ว จึงทิ้งกลุ่มออกมาเดินเล่นที่ชายหาดอย่างเงียบๆ คิดถึงความหฤโหดของการเดินทางในวันพรุ่งนี้ แดดร้อนๆ รถพัดลมอับๆ บวกกับเครื่องเสียนรกแตก กูตายแน่ๆ ผมกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปร่วม ได้แต่นั่งดูข้างนอก เริ่มเห็นความวุ่นวายลางๆ มีการกระทบกระทั่ง มีปากเสียงกันหลายคู่ หลายคน จนในที่สุดเมื่อเวลาห้าทุ่ม…

ทะเล ระยอง

เมืองต้องคำสาป

เรื่องทั่วไป 8 March 2010

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ..ร้อนขนาดอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันเช็ดตัว ตัวก็เกือบแห้งแล้ว แอร์คอนดิชั่นแต่ละบ้านทำงานหนักเป็นพิเศษ ทำความเย็นให้บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ขณะเดียวกันมันก็ระบายความร้อนให้โลก คนกลุ่มเล็กๆเย็นสบายนอนห่มผ้าหนาๆหลับฝันดี ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ร้อน โลกก็ร้อน!! ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อยแล้วนะครับ สำหรับเรื่องโลกร้อน หลายคนพยายามผูกให้เข้ากับคำทำนาย(ของใครไม่รู้) ที่บอกว่าโลกจะแตกในปี 2012 มีภาพยนตร์หลายเรื่องทำออกมาเขย่าขวัญกันอีก เพิ่มความน่าเชื่อถือของคำทำนายดังกล่าวมากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ ขณะนี้ทั่วโลกเกิดวิกฤตการณ์แปลกประหลาดของธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เริ่มตั้งแต่.. แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เฮติ.. แผ่นดินไหวที่ชิลี.. แผ่นดินไหวที่ตุรกี.. น้ำท่วมที่อเมริกา.. โคลนถล่มในอีกหลายประเทศแถบตะวันออกกลาง.. ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย.. ซึนามิถล่มที่อินโดนีเซีย.. น้ำในแม่น้ำโขงแห้งที่สุดในรอบ 30 ปี.. …ฯลฯ….. ตอนนี้นานาประเทศกำลังตกใจต่อวิกฤตการณ์เหล่านี้มาก ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนอีก  หลายๆประเทศตกอกตกใจและเริ่มคิดถึงแนวทางแก้ไข รวมถึงการป้องกันและการเตรียตัวรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้.. เวลาเดียวกันกับที่นานาประเทศกำลังเตรียมตัวรับมือกับวิกฤตการณ์นี้ ประเทศไทยก็เตรียรับมือเหมือนกัน แต่ไม่ได้เตรียมตัวรับมือวิกฤตการณ์ธรรมชาติอะไรหรอกนะครับ..เตรียมรับมือกับวิกฤตการณ์คนไทยด้วยกันนี่แหละ…เห็นชาติโน้นชาตินี้เขาประสบปัญหากลัวจะน้อยหน้า ก็เลยสร้างปัญหาขึ้นซะเองเลย.. แม้ตอนนี้นักเรียนจะปิดเทอมแล้ว  แต่เราก็มีกีฬาสีให้ชม..มหกรรมกีฬาสีทำลายชาติกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้วในไม่กี่วันข้างหน้า ชาวประชาตื่นเต้นจนตัวสั่น ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยง พี่ป้าน้าอาพ่อเฒ่าแม่เฒ่าในชุดสีแดงต่างไม่หวั่นไหวต่อความร้อนแรงแห่งแดด แดดจะร้อนเท่าไรหากเทียบกับใจที่ร้อนแทบระเบิดเมื่อนายใหญ่ถูกยึดทรัพย์ไปกว่าครึ่ง ..แค้นครั้งนี้ต้องมาชุมนุม เมื่อครั้งในอดีตชาวบ้านบางระจันรวมกันด้วยพี่ป้าน้าอาทั้งหญิงชาย รวมผนึกกำลังเพื่อป้องกันดินแดนเกิดจากอริศัตรูคือพม่ารามัญ ครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันไม่อาลัยในชีวิตหากเทียบกับผืนแผ่นดินไทยที่ยิ่งใหญ่ ยามสละเลือดแลชีวิตเพื่อต้านพม่า วีรกรรมครั้งนั้น ทำให้อนุชนรุ่นหลังรำลึกถึงและกล่าวขวัญกันสืบมาจนปัจจุบัน.. หวนกลับมาถึงพี่ป้าน้าอาในชุดสีแดงในปัจจุบัน… ชาวบ้านบางระจันหันหน้าออกนอกประเทศ หันหลังให้แผ่นดินมาตุภูมิ เตรียมประจัญกับข้าศึก.. กลุ่มเสื้อแดงหันหลังออกนอกประเทศ หันหน้ามาสู่แผ่นดินเกิด..เตรียมประจัญหน้ากับคนไทยด้วยกันเอง.. เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเขมรแบ่งกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ฆ่าฟันกันเอง มีคนตายเป็นล้าน เรามองเพื่อนบ้านแล้วพูดว่า “ประเทศเขมรเหมือนถูกสาป คนในชาติต้องมาฆ่ากันเอง” มาวันนี้..เรายังจะกล้าพูดประโยคเดิมได้อีกหรือไม่นะ ฤๅคำสาปมันเดินได้  ..มันกำลังเดินมายังประเทศไทยแล้ว

อ่านต่อ

วันเพ็ญเดือน ๑๒ กับน้องเขาใหญ่

สุขกะภาพ 5 November 200921 September 2016

เมื่อวันเพ็ญเดือน 12 ที่น้ำนองเต็มตลิ่ง และเราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันยิ่งวันลอยกระทงนั้น ..ขณะที่ดอกไม้ไฟและพลุระเบิดทั่วท้องฟ้า เด็กแว๊นซ์ เด็กสก๊อยส์บิดมอเตอร์ไซต์ไปลอยกระทงกันนั้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้านกเขาลืมตาดูโลก อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว (อ่านเรื่องที่เคยเล่าแล้วนั้นคลิก) ว่าที่ระเบียงบ้าน มีนกเขามาอาศัยอยู่ด้วย ผู้พี่ลืมตามาดูโลกก่อนในวันลอยกระทง ผมตั้งชื่อให้ทันทีว่า “เขาใหญ่” ส่วนผู้น้องที่ยังคงนอนขดอยู่ในไข่ ผมตั้งชื่อให้ล่วงหน้าเลยว่า “เขาเล็ก” เมื่อทั้งสองพี่น้องลืมตาดูโลกในเวลาที่แตกต่างกันเช่นนี้ ย่อมสร้างความลำบากแก่แม่นกเขาไม่น้อย เนื่องจากจะต้องฟักอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตัวที่อยู่ในไข่ได้รับความอบอุ่นและพร้อมที่จะออกจากไข่ ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเวลาไปหาอาหารเพื่อลูกที่ฟักออกมาแล้วนั้นด้วย เพราะนกเขาไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนม แม้ผมจะพยายามหาข้าวสาร ไปโรยใกล้ๆบ้านของมัน แต่แม่นกเขาเป็นนกที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่แม้แต่จะชายตามอง มันทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า มุ่งหาอาหารตามวิถีของมัน ผมพยายามจะมองหานกเขาผู้สามีที่จะมาช่วยดูแล ก็ไม่เห็น เป็นไปได้ว่า เธอถูกพ่อแม่ฝ่ายชายกีดกัด  จึงถูกขับไล่ออกจากบ้านหลังใหญ่ เธอคงไม่ได้บอกเรื่องนี้ต่อคนรัก เพราะรู้ตัวว่าต่ำต้อยไม่คู่ควร เธออยากจะไปเสียให้ไกลๆ ให้พ้นจากนกใจร้ายเหล่านั้น  อยากจะไปให้พ้นหน้าเขา เขา นกผู้เป็นที่รัก ที่แม้เธอจะเจ็บช้ำน้ำใจเพียงไร ก็ต้องใจอ่อนทุกทีที่ปะหน้ากัน ป่านนี้ เขาคงบินหาเธออย่างท้อแท้ เขาคงยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อนก.. เรื่องนี้จะจบด้วยความแฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างละครเรื่อง น้ำตาลไหม้ หรือไม่นั้น ..ต้องติดตามต่อไป แต่วันนี้ผมอยากจะพาไปเยี่ยมชมบ้านเช่าของโบ เอ้ย ของนกเขาและลูกๆกัน พุ่มพลูด่างเป็นบ้านของ(นก)เขา แอบย่องไปดูภายในบ้านของ(นก)เขากัน..แม่มันไม่อยู่อีกตามเคย เขาใหญ่ ณ วันแรกที่ลืมตาดูโลก ข้างๆ นั่นคือเขาเล็ก ยังนอนคดอยู่ในไข่ ป.ล. ถ้าเขาเล็กลืมตาดูโลกเมื่อไร..จะถ่ายรูปมาให้ดูอีกทีละกันนะ

นกเขา เขาใหญ่

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH