Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

Month: December 2009

เวียงจันทน์เกมส์ อ่านต่อ

เวียงจันทน์เกมส์

เรื่องทั่วไป 14 December 2009

  ช่วงนี้ไม่ได้ไปไหน แต่ไม่เหงา ไม่เซ็ง อาศัยว่ามีถ่ายทอดกีฬาซีเกมส์ ถึงแม้กีฬาแห่งความภาคภูมิใจที่มีคนเล่นข้างตั้งละ 11 คน (แต่เวลาได้เหรียญเขานับแค่เหรียญเดียวเองนะ) ที่ไทยเราครองแชมป์มาตั้ง 8 สมัย มีอันต้องพังพินาศลงในพริบตาตกรอบแรก ด้วยการพ่ายต่อเสือเหลือง 1-2 อย่างน่าเจ็บใจ ..เจ็บใจอย่างไรนะเหรอ 1. เราแค่เสมอก็เข้ารอบ 2. เรายิงเขาได้ก่อน และ 3. เขายิงประตูชัยในเวลาทดเจ็บ นั่นหมายความว่า เราไม่มีสิทธิ์ทวงคืน  ข่าวว่า ซิโก้ ผู้ช่วยโค๊ช แสดงสปิริตลาออกทันที .. อยากจะบอกว่า นั่นไม่ได้เรียกว่าสปิริต เพราะซิโก้ประกาศไว้ตั้งแต่ก่อนซีเกมส์แล้วว่า หลังจบซีเกมส์จะไปทำงานที่เวียดนาม ตกรอบหรือไม่ ก็ไปอยู่ดี ไม่เกี่ยวกับสปิริต ส่วนผู้จัดการทีมที่มาจากประเทศผู้ดี  ไบรอัน ร็อบสัน ขอคุมทีมต่อ ขอโอกาสอีกสักครั้ง!! กีฬามีแพ้ มีชนะ ~ แต่ความพ่ายแพ้ตกรอบแรกในครั้งนี้ ว่ากันว่าเป็นจุดต่ำสุดของฟุตบอลไทยเลยทีเดียว น่าสยดสยองต่อคำพูดของใครบางคนที่ว่า “จะพาไทยไปบอลโลก”  รอให้ถึงปี 2012 ก่อนละกัน โลกแตกหมดเหลือแค่ไทย ลาว พม่า และปาปัวกินี ถึงตอนนั้นไทยคงได้เป็นแชมป์ !!   กีฬาซีเกมส์ไม่ได้มีแค่ฟุตบอล เรายังมีวอลเลย์บอลหญิงที่น่าภาคภูมิใจ ถึงปีนี้ เราเป็นแชมป์ 8 สมัยแล้ว ปีนี้จะไปในฐานะแชมป์เก่า และหวังจะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 9 ให้ได้ ความสนุกของเกมส์วอลเลย์บอลหญิง ก็ไม่ได้น้อยหน้าฟุตบอล สนุก ลุ้น มันส์ สะใจ ตบกันลูกบอลแทบระเบิด เมื่อวานนี้ไทยเจอกับเวียดนาม ว่ากันว่าเวียดนามคือม้ามืดที่พยายามเทียบชั้นมากระทบไหล่ไทย แต่ดูจากฟอร์มเมื่อวานแล้ว ยังห่างครับ เราชนะขาดลอย   กีฬาอีกประเภทที่เชียร์ทีไร มันส์สะใจทุกที ตระกร้อ ทีมที่เป็นคู่แข่งพอฟัดพอเหวี่ยงกับเรามาแต่ไหนแต่ไร มีทีมเดียว นั่นคือ มาเลเซีย เมื่อวานเป็นการแข่งขันประเภททีมชุดชาย ทีมชุด ก็คือ มีชุดเอ ชุดบี และชุดซี ต้องชนะ 2 ใน 3 ชุด ถึงจะชนะ…

เมื่อเสือสิ้นลาย อ่านต่อ

เมื่อเสือสิ้นลาย

เรื่องทั่วไป 8 December 2009

หลังจากข่าวไทเกอร์วูดเตียงหัก ตามมาด้วยประดาหญิงทั้งหลายกว่า 10 คนออกมาแฉว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับไทเกอร์ กาละแมร์หญิงตัวดำปากกล้าด่าผู้ชายจนได้ดีรีบทวีตบอกประดา followers ของตนว่า “ผู้ชายไม่ว่าใครมีเรื่องที่ทำให้ตกม้าตายอยู่แค่ 3 เรื่อง : เงิน อำนาจ และผู้หญิง !!!” ผมรีบตอบกลับในทันที “แต่ผู้หญิงมักตกม้าตายด้วย 2 เรื่อง”  ผมไม่ได้ระบุไปว่า  2 เรื่องคืออะไรบ้าง แต่ก็คงพอเดาๆกันได้ เรื่องผัวๆเมียๆ รักๆเลิกๆนี่ เป็นที่ชอบอกชอบใจกันนัก ไม่ว่าจะชาติไทยหรือชาติไหน จะเห็นว่าข่าวดาราได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทย จากการจัดอันดับ(ของสถาบันใดไม่ได้เปิดเผย)  การที่คนชอบข่าวดารา เพราะติต่างว่าตัวเองรู้จักดาราคนโน้นคนนี้ดี ถามว่ารู้จักจากไหน รู้จักจากทีวี !!! รู้จักแค่นั้น ไปสรุปเขาได้เหรอ ว่าเขาดีหรือไม่ดี? ไทเกอร์วู้ด นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมาเป็นข่าวเพราะประสบอุบัติเหตุขับรถคาดิแล็ค SUVชนหัวท่อดับเพลิง หลังจากทะเลาะกับภรรยาเรื่องที่เขาแอบไปนอกใจ และหลังจากเป็นข่าวก็มีประดาหญิงสาวกว่า 10 นางออกมาแฉกันอย่างออกรสว่ามีความสัมพันธ์กับวู้ดส์อย่างลึกซึ้งทั้งนั้น (อยากรู้ว่า ทั้ง 10นางนั้น มีหน้าตาอย่างไรบ้าง คลิกที่นี่จ๊ะ) รวมรายชื่อกิ๊ก 10 คนของไทเกอร์  วูดส์ 1. ราเชลล์  อูชิเทลล์ คลับโปรโมเตอร์สาวจากลาสเวกัสและนิวยอร์ค 2. จาไมอี  กรับบ์ สาวเสริฟจาก VH1 academy 3. คาลิคา  โมควิน สาวเสริฟจากลาสเวกัส ไนท์คลับเอ็กคลูซีฟ 4. แจมมี  จังเกอร์ สาวเสริฟจากลาสเวกัส 5. มินดี  ลอว์ตัน สาวเสริฟจากออร์ลันโด 6. โคลี่  ลิสต์ นางแบบจากNYC 7. ฮอลลี่  แซมสัน เอมมานูเอล ดาราภาพยนตร์วาบหวิว 8.-10. ไม่เปิดเผยชื่อ ท่าทางเจ้าสือดำวู้ด ชื่นชอบหญิงสาวที่มีอาชีพเป็นพนักงานเสริฟเป็นพิเศษ เพราะ 4 ใน 10 คนของวู้ดนั้น มีอาชีพเป็นสาวเสริฟ นี่ถ้าวู้ดมาตีกอล์ฟที่เมืองไทยสัก 1-2 เดือน ผมว่าคงมีรายชื่อพนักงานเสริฟจากร้านลาบยโสพ่วงท้ายไปด้วยแน่ๆ ข่าวว่าตอนนี้ภรรยาสุดเลิฟของวู้ดได้ขนของออกจากคฤหาสน์วินเดอร์แมร์ ที่มีมูลค่า 91 ล้านบาทแล้ว…

ไทเกอร์วูด
อ่านต่อ

ความเป็นพ่อ

เรื่องสั้นสั้น 2 December 20098 June 2019

เขายืนสงบนิ่งในซอกตึก ปล่อยให้ตำรวจเดินผ่านไป หัวใจที่เต้นตูมตามค่อยๆสงบนิ่ง และเป็นปกติในที่สุด

แม้จะผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็ยังไม่เคยเปลี่ยน บางคนลงมือทำความชั่วเพราะโหยหาความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกตื่นเต้น หวาดกลัว มันช่วยให้เลือดสูบฉีดซ่านไปทั่วตัว แต่สำหรับเขาไม่ใช่ เขาทำเพราะจำเป็นจริงๆ

พ่อ
อ่านต่อ

อยุธยา..เมืองเก่าของเราแต่ก่อน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 27 January 200923 September 2016

วันตรุษจีนปีนี้ ถือฤกษ์ถือชัยไปไหว้พระที่อยุธยา ตั้งใจจะไปหลายครั้งแล้วครับ พระราชวังบางปะอิน แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้แคล้วคลาดไปหลายหน ตรุษจีนนี้ ถือฤกษ์ดี ตั้งใจแน่วแน่..ต้องไปให้ได้ ออกเดินทางกันในเวลา 10 นาฬิกาของวันอาทิตย์ ขึ้นทางด่วนใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงก็ถึงเป้าหมายครับ อากาศค่อนข้างร้อนครับ..เวลาจะถ่ายรูปที หน้าตาเลยยดูเหยเก พื้นที่พระราชวังบางปะอิน ร้อยกว่าไร่ครับ ถ้าขี้เกียจเดิน ที่นี่มีรถกอล์ฟให้เช่า ชั่วโมงแรก 250 ชั่วต่อไป 100 บาท ใช้บริการ 2 ชั่วโมงพอดี..ขับสนุกดีครับ นี่สไตล์แบบจีน แดงทั้งหลัง.. ตรงนี้เรียกว่า วิทูรทัศนา..ข้างบนค่อนข้างสูง ลองขึ้นดูแล้ว ออกจากพระราชวังบางปะอิน ติดๆกันนั้นเองมีวัดน่าไปอีกวันหนึ่ง ชื่อวัดนิเวศธรรมประวัติ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องพระอุโบสถที่สวยงาม แปลกตา ภายนอกดูเกือบเหมือนโบสถ์คริสต์ การเดินทางถ้าออกจากพระราชวังบางปะอิน ต้องนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำครับ แบบนี้.. ออกจากวัดนี้ ต่อไปที่คนที่ไปอยุธยามักจะไม่พลาดคือ วัดมหาธาตุ วัดโบราณที่เหลือแค่ซากครับ เอาละ..เที่ยวกับแดดๆแบบนี้ ทำเอาปวดหัวจี้ดเหมือนกัน ต้องกระดกพารากันไปคนละ 2 เม็ด ทริปแบบนี้เหมาะกับหน้าหนาว หรือไม่ก็หน้าฝนที่แดดไม่แรงนัก .. ไม่เช่นนั้นอาจป่วยได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่..ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่งดงามและอิ่มเอิบด้วยบุญครับ ~ สาธุ

พระนครศรีอยุธยา

ปมาโท มจฺจุโน ปทํ

ไดอารี่ 10 March 2011

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาถ้าคุณประมาท ผมได้แผลขนาดใหญ่ที่แขนมาเพราะความประมาทครับ ขณะรีดผ้าด้วยเตารีดอบไอน้ำ รีดไปพลาง ดูทีวีไปพลาง เตารีดอบไอน้ำถ้าราคาแพงหน่อยไอน้ำจะพวยพุ่งได้ตลอดเวลา แต่ถ้าราคาถูกก็จะได้ไอน้ำที่เดี๋ยวพุ่ง เดี๋ยวหยุด ที่ผมใช้ ณ ปัจจุบันเป็นแบบอันหลังครับ เดี๋ยวพุ่ง เดี๋ยวหยุด จังหวะที่มันหยุดผมก็ดูทีวี!! ทีนี้อยู่ๆมันก็มาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า พุ่งใส่แขนผมเต็มเหนี่ยว มีผลทำให้หนังเตลิดเปิดเปิงหลุดหลุ่ย จุดที่โดนหนักๆนอกจากหนังไม่เหลือแล้วเนื้อยังตามไปด้วย!! เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า “ความประมาท..แม้เพียงนิดเดียวก็เกิดอันตรายใหญ่หลวงได้!!”

ประมาท เตารีดไอน้ำ

สาระแน..อำเป้ง

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

เข้าเรื่องแบบไม่ต้องอ้อมเลยละกัน วานนี้ผมไปดูหนัง สาระแนห้าวเป้งมา!! โดยส่วนตัวชื่นชอบรายการนี้ในจอทีวีมานานมแล้ว ตั้งแต่อยู่ช่องสามวันเสาร์แล้วระเห็ดไปอยู่ช่อง ไอทีวี เปลี่ยนชื่อเป็นสาระแนจังดึก อยู่ไอทีวีก็ไม่นิ่งสักที เดี๋ยวโผล่วันอังคาร เดี๋ยวโผล่วันพุธ เดี๋ยว 4 ทุ่ม เดี๋ยว 5 ทุ่ม จนไอทีวีมีอันต้องจบลง ก็เร่ร่อนมาอยู่ช่อง 5 ในเวลาเกือบเที่ยงคืน และล่าสุดก็ได้กลับบ้านเก่าช่อง 3 ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนของสาระแนคงหายไปเยอะเหมือนกัน จากการร่อนเร่อยู่ที่จุติไม่ได้เช่นนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็สามารถติดตามชมได้เป็นระยะๆ  แต่ก็ยังชื่นชอบรายการนี้เหมือนกับที่ชื่นชอบรายการชิงร้อยชิงล้าน!! ณ วันนี้สาระแนกลายเป็นหนังจอใหญ่แล้ว มีหรือที่ผมจะพลาด!! เย็นของวันแรงงานแห่งชาติ ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ คนเยอะมากกกกกก แต่เหมือนมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน เข้าไปจองตั๋วปุ๊บได้รอบที่ไม่ต้องนั่งรอเวลา และได้ที่นั่งแถว D แถวค่อนข้างดี ในขณะที่แถวอื่นๆ นับตั้งแต่สองแถวแรกจากหน้าจอเต็มหมด ด้วยความแปลกใจว่าทำไมที่นั่งตรงนี้ถึงว่าง มีผีสิง วิญญาณอาฆาตที่นั่งนั่นอยู่หรือเปล่า จึงถามคนขาย เจ้าหล่อนบอกว่า มีคนโทรมาจองล่วงหน้า แต่ไม่มา..โอ้ ~ แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ข้างๆที่ผมนั่ง มีผู้หญิงคนนึ่งมาดูหนังคนเดียว นั่งเงียบๆ เจียมๆอยู่ ผมก็เข้าใจนะ ความรู้สึกของคนมาดูหนังคนเดียว ต้องเจียมๆ เงียบๆหน่อย ถึงหนังจะสนุกสักปานใดก็ตาม แต่ที่ผมเข้าใจมาทั้งหมดนั้น ผิดถนัด ตลอดระยะเวลาที่ดูหนัง คุณหล่อนรับโทรศัพท์ 2 ครั้ง!! ดังด้วย แค่นั้นยังไม่พอ เสียงหัวเราะของคุณเธอ โคตรทุเรศศศศศศศศศศ…ไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่ไหนหัวเราะได้ทุเรศปานนี้ และที่สำคัญคุณเธอมักจะหัวเราะในมุกที่คนอื่นไม่หัวเราะ ตอนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาขำกันทั้งโรง คุณเธอนั่งเงียบ แต่พอมุกเสี่ยวๆ มุกที่ไม่ควร, ไม่น่า, ไม่ต้อง และไม่จำเป็นต้องขำ เธอขำ~ ย้ำอีกครั้งว่า เสียงหัวเราะเธอ อุบาทว์มากกกกก แต่ที่อุบาทว์กว่าเสียงหัวเราะของเธอคือ การรับโทรศัพท์ในโรงหนัง เธอแย่มากกก ขอประณามเธอเลย ยัยคนที่นั่งแถว D14 เรื่องสาระแนห้าวเป้ง รอบ 17.40 น. วันที่ 1 พ.ค. 2552 นั่งใกล้คนไม่ดี พลอยทำให้บรรยากาศการดูหนังมีประสิทธิภาพลดลง 30 เปอร์เซ็นต์!! บ่นซะจนลืมเลยว่า…

ดูบอล..แล้วย้อนมาดูตัว

เรื่องทั่วไป 19 June 2010

กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของคนกทม.ในขณะนี้คือดูฟุตบอลโลก คนที่ดูก็มีเป้าหมายแตกต่างกันไป บางคน..ดูเพราะชอบกีฬาฟุตบอล บางคน..ดูเพราะชื่นชอบทีมใดทีมหนึ่งเป็นพิเศษ บางคน..ดูเพราะชื่นชอบนักเตะคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ บางคน..ดูเพราะมีได้มีเสียกับทุกคู่ที่เตะ!! ผมจัดอยู่ในจำพวกแรกและกึ่งๆจะเป็นจำพวกสองนิดหน่อย คือมีทีมที่เชียร์อยู่ในใจด้วย การมีทีมเชียร์อยู่ในใจทำให้การดูฟุตบอลสนุกขึ้นมาก เหมือนดูละคร ยิ่งอินในบทยิ่งสนุก มันต่างจากละครตรงที่ว่า ตอนจบละครมีบทสำเร็จรูป พระเอกกับนางเอกรักกัน.. ผู้ร้ายตาย.. แต่ฟุตบอลมีฉากจบที่หลากหลาย บางครั้งพระเอก(ทีมที่เราเชียร์)อาจจะตายก็ได้ บางครั้งก็จบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง.. ดูฟุตบอลโลกครั้งนี้ทำให้เห็นอะไรหลายๆอย่างในเกมส์ฟุตบอล 1. ฟุตบอลไม่ใช่เกมส์สำหรับคนเก่ง แต่ต้องโกงเป็น ถึงจะชนะ!! หลายครั้งที่นักเตะแกล้งล้ม แกล้งเจ็บเกินจริง(มากๆ) เพียงเพื่อจะได้ฟาล์ว หรือทำให้คู่แข่งถูกใบเหลือหรือใบแดง ยิ่งดู ยิ่งคล้ายละครไปทุกที เพราะนักเตะ(บางคน)เล่นละครตบตากรรมการและคนทั้งโลกอย่างสมบทบาท ถ้าเป็นแบบนี้กันมากๆ ฟุตบอลไม่เท่และไม่แฟร์เลย 2. เป็นกันเกือบทุกทีมเหมือนมีการสอนเป็นคอร์สเลย สำหรับการถ่วงเวลาหลายๆรูปแบบของทีมที่ มีแต้มนำ ไม่ว่าจะเป็นผู้รักษาประตูที่โอบกอดลูกฟุตบอลนานเป็นพิเศษเมื่อได้ลูก นักเตะที่เดินราวหมดแรงเมื่อต้องไปทุ่มหรือเตะมุม ยิ่งถ้ามีการเปลี่ยนตัวก็จะเดินราวกับว่าสนามฟุตบอลกว้างเป็นหลายร้อยไมล์ กว่าจะเดินมาถึงจุดเปลี่ยนตัวได้ 3. ตำหนิมาสองข้อ แต่ข้อสามขอชมว่านักฟุตบอลเกือบทุกคนมีคุณธรรมเรื่องความอดทนและความไม่ย่อท้อสูงมาก การปะทะกันมีตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการว่าขุ่นเขืองรุนแรง ในยามที่คนเหนื่อยมากๆ การปะทะกันนิดๆหน่อยก็ย่อมเกิดเรื่องได้ง่ายอยู่แล้ว แต่นี่เหนื่อยมาก และปะทะกันก็รุนแรงมาก แต่นักเตะก็แค่ก่นด่าคนเดียวหรือวิ่งไปบ่นไป เรื่องความไม่ย่อท้อก็ต้องยกให้ หลายครั้งที่นักเตะช่วยกันต่อบอลทำเกมส์อย่างสวยหรูไปจนถึงหน้าประตู แต่กลับถูกนักเตะบางคนทำลูกเสียเองไปง่ายๆ อย่างไม่น่าให้อภัย แต่ทุกคนก็ให้อภัยและไม่มัวมาบ่นเพ้อถึงลูกที่เสีย พวกเขารีบวิ่งลงมาช่วยกันป้องกันลูกที่เสียนั้นอย่างรวดเร็ว ลืมเรื่องความเจ็บปวดนั้นได้อย่างเฉียบพลัน และมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ได้ ..ตัวอย่างอันนี้น่ายกย่องและน่าเอาไปคิดนะครับ นอกเกมส์ฟุตบอลหลายคนล้มแค่ครั้งเดียวก็ลุกไม่ได้อีกเลย ถ้านักเะตะไม่ลุกอีกเลยหลังจากล้มทีมก็เสียหายได้ แต่พวกเขาล้มแล้วลุก ล้มแล้วลุก หลายๆครั้ง จนบางครั้งทีมที่เป็นต่อก็กลับมาชนะได้อย่างไม่น่าเชื่ออย่างในบอลโลกปีนี้ ทีมที่อ่อนกว่าชนะทีมใหญ่ๆได้ เพราะพวกเขาล้มแล้วลุก ลุกแล้วลืม ลืมแล้วนับหนึ่งใหม่ มันต้องได้ประตูจนได้สิน่า

บอล

วันนี้ของวัยเยาว์

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 January 2010

ช่วงนี้มีแต่บันทึกประจำวัน ไม่มีเรื่องสั้น หรือบทความบ่นว่าอะไร(อย่างที่เคย)สักเท่าไร ส่วนหนึ่งอาจเกิดเพราะความตั้งใจจะเขียนให้ได้ทุกวัน และอารมณ์ที่จะเขียนเรื่องสั้น หรือบทความนั้นมิได้เกิดขึ้นและไม่สามารถสร้างมันได้ทุกวัน ยกเว้นแต่การเขียนบันทึกแบบไดอารี่ที่มีให้เขียนให้พูดได้ทุกวัน หลังจากที่ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายหลังเลิกงาน และจะงดอาหารคาวในมื้อค่ำ เมื่อวานเป็นวันที่ 3 ของการอดมื้อค่ำและวันที่ 2 ของการวิ่ง .. วิ่งยังเหนื่อยเหมือนเดิม ยังไม่เข้าที่เท่าไร ส่วนมื้อค่ำก็ยังหิว และรู้สึกว่าจะหิวกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ กินแอปเปิ้ลไป 2 ลูก ช่วยได้นิดหน่อย พยายามจะดูทีวีเพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องกิน แต่คิดผิดอย่างถนัด ทีวีไทยนอกจากข่าวแล้ว มีแต่เรื่องกิน กิน กิน และกิน โดยเฉพาะละครไทย โอยย..สารพัดจะกิน พอโฆษณา ก็พบว่าโฆษณาถึงของกินเยอะกว่าอย่างอื่น แค่โฆษณามาม่าตัวเดียว ตบะผมก็เกือบแตกแล้ว เหมือนได้กลิ่นมาม่าโชยออกมาจากทีวี ไม่ไหวแล้ว..ปิด ~ ช่วง 2 – 3 วันมานี้ นอนเร็วกว่าที่เคย 1-2 ชั่วโมง ปกติไม่เที่ยงคืนไม่เข้านอน แต่เมื่อคืนแค่ 4 ทุ่ม ตาผมก็แทบปิดแล้ว อาจจะเหนื่อยจากการออกกำลังกาย กำลังคิดว่าควรจะตกแต่งห้องใหม่ให้น่าอยู่ ถึงไม่ใช่ห้องของตัวเอง(ห้องเช่า)ก็เถอะ เราก็สามารถตกแต่งและทำให้มันน่าอยู่ได้นี่นา .. บางทีบรรยากาศในห้องอาจทำใ้ห้เกิดจินตนาการเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆใหม่ๆ ก็ได้  🙂 พรุ่งนี้จะวันเด็กแล้ว ความจำในวัยเด็กเริ่มเลือนลาง วันนี้ของเราที่อายุ 7 ขวบ กำลังทำ คิด หรือพูดอะไร อยู่ที่ไหนนะ บางทีเราในตอนนั้นอาจคิด พูด หรือทำไม่แตกต่างจากตอนนี้ ต่างแต่จุดประสงค์ที่ทำ แต่การกระทำเหมือนเดิม การกระทำในตอนเด็ก อาจจะซื่อๆใสๆ ไร้จริต ทำเพื่อความสนุก ความซน ความอยากรู้อยากเห็น แต่การกระทำในตอนโต กระทำเพื่อจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เน้นผลประโยชน์เป็นหลัก เกมส์ยอดฮิตที่เด็กๆทุกยุคต้องเคยเ่ล่น คือ เกมส์ซ่อนหา วิธีเล่นก็ง่ายๆ ต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย 3 คนขึ้นไป ให้คนหนึ่งเป็นคนหา คนที่เหลือเป็นคนไปซ่อน ถ้าหาเจอจนครบคนที่ถูกเจอคนแรกก็จะเป็นผู้หาต่อไป สลับวนเวียนกันไปเรื่อยๆ นั่นคือวิธีการเล่นของเด็ก พอโตขึ้น เราก็จะพบผู้ใหญ่เล่นเกมส์ซ่อนหา พื้นที่ซ่อนอาจไม่ใช่แค่สนามเด็กเล่น แต่เป็นการซ่อนทั่วโลก ไม่จำกัดเวลาในการหา…

อ่านต่อ

พระเจ้าสร้างคนไทย(จริงหรือ)~

เรื่องทั่วไป 16 May 201114 May 2016

ก็ไม่รู้ว่าใครแต่งเรื่องนี้อ่ะนะครับ แต่หลายๆเรื่องในปัจจุบันที่เกิดในบ้านเมืองเรา เห็นแล้วก็ได้แต่ เฮ้อ ..ๆ ๆ  ๆ  บ้านเมืองอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่เคยไป แต่เมืองไทย มีข่าว ..ขโมยสายไฟ ขโมยเสาธง ขโมยพระพุทธรูป ขโมยล้อรถ ขโมย ๆ ๆ ๆ ..ๆ  มีข่าวแปลกๆ ข่าวห่าเหวอะไรมากมายในทุกวงการ เมืองไทยที่เมื่อก่อนเคยทัดเทียมกับญี่ปุ่น ก็ถูกญี่ปุ่นทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น ปัจจุบันกำลังจะถูกเวียดนามหรือลาวแซงหน้า และล่าสุดถูกเขมรตีหัว!! เมืองไทยเราโชคดี..แต่พวกเราๆเองไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี พออ่านเมล์ฟอร์เวิร์ด(ด้านล่างนี้) ก็เลยเกิดอาการเห็นด้วย ฤๅพระเจ้าสร้างเรามาแบบนั้นจริงๆ ..ลองอ่านดูครับ (ไม่รู้ใครแต่งแต่โดน) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ ทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกาแล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล แต่ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้ด้วย เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาลเพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้ด้วย ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ทั้งหมด…..จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน คราวนี้พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีนทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาดข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้าคิดว่าประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆจะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้ เมื่อคิดได้เพื่อเป็นการป้องกัน ประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้างคนไทยขึ้นมา!!

คนไทย พระเจ้า

อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ

เรื่องทั่วไป 9 May 2009

วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของพวกเราชาวพุทธอย่างยิ่ง ด้วยว่าเป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธองค์ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน. บางทีก็มีน้อยใจคนไทยนิดหน่อย ตรงที่ว่าไม่ค่อยจำได้เลยว่าวันวิสาขนี้มีความสำคัญอย่างไร ที่ยิ่งไปกว่านั้นบางคนจำไม่ค่อยได้เลยว่าวันนี้ของทุกปีตรงกับวันไหน..ทีวันวาเลนไทน์ละจำแม๊น แม่น ความสำคัญของวันนี้ที่เราๆชาวพุทธควรยึดถือปฏิบัติ คือ การบำเพ็ญทาน ศีล และภาวนา อันเป็นหัวใจของพุทธศาสนิกชน การแค่จำได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร ยังไม่พอ ต้องปฏิบัติและยึดมั่นในคำสอนด้วย ถึงจะได้ชื่อว่าพุทธศาสนิกตัวจริง..   เมื่อคืนไปเวียนเทียนที่วัดชลประทานฯ จ.นนทบุรี มาครับ วัดที่หลวงพ่อปัญญานันทะ ท่านอยู่นะครับ คนเยอะมาก เลยต้องยืนฟังเทศน์ด้านนอกพระอุโบสถ  เห็นคนมาเวียนเทียนแล้วก็ชื่นใจ มีตั้งแต่เด็กเล็กๆ คนหนุ่มสาว คนวัยกลางคน คนแก่ จนกระทั่งคนพิการเดินไม่ได้ คนพิการแขนขาดทั้งสองข้างก็ยังมา เห็นแล้วก็อิ่มเอมใจ แอบอนุโมทนาบุญกับเขาในใจ หลังจากเทศน์จบก็จะมีพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เดินเวียนสามรอบ ขณะเดินเวียนเทียนให้สวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ (อิติปิโส) ไปด้วย ที่นี่ จะไม่มีพระนำสวด ดังนั้น เราต้องเดินสวดไปเองเท่าที่จำได้ ผมจำได้แม่นสวดได้เองโดยไม่ต้องเปิดหนังสือ บทพระพุทธคุณ ผ่านไปสบาย บทพระธรรมคุณก็ได้ แต่พอมาถึงบทพระสังฆคุณ ตรงท่อนสุดท้าย หลังจาก อัญชลีกรณีโย แล้วอะไรต่อ สวดไม่ได้..ลืม เป็นแบบนี้มาสองครั้งแล้ว ครั้งแรกที่อัมพวา ไปเที่ยวแล้วเวียนเทียนที่นั่น สวดๆไปก็ติดตรงนี้เหมือนกัน ต้องไปถามพระท่านเอา ครั้งนี้เป็นอีกแล้ว..เดินๆคิดไปจนครบสองรอบ แต่พอรอบสามถึงคิดได้.. ท่อนที่ลืมทุกครั้งนั่นคือ ท่อนนี้ครับ อะนุตตะรัง ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ ท่อนสุดท้ายตอนใกล้จบ  วันนี้ก็เลยเอาบทสรรเสริญพระพุทธคุณมาลงซะเลย จะได้จำแม่นๆ ใครจะลองสวดก่อนนอนก็ดีนะครับ จะได้ฝันดี และมีแต่สิ่งดีๆในชีวิต บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ. บทสรรเสริญ พระธรรมคุณ สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง…

อ่านต่อ

อิ่มท้อง อิ่มบรรยากาศ ณ เรือนรับรอง

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 31 July 200829 June 2016

ที่จริงจะเล่าหลายครั้งแล้ว ปรากฏว่าภาพประกอบอยู่ใน memory card แล้วเจ้าตัว card reader ดันเสีย ก็เลยไม่สามารถเอารูปในมือถือมาประกอบการเล่าได้ (ถ้าไม่มีภาพแล้ว ดูขาดความน่าเชื่อถือยังไงพิกล) เรื่องที่จะเล่า ก็คือ อยากจะแนะนำอาหารให้ไปชิมกันซะหน่อยครับ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดผมนี่แหละ อยากจะได้บรรยากาศดีๆ ไม่เอิกเกริก ก็จึงได้สถานที่แห่งหนึ่งครับ ตั้งอยู่ บนดาดฟ้าชั้น 12 พิศวิทย์ทาวเวอร์ ซ.พหลโยธิน 24 จากปากซอยพหลโยธิน 24 (ใกล้แดนเนรมิต) จะมีป้ายบอกทางมาเป็นระยะๆ ขับรถตามป้ายเข้ามาเรื่อยๆ พอถึงพิศวิทย์ทาวเวอร์ก็ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 12 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าเลย ร้านนี้ชื่อร้านเรือนรับรอง บรรยากาศที่มองจากชั้นบนดาดฟ้า ตรงกลางมีสระน้ำ รอบๆมีต้นไม้ และโต๊ะอาหาร (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป) อีกมุมหนึ่ง ดูภาพวิวรอบๆ พอแล้ว ทีนี้มาดูอาหารซึ่งเป็นไฮไลต์กัน วันนั้นสั่งไปหลายอย่างทีเดียว  แต่ละอย่างผมจำชื่อไม่ได้ แต่ที่จำได้คือรสชาติ รสชาติเยี่ยมเลยครับ ที่เห็นเป็นรูปลูกมะพร้าว นั่นคือห่อหมกยอดมะพร้าว ภาพล่างขวาปลาหมึกคลุกด้วยไข่เค็มทอด บนขวาไก่ทอด ที่นี่ทอดได้กำลังดีทีเดียว เนื้อนุ่ม ไม่แข็งไป ~ รวมๆแล้ว ถือว่าไม่เลวทีเดียว จากคะแนนเต็ม 10  บรรยากาศร้านให้ 7  รสชาติอาหารให้ 8 บรรยากาศบนดาดฟ้าดีทีเดียวครับ เป็นโอเพ่นแอร์ ~ ว่างๆลองไปชิมดูครับ

เรือนรับรอง

รับปริญญา..มหานคร

เรื่องทั่วไป 15 November 2009

วันเสาร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.52) มีเพื่อนที่ประสบความสำเร็จในการศึกษาอีกขั้นหนึ่ง นั่นคือ สำเร็จการศึกษาในชั้นปริญญาโท เพื่อนคนนั้นคือ ตุ๋อึ่ง หรือวนสัณฑ์ (สายัณห์) ศรีสร้อย ถ้านับเพื่อนที่มีอยู่(อันน้อยนิด)ของผมที่สำเร็จการศึกษาถึงขั้นปริญญาโทนั่นน้อยมาก ดังนั้น เมื่อเพื่อนคนหนึ่งประสบสำเร็จ ผมจึงไม่ลังเลที่จะไปร่วมแสดงความยินดี และถือโอกาสได้พบปะเพื่อนๆในกลุ่มอีกด้วย (ลองทายสิว่า..มือที่ปิดตา คือมือใคร) สำหรับตุ๋อึ่ง ผมไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอคือวันที่ตุ๋อึ่งมาประกันตัวผม เปล่าๆ ผมไม่ได้ติดคุก ต้องเรียกว่ามาค้ำประกันเพื่อเข้าทำงานให้ผม ตุ๋อึ่งเป็นเพื่อนที่มีน้ำใจเสมอ ไม่ว่าเพื่อนจะมีอะไรและหนักหนาแค่ไหน เอ่ยปากเมื่อไร ตุ๋อึ่งก็จะยื่นมือช่วยอย่างเต็มใจ ผมเฝ้ามองความสำเร็จของตุ๋อึ่งอย่างชื่นชม ตั้งแต่เขาเริ่มทำงานจนกระทั่งเปลี่ยนงานสู่ตำแหน่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นคนที่ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเองอย่างน่าเอาเยี่ยงอย่าง ขณะที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่ ก็ไม่วายหาโอกาสไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ขณะที่ผมยังจมอยู่กับความขี้เกียจและความกลัวว่า จะเรียนไม่จบ? ไม่มีตังค์เรียน..หรืออีกเหตุผลร้อยแปด แต่จริงๆแล้วก้อคือขี้เกียจนั่นเอง..   มหาวิทยาลัยมหานคร เขารับปริญญากันที่ไบเทคบางนาครับ ข้อดีของการรับที่นี่คือ สถานที่กว้างขวาง ไม่ร้อนแดด ไม่กลัวฝนเปียก..(วันนั้นฝนก็ตกด้วย)  หลังรับปริญญาเสร็จมีการไปกินเลี้ยงที่ร้าน เลจ ฮิวจ์ อยู่ในถนนเกษตร นวมินทร์ ตรงข้ามกับร้าน the pool หรือถ้าให้ง่ายก็อยู่ใกล้ๆร้านกุ้งเต้น มีป้ายใหญ่ๆ สูงๆ เป็นตระหง่าน ร้านเลจ ฮิวจ์ เป็นร้านกลางแจ้งขนาดใหญ่ กว้างมาก อยู่บนคลอง ตัวโต๊ะอาหารตั้งอยู่บนแพที่ผูกติดๆกัน มีคาราโอเกะด้วย(ถ้าสนใจ)  บรรยากาศดี ลมเย็นดี อาหารก็ถูก. งานนี้ตุ๋อึ่ง(ผู้รับปริญญา) เป็นผู้เลี้ยง พวกเราๆไปแสดงความยินดีกลับได้กินฟรีครับ (แฮะๆ) อ้อ..ไม่ได้ไปแค่สี่ห้าคนตามที่ปรากฏในภาพนะครับ ไปกันสิบกว่าคนครับ งานนี้จ่ายไปเท่าไรไม่รู้ เพราะผมกลับก่อนตั้งแต่ทุ่มครึ่งแย้วว..

อ่านต่อ

สำราญมากเว่อร์…เมื่อได้มาเที่ยวที่หาดเจ้าสำราญ

ท่องเที่ยว 5 August 201814 June 2019

มีเวลาพักแค่เพียงน้อยนิดแต่อยากเที่ยวทะเล เล่นน้ำให้ชื่นใจ สูดกลิ่นอายธรรมชาติ โอบล้อมด้วยหาดทราย สายลม น้ำทะเล ไม่ต้องเสียเวลาหาโปรแกรมเที่ยวให้เหนื่อย แนะนำให้มาที่หาดเจ้าสำราญ เพราะให้ความสำราญเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจใน 1 วันมากจริงๆ แต่ถ้าใครมาเที่ยวแล้วเกิดอาการอินบรรยากาศดีๆ และอาหารอร่อยๆ จนต้องค้างคืนเพื่อดื่มด่ำความสุขต่อไปก็สามารถ กดคลิก จองที่พักหาดเจ้าสำราญกับ Traveloka ก่อนเดินทางได้เลย รับรองว่าเที่ยวได้เพลินๆ เรื่องที่พักไม่ต้องกังวลอีกต่อไป “หาดเจ้าสำราญ” ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นชายหาดสีนวลสะอาดตาความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร โดยหาดเจ้าสำราญเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ มาแต่สมัยโบราณ โดดเด่นชวนประทับใจด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย มีสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ทั้ง ปูเสฉวน หอย แมงกะพรุน อีกด้านหนึ่งติดภูเขา มีบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยรอบโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย อากาศช่วงค่ำเย็นสบาย ได้กลิ่นไอทะเลช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายพร้อมที่พักหลากหลายสไตล์ให้เลือกมากมาย เริ่มด้วยการเดินทาง สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพ บอกเลยว่าสะดวกมากๆ เพราะมีวิธีการเดินทางให้เลือกถึง 4 วิธี ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เข้าสู่อำเภอปากท่อ จากนั้นแยกเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี และจากอำเภอเมืองเพชรบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3177 ผ่านสถาบันราชภัฎเพชรบุรี ไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร จะผ่านสถานีตำรวจภูธรหาดเจ้าสำราญ เมื่อถึงสี่แยกให้ตรงไปก็จะถึงหาดเจ้าสำราญ ส่วนรถโดยสารประจำทางแนะนำให้ไปใช้บริการจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี สำหรับใครที่ชอบควรรวดเร็วสามารถเลือกใช้บริการรถตู้ได้เช่นกัน โดยรถตู้ สายอนุสาวรีย์ชัย – เพชรบุรี วิ่งตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 หรืออยากเดินทางแบบชิลล์ๆ ก็ขึ้นรถไฟได้จ้า มีรถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) และสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ให้บริการหลายขบวน ทั้งรถธรรมดา รถด่วน รถเร็ว และรถด่วนพิเศษ นั่งรถกันมาอาจจะเมื่อยล้าบ้างอะไรบ้าง แต่ทันทีที่มาถึงหาดสำราญ ความเหน็ดเหนื่อยน่าจะลดน้อยถอยลงกว่าครึ่ง เพราะมีความสวยงามของหาดมาดึงดูดความประทับใจไปแทน ด้วยบรรยากาศสงบเงียบ ร่มรื่น ชวนเย็นตาและสบายอารมณ์ แถมชายหาดแห่งนี้ยังมีความพิเศษเนื่องจากทรายถูกพัดถมขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีทรายที่ละเอียดมากในส่วนของต้นหาด เหมาะแก่การถอดรองเท้าเดินทอดน่องย่ำทรายพร้อมเดินรับลมชมวิวเป็นที่สุด นอกจากนี้ด้วยธรรมชาติที่งดงามอันมีทิวสนน้อยใหญ่ตลอดแนวหาดจึงเหมาะแก่การมาปูเสื่อนั่งรับลมฟังเสียงคลื่นชิลล์ๆ หรือจะสั่งอาหารทะเลอร่อยๆ บริเวณหาดเจ้าสำราญก็มีร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงของกินเล่น…

หาดเจ้าสำราญ

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH