Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

Month: December 2016

อ่านต่อ

Recon Run Challenge

วิ่ง 15 December 201616 June 2019

จากกิจกรรมการวิ่งของพี่ตูน บอดี้สแลม 10 วัน 400 กิโลเมตร เพื่อนำรายได้ไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล หลายคนได้ร่วมบริจาคกับกิจกรรมครั้งนี้ และอีกหลายๆคนเกิดแรงบันดาลใจในการออกไปวิ่ง “ก้าวเล็กๆ ที่ออกไปวิ่ง มาจากชัยชนะของจิตใจที่ยิ่งใหญ่” เมื่อต้นปี 59 มีการสร้างเพจเล็กๆ เพจหนึ่ง ชื่อ Recon Running เป็นการรวมกลุ่มเพื่อจัดวิ่งออกกำลังกาย และในฐานะเพจของคนส่งเสริมการวิ่ง จึงเกิดกิจกรรมชาเลนท์ตัวเอง 10 วัน 100 กิโลเมตร ทั้งนี้ กิจกรรมนี้ไม่มีการบริจาค ไม่มีเส้นทาง มีแต่ระยะทางที่ท้าทาย ว่าต้องทำให้ได้ภายใน 10 วัน 100 กิโลเมตร ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 3 – 12 ธันวาคม 2559 สิ่งที่ต้องต่อสู้และเอาชนะให้ได้ คือการต้องตื่นเช้าเพื่อมาวิ่ง ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 05.30 น. หลังจากเสร็จธุระส่วนตัวได้ออกสตาร์ทวิ่งจริงในเวลาประมาณ 05.45 น. อากาศกำลังดี เย็น สบาย 3 วันแรกแรงขายังดีอยู่ ทำเวลาได้ดี วิ่งจบแบบไม่เจ็บและไม่เหนื่อยจนเกินไป แต่พอเข้าวันที่ 4 เย็นวันก่อนนั้นไปตีแบด ทำให้เกิดอาการล้าสะสมหนักกว่าเดิม มีผลให้เช้าวันที่ 4 วิ่งได้ไม่ดีนัก จบที่ 6 กิโลเมตรเท่านั้น  ต้องมาวิ่งในตอนเย็นให้ครบ 10 กิโลเมตร วันที่ 5 ตรงกับวันพุธ แน่นอนทุกวันพุธมีนัดตีแบดในตอนเย็น เช้าวันนั้นจึงต้องตุนไว้ก่อนให้ได้ 10 กิโลเมตร และทำได้ไม่ยากนัก สิ่งที่น่ากลัวคือเช้าในวันต่อมา เพราะจะล้าสะสมจากวิ่งตอนเช้าและตีแบดในตอนเย็น วันที่ 6 เช้าวันนั้นก็เป็นไปตามคาด ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เพราะมีอาการท้องเสียทำให้เพลียหนักไปกว่าเดิม เช้าวันนั้นพลาด แต่ตอนเย็นกลับมาวิ่งได้ 10 กิโลเมตร วันที่  7 ตรงกับเช้าวันศุกร์ วิ่งได้แค่ 6 กิโลเมตร ถึงวันนี้ระยะทางรวม 60 กิโลเมตร วันที่  8  ตรงกับวันเสาร์เช้าวิ่ง…

Recon ReconRunChallenge วิ่ง

สามเซ็งซี้ดส์

ไดอารี่ 21 March 2011

วันอาทิตย์ประมาณบ่าย 3 โมงมีนัดกับช่างสวิส ช่างสวิสเป็นช่าง buit in ที่มีฝีมือและอัธยาศัยดีคนหนึ่ง นี่เป็นครั้งที่สองที่ใช้บริการจากแก ครั้งแรกใช้ให้ย้ายตู้ให้ เป็นการย้ายตู้ที่ไม่ธรรมดา เพราะต้องรื้อและต้องไปประกอบขึ้นใหม่ ครั้งนี้เป็นงานใหญ่กว่าครั้งแรก เพราะผมจะว่าจ้างให้แกรื้อและทาสีคอนโดใหม่!! คอนโดถูกปลวกยึดมาปีกว่า วันนี้ถึงเวลาที่ผมต้องขอคืนพื้นที่แล้ว นอกจากจะเรียกใช้บริการจากช่างสวิสแล้วผมได้เรียกบริษัทกำจัดปลวกมาอีกชุดหนึ่ง งานนี้ต้องขอคืนพื้นที่ชนิดไม่ให้เหลือ เซ็ง 1 ช่วงเช้าก่อนไปเจอกับช่างสวิส เลยมีเวลาว่างจึงไปดูหนังกันดีกว่า!! ตั้งใจไปดูเรื่อง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ ขับรถไปดูที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เนื่องจากยังไม่เที่ยง คนเลยยังไม่มากนักพอเลี้ยวเข้าห้าง ก็เจอที่ว่างทันที ผมกดไฟฉุกเฉินเตรียจอด!! ที่จอดเป็นทางเลี้ยวพอดี ที่จอดอยู่ขวามือ ผมหันหัวรถไปทางซ้ายเพื่อให้ท้ายเข้าทางขวา ขณะถอยเข้าซอง ก็มีเสียงแตรและเสียงชนดังขึ้นไล่ๆกัน ..ซวยแล้ว พอลงจากรถไปดูเหตุ สาวเจ้าของรถคันหลังใส่แว่นดำแต่งตัวหวือหวาไม่รับกับสภาพรถที่ค่อนข้างเก่าเลยสักนิด เจ๊แกตำหนิผมก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไร “ทางนี้เขาห้ามเลี้ยวซ้าย” น้ำเสียงเรียบแต่ท่าทีตำหนิเป็นเชิงสั่งสอนอยู่ในที “ผมไม่ได้จะเลี้ยวซ้าย ผมจะเ้ข้าจอด ไฟฉุกเฉินยังเปิดอยู่เลย” ผมพูดพร้อมชี้ให้ดูไฟกระพริบ เจ๊แกรู้ตัวว่าตัวเองผิด เดินกลับขึ้นรถหน้าตาเฉย ผมดูด้วยสายตา รถเจ๊แกไม่เป็นอะไรเลย ส่วนรถผมตรงกันโคลนหน้าเผยอขึ้นเล็กน้อย มองผิวเผินแทบไม่เห็นความเสียหาย ผมก็เลยไม่ติดใจเอาความ ด้วยมีรถติดจอดเป็นแถวยาวอยู่ “คุณจะมีปัญหาอะไรมั้ย” ผมถามเจ๊คู่กรณี เพราะถ้าเอาเข้าจริงผมก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย ที่ไม่ยอมมองหลังให้ดีก่อนถอย เจ๊แกนิ่ง ผมกล่าวขอบคุณ (ซึ่งไม่รู้จะขอบคุณทำไม) แล้วก็ขับรถออกไป พร้อมด้วยอารมณ์ที่เซ็งเล็กน้อย เซ็ง 2 ถึงมีเหตุการณ์เซ็งๆแบบนี้ ผมก็ไม่ละความตั้งใจที่จะดูหนังไทย..ซัคซี้ด พอเข้าไปซื้อตั๋ว ปรากฏว่าหนังเริ่มฉายพอดี ผมไม่รอช้า รีบซื้อตั๋วดิ่งเข้าโรง พอเข้าโรง ภาพยนตร์ตัวอย่างจบพอดี หนังกำลังเริ่ม ..แต่เอ่ะเดี๋ยวก่อน ทำไม เครดิตผู้สร้างเป็นภาษาอังกฤษ ผมดูหนังไทยไม่ใช่เหรอ คิดได้ดังนั้นก็รีบวิ่งออกมาหน้าโรง ตายห่า..ในตั๋วบอกโรงหก แต่ผมเข้าโรงห้า!! ในที่สุดก็ได้ดูหนังสมใจ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ หนังย้อนยุคสัก 3-5 ปี ช่วงชีวิตเด็กวัยรุ่นยุคม.ปลาย ยุคที่เด็กเกรงใจเพื่อนมากกว่าพ่อแม่และครู บูชานักร้องดังเทพเจ้า มีความใฝ่ฝัน อยากเป็นนักร้อง และมีความรักเป็นครั้งแรก หนังสะท้อนชีวิตเด็กประถมช่วงสั้นๆ และเด็กมัธยมได้อย่างได้รสได้ชาติมาก หนังมีสีสันด้วยได้นักร้องดังมาโผล่ในทุกฉากที่มีเสียงเพลง มีมุกตลกสอดแทรกอยู่เป็นระยะ นักแสดงหน้าใหม่อย่าง “ลูกพีช” เล่นดีบทเด่นแซงหน้า “ก้าว” พระเอกในเรื่อง…

suckseed รถ เซ็ง
อ่านต่อ

บ้านสวนงาม 3 วัน 2 คืน

ท่องเที่ยว 1 October 20201 October 2020

หลังจากโควิดเข้ามาเมื่อต้นปี ทุกอย่างในประเทศหยุดชะงัก ทุกคนต้องถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย ช่วงเวลานั้นกินเวลาถึง 2-3 เดือน เราเรียกช่วงนั้นว่า “ช่วงกักกันตัว” ไม่ต้องพูดถึงการท่องเที่ยว เพราะแม้แต่ออกจากบ้านยังทำได้ยาก สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารทุกแห่งถูกสั่งปิดหมด และนี่คือทริปแรกหลังจากโควิดซาลง ร่วมคณะกับพี่ๆก๊วนตีแบดเบ็ดเสร็จชาวคณะรวมกันได้ 11 คน จุดหมายคือสวนงามรีสอร์ท สระบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอมวกเหล็กสระบุรีติดกับนครนายก แต่ก่อนจะเข้าพักนั้นแวะไปเที่ยวที่ตลาดหัวปลีของดีของจังหวัดสระบุรีก่อนครับ ที่นี่มีที่นั่งรับประทานอาหารกว้างขวาง ของกินพื้นบ้านมากมาย น่ามาเดินมาชิมมาช้อปครับ ประมาณบ่าย 3 โมงเข้ามาถึงที่พักครับ บรรยากาศก็เป็นไปตามภาพเลย ร่มรื่นเย็นสบาย.. สวนงามรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีบ้านให้พักแค่ 2 หลัง แต่มีกระเต๊นท์กระโจมรวมถึงรถบ้านให้บริการ เน้นให้คนมาเที่ยวแบบแคมปิ้ง กางเต๊นท์ทำอาหารกินเอง คณะเรามากันเยอะ เลยพักเป็นบ้านหลังใหญ่ กับรถบ้านอีกหนึ่งหลัง ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ เจ้าของใจดีและเป็นมิตรมากๆครับ เดินสอบถามพบปะกับผู้เข้ามาพักด้วยตัวเอง ดูแลอย่างทั่วถึง ใครขาดเหลืออะไรอยากสั่งหมูกระทะ ผ้าห่มที่หลับนอนไม่พอบอกแกได้ครับ 🙂

บ้านสวนงาม สระบุรี
อ่านต่อ

ทริปปั่นปั่น กับ น้องขาวเพรียว

สุขกะภาพ 30 March 201525 August 2022

เมื่อต้นปีมีโอกาสไปต่างจังหวัด ครั้งนี้ไปคนเดียวครับ  อย่ากระนั้นเลย เดี๋ยวรถจะเบา จึงหิ้วน้องเพรียวขาวขึ้นรถไปด้วย .. ก็จึงเกิดมีภาพน้องเพรียวขาวกับบรรยากาศลูกทุ่งๆ ฉะนี้แล

ขาวเพรียว จักรยาน

ผีอำ

เรื่องทั่วไป 26 June 2008

ในโลกนี้มีหลายอย่าง ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบได้ และหนึ่งในหลายอย่างนั้น คือ เรื่อง ผี เมื่อตอนเด็กๆ เคยกลัว และเคยคิดว่าตัวเองเจอ ไม่สิ ไม่ได้เจอ เพียงแต่รู้สึกเหมือนว่า สิ่งๆนั้นเป็นผี! แต่พอโตขึ้น มานั่งพิจารณาดีๆ สิ่งๆนั้นๆ ที่เคยคิดว่าเป็นผีเมื่อตอนเด็กนั้น อาจไม่ใช่ผีก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าในตอนดึกข้างหน้าบ้าน ที่ผมเข้าใจว่าเป็นวิญญาณของยาย, เสียงคนเดินบนหลังคาบ้านตอนดึก รุ่งเช้าผมเป็นไข้, เท้าของทหารที่ยืนหน้าห้องที่โรงเรียน เมื่อครั้งที่ผมไปนอนค้าง และเมื่อฝนตกพร่ำๆ ฟ้าครึ้ม กลางบ่าย 3 โมง มีลุงแก่ๆยืนข้างทาง พอเดินเลยไปหน่อยหนึ่ง แล้วหันมาดูอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่มีแล้ว.. เหตุการณ์ที่กล่าวมานั้น คือ เหตุการณ์เมื่อตอนเด็ก ซึ่งในสมัยเด็กเราเข้าใจเหตุการณ์นั้นว่า ผีหลอก แต่เมื่อโตขึ้นมานั่งพิจารณา ก็ให้เกิดความสงสัยว่า นั่นเป็นผีจริงหรือเปล่า เสียงฝีเท้าข้างหน้าบ้านตอนดึกสงัด .. อาจจะเป็นใครก็ได้มาเดิน, เสียงคนเดินบนหลังคา อาจจะเป็นแมว, เท้าของทหารที่มายืนหน้าประตู (อันนี้คงนึกภาพไม่ออกกัน ลองคิดถึงประตูห้องเรียนที่ปิดสนิท แต่บานประตูมีขนาดสั้นกว่าขอบประตู เมื่อปิดจึงไม่มิด จะเห็นเฉพาะขา ถ้ามีคนมายืนหน้าห้อง) อาจจะเป็นใครก็ได้ บังเอิญผ่านมา และผมก็บังเอิญเห็น! และลุงแก่ๆที่มายืนข้างทางนั้น น่าจะเป็นลางอะไรสักอย่างที่มาช่วยผม เพราะวันนั้น ผมหนีฝน กำลังจะขึ้นกระท่อมร้าง แต่เมื่อเจอเหตุการณ์นี้เข้า จึงไม่กล้าขึ้นกระท่อมดังกล่าว แต่วันต่อมา เมื่อขึ้นไปบนกระท่อมนั้น ปรากฏว่ามีตะขาบตัวใหญ่มาก ซึ่งวันฝนตกนั้น ถ้าผมขึ้นไป อาจถูกมันต่อยเอาก็ได้.. นั่นคือเหตุการณ์ในวัยเด็ก จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ผมยังไม่เคยมีประสบการณ์แนวๆนี้อีก ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ปรารถนาจะมีหรอกน่ะ มาวันนี้ผมได้มาเจออีกเหตุการณ์หนึ่ง  ที่ใครต่อใครเรียกมันว่า ผีอำ ผีอำ สำหรับคนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่สำหรับผม มันก็คือฝันร้ายเท่านั้นเอง เพียงแต่เป็นฝันที่คล้ายจะเป็นจริง คืนวันนั้น ผมฟังรายการ เดอะ ช็อก ซึ่งเป็นรายการผีๆ หลายคนรู้จักดี ในจินตนาการผมจึงมีเรื่องเหล่านี้อยู่ไม่น้อย พอหลับได้พักเดียวเท่านั้น ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้หลับ ยังนอนอยู่ และนอนตะแคงไปทางขวา ผมรู้สึกร้อน อยากจะลุกมากินน้ำ แต่พอจะขยับตัว มันขยับตัวไม่ได้  แต่ลืมตาได้ พอลืมตาเท่านั้นแหละ …ในห้องผมกลายเป็นห้องเก่าๆ หยากไย้เต็มไปหมด…

อ่านต่อ

ปาย..เชียงใหม่

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 January 200923 September 2016

ลืมตาดูโลกมาจนอายุปูนนี้ ผมพึ่งเคยไปเหนือสุดแค่พิษณุโลก ไปไหว้พระพุทธชินราช แต่นั่นไปด้วยความบังเอิญเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว..ปีใหม่ปีนี้(2552) เลยจะไปเหนือแบบจริงๆ จังๆ ซักที!! พลิกตำราว่าด้วยการท่องเที่ยวห้อง bluplanet ณ พันทิพย์ กล่าวอ้างกันอย่างหนาหูว่า ปาย สวย สงบ เลิศ ธรรมชาติ หนาว เย็น สบาย ได้อารมณ์ กล่าวอ้างพร้อมภาพประกอบ พลิกดูภาพแล้วต้องร้องหูวส์..สวย..แจ่ม..เงียบ..สบาย..สงบ นี่แหละคือสิ่งที่เราค้นหามาครึ่งชีวิต ผมเริ่มวางแผนการเดินทางตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้วก่อนสิ้นปี!! ไม่เวอร์ครับ ณ ที่แห่งนี้จองก่อน 4 เดือนยังจะช้าไป มีหลายแห่งแน่นและเต็มแล้ว ผมวางทริปคร่าว ๆ มีเวลา 4 วัน นั่งรถไฟนอน ไปลงเชียงใหม่แต่เช้าตรู่ รถโรงแรมมารับเช็คอินแต่เช้าเสร็จ เที่ยวเชียงใหม่ในวันนั้นเลย ค้างที่เชียงใหม่หนึ่งคืน เช้าอีกวันจับรถเช่าของนอร์ทวิลยิงตรงไปปาย ค้างที่นั่นสัก 2 คืน เที่ยวซะให้ทั่วปายเลย วันสุดท้ายมานอนที่เชียงใหม่ ก่อนจะขึ้นเครื่องบินกลับในตอนเช้าของอีกวัน ~ เหตุผลที่ต้องไปด้วยรถไฟนอน และกลับด้วยเครื่องบิน เพราะต้องการไปแบบหลับสบาย พร้อมที่จะเที่ยวในวันต่อมาได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาไปนอนพักเอาแรง และรถไฟนอนคือคำตอบ ส่วนขากลับต้องนั่งเครื่อง เพราะหลายครั้งที่ไปเที่ยว ขาไปมักสนุกสนานเฮฮา ไปยังไงก็ได้ แต่ขากลับมักเหงาหงอย เหนื่อยล้า เพราะฉะนั้น กลับยังไงให้เร็วที่สุด เครื่องบินคือคำตอบ อาจแพงไปนิ๊ด แต่สบายยย.. นั่นคือแผนที่วางไว้ แต่เอาเข้าจริง..รถไฟที่เปิดให้จองล่วงหน้าได้นานสุด 60 วัน และเต็มไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่อุตส่าแหกขี้ตาไปรอจองตั้งแต่ 6 โมงเข้า เมื่อแผนแรกพลาด ผมเลยมุ่งไปที่รถทัวร์แทน รถทัวร์ที่ขึ้นชื่อ อันดับต้นๆคือ นครชัยแอร์ ถัดมาคือ สยามเฟิร์สทัวร์ นครชัยแอร์เปิดจองล่วงหน้านาน 30 วัน ผมรอให้ถึงวันนั้นไม่ได้กลัวจะพลาดอีก เลยไปที่สยามเฟิร์สทัวร์..เรียบร้อย การเดินทางไปเรียบร้อยแล้ว การเดินทางกลับด้วยเครื่องบินก็จองเรียบร้อยแล้วด้วยแอร์เอเซีย..จองผ่านอินเทอร์เนต วันออกเดินทางจริง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยครับ สยามเฟิร์สทัวร์บริการดี ที่สำคัญไม่ต้องไปขึ้นรถที่หมอชิต ที่ขึ้นที่บริษัทเขาได้เลย จึงตัดปัญหารถติดตอนขึ้นรถ เบาะนั่งค่อนข้างสบาย ปรับนอนได้มาก เบาะนวดด้วย..อืมม เขาดีจริงๆ ไปถึงที่เชียงใหม่ในเวลา…

ปาย เชียงใหม่

ทะเล-ทะเลาะ

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 October 200816 June 2019

ปีนี้ ถ้านับครั้งนี้ด้วย ก็จะเป็นแค่ครั้งที่สอง ที่ผมจะไปทะเลลลลลลลลลลล…ล พูดถึงทะเล ก็จะมีภาพเหล่านี้ลอยเข้ามาในหัว แน่นอนไปทะเลต้องมี..ทะเล ท้องฟ้าสีฟ้าสด.. ทราย.. สายลม.. เสียงหัวเราะ.. ความสุข.. นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวผมเมื่อนึกถึงทะเล อาทิตย์นี้ผมได้ไปทะเล กับที่ทำงาน ชั่งใจอยู่นานสองนาน สามนาน สี่นาน ห้านาน..ว่าจะไปดีหรือไม่ เพราะการไปครั้งนี้ค่อนข้างไปกันหลายชีวิต ใช่ว่าจะมีแต่แผนกเรา มีหลายๆแผนกไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และส่วนใหญ่ชอบกินเหล้า ผมตัดสินใจ ด้วยการอวดอ้างสรรพคุณความสนุกจากเพื่อนคนหนึ่ง “การไปทะเลกะคนเยอะๆๆ นี่สนุกนะ ทริปนี้มีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย รับรองๆ สนุกแน่ๆ สนุกจริง” ผมตัดสินใจอย่างยากเย็น ด้วยอยากพักผ่อนจริงๆ หลังจากที่เหนื่อยมาหลายวันมากแล้ว กลัวไม่สนุก กลัวไม่ได้พักผ่อน ~ และสุดท้ายก็ตัดสินใจ ไป… ~ ตามกำหนดการณ์ คือ ออกเดินทางเจ็ดโมง แต่เลทไปจนถึงแปดโมงกว่า ไม่เป็นไรไม่ถือสา แต่ที่ผมเริ่มจะรับไม่ได้ คือ การเดินทางครั้งนี้ไปด้วยรถทัวร์พัดลม โอ้วววว ไม่นะ ครั้งสุดท้ายที่ผมเดินทางด้วยรถทัวร์พัดลม คือเมื่อสัก 3 ปีก่อน เดินทางไปทอดผ้าป่าสามัคคีกับพิภพที่สกลนคร ครั้งนั้นทั้งเหนื่อย ร้อน และหนวกหู เพราะเครื่องเสียกระหึ่มรถมาก ครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากครั้งนั้นเลยยย เครื่องเสียงดังมาก ยิ่งกว่าในผับเสียอีก โอ้ ไปถึงทะเลเกือบบ่าย ทะเลที่ว่า คือหาดแม่รำพึง ระยองนี่เองครับ เลยไปไม่ไกล ภาพทะเล ความสนุกที่วาดไว้บนหัวหายหมดสิ้น ทะเลร้อนมาก หาดก็ไม่น่าลงเล่นเท่าไร ที่พักแย่ไปใหญ่ หาที่เป็นส่วนตัวไม่ได้เลย เพราะไปกันเยอะ กิจกรรมก็ขำๆดี แต่ผมไม่สนุกด้วย ตกกลางคืนงานเริ่มส่อแววล่ม เมื่อบรรดาขี้เมาเริ่มมีการกระทบกระทั่งกัน จอโปรเจกเตอร์ตัวใหญ่ที่ไว้ฉายคาราโอเกะ ภาพแจ่มดี แต่เครื่องเสียงห่วยชนิดไม่น่าให้อภัย เครื่องเสียงไม่ดีอยู่แล้ว คนร้องกลับเป็นขี้เมาอ้อแอ้ ผมทนกับสภาพนี้ไม่ไหวแล้ว จึงทิ้งกลุ่มออกมาเดินเล่นที่ชายหาดอย่างเงียบๆ คิดถึงความหฤโหดของการเดินทางในวันพรุ่งนี้ แดดร้อนๆ รถพัดลมอับๆ บวกกับเครื่องเสียนรกแตก กูตายแน่ๆ ผมกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปร่วม ได้แต่นั่งดูข้างนอก เริ่มเห็นความวุ่นวายลางๆ มีการกระทบกระทั่ง มีปากเสียงกันหลายคู่ หลายคน จนในที่สุดเมื่อเวลาห้าทุ่ม…

ทะเล ระยอง

คิดดี..พูดดี..ทำดี..ปีใหม่

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 6 January 2010

ก้าวเข้าสู่ปีใหม่เกือบจะอาทิตย์แล้ว แต่กิจกรรมหลายๆอย่างในทางแย่ๆของผมยังคงเป็นปกติ เช่น.. – นอนดูทีวีไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย – ไม่จัด, กวาด, ถูห้อง – ไม่อ่านหนังสือ – ไม่นั่งสมาธิ (โอ้..ว้าว ตั้งใจจะทำเหรอนั่น) – ตื่นสาย – และอื่นๆอีก(ยังคิดไม่ออกในตอนนี้) แต่จะว่าไปแล้ว สิ่งที่เริ่มจะทำในปีใหม่นี้ก็มีนะ เช่น.. – ออกกำลังกาย (เริ่มเมื่อวานเป็นวันแรก) – ไม่กินข้าวเย็น กินแต่ผักผลไม้แทน – ไม่กินน้ำอัดลม – (ได้แค่นี้เองเหรอ) ถ้าไม่เริ่มมันก็จะไม่เกิด ..แล้วไปนั่งเสียใจและบ่นเพ้อตอนกลางๆปี จนถึงท้ายปี ปีนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด เย็นเมื่อวานเริ่มต้นไปออกกำลังกายเป็นวันแรก ก็ไม่เลวนัก สำหรับผู้ที่ร้างสนามไปตั้งเกือบปีอย่างผม วิ่ง หอบ ก็หยุดพัก วิ่งว่าเหนื่อยแล้ว ตอนเดินกลับจากสนามวิ่งมาที่บ้านยิ่งเหนื่อยกว่าอีก เกือบอดใจไม่ไหว โบกรถเมล์ตั้งหลายครั้ง แต่ทนเวทนาตัวเองไม่ได้ ไปออกกำลังกาย แต่นั่งรถเมล์ (เพื่ออะไรว่ะ) กิจกรรมอีกอย่างที่ว่าจะเพลาๆลง นั่นคือ การดูทีวี บางคนบอกก็เลือกดูแต่ข่าวสารสิ ข่าวสารตามทีวีมันได้เนื้อหาน้อยมาก เนื่องด้วยเวลาในจอทีวีมันแพงมาก ดังนั้นข่าวจึงถูกหั่นจนสั้นกุด และในข่าวที่สั้นนั้น ยังถูกเบียดบัง บิดเบือนหรือแทรกด้วยความเห็นของผู้วิจารณ์ข่าวจนเราคล้อยตาม อ.วีระ บอกว่า ทีวียิ่งดูยิ่งโง่ ถ้าอยากอ่านข่าว ให้หาอ่านตามหนังสือพิมพ์ สนใจข่าวไหนก็เจาะลึกข่าวนั้นเป็นเรื่องๆ ทีวีดูได้ แต่ไม่ควรเกินวันละ 1 ชม. ไม่เช่นนั้นวิถีชีวิต วิธีคิด วิธีใช้ชีวิตของเรา จะเป็นไปตามทีวีโดยไม่รู้ตัว วันนี้..เราเป็น เราพูด เราคิด และทำตามแบบของเราเองดีที่สุด

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางมะผ้า

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 19 December 202024 September 2021

วันที่ 3 ของการมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน หลังจากเก็บเต๊นท์และสัมภาระที่หยุนไหลใช้เวลาเกือบ 10 โมงกว่า เรามุ่งหน้าไปปางอุ๋งโดยปักหมุดพักกินข้าวเท่ียวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวยอดนิยมอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่” ระหว่างทางก็แวะเที่ยวแวะชิมกาแฟไปตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายนั่นคือ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ เวลาเที่ยงกว่าๆ จึงทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวจ่าโบ่คึกคัก มีลูกค้าหนาตา ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปายมากนัก ใช้เวลาเดินทางจากปายประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ขับรถจากปายตรงไปอีก 12 กิโลเมตร เจอแยกบ้านแม่ระนาเข้าไปยังหมู่บ้านขับรถตรงไปอีก 4 กิโลเมตร เส้นทางทำใหม่ราดยางตลอดทาง เมื่อมาถึงหมู่บ้านเราก็จะได้เจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของที่นี่ เพราะนอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยในราคาหลักสิบให้ได้ทานแล้ว มองไปรอบๆ จะเห็นว่าตั้งอยู่ในมุมที่เหมาะเจาะมองเห็นภูเขาที่สวยงามสลับซับซ้อน หลังจากอิ่มหน่ำสำราญทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวและกาแฟแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อ หนทางต่อจากนี้ไปปางอุ๋ง รับรองว่าใครธาตุอ่อนมีอ๊วกออกมาแน่นอน.. มันช่างคดเคี้ยวเลี้ยวลดจนเคลื่นไส้..

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่ จ่าโบ่ ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน

ทุกวันนี้..ศึกไกลยังไม่ห่วง

เรื่องทั่วไป 6 November 2009

ปี 2113 รัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช หลังจากที่ไทยเสียกรุงให้แก่พม่าเพียงปีเดียว พระยาละแวกถือโอกาสเข้ามาปล้นและตีเมืองนครนายก สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชจึงทรงรับสั่งให้ยกทัพไปปราบ ให้ทหารนำปืนจ่ารงค์ยิงไปถูกพระจำปาธิราชของเขมรตายคาที่บนคอช้าง ทัพเขมรถอยกลับไปแต่ก็ย้อนกลับมาปล้นเมืองอีกหลายครั้ง นอกจากนี้พระยาละแวกยังนำทัพมากวาดต้อนผู้คนแถวจันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา พระยาละแวกยกทัพมาถึงปากน้ำพระประแดง โจมตีเมืองธนบุรี จับชาวเมืองธนบุรีและนนทบุรีเป็นเชลยจำนวนมาก แล้วได้รวบรวมไพร่พลหมายจะเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยา โดยแต่งทัพเรือ 30 ลำเข้าปล้นบ้านนายก่าย แต่โชคไม่ดีถูกปืนใหญ่ของไทยยิงตายเป็นจำนวนมาก ฝ่ายเขมรแตกทัพหนีกลับไปทางพระประแดง แต่ก็ยังกวาดต้อนผู้คนแถวสาครบุรีกลับไปอีกด้วย ปี 2129 รัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช พระยาละแวกเห็นว่าไทยกำลังสู้ศึกกับกรุงหงสาวดีอยู่ จึงฉวยโอกาสยกทัพเข้ามาตีเมืองปราจีนอีกครั้ง พฤติการณ์ของพระยาละแวก เข้าทำนองสุนัขลอบกัดมาตลอด ขณะที่ทางไทยเข้มแข็ง พระยาละแวกก็จะส่งเครื่องบรรณาการมาแสดงความเคารพยำเกรง ขออาศัยอยู่ใต้บารมี แต่เมื่อไรที่ไทยถูกข้าศึกทางพม่าเข้าตีจนเข้าตาจน พระยาละแวกก็จะฉวยโอกาสกระหน่ำซ้ำเติมทุกครั้งทุกทีไป ครั้นมาถึงรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปี 2136 ในพระราชพงศาวดารที่ชำระในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นั้น ได้กล่าวเอาไว้ถึงเมื่อคราวที่พระยาละแวกถูกจับพันธนาการนำมาถวายแด่องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งได้มีการบรรยายความในตอนนี้ว่า “สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวแย้มพระโอษฐ แล้วมีพระโองการตรัสถามพระยาละแวกว่า ท่านเป็นกษัตริยขัตติยราช บำรุงแผ่นดินกรุงกัมพูชาธิบดี มีกุรุราษฎร์เป็นแว่นแคว้นขัณฑสีมา ฝ่ายกรุงพระมหานครศรีอยุธยาก็มีปัจจันตชนบทเป็นแว่นแคว้น และสองพระนครนี้ก็เป็นราชธานีใหญ่ ถ้าจะใคร่ได้ราชสมบัติในพระนครศรีอยุธยาแผ่เสมามณฑลให้กว้างใหญ่ เหตุไฉนมิยกเป็นพยุหโยธาไปกระทำสงครามให้ต้องทำนองขัตติยราชรณยุทธ์อันเป็นที่บันเทิงหฤทัย กษัตราธิราชแต่ก่อน จึงคอยแต่หงสาวดีมาติดพระนครศรีอยุธยาครั้งใด ก็มีแต่ยกพลไปพลอยซ้ำเติมตีเอาเมืองชนบทประเทศ กวาดเอาอพยพมาเมืองทุกครั้ง ทำดุจกาอันลอบลักฝูงสกุณปักษาฉะนั้น ควรด้วยราชประเพณีและหรือประการใด ก็ครั้งนี้ถึงซึ่งอัปราชัยแก่เราแล้ว ก็จะคิดฉันใดเล่า ให้ว่าไปตามสัตย์ตามจริงจะได้เป็นเยี่ยงอย่างกษัตริย์ไปภายหน้า” “ พระยาละแวกกราบถวายบังคมทูลว่า ซึ่งข้าพระองค์เป็นคนโลภเจตนา มิได้กระทำสงครามตามราชประเพณีกษัตริย์ ไปลักลอบกระทำเสี้ยนหนามแก่พระนครศรีอยุธยานั้น โทษผิดถึงตาย ถ้าพระองค์พระราชทานชีวิตไว้ กรุงกัมพูชาธิบดีจะได้เป็นข้าขัณฑสีมากรุงเทพมหานคร ถ้ามิเลี้ยงก็ก้มหน้าตาย” “สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวได้ทรงฟังคำพระยาละแวกดังนั้น จึงตรัสว่า เราได้ออกวาจาไว้แล้วว่า ถ้ามีชัยแก่ท่าน เราจะทำพิธีปฐมกรรมเอาโลหิตท่านล้างบาทาเสียให้จงได้ ท่านอย่าอาลัยแก่ชีวิตเลย จงตั้งหน้าหาความชอบในปรโลกนั้นเถิด บุตรภรรยาญาติประยูรวงศ์นั้น เราจะเลี้ยงไว้ให้มีความสุขดุจแต่ก่อน” จากนั้นจึงได้พระราชโองการให้ตั้ง “พิธีปฐมกรรมโดยสาตร” เจ้าพระยาละแวก ซึ่งในพระราชพงศาวดารนั้น บรรยายถึงการตั้งพิธีปฐมกรรมดังกล่าวเอาไว้ว่า “ มีพระราชบริหารแก่มุขมนตรี ให้ตั้งการพิธีปฐมกรรมโดยสาตร พระโหราธิบดีชีพ่อพราหมณ์ ก็จัดแจงการนั้นเสร็จ จึงเชิญเสด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นบนเกย เจ้าพนักงานองครักษ์เอาตัวพระยาละแวกเข้าใต้เกย ตัดศรีษะเอาถาดทองรองโลหิตขึ้นไปชำระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระโหราธิบดีลั่นฆ้องชัย ชีพ่อพราหมณ์เป่าสังข์ประโคมดุริยดนตรีถวายมุรธาภิเษกทรงอาเศียรภาพโดยสาตรพิธีเสร็จ เสด็จเข้าพลับพลา” … พออ่านประวัติศาสตร์ในอดีตก็ไม่แปลกใจต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน! แต่ที่น่าแปลกใจ ก็คือ คนไทยที่มีใจไม่เป็นไทย คนพวกนี้ แค่ขับไล่ให้พ้นประเทศคง ไม่พอ ต้องเอามีดบั่นคอแล้วโยนให้ไอ้เข้มันกิน!!…

คนบ้าอำนาจ

เรื่องทั่วไป 17 June 20109 September 2019

เราชอบบอกกันว่า ผู้ใหญ่บ้าอำนาจ แต่ความจริงแล้ว เราเกือบทุกคนบ้าอำนาจ ขอให้มีอำนาจสักนิดนึง..ก็เริ่มจะใช้อำนาจ ตัวอย่าง.. ในวัด ไม่เด็กวัดก็มัคทายกวัด พวกนี้ทำตัวแก่วัด พอเราเลี้ยวรถเข้าวัดปุ๊บก็เริ่มใช้อำนาจกับเราทันที ตั้งแต่..ตรงนี้ห้ามจอด, วันนี้พระท่านไม่รับแขก(ซึ่งความจริงพระท่านอาจไม่รู้เรื่อง) ฯลฯ ในร้านอาหาร ..เจ้าของร้าน(บางคน)ก็บ้าอำนาจ ทำกับลูกค้าราวกับว่าเราไปขอมันกิน บนรถเมล์…โชเฟอร์-กระเป๋ารถเมล์ ชีวิตเราฝากกับมันไว้ เผลอกดปุ่มจอดป้าย 2 ครั้งก็ด่า บ้างก็ไม่ยอมจอดตรงป้าย บ้างก็ขับไปบ่น(ด่า)ไป คนบนรถต้องเงียบกริบให้มันบ้าอำนาจต่อไป บนรถแท็กซี่ บอกให้เีลี้ยวซ้ายจะได้เร็วมันก็ไปตรง บอกขับมา 30 กว่าปีแล้ว ขับไปโทรศัพท์ไป ขับไปด่าไป ฯลฯ บนรถตู้ ก็เหมือนกัน.. คนที่มีอาชีพขับรถจะมีลักษณะบ้าอำนาจคล้ายๆกัน จะดุจะด่าจะว่าผู้โดยสารทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจ ไม่อยากจะใช้คำว่าไร้การศึกษา เพราะความจริง บอกกันดีๆ นะทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องกระโชกโฮกฮาก ไม่ต้องบีบแตรไล่รถคันอื่น ไม่ต้องปาดหน้าใคร ไม่ต้องไปบี้ตูดใคร ่ทุกคนบนถนนรีบเหมือนกันหมด ต้องไม่ใช้อารมณ์กับผู้โดยสาร ต้องซื่อสัตย์กับอาชีพตัวเอง ผมเจอหลายครั้งที่ผู้ขับรถตู้แอบเก็บเกินราคา เราเองบ้าอำนาจในพื้นที่แม้จะเล็กๆก็ตามที่สามารถจะบ้าอำนาจได้ อย่างน้อยที่สุดก็ในบ้านตัวเอง ในสถานการณ์ที่เราต้องตกอยู่ภายใต้คนบ้าอำนาจเหล่านี้ มีคำสอนจากพระพุทธองค์เตือนสติไว้ว่า ‘ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง’ บางคนถามว่า ทำไมเราต้องทน? หลายครั้งที่เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเราไม่รู้จักอดทน ความอดทนเป็นการตอบโต้อย่างหนึ่ง และเป็นการยุติปัญหาที่ดีที่สุด ความอดทนที่สุดยอดคือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ การอดทนต่อคนที่สูงกว่าเรา เช่น ผู้ใหญ่กว่าเรา, เจ้านาย, นายจ้าง ถือว่าธรรมดา เพราะเราจำเป็นต้องทน การอดทนต่อผู้ที่เสมอกับเรา เช่น เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนบ้าน ฯลฯ ถือว่าดี แต่ไม่ใช่ดีที่สุด การอดทนต่อคนประเภทนี้เราต้องใช้คุณธรรมพอสมควร แต่การอดทนที่สุดยอดที่สุด คือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ เช่น คนขับรถเมล์, คนขายของ, คนขอทาน , คนจรจัด ฯลฯ การอดทนต่อคนพวกนี้ได้ต้องอาศัยการยับยั้งใจอย่างที่สุด และหากทำได้ ก็ถือว่าเราเข้าสู่ธรรมะได้อีกระดับหนึ่ง พระพุทธเ้จ้าและพระอานนท์ทนต่อถูกชาวบ้านด่ามาตั้ง 7 วัน โดยไม่ตอบโต้หรือหนีไปไหน แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็หายไปเอง และคนที่เดือดร้อนที่สุด ก็คือคนที่จ้างชาวบ้านมาให้ด่า นอกจากไม่ได้ผลแล้วยังเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ดังนั้น คนบ้าอำนาจ…

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH