ช่วงนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนถามว่า มีไข้มั้ย? เจ็อคอมั้ย? อุณหภูมิร่างกายเท่าไร? จนบางครั้งเราต้องมาถามตัวเองว่า ตกลงนี่เรา “เป็นมั้ย?”
เป็นในที่นี่ไม่ใช่อย่างอื่นใด ณ นาทีนี้เป็นมีความหมายเป็นอย่างเดียวคือ เป็นโควิดมั้ย?
เราจะไม่พูดถึงโรคระบาดอย่างโควิด ขอแค่รักษาตัวเองอยู่ที่บ้านให้ปลอดภัยก่อน เราจะมาว่ากันถึงภาษาอังกฤษในสำนวนที่ว่า “มีไข้”
I have a …
ถ้าเรามีปากกา เราก็บอกคนที่ถามไปว่า I have a pen. เช่นเดียวกันถ้ามีไข้ก็บอกหมอไปว่า
I have a fever. (ไอ แฮฟ อะ ฟีเวอรฺ) ฉันมีไข้
I have a cold. (ไอ แฮฟ อะ โคลดฺ) ฉันป่วยเป็นหวัด
I have the flu. (ไอ แฮฟ เดอะ ฟลู) ฉันป่วยเป็นไข้หวัด
I have a stomachache. ( ไอ แฮฟ อะ สตอมัคฺเอคฺ) ฉันปวดท้อง
I have a headache. (ไอ แฮฟ อะ เฮดเอคฺ) ฉันปวดหัว
หมอจะเริ่มซักไซ้คุณมากขึ้นจากอาการที่คุณแจ้งไป ประมาณว่าคุณรู้สึกยังไงบ้าง
I feel …
I feel dizzy. (ไอ ฟีล ดิซฺซี) ฉันรู้สึกเวียนหัว
I feel nauseous. (ไอ ฟีล นอเซียส) ฉันรู้สึกคลื่นไส้
เพื่อประเมินโรคของคุณได้แม่นยำขึ้น คุณหมออาจจะถามต่อว่า เจ็บตรงไหนบ้างไหม?
hurts/hurt
My back hurts. (มาย แบ็ค เฮิรฺทสฺ) ปวดหลัง
My knees hurt. (มาย นี เฮิรฺทสฺ) ปวดเข่า
My legs hurt. (มาย เลกฺส เฮิรฺท) ปวดขาทั้งสองข้างเลย
มีตัวอย่างประโยคสนทนาของเพื่อนรัก 2 คนเกี่ยวกับเรื่องเจ็บไข้ ลองไปดูกันครับ
Wit: What are you looking for?
Tu: My Jacket. I’m going to the doctor.
Wit: Why? What’s the problem?
Tu: I’m not sure, but I don’t feel well.
Wit: Do you have a fever?
Tu: No, but I have a pain in my chest.
Wit: What time is your appointment?
Tu: Eleven-thirty. I’m going now. Bye.
Wit: Good-bye. I hope it’s nothing serious.
เป็นประโยคสนทนาง่ายๆ ครับ ถ้าอยากฟังประโยคสนทนาจริง คลิกฟังที่นี่ https://youtu.be/tnSAGgcxjK8?t=591