ปาย..เชียงใหม่

ลืมตาดูโลกมาจนอายุปูนนี้ ผมพึ่งเคยไปเหนือสุดแค่พิษณุโลก ไปไหว้พระพุทธชินราช แต่นั่นไปด้วยความบังเอิญเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว..ปีใหม่ปีนี้(2552) เลยจะไปเหนือแบบจริงๆ จังๆ ซักที!!

พลิกตำราว่าด้วยการท่องเที่ยวห้อง bluplanet ณ พันทิพย์ กล่าวอ้างกันอย่างหนาหูว่า ปาย สวย สงบ เลิศ ธรรมชาติ หนาว เย็น สบาย ได้อารมณ์ กล่าวอ้างพร้อมภาพประกอบ พลิกดูภาพแล้วต้องร้องหูวส์..สวย..แจ่ม..เงียบ..สบาย..สงบ นี่แหละคือสิ่งที่เราค้นหามาครึ่งชีวิต ผมเริ่มวางแผนการเดินทางตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้วก่อนสิ้นปี!! ไม่เวอร์ครับ ณ ที่แห่งนี้จองก่อน 4 เดือนยังจะช้าไป มีหลายแห่งแน่นและเต็มแล้ว

ผมวางทริปคร่าว ๆ มีเวลา 4 วัน นั่งรถไฟนอน ไปลงเชียงใหม่แต่เช้าตรู่ รถโรงแรมมารับเช็คอินแต่เช้าเสร็จ เที่ยวเชียงใหม่ในวันนั้นเลย ค้างที่เชียงใหม่หนึ่งคืน เช้าอีกวันจับรถเช่าของนอร์ทวิลยิงตรงไปปาย ค้างที่นั่นสัก 2 คืน เที่ยวซะให้ทั่วปายเลย วันสุดท้ายมานอนที่เชียงใหม่ ก่อนจะขึ้นเครื่องบินกลับในตอนเช้าของอีกวัน ~ เหตุผลที่ต้องไปด้วยรถไฟนอน และกลับด้วยเครื่องบิน เพราะต้องการไปแบบหลับสบาย พร้อมที่จะเที่ยวในวันต่อมาได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาไปนอนพักเอาแรง และรถไฟนอนคือคำตอบ ส่วนขากลับต้องนั่งเครื่อง เพราะหลายครั้งที่ไปเที่ยว ขาไปมักสนุกสนานเฮฮา ไปยังไงก็ได้ แต่ขากลับมักเหงาหงอย เหนื่อยล้า เพราะฉะนั้น กลับยังไงให้เร็วที่สุด เครื่องบินคือคำตอบ อาจแพงไปนิ๊ด แต่สบายยย..

นั่นคือแผนที่วางไว้ แต่เอาเข้าจริง..รถไฟที่เปิดให้จองล่วงหน้าได้นานสุด 60 วัน และเต็มไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่อุตส่าแหกขี้ตาไปรอจองตั้งแต่ 6 โมงเข้า เมื่อแผนแรกพลาด ผมเลยมุ่งไปที่รถทัวร์แทน รถทัวร์ที่ขึ้นชื่อ อันดับต้นๆคือ นครชัยแอร์ ถัดมาคือ สยามเฟิร์สทัวร์ นครชัยแอร์เปิดจองล่วงหน้านาน 30 วัน ผมรอให้ถึงวันนั้นไม่ได้กลัวจะพลาดอีก เลยไปที่สยามเฟิร์สทัวร์..เรียบร้อย การเดินทางไปเรียบร้อยแล้ว การเดินทางกลับด้วยเครื่องบินก็จองเรียบร้อยแล้วด้วยแอร์เอเซีย..จองผ่านอินเทอร์เนต

วันออกเดินทางจริง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยครับ สยามเฟิร์สทัวร์บริการดี ที่สำคัญไม่ต้องไปขึ้นรถที่หมอชิต ที่ขึ้นที่บริษัทเขาได้เลย จึงตัดปัญหารถติดตอนขึ้นรถ เบาะนั่งค่อนข้างสบาย ปรับนอนได้มาก เบาะนวดด้วย..อืมม เขาดีจริงๆ ไปถึงที่เชียงใหม่ในเวลา 6 โมงเช้า ออกจากกรุงเทพเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ได้นอนเต็มที่บนรถ เช้าอีกวันไม่น่ามีปัญหาสำหรับการเที่ยว ผมจองโรงแรมคืนแรกไว้ที่ โรงแรม Life up long stay อยู่หน้าม.แม่โจ้ ไกลหน่อย แต่ทางรร.บริการรถมารับ

พูดมามากละ มาดูภาพประกอบกันเล้ย
Life up long stay

Life up long stay

life up long stay

Life up long stay

Life up long stay

นี่คืออาหารมื้อแรกที่เชียงใหม่ครับ..
โรงแรม Life up long stay ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ บรรยากาศดี รอบๆเป็นสวนพืชไร่..อากาศดีมาก พนักงานต้อนรับคุณแพทก็ต้อนรับอย่างดี เป็นกันเอง ..หลังจากเสร็จอาหารเช้าแล้ว ถึงเวลาเที่ยวสักที วันนี้เราจะเที่ยวในเชียงใหม่โดยไม่มีรถขับเอง..อาจลำบากเล็กน้อย แต่ก็ลองดู

เป็นเรื่องยากพอสมควรถ้าไม่มีรถส่วนตัว โรงแรมค่อนข้างห่างจากถนนหลัก เราเลยให้ทางโรงแรมเรียกแท็กซี่ป้ายดำให้ สนนราคาให้ไปส่งที่ม.เชียงใหม่ 300 บาท เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่  31 วันสิ้นปี คนทยอยมาเที่ยวกันแล้ว รถราเริ่มเยอะและติดพอสมควร พี่แท็กซี่ทิ้งเราหน้ามอชอ พร้อมแนะนำให้ขึ้นรถสองแถวขึ้นดอยสุเทพ..พอถึงคิวรถเมล์ มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังรวบรวมคนเพื่อขึ้นไปบนดอยให้ครบ 10 คนจะได้เหมารถไปด้วยกัน พอเราไปสมทบก็ครบสิบพอดี สนนราคาคนละ 180 บาท รวมดอยสุเทพ  พระตำหนักภูพิงค์ และดอยปุย พาขึ้นและพาลง..ก็โอเค เริ่มต้นที่ดอยปุยก่อนละกัน ไกลสุด

ดอยสุเทพ_ภูพิงค์_ดอยปุย

ดอยสุเทพ_ภูพิงค์_ดอยปุย

ดอยสุเทพ_ภูพิงค์_ดอยปุย

ดอยสุเทพ_ภูพิงค์_ดอยปุย

ดอยสุเทพ_ภูพิงค์_ดอยปุย

ดอยสุเทพ_ภูพิงค์_ดอยปุย

ดอยสุเทพ_ภูพิงค์_ดอยปุย

วันนี้ทั้งวันไม่ได้ไปไหนแล้วครับ..ไปสามแห่งนี้ก็เหนื่อยเอาการ คนเยอะมาก
พอลงจากดอยสุเทพก็ไปเดินถนนนิมมาเหมิน ของน่ารักๆ แนวๆ เยอะดี แต่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย เหนื่อยและเมื่อยขามั่กๆ อยากอาบน้ำ หิว แต่ต้องวางแผนอย่างระมัดระวังเพื่อเดินทางไปยังโรงแรม ทราบจากพี่คนขับรถสองแถวว่า รถที่จะไปม.แม่โจ้อยู่ที่กาดหลวงหรือตลาดวโรรส เป็นรถสองแถวสีเขียว เราต้องนั่งสองแถวไปที่นั่น สองแถวในเชียงใหม่เยอะแยะมาก ไม่มีป้าย โบกปุ๊บ รถจอด ถามว่าไปตรงโน้น ตรงนั้นไหม ถ้าโชเฟอร์บอกไป เราก็ขึ้นรถ ถึงที่หมายก็จ่ายด้วยราคาเท่ากันหมดคือ  20 บาท

หาซื้อของกินที่ตลาดวโรรสสำหรับไปกินส่งท้ายปีเก่าที่โรงแรมได้แล้ว ก็ขึ้นรถเมล์เขียวกลับกัน

พรุ่งนี้เช้าเราจะมีรถขับแล้ว..เตรียมเดินทางไปปายยย..

ระหว่างทางไปปาย ก็จะมีที่ให้แวะหลายที่ครับ หนึ่งในนั้นคือที่ีนี่ น้ำตกหมอกฟ้า

ไปปายย

ไปปายย

ไปปายย

ไปปายย

ไปปายย

อีกที่หนึ่ง คือ ห้วยน้ำดัง (จริงๆมีอีกที่หนึ่งคือ โป่งพุร้อนป่าแป๋ แวะไปแล้ว ถนนหวาดเสียวมาก รถก็ติดม้ากกก เลยไม่ได้ลงไปเที่ยว..งอน)

ห้วยน้ำดัง

ห้วยน้ำดัง

ถึงปายในเวลาประมาณ 5 โมงเย็น  ระหว่างทางมีเรื่องให้ตกใจนิดหน่อย รถที่เช่าไปนั่นมีเสียงแปลกๆเวลาเบรก แต่เบรกก็ยังใช้การได้ดี เราเลยโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่นอร์ทวีล เจ้าหน้าที่พูดจาดีมาก และรับปากจะเอามาเปลี่ยนให้ในวันพรุ่งนี้ (พอถึงเวลาเช้าของอีกวันรถก็มาส่งให้จริงๆ(ประทับใจครับ))

เข้าเช็คอินที่ อะควารีสอร์ทปาย

ไปปายย

ไปปายย

ไปปายย

กลางคืนไปเดินถนนคนเดิน…คนเป็นล้านครับ แน่นมากกกกก ก..ก

ไปปายย

ไปปายย

ไปปายย
ไปปายย

ไปปายย
ร้านยอดฮิต..มิตรไทย

ไปปายย

หลายคนบอกปายเปลี่ยนไปเยอะ..ผมไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปยังไงนะครับ เพราะพึ่งเคยมา แต่ที่แน่ๆ มีหลายๆอย่างที่มันดูๆแล้วไม่ค่อยคล้ายบรรยากาศต่างจังหวัดสักเท่าไร มันดูเมืองๆ คล้ายๆถนนข้าวสาร หลังเทศกาลปีใหม่ในวันธรรมดาคงต้องแอบมาดูใหม่ ว่ามันต่างจากวันนี้มากน้อยแค่ไหน

ตั้งใจจะนอนปายสักสองคืน เอาเข้าจริงอยู่ไม่ได้ครับ ทนไม่ไหว จะไปไหนแต่ละที่มันยากเหลือเกินคนเยอะ วุ่นวาย ตัดสินใจทิ้งปายก่อนเวลาอันควร ก่อนจะกลับเชียงใหม่แวะไปที่โป่งพุร้อนท่าปายซะหน่อย..คนก็เยอะอีกแหละ

ไปปายย

ไปปายย

ไปปายย

กลับจากปายไปเชียงใหม่..การสัญจรก็ไม่ได้ต่างจากขามาสักเท่าไรนัก..ถนนพันโค้งที่น่ากลัวอยู่แล้วก็เพิ่มความน่ากลัวด้วยจำนวนรถอีกมหาศาล

ไปปายย

ไปปายย

ถึงเชียงใหม่ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง..จึงไปงานราชพฤกษ์ ปีนี้ไม่มีดอกไม้เหมือนปี 49 อีกแล้วครับ แต่ก็ยังเหลือเค้าบ้าง

ไปปายย

จากนั้นไปเช็คอินที่โรงแรมอโมรา ท่าแพ คืนนี้เดินท่าแพ ของกินเพียบครับ (ไม่ได้ถ่ายรูปมาเน้อ)

เช้าวันต่อมา..ไปเที่ยวดอยอินทนนท์กันนน

ไปปายยอากาศอยู่ที่  9 องศา ไม่เท่าไรๆ

ไปปายย

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

คนเยอะทุกจุดเลยครับ..ช่างดิ ตรูจะถ่ายรูป

บนดอยอินทนนท์มีจุดให้แวะเยอะมากครับ แต่ผมไปได้ไม่กี่ที่ และหนึ่งในนั้นคือที่ีนี่

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

น้ำตกภูมิสิริ

ดอยอินทนนท์

น้ำตกแม่ยะ (คนละที่กันกับภาพข้างบนเน้อ)

ดอยอินทนนท์

สองจุดนี้ใช้เวลามากพอสมควร..

เย็นนี้กลับไปพักที่เดิมครับ อโมรา ท่าแพ พรุ่งนี้เดินทางกลับแล้วละ

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

กลับถึงกทม.ในเวลา 9 โมงของวันอาทิตย์ มีเวลาเหลือเฟือเพื่อเตรียมตัวทำงานในวันจันทร์
ทริปนี้น่าจะเป็นทริปที่ยาวที่สุดสำหรับผม ค่าใช้จ่ายก็พอสมควร แต่เพื่อแลกกับความสุข ประสบการณ์การเดินทาง การเที่ยวใหม่ๆ ก็นับว่าคุ้มครับ การวางแผนเที่ยวที่ยาวนานกว่าสามเดือนก็สิ้นสุดลง อาจผิดแผน ผิดความตั้งใจไปบ้าง แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในขอบข่าย ไม่ออกนอกลู่นอกทางมากนัก

บางครั้งจุดมุ่งหมายของการเที่ยว อาจไม่ใช่ที่สวยๆงามๆ หรูหรา หรือสิ่งแปลกตา แต่อาจเป็นสิ่งที่อยู่รอบๆ ข้างทางตั้งแต่เราเริ่มออกเดินทาง

ความสุขของการเดินทางไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มคิดจะเดินทาง ตลอดจนกระทั่งเริ่มเดินทางจนการเดินทางนั้นสิ้นสุดลง..