กินปู กินหมึก ศึกษาธรรมชาติ..ที่หาดปราณบุรี

23 ตุลาคมปีนี้ นอกจากจะตรงกับวันที่รัฐบาลจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทที่หัวหินแล้ว ยังตรงกับวันศุกร์ นั่นหมายความว่า เราจะมีวันหยุดกันถึง 3 วันเลยทีเดียว (ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์) โอ้..เย

หลังจากลากปากกา กากบาทบนปฏิทินในวันดังกล่าวไว้ว่า “เที่ยว” แล้ว  ก็เปิดเว็บไซต์หาข้อมูลที่เที่ยวทันที!!

ได้รับความเห็นพ้องต้องการจากมวลสมาชิกนักเที่ยวว่า .. เราจะไปปราณบุรีกัน  หลังจากหาข้อมูลและจองที่พักผ่านเครือข่ายออนไลน์ เราก็ได้ที่พัก 2 คืน 2 ที่ด้วยกัน หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมต้อง 2 ที่ 2 วันด้วย ตอบแบบมีข้ออ้างก็คือ ที่พักที่เราต้องการและอุตส่าต่อราคาเขาเรียบร้อยแล้วนั้น มีที่ว่างให้เราแค่คืนเดียว เราต้องเอาด้วยเกรงใจตามมารยาทอันดีงามของคนไทย  และหาที่พักเพิ่มอีกหนึ่งที่ สำหรับอีกหนึ่งคืน

ถ้าให้ตอบตามใจผม นั่นคือ ทำไมเราต้องพักในที่เดียวกันตั้ง 2 คืนละ ในเมื่อราคาก็เท่ากัน ไม่ลองไปเสพกลิ่น เสพอาหาร เสพบรรยากาศในบ้านอื่นบ้าง เวลาเรามีแค่ 2 วัน จะมามัวอยู่กับความรู้สึกเดิมๆทำไม จริงม๊ะ?

ทริปนี้ผมแทบไม่ได้ถ่ายภาพภายในรีสอร์ทเลย ไม่อยากให้บล็อกเล็กๆแห่งนี้เป็นพื้นที่โฆษณาให้รีสอร์ทเขาสักเท่าไร แต่ก็จะเล่าและบอกข้อดีขอเสียของแต่ละที่ให้ฟังละกันนะ เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาที่จะไปอยู่

คืนแรก เราได้ที่พักที่ กาลาโมน่า รีสอร์ท มีทางเข้าได้ 2 ทาง แต่ผมจำไม่ได้ว่า ทางไหนดี และทางไหนแย่ มันมีอยู่เส้นหนึ่ง(ที่ต้องไปเสี่ยงเอาเอง) ทางค่อนข้างแย่อยู่ประมาณ 500 เมตร นั่งไปกระเทือนไป เป็นหลุมเป็นบ่อพอสมควร

กาลาโมน่า เป็นรีสอร์ทที่อยู่ห่างจากคนอื่นพอสมควร ใครที่ต้องการบรรยากาศของความเงียบสงบ ติดชายหาด ก็ต้องที่นี่เลย กลางบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ลึกแค่คอของคนสูง 167 ซม.


ข้อดีคือ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ส่วนข้อเสียคือ บ้านหลังที่ติดกัน (โดยเฉพาะหลังที่ผมพัก) มีฝาบ้านค่อนข้างบาง หรือเพราะอะไรยังไงก็ไม่รู้นะ ทำให้ได้ยินเสียงของห้องข้างๆชัด ห้องข้างๆจะเข้าห้องน้ำ เปิดประตู หรือคุยกัน ยังได้ยินเลย.. (แบบนี้ จะขัดแย้งกับข้อดีที่ว่า สงบ เป็นส่วนตัวมั้ยนะ) แต่หลังที่ตั้งอยู่เดี่ยวๆก็มีนะ อันนั้นไม่ได้ไปพัก สำหรับกาลาโมน่า ผมให้ 6.8 คะแนน

 คืนที่สองไปพักที่ พูลสวัสดิ์ ปาล์ม รีสอร์ท ที่นี่ตั้งอยู่ในที่ชุมชนพอสมควร ติดๆกันนั้นมีรีสอร์ทเจ้าอื่นๆ เรียงราย (ทราบมาว่าเป็นญาติๆกัน ทำกิจการแบบเดียวกัน) ที่นี่จะคนละบรรยากาศกับกาลาโมน่า เพราะคนจะเยอะ แต่จะเยอะเฉพาะด้านหน้ารีสอร์ทนะ เข้าไปในบ้าน ก็จะเป็นบ้านใครบ้านมัน มีต้นไม้รอบบ้าน ดูครึ้มดี

ข้อดีคือ ที่นี่มีอินเทอร์เนตใช้ฟรี บริการเป็นกันเองมาก ใจดี และดูแลดีอย่างทั่วถึง ในตัวบ้านมีอ่างอาบน้ำขนาดเล็ก ในกลางรีสอร์ทก็มีสระว่ายน้ำขนาดกำลังดี ..

ส่วนข้อเสีย คือ เนื่องจากเป็นรีสอร์ทเก่าแก่นะครับ สภาพบ้านก็ดูโทรมไปนิ๊ด ประตูบางห้องก็ปิดไม่ได้ ก็อกน้ำบางอันก็หลุด แอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าไร โดยรวมๆ ให้ 7 คะแนน เต็ม 10 ครับ

เอาละ..พูดมามาก มาดูรูปที่ไปเที่ยวกันดีกว่า …ตัดภาพรีสอร์ททิ้งไปละกันนะ


หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็ไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่ สิรินาถราชินี
ที่นี่ มีไกด์เด็กๆ พาชมธรรมชาติด้วยนะครับ

เอ่อ..บางครั้งก็เขินตัวเองเหมือนกัน แต่เอาว่า..บล็อกของเรานี่น่ะ


ตอนเดินในป่าโกงกาง มีแต่ทางเดินเป็นสะพานเล็กๆ
แต่พอขึ้นบนหอคอย ไม่คิดว่ามันจะเป็นป่าเขียวครึ้มซะขนาดนี้

เช้าวันต่อมา..
อุตส่าตื่นตั้งแต่ตี 5 ครับ เพื่อไปเก็บภาพบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้น


พวกเราเรียกมันว่า “วัวทะเล” มันมาเดินเล่นน้ำทะเลแป๊บนึง แล้วก็ไป..


ส่วนนี่.. “คนกินวัว”

ตรงนี้..อยู่ริมร้านอาหารสวัสดิการเขากะโหลก “อาหารอร่อย วิวดี”

วันแรกจบที่ตรงนี้..ภาพของอีกวันหนึ่ง  สงสัยต้องมีอีกเพจแล้วละ
ทริปนี้ถ่ายภาพมาเยอะครับ …บ้าพลังกันน่าดู กดกันกระหน่ำ
เดี๋ยวเอามาให้ดูอีก..

คืนนี้ราตรีสวัสดิ์นะ..พี่น้องชาวไทย