ของมือสอง

เรื่องมันเริ่มที่ตลาดนัดสะพานพูทธ เจ้าของเรื่องชื่อต๋อง
ไอ้ต๋องกับแฟนชอบไปเดินตลาดสะพานพุทธมาก และร้านที่มันชอบไปหมกตัวอยู่นานๆ คือ ร้านรองเท้ามือสอง (มือสาม มือสี่ หรือมือห้าก็มี)

ครั้งหนึ่ง เจ้าต๋องได้รองเท้ามาคู่หนึ่ง เป็นรองเท้าหนังสีน้ำตาล มันภาคภูมิใจมาก เพราะทั้งสวย และยังดูดีอยู่ มันอุตส่าห์เอามาอวดเพื่อนๆที่หออย่างภาคภูมิใจ ด้วยความใหม่ ถ้าเทียบกับราคาที่ให้ไป คุ้มมากๆ

คืนนั้นต๋องกลับห้องไปด้วยความอิ่มใจ
เช้าต่อมา มันก็ใส่ไปอวดเพื่อนๆที่มหาลัย ให้เพื่อนๆทายว่า ราคาเท่าไร พอเพื่อนๆตั้งราคาสูงลิ่บ มันก็เฉลยด้วยราคาที่ทุกคนคาดไม่ถึง แต่ต๋องเป็นคนที่เห่อของ แต่ไม่รักษาของ วันนั้นมันพารองเท้าคู่นั้นกลับหอด้วยสภาพที่มอซอ สะบักสะบอมพอสมควร ปกติก่อนจะใส่นั่นแหละถึงทำความสะอาดอีกครั้ง คืนนั้นเลยทิ้งรองเท้าคู่โปรดให้มอมแมมซะอย่างนั้น

ต๋องเล่าว่า ประมาณตี 2 กว่าๆ เกือบตี 3 มันได้ยินเสียงตะกุกตะกักตรงหน้าประตู ทีแรกไม่ใส่ใจ คงเป็นแมวข่วนหน้าประตู แต่คิดได้ว่าที่หอเขาห้ามเลี้ยงสัตว์ ก็ชักแปลกใจ แต่ด้วยความง่วง นอนต่อด้วยท่านอนคว่ำหน้าบนเตียง

สักพักเสียงตะกุกตะกักก็ดังขึ้นอีก ครั้งนี้ดังขึ้นกว่าเดิม!
ต๋องชักรำคาญ หันหลังกลับไปดู ทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าบนเตียง
ภาพที่เห็นคือ มีเงาตะคุ่มๆ กำลังทำอะไรสักอย่างใกล้ประตู ด้วยความกลัว ต๋องเอาผ้าห่มคลุมหัวนอนคลุมโปงจนถึงเช้า

คืนต่อมา เจ้าต๋องชักปอด แต่ต้องนอนคนเดียว เพราะชวนเพื่อนคนไหนไม่มีใครยอมมานอนด้วย (ต๋องกับแฟน รักกัน แต่ก็ไม่นิยมที่จะมาอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป)

และแล้ว..ที่เวลาเดิม(ประมาณตี 2-3) มีเสียงตะกุกตะกักตรงที่เดิมอีกแล้ว ทีแรกต๋องนอนคลุมโปง แต่คิดไปคิดมา เราจะอยู่ด้วยความกลัวแบบนี้อีกนานเท่าไร ตัดสินใจจะเปิดไฟ เพื่อดูให้ชัดเจน……แต่ สวิซไฟดันอยู่ข้างประตู ซึ่งใกล้กับเงาตะคุ่มๆนั่น ขณะกำลังคิดหาทางจะทำอะไรสักอย่าง สายตาก็ไม่ได้ละจากเงานั่น แต่เมื่อเพ่งพินิจจึงยิ่งแปลกใจ เงาตะคุ่มนั่นกำลังทำอะไรกับรองเท้าคู่โปรดของเขา!

“เหมือนกำลังนั่งขัดรองเท้าว่ะ ต..แต่ รองเท้าก็ไม่ได้สะอาดนะ ตอนเช้าก็เหมือนเดิม” ต๋องเล่า
เพื่อนๆ จึงสันนิษฐานและสรุปเหมือนกันว่า อาจเป็นรองเท้าผีสิง!

“กูว่าเมิงเอาไปถวายวัดเหอะ” เพื่อนคนหนึ่งเสนอ
“บ้า พระที่ไหนใส่รองเท้าหนัง” ต๋องค้านทันที
“งั้น เมิงก็เอาไปทิ้งซะไป ไม่เช่นนั้นเขาจะมาหารองเท้าทุกคืนแน่”
“โหยย .. เสียดายว่ะ”
“เอางี้สิ ต๋อง…” ผมแน่ะบ้าง
“แกก็เอาไปขาย หรือไม่ก็ไปจำนำดิ”

เราไม่รู้ว่าต๋องเลือกวิธีไหน จนกระทั่งวันหนึ่ง พวกเราเห็นพี่ชายของแฟนไอ้ต๋อง(ที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเจ้าต๋องนัก) ใส่รองเท้าคู่นั้น

หลังจากนั้น เจ้าต๋องก็ไม่เคยเจอเงาตะคุ่มกับเสียงตะกุกตะกักนั่นอีกเลย
แต่ความเฮี้ยนยังไม่หยุด

“เมื่อคืนพี่ชายเราถูกผีหลอก รุ่งขึ้นไข้แตกเลยอ่ะ เธอเชื่อมั้ยต๋อง ว่าผีมีจริง” แฟนมันเล่าหน้าตาตื่นเต้น แต่เจ้าต๋องแอบยิ้มอย่างสะใจ “สมๆ ๆ ชอบกีดกันเราดีนัก”​ เจ้าต๋องคิด

พวกเราสรุปกันเองว่า เป็นไปได้ไหม รองเท้าคู่นั้น อาจเป็นของที่เขาไปเอามาจากศพที่เกิดอุบัติเหตุ อาจจะลักมาหรือขอซื้อมาด้วยราคาถูกๆก็ตามที เจ้าของเขาอาจจะหวงมาก ก็เลยตามมาเอาคืน

ผู้นิยมของมือสอง ก็ระวังหน่อยละกัน
ของมือสอง คุณภาพจะให้ดีเท่ามือหนึ่งคงยาก
แต่ก็เฉพาะสิ่งของเท่านั้นนะครับ คนมือสองไม่เกี่ยว :)