Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

จส.100

อ่านต่อ

จส.100 รัก

เรื่องสั้นสั้น 6 February 201431 July 2015

เบื้องหน้าของเขาคือถนน 3 เลนที่คลาคล่ำด้วยฝูงรถซึ่งกระเถิบกันไปเต็มพื้นที่ถนนจนหาเลนไม่เจอ ใช้คำกิริยาว่า “กระเถิบ” คงไม่ผิดนัก เพราะรถค่อยๆ ไปทีละสเต็ป ช้ากว่ารถมอเตอร์ไซต์หรือแม้แต่จักรยาน ดีกว่าหน่อยตรงที่มีแอร์เย็นๆ และเพลงเพราะๆ  เขาเลือกที่จะฟังช่องรายงานจราจรแทนที่จะฟังเพลง  มิใช่เพราะอยากรู้เส้นทางไหนรถติดจะได้หลีกเลี่ยง หรือใคร่รู้ในข่าวสารจราจร เขาเพียงอยากได้ยินเสียง ‘เธอ’ ในทุกๆเช้าที่ขับรถฝ่ารถติดไปทำงาน! เวลา 07.00 น. จนถึง 09.00 น. เขาจำช่วงเวลาที่เธอจัดรายการได้ดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องนั่งนิ่งๆอยู่บนรถในถนนอันคับแคบ เขาเฝ้าฟังคนที่โทรไปรายงานผลจราจรจากจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพ น้ำเสียงที่เธอเจรจากับแท็กซี่ หน่วยกู้ภัย ตำรวจจราจร หรือแม้แต่คนทั่วๆไปที่โทรมารายงานผล ช่างไพเราะ น้ำเสียงสดใส แฝงด้วยความเป็นห่วงใยเมื่อสมาชิกโทรมาแจ้งอุบัติเหตุ เธอช่วยติดต่อประสานงานให้ผู้ใช้รถบนท้องถนนที่ประสบปัญหา สามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดี เธอ คือ ‘นางฟ้าจราจร’ เขาเฝ้าฝันสักครั้งหนึ่ง อยากจะโทรเข้าไปในรายการบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโทรไปรายงานผลอะไร รายงานผลจราจรรึ? เขากังวลที่จะใช้ศัพท์เทคนิคทางจราจร ไม่ว่าจะเป็นขาเข้า ขาออก รถขาเข้าคือทางไหน และรถขาออกคือจากไหนออกไปไหน แล้วถ้าเธอถามกลับมาว่า เราอยู่ในช่วงไหน เราจะตอบเธอยังไงดี? ช่วงกำลังรัก หรือช่วงกำลังคิดถึง ถ้าเธอไม่ตลกกับมุขนี้ละ? เราไม่เก่งเรื่องการจราจร รู้แต่ว่า ณ จุดตรงนี้รถติด แต่ข้างหน้าอีก 100 เมตร 200 เมตร หรือ 500 เมตรจะติดไหม? ถ้ารถไม่ติด แต่เราแจ้งว่าติดจะผิดไหม? เรื่องจะโทรรายงานผลจราจร เป็นอันต้องยกเลิกความคิด รายงานอุบัติเหตุ  ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นรถกระบะชนท้ายรถเก๋ง ส่งผลให้รถติดเพิ่มความติดทวีคูณยิ่งหนักกว่าเดิม คู่กรณีทั้ง 2 ยังไม่ยอมเอารถออกจากจุดเิกิดเหตุ ต่างโยนความผิดใส่กันไปมา ต้องรอตำรวจมาเจรจาตั้งนานสองนาน รถจากถนน 3 เลนเหลือ  2 เลน ค่อยๆขยับไปจนถึงจุดเกิดเหตุ เขาพยายามเพ่งมองความเสียหายที่เกิดจากการเฉี่ยวชน มีเพียงรอยถลอกเล็กๆจากกันชนหน้า แผลเท่านี้เอาน้ำฉีดแรงๆ ก็หาย แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ยอม เขาละอายที่จะโทรแจ้งอุบัติเหตุที่เล็กน้อยแต่ส่งผลให้รถติดได้มหาศาลนี้ และเขาช้ากว่าคนอื่นเสมอ ไม่นานจากเหตุเกิดเขาได้ยินเสียงคนโทรเข้าไปรายงานผลแล้ว เขาคงเหมาะที่จะฟังเธออย่างเดียวจริงๆ สักครั้ง เขาอยากจะฟังเสียงเธอที่คุยกับเขา ไม่ใช่ฟังเธอผ่านวิทยุอย่างนี้ แว่บความคิดหนึ่งเกิดขึ้น เขารีบหยิบโทรศัพท์ รู้สึกมีความสุขเมื่อกดหาเบอร์ที่คุ้น แต่ไม่เคยกดหาแม้แต่ครั้งเดียว…

จราจร จส.100 รัก
อ่านต่อ

แดดร่มลมตก ณ วัดเล่งเน่ยยี่ ๒

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 March 20099 November 2017

วัดเล่งเน่ยยี่ 2 หรือ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ตั้งอยู่ที่บางบัวทองครับ เดินทางไปสะดวก มีทั้งรถเมล์ และรถตู้

วัดเล่งเน่ยยี่

เมืองต้องคำสาป

เรื่องทั่วไป 8 March 2010

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ..ร้อนขนาดอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันเช็ดตัว ตัวก็เกือบแห้งแล้ว แอร์คอนดิชั่นแต่ละบ้านทำงานหนักเป็นพิเศษ ทำความเย็นให้บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ขณะเดียวกันมันก็ระบายความร้อนให้โลก คนกลุ่มเล็กๆเย็นสบายนอนห่มผ้าหนาๆหลับฝันดี ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ร้อน โลกก็ร้อน!! ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อยแล้วนะครับ สำหรับเรื่องโลกร้อน หลายคนพยายามผูกให้เข้ากับคำทำนาย(ของใครไม่รู้) ที่บอกว่าโลกจะแตกในปี 2012 มีภาพยนตร์หลายเรื่องทำออกมาเขย่าขวัญกันอีก เพิ่มความน่าเชื่อถือของคำทำนายดังกล่าวมากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ ขณะนี้ทั่วโลกเกิดวิกฤตการณ์แปลกประหลาดของธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เริ่มตั้งแต่.. แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เฮติ.. แผ่นดินไหวที่ชิลี.. แผ่นดินไหวที่ตุรกี.. น้ำท่วมที่อเมริกา.. โคลนถล่มในอีกหลายประเทศแถบตะวันออกกลาง.. ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย.. ซึนามิถล่มที่อินโดนีเซีย.. น้ำในแม่น้ำโขงแห้งที่สุดในรอบ 30 ปี.. …ฯลฯ….. ตอนนี้นานาประเทศกำลังตกใจต่อวิกฤตการณ์เหล่านี้มาก ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนอีก  หลายๆประเทศตกอกตกใจและเริ่มคิดถึงแนวทางแก้ไข รวมถึงการป้องกันและการเตรียตัวรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้.. เวลาเดียวกันกับที่นานาประเทศกำลังเตรียมตัวรับมือกับวิกฤตการณ์นี้ ประเทศไทยก็เตรียรับมือเหมือนกัน แต่ไม่ได้เตรียมตัวรับมือวิกฤตการณ์ธรรมชาติอะไรหรอกนะครับ..เตรียมรับมือกับวิกฤตการณ์คนไทยด้วยกันนี่แหละ…เห็นชาติโน้นชาตินี้เขาประสบปัญหากลัวจะน้อยหน้า ก็เลยสร้างปัญหาขึ้นซะเองเลย.. แม้ตอนนี้นักเรียนจะปิดเทอมแล้ว  แต่เราก็มีกีฬาสีให้ชม..มหกรรมกีฬาสีทำลายชาติกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้วในไม่กี่วันข้างหน้า ชาวประชาตื่นเต้นจนตัวสั่น ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยง พี่ป้าน้าอาพ่อเฒ่าแม่เฒ่าในชุดสีแดงต่างไม่หวั่นไหวต่อความร้อนแรงแห่งแดด แดดจะร้อนเท่าไรหากเทียบกับใจที่ร้อนแทบระเบิดเมื่อนายใหญ่ถูกยึดทรัพย์ไปกว่าครึ่ง ..แค้นครั้งนี้ต้องมาชุมนุม เมื่อครั้งในอดีตชาวบ้านบางระจันรวมกันด้วยพี่ป้าน้าอาทั้งหญิงชาย รวมผนึกกำลังเพื่อป้องกันดินแดนเกิดจากอริศัตรูคือพม่ารามัญ ครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันไม่อาลัยในชีวิตหากเทียบกับผืนแผ่นดินไทยที่ยิ่งใหญ่ ยามสละเลือดแลชีวิตเพื่อต้านพม่า วีรกรรมครั้งนั้น ทำให้อนุชนรุ่นหลังรำลึกถึงและกล่าวขวัญกันสืบมาจนปัจจุบัน.. หวนกลับมาถึงพี่ป้าน้าอาในชุดสีแดงในปัจจุบัน… ชาวบ้านบางระจันหันหน้าออกนอกประเทศ หันหลังให้แผ่นดินมาตุภูมิ เตรียมประจัญกับข้าศึก.. กลุ่มเสื้อแดงหันหลังออกนอกประเทศ หันหน้ามาสู่แผ่นดินเกิด..เตรียมประจัญหน้ากับคนไทยด้วยกันเอง.. เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเขมรแบ่งกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ฆ่าฟันกันเอง มีคนตายเป็นล้าน เรามองเพื่อนบ้านแล้วพูดว่า “ประเทศเขมรเหมือนถูกสาป คนในชาติต้องมาฆ่ากันเอง” มาวันนี้..เรายังจะกล้าพูดประโยคเดิมได้อีกหรือไม่นะ ฤๅคำสาปมันเดินได้  ..มันกำลังเดินมายังประเทศไทยแล้ว

อ่านต่อ

พระเจ้าสร้างคนไทย(จริงหรือ)~

เรื่องทั่วไป 16 May 201114 May 2016

ก็ไม่รู้ว่าใครแต่งเรื่องนี้อ่ะนะครับ แต่หลายๆเรื่องในปัจจุบันที่เกิดในบ้านเมืองเรา เห็นแล้วก็ได้แต่ เฮ้อ ..ๆ ๆ  ๆ  บ้านเมืองอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่เคยไป แต่เมืองไทย มีข่าว ..ขโมยสายไฟ ขโมยเสาธง ขโมยพระพุทธรูป ขโมยล้อรถ ขโมย ๆ ๆ ๆ ..ๆ  มีข่าวแปลกๆ ข่าวห่าเหวอะไรมากมายในทุกวงการ เมืองไทยที่เมื่อก่อนเคยทัดเทียมกับญี่ปุ่น ก็ถูกญี่ปุ่นทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น ปัจจุบันกำลังจะถูกเวียดนามหรือลาวแซงหน้า และล่าสุดถูกเขมรตีหัว!! เมืองไทยเราโชคดี..แต่พวกเราๆเองไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี พออ่านเมล์ฟอร์เวิร์ด(ด้านล่างนี้) ก็เลยเกิดอาการเห็นด้วย ฤๅพระเจ้าสร้างเรามาแบบนั้นจริงๆ ..ลองอ่านดูครับ (ไม่รู้ใครแต่งแต่โดน) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ ทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกาแล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล แต่ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้ด้วย เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาลเพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้ด้วย ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ทั้งหมด…..จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน คราวนี้พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีนทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาดข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้าคิดว่าประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆจะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้ เมื่อคิดได้เพื่อเป็นการป้องกัน ประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้างคนไทยขึ้นมา!!

คนไทย พระเจ้า

รู้เขา (แต่)ไม่รู้เรา

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 18 February 2011

Facebook, Twitter หรือระบบ Social Network ตัวอื่นๆที่อนุญาตให้ผู้ใช้โพสต์ข้อความลงบนพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้เรารู้จักตัวตนของคนอื่นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบัน สามารถโพสต์ข้อความได้แบบ Everything Everywhere คือโพสต์อะไรจากที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ เมื่อเกิดอารมณ์ ความรู้สึก โกรธ โมโห ดีใจ เสียใจ ตอนไหนยังไง ก็แสดงออกออนไลน์มาได้เลย ข้อดี คือ ถ้าเจอเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน หรือที่ไหนก็ตาม เราก็โพสต์แจ้งข่าวสารแด่เพื่อนฝูงและชาวโลกได้เลย ณ ขณะนั้น เพื่อนและชาวโลกก็สามารถรับรู้ข่าวสารได้ในทันที ข้อเสีย คือ ถ้าโมโห โกรธ หรือเจอเหตุการณ์ที่น่าสนใจเข้า ไม่ทันได้พิจารณาให้ดีก็รีบโพสต์แจ้งชาวโลก บางข้อความอาจกลายเป็นการด่า ประจาน หรือนำความลับของคนอื่นมาเผยแพร่ เมื่อไม่นานมานี้ พนักงานต้อนรับในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีน เห็นดาราเข้ามาเช็คอินเพื่อพักในโรงแรมที่ตนทำงานอยู่ จึงรีบทวิตเตอร์บอกเพื่อนตัวเอง จากข้อความทวิตเตอร์นั่นเอง ทำให้มีแฟนคลับแห่มาขอลายเซ็นต์ จนดาราคนนั้นที่ตั้งใจจะมาพักผ่อนเงียบๆ ไม่ได้รับความสุขตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ความรู้ถึงผู้บริหาร พนักงานที่ทวิตเตอร์คนนั้นจึงถูกให้ออกจากงาน ข้อความที่ถูกโพสต์ผ่าน Facebook หรือ Twitter ส่วนใหญ่ออกมาจากความรู้สึกและอารมณ์สดๆร้อนๆของผู้โพสต์ เมื่อก่อนถ้าเราไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจบางอย่างเข้า ก็ต้องกลับมาถึงบ้าน > เปิดคอมพิวเตอร์ > ต่ออินเทอร์เนต > เปิดเว็บไซต์ > ล็อกอิน > โพสต์ข้อความ จะเห็นว่ากระบวนการกว่าจะถึงขั้นตอนของการโพสต์ข้อความมีมาก จนทำให้อารมณ์ที่คุกรุ่นเบาบาง หรือแทบจะหายไปหมดแล้ว และการปะติดปะต่อเรียบเรียงเรื่องราวก็เริ่มเลือนลางจำไม่ค่อยไ้ด้ แต่ปัจจุบันขั้นตอนการโพสต์ข้อความจาก 5-6 ขั้นตอนลดเหลือขั้นตอนเดียว คือ โพสต์ได้เลยทันที!! ดีใจ== โพสต์ เสียใจ== โพสต์ โกรธ == โพสต์ด่า เมื่อกระบวนการโพสต์สั้นลง มันจึงไม่ผ่านกระบวนการคิด ข้อความทุกอย่างที่เราโพสต์ มันจะบอกตัวตนของเราทั้งหมด!! ผม Follow นักข่าวหลายคน เพื่อหวังติดตามข่าวสารแบบใกล้ชิด จึงทำให้พบว่า นักข่าวที่เราเห็นเขานั่งอ่านข่าวหน้าทีวีทุกวันนั้น เขาอ่านอย่างเดียวตามสคริปต์ที่มีคนเขียนให้อย่างสวยหรู เพราะข้อความที่เขาโพสต์เองบนทวิตเตอร์ พบว่ามันไม่เหมือนเขาในจอทีวี ในโลก พ.ศ. 2554 เราสามารถเรียนรู้อุปนิสัยใจคอคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ผ่านตัวหนังสือไม่กี่ตัว คำถามต่อไปก็คือ คุณอยากให้คนอื่นๆรู้จักคุณในแง่ไหน?…

facebook twitter

สาระแน..อำเป้ง

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

เข้าเรื่องแบบไม่ต้องอ้อมเลยละกัน วานนี้ผมไปดูหนัง สาระแนห้าวเป้งมา!! โดยส่วนตัวชื่นชอบรายการนี้ในจอทีวีมานานมแล้ว ตั้งแต่อยู่ช่องสามวันเสาร์แล้วระเห็ดไปอยู่ช่อง ไอทีวี เปลี่ยนชื่อเป็นสาระแนจังดึก อยู่ไอทีวีก็ไม่นิ่งสักที เดี๋ยวโผล่วันอังคาร เดี๋ยวโผล่วันพุธ เดี๋ยว 4 ทุ่ม เดี๋ยว 5 ทุ่ม จนไอทีวีมีอันต้องจบลง ก็เร่ร่อนมาอยู่ช่อง 5 ในเวลาเกือบเที่ยงคืน และล่าสุดก็ได้กลับบ้านเก่าช่อง 3 ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนของสาระแนคงหายไปเยอะเหมือนกัน จากการร่อนเร่อยู่ที่จุติไม่ได้เช่นนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็สามารถติดตามชมได้เป็นระยะๆ  แต่ก็ยังชื่นชอบรายการนี้เหมือนกับที่ชื่นชอบรายการชิงร้อยชิงล้าน!! ณ วันนี้สาระแนกลายเป็นหนังจอใหญ่แล้ว มีหรือที่ผมจะพลาด!! เย็นของวันแรงงานแห่งชาติ ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ คนเยอะมากกกกกก แต่เหมือนมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน เข้าไปจองตั๋วปุ๊บได้รอบที่ไม่ต้องนั่งรอเวลา และได้ที่นั่งแถว D แถวค่อนข้างดี ในขณะที่แถวอื่นๆ นับตั้งแต่สองแถวแรกจากหน้าจอเต็มหมด ด้วยความแปลกใจว่าทำไมที่นั่งตรงนี้ถึงว่าง มีผีสิง วิญญาณอาฆาตที่นั่งนั่นอยู่หรือเปล่า จึงถามคนขาย เจ้าหล่อนบอกว่า มีคนโทรมาจองล่วงหน้า แต่ไม่มา..โอ้ ~ แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ข้างๆที่ผมนั่ง มีผู้หญิงคนนึ่งมาดูหนังคนเดียว นั่งเงียบๆ เจียมๆอยู่ ผมก็เข้าใจนะ ความรู้สึกของคนมาดูหนังคนเดียว ต้องเจียมๆ เงียบๆหน่อย ถึงหนังจะสนุกสักปานใดก็ตาม แต่ที่ผมเข้าใจมาทั้งหมดนั้น ผิดถนัด ตลอดระยะเวลาที่ดูหนัง คุณหล่อนรับโทรศัพท์ 2 ครั้ง!! ดังด้วย แค่นั้นยังไม่พอ เสียงหัวเราะของคุณเธอ โคตรทุเรศศศศศศศศศศ…ไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่ไหนหัวเราะได้ทุเรศปานนี้ และที่สำคัญคุณเธอมักจะหัวเราะในมุกที่คนอื่นไม่หัวเราะ ตอนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาขำกันทั้งโรง คุณเธอนั่งเงียบ แต่พอมุกเสี่ยวๆ มุกที่ไม่ควร, ไม่น่า, ไม่ต้อง และไม่จำเป็นต้องขำ เธอขำ~ ย้ำอีกครั้งว่า เสียงหัวเราะเธอ อุบาทว์มากกกกก แต่ที่อุบาทว์กว่าเสียงหัวเราะของเธอคือ การรับโทรศัพท์ในโรงหนัง เธอแย่มากกก ขอประณามเธอเลย ยัยคนที่นั่งแถว D14 เรื่องสาระแนห้าวเป้ง รอบ 17.40 น. วันที่ 1 พ.ค. 2552 นั่งใกล้คนไม่ดี พลอยทำให้บรรยากาศการดูหนังมีประสิทธิภาพลดลง 30 เปอร์เซ็นต์!! บ่นซะจนลืมเลยว่า…

โชคดีที่เป็นหมา

ไดอารี่ 25 June 2011

จะดีก็ดี จะไม่ว่าไม่ดีก็ไม่รู้จะใช่หรือเปล่านะครับ ‘จิ๊กกี๋’ ยามสุภาพสตรีสีดำประจำบ้านที่ผมได้แนะนำให้รู้จักในบล็อกก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอซึมๆไป ผมได้พาไปให้หมอเจาะตรวจเลือด..ปรากฏผลออกมาว่า เธอเป็นโรค ‘ไต’ ระยะที่ 3  (โรคไตมี 4ระยะ) ระยะที่สามถือว่าเป็นระยะที่อันตรายพอสมควร จึงไม่แปลกใจที่เธอมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัด หมามันพูดไม่ได้ว่ามันเป็นยังไง มันรู้แต่ว่าเมื่อไม่สบายตัว มันก็จะไม่สนุกสนาน ไม่เล่น ไม่ร่าเริง ซึ่งจากอาการเหล่านี้ถ้าคนที่สนใจหมาสักนิ๊ดก็จะรู้ทันทีว่ามัน “ไม่ปกติ” จากการสันนิษฐาน จิ๊กกี๋เป็นโรคไตเพราะ 2 สาเหตุหลัก คือ 1. อาหาร อาหารที่มีรสจัดมาก ถูกปากหมาแต่ไม่ถูกต่อโรค 2. อั้นฉี่ น่าจะเป็นสาเหตุหลัก จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในรั้วบ้าน และนั่นหมายความว่ามันจะมีโอกาสได้อึฉี่วันละสองครั้งเท่านั้น คือ เช้ากะเย็น ก่อนผมออกไปทำงานและหลังผมเลิกงาน ยิ่งกว่านั้นจิ๊กกี๋เคยอั้นฉี่นานสุด 3 วัน!!! หลังจากนี้ก็เข้าสู่การรักษาตัว หมอบอกว่ามีโอกาสที่หายได้ แต่ต้องมีวินัยในการกินอาหาร กินยาอย่างสม่ำเสมอ และ..ต้องให้น้ำเกลือทุกวันๆละ 300 ซีซี เรื่องอาหารและยาไม่ยากเท่าไร ถึงแม้มันจะเคยบ้วนยาทิ้งก็ตาม แต่ก็สามารถบังคับขืนใจให้มันกินไปจนได้ แต่การให้น้ำเกลือถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม หมอได้ทำตัวอย่างให้ดู ก็เห็นว่าไม่ยาก เพราะแค่เจาะเข็มให้เข้าสู่ผิวหนัง หมาไม่รู้สึกเจ็บหรือขัดขืนแต่อย่างใด ..ดังนั้น ผมคิดว่าผมทำได้ เมื่อวานลองทำเป็นครั้งแรก..อืมมม ก็ไม่ยากเท่าไร ได้อยู่ จิ๊กกี๋เป็นโรคไตระยะที่สาม ถ้าเป็นคนก็คงจะเครียดพอสมควร แต่นี่เป็นหมา ข้อดีของการเป็นหมาคือมันไม่ต้องรับรู้หรอกว่ามันเป็นโรคอะไร เพราะฉะนั้น มันก็ไม่ต้องเครียด ซึ่งการไม่เครียดนี่เองมีผลดีต่อตัวหมามาก จะเห็นได้ว่าหลายๆคนพอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคโน่นโรคนี่ อาการของโรคยังไม่ได้กำเริบเท่าไร แต่อาการเครียดจิตจับจดอยู่กับโรคจนอาการทรุดกว่าที่ควร พอมานั่งคิดข้อนี้ก็จึงมานั่งคิดว่า.. “อืมม เป็นหมานี่ก็ดีเหมือนกันนะ”

จิ๊กกี๋ ไต
อ่านต่อ

ปีศาจหลับ

บ่น, ไดอารี่ 22 April 201422 April 2014

หลายๆคนโดยเฉพาะเด็กหงส์ คงกำลังคิดสมน้ำหน้าทีมคู่แค้นอย่างแมนฯยู ที่ตกต่ำอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายสิบปี หลังจากเปลี่ยนมือกุนชือมาเป็นเดวิดมอยส์ สถานการณ์ทีมก็ย่ำแย่ลงตามลำดับอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือทีมที่ยิ่งใหญ่ทีี่สุดในเกาะอังกฤษ ทีมที่มีคนไทยเชียร์เยอะที่สุด เยอะพอๆกับคนไม่เชียร์ (แถมเกลียดเข้าไส้) ถ้ามองอย่างคนอื่นที่ไม่ใช่เด็กผีมอง ก็จะรู้สึกเหมือนที่คนทั่วไปรู้สึก “มอยส์มือไม่ถึง” มอยส์นะเหรอมือไม่ถึง.. ลืมไปแล้วเหรอว่า ก่อนมอยส์จะมาแมนฯยู เขาได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้ทีมเอฟเวอร์ตันเพียงไร เอฟเวอร์ตันเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เป็นทีมเด็กหนุ่มหน้าใหม่ หัวใจว้าวุ่น นักเตะไม่ค่อยมีชื่อเสียงเรียงนาม ค่าตัวราคาถูก ประเภทซื้อมาไม่กี่ตังค์แถมข้าวสารให้อีก 6 กระสอบ  ใครเล่าปลุกเด็กหนุ่มเหล่านั้นให้มีมูลค่า เสกได้ราวกับพ่อมดดับเบิ้ลดอร์แห่งฮอกวอดส์ เอฟเวอร์ตันเล่นดีเกินค่าตัว จนไต่ขึ้นอันดับต้นๆของตารางพรีเมียร์ชีพ ขนาดนักเตะก็อกแก๊กโนเนมขนาดนั้น กุนชือหัวใจเบียร์ช้างอย่างเดวิด มอยส์ ยังสามารถปลุกปั้นจนกระฉ่อนได้ นับประสาอะไรกับนักเตะแมนฯยู ที่ฝีเท้าระดับเทพอยู่แล้ว มอยส์จะทำไม่ได้!! ทำไมนะเหรอครับ? “อเล็กเฟอร์กูสัน” คือ เหตุผล. อเล็กเฟอร์กูสันที่คุมทีมแมนฯยูมา 27 ปี พาทีมประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งถ้วยน้อยใหญ่ สถิติทั้งหลายเฟอร์กูสันทำลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา.. ความยิ่งใหญ่ของอเล็กมากมายขนาดนั้น จะต้องถูกลืมหลังเปลี่ยนมือกุนชือแค่นั้นเหรอ? หากมอยส์รับไม้ต่อ แล้วสร้างความยิ่งใหญ่กว่า หรืออย่างน้อยเท่าของเฟอร์กูสัน ชื่อของเฟอร์กูสันจะถูกลืมในชั่วข้ามคืน มันเป็นการไม่ให้เกียรติ.. สำหรับผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าเกียรติยศ ทันทีที่มอยส์พาทีมแมนฯยูหกล้ม ทุกคนจะรำลึกถึงเฟอร์กูสัน มอยส์ยอมให้ทุกคน เกลียดตัวเองในปีแรกที่เข้ารับหน้าที่ก่อน เพื่อสดุดีความยิ่งใหญ่ของเฟอร์กูสัน ให้ภาพของเฟอร์กูสันยังประทับอยู่ในจิตใจของเหล่าสาวกอย่างแนบแน่นเสียก่อน และหลังจากปีแรกผ่านไป นั่นแหละคือตัวตนที่ีแท้จริงของมอยส์ ชายผู้ยอมอดเปรี้ยวเพื่อกินหวาน แมนฯยูไม่มีแชมป์ติดมือเพียงปีเดียว ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต  แต่นับจากฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป ..ปีศาจที่หลับใหลกำลังจะตื่นเพื่อทวงบัลลังก์!!    

อเล็กเฟอร์กูสัน เดวิดมอยส์ แมนฯยู

เมื่อเสือสิ้นลาย

เรื่องทั่วไป 8 December 2009

หลังจากข่าวไทเกอร์วูดเตียงหัก ตามมาด้วยประดาหญิงทั้งหลายกว่า 10 คนออกมาแฉว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับไทเกอร์ กาละแมร์หญิงตัวดำปากกล้าด่าผู้ชายจนได้ดีรีบทวีตบอกประดา followers ของตนว่า “ผู้ชายไม่ว่าใครมีเรื่องที่ทำให้ตกม้าตายอยู่แค่ 3 เรื่อง : เงิน อำนาจ และผู้หญิง !!!” ผมรีบตอบกลับในทันที “แต่ผู้หญิงมักตกม้าตายด้วย 2 เรื่อง”  ผมไม่ได้ระบุไปว่า  2 เรื่องคืออะไรบ้าง แต่ก็คงพอเดาๆกันได้ เรื่องผัวๆเมียๆ รักๆเลิกๆนี่ เป็นที่ชอบอกชอบใจกันนัก ไม่ว่าจะชาติไทยหรือชาติไหน จะเห็นว่าข่าวดาราได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทย จากการจัดอันดับ(ของสถาบันใดไม่ได้เปิดเผย)  การที่คนชอบข่าวดารา เพราะติต่างว่าตัวเองรู้จักดาราคนโน้นคนนี้ดี ถามว่ารู้จักจากไหน รู้จักจากทีวี !!! รู้จักแค่นั้น ไปสรุปเขาได้เหรอ ว่าเขาดีหรือไม่ดี? ไทเกอร์วู้ด นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมาเป็นข่าวเพราะประสบอุบัติเหตุขับรถคาดิแล็ค SUVชนหัวท่อดับเพลิง หลังจากทะเลาะกับภรรยาเรื่องที่เขาแอบไปนอกใจ และหลังจากเป็นข่าวก็มีประดาหญิงสาวกว่า 10 นางออกมาแฉกันอย่างออกรสว่ามีความสัมพันธ์กับวู้ดส์อย่างลึกซึ้งทั้งนั้น (อยากรู้ว่า ทั้ง 10นางนั้น มีหน้าตาอย่างไรบ้าง คลิกที่นี่จ๊ะ) รวมรายชื่อกิ๊ก 10 คนของไทเกอร์  วูดส์ 1. ราเชลล์  อูชิเทลล์ คลับโปรโมเตอร์สาวจากลาสเวกัสและนิวยอร์ค 2. จาไมอี  กรับบ์ สาวเสริฟจาก VH1 academy 3. คาลิคา  โมควิน สาวเสริฟจากลาสเวกัส ไนท์คลับเอ็กคลูซีฟ 4. แจมมี  จังเกอร์ สาวเสริฟจากลาสเวกัส 5. มินดี  ลอว์ตัน สาวเสริฟจากออร์ลันโด 6. โคลี่  ลิสต์ นางแบบจากNYC 7. ฮอลลี่  แซมสัน เอมมานูเอล ดาราภาพยนตร์วาบหวิว 8.-10. ไม่เปิดเผยชื่อ ท่าทางเจ้าสือดำวู้ด ชื่นชอบหญิงสาวที่มีอาชีพเป็นพนักงานเสริฟเป็นพิเศษ เพราะ 4 ใน 10 คนของวู้ดนั้น มีอาชีพเป็นสาวเสริฟ นี่ถ้าวู้ดมาตีกอล์ฟที่เมืองไทยสัก 1-2 เดือน ผมว่าคงมีรายชื่อพนักงานเสริฟจากร้านลาบยโสพ่วงท้ายไปด้วยแน่ๆ ข่าวว่าตอนนี้ภรรยาสุดเลิฟของวู้ดได้ขนของออกจากคฤหาสน์วินเดอร์แมร์ ที่มีมูลค่า 91 ล้านบาทแล้ว…

ไทเกอร์วูด
อ่านต่อ

เที่ยวซาฟารีเวิลด์

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 August 200815 June 2019

ไปเที่ยวสวนสัตว์ครั้งสุดท้ายเมื่อไรกัน? นึกถึงวัยเด็ก เราต่างโหยหาการไปเที่ยวสวนสัตว์ อยากเจอช้าง ม้า วัว ควาย (ตัวหลังนี้ ไม่ค่อยอยากเจอเท่าไร เพราะมีเยอะแยะไปหมดตามท้องถนน หลังๆมานี้มีบางตัวหลุดรอดเข้าไปในสภา ~ เฮ้อ) อยากเห็นเสือ ม้าลาย อูฐ ยีราฟ ตัวเป็นๆ เห็นแต่ในทีวี ในหนังสือ แล้วคุณครูก็ทำให้ฝันเราเป็นจริง เมื่อโรงเรียนจัดทัศนาจร ก็มีความสุขตามประสาเด็กครับ นอกจากเห็นสัตว์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีการโชว์การแสดงของสัตว์แสนรู้อีกต่างๆนานาๆ สนุกสนานครับ มีสัตว์ให้ดูทุกชนิด ยกเว้น เหี้ย ตัวนี้ต้องไปหาดูแถวธรรมเนียบ นั่นคือวัยเด็ก ผ่านเวลามานาน เราลืมที่จะไปเที่ยวสวนสัตว์แล้ว ไปเที่ยวห้าง เที่ยวผับ เที่ยวบาร์ซะมากกว่า ผมนึกถึงบรรยากาศเก่าๆนี้ เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา (12 ส.ค.) จึงตั้งใจจะไปเที่ยวสวนสัตว์เปิด ซาฟารี เวิลด์ ออกเดินทางตอน 9 โมงเช้า ไปถึงที่หมายประมาณ 9.40 มาถึงเช้านักท่องเที่ยวยังมาน้อย ซาฟารีเวิร์ดมี 2 โซนให้เลือกเที่ยวครับ 1 คือ ซาฟารีเวิร์ด สวนสัตว์เปิด นั่งรถดูสัตว์ ห้ามลงจากรถ โซนนี้สนนราคาที่ท่านละ 240 บาท อีกโซนหนึ่ง ราคาท่านละ 400 กว่าบาท นอกจากจะให้นั่งรถชมสัตว์แล้ว จะให้ท่านดูการแสดงของสัตว์แสนรู้ต่างๆอีกด้วย ~ ผมเลือกโซนแรกครับ นั่งรถชมสัตว์ต่างๆก็พอ เนื่องจากเมื่อคืนมีฝนตกนิดหน่อย พื้นจึงแฉะไปนิดนึง แต่ไม่เป็นปัญหาครับ เพราะไม่ได้ลงจากรถเลย.. ได้เจอฝูงกวาง อูฐ แรด ม้าลาย และนกตัวใหญ่ๆที่บินกันเต็มท้องฟ้า ไม่ได้อยู่แต่ในกรงอย่างที่เคยเห็นตามสวนสัตว์ทั่วๆไป และแล้วเราก็ผ่านเข้าโซนสัตว์อันตรายอย่าง สิงโต เสือ และหมี โซนนี้จะมีขอบเขตชัดเจน และมีกรงขนาดใหญ่มากรอบๆพื้นที่ กรงใหญ่จนไม่รู้สึกว่าเป็นกรง พอเข้าโซนนี้แล้ว จะถูกห้ามเปิดกระจก และห้ามลงจากรถเด็ดขาด ก็จะได้เจอเสือเดินกันเป็นกลุ่ม เสือ สิงโต และหมี ใช้เวลาในสวนสัตว์ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ออกจากซาฟารีเวิลด์ มุ่งหน้าไปวัดโสธร แปดริ้ว…

ซาฟารีเวิลด์ สวนสัตว์

สู่สุคติ..

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 June 200829 May 2015

สัจธรรมหนึ่งที่แม้จะเข้าใจ แต่ก็ยากจะทำใจเมื่อเกิดขึ้นกับตัว นั่นคือ ความพลัดพราก ผมมีเพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนป.ตรีด้วยกันหลายคน และหนึ่งในนั้น คือ นพดล นพดลเป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี สุภาพ เรียบร้อย มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเพื่อน เก่ง แข็งแรง หลายครั้งที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ก็ได้นพดลเป็นคนนำทาง และวางแผนการเที่ยวได้อย่างเรียบร้อยทุกครั้ง นพดลเป็นคนที่ไม่ซีเรียสในทุกๆเรื่อง ครั้งหนึ่งเมื่อกูเกิ้ลกำลังเริ่มบูมในเมืองไทย ใครหาอะไรไม่เจอ คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องบอกกูเกิ้ล และกูเกิ้ลก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ผมได้บอกศักยภาพของกูเกิ้ลให้นพดลฟังว่า “เนี่ยะ แค่ใส่ชื่อ และนามสกุลของคนที่เราอยากค้นหาไป กูเกิ้ลก็จะหาให้จนเจอ” นพดลแสดงอาการตื่นเต้น และบอกว่า ลองใส่ชื่อพ่อของเขาลงไปสิ ขณะที่ผมกำลังจะพิมพ์ชื่อของเขา ปากก็ถาม “พ่อไปไหนแล้วละ” นพดลตอบด้วยสีหน้าปกติว่า “ตอนเด็ก พ่อลงเรือไปหาปลา พอกลับมา บอกแม่ว่าไม่สบาย ขอเงินแม่ไปหาหมอ 200 บาท พ่อไปหาหมอด้วยเงิน 200 บาท จนป่านนี้ยังไม่กลับมา” ผมฟังแล้วนึกสงสารในใจอย่างบอกไม่ถูก จากเรื่องกูเกิ้ลกลายมาเป็นเรื่องความพลัดพรากไปเสียได้ แต่นพดลก็ไม่ได้มีสีหน้าเศร้าใจอะไร แต่อาจจะผ่านความรู้สึกนั้นมานานแล้วจนเคยชิน ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้น ได้ใส่ชื่อพ่อของนพดลเพื่อค้นหาในกูเกิ้ลหรือเปล่า หรือว่าค้นหาแล้วแต่ไม่เจอ.. ผมเคยชวนนพดลไปบริจาคเลือดที่สภากาชาด ครั้งนั้นหลังจากบริจาคเสร็จแล้ว เดินไปเที่ยวในสวนงูต่อ นพดลเป็นลมในสวนงู ขณะนอนเอาแรงในสวนงู นพดลยังอารมณ์ดีเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยไปบริจาคเลือดกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ด้วยความคะนองเลยแข่งกันว่าใครจะบริจาคเสร็จก่อนกัน พอเข็มแทงแขนเพื่อนบริจาคเลือดเท่านั้น ทั้งคู่ก็พยายามบีบมือเพื่อให้เลือดออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อนอีกคนบีบแรงจัด จนเข็มที่เสียบที่แขนกระเด็นออก เลือดพุ่งกระฉูด ฟังนพดลเล่าไป ก็หัวเราะกันไป นพดลเป็นคนอารมณ์ดีได้ทุกสถานการณ์ สมัยเรียนต้องทำงานกลุ่มกันดึกๆดื่นๆ กลับบ้านตี 3 ตี 4 นพดลก็ไปด้วย แม้จะไม่ค่อยได้ช่วยเพื่อนมากมายนัก แต่ก็ไปให้กำลังใจ ช่วยเรื่องอาหารการกินบ้าง ไปหลับบ้าง จนงานเสร็จถึงกลับ   หลังจากเรียนจบป.ตรี ก็แยกย้ายกัน นพดลเรียนโทต่อที่ศิลปากร ก็ยังหวังว่าสักวันเราจะไปเที่ยวทะเลด้วยกันอีก แต่เมื่อคืนนี้ ได้รับโทรศัพท์จากหมีว่า นพดลเสียชีวิตมา 3 วันแล้ว! ด้วยโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หมีบอกว่า นพดลไม่ได้บอกใครเลยว่าตัวเองเป็นโรคร้าย กลัวคนอื่นจะตกใจ อดทนต่อสู้กับโรคร้ายเพียงลำพัง จนในที่สุดก็ต้านแรงของโรคร้ายนี้ไม่ไหว เสียชีวิตลงในที่สุด…

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (50)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (62)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH