Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

จส.100

อ่านต่อ

จส.100 รัก

เรื่องสั้นสั้น 6 February 201431 July 2015

เบื้องหน้าของเขาคือถนน 3 เลนที่คลาคล่ำด้วยฝูงรถซึ่งกระเถิบกันไปเต็มพื้นที่ถนนจนหาเลนไม่เจอ ใช้คำกิริยาว่า “กระเถิบ” คงไม่ผิดนัก เพราะรถค่อยๆ ไปทีละสเต็ป ช้ากว่ารถมอเตอร์ไซต์หรือแม้แต่จักรยาน ดีกว่าหน่อยตรงที่มีแอร์เย็นๆ และเพลงเพราะๆ  เขาเลือกที่จะฟังช่องรายงานจราจรแทนที่จะฟังเพลง  มิใช่เพราะอยากรู้เส้นทางไหนรถติดจะได้หลีกเลี่ยง หรือใคร่รู้ในข่าวสารจราจร เขาเพียงอยากได้ยินเสียง ‘เธอ’ ในทุกๆเช้าที่ขับรถฝ่ารถติดไปทำงาน! เวลา 07.00 น. จนถึง 09.00 น. เขาจำช่วงเวลาที่เธอจัดรายการได้ดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องนั่งนิ่งๆอยู่บนรถในถนนอันคับแคบ เขาเฝ้าฟังคนที่โทรไปรายงานผลจราจรจากจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพ น้ำเสียงที่เธอเจรจากับแท็กซี่ หน่วยกู้ภัย ตำรวจจราจร หรือแม้แต่คนทั่วๆไปที่โทรมารายงานผล ช่างไพเราะ น้ำเสียงสดใส แฝงด้วยความเป็นห่วงใยเมื่อสมาชิกโทรมาแจ้งอุบัติเหตุ เธอช่วยติดต่อประสานงานให้ผู้ใช้รถบนท้องถนนที่ประสบปัญหา สามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดี เธอ คือ ‘นางฟ้าจราจร’ เขาเฝ้าฝันสักครั้งหนึ่ง อยากจะโทรเข้าไปในรายการบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโทรไปรายงานผลอะไร รายงานผลจราจรรึ? เขากังวลที่จะใช้ศัพท์เทคนิคทางจราจร ไม่ว่าจะเป็นขาเข้า ขาออก รถขาเข้าคือทางไหน และรถขาออกคือจากไหนออกไปไหน แล้วถ้าเธอถามกลับมาว่า เราอยู่ในช่วงไหน เราจะตอบเธอยังไงดี? ช่วงกำลังรัก หรือช่วงกำลังคิดถึง ถ้าเธอไม่ตลกกับมุขนี้ละ? เราไม่เก่งเรื่องการจราจร รู้แต่ว่า ณ จุดตรงนี้รถติด แต่ข้างหน้าอีก 100 เมตร 200 เมตร หรือ 500 เมตรจะติดไหม? ถ้ารถไม่ติด แต่เราแจ้งว่าติดจะผิดไหม? เรื่องจะโทรรายงานผลจราจร เป็นอันต้องยกเลิกความคิด รายงานอุบัติเหตุ  ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นรถกระบะชนท้ายรถเก๋ง ส่งผลให้รถติดเพิ่มความติดทวีคูณยิ่งหนักกว่าเดิม คู่กรณีทั้ง 2 ยังไม่ยอมเอารถออกจากจุดเิกิดเหตุ ต่างโยนความผิดใส่กันไปมา ต้องรอตำรวจมาเจรจาตั้งนานสองนาน รถจากถนน 3 เลนเหลือ  2 เลน ค่อยๆขยับไปจนถึงจุดเกิดเหตุ เขาพยายามเพ่งมองความเสียหายที่เกิดจากการเฉี่ยวชน มีเพียงรอยถลอกเล็กๆจากกันชนหน้า แผลเท่านี้เอาน้ำฉีดแรงๆ ก็หาย แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ยอม เขาละอายที่จะโทรแจ้งอุบัติเหตุที่เล็กน้อยแต่ส่งผลให้รถติดได้มหาศาลนี้ และเขาช้ากว่าคนอื่นเสมอ ไม่นานจากเหตุเกิดเขาได้ยินเสียงคนโทรเข้าไปรายงานผลแล้ว เขาคงเหมาะที่จะฟังเธออย่างเดียวจริงๆ สักครั้ง เขาอยากจะฟังเสียงเธอที่คุยกับเขา ไม่ใช่ฟังเธอผ่านวิทยุอย่างนี้ แว่บความคิดหนึ่งเกิดขึ้น เขารีบหยิบโทรศัพท์ รู้สึกมีความสุขเมื่อกดหาเบอร์ที่คุ้น แต่ไม่เคยกดหาแม้แต่ครั้งเดียว…

จราจร จส.100 รัก

ปราสาทพระวิหาร..มรดกใคร? มรดกโลก

เรื่องทั่วไป 8 July 2008

วันนี้ชาวเขมรต่างโห่ร้องดีใจกันทั่วหน้าครับ หลังองค์การยูเนสโกมีมติให้ปราสาทพระวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ผมในฐานะคนไทย ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ หรือแย่อะไรมากมายอย่างที่ข่าวนำเสนอ ข่าวพยายามนำเสนออาการของคนสองประเทศ ประเทศหนึ่ง(เขมร) โห่ร้องดีใจ ตัดฉับมาที่อีกประเทศหนึ่ง(ไทย) เสียใจผิดหวัง อารมณ์ประมาณบอลยูโร ตอนที่สเปนเอาชนะเยอรมันในรอบตัดเชือกได้ยังไงยังงั้น มันไม่ได้มีอะไรแย่มากมายขนาดนั้นครับ คนไทยเข้าใจมานานนมแล้วว่าปราสาทพระวิหาร ไม่ใช่ของคนไทย เป็นของๆเราแต่เพียงบันไดขึ้น รู้กันอย่างนี้มาตั้งแต่เกิด แล้วทำไมจู่ๆวันนี้มาเกิดอาการอยากได้ของชาวบ้านเขาละ ถึงแม้วันนี้ปราสาทพระวิหารจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว แล้วยังไง เขาจะลากเอาบันไดฝั่งไทยไปด้วยเหรอ ก็เปล่านี่ ก็ยังตั้งอยู่อย่างนั้น ดีเสียอีก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก คนทั้งโลกจะได้รู้จัก จะได้อยากมาเท่ี่ยว มาดู มาชม เวลาจะมา มายังไงละ ถ้าไม่นั่งเครื่องบินมา นั่งเครื่องบินก็มาลงที่ไทย ไทยก็ได้อีกแหละ พักโรงแรมก็พักที่โรงแรมในไทย ไทยก็ได้อีกแหละ เวลาจะขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหาร ก็ต้องขึ้นฝั่งไทย ต้องซื้อโน่นซื้อนี่ที่ข้างบันไดฝั่งไทย ไทยก็ได้อีกแหละ เรื่องนี้ที่ยืดยาวซะขนาดนี้ คุยกันไม่จบซักที ก็เพราะมีการเมืองมาเอี่ยว รู้ทั้งรู้ว่าเราร้องแรกแหกกระเฌอกันแค่ไหน ก็ไม่มีวันได้คืนอยู่แล้ว เหมือนมาณพที่เที่ยวร้องเอาพระจันทร์และพระอาทิตย์ เหมือนพราหมณ์ที่ร่ำร้องเอาลูกชายที่ตายจากไปแล้ว..ไม่มีวันได้คืืนหรอกครับ เอาเวลาทะเลาะๆกันนั่น มาพูดจากัน มองไปข้างหน้า แล้วมาพัฒนาประเทศกันดีมั้ย กรณีปราสาทเขาพระวิหารนี้ ผมก็แหกปากในมุมของคนรู้คนเห็นน้อยนะครับ อาจจะผิดหรือถูก แต่ก็ไม่ได้ให้เห็นตาม ป.ล. ปีนี้มีวันแห่งชาติเกิดขึ้นอีกวันครับ นั่นคือ วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ครม.ให้ วันเข้าพรรษา เป็น วันงดดื่มสุราแห่งชาติ

เขาพระวิหาร

เคนดะอิจิ ยอดนักสืบ

เรื่องทั่วไป 10 November 2009

การนั่งในรถนานๆโดยไม่น่าเบื่อ ไม่หงุดหงิด และไม่หิวเลย คิดว่าเป็นไปได้มั้ย? ในกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ฯ ของเราเนี่ยะ ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงภาวะรถติดได้เลย ต่อให้มีตังค์มากก็เหอะ ต้องมีสักครั้ง หรือหลายๆครั้งที่ต้องทนนั่งรอรถติด โดยเฉพาะผู้อาศัยรถเมล์เป็นเครื่องเดินทาง และโดยเฉพาะในช่วงนี้ ช่วงที่กทม.กำลังเร่งปรับปรุงสะพานในหลายๆจุด  รถที่เคยติดอยู่แล้ว ก็ทวีความมหาติดอีกเป็นหลายเท่าตัว นี่ไม่นับเหตุการณ์ประท้วง หรือชุมนุมตามท้องถนนอีกนะ ถ้าบังเอิญเกิดขึ้นในเส้นทางที่เรากำลังสัญจรอยู่ด้วยละคุณเอ๊ย..อยากจะร้องไห้เป็นภาษาละติน ความน่าเบื่อที่ต้องติดอยู่ในรถนั้นจะหมดไปครับ วันนี้ผมพบทางออกที่แสนสดใสแล้วครับ ผมไม่ค่อยได้เดินทางด้วยรถเมล์เท่าไร เพราะบ้านอยู่ใกล้ที่ทำงานเพียง 2 ป้ายรถเมล์ ตอนเช้าๆอาศัยเดินชมนกชมไม้ ชมหญิง ชมควาย(ขับรถ)บางคน ไม่ต้องง้อรถราที่ติดขัด ตอนเย็นก็เดินกลับเช่นกัน ปัญหาการเดินทางของผมแทบไม่มี แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีเหตุที่ต้องเดินทางค่อนข้างไกล จากพัฒนาการ สู่ปากเกร็ด ผมอาศัยรถเมโทรบัส สาย 35 คันสีขาวๆ หน้าตาดี มีทีวีให้ดูนั่นแหละครับ เส้นทางจากพัฒนาไปสู่ปากเกร็ดต้องวิ่งบนถนนเพชรบุรีถนนสายโลกีย์อันเก่าแก่ ต้องผ่านแยกอโศกที่โคตรติด และผ่านสี่แยกประตูน้ำ แยกประตูน้ำที่ปกติก็โหดอยู่แล้วในเรื่องรถติด วันนี้ทะลึ่งมีกลุ่มคนมาประท้วงอีก..2+2 = 10 เลยละครับพี่น้อง รถเมโทรบัสนิ่งสนิท ทุกคนดูกระวนกระวาย แต่ผมไม่ ..เพราะอะไรนะหรือ วันนี้ผมมีหนังสือติดกระเป๋ามาด้วยเล่มหนึ่ง เรื่อง เคนดะอิจิ ยอดนักสืบ เคนดะอิจิ ยอดนักสืบ เป็นหนังสือนิยายแนวสืบสวนสอบสวนของญี่ปุ่นที่มีคดีสะเทือนขวัญเยอะแยะมากมาย ล้วนแต่น่ากลัว ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ หญิงคิดคด ชายกบฏ รถระเบิด ฯลฯ  มีหลายภาคหลายตอนครับ เล่มที่อยู่ในมือผมขณะนี้ คือ ตอนเจดีย์สามเศียร ไม่น่าเชื่อว่าผมติดอยู่บนรถเมล์ตั้งเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ไม่รู้สึกเบื่อ หงุดหงิด ง่วงนอน หรือหิว อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่ตอนนั้นเป็นเวลาระหว่าง 6 โมงเย็น – 2 ทุ่ม อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศในรถที่เอื้อตอนการอ่านหนังสือ บวกกับหนังสือที่สนุกอ่านแล้ว น่าติดตาม น่าสงสัย ชวนให้อยากรู้ ผมมักตั้งคำถามและเดาเหตุการณ์ในคดีของเคนดะอิจิเสมอ แต่เดาถูกเพียงเล็กน้อย เมื่อตอนจบมักมีการผลิกล็อกแบบคาดไม่ถึงเสมอ และนั่นคือเสน่ห์ของเรื่อง ทั้งผู้เขียนคือ โยโคมิโซะ  ชิชิ และผู้แปล มนาด ศีติสาร ได้ใส่อรรถรสและความลึกลับซับซ้อน…

เคนดะอิจิ

ทะเลาะ..ทำไม

เรื่องทั่วไป, เรื่องสั้นสั้น 24 November 2009

สายน้ำไหลเลาะเซาะซอกเขาใหญ่น้อย รวมกันเป็นสายน้ำใหญ่ไหลลงมาล่อเลี้ยงชาวเมืองใหญ่ถึงสองเมือง แม่น้ำนี้จึงเปรียบดั่งชีวิตและจิตใจ คราใดที่ขาดน้ำผู้คนดุจจะสิ้นใจ คราวใดที่น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ผู้คนก็เปรมปรีด์มีความสุข แม่น้ำสายนี้จึงเปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ล่อเลี้ยงสองเมือง คือ เมืองกบิลพัสดุ์ และเมืองเทวทหะตลอดมา แม่น้ำแห่งนี้ชื่อว่าแม่น้ำโรหิณี เมืองกบิลพัสดุ์ซึ่งเป็นเมืองของบิดาของพระพุทธเจ้าของพวกเราตั้งอยูทางเหนือแม่น้ำ ส่วนเมืองเทวทหะซึ่งเป็นเมืองของมารดาของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำ  ทั้งสองเมืองเปรียบเหมือนเป็นเมืองพี่เมืองน้อง เป็นเมืองที่เป็นญาติถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และเป็นเช่นนี้มานานนับปี จนกระทั่งมาปีหนึ่งซึ่งน้ำในแม่น้ำน้อยลง แม่น้ำซึ่งทั้งสองเมืองยืดถือเป็นลมหายใจ ดุจจะลองใจคนทั้งสองเมืองให้สำนึกในบุญคุณ ว่ากันว่า ถ้าจะดูใจคนให้ดูในตอนที่เกิดเรื่อง เพราะในตอนนั้นธาตุแท้ของคนก็จะออกมาให้เราประจักษ์ ทั้งสองเมืองมีอาชีพทำนาเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อขาดน้ำก็เหมือนขาดข้าวไปด้วย เมืองที่อยู่ทางเหนือแม่น้ำ เริ่มแสดงความเป็นคนใจแคบโดยการกั้นน้ำไว้ ทดน้ำเข้านาของตน เมืองที่อยู่ทางใต้น้ำเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ จึงจำเป็นต้องมาเจรจากันระหว่างสองเมือง การเจรจาครั้งนี้ ไม่มีทีท่าเหมือนมาเจรจากันเลย เพราะทั้งสองเมืองได้ยกทัพมาประจันหน้า ณ แม่น้ำโรหิณี ความเป็นเมืองที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งปันกันในฐานะเมืองพี่เมืองน้อง เมืองญาติกันไม่เหลืออีกต่อไป   พระพุทธองค์ทรงเห็นถึงภัยร้ายแรงนี้ จึงเสด็จรุดไปในวันนั้น ท่ามกลางความขัดแย้งของทั้งสองเมือง พระองค์ทรงประทับยืนกลางแดด จนพระญาติทูลถามว่า “ไยพระองค์ถึงเสด็จยืนท่ามกลางแดดที่ร้อน” พระองค์ตรัสว่า “ถึงแดดจะร้อน แต่ร่มเงาของพระญาตินั้นเย็นกว่าร่มเงาใต้ต้นไม้นัก” เมื่อเห็นพระญาติทั้งสองฝ่ายเงียบ จึงตรัสถามต่อไปว่า  “มหาบพิตรทั้งสอง ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร” “เรื่องน้ำพระพุทธเจ้าข้า” “ระหว่างน้ำกับชีวิตคนนี่อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน” พระองค์ตรัสถาม  “ชีวิตคนมากกว่า  พระพุทธเจ้าข้า”  “ควรแล้วหรือที่ทำอย่างนี้”   พระญาติดุษณีภาพทุกคน   ไม่มีใครกราบทูลเลย   พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า      “ถ้าเราตถาคตไม่มาที่นี่วันนี้  ทะเลเลือดจะไหลนองดุจสายน้ำ”     เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้พระญาติทั้งสองเมืองได้สติ และไม่รบราฆ่าฟันกันในวันนั้น      วันนี้ยกพระพุทธประวัติบางส่วนมาเล่า เพราะเดี๋ยวนี้เกิดเรื่องทะเลาะ ขัดแย้งกันเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะทะเลาะกับเพื่อน แฟน ทะเลาะกับคนข้างบ้าน ทะเลาะกับคนที่ไม่รู้จักบนท้องถนนที่เราเห็นว่าเขาขับรถไร้มารยาท(แต่เราก็เคยทำแบบนั้นในวันที่รีบ) ทะเลาะกับแท็กซี่ ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน ทะเลาะกับเจ้านาย ทะเลาะกับพี่น้อง ทะเลาะกับญาติ ทะเลาะกับคนข้างประเทศ ฯลฯ     การทะเลาะกันเกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างมองว่าอีกฝ่ายไม่ถูกต้อง และฝ่ายเราถูกเอาเปรียบ   การทะเลาะยอดฮิต ก็คือ ทะเลาะด้วยเรื่องผลประโยชน์ ทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้มักจบไม่สวยและลุกลามใหญ่โตกลายเป็นทะเลาะเรื่องอื่นๆ สาวไส้มาทะเลาะมาเกลียด จนลืมต้นเค้าว่าเดิมเราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร    …

อ่านต่อ

ตารางฝึกฮาล์ฟมาราธอน

say, วิ่ง, ไดอารี่ 26 July 20163 November 2017

วิ่งให้เข้าเส้นชัยใครก็วิ่งได้, แต่วิ่งให้เข้าเส้นชัยแบบสบายๆ นี่ต้องมีตารางฝึก ไปได้ตารางฝึกจากพันทิปมา มีตารางวิ่งย่อมดีกว่าวิ่งลอยๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลที่ดีกว่าแล้ว ยังอาจเจ็บตัว บาดเจ็บอีก คำแนะนำจากจขกท. CT- Cross train เป็นกิจกรรมที่ทำในวันที่ไม่ได้วิ่ง เลือกกิจกรรมที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ (cardio workout)ยาวประมาณ 30 นาที เช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ TT- Time Trial วิ่ง warm up 1.6km จากนั้นวิ่ง pace (ความเร็วในการเคลื่อนที่ปกติ หมายถึงระยะเวลานาทีที่ใช้วิ่ง/เดินต่อหนึ่งกิโลเมตร) สบายๆ จากนั้นจับเวลาในการวิ่งเร็ว เป็นระยะทาง 3.2km แล้วพยายามวิ่งให้เร็วขึ้นสำหรับ TT ครั้งต่อไป R&R Run-Rest & Recovery run วิ่ง 4.8km – 6.4km ที่ pace สบายๆ ไม่ต้องรีบเร่ง ทุก ๆ 4 อาทิตย์จะเป็นอาทิตย์ R&R INT- Intervals วิ่ง 1.6km แบบสบาย ๆ จากนั้นให้สลับระหว่างหนึ่งนาทีแบบวิ่งเร็ว (ประมาณ 80-90%) แล้วก็หนึ่งนาทีวิ่งแบบสบาย ๆ หรือวิ่งเร็ว (80-90%) สองนาที แล้วก็วิ่งแบบสบาย ๆ หนึ่งนาที เป็นระยะทาง 3.2km จากนั้นให้วิ่งแบบสบาย ๆ อีก 0.8km เป็นการ Cool down T- Tempo run ( 4.8km – 6.4km ) วิ่ง 1.6km ที่ความเร็วปกติ จากนั้นวิ่งเร็วขึ้น Tempo run (สปีดเร็วกว่าปกติ สามารถพูดได้ 3-4…

halfmarathon run วิ่ง
อ่านต่อ

แอบดู..นกเขาขันกรู๊

สุขกะภาพ 21 October 200921 September 2016

ณ ระเบียงคอนโดแห่งหนึ่ง ที่หลังจากมั่นปลูกต้นไม้มาหลาหลายชนิด ก็ไม่ปรากฏว่ามีต้นไหน สามารถยืนหยัดชูช่อออกดอก หรืออย่างน้อยผลิใบให้สวยสด ที่มีรอดอยู่บ้าง ก็ด้วยความทุลักทุเล อยู่อย่างรวยระริน ผมในฐานะผู้ได้ A+ วิชาเกษตร เลยขออาสาวิเคราะห์ปัญหา และเปลี่ยนแปลงแผ่นดินอันแล้งแห้งแห่งนี้ให้ชะอุ่มชุ่มชื่นด้วยพืชนานาพันธ์ุ อันดับแรกเลย..ที่แห่งนี้โดนแดดช่วงบ่ายรุนแรงมาก ดังนั้น เราต้องหาต้นไม้ที่ทนต่อแดด ชอบแดด กินแดดเป็นของเล่น ซึ่งมีหลากหลายนานาพันธ์ุทีเดียว อันดับสอง เนื่องจากเจ้าของคอนโดเอง ไม่ได้ให้ความดูแลอย่างใกล้ชิดสนิทสนมชมเชย การให้ดอกไม้ ต้นไม้ใช้ชีวิตในกระถางเล็กๆเท่ากำมือ เหมือนการปล่อยให้ปลาอยู่ในหนองน้ำที่ไร้สายน้ำ ดังนั้น ต้องเปลี่ยนเป็นกระถางที่ใหญ่กว่า หรือ..ถมเดินบางส่วนลงระเบียง ใช้อิฐกั้นดินไว้ เห็นชอบปฏิบัติตามข้อหลังอย่างไม่ลังเล เมื่อมีดินมากๆ ดินจำนวนมากจะช่วยอุ้มน้ำไว้ได้นาน ดังนั้น ความชุ่มชื่นจึงเกิดมีแก่มวลต้นไม้ได้อย่างเพียงพอ บนหน้าดินเอง ก็จะเกิดหญ้าเล็กๆ วัชพืชตัวจ้อย ช่วยสร้างความชุ่มชื่นให้ดินยิ่งขึ้นอีก หลังจากดำเนินการดังกล่าวมาแล้วข้างต้น..ส่งผลดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ ต้นไม้ออกดอกออกใบสีสวยสดงดงาม และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ..ต้นไม้มา สัตว์ป่าก็มี ในพุ่มพลูด่าง นกเขาไม่ปรากฏสัญชาติ ได้ใช้พุ่มพลูด่างเป็นที่ีทำคลอด เดาว่า น่าจะพบรักกันที่ระเบียงแห่งนี้ ถึงเวลาคลอดจึงคลอดที่นี่ไว้ เป็นอนุสรณ์ให้ลุกหลานกล่าวขานกันสืบไป ผมแอบย่องๆไปดู ปรากฏว่าเป็นแฝดสองครับ มีกันอยู่สองใบ ยังไม่เป็นตัว เห็นแม่นกเขามาแอบกกไข่ทุกวัน แต่พอผมย่องจะไปถ่ายรูปทีไร ยัยแม่ก็บินหนีไปทุกที วันนี้ก็เลยได้ถ่ายแต่ไข่ไว้ดูต่างหน้าไปก่อน เดี๋ยวรอเมื่อไรฟักเป็นตัว จะถ่ายลูกนกตัวเล็กๆมาอวดกันอีกที ช่วงนี้ลมแรง ฝนตกบ่อย ก็แสนจะเป็นห่วง กลัวไข่จะร่วงไปเสียก่อน แม่นกเองก็กกไข่ตากฝนด้วย กลัวจะเป็นหวัดเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นั่งดูแม่นกกกไข่..ก็มีความสุขดีครับ ไม่รู้ว่าเมื่อถึงคราวตัวเองมีลูกบ้าง จะมีความสุขอย่างนี้ไมน๊ะ

นกเขา เขาใหญ่

กุ้งรสเด็ด

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 4 July 2008

เพื่อนคนหนึ่งกำลังจะบรรจุเป็นร้อยตรี และจะไปประจำการที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เมื่อไปประจำการที่นั่นแล้ว ก็ไม่รู้เมื่อไรจะได้กลับมาอีก จะมีโอกาสกลับมาไหม หรือยังไง ก็ไม่รู้ ..ก็จึงถือโอกาสนี้เลี้ยงส่งกัน ตามความคาดหมายทีแรก คิดว่าน่าจะมีเพื่อนมามากกว่านี้ แต่ถึงเวลาจริงๆ เนื่องจากอีกวันเป็นวันทำงาน คนโน้นติดงานบ้าง คนนี้อยู่ไกล ฯลฯ ก็เลยมากันได้แค่ไม่กี่คน งานนี้เราไปกินกันที่ร้านรสเด็ก สามแยกพระโขนง เป็นร้านกุ้งกะทะบุพเฟ่ต์ คนละ 99 บาท เดิมทีร้านนี้เป็นของคุณสมรักษ์ เนื้อย่างเกาหลี แต่พี่แกบริหารงานอีท่าไหนไม่ทราบ ถึงได้ตกมาอยู่ในมือของรสเด็ดในปัจจุบัน การเดินทางไปสะดวกมาก จากแยกคลองตันไป ก็มีหลายสาย 25, 71, 40 หรือรถซุบารุขนาดเล็กก็ได้ วิ่งตรงมาจนถึงสามแยก ร้านจะตั้งอยู่กลางแยกพอดี สังเกตง่ายเห็นชัด ห่างจาก BTS พระโขนงประมาณ 50 เมตร ว่ากันถึงบรรยากาศ ร้านนี้บรรยากาศไม่ค่อยจะดีมากนัก ออกจะแออัดไปนิ๊ด (ร้านหมูกะทะในความคิดผม ควรจะเป็นแบบสวนๆ โล่งๆ สบายๆ หน่อย) แต่คนเยอะพอสมควร ขนาดไปตั้งแต่ 6 โมงเย็น ก็เริ่มจะหาที่นั่งลำบากเสียแล้ว ส่วนอาหาร ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ แล้ว ที่นี่ค่อนข้างให้อาหารเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นกุ้งที่มีมาให้เป็นระยะๆ ปลาหมึก ปลาเผา สเต็ก และอาหารทั่วๆไป ข้าวพัดรสชาติไม่เพี้ยน ของหวานก็หลากหลายครับ (บางที่ผมเคยเห็นของหวานมีไม่เกิน 5 อย่าง แต่ที่นี่เป็นสิบ) ที่นี่มีเบียร์หลายยี่ห้อให้ทดลองชิม น้องๆเชียร์ก็มีหลายเจ้า Hineken, Tiger, Cheer, Singha ฯลฯ เจ้าภาพงานนี้ปฏิเสธเบียร์ Tiger ด้วยเหตุผล น้องเชียร์เบียร์ไม่น่ารัก แถมปากร้าย แต่ยอมดื่มเบียร์ Cheer แม้ไม่เคยดื่มเลยในชีวิต ด้วยเหตุผลนี้ครับ หน้าตาเหมือนลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่เธอปฏิเสธว่าไม่ใช่ และบอกว่ามาจากขอนแก่น ! สอบถามชื่อนาม เธอชื่อ กุ้ง มีชื่อจริงว่า สาวิตรี แซ่ไหล ธุรกิจบัณฑิตย์ ปี 2…

กุ้ง

เมื่อกรด..มันไหลย้อน

เรื่องทั่วไป 29 October 2009

วันนี้..หลังเลิกงานตั้งใจไว้แล้วว่า จะไปหาหมอ !! ความจริงที่ทำงานอยู่ใกล้รพ.เพชรเวชที่สุด แต่ผมเลือกที่จะใช้บริการประกันสังคมที่ รพ.คาเมลเรียล เนื่องจากหลายปากหลายเสียงแว่วมาหนาหูว่า รพ.เพชรเวชให้บริการประกันสังคม ค่อนข้างแย่ บริการไม่ดี ฯลฯ เราเสียเงินค่าประกันสังคมทุกเดือนๆ แต่นานทีปีหนถึงเข้าไปใช้บริการ ก็ดันให้บริการห่วยอีก หยั่งงี้..จะทู่ซี้ใช้ทำไม..นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องทนพิษบาดแผล กัดฟันนั่งรถไปอีกประมาณ 5 ป้ายรถเมล์ เพื่อใช้บริการของคาเมลเรียล ที่นี่ คนน้อยดี และเปิดรับประกันสังคมตลอด 24 ชม. ไม่เหมือนเพชรเวช ที่รับแค่ 2 ทุ่ม (ถ้ากูสำลักมาม่าตอน 2 ทุ่มครึ่งก็หมดสิทธิ์เข้ารับการรักษา ใช่ม่ะ) หาหมอวันนี้ด้วยโรคเก่าแก่ที่อยู่ด้วยกันมาปีกว่าแล้ว โรคนี้ตอนอาการหนักๆ ทำเอาผมสะอึก 3 วัน 3 คืน รักษาหลายโรงพยาบาลก็ไม่หาย ไปทั้งจุฬา สมิติเวช คาเมลเรียลก็ไป​…(สุดท้ายหายที่รพ.แรก หลังจากทนสะอึกมา 3 วันเต็มๆ ) กรดไหลย้อน เป็นโรคที่มักเกิดขึ้นกับหนุ่มสาววัยทำงานเกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในเวลากลางวันหรือกลางคืนหรือแม้แต่ผู้ป่วยไม่ได้รับประทานอาหารก็ตามทำให้เกิดอาการจากการระคายเคืองของกรด เช่น อาจทำให้เกิดหลอดอาหารอักเสบและมีแผล หรือหลอดอาหารอักเสบโดยไม่เกิดแผลหรือถ้ากรดไหลย้อนขึ้นมาเหนือกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนบนอาจทำให้เกิดอาการนอกหลอดอาหาร เช่น อาการทางปอดหรืออาการทางคอและกล่องเสียง อาการของโรคกรดไหลย้อน 1. อาการทางคอหอยและหลอดอาหาร อาจมีอาการปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่ บางครั้งอาจร้าวไปที่บริเวณคอได้ รู้สึกคล้ายมีก้อนอยู่ในคอ กลืนลำบาก หรือกลืนเจ็บ เจ็บคอ หรือแสบลิ้นเรื้อรัง โดยเฉพาะในตอนเช้า รู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดี หรือรสเปรี้ยวของกรดในคอหรือปาก มีเสมหะอยู่ในลำคอ หรือระคายคอตลอดเวลา เรอบ่อย คลื่นไส้ รู้สึกจุกแน่นอยู่ในหน้าอก คล้ายอาหารไม่ย่อย 2. อาการทางกล่องเสียง และปอด อาจมี เสียงแหบเรื้อรัง หรือแหบเฉพาะตอนเช้า หรือมีเสียงผิดปกติไปจากเดิม ไอเรื้อรัง ไอหรือรู้สึกสำลักในเวลากลางคืน กระแอมไอบ่อย เจ็บหน้าอก เป็นโรคปอดอักเสบ เป็นๆ หายๆ อาการหอบหืดที่เคยเป็นอยู่ (ถ้ามี) ก็จะแย่ลง (อ่านอาการและอันตรายของโรคกรดไหลย้อนโดยละเอียด คลิกที่โน้น) ผมก็รู้ว่าเป็นโรคนี้มาสักพักแล้ว ..แต่ก็อย่างว่านั่นแหละครับ ถ้ามันไม่ถึงกับเดินไม่ได้ พูดไม่ออก ผมก็ไม่ค่อยจะเดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไรนัก ถึงอาการของมันจะมีอยู่ทุกวันก็ตาม..ตัดใจในวันนี้ ว่าอย่างไรเสีย ต้องไปหาหมอ…

กรดไหลย้อน

สู่สุคติ..

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 June 200829 May 2015

สัจธรรมหนึ่งที่แม้จะเข้าใจ แต่ก็ยากจะทำใจเมื่อเกิดขึ้นกับตัว นั่นคือ ความพลัดพราก ผมมีเพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนป.ตรีด้วยกันหลายคน และหนึ่งในนั้น คือ นพดล นพดลเป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี สุภาพ เรียบร้อย มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเพื่อน เก่ง แข็งแรง หลายครั้งที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ก็ได้นพดลเป็นคนนำทาง และวางแผนการเที่ยวได้อย่างเรียบร้อยทุกครั้ง นพดลเป็นคนที่ไม่ซีเรียสในทุกๆเรื่อง ครั้งหนึ่งเมื่อกูเกิ้ลกำลังเริ่มบูมในเมืองไทย ใครหาอะไรไม่เจอ คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องบอกกูเกิ้ล และกูเกิ้ลก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ผมได้บอกศักยภาพของกูเกิ้ลให้นพดลฟังว่า “เนี่ยะ แค่ใส่ชื่อ และนามสกุลของคนที่เราอยากค้นหาไป กูเกิ้ลก็จะหาให้จนเจอ” นพดลแสดงอาการตื่นเต้น และบอกว่า ลองใส่ชื่อพ่อของเขาลงไปสิ ขณะที่ผมกำลังจะพิมพ์ชื่อของเขา ปากก็ถาม “พ่อไปไหนแล้วละ” นพดลตอบด้วยสีหน้าปกติว่า “ตอนเด็ก พ่อลงเรือไปหาปลา พอกลับมา บอกแม่ว่าไม่สบาย ขอเงินแม่ไปหาหมอ 200 บาท พ่อไปหาหมอด้วยเงิน 200 บาท จนป่านนี้ยังไม่กลับมา” ผมฟังแล้วนึกสงสารในใจอย่างบอกไม่ถูก จากเรื่องกูเกิ้ลกลายมาเป็นเรื่องความพลัดพรากไปเสียได้ แต่นพดลก็ไม่ได้มีสีหน้าเศร้าใจอะไร แต่อาจจะผ่านความรู้สึกนั้นมานานแล้วจนเคยชิน ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้น ได้ใส่ชื่อพ่อของนพดลเพื่อค้นหาในกูเกิ้ลหรือเปล่า หรือว่าค้นหาแล้วแต่ไม่เจอ.. ผมเคยชวนนพดลไปบริจาคเลือดที่สภากาชาด ครั้งนั้นหลังจากบริจาคเสร็จแล้ว เดินไปเที่ยวในสวนงูต่อ นพดลเป็นลมในสวนงู ขณะนอนเอาแรงในสวนงู นพดลยังอารมณ์ดีเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยไปบริจาคเลือดกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ด้วยความคะนองเลยแข่งกันว่าใครจะบริจาคเสร็จก่อนกัน พอเข็มแทงแขนเพื่อนบริจาคเลือดเท่านั้น ทั้งคู่ก็พยายามบีบมือเพื่อให้เลือดออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อนอีกคนบีบแรงจัด จนเข็มที่เสียบที่แขนกระเด็นออก เลือดพุ่งกระฉูด ฟังนพดลเล่าไป ก็หัวเราะกันไป นพดลเป็นคนอารมณ์ดีได้ทุกสถานการณ์ สมัยเรียนต้องทำงานกลุ่มกันดึกๆดื่นๆ กลับบ้านตี 3 ตี 4 นพดลก็ไปด้วย แม้จะไม่ค่อยได้ช่วยเพื่อนมากมายนัก แต่ก็ไปให้กำลังใจ ช่วยเรื่องอาหารการกินบ้าง ไปหลับบ้าง จนงานเสร็จถึงกลับ   หลังจากเรียนจบป.ตรี ก็แยกย้ายกัน นพดลเรียนโทต่อที่ศิลปากร ก็ยังหวังว่าสักวันเราจะไปเที่ยวทะเลด้วยกันอีก แต่เมื่อคืนนี้ ได้รับโทรศัพท์จากหมีว่า นพดลเสียชีวิตมา 3 วันแล้ว! ด้วยโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หมีบอกว่า นพดลไม่ได้บอกใครเลยว่าตัวเองเป็นโรคร้าย กลัวคนอื่นจะตกใจ อดทนต่อสู้กับโรคร้ายเพียงลำพัง จนในที่สุดก็ต้านแรงของโรคร้ายนี้ไม่ไหว เสียชีวิตลงในที่สุด…

อ่านต่อ

ตะลุยแก่งกระจาน

ท่องเที่ยว 12 December 201514 June 2019
เพชรบุรี แก่งกระจาน

คนบ้าอำนาจ

เรื่องทั่วไป 17 June 20109 September 2019

เราชอบบอกกันว่า ผู้ใหญ่บ้าอำนาจ แต่ความจริงแล้ว เราเกือบทุกคนบ้าอำนาจ ขอให้มีอำนาจสักนิดนึง..ก็เริ่มจะใช้อำนาจ ตัวอย่าง.. ในวัด ไม่เด็กวัดก็มัคทายกวัด พวกนี้ทำตัวแก่วัด พอเราเลี้ยวรถเข้าวัดปุ๊บก็เริ่มใช้อำนาจกับเราทันที ตั้งแต่..ตรงนี้ห้ามจอด, วันนี้พระท่านไม่รับแขก(ซึ่งความจริงพระท่านอาจไม่รู้เรื่อง) ฯลฯ ในร้านอาหาร ..เจ้าของร้าน(บางคน)ก็บ้าอำนาจ ทำกับลูกค้าราวกับว่าเราไปขอมันกิน บนรถเมล์…โชเฟอร์-กระเป๋ารถเมล์ ชีวิตเราฝากกับมันไว้ เผลอกดปุ่มจอดป้าย 2 ครั้งก็ด่า บ้างก็ไม่ยอมจอดตรงป้าย บ้างก็ขับไปบ่น(ด่า)ไป คนบนรถต้องเงียบกริบให้มันบ้าอำนาจต่อไป บนรถแท็กซี่ บอกให้เีลี้ยวซ้ายจะได้เร็วมันก็ไปตรง บอกขับมา 30 กว่าปีแล้ว ขับไปโทรศัพท์ไป ขับไปด่าไป ฯลฯ บนรถตู้ ก็เหมือนกัน.. คนที่มีอาชีพขับรถจะมีลักษณะบ้าอำนาจคล้ายๆกัน จะดุจะด่าจะว่าผู้โดยสารทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจ ไม่อยากจะใช้คำว่าไร้การศึกษา เพราะความจริง บอกกันดีๆ นะทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องกระโชกโฮกฮาก ไม่ต้องบีบแตรไล่รถคันอื่น ไม่ต้องปาดหน้าใคร ไม่ต้องไปบี้ตูดใคร ่ทุกคนบนถนนรีบเหมือนกันหมด ต้องไม่ใช้อารมณ์กับผู้โดยสาร ต้องซื่อสัตย์กับอาชีพตัวเอง ผมเจอหลายครั้งที่ผู้ขับรถตู้แอบเก็บเกินราคา เราเองบ้าอำนาจในพื้นที่แม้จะเล็กๆก็ตามที่สามารถจะบ้าอำนาจได้ อย่างน้อยที่สุดก็ในบ้านตัวเอง ในสถานการณ์ที่เราต้องตกอยู่ภายใต้คนบ้าอำนาจเหล่านี้ มีคำสอนจากพระพุทธองค์เตือนสติไว้ว่า ‘ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง’ บางคนถามว่า ทำไมเราต้องทน? หลายครั้งที่เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเราไม่รู้จักอดทน ความอดทนเป็นการตอบโต้อย่างหนึ่ง และเป็นการยุติปัญหาที่ดีที่สุด ความอดทนที่สุดยอดคือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ การอดทนต่อคนที่สูงกว่าเรา เช่น ผู้ใหญ่กว่าเรา, เจ้านาย, นายจ้าง ถือว่าธรรมดา เพราะเราจำเป็นต้องทน การอดทนต่อผู้ที่เสมอกับเรา เช่น เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนบ้าน ฯลฯ ถือว่าดี แต่ไม่ใช่ดีที่สุด การอดทนต่อคนประเภทนี้เราต้องใช้คุณธรรมพอสมควร แต่การอดทนที่สุดยอดที่สุด คือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ เช่น คนขับรถเมล์, คนขายของ, คนขอทาน , คนจรจัด ฯลฯ การอดทนต่อคนพวกนี้ได้ต้องอาศัยการยับยั้งใจอย่างที่สุด และหากทำได้ ก็ถือว่าเราเข้าสู่ธรรมะได้อีกระดับหนึ่ง พระพุทธเ้จ้าและพระอานนท์ทนต่อถูกชาวบ้านด่ามาตั้ง 7 วัน โดยไม่ตอบโต้หรือหนีไปไหน แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็หายไปเอง และคนที่เดือดร้อนที่สุด ก็คือคนที่จ้างชาวบ้านมาให้ด่า นอกจากไม่ได้ผลแล้วยังเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ดังนั้น คนบ้าอำนาจ…

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (87)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH