Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

จิ๊กกี๋

อ่านต่อ

จิ๊กกี๋ในวัย 70 กะรัต

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 23 September 20163 November 2017

เข้าสู่วัย 10 ขวบแล้วสำหรับจิ๊กกี๋ ถ้าเป็นคนก็เริ่มเข้าสู่วัย 70 นิสัยเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม ขี้อ้อน ขี้กลัว กลัวฝนกลัวฟ้าร้องกลัวฝนตก สายตาเริ่มพร่ามัว มองไกลๆไม่ค่อยเห็นตามประสาหมาสูงอายุ แต่ยังเป็นหมาที่กินยาก ฉี่ยาก อึยากเช่นเคย เอาภาพมาอัพเดตไว้เท่านี้แหละ

จิ๊กกี๋
อ่านต่อ

ป้าจิ๊กกี๋

say 25 July 201523 September 2016

เข้าสู่ปีที่  10 ของเธอแล้ว ถ้าเป็นคนก็อายุประมาณ 65 ปี เป็นป้าที่เอาแต่ใจ และจนถึงวันนี้จิ๊กกี๋ก็ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น “หมา” ไม่รู้จะบอกเธอยังไง กลัวเธอรับไม่ได้

จิ๊กกี๋
กลิ่นสยอง อ่านต่อ

กลิ่นสยอง

บ่น 10 July 2011

เกือบ 5 ทุ่มของคืนวันศุกร์ที่ 13 ศุกร์ 13 ที่ฝรั่งว่ากันว่าเป็นคืนปล่อยผี แต่ที่นี่เมืองไทย ความเชื่อแบบฝรั่งคงไม่ลามมาถึงนี่(มั้ง)

แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ใจก็อดระแวงไม่ได้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่าน๊ะ

จิ๊กกี๋ ผี
โชคดีที่เป็นหมา อ่านต่อ

โชคดีที่เป็นหมา

ไดอารี่ 25 June 2011

จะดีก็ดี จะไม่ว่าไม่ดีก็ไม่รู้จะใช่หรือเปล่านะครับ ‘จิ๊กกี๋’ ยามสุภาพสตรีสีดำประจำบ้านที่ผมได้แนะนำให้รู้จักในบล็อกก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอซึมๆไป ผมได้พาไปให้หมอเจาะตรวจเลือด..ปรากฏผลออกมาว่า เธอเป็นโรค ‘ไต’ ระยะที่ 3  (โรคไตมี 4ระยะ) ระยะที่สามถือว่าเป็นระยะที่อันตรายพอสมควร จึงไม่แปลกใจที่เธอมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัด หมามันพูดไม่ได้ว่ามันเป็นยังไง มันรู้แต่ว่าเมื่อไม่สบายตัว มันก็จะไม่สนุกสนาน ไม่เล่น ไม่ร่าเริง ซึ่งจากอาการเหล่านี้ถ้าคนที่สนใจหมาสักนิ๊ดก็จะรู้ทันทีว่ามัน “ไม่ปกติ” จากการสันนิษฐาน จิ๊กกี๋เป็นโรคไตเพราะ 2 สาเหตุหลัก คือ 1. อาหาร อาหารที่มีรสจัดมาก ถูกปากหมาแต่ไม่ถูกต่อโรค 2. อั้นฉี่ น่าจะเป็นสาเหตุหลัก จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในรั้วบ้าน และนั่นหมายความว่ามันจะมีโอกาสได้อึฉี่วันละสองครั้งเท่านั้น คือ เช้ากะเย็น ก่อนผมออกไปทำงานและหลังผมเลิกงาน ยิ่งกว่านั้นจิ๊กกี๋เคยอั้นฉี่นานสุด 3 วัน!!! หลังจากนี้ก็เข้าสู่การรักษาตัว หมอบอกว่ามีโอกาสที่หายได้ แต่ต้องมีวินัยในการกินอาหาร กินยาอย่างสม่ำเสมอ และ..ต้องให้น้ำเกลือทุกวันๆละ 300 ซีซี เรื่องอาหารและยาไม่ยากเท่าไร ถึงแม้มันจะเคยบ้วนยาทิ้งก็ตาม แต่ก็สามารถบังคับขืนใจให้มันกินไปจนได้ แต่การให้น้ำเกลือถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม หมอได้ทำตัวอย่างให้ดู ก็เห็นว่าไม่ยาก เพราะแค่เจาะเข็มให้เข้าสู่ผิวหนัง หมาไม่รู้สึกเจ็บหรือขัดขืนแต่อย่างใด ..ดังนั้น ผมคิดว่าผมทำได้ เมื่อวานลองทำเป็นครั้งแรก..อืมมม ก็ไม่ยากเท่าไร ได้อยู่ จิ๊กกี๋เป็นโรคไตระยะที่สาม ถ้าเป็นคนก็คงจะเครียดพอสมควร แต่นี่เป็นหมา ข้อดีของการเป็นหมาคือมันไม่ต้องรับรู้หรอกว่ามันเป็นโรคอะไร เพราะฉะนั้น มันก็ไม่ต้องเครียด ซึ่งการไม่เครียดนี่เองมีผลดีต่อตัวหมามาก จะเห็นได้ว่าหลายๆคนพอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคโน่นโรคนี่ อาการของโรคยังไม่ได้กำเริบเท่าไร แต่อาการเครียดจิตจับจดอยู่กับโรคจนอาการทรุดกว่าที่ควร พอมานั่งคิดข้อนี้ก็จึงมานั่งคิดว่า.. “อืมม เป็นหมานี่ก็ดีเหมือนกันนะ”

จิ๊กกี๋ ไต
เธอชื่อ "จิ๊กกี๋" อ่านต่อ

เธอชื่อ "จิ๊กกี๋"

ไดอารี่ 21 June 2011

ถูกเอ่ยชื่อถึงในบล็อกก่อนหน้านี้ วันนี้เลยพามาแนะนำให้รู้จักซะหน่อย เธอชื่อจิกกี๋ ดูจากสารรูปภายนอก หลายคนนึกว่าเป็นเพศชายครับ แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นสุภาพสตรี ย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน จิ๊กกี๋เกิดในตระกูลหมาข้างถนน แม่จิ๊กกี๋เป็นหมาจรจัดหาเช้ากินค่ำข้างถนน ส่วนพ่อไม่ปรากฏนาม ถามแม่จิ๊กกี๋ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก เธอเอาแต่ร้องไห้ ดูท่าว่าถ้าปล่อยจิ๊กกี๋ไว้กับแม่ อนาคตคงไม่สดใสนัก นกจึงรับมาอุปการะไว้ และนับตั้งแต่นั้นจิ๊กกี๋ก็มีปลอกคอ มีชาติตระกูล มีบ้านให้หวง และมีเจ้าของให้รัก เมื่อครั้งที่นกต้องย้ายจากบ้านเดิม คือประชาชื่น 44 จิ๊กกี๋ไร้คนดูแลถูกปล่อยอย่างอดๆยากๆ ครั้งหนึ่งมันเคยหลงทางออกจากบ้าน 3 วัน ทุกคนนึกว่ามันคงถูกรถชนหรือไม่ก็อดอาหารตายไปแล้ว แต่แล้วเช้าวันหนึ่งขณะที่รถติดเป็นแถวยาวตรงสี่แยกงามวงศ์วาน จิ๊กกี๋วิ่งตุปัดตุเป๋ข้างถนน นกเห็นดังนั้น จึงรีบเปิดประตูรถวิ่งไล่จับจิ๊กกี๋ท่ามกลางความแปลกใจของคนในสี่แยก วันนี้จิ๊กกี๋ได้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่กับเรา ณ พฤกษาทาวน์ ราชพฤกษ์ มันใช้เวลาเกือบเดือนเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ และเพื่อนใหม่ๆ บ้านใหม่แห่งนี้ดีกว่าบ้านเดิมเพราะมีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น แม้จะวิ่งเล่นได้เพียงวันละ 2 ครั้งก็ตาม จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในบ้าน ครั้งหนึ่งที่เราไปต่างจังหวัด 3 วันและผูกจิ๊กกี๋ไว้ในบ้าน จิ๊กกี๋ไม่ยอมอึหรือฉี่เลย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเธอ คือ กลัวฟ้าร้อง ฟ้าแล่บและฝนตกมาก ถ้าแม้มีฟ้าแล่บหรือฝนตกแต่เพียงนิดเดียวมันก็จะทุบประตูเพื่อขอเข้ามาหลบฝนในบ้าน ทั้งๆที่ในโรงรถก็หลบฝนได้ จะทุบจะตียังไงจิ๊กกี๋ก็ยอม เพื่อแลกกับการได้เข้าในบ้าน จิ๊กกี๋ผ่าใบหูสองครั้ง และนี่เป็นครั้งที่สองที่หูอักเสบเกิดจากการสะบัดหูจนเส้นเลือดฝอยแตก ทำให้เลือดคั่ง ครั้งนี้จิ๊กกี๋มีอาการผิดปกติ ซึมจนเราตกใจ ได้แต่หวังว่าสักวันจิ๊กกี๋จะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม.. เราไม่สามารถตัดสินใจคนจากภายนอกได้ แต่สามารถตัดสินจิ๊กกี๋จากแววตามันได้ เมื่อคืนเห็นแววตาใสซื่อและน่าสงสารของมัน แสดงว่ามันรักคุณเข้าแล้ว  

จิ๊กกี๋
ทองขาว อ่านต่อ

ทองขาว

ไดอารี่ 18 June 2011

หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่คือ “พฤกษาทาวน์” อยู่ถนนราชพฤกษ์และเป็นโครงการของพฤกษา บริษัทที่สร้างบ้านเยอะที่สุดและมีเรื่องให้พูดถึงในแง่ลบเยอะที่สุดเช่นกัน บ้านผมเป็นทาวน์โฮมครับ ถ้านึกภาพไม่ออกว่าทาวน์โฮมเป็นยังไง ก็ให้นึกถึงทาวน์เฮาทส์ ต่างแต่ว่าทาวน์โฮมสร้างไว้สำหรับอยู่อาศัยเป็นหลัก แต่ทาวน์เฮ้าสท์สร้างไว้ขายของและนิยมปลูกริมถนนใหญ่ แน่นอนทาวน์โฮมก็มีบ้านติดๆกันใช้กำแพงและฝาบ้านร่วมกัน ข้างบ้านผมเป็นคุณลุงคุณป้าวัยเกษียณใจดีทั้งคู่เอ็นดูเราเป็นลูกเป็นหลาน บ้านเราเลี้ยงหมาไทย แต่ชื่อฝรั่งชื่อจิกกี๋ ตัวสีดำ ส่วนลุงกะป้าเลี้ยงหมาบางแก้ว ชื่อไทยๆว่า “ทองขาว” แน่นอนตัวขาวอวบ ทั้งสองไม่ใช่เพื่อนรักกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกลียดกันมีคำรามใส่กันบ้างบางครั้ง ทองขาวอายุมากกว่าจิ๊กกี๋ 2  ปี ทั้งสองตัวแม้จะมีสีต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันมากนั่นคือ ความหวงบ้านและรักเจ้าของ ทุกครั้งที่มีใครมา ไม่ว่าจะเป็นหมาด้วยกันหรือคนแปลกหน้าผ่านมาหน้าบ้าน ทั้งสองจะกระโจนเห่าแสดงท่าทีดุร้ายใส่ทันที ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงต้องถูกล่ามไว้ในยามเจ้าของไม่อยู่ ทองขาวกับจิ๊กกี๋พึ่งย้ายมาอยู่บ้านนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งสองไม่ได้โตที่นี่ แต่ก็รักและหวงแหนที่นี่มาก ก่อนหน้านี้หน้าบ้านลุงกะป้าเป็นพื้นดิน ทองขาวจึงมาอาศัยอยู่หน้าบ้านได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าบ้านได้ถูกปรับปรุงเป็นพื้นระแนง ทองขาวจึงถูกจำกัดพี้นที่ให้อยู่จำเพาะข้างบ้าน และนับตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอและไม่ค่อยได้ยินเสียงทองขาวอีกเลย ใครจะรู้เล่าว่าเราไม่มีโอกาสได้ยินเสียงมันอีกแล้วตลอดไป ทองขาวมีโรคแทรกซ้อนประกอบกับกำลังก้าวสู่วัยชรา เมื่อคืนนี้หลังจากลุงกับป้ากลับจากทำธุระนอกบ้าน พบว่าทองขาวได้นอนสิ้นใจแล้ว นับจากนี้หน้าที่ดูแลบ้านทั้งสองหลังคงมอบหมายภาระหน้าที่ให้แก่จิกกี๋แต่เพียงผู้เดียว ปล.ภาพประกอบจากFlickr

จิ๊กกี๋ ทองขาว

ซ่อมคอม

เรื่องทั่วไป 28 April 2011

ป้าข้างบ้าน : เจตป้าอยากให้ช่วยซ่อมคอมฯให้หน่อย พอซ่อมได้ไหม ผม : ต้องดูก่อนครับ ว่ามันเป็นอะไรมากมั้ย? ป้าข้างบ้าน : ไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว เห็นว่าตั้งอยู่เฉยๆ ช่วยดูให้หน่อยนะ ผม : ได้ครับ แต่คอมฯมันเป็นอะไรเหรอครับ ป้าข้างบ้าน : มันไม่มีจอ ผม : ..

ขำขำ ซ่อมคอม
อ่านต่อ

ทริป-เที่ยงท่อง-ล่องแพ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 12 February 201415 June 2019

พูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียงแค่ 128 กิโลเมตร (ระยะจากกรุงเทพถึงเขตจังหวัดกาญจนบุรี) แต่บรรยากาศและสถานที่เที่ยวของจังหวัดนี้มีเยอะครับ และถ้าพูดถึงกาญจน์ หลายคนก็จะคิดถึงเขื่อน แพ และน้ำตก ..ทริปนี้เราไปเขื่อนครับ ได้ที่พักที่ อนันตาริเวอร์ฮิลส์รีสอร์ท ซึ่งที่พักมีทั้งแบบแพ แบบห้องพัก และกางเต๊นท์ เราไปครั้งนี้ได้ทั้งแบบห้องแพ ห้องพักบนสันเขื่อน และกางเต๊นท์ครับ กลางวันอาจจะร้อนไปหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าพอตะวันตกดินเท่านั้นละครับ..ความหนาวเย็นเริ่มมาเยือนทันที จุดแข็งของที่นี่นอกจากมีเครื่องเล่นในน้ำแล้ว อาหารรสชาตถือว่าเด็ดครับ ถ้าไปเป็นหมู่คณะที่นี่ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี .. เล่นน้ำเหนื่อยๆ ขึ้นมาแล้วได้ทานข้าวอร่อยๆ ..แค่นี้ก็มีความสุขละครับ 🙂

อนันตาริเวอร์ฮิลส์รีสอร์ท เที่ยวกาญจนบุรี
อ่านต่อ

เที่ยวชุมพร 3 วัน 2 คืน

ท่องเที่ยว 20 February 201916 June 2019

ชุมพรเป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคใต้ ถ้าเดินทางจากกรุงเทพ จังหวัดชุมพรถือว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ติดกับประจวบคีรีขันธ์ แต่จังหวัดประจวบฯ ถือว่าเป็นภาคกลางตอนล่าง ยังไม่นับเป็นภาคใต้ .. การเดินทางไปชุมพรครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการไปเที่ยวภาคใต้ในรอบหลายสิบปี (ครั้งก่อนโน้นไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ที่จังหวัดพังงา) เช่นเคยครับการเดินทางไปครั้งนี้ผมขับรถไปด้วยตัวเอง คืนแรกพักที่ ชลิชา รีสอร์ท  ตั้งอยู่กลางเมืองชุมพร เพราะตั้งใจว่าวันแรกจะเที่ยวในตัวเมืองชุมพรก่อน และคืนที่สองพักที่นานาบีช รีสอร์ท ติดทะเล ไหนๆก็มาทะเลแล้ว ก็ต้องลงทะเลซะหน่อย ชลิชา รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่เงียบสงบ สะอาด ราคาไม่แพง ข้อเสียคือไม่มีอาหารเช้า (หากต้องการอาหารเช้า ต้องเพิ่มเงิน) ที่นี่จึงเหมาะแก่การพักค้างหลังจากไปเที่ยวมาแล้ว  ไม่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเท่าไรนัก อยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 15 กิโลเมตร คืนที่สองนานาบีชรีสอร์ท มีที่พักทั้งแบบเป็นหลังและเป็นห้อง ราคาก็แตกต่างกันไป ..ผมได้แบบห้อง ข้อเสียคือ อยู่ชั้น 3 และแอร์ไม่ค่อยเย็น แต่ข้อดีคือมีสระว่ายน้ำ และติดทะเล! งานนี้จึงได้เล่นทั้งน้ำทะเลและน้ำในสระ มาทะเลทั้งทีก็ขออยู่กับทะเลให้หนำใจ ตอนเช้าๆ สำหรับคนที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย หาดทุ่งวัวแล่นที่มีระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร ถือเป็นที่วิ่งที่บรรยากาศดีไม่น้อย ทะเลอาจจะไม่สวยใสเท่าฝั่งอันดามัน แต่ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศทะเลที่ไม่พลุกพล่าน ขอแนะนำที่ชุมพรเลยครับ

ชุมพร หาดทุ่งวัวแล่น
อ่านต่อ

เสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย

ไดอารี่ 13 October 20163 November 2017

    * เป็นวันที่โลกมืดมิดและหยุดนิ่ง ได้ยินเพียงเสียงร่ำไห้

สวรรคต ในหลวง
อ่านต่อ

เขาใหญ่ ฮาล์ฟมาราธอน 2017

วิ่ง, สุขกะภาพ 5 March 20178 August 2019

งานนี้ถือเป็นฮาล์ฟมาราธอนครั้งที่ 4 และเช่นเคยครับ ไปวิ่งคนเดียวแม้ตอนสมัครจะสมัครด้วยกันสองคนก็ตาม!

เขาใหญ่ เขาใหญ่ฮาล์ฟมาราธอน
อ่านต่อ

“อดทนเวลาที่ฝนพรำ.

สุขกะภาพ 28 September 20163 November 2017

.อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจางหาย ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ..”

ฝนตก รถติด
อ่านต่อ

Morning Trail Run

วิ่ง, สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 18 July 20163 November 2017

ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสไปต่างจังหวัด ต้องไม่พลาดที่จะหยิบรองเท้าวิ่งและชุดสำหรับวิ่งไปด้วย เพราะเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสนามวิ่งใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ และที่สำคัญได้ออกกำลังกายด้วย ครั้งนี้เช่นกันครับ วิ่งรอบฝายเก็บน้ำที่มีระยะรอบประมาณ 1 กิโลเมตร เวลา 6 โมงเช้าแดดก็เริ่มมาละ ไม่ได้ถ่ายฝั่งที่เป็นฝายเก็บน้ำนะครับ ถ่ายแต่บรรยากาศรอบๆ ที่เป็นทุ่งนา ต้นไม้ นี่คือกองเชียร์ข้างทาง แต่บางจุดกองเชียร์ก็เข้ามาในเลนส์วิ่งแบบนี้! ดูเส้นทางสำหรับวิ่งซะก่อน ..นี่มันวิ่งเทรลชัดๆ แต่บางจุดถนนก็ดี มีต้นไม้เป็นซุ้ม บรรยากาศโดยรวมสดชื่น เขียวชะอุ่มครับ ต้นข้าวได้น้ำใหม่ กำลังเติบโตอยู่เต็มทุ่งสุดลูกหูลูกตา เวลาอาจไม่ดีนัก แต่ระยะทางเป็นที่น่าพอใจ ทริปหน้าไปวิ่งที่ไหนดี..

วิ่ง ออกกำลังกาย

แฮรี่ พ็อตเตอร์ ตอน เจ้าชายเลือดผสม

บ่น, ไดอารี่ 19 July 200914 June 2019

ของฟรีไม่มีในโลก..ของฟรีมักไม่ดี ของดีมักไม่ฟรี… คำนิยามนี้ ถูกต้อง 99 % อีก 1 เปอร์เซ็นต์ คือ มันมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้กับคนๆหนึ่งอย่างน้อย 1 ครั้ง แน่นอนไม่ใช่เรื่องของการพนันขันต่อ อย่างเช่นหวย แต่มันเป็นเรื่่องของโชค และอะไรสักอย่างที่บอกไม่ถูก แต่มันจะพอดิบพอดี และจะทำให้เรารู้สึกดีกับคำว่าของฟรีนั่น ผมเคยได้รับของฟรีชนิดดีเกินคาดมาอย่างน้อย 1 ครั้ง ที่จำได้แม่นที่สุดคือ ได้คูปองไปเที่ยวฟรีมูลค่า 2 หมื่นบาท 2 วัน 3 คืน จากการส่งเมสเสจไปร่วมในรายการวิทยุที่ผมพึ่งเคยฟังแค่ครั้งเดียว!! นอกจากนั้นยังเคยได้ตั๋วไปดูหนังฟรีหลายครั้ง แต่นั่นไม่นับว่าเป็นของดี เพราะส่วนใหญ่ได้นั่งแถวเกือบหน้าสุด และโรงหนังก็เล็กๆ อยู่ในที่ๆคนไม่ค่อยรู้จัก เช่น อาร์ ซี เอ, เซ็นจูรี่ มูฟวี่พลาซ่า อนุสาวรียชัย ฯลฯ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ได้ของฟรีอีกแล้ว ของฟรีชนิดดีเกินคาด คือ ได้ตั๋วฟรีของแฮรี่พ็อตเตอร์ โรงหนังขนาดใหญ่ในพารากอน  ได้ที่นั่งชนิดไม่ต้องแงนหน้าดูจอ คือได้แถว E ของฟรีจะมีมูลค่าราคาขึ้นมาทันที ถ้าของๆนั้น เป็นสิ่งที่เราอยากได้อยู่แล้ว และมันมีมูลค่าดีอยู่แล้วในตัวของมัน ผมตั้งใจจะดูอยู่แล้วแฮรี่พ็อตเตอร์ หลังจากอ่านจบทั้ง 7 เล่ม และติดตามดูมาตลอดทั้ง 5 ภาคที่ผ่านมา วันนี้ได้ดูหนังดี ที่นั่งดี และโรงหนังดีขนาดใหญ่ประมาณด้วยสายตาน่าจะสัก 800 ที่นั่ง (มั่วนิ) เข้าเรื่องหนังบ้างดีกว่า ถ้าใครได้อ่านแฮรี่พ็อตเตอร์มาก่อน จะได้อรรถรสในการชมภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าภาคไหน โดยเฉพาะภาคนี้ ทำได้เหมือนหนังสือมากที่สุดภาคหนึ่ง และคนที่อ่านเล่ม 6 จะรู้ว่าภาคนี้ เจ้าชายเลือดผสม เป็นภาคที่เศร้าสะเทือนใจที่สุด เป็นตอนที่มีความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการพ่อมด เหมือนต้นโพธิ์ที่เป็นที่อาศัยของเหล่าปักษาล้มลง เหมือนดวงอาทิตย์ไม่โผล่ขึ้นในตอนเช้าในวันที่ีหนาวเหน็บ อารมณ์ตอนอ่านเศร้ายังไง มาดูในภาพยนตร์ก็เศร้าอย่างนั้น ไม่ต่างกัน แสดงถึงหนังที่ทำอิงกับหนังสือได้ดีมากทีเดียว ภาคนี้ถือเป็นภาคเปิดศึกต่อท่อให้ภาคจบเป็นภาคที่มันส์ระทึก จำได้ว่าตอนอ่านแทบหยุดหายใจ สมกับเป็นนิยายที่ยิ่งใหญ่ จบได้อลังการและสมบูรณ์แบบทีเดียว หากใครที่ยังไม่ได้อ่านแฮรี่พ็ตอเตอร์ ผมว่าชีวิตนี้ยังขาดอะไรไปนะ คุณอาจเคยพลาดหลายสิ่งที่ดีๆในชีวิตหลายครั้ง และนี่ก็นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่คุณพลาด!! หลังจากหนังจบ ถัดจากแถวที่ผมนั่งไป 2 แถว…

ถางทาง สร้างฝัน

ไดอารี่ 24 June 2008

“ทำอะไรต้องทำด้วยใจจริง” ท่องเน็ตไปเจอบทความหนึ่งน่าสนใจ คิดจะเอามาไว้ที่นี่เหมือนกัน แต่ไม่ดีกว่า เรามาต่อยอดความคิดของเขาดีกว่า บทความที่ว่านั้น กล่าวถึงความตั้งใจในการทำอะไรสักอย่าง ต้องมีความตั้งใจเป็นสำคัญ ความรู้แบบผิวเผิน ให้ผลในทางลบเสมอ ไม่พอที่จะพัฒนาตัวเองได้ ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อไรก็ตามที่หยุดหาความรู้ หยุดพัฒนาตัวเอง ก็จะกลายเป็นฟอลซิล ..เขาว่าอย่างนั้นนะครับ ผมเห็นด้วย และชอบใจบทความที่เขียนนี้มาก อ่านแล้วก็กลับมามองตัวเองจะว่าเก่งอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นเรื่องเป็นราวสักเรื่อง ก็ไม่ ได้อันโน่นนิด อันนี้หน่อย เกือบจะดี แต่ก็ยังไม่ดีพอ เกือบจะเก่ง แต่ก็ยัง มิหนำซ้ำหลังๆ เกิดโรคสันหลังยาว ขี้เกียจหาความรู้ ขี้เกียจพัฒนาตัวเอง ขี้เกียจฯลฯ โรคชี้เกียจ..เป็นโรคร้ายที่น่ากลัวทีเดียว จึงจำเป็นต้องรีบพัฒนาตัวเอง ไม่ให้โลกหมุนทิ้งเราไว้เดี่ยวดาย ความรู้สามารถเรียนเท่าทันกันได้ แต่ความรู้อย่างเดียว ถ้าไม่นำไปพัฒนา หรือใช้ประโยชน์ก็ไร้ประโยชน์ ต้องมารื้อตัวเองซะใหม่..พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน หลักการนี้ ต้องด้วยธรรมะในพระพุทธศาสนา หัวข้อ อิทธิบาท 4อิทธิบาท 4 ความหมายคือ หนทางไปสู่ความสำเร็จ 4 ข้อ ฉันทะ สร้างความรัก ความชอบในสิ่งที่ทำก่อน ไม่ใช่แค่ความรัก ความชอบอย่างเดียว ต้องสร้างความพอใจอย่างรุนแรง อยากเห็น อยากทำ อยากอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืน นั่นคือ ฉันทะ ชนิดหลอกตัวเองว่าชอบ ยังใช้ไม่ได้ วิริยะ เมื่อเกิดความรัก ความพอใจ ก็เพียรมั่น ตั้งใจทำอย่างเต็มความสามารถ จิตตะ ตั้งมั่น จิตจดจ่อต่อสิ่งที่รักนั้น พุ่งสมาธิและความตั้งใจทั้งหมดไปยังสิ่งนั้นสิ่งเดียว วิมังสา ไตร่ตรองพิจารณาด้วยเหตุผลถึงสิ่งที่ทำแล้วนั้น ถูกต้อง ผิด-ถูก ดี-ไม่ดี อย่างไร แก้ไขอย่างไร ถึงจะดีขึ้น และดีที่สุด   ธรรมะทั้ง 4 ข้อ ผมก็รู้ แต่ก็นั่นแหละ แค่รู้อย่างเดียว ไม่นำไปปฏิบัติ คงจะก่อเกิดประโยชน์ได้ยาก ทางไปสู่ความสำเร็จ ต้องลงมือถางทางด้วยตัวเอง รัก ตั้งใจ จดจ่อ มุ่งมั่น ถึงจะสร้างฝันสำเร็จ

อ่านต่อ

ทริปทุเรียน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 June 201416 June 2019

ไปเที่ยวระยองครับ.. ครั้งสุดท้ายที่ไปเที่ยวต่างจังหวัด คือ เมื่อปีใหม่  ครั้งนี้อยากไปเที่ยวแนวธรรมชาติ เลยไประยอง ไปกินทุเรียน! ได้ไอเดียจากอ.วีระ แกพึ่งพามิตรรักแฟนเพลงไปเที่ยวชิมทุเรียนที่ระยองมา เราไม่มีโอกาสได้ไปกับแก เลยต้องไปเองครับ เป้าหมายคือ สวนบ้านเรา อ.แกลง สวนเดียวกับที่ อ.วีระไป  และที่พักที่ทำการจองไว้ คือ โรงแรมโกลเด้นท์ ซิตี้ เมืองระยอง ที่พัก กับ ที่เที่ยว อยู่กันคนละที __ แต่ไม่ใช่ปัญหา ถือว่าขับรถเที่ยว เช้าวันเสาร์ออกเดินทาง วิธีเดินทางง่ายมากครับ ขับรถมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าชลบุรี พอพ้นจุดพักรถบนมอเตอร์เวย์ขับต่อไปไม่นาน ก็จะมีป้ายระยองออกขวา ไปทางบ้านบึงครับ ทีนี้ก็ขับยาวอย่างเดียวจนถึงระยอง ผมไปถึงสวนบ้านเรา เวลา 11.00 น. โดยประมาณ จ่ายค่าบุพเฟ่ 200 บาท/คน และหลังจากนั้นก็ได้เวลากินอย่างไม่ยั้ง ไม่ว่า่จะเป็นทุเรียนหมอนทอง เงาะ ลองกอง และมังคุด สวนทีนี่ดูแลโดยคุณขจร แกบอกทำสวนมาได้ 7 ปีแล้ว แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดบุฟเฟต์ เพื่อเปิดตลาดสำหรับนักชิมผลไม้ ทีนี่มีพันธุ์ทุเรียนกว่า 100 สายพันธุ์ แต่ช่วงนี้มีเหลือแค่หมอนทองกับชะนี “ถ้าให้ดีควรมาช่วงหลังสงกรานต์ ช่วงนั้นจะได้ชิมทุเรียนหลายพันธุ์และทุเรียนจะอร่อยมากในหน้าร้อน” กินทุเรียนอิ่มหน่ำก็ตีรถเข้าระยองครับ ระหว่างทางก็แวะเที่ยวชายหาดของจ.ระยอง  มาถึงโรงแรมที่พักในตัวเมืองระยองในเวลา 5 โมงเย็น ระยองเป็นจังหวัดปานกลาง ไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก ในตัวเมืองมีรถมาก เจอคนขับรถแย่ๆ  2-3 ครั้ง ทำเอาเสียความรู้สึกไปเหมือนกัน แต่ก็ทำใจว่า คนขับรถแย่ๆที่ไหนก็มี!! เช้าวันอาทิตย์ ต้องเดินทางกลับกรุงเทพละ แต่ก่อนกลับต้องหาของฝากก่อน เลยไปแวะตลาดบ้านเพซื้ออาหารสด อาหารทะเล และแวะไปสวนทุเรียนบ้านเราอีกครั้ง เพื่อซื้อของฝาก จากเมื่อวานที่เห็นของฝากเป็นทุเรียนทอดหลายถุง พอทัวร์มาลงเท่านั้นแหละ เกลี้ยงเลย…จึงได้แค่ทุเรียนหมอนทอง แวะเอาไปฝากพ่อตาที่ บางแสน ชลบุรี ก่อนจึงบึ่งรวดเดียวถึงกรุงเทพ ___รวมระยะทางทั้งไปและกลับ 700 กว่ากิโลเมตร ใช้แก๊ส LPG ไป 700 กว่าบาท จบทริป..ทุเรียน ปล. เย็นวันนั้นกลับถึงบ้าน 5…

ทุเรียน ระยอง สวนบ้านเรา

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (57)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (69)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH