Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ชิงหมาเถิด

ชิงเถิดหมา อ่านต่อ

ชิงเถิดหมา

ไดอารี่ 20 February 2011

ถ้าพูดถึง “พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง” หลายๆคนก็คงจะคิดภาพผู้ชายดิบๆ เถื่อนๆ สมัยวัยรุ่นเป็นนักร้องร็อค เพลงกวนตีนอย่าง ครายจะทำมาย หรือเพลงที่โดนใจจิ๊กโก๋อย่าง หัวใจนักเลง เพลงซึ่งๆอย่าง สั่งเสีย และอื่นๆอีกมากมาย ภายหลังนักร้องร็อครุ่นใหญ่ได้มาเอาดีทางการแสดง ก็จัดได้ว่าเป็นนักแสดงขั้นเทพคนหนึ่ง จนปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเต็มตัว สร้างชื่อให้ตัวเองโด่งดังจากเรื่อง Be myself ขอให้รักจงเจริญ และเรื่อง Happy Birthday ส่วนงานละครก็มีให้ชมอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าฝีมือเป็นที่ถูกอกถูกใจคอหนังคอละครทีเดียว จนมาถึงเรื่องล่าสุด “ชิงหมาเถิด” ทีแรกก็คิดว่าเป็นหนังตลก เพราะดูจากตัวอย่างหนังที่ตัดมา มีแต่ฉากตลก แต่พอได้ดูจึงรู้ว่าเป็นหนังเสียดสีแดกดันประชดประชันสังคมแทบจะถูกอณูหนัง คือทุกฉากมีการแอบกัดแอบประชดสังคมตลอด อยู่ที่ว่าผู้ดูสามารถตีความหรือดูออกหรือไม่? หนังเล่าถึงยุคที่สังคมเป็นโรคบ้าเห่อ ในหนังทุกคนกำลังเห่อสัตว์ตัวหนึ่งที่เรียกกันว่าเป็น “หมาหิมะ” หมาหิมะเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ ยกเว้นสามคน คือ ลูกเจ้าของหมาหิมะที่พ่อสนใจแต่หมาจนไม่สนใจตน รู้สึกตัวเองว่าถูกหมาหิมะแย่งความรักไปจนหมด อีกคนคือ “เด่น” ผู้ถูกให้ออกจากงาน เพราะไม่เอาการเอางาน แต่พาลไปโกรธ “หมาหิมะ” พยายามประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ก็ไร้ผล และอีกคนคือ “อาท” เด็กอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ แต่แล้วทุกคนก็ลืมเขาผู้เป็นเด็กอัจฉริยะ หันไปสนใจและกล่าวถึงแต่หมาหิมะ จนเขารู้สึกมั่นไส้จึงเขียนประกาศในห้องน้ำชายว่า เขาจะลักหมาหิมะมาให้ดู หนังก็เล่าถึงระบบรักษาความปลอดภัยหมาหิมะขั้นสูง พอๆกับระบบรักษาความปลอดภัยของภาพโมนาลิซ่า หรือเพชรพันล้าน  ภาพตอนผ่านเข้าไปทีละขั้น ดูไฮเทคดี แต่พอตัดมาที่ฉากบัญชาการภายใต้ระบบที่โคตรไฮเทคนั้น โลเทคสิ้นดี มีคอมพิวเตอร์เก่าๆ 4-5ตัว และเจ้าหน้าที่หน้าตาโบราณเหมือนข้าราชการแก่ที่ไม่ค่อยรู้จักคอมพิวเตอร์นั่งบัญชาการอยู่ สภาพห้องยิ่งหดหู่ ฉากที่แดกดันประชดประชันมากที่สุดคงเป็นฉากที่ผู้บัญชาการตำรวจกำลังนำทีมสืบหาหมาหิมะที่หายไป แต่แล้วนายตำรวจท่านหนึ่งก็เข้ามารายงานว่า จังหวัดหนึ่งของประเทศกำลังถูกยึดไปแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวด้วยเสียงมีอารมณ์ว่า “ประเทศเรามีหลายจังหวัด เสียไปจังหวัดเดียวก็เท่ากับเสียไปแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเสียหมาหิมะที่มีแค่ตัวเดียวในโลกเท่ากับเสียไป 100 ปอร์เซ็นต์ เท่านี้พวกคุณก็เรียงลำดับความสำคัญไม่ได้!!” แต่โดยรวมแล้วหนังก็สนุกดี ส่วนหนึ่งเพราะได้นักแสดงคุณภาพอย่าง บอย ปกรณ์  โก๊ะตี๋ มีฉากซึ้งๆระหว่างพ่อกับลูกให้ซึ่งได้เหมือนกัน แต่ที่ยังสงสัยจนหนังจบแล้วยังไม่หายสงสัยคือ พี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ในเรื่องเป็นใคร??? ดูจนจบแล้วหนังก็ไม่บอกว่าพี่แกเป็นใครมาจากไหน ไล่ยิงชาวบ้านอย่างเดียว พอถามก็บอกแค่ว่า เป็นหน้าที่ !! ยังบอกไม่ได้ว่า หนังของพี่อ็อฟเรื่องเป็นหนังแนวไหน สันนิษฐานว่าเป็นหนังตามใจผู้กำกับที่พยายามจะถ่ายทอดสังคมปัจจุบันในมุมมองของพี่แกเอง ตอนจบเป็นยังไง ไม่ขอบอก เผื่อบางคนอยากไปดู แต่ถ้าใครดูแล้วได้คำตอบว่าพี่อ็อฟเป็นใคร รบกวนช่วยมาบอกด้วยนะ อยากรู้จริงๆ

ชิงหมาเถิด พงษ์พัฒน์

เธอชื่อ "จิ๊กกี๋"

ไดอารี่ 21 June 2011

ถูกเอ่ยชื่อถึงในบล็อกก่อนหน้านี้ วันนี้เลยพามาแนะนำให้รู้จักซะหน่อย เธอชื่อจิกกี๋ ดูจากสารรูปภายนอก หลายคนนึกว่าเป็นเพศชายครับ แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นสุภาพสตรี ย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน จิ๊กกี๋เกิดในตระกูลหมาข้างถนน แม่จิ๊กกี๋เป็นหมาจรจัดหาเช้ากินค่ำข้างถนน ส่วนพ่อไม่ปรากฏนาม ถามแม่จิ๊กกี๋ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก เธอเอาแต่ร้องไห้ ดูท่าว่าถ้าปล่อยจิ๊กกี๋ไว้กับแม่ อนาคตคงไม่สดใสนัก นกจึงรับมาอุปการะไว้ และนับตั้งแต่นั้นจิ๊กกี๋ก็มีปลอกคอ มีชาติตระกูล มีบ้านให้หวง และมีเจ้าของให้รัก เมื่อครั้งที่นกต้องย้ายจากบ้านเดิม คือประชาชื่น 44 จิ๊กกี๋ไร้คนดูแลถูกปล่อยอย่างอดๆยากๆ ครั้งหนึ่งมันเคยหลงทางออกจากบ้าน 3 วัน ทุกคนนึกว่ามันคงถูกรถชนหรือไม่ก็อดอาหารตายไปแล้ว แต่แล้วเช้าวันหนึ่งขณะที่รถติดเป็นแถวยาวตรงสี่แยกงามวงศ์วาน จิ๊กกี๋วิ่งตุปัดตุเป๋ข้างถนน นกเห็นดังนั้น จึงรีบเปิดประตูรถวิ่งไล่จับจิ๊กกี๋ท่ามกลางความแปลกใจของคนในสี่แยก วันนี้จิ๊กกี๋ได้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่กับเรา ณ พฤกษาทาวน์ ราชพฤกษ์ มันใช้เวลาเกือบเดือนเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ และเพื่อนใหม่ๆ บ้านใหม่แห่งนี้ดีกว่าบ้านเดิมเพราะมีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น แม้จะวิ่งเล่นได้เพียงวันละ 2 ครั้งก็ตาม จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในบ้าน ครั้งหนึ่งที่เราไปต่างจังหวัด 3 วันและผูกจิ๊กกี๋ไว้ในบ้าน จิ๊กกี๋ไม่ยอมอึหรือฉี่เลย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเธอ คือ กลัวฟ้าร้อง ฟ้าแล่บและฝนตกมาก ถ้าแม้มีฟ้าแล่บหรือฝนตกแต่เพียงนิดเดียวมันก็จะทุบประตูเพื่อขอเข้ามาหลบฝนในบ้าน ทั้งๆที่ในโรงรถก็หลบฝนได้ จะทุบจะตียังไงจิ๊กกี๋ก็ยอม เพื่อแลกกับการได้เข้าในบ้าน จิ๊กกี๋ผ่าใบหูสองครั้ง และนี่เป็นครั้งที่สองที่หูอักเสบเกิดจากการสะบัดหูจนเส้นเลือดฝอยแตก ทำให้เลือดคั่ง ครั้งนี้จิ๊กกี๋มีอาการผิดปกติ ซึมจนเราตกใจ ได้แต่หวังว่าสักวันจิ๊กกี๋จะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม.. เราไม่สามารถตัดสินใจคนจากภายนอกได้ แต่สามารถตัดสินจิ๊กกี๋จากแววตามันได้ เมื่อคืนเห็นแววตาใสซื่อและน่าสงสารของมัน แสดงว่ามันรักคุณเข้าแล้ว  

จิ๊กกี๋
อ่านต่อ

ทริปสันหนอกวัว 3 วัน 3 คืน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 10 November 202218 December 2022

กลับไปสู่ป่าเขาอีกครั้งตามคำเรียกร้องของจิตวิญญาณ เสียงลมและแสงแดดกำลังต้องการตัว ทริปนี้ผมไป “สันหนอกหวัว”

กาญจนบุรี สันหนอกวัว เดินป่า
อ่านต่อ

เที่ยวเมืองกาญจน์

ท่องเที่ยว 2 December 201525 August 2022
กาญจนบุรี โก๋ เมืองกาญจน์

เมืองต้องคำสาป

เรื่องทั่วไป 8 March 2010

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ..ร้อนขนาดอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันเช็ดตัว ตัวก็เกือบแห้งแล้ว แอร์คอนดิชั่นแต่ละบ้านทำงานหนักเป็นพิเศษ ทำความเย็นให้บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ขณะเดียวกันมันก็ระบายความร้อนให้โลก คนกลุ่มเล็กๆเย็นสบายนอนห่มผ้าหนาๆหลับฝันดี ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ร้อน โลกก็ร้อน!! ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อยแล้วนะครับ สำหรับเรื่องโลกร้อน หลายคนพยายามผูกให้เข้ากับคำทำนาย(ของใครไม่รู้) ที่บอกว่าโลกจะแตกในปี 2012 มีภาพยนตร์หลายเรื่องทำออกมาเขย่าขวัญกันอีก เพิ่มความน่าเชื่อถือของคำทำนายดังกล่าวมากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ ขณะนี้ทั่วโลกเกิดวิกฤตการณ์แปลกประหลาดของธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เริ่มตั้งแต่.. แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เฮติ.. แผ่นดินไหวที่ชิลี.. แผ่นดินไหวที่ตุรกี.. น้ำท่วมที่อเมริกา.. โคลนถล่มในอีกหลายประเทศแถบตะวันออกกลาง.. ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย.. ซึนามิถล่มที่อินโดนีเซีย.. น้ำในแม่น้ำโขงแห้งที่สุดในรอบ 30 ปี.. …ฯลฯ….. ตอนนี้นานาประเทศกำลังตกใจต่อวิกฤตการณ์เหล่านี้มาก ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนอีก  หลายๆประเทศตกอกตกใจและเริ่มคิดถึงแนวทางแก้ไข รวมถึงการป้องกันและการเตรียตัวรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้.. เวลาเดียวกันกับที่นานาประเทศกำลังเตรียมตัวรับมือกับวิกฤตการณ์นี้ ประเทศไทยก็เตรียรับมือเหมือนกัน แต่ไม่ได้เตรียมตัวรับมือวิกฤตการณ์ธรรมชาติอะไรหรอกนะครับ..เตรียมรับมือกับวิกฤตการณ์คนไทยด้วยกันนี่แหละ…เห็นชาติโน้นชาตินี้เขาประสบปัญหากลัวจะน้อยหน้า ก็เลยสร้างปัญหาขึ้นซะเองเลย.. แม้ตอนนี้นักเรียนจะปิดเทอมแล้ว  แต่เราก็มีกีฬาสีให้ชม..มหกรรมกีฬาสีทำลายชาติกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้วในไม่กี่วันข้างหน้า ชาวประชาตื่นเต้นจนตัวสั่น ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยง พี่ป้าน้าอาพ่อเฒ่าแม่เฒ่าในชุดสีแดงต่างไม่หวั่นไหวต่อความร้อนแรงแห่งแดด แดดจะร้อนเท่าไรหากเทียบกับใจที่ร้อนแทบระเบิดเมื่อนายใหญ่ถูกยึดทรัพย์ไปกว่าครึ่ง ..แค้นครั้งนี้ต้องมาชุมนุม เมื่อครั้งในอดีตชาวบ้านบางระจันรวมกันด้วยพี่ป้าน้าอาทั้งหญิงชาย รวมผนึกกำลังเพื่อป้องกันดินแดนเกิดจากอริศัตรูคือพม่ารามัญ ครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันไม่อาลัยในชีวิตหากเทียบกับผืนแผ่นดินไทยที่ยิ่งใหญ่ ยามสละเลือดแลชีวิตเพื่อต้านพม่า วีรกรรมครั้งนั้น ทำให้อนุชนรุ่นหลังรำลึกถึงและกล่าวขวัญกันสืบมาจนปัจจุบัน.. หวนกลับมาถึงพี่ป้าน้าอาในชุดสีแดงในปัจจุบัน… ชาวบ้านบางระจันหันหน้าออกนอกประเทศ หันหลังให้แผ่นดินมาตุภูมิ เตรียมประจัญกับข้าศึก.. กลุ่มเสื้อแดงหันหลังออกนอกประเทศ หันหน้ามาสู่แผ่นดินเกิด..เตรียมประจัญหน้ากับคนไทยด้วยกันเอง.. เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเขมรแบ่งกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ฆ่าฟันกันเอง มีคนตายเป็นล้าน เรามองเพื่อนบ้านแล้วพูดว่า “ประเทศเขมรเหมือนถูกสาป คนในชาติต้องมาฆ่ากันเอง” มาวันนี้..เรายังจะกล้าพูดประโยคเดิมได้อีกหรือไม่นะ ฤๅคำสาปมันเดินได้  ..มันกำลังเดินมายังประเทศไทยแล้ว

อ่านต่อ

บาป-บุญ-คุณ-เธอ

สุขกะภาพ 3 April 2014

เมื่อตอนเด็กๆ พอยังจำความได้นิดๆหน่อยๆ แม่จะกระเตงผมไปวัดด้วย ขณะฟังพระท่านให้ศีลให้พรผมก็ปีนป่ายตามตัวแม่ แม่ก็พยายามจับมือผมพนมพร้อมกับดุว่าต่อหน้าพระอย่าซน ผมหยุดซนได้ไม่เกิน 10 วินาที ก็เริ่มซนใหม่ ตามประสาเด็ก   พอโตขึ้นมาหน่อย แม่ก็เริ่มสอนให้รู้จักใส่บาตรตอนเช้า ส่วนหนึ่งคือช่วยเป็นภาระแทนแม่ แม่มือไม่ว่าง ก็ได้ผมช่วยใส่บาตรแทน แม่ก็ได้บุญในฐานะคนจัดหาอาหารมาใส่บาตร ผมก็ได้บุญในฐานะตัวแทนมาทำบุญตักบาตร ความใกล้ชิดกับวัดวา พระสงฆ์องค์เจ้าตั้งแต่เด็กนี่เอง ทำให้เรากลัวในบาปบุญคุณโทษ เชื่อเรื่องกรรม ซึ่งอาจจะตรงข้ามกับคนในยุคปัจจุบันที่มองสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องขบขัน และมักมีคำถามแปลกๆ ว่า บาปบุญมีจริงเหรอ? นรกสวรรค์อยู่ตรงไหน? ทำดีได้ดีจริงหรือ? ฯลฯ ผมเองก็คงตอบไม่ได้ต่อคำถามเหล่านี้ เพราะตัวเองก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นคำถาม เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วในตัวของมัน มันจะค่อยๆชัดเจนเรื่อยๆ ตามวัย เห็นภาพนี้แล้วก็คิดถึงตัวเองตอนเด็กๆ ผมคงไม่นั่งเปะเหมือนเด็กในภาพ แต่วัย ณ ขณะนั้นคงไล่เลี่ยกัน คำอธิบายภาพ : ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ iphone 4s หน้าร้านข้าวแกง/อาหารตามสั่ง ติดกับโรงพยาบาลเพชรเวช เสื้อสีม่วงนั่นคือพนักงานของโรงพยาบาลเพชรเวช

พระ ใส่บาตร
อ่านต่อ

ทริปวันเดียว-เที่ยวน้ำตก-นอนเต๊นท์-กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 October 201912 November 2019

เป็นอีกหนึ่งปุ้บปั้บทริป..คุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่าเสาร์นี้ไปกินข้าวกันมั้ย แค่ชวนกินข้าวร้านดีๆแถวบ้าน รู้ตัวอีกทีมากินข้าวกลางป่าที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสายน้ำและภูเขาซะแล้ว.. ที่หลับที่นอนคืนนี้อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีห่างจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 7 กิโลเมตรติดกับเขื่อนศรีนครินทร์ กางเต๊นท์บนผาที่มองด้านล่างลงมาเป็นเขื่อน ใกล้ๆกันมีน้ำตกที่ไม่ปรากฏชื่อในแผนที่!! สายน้ำเล็กๆที่ไหลผ่านหน้าเต๊นท์พวกเรา คือน้ำที่แบ่งสายมาจากน้ำตกซึ่งไหลลงมาจากภูเขาลงเขื่อน บรรยากาศต้องบอกว่าสุดๆจริงๆ   หลังจากกางเต๊นท์เสร็จก็ลองเดินสำรวจน้ำตกครับ ทีแรกนึกว่าน้ำตกเล็กๆ แต่พอเดินลัดเลาะไปตามเสียงน้ำตกก็พบว่า ไม่เล็กเลย แต่เนื่องจากทางที่เดินลงมาค่อนข้างลำบาก คนก็เลยไม่นิยมมาเล่น กอรปกับค่อนข้างอันตรายนิดนึ่งเพราะด้านล่างเป็นเขื่อน ถ้าลื่นมีหวังไหลลงเขื่อนแน่นอน หลังจากสำรวจเสร็จก็กลับไปทำอาหารกินกันที่เต๊นท์ครับ บรรยากาศทำอาหารกินเองหวนให้ระลึกถึงสมัยเข้าค่ายลูกเสือ สมัยนั้นได้มาม่าปลากระป๋องนี่ก็ถือว่าเลิศแล้ว คืนนี้มีฝนปรอยๆทำให้บรรยากาศเย็นลงนิดนึง นอนฟังเสียงฝนและเสียงน้ำตก บางคนอาจรำคาญ แต่สำหรับผมบอกเลยว่า ฟินนนนน เช้าประมาณตี 5 เปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดกีฬา ออกไปวิ่งที่เขื่อนศรีนครินท์ บรรยากาศต้องบอกว่าคุ้มค่าตื่นมากๆ..หมอกหนาเต็มพื้นที่ ราวกับวิ่งบนสวรรค์ หลังจากวิ่งเสร็จก็กลับมาทานอาหารเช้ากันที่เต๊นท์ และหลังจากนั้นสายๆ ก็เก็บเต๊นท์ และมุ่งหน้าไปหาน้ำตกอีกที่หนึ่ง เราออกเดินทางจากจุดกางเต๊นท์ประมาณ 40 กิโลเมตร ก็มาถึง “น้ำตกแม่ขมิ้น” น้ำตกแม่ขมิ้น เป็นอุทยานแห่งชาติครับ ดังนั้น จึงมีบริการจุดกางเต๊นท์ มีร้านค้าสวัสดิการ เรียกว่าเป็นอีกที่หนึ่งสำหรับคนที่ชอบกางพักแบบกางเต๊นท์ มีเต๊นท์ให้เช่าหรือจะเอาเต๊นท์มาเองก็สะดวก จบปุ้บปั้บทริปแต่เพียงเท่านี้ครับ

กาญจนบุรี น้ำตกแม่ขมิ้น
อ่านต่อ

ตรีนจุด..ตรุษจีน

ไดอารี่ 3 February 200916 June 2019

ผ่านตรุษจีนไปตั้งหลายวัน พึ่งมีเวลาโพสต์ภาพ งานตรุษจีนเยาวราช งานนี้ฉายเดี่ยวครับ โชคดีเจ้าของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ เป็นคนจีน เลยได้อานิสงส์ได้หยุดในวันตรุษจีนกะเค้าด้วย หลายบริษัทไม่ได้หยุด ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาบรรยากาศมาฝาก 🙂 ผมไปสิงสถิตย์ที่วัดไตรมิตรวิทยารามตั้งแต่เที่ยงครับ คนเริ่มมากันหนาตั้งแต่เที่ยงที่มีอากาศเปรี้ยงปร้าง วัดไตรมิตรมีโบราณวัตถุที่คนกทม.ไม่ค่อยรู้จัก(แต่คนต่างประเทศรู้จักกันอย่างแพร่หลาย) คือ พระพุทธรูปทองคำ สุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกบันทึกไว้ในกินเนสบุค แต่เดิมทีไม่ใช่พระทองคำอย่างที่ปรากฏ เป็นเพียงพระปูนปั้นที่ไม่มีความงาม หาคนสนใจไม่มี มีแต่คนเกี่ยงกันเอา จนที่สุดวัดไตรมิตรต้องสร้างวิหารเล็กๆ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน แต่ในวันที่ได้ขนย้ายขึ้นวิหารนั้น เกิดอุบัติเหตุ ทำให้พระปูนปั้นกระเทาะปูนออก ทันใดนั้นเอง คนทั้งหลายต่างแปลกใจครับ เมื่อมีแสงส่องออกมาจากร่องรอยที่ปูนปั้นแตกออก..และเมื่อได้กระเทาะปูนออกทั้งหมดก็ได้ปรากฏพระพุทธรูปทองคำที่สวยอร่ามดั่งเช่นปัจจุบัน นับแต่วันโน้นถึงวันนี้ พระพุทธรูปทองคำยังคงประดิษฐานอยู่แต่ในวิหารเล็กๆ จนบัดนี้วัดไตรมิตรได้ดำเนินการก่อสร้างพระมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำให้สมพระเกียรติ และวันนี้มณฑปก็เป็นรูปเป็นร่างใกล้เสร็จแล้วครับ คาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายน ในวันตรุษจีนเปิดให้เข้าชมได้แต่เพียงบางส่วน (มี 4 ชั้น ชั้น4 ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ชั้น 3 มีพิพิธภัณฑ์) ว่ากันว่าชั้นที่เปิดให้ชมเป็นพิพิธภัณฑ์นั้น อลังการงดงามอย่างยิ่งครับ (วันที่พระเทพฯเสด็จมาเปิดงาน พระองค์เสด็จอยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์ตั้งเกือบ 2 ชม.) ตอนนี้เปิดใหเข้าชมฟรีจนถึงวันที่ 8 ก.พ. 52 นี้ ตรงนี้เป็นอุโบสถครับ ลานกว้างๆเป็นหน้าพระมณฑป ต่อไปจะจัดเป็นลานหินอ่อน ห้ามรถจอด นี่ภาพมณฑปยามค่ำคืนของวันตรุษจีน นี่อีกภาพ.. นี่อีกมุม.. เทียนที่ถูกจุดขึ้นเพื่อบูชา..บนวิหาร ชมวัดพอละ เดี๋ยวจะพาแว่บไปเยาวราช ผมเดินนิดเดียว คนเยอะ ขี้เกียจ เหนื่อย !! ไม่ได้เล่าอะไรมาก เพราะในเยาวราชผมเดินไปแค่นิดเดียว ขี้เกียจฝ่าฝุงมหาชน ว่างๆ ก็ไปไหว้พระที่วัดไตรมิตรได้นะครับ ไปง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีหัวลำโพง จากนั้น เดินไปทางที่ไปเยาวราช ประมาณ 500 เมตร ก็จะเห็นวัดละครับ

ตรุษจีน

อาสาฬหบูชา (ผ่านมา ๒๕๕๒ ปีแล้ว)

เรื่องทั่วไป 7 July 2009

วันอาสาฬหบูชา มีความสำคัญอย่างไร? เราควรทำอะไรบ้างในวันอาสาฬหบูชา? จากคำถามข้อแรก หลายคนคิดถึงเทียน เทียนพรรษา วันอาสาฬหบูชา คือวันที่ต้องถวายเทียนพรรษา ถวายเพื่ออะไร ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าต้องถวาย เป็นไปได้ต้องถวายให้ครบ 9 วัด นัยว่าจะได้อานิสงส์ ถูกหวยรวยเบอร์ กิจการค้าขายดี ลูกสอบเข้าโรงเรียนดังได้ ฯลฯ เรามักจะมองกันผิดด้าน  ผิดวัตถุประสงค์ เหมือนเอากางเกงไปสวมแทนเสื้อ แล้วมาโทษกางเกงว่า ใส่แล้ว ไม่ดีไม่สวย ไม่เท่ ไม่เจ๋ง ไม่ ไม่ ไม่..ฯลฯ วันอาสาฬหบูชา นอกจากจะเป็นวันที่ทำให้เราคิดได้ว่า อักษรไทยยังมี  ฬ (ลอจุฬา) อยู่ และ ฬ อยู่ที่นิ้วไหน หากวางมือลงบนปุ่มคีย์บอร์ด บางคนพิมพ์สัมผัสไม่เก่ง หาไม่เจอ ก็เลยพิมพ์ ล แทน ฬ ซะ ด้วยความมักง่าย หารู้ไม่ว่านั่นคือการทำลายภาษาอย่างไม่รู้ตัว วันอาสาฬหบูชา ว่ากันตามรากศัพท์บาลี แปลว่า วันที่มีดิถีที่แปด ก็คือวันที่มีพระจันทร์เต็มดวงในเดือนแปด  นี่คือคำแปล ส่วนความสำคัญคือ ในวันดังกล่าวนี้ หลังจากพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในวันเพ็ญเดือนหก (วันวิสาขาบูชา) แล้ว ก็ทรงพิจารณาว่า ธรรมะของพระองค์ลึกซึ้งนัก ยากที่เหล่าสัตว์จะเข้าใจ แต่ด้วยอาศัยพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์พิจารณาลึกซึ้งไปกว่านั้นอีกว่า เหล่าสัตว์มี 4  จำพวก ดั่งบัว 4 เหล่า ย่อมมีทั้งผู้เข้าใจและไม่เข้าในในธรรมะข้อเดียวกัน ดังนั้น พระองค์จึงเสด็จโปรดสัตว์โลก และวันนี้เองที่พระทรงประกาศพระธรรมเทศนา อันมีชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตนสูตร หลังจากจบพระธรรมเทศนา พระองค์ก็ได้พระสาวกรูปแรกในพระพุทธศาสนา นั่นคือ พระกัญฑัญญะ.. ถามว่า เราควรทำอะไรในวันนี้บ้าง? ตอบง่ายๆแบบไม่ต้องคิด ทำดีครับ และใช่แต่วันนี้ ควรทำทุกๆวันด้วย  แต่ในฐานะที่วันนี้เป็นวันที่มีความสำคัญในทางพระพุทธศาสนา เราก็ควรทำบุญให้พิเศษหน่อย เช้าเข้าวัดรับศีลห้า ถวายทาน ฟังธรรม และถ้าเป็นไปได้ นั่งสมาธิทำใจให้สงบซะหน่อยก็ดี ชีวิตเดินมาจึงขนาดนี้ ไม่เคยหยุดพักเลย หยุดสักทีก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว(นอนหลับ) ตื่นขึ้นอีกใหม่ ก็ต้องวุ่นวาย เบียดเสียด…

ไล่ล่าสิ่งที่อยู่แสนไกล..จนลืมใจที่ใกล้เพียงเซนฯเดียว

เรื่องทั่วไป 23 January 2010

ไม่ใช่ของใหม่อะไร แต่กลัวตัวเองจะลืมเลยต้องบันทึกไว้ซะหน่อยก่อน เมื่อก่อนในหน้า all about me จะมีบ็อกของ msn ที่แสดงสถาานะของผมว่า ออนไลน์อยู่หรือไม่ ? หากออนไลน์อยู่ ท่านผู้มีเกียรติที่ผ่านเข้ามาก็สามารถทักทาย จุกกรู๊  ด่า ว่า ชม แช่ง ฯลฯ ได้ แต่เมื่อวานนี้พึ่งสังเกตุเห็นว่า เจ้าบ็อกดังกล่าวมันหายไป ทีนี้การจะไปหาโค๊ดเดิมจาก Microsof มาแปะนั้น ก็หาทางเข้าไม่เจอ เดือดรร้อนไปถึงเฮียกู(เกิ้ล)อีก  งานนี้เลยขอเน้นๆ เก็บไว้ในบล็อกส่วนตัวนี่ซะเลย เผื่อหลายคนยังไม่รู้จัก เลยจะขอแนะนำสู่กันฟังเลยครับ มันคือหน้าต่าง MSN บนเว็บ  ทำให้คนที่ต้องการติดต่อคุณ ไม่ต้องลง MSN หรือ WLM ก็สามารถติดต่อคุณได้เพียงแค่มี Browser ถ้าพยายามจินตนการตามแล้วยังนึกภาพไม่ออกเลยว่ะไอ้ทิด คลิกดูตัวอย่างจริงจากหน้านี้เลยขอรับ คลิกดูตัวอย่าง (ลากลงไปด้านล่าง ใต้ภาพสุดท้าย(ผู้ชายเสื้อแดงๆนั่นแหละครับ)) สำหรับเส้นทางไปสู่การได้มันมานั้น ง่ายเหลือหลาย คลิกที่ลิ้งด้านล่างนี่เลย แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย http://settings.messenger.live.com/applications/websettings.aspx สำหรับเว็บที่ขายของ หรือ support ออนไลน์ บริการนี้เหมาะอย่างยิ่งนะครับ จะจบห้วนๆแบบนี้ดูจะสั้นไป วันหนึ่งมีเรื่องมาบอกเ่่ล่ากันแค่นี้เหรอ เมื่อวันก่อนดูรายการเจาะใจ เขาเชิญ จับช่ายแมน หรือ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เรื่องราวของท่านน่าสนใจมาก และท่านเป็นคนที่มีความคิดไม่เหมือนใคร หลายประโยค เมื่อท่านพูด ทุกคนก็จะร้อง “เออ..เนอะ” หลายเรื่องที่เราไม่ทันคิด ด้วยความเคยชินของชีวิต แต่ท่านคิดทุกเม็ดทุกหน่วย รายการเจาะใจในวันนั้น เวลาไม่พอต้องต่อในอาทิตย์ถัดไป แต่แค่ตอนแรกก็รู้สึกได้ว่า ชีวิตท่านน่าสนใจ น่าศึกษา ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสไปร่วมงานกับนาซ่า ประมาณ 6-7 ปี พิธีกรถามว่า รู้สึกอยา่งไรที่ได้ไปร่วมงานกับนาซ่า? ท่านตอบว่า “รู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิตที่ได้ไปที่นั่น” นาซ่าพยายามค้นคว้าหาทางเพื่อไปนอกโลก นอกจักรวาลที่ไกลแสนไกล จนลืมค้นคว้าสิ่งที่อยู่ข้างในเพียงแค่เซนเดียว นั่นคือ หัวใจ คมครับคม ผมชอบ ป.ล. อยากรู้จักท่านมากกว่านี้ คลิกเลย

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

สายใย..บางบาง

ไดอารี่ 20 September 2010

โลกเดี๋ยวนี้เราเชื่อมทุกอย่างเข้าใกล้กันมากขึ้น มากขึ้น และง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่กลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เสียแล้วของ ‘สยามมนุษย์’ นั่นคือ “โทรศัพท์มือถือ” เดี๋ยวนี้มันไม่ได้เป็นแค่โทรศัพท์สำหรับติดต่อกันอย่างเดียว ไม่ว่าจะติดต่อด้วยเสียง ข้อความ รูปภาพ หรือเดี๋ยวนี้กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกสามจี สามารถติดต่อกันด้วยภาพเคลื่อนไหวสดๆได้ โทรศัพท์มือถือกลายสภาพเป็นเครื่องประดับชิ้นเอก เป็นเครื่องวัดมาตรฐานของคนได้ในระดับหนึ่ง หากเมื่อไรที่หนุ่มหรือสาวนางไหน ควักไอโฟนหรือบีบีขึ้นเซย์ฮัลโหล สถานภาพทางสังคมดูดีขึ้นทันที ได้รับการต้อนและไมตรีจากผู้อื่นได้ง่ายขึ้น ชายหนุ่มที่ริจะขอเบอร์สาวๆ หากเดินปรี่ไปหาแล้วหยิบโทรศัพท์ไอโฟนหรือบีบี เพื่อบันทึกเบอร์สาวเจ้า เปอร์เซ็นต์ที่จะได้เบอร์ย่อมมีสูงกว่าพวกที่หยิบโทรศัพท์โนเนมหน้าจอสีขาวดำขึ้นมาบันทึกอย่างแน่นอน โทรศัพท์รุ่นใหม่ๆออกมา นอกจากเน้นประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ดีไซน์ต้องสวยเลิศ เมื่อหยิบขึ้นมาโทรในที่สาธารณะแล้ว ทุกคนต้องมองแล้วร้องวู้ววว..ว  รับโทรศัพท์ได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่ต้องแอบๆซ่อนๆใครเพียงเพื่อจะรับโทรศัพท์รุ่นกระติกน้ำโบร่ำโบราณ!! บริการต่างๆที่แฝงมาในโทรศัพท์สามารถดูดเงินในกระเป๋าผู้ใช้ได้อย่างสบายมือ โทรศัพท์ที่ว่าแพงแล้ว บริการต่างๆรายวัน รายเดือน หรือรายปีแพงกว่าอีก!! แน่นอนโทรศัพท์มือถือ ใช้ง่าย สะดวกสบาย คิดถึงใคร ติดต่องานไหน หรือไม่คิดถึง ไม่ได้ติดต่องาน อยากคุยกับเพื่อนที่อยู่ชั้น 2 (ตัวเองนั่งอยู่ชั้น 1) ก็กดโทรคุยได้ง่ายๆ คุยง่าย จ่ายหน้ามืด!! ยิ่งใช้ง่าย สะดวกสบายเพียงไร เงินก็หลุดหายไปได้ง่ายเช่นกัน อย่าลืมว่า..คำพูดทุกคำของเราที่พูดผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นคำพูดมีค่าทั้งสิ้น แม้เรื่องที่พูดอาจจะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าพูดผ่านโทรศัพท์..เรื่องไร้สาระจะมีมูลค่าขึ้นมาทันที!! ยิ่งเดี๋ยวนี้มีบริการ เสียงเพลงรอสาย เปลี่ยนเพลงได้ทุกชั่วโมง, เล่นอินเทอร์เนต เฟสบุค ทวิตเตอร์ผ่านมือถือ , ดูดวง, เล่นเกมส์ , จองตั๋วหนัง, จองตั๋วเครื่องบิน, จองศาล จองโลง!!! ฯลฯ บริการเยอะดีจังนะครับ แต่ทุกบริการมีค่าบริการทั้งนั้น และแพงเสียด้วย!! บริการทั้งหลายทั้งปวงที่มีมาในมือถือใช่ว่า ผมจะบอกว่าไม่ดี ดีครับ ดีมาก ..แต่ไม่ใช่จะดีกับทุกคน แล้วดีสำหรับใคร? ดีสำหรับทุกคนที่มีธุระใช้มันจริงๆ ไม่ใช้พร่ำเพรื่อในเรื่องไร้สาระ ถ้าอยากจะไร้สาระหรือบันเทิง ก็ต้องไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านแทน ประหยัดกว่า อินเทอร์เนตผ่านมือถือ มันสะดวกง่าย ค่าบริการก็จึงแพงตามมาด้วยนะ พูดเรื่องโทรศัพท์มาเยอะแยะมากมาย เข้าสู่เรื่องตัวเองซักที ผมใช้โทรศัพท์ถูกๆมาหลายปีแล้วครับ ถูกที่ว่านี่คือถูกจริงๆ เพราะได้มาฟรี ใช้รับสาย โทรออก รับข้อความ และฟังเพลงได้เท่านั้น และผมก็ใช้เท่านั้น ค่าโทรศัพท์รายเดือนไม่เคยเกิน 200 บาท!! ในโทรศัพท์มีเบอร์แม่…

เทคโนโลยี โทรศัพท์

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH