Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ซ่อมคอม

ซ่อมคอม อ่านต่อ

ซ่อมคอม

เรื่องทั่วไป 28 April 2011

ป้าข้างบ้าน : เจตป้าอยากให้ช่วยซ่อมคอมฯให้หน่อย พอซ่อมได้ไหม ผม : ต้องดูก่อนครับ ว่ามันเป็นอะไรมากมั้ย? ป้าข้างบ้าน : ไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว เห็นว่าตั้งอยู่เฉยๆ ช่วยดูให้หน่อยนะ ผม : ได้ครับ แต่คอมฯมันเป็นอะไรเหรอครับ ป้าข้างบ้าน : มันไม่มีจอ ผม : ..

ขำขำ ซ่อมคอม

When We Were Just Kids

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 14 January 201019 September 2016

เก็บตกจาก “วันเด็กแห่งชาติ” ก่อนวันเด็กหนึ่งวัน ได้รับtweet จากคุณสุทธิชัย @suthichai ว่า ผู้ที่follows แก  หากใครมีรูปสมัยเป็นเด็กๆ ให้ส่งให้แกในวันนี้ จะได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ The Nation ฉบับวันเด็ก ผมรีบส่งไปร่วมสนุกทันที ด้วยภาพสมัยเด็กภาพเดียวที่มีอยู่  มันคือภาพนี้ ความจริงภาพไม่ได้เก่ากึ๊กขนาดนี้หรอกครับ ผมใช้โปรแกรม PhotoScape ช่วยอีกแรงหนึ่งให้มันเก่ายิ่งขึ้น ใครเห็นภาพนี้ก็มีแต่คนบอกว่า เหมือนเด็กพม่าหนีเข้าเมือง แบกกราวด์ด้านหลังเป็นเด็กนักเรียนเข้าแถวยาว ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่ ความจริงภาพนี้ ถ่ายโดยฝรั่งใจดีที่ปีหนึ่งเขาจะมาแถวหมู่บ้านสักครั้งหนึ่ง พร้อมด้วยผลไม้ ขนมมาแจกเด็กๆในวันคริสมาต์ ถ่ายปีนี้ แล้วนำรูปมาให้ในปีถัดไป ได้เจอแกอยู่ 3 ปี ได้ภาพแบบนี้มา 3 ใบ หลังจากนั้นไม่เจอแกอีกเลย วกมาเรื่องคุณสิทธิชัย ..หลังจากส่งรูปไป ก็ได้ตีลงในหนังสือพิมพ์ฉบับวันเด็กจริงๆครับ ได้ลงหนังสือพิมพ์ครั้งแรกในชีวิตก็ครั้งนี้แหละ (555) ถ้าอยากดูภาพหนังสือพิมพ์แบบเต็มๆ คลิกที่นี่เลยครับ

'องค์บาก 3' ปฐมบทขององค์บาก

เรื่องทั่วไป 6 May 2010

ชอบในฝีไม้ลายมือการแสดงของจา พนม ยีรัมย์ แต่ที่ผ่านมาเหมือนกับว่าผู้กำกับหนังของจา ไม่มีบทหนังที่ดีพอ ที่จะทำให้หนังของจาสนุกและน่าสนใจเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็น องค์บาก หรือต้มยำกุ้งที่กำกับโดยผู้กำกับคนเดียวกัน นั่นคือ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ฉากต่อสู้สนุก ตื่นเต้น มันส์ สะใจ แต่ทว่าบทอ่อนปวกเปียก อืดชืด และบางทีก็ไร้เหตุผลที่มาที่ไป ทำให้หนังถูกพูดถึงน้อยกว่าตัวแสดงอย่างจา สองเรื่องหลัง (องค์บาก 2-3) จา เลยขอกำกับเอง !!! ผลจึงออกมาอย่างที่เราเห็นๆ ย้ำว่าผมชอบที่ฝีไม้ลายมือการแสดง การต่อสู้ที่สวยสดงดงาม แต่ฝีมือในการกำกับหนังรวมถึงการเขียนบท ไม่ประทับใจเลย เมื่อวานพึ่งไปดูมา คนดูไม่มากอย่างที่คิดทั้งๆที่เป็นวันหยุด ภาค 3 เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากภาค 2 แต่หนังพยายามโยงให้ต่อเนื่องกับภาคแรก โดยอาศัยพระองค์บาก ภาค 2-3 ก็คือภาคปฐมบทขององค์บาก ก่อนจะมีองค์บากที่ชาวบ้านศรัทธาและบูชากันจนถูกโจรตัดเศียรไป ให้จาวิ่งไล่ล่าในภาคแรก ภาค 3 นี้มีการเล่าเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย มีหลายฉากที่เด็กๆ (หรือหญิงมีครรภ์)ดูไม่ได้เลย โหดร้าย หวาดเสียว เลือดท่วมจอ มีการเล่าเรื่องที่ทำให้งง บางฉากดูแล้วตลกๆ เช่นฉากที่จาฝึกวิทยายุทธ์ที่น้ำตกจนมีหนวดมีเครายาวเฟื้อย พลอยทำให้คิดไปถึงหนังจีนกำลังภายในอย่างเรื่อง กระบี่ไร้เทียมทาน ฉากการต่อสู้ที่ถือเป็นตัวชูโรง กลับไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่าภาคก่อนหน้าเท่าไร ผมว่าจา ต้องกลับไปเป็นผู้เล่นอย่างเดียวก่อน ก่อนที่จะเป็นผู้กำกับ เพราะการกำกับหนังมันมีอะไรมากกว่านี้ มุมกล้อง การเล่าเรื่อง การตัดต่อ ฯลฯ ยังชื่นชอบในมีไม้ลายมือ หนังเรื่องหน้าที่จาเล่น ไม่ว่าใครจะกำกับ ผมก็จะดูครับ !!

อ่านต่อ

ฝากรอยเท้า ณ บางแสน

ท่องเที่ยว, วิ่ง 30 August 20163 November 2017

สืบเนื่องจากคุณแฟนไปประชุมที่บางแสน ตั้งแต่วันศุกร์ ก็เลยผุดไอเดียไปเที่ยวบางแสนด้วยซะเลย ระยะทางแค่ 100 กว่ากิโลจากกรุงเทพไม่น่าเป็นปัญหา ออกเดินทางวันเสาร์ งานนี้ได้ชวนป้าและน้องแฟนไปด้วย โดยนัดหมายไปเจอกันที่บางแสนเลยทีเดียว การเดินทางไปบางแสน ถ้าจะให้เร็วก็ต้องใช้ทางด่วนบูรพาวิถี แต่ถ้าจะให้ง่ายก็ใช้มอเตอร์เวย์ยิ่งตรงไปจนถึงถนนข้าวหลาม เห็นถนนข้าวหลามแล้วออกซ้ายเพื่อยูเทิร์นแล้วเลี้ยวซ้ายแรกไปยังหาดบางแสน เดินทางง่าย   งานนี้ผมไม่พลาดที่จะหิ้วชุดและรองเท้าวิ่งไปด้วย กลางคืนวันเสาร์ฝนตกหนักมาก แต่ผมยังหวังว่าเช้าฝนจะหยุด จนกระทั่ง 6 โมงเช้านาฬิกาปลุก ผมแต่งตัวเตรียมออกไปวิ่ง …. แต่เมื่ออกจากตัวตึกกลับพบว่า ฝนยังคงโปรยปรายแม้ไม่หนักมาก แต่ก็ทำให้ไม่สามารถออกไปวิ่งได้แน่นอน กลับเข้ามานอนต่อ จนกระทั่ง 9 โมง จึงหิ้วรองเท้าออกไปใหม่ ฝนหยุดแล้ว และแดดยังไม่มา วิ่งสิครับรออะไร ริมหาดบางแสนแม้จะมีร้านรวงค่อนข้างหนาตา แต่ตรงกลางเขาได้เว้นทางเอาไว้ และปูด้วยหินอ่อน วิ่งไปจนสุดหาดจะมีระยะทางถึง 5-6 กิโลเมตร แม้ทางหินอ่อนจะกว้าง แต่ข้างทางเต็มไปด้วยร้านและผู้คน วิ่งต้องคอยหลบคอยระวังตลอดเวลา หินอ่อนหลังฝนตกก็มีความลื่น ต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ งานนี้วิ่ง 10 กิโลเมตรครับ งานหน้าจะไปฝากรอยเท้าไว้ที่ไหน ค่อยว่ากันอีกที

บางแสน วิ่ง
อ่านต่อ

ตามหาหัวใจ..ที่ชัยภูมิ (ตอนที่ 1)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 9 August 201620 October 2017

ภาพวิวธรรมชาติ ต้นไม้ ภูเขา น้ำตก ผ่านตาจากหน้าจอที่มีคนแชร์ผ่านเฟสบุคและทวิตเตอร์ แว่บหนึ่งผมหลับตาและจินตนาการถึงตัวเองอยู่ท่ามกลางที่เหล่านั้น แค่คิด ความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยวก็ผุดขึ้นมา “วันเสาร์นี้เราไปเที่ยวกันเถอะ” ผมบอกแฟน “เอาสิ ไม่ติดอะไรอยู่แล้วนิ” พร้อมกับคำตอบจากแฟน ผมเสริชหาที่พักทันทีเป้าหมายคือ “ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ” แต่ไปชัยภูมิทั้งที จะไปแค่ที่เดียวก็ดูจะขาดทุนไปซักหน่อย หลังจากกางแผนที่ในกูเกิ้ลแล้ว พบว่า ทุ่งดอกกระเจียวอยู่ในอำเภอเทพสถิตย์ซึ่งห่างจากกรุงเทพประมาณ 280 กิโลเมตร ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในจังหวัดชัยภูมิเช่น มอหินขาว หรือน้ำตกตาดโตน ตั้งอยู่ไกลออกไปอีก 130 กิโลเมตร ผมจึงเลือกที่พักที่ทุ่งดอกกระเจียว เพื่อตื่นไปดูดอกกระเจียวได้แต่เช้า ส่วนวันแรกเลือกไปเที่ยวในสถานที่อื่นๆ ที่ไกลออกไปก่อน และที่พักที่จองได้อยู่ไม่ไกลจากทุ่งดอกกระเจียว ฝั่งอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม คือ  เส้นทาง@LOVE รีสอร์ท   การเลือกที่พักในการท่องเที่ยว ก็เหมือนการซื้อหวย ดีกว่านิดหน่อยก็ตรงที่ว่า เราสามารถหาข้อมูลจากอินเทอร์เนตได้บ้างว่า ที่พักไหนมีข้อดีข้อด้อยอย่างไรบ้าง เราจึงมีโอกาสถูกหวยมากกว่าการสุ่มๆ เลือกเอา แต่หลายๆครั้ง ผมพบว่า ถึงเราจะหาข้อมูลอย่างดีเพียงใด เราก็อาจพบกับความผิดหวังได้เช่นกัน .. ครั้งนี้ผมจึงไม่ได้คาดหวังไว้มากนัก เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง เช้าวันศุกร์ที่รถรายังคงติดตามปกติในกรุงเทพ แต่เส้นทางออกต่างจังหวัดสวนทาง คือ โล่งมาก นี่คือสวรรค์สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเราจะหาได้เฉพาะในวันธรรมดาเท่านั้น เป้าหมายแรกของวันนี้คือน้ำตกตาดโตน ในใจอยากเดินทางต่อไปอีกหน่อยเพื่อไปมอหินขาวด้วย แต่ดูข้อมูลในอินเทอร์เนตบอกว่า ถนนยังเป็นลูกรังอาจไม่เหมาะสำหรับมารชมพู จึงคิดว่าจะไปหาข้อมูลจากคนแถวนั้นก่อนค่อยตัดสินใจอีกที ผมเลือกเส้นทางสี่คิ้ว – ชัยภูมิ วิ่งตรงจากปากช่องผ่านลำตะคองมุ่งหน้าสี่คิ้ว จะมีทางแยกออกไปทางสี่คิ้ว ด่านขุนทด ระหว่างทางช่วงนี้ถนนสาหัสมาก เพราะกำลังปรับปรุงถนน ต้องวิ่งบนถนนที่ปุปะประมาณ 1 ชั่วโมง วิ่งจนพ้นสี่คิ้ว ด่านขุนทดและเริ่มเข้าเขตชัยภูมิแล้วนั่นแหละถนนถึงเริ่มดี วิ่งสบาย ด้วยความที่วิ่งสบายนี่เอง ผมเผลอทำผิดกฏหมายจราจรจนต้องถูกให้หยุดรถ! ปกติถนน 2 เลน ต้องวิ่งซ้าย จะวิ่งขวาต่อเมื่อต้องแซงคันหน้าเท่านั้น และเมื่อแซงแล้วต้องกลับเข้าซ้ายเหมือนเดิม ผมวิ่งขวายาวๆ จนกระทั่งเจอด่านเรียกให้หยุด คุณตำรวจเดินมาหาผมหลังรถจอดนิ่ง “จะไปไหนกันครับ” ตำรวจเริ่มบทสนทนาก่อน “ไปชัยภูมิครับ” “บนทางหลวง วิ่งแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่ปรับเงินหรอก แค่ตักเตือน จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้นะ แต่ถ้าโดนจับอีก ตำรวจท่านอื่นเขาเรียกเก็บเงินแน่นอน” “ขอบคุณครับ…

ชัยภูมิ น้ำตกตาดโตน มอหินขาว
อ่านต่อ

เที่ยวท่อง..ล่องเหนือ – Day 1 ลำพูน

ท่องเที่ยว 13 December 201721 December 2017

ทริปใหญ่ส่งท้ายปี ปีนี้ล่องเหนืออีกครั้ง หลังจากครั้งที่แล้วไปแค่เชียงใหม่ – ดอยอินทนนท์ ครั้งนี้คิดการใหญ่จะไปให้ถึงเชียงราย ดอยแม่สลองด้วยการขับรถไปเอง แผนที่วางไว้คร่าวๆ ก็คือ วันแรกไปพักที่ลำพูนก่อน โรงแรมอิซี่เจ้าเดิมที่ไปพักครั้งก่อน ซึ่งการไปพักซ้ำทำให้ได้ราคาถูกลงนิดนึง สาเหตุที่ต้องพักที่ลำพูนก่อน เพราะมีภาระกิจต้องพาเจ้าหลานตัวเล็กไปส่งให้ตาเลี้ยง วันที่สอง ไปกางเต๊นท์นอนบนดอยอ่างข่าง วันที่สาม ไปนอนบนดอยแม่สลอง วันที่สี่ เข้ามาพักในตัวเมืองเชียงราย วันที่ห้า มุ่งหน้าพิษณุโลก วันที่หก กลับบ้าน นี่คือแผนแบบคร่าวๆ ก่อนหน้าจะออกเดินทางหนึ่งอาทิตย์ ผมพาเจ้าตาลตาลรถคู่ใจไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและเช็คระยะ 15000 กิโลเมตร ทริปนี้จะสนุกหรือไม่ปลอดภัยหรือเปล่า ก็ขึ้นอยู่กับมันแล้วละ วันที่ 2 ธันวา ประมาณ 6 โมงครึ่งล้อหมุนออกจากบ้าน เจ้าหลานมีอาการงอแงเล็กน้อย เพราะต้องจากพ่อแม่มันไป การจากกันครั้งนี้ไม่รู้เมื่อไรจะได้พบกันอีก แต่เจ้าหลานตัวน้อยเหมือนเริ่มจะชินกับการจากลา เพราะครั้งนี้ไม่ใ่ช่ครั้งแรก มันร้องไห้แป๊บเดียวก็หยุดและเริ่มตื่นเต้นกับการเดินทาง.. การเดินทางครั้งนี้ผมเลือกไปทางด่วนบางปะอิน คราวก่อนไปทางสุพรรณบุรี ความจริงเส้นทางที่ไปทางสุพรรณบุรีใกล้กว่า กูเกิ้ลบอกว่ามีระยะทางแค่ 656 กิโลเมตร แต่ทางที่มุ่งไปทางด่วนมีระยะทางถึง 692 กิโลเมตรแถมมีค่าทางด่วนอีกต่างหาก แต่ผมก็เลือกที่จะไปทางนั้น ดู๊ดู -_” จำไว้เลยว่า ถ้าไปทางเหนือโดยเดินทางจากบ้าน ต้องไปทางสุพรรณบุรี!! ลางไม่ดีตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง น้องชายแฟนซึ่งเป็นพ่อของหลานที่เราจะพาไปฝากตาที่ลำพูนแจ้งมาทางเฟสบุคว่า มันลืมโทรศัพท์ไว้ที่เบาะหลังรถ! ซึ่งก็ยากที่จะกลับรถเอาไปให้ เพราะนี่ก็ออกมาไกลถึงอยุธยาแล้ว จึงตั้งใจว่าถ้าเจอไปรษณีย์จะแวะส่งไปให้ ประมาณ 10 โมงเช้า ขับมาเรื่อยๆจนถึงนครสวรรค์ หันไปเห็นไปรษณีย์ขนาดใหญ่ตรงสี่แยก จึงแวะเข้าไปหมายจะส่งโทรศัพท์กลับคืน แต่เจ้ากรรมวันนั้นเป็นวันเสาร์ไปรษณีย์บอกจะเปิดทำการตอนบ่ายสอง ป่วยการที่จะรอ จึงออกเดินทางต่อไปยังลำพูน ถึงลำพูนประมาณบ่าย 4 โมงใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมง เพราะแวะหลายจุด แต่ละจุดก็ใช้เวลาค่อนข้างมาก เช็คอินที่พักที่ลำพูนเรียบร้อยแล้ว ก็พาเจ้าหลานตัวเล็กไปส่งให้คุณตา ทานอาหารเย็นกับคุณตาเรียบร้อยก็กลับที่พัก และฝากโทรศัพท์ให้คุณตาช่วยเป็นภาระส่งคืนเจ้าของด้วย วันแรกแห่งการเดินทางสิ้นสุด ณ ตรงนี้ ด้วยความที่ร่างการค่อนข้างฟิต จึงไม่มีความเหนื่อยสำหรับการขับรถยาวไกลนี้เลย การออกกำลังกายทำให้การเที่ยวสนุกยิ่งขึ้น ก่อนจะหมดวันแห่งการเริ่มเดินทาง จึงอยากจะบันทึกสั้นๆถึงเมืองลำพูน เมืองลำพูนเป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับการมาพัก เมืองลำพูนเป็นเมืองเล็กๆ มีถนนหนทางเล็กๆ พอหลังตะวันตกดินก็เงียบ สงบ และมืดมาก การขับรถในตัวเมืองต้องระวังมากๆ เพราะด้วยขนาดถนนที่เล็ก…

easy hotel ลำพูน
อ่านต่อ

เที่ยวท่อง..ล่องเหนือ – Day 2 ดอยอ่างขาง

ท่องเที่ยว 15 December 201721 December 2017

เริ่มวันที่สอง ออกจากลำพูนมุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง.. ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 ไปทางเชียงดาว ระหว่างทางเจอที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ ก็ไม่พลาดที่จะแวะชมบรรยากาศ จุดแรก ม่อนชมดอย ติดกับถนนเห็นเด่นเป็นตระหง่าน ผมแวะทานอาหารเช้าที่นี่ ขับรถตามทางไปสักระยะ เห็นป้ายบ่อน้ำร้อน..แวะสิครับ ออกจากบ่อน้ำร้อน ประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีน้ำตกศรีสังวาลย์ สามารถใช้ตั๋วใบเดียวกับบ่อน้ำร้อนได้ ..แวะสิครับ สถานีต่อไปมุ่งหน้าอ่างขาง ครับ อ่างขางขึ้นได้ 2 ทาง คือทางฝั่งเชียงดาว และฝั่งฝาง ถ้าว่าด้วยระยทางฝั่งอำเภอฝางระยะสั้นกว่า แต่ถ้าว่าด้วยความโหด ฝั่งเชียงดาวโหดน้อยกว่า ฝั่งฝางความชันระดับ 5 ดาว รถไม่แรงพอไม่แนะนำให้ขึ้นทางนี้ มีโอกาสรถจะหงายหลังตกลงมาได้ ทางกรมทางแนะนำให้ขึ้นทางเชียงดาว และผมก็เลือกเส้นทางนี้ ความชันระดับกลางน่าจะพอๆกับเส้นทางไปอำเภอปาย โค้งเยอะหน่อย แต่ขับสบายและวิวสวย เจ้าตาลตาลของผมเครื่องพันห้า แต่ตัวหนาและน้ำหนักมากทางชันนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มออกอาการเร่งไม่ขึ้น ต้องอาศัยเกียร์ s ใช้แบบเกียร์ธรรมดาวิ่งเกียร์ต่ำขึ้นไปได้สบายๆ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงอ่างขาง แดดร้อนหน่อย แต่อากาศเย็นดี ตกกลางคืนก็น่าจะหนาวพอสมควร คืนนี้นอนเต๊นท์แน่นอน เต๊นท์มีแล้วถอยมาใหม่ หาแต่ที่กางเต๊นท์ บนดอยอ่างขางมีจุดให้กางเต๊นท์ 2 จุด จุดแรกห่างจากสถานีเกษตร์ 1 กิโลเมตร จุดที่สองห่างจากสถานีเกษตร์ 5 กิโลเมตร ถ้าพูดถึงความสวยงามวิวดี จุดที่ห่าง 5 กิโลเมตรสวยกว่า แต่พูดถึงความสะดวกสบาย พื้นที่กว้างขวางกว่า ต้องมาอีกที่หนึ่งที่ห่าง 1 กิโลเมตร ผมเลือกจุดที่ใกล้สถานีเกษตรอ่างขางมากที่สุด เพื่อตอนเช้าจะได้แวะไปที่สถานีเกษตรได้ สถานีเกษตรอ่างข่างถือว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่ มีความสวยงามด้วยพรรณไม้นานาชนิดของโครงการหลวง มีอัตราค่าเข้าบริการคนละ 50 บาท ผมแวะมาที่นี่ทั้งช่วงบ่ายและช่วงเช้า ไหนๆก็มาแล้วต้องจัดให้สาสม ตอนบ่ายคนเยอะหน่อย ถ้าเป็นไปได้ควรไปแต่เช้าตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า จะเจอหมอก และอากาศที่เย็นสบายมาก วันนี้นอนดูดาวที่ดอยอ่างขาง..วันต่อไปมุ่งหน้า ดอยแม่สลอง

สถานีเกษตรดอยอ่างข่าง อ่างขาง

ความขี้เกียจ ~ กิเลสที่นอนเนื่องในสันดาน

เรื่องทั่วไป 28 March 2009

เสาร์นี้ เป็นเสาร์ที่น่าเบื่อ นั่งทำงานด้วยความเบื่อ และขี้เกียจ ความรู้สึกขี้เกียจ ในหนังสือ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค ของทันตแพทย์สม สุจิรา บอกไว้ว่า เป็นความรู้สึกลบที่ต้องกำจัดทิ้ง เพราะความรู้สึกลบ จะดึงดูดสิ่งที่ลบเข้ามาตามกฏแห่งการดึงดูด และที่ร้ายไปกว่านั้น ความรู้สึกลบนี้อาจจะถูกฝังไว้ในจิตใต้สำนึก นั่นหมายถึง ไอ้เจ้าความรู้สึกลบนี้อาจจะอยู่กับเราไปอีกนานเท่านั้น ข้ามภพข้ามชาติไปเลยทีเดียว ทีนี้ กลับมาถามตัวเองต่อ เราชอบมั้ยละ ความขี้เกียจนี้ ปล่าวเลย เราไม่ชอบ และเรารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันไม่ดี ดังนั้น ต้องรีบสร้างความรู้สึกขยัน มุ่งมั่น  และที่สำคัญต้องสร้างแรงจูงใจ สร้างแรงขับให้ได้  ทันตแพทย์สม สุจิรา เขียนไว้ว่า “โดยปกติการคิดถึงแรงจูงใจ จะเกิดความสุขมากกว่า การคิดถึงแรงขับ  ดังนั้นคนที่จมปลักอยู่กับความทุกข์ โดยไม่มีแรงจูงใจ  ยากที่จะประสบความสำเร็จ  แรงขับเพียงอย่างเดียว กำหนดทิศทางชีวิตในอนาคตยาก  เช่นเดียวกับการยิงขีปนาวุธ ถ้ายิงด้วยแรงขับจากดินปืนเพียงอย่างเดียว โอกาสไม่ถูกเป้าหมายมีสูงมาก เพราะควบคุมทิศทางไม่ได้  แต่เมื่อใดที่ใช้ขีปนาวุธนำวิถี ก็เหมือนกับ เป้าหมายเป็นตัวดูดให้ขีปนาวุธนั้นวิ่งเข้าไปหาด้วย  โอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก   แรงผลักกำหนดทิศทางยากกว่าแรงดูด  ดังนั้นในวิถีชีวิตก็เช่นกัน  พยายามมองหาแรงจูงใจให้พบ  มิฉะนั้นแรงขับที่มีอยู่ก็ปราศจากประโยชน์..” (เนื้อความส่วนนี้ เป็นตัวอย่างหนังสือ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค เล่ม ๒ อยากอ่านคลิกที่นี่) ช่วงนี้คลั่งหนังสือของทันตแพทย์สม สุจิรามาก ตั้งแต่ ตอบปัญหาวิชาโลก, ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น, เจาะตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค ตั้งใจจะอ่านให้ครบเซ็ตของแกซะหน่อย เหลืออีกไม่กี่เล่ม (ตอบปัญหาวิชาใจ, ตอบปัญหาวิชาชีวิต, เกิดเพราะกรรมหรือความซวย และทวารหก ศาสตร์แห่งการรู้ทันตนเอง) วกเข้ามาเรื่องน่าเบื่อของวันเสาร์ต่อ ถึงแม้เข้าใจดี ถึงกิเลสข้อที่ว่าด้วยความขี้เกียจ แต่กระนั้น วันนี้ผมยอมแพ้ต่อความขี้เกียจอย่างราบคาบ นอกจากไม่เร่งทำงานที่กองท่วมหัวให้เสร็จๆแล้ว ยังแอบมาเขียนบล็อก และทำภาพประกอบนี่อีก ได้ภาพฮาๆ เหล่านี้มา เลยมานั่งรวบรวมไว้แก้เบื่อ.. ไม่รู้ช่วยได้หรือเปล่านะ แต่นั่งๆดูแล้ว บางภาพที่คนในภาพทำหน้าตาตลกๆ ธรรมชาติๆ ตามสัญชาตญาณของมนุษย์ ก็ขำดี ป.ล. ภาพพระซ่อมมอไซต์…

ทรัพย์อันประเสริฐ..เกิดในสันดาน

เรื่องทั่วไป 18 January 2010

ความสุขของปุถุชนเฉกเช่นพวกเรา คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความสุขสูงสุดในชีวิตคือ เงิน อัตราความสุขจะสูงหรือต่ำ เงินคือมาตรวัด  เพราะเงินสามารถซื้อความสุขได้สารพัดอย่าง ซื้อความสะดวกสบาย ซื้ออาหารที่ชอบ ซื้อผู้หญิงที่ใช่ ซื้อความรัก(?) (กรณีความรักนี่ ผมไม่แน่ใจว่า เขาสามารถซื้อได้จริงหรือไม่นะ เพราะหากความรักสามารถซื้อได้ด้วยเงิน เมื่อไรที่เงินหมด ความรักก็จะหมดเช่นกัน) เนื่องจากยังไม่เคยเป็นคนมีเงินมากมายถึงขนาดสามารถซื้อโน่นซื้อนี่ได้แบบไม่ต้องคิดอย่างนั้น เลยไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า เงินมาก เท่ากับ สุขมาก จริงหรือไม่? รอให้มีเงินเยอะๆก่อน แล้วจะมาบอกว่า มีเงินเยอะแล้วสุขเยอะจริงมั้ย? ผมว่า สุขหรือทุกข์ มันอยู่แค่ กินได้ และนอนหลับมั้ย? ประเภทที่ว่า กินก็ไม่ค่อยได้ ได้นิดหน่อยก็หาความอร่อยไม่เจอ อาหารเต็มโต๊ะหรูหราแต่นั่งกินคนเดียว ลูกก็ไม่อยู่ ภรรยาก็ไปเที่ยว  เวลานอนก็มือก่ายหน้าผาก คนที่นอนข้างๆก็ไปจ้างเขามานอนด้วย หน้าตาหยั่งกะนางฟ้า อายุเท่ากับลูกสาวตัวเอง รู้สึกเหมือนนอนกับลูกสาว ..นี่เราจะมีอะไรกับลูกสาวตัวเองเหรอเนี่ยะ?? บริวาร ลูกน้อง เดินห้อมล้อม ยกมือไหว้ ธาตุแท้มิได้ไหว้เราเลย มันไหว้เงินของเราต่างหาก สรุปนี่ สุขหรือทุกข์กันแน่นะ มองดูตามียายมา ตาสายายสี ตาดียายดำ ทำงานง่กๆ ทั้งวัน เหนื่อยมากก็กินข้าวได้มาก เอร็ดอร่อยลูกหลานห้อมล้อมแย่งกันกิน แป๊บเดียวกับข้าวหมดจาน พอตกกลางคืนยังไม่ทัน 2 ทุ่มดี ก็หลับเป็นตาย กินอิ่ม นอนหลับ ..ก็สุขใจ ในพุทธศาสนาบอกไว้ว่า แท้จริงทรัพย์ที่มีค่าที่สุด คือทรัพย์ที่มีอยู่ในสันดานของเรานี่เอง เรียกว่า อริยทรัพย์ มี ๗ อย่าง ๑.  สัทธา เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ ๒.  สีล รักษา กาย วาจา ให้เรียบร้อย ๓.  หิริ ความละอายต่อบาปทุจริต ๔.  โอตตัปปะ สะดุ้งกลัวต่อบาป ๕.  พาหุสัจจะ ความเป็นคนเคยได้ยินได้ฟังมาก คือ จำทรงธรรมและรู้ศิลปวิทยามาก ๖.  จาคะ สละให้ปันสิ่งของของตนให้แก่คนที่ควรให้ปัน ๗.  ปัญญา รอบรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์…

ธรรม

ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน ผ่าน!!

ไดอารี่ 30 March 2010

หลังจากจองบ้านไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วันที่ 14 มีนานี้ก็เริ่มผ่อนดาวน์กันวันแรก ถึงจะเริ่มผ่อนดาวน์กันแล้ว แต่เรื่องยื่นกู้ธนาคารรยังเป็นเรื่องที่เรายังหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ ธนาคารกสิกรเจ้าแรกที่ปฏิเสธเป็นผู้สร้างฝันแล้วเราไปแล้ว ขณะนี้ธนาคารนครหลวงไทยกำลังพิจารณาอย่างเคร่งเครียดว่าจะให้ดีไหม หรืออย่างไร? อาทิตย์ที่แล้วเขาให้เราดีใจด้วยการให้กู้ 95% แต่อาทิตย์นี้หลังจากพบหลักฐานบางาอย่างในเครดิตบูโร เขาจึงขออนุญาตปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ..ซึ่งยังไม่รู้ผล ให้เราใจตุ่มๆต่อมๆรอๆเล่นๆไปก่อน ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนา..ขอให้ผ่านทีเถอะ เพราะหากธนาคารนี้ไม่ให้ ธนาคารอื่นๆเราคงไม่ได้เช่นกัน ช่วงนี้คงต้องนั่งภาวนาไปพลางๆก่อน ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน บ้านหลังแรกในชีวิตมันคงไม่ง่ายอย่างที่คิดเท่าไร และคิดไว้แล้วว่าคงไม่มีอะไรได้มาง่าย มันต้องต่อสู้ ฟันฟ่า แลกด้วยหยาดเหงื่อและอาจถึงหยาดน้ำตา สิ่งที่คาดหวังคือสิ่งที่ใจปรุงแต่งไว้ก่อนแล้ว และเมื่อปรุงแต่งไว้ดีแต่ผลที่ได้ไม่เหมือนอย่างที่ปรุงแต่งไว้ ย่อมมีแต่ความขัดเคืองใจ ไม่พอใจ ไม่่ชอบใจ ท้อใจ และสุดท้ายถ้าไม่ยกใจก็อาจล้มได้ในที่สุด ดังนั้น ต้องตามใจให้ทัน ใจปรุงแต่งไปถึงไหนแล้ว ถามใจ และตอบใจตามความเป็นจริง หลังจากที่ใจเข้าใจตามความเป็นจริงแล้ว ก็อยู่กับปัจจุบันอย่าให้ใจเผลอปรุงแต่งอะไรที่สวยหรูเกิน เพราะมันจะเจ็บปวดภายหลังหากไม่ได้ดั่งใจหวัง ตอนนี้ต้องเอาธรรมะเข้าปลอบใจตัวเองแล้วละ เพราะหากไม่ได้อย่างใจต้องการ เราต้องทำใจและเริ่มใหม่ให้เร็วที่สุด การฟูมฟายร้องไห้และพร่ำเพ้อถึงสิ่งที่จากไปแล้ว ก็ไม่ต่างจากเด็กที่ร้องไห้เอาดวงจันทร์ ไม่มีวันเป็นไปได้ มีแต่สิ่งที่สูญเสียไปคือ เวลา

ไม่ผ่าน
อ่านต่อ

ททท.เขาครบรอบ 50 ปีแล้วเน้อ ~

ท่องเที่ยว, เรื่องทั่วไป 14 June 201016 June 2019

วันอาทิตย์ที่ 13 มิ.ย. งาน ททท.ครบรอบปีที่ 50 งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 และวันนี้เป็นวันสุดท้าย !! จัดที่เมืองทอง งานนี้มีงาน dumping sale ขายสินค้าฉบับโละร้านด้วย คนเลยคับคั่งกว่าปกติ รถแน่นตั้งแต่ฮอลล์ยังไม่เปิดกันเลยทีเดียว ขนาดผมไปตั้งแต่ 9.30 น. รถก็เริ่มแน่นกันแล้ว ว ว ..ว งานนี้จัดได้น่ารักทีเดียวครับ รวมงานโอท็อปมาบวกกับแพกเกจท่องเที่ยว และของกินของเล่นพื้นบ้าน แต่ละภาคมีการจัดกิจกรรมที่เด่นๆ ของภาคตัวเอง  ถ่ายภาพมาไม่หมดครับ เพราะคนเยอะใช้ได้เลย นำขบวนมาด้วยรถททท. 50 ปี อันนี้จำลองพาหุหรัดมาเลยทีเดียว การละเล่นพื้นบ้านของทุกภาคถูกรวมมาไว้ในที่เดียวครับ หนังกลางแปลงก็มีนะ วันเดียว เดินทางไปถึงแม่ฮ่องสอนโน่นแนะครับ นี่มาปั้นหุ่นโชว์กันเลยทีเดียว มีอีกเยอะครับ แต่เอามาให้ดูเพียงเท่านี้ก่อน งานนี้ตื่นตาดีทีเดียว ได้กรอบรูปไม้สวยๆมา 3 อัน ในราคาหาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาด และได้เสื้อไหมแท้จากเชียงใหม่มาตัวหนึ่ง งานแบบนี้สนุกดีครับ อยากให้ัจัดบ่อยๆ คนกรุงเทพกับคนต่างจังหวัดจะได้พบปะเจอกันบ่อยๆ ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง หลายๆคนที่มาเปิดบูทเขาทำเองผลิตเองโดยจัดกันเป็นกลุ่มก้อน แบบนี้น่าส่งเสริมมาก ถ้างานหน้ามีอีก ..ก็จะไปอีกครับ ช้อบ ชอบ 🙂

ททท.

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (54)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (66)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH