Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

ไล่ล่าสิ่งที่อยู่แสนไกล..จนลืมใจที่ใกล้เพียงเซนฯเดียว อ่านต่อ

ไล่ล่าสิ่งที่อยู่แสนไกล..จนลืมใจที่ใกล้เพียงเซนฯเดียว

เรื่องทั่วไป 23 January 2010

ไม่ใช่ของใหม่อะไร แต่กลัวตัวเองจะลืมเลยต้องบันทึกไว้ซะหน่อยก่อน เมื่อก่อนในหน้า all about me จะมีบ็อกของ msn ที่แสดงสถาานะของผมว่า ออนไลน์อยู่หรือไม่ ? หากออนไลน์อยู่ ท่านผู้มีเกียรติที่ผ่านเข้ามาก็สามารถทักทาย จุกกรู๊  ด่า ว่า ชม แช่ง ฯลฯ ได้ แต่เมื่อวานนี้พึ่งสังเกตุเห็นว่า เจ้าบ็อกดังกล่าวมันหายไป ทีนี้การจะไปหาโค๊ดเดิมจาก Microsof มาแปะนั้น ก็หาทางเข้าไม่เจอ เดือดรร้อนไปถึงเฮียกู(เกิ้ล)อีก  งานนี้เลยขอเน้นๆ เก็บไว้ในบล็อกส่วนตัวนี่ซะเลย เผื่อหลายคนยังไม่รู้จัก เลยจะขอแนะนำสู่กันฟังเลยครับ มันคือหน้าต่าง MSN บนเว็บ  ทำให้คนที่ต้องการติดต่อคุณ ไม่ต้องลง MSN หรือ WLM ก็สามารถติดต่อคุณได้เพียงแค่มี Browser ถ้าพยายามจินตนการตามแล้วยังนึกภาพไม่ออกเลยว่ะไอ้ทิด คลิกดูตัวอย่างจริงจากหน้านี้เลยขอรับ คลิกดูตัวอย่าง (ลากลงไปด้านล่าง ใต้ภาพสุดท้าย(ผู้ชายเสื้อแดงๆนั่นแหละครับ)) สำหรับเส้นทางไปสู่การได้มันมานั้น ง่ายเหลือหลาย คลิกที่ลิ้งด้านล่างนี่เลย แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย http://settings.messenger.live.com/applications/websettings.aspx สำหรับเว็บที่ขายของ หรือ support ออนไลน์ บริการนี้เหมาะอย่างยิ่งนะครับ จะจบห้วนๆแบบนี้ดูจะสั้นไป วันหนึ่งมีเรื่องมาบอกเ่่ล่ากันแค่นี้เหรอ เมื่อวันก่อนดูรายการเจาะใจ เขาเชิญ จับช่ายแมน หรือ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เรื่องราวของท่านน่าสนใจมาก และท่านเป็นคนที่มีความคิดไม่เหมือนใคร หลายประโยค เมื่อท่านพูด ทุกคนก็จะร้อง “เออ..เนอะ” หลายเรื่องที่เราไม่ทันคิด ด้วยความเคยชินของชีวิต แต่ท่านคิดทุกเม็ดทุกหน่วย รายการเจาะใจในวันนั้น เวลาไม่พอต้องต่อในอาทิตย์ถัดไป แต่แค่ตอนแรกก็รู้สึกได้ว่า ชีวิตท่านน่าสนใจ น่าศึกษา ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสไปร่วมงานกับนาซ่า ประมาณ 6-7 ปี พิธีกรถามว่า รู้สึกอยา่งไรที่ได้ไปร่วมงานกับนาซ่า? ท่านตอบว่า “รู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิตที่ได้ไปที่นั่น” นาซ่าพยายามค้นคว้าหาทางเพื่อไปนอกโลก นอกจักรวาลที่ไกลแสนไกล จนลืมค้นคว้าสิ่งที่อยู่ข้างในเพียงแค่เซนเดียว นั่นคือ หัวใจ คมครับคม ผมชอบ ป.ล. อยากรู้จักท่านมากกว่านี้ คลิกเลย

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

ตรุษเลนไทน์

บ้านบ้าน, ไดอารี่ 15 February 2010

วันอาทิตย์อันเป็นวันตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ ผมมีนัดต้องไปทำสัญญาซื้อบ้านกับพฤกษาทาวน์ !! ทางเซลล์โดยคุณปรีชา นำเอกสารสำหรับกู้ธนาคารมาให้ 4- 5 ธนาคาร งานนี้กรอกเอกสารกันมือหงิก หงิกจริงๆ ..ธนาคารที่เสนอกู้ มีธอส. , ไทยพาณิชย์ , ออมสิน และ นครหลวงไทย แต่ละธนาคารมีรายละเอียดที่ต้องกรอกไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะให้กรอกมาก  ต้องขอเอกสารนำมากรอกรายละเอียดที่บ้านกันเลยทีเดียว ก่อนจะกรอกเอกสารขนาดมหึมา และเซ็นต์กำกับเอกสารต่างๆนานาๆ ขอหาอะไรรองท้องก่อน แวะร้านไก่ตระกร้า สั่งๆ ๆๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา พอทุกอย่างมาครบบนโต๊ะ..โอ๊ะแม่จ๋า นี่จะกินกันแค่ 2 คนจริงๆเหรอ!!! จากมื้อเที่ยงอันหฤโหด ดิ่งมานั่งกรอก และเซ็นต์เอกสารจนพลบค่ำ นำเอกสารไปยังโครงการพฤกษาทาวน์ วันนี้เสียค่าทำสัญญาไป 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) จากนี้อีก 7 วัน รอฟังข่าวจากเซลล์ว่าธนาคารไหน จะให้กู้เท่าไร ให้กี่เปอร์เซ็นต์ ทำธุรกรรมเกี่ยวกับบ้านเสร็จ วันนี้มีนัดทานข้าวเย็น กับชมรม คน น. หนู อันประกอบด้วย นัท น้อง นงค์ น้อย(แม่นัท) นกและผม  เป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่าง ทานกันจนพุงกาง หน้ามัน จนร้านปิด ห้างปิด ..  สรุปว่าวันนี้ ทานหนักทั้งมื้อเที่ยงและมื้อค่ำ ออกกำลังกายทั้งอาทิตย์ น้ำหนักหายไป 2 โล ตรุษจีนวันเดียวโผล่มาอีก 5 ..เฮ้อ

สู่สุคติ..

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 June 200829 May 2015

สัจธรรมหนึ่งที่แม้จะเข้าใจ แต่ก็ยากจะทำใจเมื่อเกิดขึ้นกับตัว นั่นคือ ความพลัดพราก ผมมีเพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนป.ตรีด้วยกันหลายคน และหนึ่งในนั้น คือ นพดล นพดลเป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี สุภาพ เรียบร้อย มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเพื่อน เก่ง แข็งแรง หลายครั้งที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ก็ได้นพดลเป็นคนนำทาง และวางแผนการเที่ยวได้อย่างเรียบร้อยทุกครั้ง นพดลเป็นคนที่ไม่ซีเรียสในทุกๆเรื่อง ครั้งหนึ่งเมื่อกูเกิ้ลกำลังเริ่มบูมในเมืองไทย ใครหาอะไรไม่เจอ คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องบอกกูเกิ้ล และกูเกิ้ลก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ผมได้บอกศักยภาพของกูเกิ้ลให้นพดลฟังว่า “เนี่ยะ แค่ใส่ชื่อ และนามสกุลของคนที่เราอยากค้นหาไป กูเกิ้ลก็จะหาให้จนเจอ” นพดลแสดงอาการตื่นเต้น และบอกว่า ลองใส่ชื่อพ่อของเขาลงไปสิ ขณะที่ผมกำลังจะพิมพ์ชื่อของเขา ปากก็ถาม “พ่อไปไหนแล้วละ” นพดลตอบด้วยสีหน้าปกติว่า “ตอนเด็ก พ่อลงเรือไปหาปลา พอกลับมา บอกแม่ว่าไม่สบาย ขอเงินแม่ไปหาหมอ 200 บาท พ่อไปหาหมอด้วยเงิน 200 บาท จนป่านนี้ยังไม่กลับมา” ผมฟังแล้วนึกสงสารในใจอย่างบอกไม่ถูก จากเรื่องกูเกิ้ลกลายมาเป็นเรื่องความพลัดพรากไปเสียได้ แต่นพดลก็ไม่ได้มีสีหน้าเศร้าใจอะไร แต่อาจจะผ่านความรู้สึกนั้นมานานแล้วจนเคยชิน ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้น ได้ใส่ชื่อพ่อของนพดลเพื่อค้นหาในกูเกิ้ลหรือเปล่า หรือว่าค้นหาแล้วแต่ไม่เจอ.. ผมเคยชวนนพดลไปบริจาคเลือดที่สภากาชาด ครั้งนั้นหลังจากบริจาคเสร็จแล้ว เดินไปเที่ยวในสวนงูต่อ นพดลเป็นลมในสวนงู ขณะนอนเอาแรงในสวนงู นพดลยังอารมณ์ดีเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยไปบริจาคเลือดกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ด้วยความคะนองเลยแข่งกันว่าใครจะบริจาคเสร็จก่อนกัน พอเข็มแทงแขนเพื่อนบริจาคเลือดเท่านั้น ทั้งคู่ก็พยายามบีบมือเพื่อให้เลือดออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อนอีกคนบีบแรงจัด จนเข็มที่เสียบที่แขนกระเด็นออก เลือดพุ่งกระฉูด ฟังนพดลเล่าไป ก็หัวเราะกันไป นพดลเป็นคนอารมณ์ดีได้ทุกสถานการณ์ สมัยเรียนต้องทำงานกลุ่มกันดึกๆดื่นๆ กลับบ้านตี 3 ตี 4 นพดลก็ไปด้วย แม้จะไม่ค่อยได้ช่วยเพื่อนมากมายนัก แต่ก็ไปให้กำลังใจ ช่วยเรื่องอาหารการกินบ้าง ไปหลับบ้าง จนงานเสร็จถึงกลับ   หลังจากเรียนจบป.ตรี ก็แยกย้ายกัน นพดลเรียนโทต่อที่ศิลปากร ก็ยังหวังว่าสักวันเราจะไปเที่ยวทะเลด้วยกันอีก แต่เมื่อคืนนี้ ได้รับโทรศัพท์จากหมีว่า นพดลเสียชีวิตมา 3 วันแล้ว! ด้วยโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หมีบอกว่า นพดลไม่ได้บอกใครเลยว่าตัวเองเป็นโรคร้าย กลัวคนอื่นจะตกใจ อดทนต่อสู้กับโรคร้ายเพียงลำพัง จนในที่สุดก็ต้านแรงของโรคร้ายนี้ไม่ไหว เสียชีวิตลงในที่สุด…

อ่านต่อ

แก้ปีชง

สุขกะภาพ 24 February 201428 October 2015

ตั้งแต่เด็กจนโต พึ่งเคยได้ยินคำว่า ชง หรือปีชง ก็เมื่อไม่กี่ปีนี่เองครับ กว่าจะเข้าใจว่ามันคืออะไร ยังไง และทำไมก็เมื่อได้ยินเขาพูด อ่านที่เขาเขียน เขาบอกมาหลายครั้งถึงกระจ่าง “ชง”  ถ้าทางบ้านๆ ก็จะเรียกว่า “เคราะห์” คล้ายๆกับเมื่ออายุเบญจเพศจะมีเคราะห์ แต่ปีชง นี่นับตามปีเกิด แต่นับอะไรยังไงนั้นไม่รู้ครับ เป็นการนับแบบจีน เบญจเพศนี่เข้าใจง่ายมาก อายุ 25 จะมีเคราะห์ …… ทุกคนสามารถมีอายุ 25 ทั้งนั้น และเกือบทุกคนก็ต้องมีอุบัติเหตุ มีเคราะห์กันบ้างใน 1 ปี แต่พอมีอุบัติหรือเคราะห์ในช่วง 25 ปุ๊บ นั่นไง เบญจเพศ! เช่นเดียวกับปีชง อะไรนิดหน่อย ป่วยบ่อย ไอ้โน่นหาย ไอ้นี่เสีย เสียเงินหาย เงินหมด งานหาย นั่นไง ปีชง เบญจเพศ ต้องไปทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปีชง ต้องทำไง? ต้องไปวัดจีน ไปบูชากระดาษเงินกระดาษทอง เขียนชื่อ อายุลงในกระดาษแล้วต้องไปทำพิธีอธิษฐานกับพระเจ้าไท่ ซื่อ เอี่ยะ พร้อมเอากระดาษปัดสิ่งชั่วร้ายออกจากตัว 13 ครั้ง เสร็จพิธี! ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องไปทำครับ เพราะผมไม่ใช่คนจีน ไม่ได้นับถือพระเจ้าอะไรใดๆทั้งนั้น แต่ก็ไป … คนเยอะและวุ่นวายกับการแก้ปีชงมาก ธุรกิจหากินกับความกลัวของคนยังจะเจริญเติบโตไปได้อีกเยอะ ..เพราะคนกลัวโดยเฉพาะกลัวต่อสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เชื่อว่ามีจริง ตอนเข้าแถวซื้อกระดาษแล้วมานั่งกรอกชื่อที่โต๊ะ อารมณ์สมัครงานหรือสมัครเรียนอะไรสักอย่าง ยัยคนขายกระดาษก็เร่งทำยอดมาก กระชากเงินออกจากมือเราอย่างรวดเร็วหลังจากส่งกระดาษให้เราเสร็จ ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะ…แก้แล้วนะ ปีชง

ปีชง มะเมีย
อ่านต่อ

เที่ยวเมืองไทย..ให้คึกคัก..ฉันรักเมืองไทย

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 8 June 200914 May 2016

ไม่รู้มาก่อนว่าที่เมืองทองธานี (อาณาจักรใหม่ของไทยชาติ) มีงาน วันนี้(อาทิตย์ 7 มิถุนายน 2552) ตุปัดตุเป่กันไปจึงพบว่า..เขามีงานชนกันตั้ง 3 งานนนนนนนนนนน   งานแรกเป็นงานท่องเที่ยวไทย ไทยครึกครื้นเศรษฐกิจคึกคัก ไม่ได้ตั้งใจจะมาหาที่เที่ยว ก็เลยได้แต่เดินดูแพกเกจเที่ยวต่างๆนานาประดามี พบว่ามีหลายที่หลายแห่ง ให้ราคาค่อนข้างถูกมากครับ ใครที่วางแผนเที่ยวตอนปีใหม่ ถ้าได้จองกันตั้งแต่วันนี้เลย จะได้ราคาค่อนข้างดี แต่น้อยคนที่จะวางแผนเที่ยวปีใหม่ตั้งแต่วันนี้..เพราะมันอีกตั้งหลายเดือน กว่าจะถึงวันนั้น ไม่รู้คนร่วมทริปกับเราจะยังอยากจะไปอยู่อีกมั้ย? ทีเด็ดของงานนี้อยู่ที่เขาจำลองสถานที่ท่องเที่ยวและประเพณีของแต่ละภาคมาไว้ มีกันทุกภาคส่วน เห็นแล้วก็คึกคักคึกครื้น อยากเสียเงินเหลือเกิน เดินกันที่นี่พอหอมปากหอมคอ หอบแฮ่กแล้ว ก็ไปอีกงาน งานนี้เรียกตัวเองอย่างเป็นทางการอย่างไร จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าเป็นงานสินค้าจากโรงงานลดล้างสต็อก คือเสื้อผ้า ของใช้ ยี่ห้อดังๆ ไม่ว่าจะเป็นไนกี้ คอกโคได ฯลฯ ต่างขนเอาเสื้อผ้ามาลดราคากันแหลก (แต่ลดยังไง ผมก็ว่ายังแพงอยู่ดี) มีอีกเยอะแยะมากมายครับ จำชื่อไม่ได้ มาลดมาขายกัน งานนี้ได้เสื้อให้คุณแม่ 2 ตัว งานนี้คนเยอะกว่าคนท่องเที่ยวอีก เดินกันชนิดหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว อีกงานหนึ่ง เป็นงานเกี่ยวกับเกษตร วิชาการเกษตรปีที่ 39 ประมาณนี้ งานนี้คนจะน้อยกว่าทุกงาน แต่ก็ยังดูเยอะอยู่ดี งานนี้เขาขนเอาต้นไม้มาไว้ซะรกครึ้ม ไม้พืชสวน สารพัดเห็ด ต้นไม้ยืนต้น ต้นทุเรียน ต้นกาแฟ ต้นข้าว ฯลฯ  มีพันธ์ไม้ขายด้วย ก็เดินอยู่พักหนึ่ง ได้กาแฟห่อใหญ่กับน้ำองุ่นกลับบ้าน คิดว่าพอละ งานนี้เหนือย แต่ไม่ค่อยน่าเบื่อ  ที่เมืองทองสถานที่กว้างขวาง ห้องน้ำเยอะ ถึงคนมากก็ไม่รู้สึกว่าแน่น ไม่เหมือนทีศูนย์ประชุม ช่วงนี้มีงานประเภทนี้บ่อยๆ ทุกภาคส่วนต้องการช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจไทย  ถ้าไทยซื้อของไทย เที่ยวเมืองไทย ก็เท่ากับช่วยคนไทยช่วยเศรษฐกิจไทย แต่ขณะที่ทุกส่วนต่างช่วยคนไทยด้วยกันอยู่ สอสอผู้มีเกียรติหลายท่าน ก็แอบไปต่างประเทศด้วยข้ออ้างสุดคลาสสิค ไปดูงาน ไปประชุม ประชุมในเมืองไทยแล้ว คิดอะไรไม่ออกรึไง..นิสัย

อ่านต่อ

6 ปี ทีวีบูรพา

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 13 July 200823 June 2019

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไปร่วมงานของทีวีบูรพา 6 ปีทีวีบูรผา ผู้เริ่มจุดต่าง ผู้สร้างจุดเปลี่ยน เดินทางจากคลองตัน เป้าหมายงานอยู่ที่ JJMal ไม่เคยไปเหมือนกัน แต่อยู่แถวๆจตุจักร ก็ไม่น่าจะยาก ผมนั่งเรือจากคลองตัน ไปขึ้นที่ท่าเรืออโศก แล้วลงใต้ดินนั่งMRT สถานีเพชรบุรีโผล่ที่สถานีกำแพงเพชร กำแพงเพชรมี 3 ทางออกนะครับ 1. ทางออกไปอตก.3 2.ทางออกถนนกำแพงเพชร 3.ทางออกสวนจตุจักร ถ้าออกถนนนกำแพงเพชร จะมีมอไซต์รับจ้างพาไปเจเจมอลล์ 20 บาท หรือจะเดินไปเองก็ไม่ไกล ประมาณ 2 ป้ายรถเมล์ ถ้าโผล่สวนจตุจักรก็เดินไปได้ใกล้กว่าหน่อย แต่หาทางเดินไปยาก อาจหลงอยู่ในเจเจทั้งวันได้ ผมเลือกออกทางถนนกำแพงเพชร และเดินไปแทนที่จะนั่งมอไซต์รับจ้าง แม้จะเป็นครั้งแรกที่มาเจเจมอลล์ แต่ก็ไม่ได้ยากอะไรสำหรับการเดินขึ้นห้างไปในงาน งานเขามีอยู่ที่ชั้น 6-7 ครับ เดินหาบันไดเลื่อนยากหน่อย เพราะบันไดเลื่อนอยู่ด้านนอกห้าง อยู่ฝั่งที่จอดรถ และพอโผล่ไปในชั้นที่ 6 ก็จะพบกับงาน.. มีหลายซุ้ม บนเวทีก็มีการแสดงของบรรดาผู้ที่เคยออกรายการฅนค้นฅน ในภาพล่างขวาสุด คือ วงนกแล เล่นดนตรีสนุก น่ารักมากครับ วันนี้นกแลต้นฉบับ คือ นกแลรุ่นแรกๆ ไอ้หนุ่มดอยเต่า มาด้วยครับ มีบอร์ดชื่อเก๋ไก๋ ฅนคอเดียวกัน สำหรับแสดงความคิดเห็น ความรัก ที่มีต่อ TVB จำลุงคนนี้ได้ไหมครับ (คนเสื้อขาว ก้มหน้าหน้าสุดนะครับ ไม่ใช่ไอ้หัวฟูหลังโน่น) แกชื่อลุงเสรี ออกอากาศเมื่อต้นๆปี ออก 3 ตอนรวด เรื่องราวของแกน่าสนใจมากครับ ถ้าใครได้ดู จริงๆวันนี้คนที่เคยออกในรายการ ฅนค้นฅนมาเยอะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาทุกคน ซาไกก็มานะ แต่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป และคนที่จะไม่ถ่ายไม่ได้เลย พี่เช็ค เจ้าของโปรเจ็คทั้งหลายทั้งปวง ที่เห็นเบลอด้านหลังทั้งซ้ายขวานั่น ไม่ใช่วิญญาณนะครับ เนื่องจากพี่เช็คฮ็อตมาก มีคนมาประกบถ่ายคู่ตลอด ผมก็จนใจที่จะรอให้พี่แกยืนว่างๆคนเดียว จำเป็นต้องถ่ายมาด้วย เป็นใครไม่รู้.. เดินงานนี้ได้เสื้อ กบนอกกะลาสีชมพูมาตัวเดียว งานจัดได้น่ารักดี มีชีวิตชีวา และสนุกดีครับ

ทีวีบูรพา
อ่านต่อ

ตามหาหัวใจ..ที่ชัยภูมิ (ตอนที่ 1)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 9 August 201620 October 2017

ภาพวิวธรรมชาติ ต้นไม้ ภูเขา น้ำตก ผ่านตาจากหน้าจอที่มีคนแชร์ผ่านเฟสบุคและทวิตเตอร์ แว่บหนึ่งผมหลับตาและจินตนาการถึงตัวเองอยู่ท่ามกลางที่เหล่านั้น แค่คิด ความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยวก็ผุดขึ้นมา “วันเสาร์นี้เราไปเที่ยวกันเถอะ” ผมบอกแฟน “เอาสิ ไม่ติดอะไรอยู่แล้วนิ” พร้อมกับคำตอบจากแฟน ผมเสริชหาที่พักทันทีเป้าหมายคือ “ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ” แต่ไปชัยภูมิทั้งที จะไปแค่ที่เดียวก็ดูจะขาดทุนไปซักหน่อย หลังจากกางแผนที่ในกูเกิ้ลแล้ว พบว่า ทุ่งดอกกระเจียวอยู่ในอำเภอเทพสถิตย์ซึ่งห่างจากกรุงเทพประมาณ 280 กิโลเมตร ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในจังหวัดชัยภูมิเช่น มอหินขาว หรือน้ำตกตาดโตน ตั้งอยู่ไกลออกไปอีก 130 กิโลเมตร ผมจึงเลือกที่พักที่ทุ่งดอกกระเจียว เพื่อตื่นไปดูดอกกระเจียวได้แต่เช้า ส่วนวันแรกเลือกไปเที่ยวในสถานที่อื่นๆ ที่ไกลออกไปก่อน และที่พักที่จองได้อยู่ไม่ไกลจากทุ่งดอกกระเจียว ฝั่งอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม คือ  เส้นทาง@LOVE รีสอร์ท   การเลือกที่พักในการท่องเที่ยว ก็เหมือนการซื้อหวย ดีกว่านิดหน่อยก็ตรงที่ว่า เราสามารถหาข้อมูลจากอินเทอร์เนตได้บ้างว่า ที่พักไหนมีข้อดีข้อด้อยอย่างไรบ้าง เราจึงมีโอกาสถูกหวยมากกว่าการสุ่มๆ เลือกเอา แต่หลายๆครั้ง ผมพบว่า ถึงเราจะหาข้อมูลอย่างดีเพียงใด เราก็อาจพบกับความผิดหวังได้เช่นกัน .. ครั้งนี้ผมจึงไม่ได้คาดหวังไว้มากนัก เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง เช้าวันศุกร์ที่รถรายังคงติดตามปกติในกรุงเทพ แต่เส้นทางออกต่างจังหวัดสวนทาง คือ โล่งมาก นี่คือสวรรค์สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเราจะหาได้เฉพาะในวันธรรมดาเท่านั้น เป้าหมายแรกของวันนี้คือน้ำตกตาดโตน ในใจอยากเดินทางต่อไปอีกหน่อยเพื่อไปมอหินขาวด้วย แต่ดูข้อมูลในอินเทอร์เนตบอกว่า ถนนยังเป็นลูกรังอาจไม่เหมาะสำหรับมารชมพู จึงคิดว่าจะไปหาข้อมูลจากคนแถวนั้นก่อนค่อยตัดสินใจอีกที ผมเลือกเส้นทางสี่คิ้ว – ชัยภูมิ วิ่งตรงจากปากช่องผ่านลำตะคองมุ่งหน้าสี่คิ้ว จะมีทางแยกออกไปทางสี่คิ้ว ด่านขุนทด ระหว่างทางช่วงนี้ถนนสาหัสมาก เพราะกำลังปรับปรุงถนน ต้องวิ่งบนถนนที่ปุปะประมาณ 1 ชั่วโมง วิ่งจนพ้นสี่คิ้ว ด่านขุนทดและเริ่มเข้าเขตชัยภูมิแล้วนั่นแหละถนนถึงเริ่มดี วิ่งสบาย ด้วยความที่วิ่งสบายนี่เอง ผมเผลอทำผิดกฏหมายจราจรจนต้องถูกให้หยุดรถ! ปกติถนน 2 เลน ต้องวิ่งซ้าย จะวิ่งขวาต่อเมื่อต้องแซงคันหน้าเท่านั้น และเมื่อแซงแล้วต้องกลับเข้าซ้ายเหมือนเดิม ผมวิ่งขวายาวๆ จนกระทั่งเจอด่านเรียกให้หยุด คุณตำรวจเดินมาหาผมหลังรถจอดนิ่ง “จะไปไหนกันครับ” ตำรวจเริ่มบทสนทนาก่อน “ไปชัยภูมิครับ” “บนทางหลวง วิ่งแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่ปรับเงินหรอก แค่ตักเตือน จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้นะ แต่ถ้าโดนจับอีก ตำรวจท่านอื่นเขาเรียกเก็บเงินแน่นอน” “ขอบคุณครับ…

ชัยภูมิ น้ำตกตาดโตน มอหินขาว

อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก

เรื่องทั่วไป 22 March 2010

ใช้ชีวิตในโลกอินเทอร์เนตมาเกือบๆ 10 ปี ชีวิตผมจึงถูกเปลี่ยนให้อยู่ในระบบของโลกออนไลน์มากขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริง (จริงๆ อินเทอร์เนตก็คือโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนกัน แต่จริงน้อยกว่า)  มี 3 ช่องทางการสื่อสาร คือ อ่าน พูด และเขียน  โลกอินเทอร์เนต ก็สามารถสื่อสารได้ทั้ง 3 ช่องทางเช่นกัน คือ ทั้งอ่าน พูด และเขียน แต่ช่องทางพูดอาจจะน้อยกว่า เราอาศัยพูดกันผ่านตัวหนังสือ !! ตัวหนังสือสื่อสาร ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการพูดกันสักเท่าไร หากทั้งคู่(หมายถึงคู่สนทนา) รู้จักกัน(ดี)มาก่อน เคยคุยกันมาก่อน เพียงเห็นตัวหนังสือก็จะสามารถจินตนาการถึงเสียงของคู่สนทนาชัดเจนอยู่ในหัว เหมือนคุยกันอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว หากแต่ว่่าถ้าไม่เคยคุยกันมาก่อน ไม่เคยได้ยินเสียง หรือไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน เพียงตัวหนังสือแม้สื่อมาด้วยคำธรรมดาๆ ก็อาจถูกอีกฝ่ายตีความหมายเป็นอื่นได้ !! ปัญหานี้ อาจทำให้เราเสียเพื่อน หรือร้ายกว่านั้น เพื่อนอาจกลายมาเป็นศัตรูได้อย่างน่ากลัว เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นกับผม ในฐานะบล็อกแห่งนี้เป็นบล็อกส่วนตัว จึงไม่แปลกที่ผมจะเล่าเรื่องส่วนตัว.. เรื่องมันเกิดขึ้นจากการคุยกันผ่านตัวหนังสือนี่แหละ.. ผมคุยกับเพื่อนแฟนที่อยู่ต่างประเทศผ่านโปรแกรมยอดฮิต Facebook คุยกันบนกระดานหน้าบ้านเขาเลย  ก่อนหน้าที่เขาจะไปอยู่ต่างประเทศ เราก็เคยไปเที่ยว กิน ดูหนังด้วยกันระยะหนึ่ง จนผมทึกทักเอาเองว่า เออ..เพื่อนแฟนก็เพื่อนเราด้วยคนหนึ่ง วันที่เขาบิน เราก็ไปส่งที่สนามบิน ผมแอบชื่นชนกับแฟนว่า เพื่อนหญิงคนนี้ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ทึ่งกับความกล้าที่่จะบินไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศโดยลำพัง ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังไม่สามารถขนาดนั้น .. หลังจากที่เขาไปต่างประเทศก็หลายปีที่ไม่ได้คุยกัน แต่ก็ได้แอดไว้ใน facebook จนล่าสุดเมื่อวันศูกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 ผมได้ทักทายเขาไปในfacebook และก็ได้การตอบกลับมาด้วยไมตรี ถามสารทุกข์สุขดิบประสาคนที่ไม่ได้คุยกันมาเป็นปี ๆ มันเป็นการสนทนาผ่านตัวหนังสือที่ใช้คนละภาษา คือ เขาพิมพ์อังกฤษมา ผมตอบภาษาไทยไป .. ด้วยความคิดมากของผมเอง ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่เขาใช้สามารถพิมพ์หรืออ่านภาษาไทยได้ไหม? จึงถามไปว่า อ่านภาษาไทยได้ไหม? ความหมายคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่อ่า่นภาษาไทยได้ใช่ไหม? เมื่อเขาตอบว่าได้ ..ผมก็ตอบว่า “อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก” ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกหรือประชดประชันแดกดันอะไรแต่อย่างใดเลย เป็นน้ำเสียงตอบบประสาสื่ออย่างเพื่อนคุยกับเพื่อนเท่านั้นเอง แต่คำตอบที่ผมได้หลังจากนั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เขาไม่พอใจมากกับประโยคนั้น เขาบอกน้ำเสียงของผมมันเย้ยหยันถึงขั้นดูถูก .. เบื้องต้นผมไม่ทราบว่าเขาโกรธผมจากประโยคไหนที่เราคุยกัน ผมถูกบล็อกไม่ให้ติดต่อใน facebook ยิ่งทำให้ร้อนใจยิ่งกว่าเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมให้เพื่อน…

หนึ่ง

ทุกวันนี้..ศึกไกลยังไม่ห่วง

เรื่องทั่วไป 6 November 2009

ปี 2113 รัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช หลังจากที่ไทยเสียกรุงให้แก่พม่าเพียงปีเดียว พระยาละแวกถือโอกาสเข้ามาปล้นและตีเมืองนครนายก สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชจึงทรงรับสั่งให้ยกทัพไปปราบ ให้ทหารนำปืนจ่ารงค์ยิงไปถูกพระจำปาธิราชของเขมรตายคาที่บนคอช้าง ทัพเขมรถอยกลับไปแต่ก็ย้อนกลับมาปล้นเมืองอีกหลายครั้ง นอกจากนี้พระยาละแวกยังนำทัพมากวาดต้อนผู้คนแถวจันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา พระยาละแวกยกทัพมาถึงปากน้ำพระประแดง โจมตีเมืองธนบุรี จับชาวเมืองธนบุรีและนนทบุรีเป็นเชลยจำนวนมาก แล้วได้รวบรวมไพร่พลหมายจะเข้าโจมตีกรุงศรีอยุธยา โดยแต่งทัพเรือ 30 ลำเข้าปล้นบ้านนายก่าย แต่โชคไม่ดีถูกปืนใหญ่ของไทยยิงตายเป็นจำนวนมาก ฝ่ายเขมรแตกทัพหนีกลับไปทางพระประแดง แต่ก็ยังกวาดต้อนผู้คนแถวสาครบุรีกลับไปอีกด้วย ปี 2129 รัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช พระยาละแวกเห็นว่าไทยกำลังสู้ศึกกับกรุงหงสาวดีอยู่ จึงฉวยโอกาสยกทัพเข้ามาตีเมืองปราจีนอีกครั้ง พฤติการณ์ของพระยาละแวก เข้าทำนองสุนัขลอบกัดมาตลอด ขณะที่ทางไทยเข้มแข็ง พระยาละแวกก็จะส่งเครื่องบรรณาการมาแสดงความเคารพยำเกรง ขออาศัยอยู่ใต้บารมี แต่เมื่อไรที่ไทยถูกข้าศึกทางพม่าเข้าตีจนเข้าตาจน พระยาละแวกก็จะฉวยโอกาสกระหน่ำซ้ำเติมทุกครั้งทุกทีไป ครั้นมาถึงรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปี 2136 ในพระราชพงศาวดารที่ชำระในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นั้น ได้กล่าวเอาไว้ถึงเมื่อคราวที่พระยาละแวกถูกจับพันธนาการนำมาถวายแด่องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งได้มีการบรรยายความในตอนนี้ว่า “สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวแย้มพระโอษฐ แล้วมีพระโองการตรัสถามพระยาละแวกว่า ท่านเป็นกษัตริยขัตติยราช บำรุงแผ่นดินกรุงกัมพูชาธิบดี มีกุรุราษฎร์เป็นแว่นแคว้นขัณฑสีมา ฝ่ายกรุงพระมหานครศรีอยุธยาก็มีปัจจันตชนบทเป็นแว่นแคว้น และสองพระนครนี้ก็เป็นราชธานีใหญ่ ถ้าจะใคร่ได้ราชสมบัติในพระนครศรีอยุธยาแผ่เสมามณฑลให้กว้างใหญ่ เหตุไฉนมิยกเป็นพยุหโยธาไปกระทำสงครามให้ต้องทำนองขัตติยราชรณยุทธ์อันเป็นที่บันเทิงหฤทัย กษัตราธิราชแต่ก่อน จึงคอยแต่หงสาวดีมาติดพระนครศรีอยุธยาครั้งใด ก็มีแต่ยกพลไปพลอยซ้ำเติมตีเอาเมืองชนบทประเทศ กวาดเอาอพยพมาเมืองทุกครั้ง ทำดุจกาอันลอบลักฝูงสกุณปักษาฉะนั้น ควรด้วยราชประเพณีและหรือประการใด ก็ครั้งนี้ถึงซึ่งอัปราชัยแก่เราแล้ว ก็จะคิดฉันใดเล่า ให้ว่าไปตามสัตย์ตามจริงจะได้เป็นเยี่ยงอย่างกษัตริย์ไปภายหน้า” “ พระยาละแวกกราบถวายบังคมทูลว่า ซึ่งข้าพระองค์เป็นคนโลภเจตนา มิได้กระทำสงครามตามราชประเพณีกษัตริย์ ไปลักลอบกระทำเสี้ยนหนามแก่พระนครศรีอยุธยานั้น โทษผิดถึงตาย ถ้าพระองค์พระราชทานชีวิตไว้ กรุงกัมพูชาธิบดีจะได้เป็นข้าขัณฑสีมากรุงเทพมหานคร ถ้ามิเลี้ยงก็ก้มหน้าตาย” “สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวได้ทรงฟังคำพระยาละแวกดังนั้น จึงตรัสว่า เราได้ออกวาจาไว้แล้วว่า ถ้ามีชัยแก่ท่าน เราจะทำพิธีปฐมกรรมเอาโลหิตท่านล้างบาทาเสียให้จงได้ ท่านอย่าอาลัยแก่ชีวิตเลย จงตั้งหน้าหาความชอบในปรโลกนั้นเถิด บุตรภรรยาญาติประยูรวงศ์นั้น เราจะเลี้ยงไว้ให้มีความสุขดุจแต่ก่อน” จากนั้นจึงได้พระราชโองการให้ตั้ง “พิธีปฐมกรรมโดยสาตร” เจ้าพระยาละแวก ซึ่งในพระราชพงศาวดารนั้น บรรยายถึงการตั้งพิธีปฐมกรรมดังกล่าวเอาไว้ว่า “ มีพระราชบริหารแก่มุขมนตรี ให้ตั้งการพิธีปฐมกรรมโดยสาตร พระโหราธิบดีชีพ่อพราหมณ์ ก็จัดแจงการนั้นเสร็จ จึงเชิญเสด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นบนเกย เจ้าพนักงานองครักษ์เอาตัวพระยาละแวกเข้าใต้เกย ตัดศรีษะเอาถาดทองรองโลหิตขึ้นไปชำระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระโหราธิบดีลั่นฆ้องชัย ชีพ่อพราหมณ์เป่าสังข์ประโคมดุริยดนตรีถวายมุรธาภิเษกทรงอาเศียรภาพโดยสาตรพิธีเสร็จ เสด็จเข้าพลับพลา” … พออ่านประวัติศาสตร์ในอดีตก็ไม่แปลกใจต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน! แต่ที่น่าแปลกใจ ก็คือ คนไทยที่มีใจไม่เป็นไทย คนพวกนี้ แค่ขับไล่ให้พ้นประเทศคง ไม่พอ ต้องเอามีดบั่นคอแล้วโยนให้ไอ้เข้มันกิน!!…

อ่านต่อ

หย่อนใจ ณ บ้านไร่ อุทัยธานี

ท่องเที่ยว 15 July 201813 June 2019

บรรยากาศต่างจังหวัด ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ช่วงเช้าน่าออกไปวิ่งเสมอครับ ..ลองออกไปสัมผัสดูสัก 10-20 โล

ชีวิตที่โหยหา..ความสำเร็จ

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 January 2010

ชีวิตมนุษย์ปุถุชนอย่างเราๆ สิ่งที่เป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิต คือ ความสำเร็จ แต่หลักของพุทธศาสนาบอกไว้ว่า เป้าหมายสูงสุด คือ ความหลุดพ้น หลุดพ้นจากอะไร จากการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ถ้าจะก้าวข้ามขั้นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชน ก็ต้องตั้งเป้าหมายสู่ ความหลุดพ้น แต่เมื่อยังอยู่ในภาวะปุถุชนเช่นผม เราก็ต้องตั้งเป้าหมายที่ความสำเร็จเป็นหลัก ความสำเร็จ ไม่ว่าจะสำเร็จในการศึกษา ในชีวิต ในหน้าที่การงาน ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการทั้งนั้น การจะดำเนินไปสู่ความสำเร็จนั้น มีข้อธรรมให้ดำเนินตาม เรียกว่า วุฑฒิ วุฑฒิ คือ ธรรมเป็นเครื่องเจริญ ๔ อย่าง ๑.  สัปปุริสสังเสวะ คบท่านผู้ประพฤติชอบด้วยกายวาจาใจ ที่เรียกว่าสัตบุรุษ ๒.  สัทธัมมัสสวนะ ฟังคำสอนของท่านโดยเคารพ ๓.  โยนิโสมนสิการ ตริตรองให้รู้จักสิ่งที่ดีหรือชั่วโดยอุบายที่ชอบ ๔.  ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรมซึ่งได้ตรองเห็นแล้ว พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ สองอัครสาวกที่ได้รับตำแหน่งพระอัครสาวกเบื้องขวาและเบื้องซ้าย ช่วงชีวิตครั้งหนึ่งที่สำคัญต่อชีวิตของท่านทั้งสองมาก คือ การต้องเลือกว่าจะอยู่หรือไป ข้างหนึ่ง คือ อาจารย์สญชัย ผู้ที่ตนไปร่ำเรียนจนจบทุกวิชาแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบของชีวิต กับอีกทางหนึ่งคือสำนักของพระพุทธเจ้า ผู้ได้ชื่อว่ารู้ทางแห่งการหลุดพ้น แม้จะยังไม่ได้เข้าเฝ้า แต่การได้พบพระอัสสชิซึ่งเป็นพระสาวกยังได้ความศรัทธาเพียงนี้  ทั้งสองตัดสินใจเลือกเดินทางไปสำนักของพระพุทธเจ้า ท่านเลือกคบหาสัตบุรุษ ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยเคารพ พิจารณาำถึงคำสอนโดยตริตรอง และปฏิบัติตามคำสอนอย่างเคร่งสุด สุดท้ายทั้งสองจึงถึงความสำเร็จสูงสุดของชีวิต นั่นคือ นิพพาน การจะหาสัตบุรุษเพื่อคบหา ก็ใช่จะเป็นเรื่องง่าย ดังนั้น จึงมีข้อธรรมอีกหมวดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ดำเนินไปสู่ความเจริญได้ง่ายขึ้น เรียกว่า จักร จักร ๔ ดุจล้อรถนำไปสู่ความเจริญ ๑.  ปฏิรูปเทสวาสะ อยู่ในประเทศอันสมควร ๒.  สัปปุริสูปัสสยะ คบสัตบุรุษ ๓.  อัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ชอบ ๔.  ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้ได้ทำความดีไว้ในปางก่อน การอยู่ในประเทศ ในจังหวัด ในหมู่บ้านที่ดี ย่อมมีโอกาสให้พบเจอบัณฑิต หรือสัตบุรุษมากขึ้น ในประเทศไทยเราถือว่าโชคดี เราเกิดมาเจอพระพุทธศาสนา เจอคำสอน ที่เหลือก็อยู่ที่เราขวนขวายหา การตั้งตนไว้ชอบ คือการนำตนไปสู่ธรรมและนำธรรมมาสู่ตน…

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (87)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH