Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ทุ่งดอกกระเจียว

อ่านต่อ

เที่ยว..วันธรรมดา

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 September 201713 June 2019

เกิดความประทับใจจากเมื่อปีที่แล้ว ที่ทุ่งดอกกระเจียวที่สระพรั่งด้วยดอกกระเจียวและกลุ่มหมอก ปีนี้ไปด้วยความคาดหวังว่าต้องสวยไม่แพ้ปีที่แล้ว ..ช่วงเดือนเดียวกันและวันก็ไม่ต่างกันมากนักจากปีที่แล้ว..

ชัยภูมิ ทุ่งดอกกระเจียว
อ่านต่อ

ตามหาหัวใจ..ที่ชัยภูมิ (ตอน 2)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 August 20163 November 2017

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ด้วยความที่ช่วงนี้ออกกำลังกายบ่อย วิ่งทุกอาทิตย์ ร่างกายจึงฟิตเป็นพิเศษ ขับรถเป็นร้อยกิโลก็ยังไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ยังคงมีความสุขกับการขับรถท่องเที่ยว ประมาณบ่ายสองโมงที่ออกจากมอหินขาว ผมมุ่งหน้าสู่อำเภอเทพสถิตย์แหล่งที่ดารดาษด้วยดอกกระเจียวและบรรยกาศที่เย็นสบายเกือบทั้งปี เส้นทางส่วนใหญ่ลัดเลาะไปตามทุ่งนา หมู่บ้านน้อยใหญ่ ผมต้องการปั้มแก๊ส ตอนนี้หน้าปัดโชว์หน้าจอว่าแก๊สใกล้หมดแล้ว น้ำมันก็เหลือไม่ถึงขีด เส้นทางข้างหน้าอีกไกลแค่ไหน มีปั้มมั้ยยากคาดเดา ขับรถด้วยความกังวลเล็กๆเรื่องน้ำมัน ขณะที่คนข้างๆหลับไปนานแล้ว จนในที่สุดผมก็เจอปั้ม PT เติมเบนซินไป 500 บาทก่อนกันพลาด หลังจากนั้นขับรถต่อมาจนเข้าเขตอำเภอเทพสถิตย์ พอย่างเข้าเขตอำเภอผมรู้สึกได้ถึงความเย็น สดชื่น ตลอดทางเราจะพบรถอีแต่น รถไถ และรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าคนแถวนี้ทำนาทำไร่เป็นหลัก บ่ายสี่โมงผมมาถึงที่พัก เส้นทาง@LOVE รีสอร์ท ตัวรีสอร์ทไม่ติดถนนใหญ่ แว่บแรกที่เห็นทางเข้าเป็นถนนลูกรัง ผมใจคอไม่สู้ดีเท่าไร จนกระทั่งวิ่งมาถึงตัวรีสอร์ท ..ประทับใจครับ เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านติดกับไร่มันสำปะหลัง ถึงเป็นรีสอร์ทไม่ใหญ่มาก แต่การตกแต่งรวมถึงการออกแบบให้ความรู้สึกอบอุ่น น่ารัก เป็นครอบครัว ตัวที่พักจะอยู่รอบๆ เว้นสนามหญ้าตรงกลางไว้สำหรับวิ่งเล่น หรือปั่นจักรยานเล่นได้ ที่นี่มีจักรยานปั่นเที่ยวฟรี มี wifi มีอาหารอร่อย โดยเฉพาะผัดหมี่โคราชรสชาตแบบฉบับโคราชแท้ ห้องพักมีหลายแบบ ทั้งแบบบ้านเดี่ยวปูนเปลือย , บ้านแบบห้องแถวติดกัน หรือแบบเต๊นท์ก็มี แต่ละแบบก็มีความน่ารักและน่าพักแตกต่างกันไป ทั้งหลายทั้งปวงยังไม่เท่ากับความมีอัธยาศัยไมตรีอันดีของเจ้าของรีสอร์ท ยิ่งทำให้ที่นี่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของรีสอร์ทตัวน้อยๆอีก 3 ตัว ที่คอยวิ่งป่วนต้อนรับแขกจนทั่วรีสอร์ท (หมายถึงน้องหมา) บรรยากาศรีสอร์ทดีขนาดนี้ มีหรือผมจะพลาด พอเช็คอินเข้าห้องพักเสร็จสรรพผมเลือกจักรยานที่ชอบ 1 คัน ปั่นออกไปซูดโอโซนในไร่มันสำปะหลัง ไร่มันที่มีภูเขาเป็นแบ็กกราวด์ไกลๆ ช่างงดงามนัก จนมืดค่ำผมกลับมาที่พัก คืนนี้คงได้นอนเต็มอิ่ม พรุ่งนี้ต้องตืนแต่เช้าเพื่อไปชมทุ่งดอกกระเจียว รุ่งเช้า ประมาณหกโมงครึ่ง ผมขับรถจากที่พักออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ต้องซื้อตั่วเพื่อเข้าชมและเมื่อเข้าไปแล้ว จะต้องซื้อตั๋วอีกครั้งสำหรับนั่งรถเข้าไปในอุทยานซึ่งมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพราะเมื่อคืนมีฝนตก ทำให้เช้าวันนี้อากาศดีเป็นพิเศษกล่าวคือมีหมอกปกคลุมเต็มพื้นที่ไปหมด ผมซูดอากาศเข้าไปเต็มปอด นานแล้วที่ผมไม่ได้ซูดอากาศแบบไม่ต้องรู้สึกตะขิดตะขวงใจแบบนี้ ผมไม่สามารถจะบรรยาบรรยากาศได้ครบถ้วนทั้งหมด จะบอกว่ามันสวยงามมาก อากาศดีมาก หมอกที่ปกคลุมตามชายป่าสีเขียว บนพื้นก็มีต้นหญ้าสีเขียว มีดอกกระเจียวประปราย งดงามครับ งดงามอย่างยากจะบรรยาย คุ้มค่าที่ได้มา     ผมใช้เวลาที่ทุ่งดอกเจียวนานพอสมควร…

ชัยภูมิ ทุ่งดอกกระเจียว
อ่านต่อ

Oh my ghost

ไดอารี่ 10 October 20163 November 2017

หลังจากโบกลาละครไทยอย่างไม่ใยดี ผมหันมาดูซีรีย์ต่างประเทศอย่าง Walking dead, CSI , NCIS  etc. แต่บางครั้งซีรีย์แนวสืบสวนฆาตกรรมของต่างประเทศ ดูบ่อยๆเข้าก็จำเจและเริ่มจะจำทางได้ ผมจึงหันมาทางซีรีย์เกาหลีบ้าง หลายคนเตือนว่าอย่าดู ..เพราะจะติด! เหี้ย! ซีรีย์เกาหลีนะไม่เว้ย ไม่ใช่บุหรี่ จะติดกันง่ายๆได้ยังไง โดยพื้นฐานผมเป็นคนชอบดูละครมาก โดยเฉพาะละครไทย ผมดูตามแม่พี่ป้าน้าอาที่พาดูตั้งแต่เด็กๆ แต่เชื่อเถอะครับ ละครไทยที่ผมเคยดูเมื่อตอนเด็กๆ กับละครไทยในปัจจุบันยุคที่อวดอ้างว่าล้ำหนักหนา ยุคโซเชี่ยล ยุคดิจิตอล ยุคห่าเหวอะไรนั่น .. ละครไทยยังคงมีบทเดิมๆ เนื้อเรื่องเดิมๆ พล็อตเดิมๆ ตัวอิจฉาตบตีแย่งพระเอก อีตัวอิจฉาต้องแต่งตัวแร่ดๆ ยั่วๆ ทำหน้าทำตาแบบอิจฉ๊า อิจฉา นี่แค่พูดถึงตัวอิจฉานะ อย่าให้ต้องพูดถึงนางเอกพระเอก หรือแม้แต่คนทำสวน คนขับรถ ฯลฯ ไม่อยากจะพูด ละครไทย! กลับมาที่ซีรีย์เกาหลีดีกว่า ผมเลือกดูเรื่อง Oh my ghost ดูน่าจะเป็นซีรีย์แนวผี ตลกๆ .. ดูได้ 3 ตอนติดครับ ติดงอมแงมเลยจริงๆ มีผลทำให้ซีรีย์เกาหลีเรื่องอื่นๆ มึงโดนกูเสพแน่ เรื่อง Oh my ghost ดูแรกๆเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นซีรีย์เบาสมองสบายๆ แต่สไตล์เกาหลีครับ ทำซีรีย์ทั้งทีจะให้ง่ายๆ เดาทางถูกนั้นมันง่ายไป ตอนแรกๆดูเบาๆ สบายๆ แต่พอถึงกลางเรื่องจนจบจะเข้มข้นจนไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว Oh my ghost เป็นเรื่องราวของผีตนหนึ่งที่ตายแล้วยังไปเกิดไม่ได้ เพราะมีเรื่องที่เป็นบ่วงติดไว้ในโลกมนุษย์ จึงเป็นผีร่อนเร่สิงคนโน้นทีคนนี้ที จนกระทั่งมาเจอกับนางเอก (นางเอกในเรื่องนี้ชื่ออะไรไม่รู้ ..แต่น่ารักมากครับ ทั้งหน้าตา น้ำเสียงและบุคลิก) นางเอกมีความสามารถพิเศษตั้งแต่เด็กคือสามารถเห็นผีได้ และโดยที่เป็นคนเห็นผีนี่เอง จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีเพื่อน และขาดความมั่นใจ ร่างกายอ่อนแอ พอมาเจอกับผีเร่ร่อนจึงถูกผีสิงโดยง่าย นางเอกทำงานในร้านอาหารของพระเอก ..นางเอกถูกผีสิง ก่อนถูกผีสิงนางเอกก็แอบรักพระเอกซึ่งเป็นเชฟสุดหล่ออยู่แล้ว พอผีมาเจอพระเอกได้รับความรู้สึกดีๆจากพระเอก ก็เกิดหลงรักพระเอกเข้าไปอีก จึงเกิดรักสามเส้า ระหว่างคนและผี เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆครับ เมื่อผีเร่ร่อนที่เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ..การสืบสวนหาสาเหตุการตายก็เริ่มขึ้น … ผมเล่าไว้แค่นี้ละกัน เผื่อใครผ่านมาอ่านจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกสปอยล์ บอกได้เลยว่า…

oh my ghost เกาหลี

ไว้อาลัย..ไมเคิล

เรื่องทั่วไป 26 June 2009

ปีนี้มีคนดังๆตายกันเยอะ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีดาราดังแห่งฮอลลีวูดมาสิ้นใจตายที่เมืองไทย ด้วยความตายที่สร้างความกังขา ผ่านไปไม่นานก็มาถึงความตายของคนดังอีกคน วันนี้ ทุกสื่อต่างพูดถึงข่าวการตายของราชาเพลงป็อบอย่าง ไมเคิล แจ็คสัน หลายคนช็อคกับข่าวนี้ครับ โดยเฉพาะคนอเมริกันคลั่งไคล้ไมเคิลมาก บูชาเป็นดั่งเทพ ถ้าได้ศึกษาประวัติของไมเคิลตั้งแต่เด็ก จนถึงเติบใหญ่ ได้เห็นความสามารถของเขา ก็ไม่น่าแปลกใจที่คนเหล่านั้นบูชาไมเคิลขนาดนั้น ไมเคิล คือ อัจฉริยบุรุษ เขาเริ่มต้นอาชีพนักดนตรีในฐานะนักร้องนำของวง The Jackson 5 เมื่ออายุได้เพียง 7 ปี และได้ออกงานเดี่ยวชิ้นแรกในอัลบั้ม Got to Be There ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2514 ในขณะที่ยังเป็นสมาชิกของวง The Jackson 5 อยู่และมีอายุเพียง 11 ปี ไมเคิล แจ็กสันก็สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงมาครองได้มากถึง 3 เพลงฮิตแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของราชาเพลงป็อบที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุดที่สุดของชีวิตที่คนๆหนึ่งจะพึงถึงได้ แต่จะอย่างไร ไมเคิลก็ไม่สามารถล่วงพ้นกฏของไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ไปได้ เมื่อถึงจุดสูงสุด ก็เริ่มร่วงโรย ไมเคิลมีข่าวอื้อฉาวมากมาย จนแทบจะล้มละลายหลายต่อหลายครั้ง ด้วยหนี้สินที่มากมาย การใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย การใช้เงินไปกับการดูแลรักษาความงาม การรักษาโรคประจำตัว และที่อื้อฉาวที่สุดคือดคีล่วงละเมิดเด็ก แต่ถึงจะอย่างไร คนอเมริกันหรือแฟนคลับของไมเคิลทั่วโลก ก็ยังชื่นชอบคลั่งไคล้ไมเคิลอย่างไม่สร่างซา ณ วันนี้ ถึงแม้ไมเคิลจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ตำนานราชาเพลงป็อบของเขาคงจะอยู่คู่กับโลกไปอีกนาน ควบคู่กับตำนานเพลงร็อคของ เอวิส เพรสลีย์ ข่าวคราวและประวัติของไมเคิลหลายคนรู้จักมามากแล้ว วันนี้ไม่ได้เขียนถึงเพื่อเล่าประวัติ เพียงแค่อยากสลักไว้ในบล็อกถึงตำนานอันยิ่งใหญ่ของไมเคิล เพื่อเป็นเกียรติแก่บล็อกเล็กๆแห่งนี้เท่านั้น.. ขอไว้อาลัย แด่…ราชาเพลงป็อบผู้ยิ่งใหญ่ ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน ป.ล. ตอนนี้คนทั้งโลกกำลังไว้อาลัยแด่ไมเคิล ด้วยการใส่ผ้าปิดหน้าเหมือนไมเคิล

โบราณว่า

ไดอารี่ 9 February 2011

โบราณว่า ‘ไม้ล้ม..อย่าข้าม’ แต่วันนี้ผมเจอคนชอบฉวยโอกาส รายแรกที่เคยเจอคือ คนขับรถตู้ ถ้าผู้โดยสารโนเนมคือไม่รู้อัตราค่าโดยสารมาก่อน จะแอบบวกเข้าไปอีก 5 – 10 บาท เิงินเท่านั้นจะทำให้รวยขึ้นเท่าไรกัน มันคุ้มมั้ยกับคำว่า “โกง” ที่ปรากฏบนหน้าผาก “มึง” รายที่สองมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ถ้าวันไหนรถติดเยอะๆ คนกลัวไปทำงานไม่ทันก็ต้องทิ้งรถเมล์ สละแท็กซี่ เพื่อปรี่ไปหามอ’ไซต์รับจ้าง มันเริ่มเล่นตัวทันที จากเคยคิด 20 บวกไปอีก 10 – 20 บาท หรือมากกว่านั้น พวกแบบนี้ยังมีอยู่เยอะ ไม่ได้เสียดายเงินที่ต้องเพิ่มให้ แต่เสียความรู้สึกที่ถูกโกง ขึ้นรถเมล์จะขึ้นเวลาไหนวันไหนก็ยังราคาเดียวตลอด เข้าเซ่เว่น ไม่ว่าจะเข้าเช้า สาย บ่าย เย็น ดึกๆดื่นๆ ของก็ยังราคาเดิม ไม่เคยเห็นพนักงานขายบอกว่า ดึกแล้วขอค่าล่วงเวลาอีก 5 บาท เศษเงินไม่เท่ากับความรู้สึกที่ต้องเสียไปหรอก โบราณว่าไว้ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

มอไซต์รับจ้าง รถตู้ เหี้ย โกง

กุ้งรสเด็ด

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 4 July 2008

เพื่อนคนหนึ่งกำลังจะบรรจุเป็นร้อยตรี และจะไปประจำการที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เมื่อไปประจำการที่นั่นแล้ว ก็ไม่รู้เมื่อไรจะได้กลับมาอีก จะมีโอกาสกลับมาไหม หรือยังไง ก็ไม่รู้ ..ก็จึงถือโอกาสนี้เลี้ยงส่งกัน ตามความคาดหมายทีแรก คิดว่าน่าจะมีเพื่อนมามากกว่านี้ แต่ถึงเวลาจริงๆ เนื่องจากอีกวันเป็นวันทำงาน คนโน้นติดงานบ้าง คนนี้อยู่ไกล ฯลฯ ก็เลยมากันได้แค่ไม่กี่คน งานนี้เราไปกินกันที่ร้านรสเด็ก สามแยกพระโขนง เป็นร้านกุ้งกะทะบุพเฟ่ต์ คนละ 99 บาท เดิมทีร้านนี้เป็นของคุณสมรักษ์ เนื้อย่างเกาหลี แต่พี่แกบริหารงานอีท่าไหนไม่ทราบ ถึงได้ตกมาอยู่ในมือของรสเด็ดในปัจจุบัน การเดินทางไปสะดวกมาก จากแยกคลองตันไป ก็มีหลายสาย 25, 71, 40 หรือรถซุบารุขนาดเล็กก็ได้ วิ่งตรงมาจนถึงสามแยก ร้านจะตั้งอยู่กลางแยกพอดี สังเกตง่ายเห็นชัด ห่างจาก BTS พระโขนงประมาณ 50 เมตร ว่ากันถึงบรรยากาศ ร้านนี้บรรยากาศไม่ค่อยจะดีมากนัก ออกจะแออัดไปนิ๊ด (ร้านหมูกะทะในความคิดผม ควรจะเป็นแบบสวนๆ โล่งๆ สบายๆ หน่อย) แต่คนเยอะพอสมควร ขนาดไปตั้งแต่ 6 โมงเย็น ก็เริ่มจะหาที่นั่งลำบากเสียแล้ว ส่วนอาหาร ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ แล้ว ที่นี่ค่อนข้างให้อาหารเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นกุ้งที่มีมาให้เป็นระยะๆ ปลาหมึก ปลาเผา สเต็ก และอาหารทั่วๆไป ข้าวพัดรสชาติไม่เพี้ยน ของหวานก็หลากหลายครับ (บางที่ผมเคยเห็นของหวานมีไม่เกิน 5 อย่าง แต่ที่นี่เป็นสิบ) ที่นี่มีเบียร์หลายยี่ห้อให้ทดลองชิม น้องๆเชียร์ก็มีหลายเจ้า Hineken, Tiger, Cheer, Singha ฯลฯ เจ้าภาพงานนี้ปฏิเสธเบียร์ Tiger ด้วยเหตุผล น้องเชียร์เบียร์ไม่น่ารัก แถมปากร้าย แต่ยอมดื่มเบียร์ Cheer แม้ไม่เคยดื่มเลยในชีวิต ด้วยเหตุผลนี้ครับ หน้าตาเหมือนลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่เธอปฏิเสธว่าไม่ใช่ และบอกว่ามาจากขอนแก่น ! สอบถามชื่อนาม เธอชื่อ กุ้ง มีชื่อจริงว่า สาวิตรี แซ่ไหล ธุรกิจบัณฑิตย์ ปี 2…

กุ้ง
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางมะผ้า

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 19 December 202024 September 2021

วันที่ 3 ของการมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน หลังจากเก็บเต๊นท์และสัมภาระที่หยุนไหลใช้เวลาเกือบ 10 โมงกว่า เรามุ่งหน้าไปปางอุ๋งโดยปักหมุดพักกินข้าวเท่ียวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวยอดนิยมอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่” ระหว่างทางก็แวะเที่ยวแวะชิมกาแฟไปตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายนั่นคือ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ เวลาเที่ยงกว่าๆ จึงทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวจ่าโบ่คึกคัก มีลูกค้าหนาตา ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปายมากนัก ใช้เวลาเดินทางจากปายประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ขับรถจากปายตรงไปอีก 12 กิโลเมตร เจอแยกบ้านแม่ระนาเข้าไปยังหมู่บ้านขับรถตรงไปอีก 4 กิโลเมตร เส้นทางทำใหม่ราดยางตลอดทาง เมื่อมาถึงหมู่บ้านเราก็จะได้เจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของที่นี่ เพราะนอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยในราคาหลักสิบให้ได้ทานแล้ว มองไปรอบๆ จะเห็นว่าตั้งอยู่ในมุมที่เหมาะเจาะมองเห็นภูเขาที่สวยงามสลับซับซ้อน หลังจากอิ่มหน่ำสำราญทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวและกาแฟแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อ หนทางต่อจากนี้ไปปางอุ๋ง รับรองว่าใครธาตุอ่อนมีอ๊วกออกมาแน่นอน.. มันช่างคดเคี้ยวเลี้ยวลดจนเคลื่นไส้..

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่ จ่าโบ่ ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน

เมื่อผมอยากมีสี

ไดอารี่ 12 February 2010

ช่วงนี้เหนื่อยหน่อย ต้องตื่นเช้าหลายวันแหละ..เรื่องของเรื่องคือ ผมไปสอบบรรจุเป็นข้าราชการทหาร !! หลังจากปีที่แล้วพลาดท่า ปีนี้เลยขอโอกาสอีกครั้ง การสอบมีเรื่องให้ยากลำบากทั้งกายและใจอยู่หลายอย่าง  1. ลำบากใจ เพราะการสอบมีตั้ง 5 วัน โชคดีที่ไม่ติดกันทั้ง 5 วัน การจะลาหลายๆวันในเดือนเดียวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจ ผู้จัดการไม่ว่ากระไร แต่เราก็เกรงใจเหลือแสน  2. ลำบากกาย การสอบทหารนอกจากจะต้องทำข้อสอบได้แล้ว ร่างกายต้องแข็งแรง มีการทดสอบดันพื้น ลุกนั่ง และวิ่งรอบสนามฟุตบอล 2 รอบ ประมาณ 800 เมตรในเวลาไม่เกิน 4 นาที !! ด่านอื่นๆไม่ว่าจะดันพื้น หรือลุกนั่ง เราต้องแข่งกับตัวเอง และไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรนัก แต่ตอนวิ่งนี่สิ ต้องวิ่งพร้อมกับคนอื่นและทุกคนก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขคือต้องวิ่งไม่เกิน 4 นาที ดังนั้น สิ้นเสียงนกหวีด ทุกคนก็ต่างตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุในเวลา 11.00 น. นาทีนั้น ผมคิดถึงครั้งแรกในชีวิตของทุกคนที่ต้องแข่ง คือ การแข่งกันของสเปิร์มที่ว่ายเพื่อไปถึงไข่ในมดลูก สเปิร์มตัวที่แข็งแรงที่สุดจะเป็นผู้กำชัยชนะ ทุกคนเป็นสเปิร์ม ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งโดยไม่หันมอง ทักทาย หรือสนใจคนข้างๆที่วิ่งไม่ไหวแล้ว สนใจแต่เป้าหมายของตน มันต่างจากวิ่งจ๊อกกิ้งในเวลาเช้าที่สวนสาธารณะ ไม่มีการทักทาย ยิ้มแย้ม ทุกคนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด มุ่งมั่นเพื่อชัยชนะ ผมวิ่งตามจังหวะและระดับความเร็วของตัวเองที่เคยทำตลอด 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา เหนื่อยเหมือนกัน แต่ไม่มากเท่าครั้งแรกที่มาซ้อมวิ่งที่สวนสาธารณะ ผมได้ความเร็วที่ 3.39 นาที ถือว่าผ่าน วันพฤหัส ไปสอบข้อเขียน บ่ายวันนั้นฤกษ์ไม่ดีเอาซะเลย ใกล้จะถึงกรมยุทธฯอยู่แล้วแท้ๆ เจอด่านตำรวจ ผมนั่งมอเตอร์ไซต์วินจาก รถไฟใต้ดินบางซื่อ ไม่ใส่หมวกกันน็อค คนขับเป็นผุ้หญิง แกตกใจมาก ตำรวจถามว่า ทำไมไม่หาหมวกกันน็อคให้ผุ้โดยสาร ..แกเงอะงะพูดไม่ออก ตำรวจเลยหันมาทางผม ..”ผมจะรีบไปสอบนายร้อยครับ” พูดพร้อมยื่นบัตรให้ดู ..ตำรวจกล่าวตักเตือนคนขับมอไซต์นิดหน่อย แล้วก็ปล่อยไป  ดวงไม่ดีจริงๆ เพราะผมทำข้อสอบข้อเขียนไม่ได้เลย !!! วันนี้(วันศุกร์) พึ่งไปสอบสัมภาษณ์มา..เฮ้อ ต้องถอนหายใจแรงๆอีกสักที รู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไร .. แต่ช่างเถอะ หมดหน้าที่ของเราแล้ว ..เราทำดีที่สุดที่สามารถทำได้แล้ว…

เบื่อม่ะ?

เรื่องทั่วไป 11 June 2008

เกิดความรู้สึกเบื่อขึ้นมาเฉยๆ..(ซะอย่างนั้น) พยายามสร้างความรู้สึกอื่นมาต่อต้านอย่างหนัก เพราะความรู้สึกเบื่อ เป็นความรู้สึกฝ่ายลบ ต้องสร้างความรู้สึกฝ่ายบวกมาต่อต้าน กำราบให้ได้ เมื่อถูกความรู้สึกเบื่อครอบงำ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความสุขก็ไม่มี การงานหน้าที่ก็ไม่คืบหน้า.. กำจัด ต้องรีบกำจัดเสีย คิดถึงงาน..เราจะทำงานในวันนี้ให้ดี ดีกว่าเดิม ดีที่สุด..คิดไป คิดมา ง่วง คิดถึงวันหยุดอันแสนสบาย เมฆสีฟ้า ทะเลสีคราม ..น้ำทะเลใส เสื้อลายดอก และกล้องถ่ายรูป…คิดไป คิดมา  พาลขี้เกียจทำงาน คิดถึงเรื่องดีๆที่ผ่านมา..คิดหนัก! คิดถึงเรื่องการเมือง ปัญหาบ้านเมือง น้ำมันแพง ค่ารถขึ้น ข้าวสารราคาขึ้น มาม่าห่อละ 8 บาท คนประท้วง ขโจรขโมยเต็มบ้านเต็มเมือง คนมีปัญหา..ฯลฯ คิดถึงเรื่องสุดท้ายนี่..หายง่วง แต่เริ่มจะเครียดแทนละ บ้านเมืองเข้าสู่ยุคอะไรฟ่ะเนี่ยะ..ทำไมมันมีอะไรวุ่นวายเยอะแยะไปหมด แต่อ่ะ จะรอดูๆๆๆ ..ว่าจะลงเอยอย่างไร  ทุกปัญหามีทางแก้ .. ก็หวังว่าจะแก้กันเร็วๆ ชาวบ้านจะแย่แล้วววคร้าบ  

ความจริงของปัจจุบัน รอบอกชาติหน้าไม่ได้

เรื่องทั่วไป 17 November 200827 September 2016

อาทิตย์ที่ผ่านมาได้อ่านหนังสือเรื่อง “ความจริงของปัจจุบัน รอบอกชาติหน้าไม่ได้” เขียนโดยท่านผู้มีนามปกากว่า เขมกร คุณเขมกรท่านนี้ ท่าทางจะมีอายุสักหน่อย แต่เป็นคนธัมมะธัมโมตั้งแต่เด็ก ได้ปฏิบัติธรรม จนมีความสามารถพิเศษในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าคนทั่วๆไป เพราะในหนังสือท่านได้บอกว่า สามารถสื่อสารกับวิญญาณ ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรได้ ฯลฯ ผมอ่านวันเดียวจบ เพราะเนื้อหาหนังสือน่าอ่าน อ่านสนุก มีประสบการณ์เกี่ยวกับวิญญาณหลากหลาย แปลกๆ ทุกเรื่องมีคติท้ายเล่ม มีแง่คิดเกี่ยวกับการทำความดี และการทำความชั่ว ที่สำคัญเกือบทุกเรื่องจะมีข้อความจากพระไตรปิฏกมาปิดท้าย อ่านแล้วก็น่าสนใจ และพาให้กลัวในเรื่องเวรกรรม บาปกรรม และบุญกรรม หนังสือแนวๆนี้ในยุคปัจจุบันมีน้อยเต็มที เน้นหนักไปในเรื่องรักๆใคร่ๆ เสียมาก หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่นที่กำลังห่างไกลจากคำว่า ทำดีหรือทำชั่ว บางคนทำชั่วจนชิน บางคนเคยรู้ตั้งแต่เด็กว่าตายแล้ว จะต้องไปชดใช้กรรม ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ แต่มักอ้างว่า ชาติหน้าเป็นเรื่องหลังความตาย ขอให้ชีวิตรอดได้ในชาตินี้ก่อน ชีวิตหลังความตายน่ากลัวว่าที่คิดเยอะ ผมพึ่งเสียเพื่อนสนิทไป เมื่อประมาณกลางๆปีนี้ ก็ยังมานั่งๆคิดเล่นๆ ว่าเพื่อนเราไปไหนแล้ว ณ ตอนนี้ เพื่อนจะรู้ตัวมั้ย จะตกใจมั้ย จะกลัวมั้ย จะไปไหน หรือจะยังไง ฯลฯ คิดดังนั้นก็ย้อนมาคิดถึงตัวเราเอง เมื่อถึงเวลานั้น เวลาที่เราต้องไปแบบนั้นบ้าง เราจะยังไง จะกลัวมั้ย จะเดินไปไหน ที่ๆนั่นมืดมากมั้ย ท่านยมบาลน่ากลัวมั้ย ระหว่างบาปกับบุญของเรา อันไหนจะมากกว่ากัน และเราจะถูกตัดสินให้ไปชดใช้ในนรกขุมไหน หรือให้ไปเสวยสุขที่สวรรค์ชั้นใด ฯลฯ ในหนังสือเล่มนี้บอกว่า ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างนี้จริงๆ เป็นอย่างที่เราถูกสอนมาตั้งแต่เด็กโดยคนเฒาคนแก่จริงๆ และเมื่อถึงเวลานั้น “เราจะกลัวมั้ย?” ผมถามตัวเอง คำตอบก็คือ เหมือนเราสมัยประถม เวลาเข้าแถวหน้าเสาธง เมื่อครูออกไปพูดหน้าเสาธง ถ้าเราทำอะไรผิด เราก็กลัวแสนกลัว ไม่กลัวสบตาครู ตรงกันข้าม ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด หนำซ้ำทำแต่ความดี นอกจากไม่กลัวครูแล้ว ยังเสนอหน้าให้ครูเห็นชัดๆ เผื่อครูจะกล่าวชมถึงความดีของเราที่หน้าเสาธง คนทำดีไว้มากมายพอแล้ว ถึงตายไปก็ไม่กลัว ก็แค่ย้ายบ้านใหม่ ส่วนคนชั่ว เวลาละโลกนี้ไป นั่นหมายถึงเวลาตัดสินคดี ไม่ถูกประหารชีวิตก็ถูกจับทรมานอย่างสยอดสยอง อยู่ที่ความชั่วที่ตัวก่อไว้ ดังนั้นแล้ว..มาสะสมความดีกันเถอะครับ ถึงเวลาย้ายบ้านจะได้สบาย

อ่านต่อ

อยุธยา..เมืองเก่าของเราแต่ก่อน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 27 January 200923 September 2016

วันตรุษจีนปีนี้ ถือฤกษ์ถือชัยไปไหว้พระที่อยุธยา ตั้งใจจะไปหลายครั้งแล้วครับ พระราชวังบางปะอิน แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้แคล้วคลาดไปหลายหน ตรุษจีนนี้ ถือฤกษ์ดี ตั้งใจแน่วแน่..ต้องไปให้ได้ ออกเดินทางกันในเวลา 10 นาฬิกาของวันอาทิตย์ ขึ้นทางด่วนใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงก็ถึงเป้าหมายครับ อากาศค่อนข้างร้อนครับ..เวลาจะถ่ายรูปที หน้าตาเลยยดูเหยเก พื้นที่พระราชวังบางปะอิน ร้อยกว่าไร่ครับ ถ้าขี้เกียจเดิน ที่นี่มีรถกอล์ฟให้เช่า ชั่วโมงแรก 250 ชั่วต่อไป 100 บาท ใช้บริการ 2 ชั่วโมงพอดี..ขับสนุกดีครับ นี่สไตล์แบบจีน แดงทั้งหลัง.. ตรงนี้เรียกว่า วิทูรทัศนา..ข้างบนค่อนข้างสูง ลองขึ้นดูแล้ว ออกจากพระราชวังบางปะอิน ติดๆกันนั้นเองมีวัดน่าไปอีกวันหนึ่ง ชื่อวัดนิเวศธรรมประวัติ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องพระอุโบสถที่สวยงาม แปลกตา ภายนอกดูเกือบเหมือนโบสถ์คริสต์ การเดินทางถ้าออกจากพระราชวังบางปะอิน ต้องนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำครับ แบบนี้.. ออกจากวัดนี้ ต่อไปที่คนที่ไปอยุธยามักจะไม่พลาดคือ วัดมหาธาตุ วัดโบราณที่เหลือแค่ซากครับ เอาละ..เที่ยวกับแดดๆแบบนี้ ทำเอาปวดหัวจี้ดเหมือนกัน ต้องกระดกพารากันไปคนละ 2 เม็ด ทริปแบบนี้เหมาะกับหน้าหนาว หรือไม่ก็หน้าฝนที่แดดไม่แรงนัก .. ไม่เช่นนั้นอาจป่วยได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่..ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่งดงามและอิ่มเอิบด้วยบุญครับ ~ สาธุ

พระนครศรีอยุธยา

คนบ้าอำนาจ

เรื่องทั่วไป 17 June 20109 September 2019

เราชอบบอกกันว่า ผู้ใหญ่บ้าอำนาจ แต่ความจริงแล้ว เราเกือบทุกคนบ้าอำนาจ ขอให้มีอำนาจสักนิดนึง..ก็เริ่มจะใช้อำนาจ ตัวอย่าง.. ในวัด ไม่เด็กวัดก็มัคทายกวัด พวกนี้ทำตัวแก่วัด พอเราเลี้ยวรถเข้าวัดปุ๊บก็เริ่มใช้อำนาจกับเราทันที ตั้งแต่..ตรงนี้ห้ามจอด, วันนี้พระท่านไม่รับแขก(ซึ่งความจริงพระท่านอาจไม่รู้เรื่อง) ฯลฯ ในร้านอาหาร ..เจ้าของร้าน(บางคน)ก็บ้าอำนาจ ทำกับลูกค้าราวกับว่าเราไปขอมันกิน บนรถเมล์…โชเฟอร์-กระเป๋ารถเมล์ ชีวิตเราฝากกับมันไว้ เผลอกดปุ่มจอดป้าย 2 ครั้งก็ด่า บ้างก็ไม่ยอมจอดตรงป้าย บ้างก็ขับไปบ่น(ด่า)ไป คนบนรถต้องเงียบกริบให้มันบ้าอำนาจต่อไป บนรถแท็กซี่ บอกให้เีลี้ยวซ้ายจะได้เร็วมันก็ไปตรง บอกขับมา 30 กว่าปีแล้ว ขับไปโทรศัพท์ไป ขับไปด่าไป ฯลฯ บนรถตู้ ก็เหมือนกัน.. คนที่มีอาชีพขับรถจะมีลักษณะบ้าอำนาจคล้ายๆกัน จะดุจะด่าจะว่าผู้โดยสารทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจ ไม่อยากจะใช้คำว่าไร้การศึกษา เพราะความจริง บอกกันดีๆ นะทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องกระโชกโฮกฮาก ไม่ต้องบีบแตรไล่รถคันอื่น ไม่ต้องปาดหน้าใคร ไม่ต้องไปบี้ตูดใคร ่ทุกคนบนถนนรีบเหมือนกันหมด ต้องไม่ใช้อารมณ์กับผู้โดยสาร ต้องซื่อสัตย์กับอาชีพตัวเอง ผมเจอหลายครั้งที่ผู้ขับรถตู้แอบเก็บเกินราคา เราเองบ้าอำนาจในพื้นที่แม้จะเล็กๆก็ตามที่สามารถจะบ้าอำนาจได้ อย่างน้อยที่สุดก็ในบ้านตัวเอง ในสถานการณ์ที่เราต้องตกอยู่ภายใต้คนบ้าอำนาจเหล่านี้ มีคำสอนจากพระพุทธองค์เตือนสติไว้ว่า ‘ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง’ บางคนถามว่า ทำไมเราต้องทน? หลายครั้งที่เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเราไม่รู้จักอดทน ความอดทนเป็นการตอบโต้อย่างหนึ่ง และเป็นการยุติปัญหาที่ดีที่สุด ความอดทนที่สุดยอดคือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ การอดทนต่อคนที่สูงกว่าเรา เช่น ผู้ใหญ่กว่าเรา, เจ้านาย, นายจ้าง ถือว่าธรรมดา เพราะเราจำเป็นต้องทน การอดทนต่อผู้ที่เสมอกับเรา เช่น เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนบ้าน ฯลฯ ถือว่าดี แต่ไม่ใช่ดีที่สุด การอดทนต่อคนประเภทนี้เราต้องใช้คุณธรรมพอสมควร แต่การอดทนที่สุดยอดที่สุด คือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ เช่น คนขับรถเมล์, คนขายของ, คนขอทาน , คนจรจัด ฯลฯ การอดทนต่อคนพวกนี้ได้ต้องอาศัยการยับยั้งใจอย่างที่สุด และหากทำได้ ก็ถือว่าเราเข้าสู่ธรรมะได้อีกระดับหนึ่ง พระพุทธเ้จ้าและพระอานนท์ทนต่อถูกชาวบ้านด่ามาตั้ง 7 วัน โดยไม่ตอบโต้หรือหนีไปไหน แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็หายไปเอง และคนที่เดือดร้อนที่สุด ก็คือคนที่จ้างชาวบ้านมาให้ด่า นอกจากไม่ได้ผลแล้วยังเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ดังนั้น คนบ้าอำนาจ…

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH