Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

น้ำตกแม่ขมิ้น

อ่านต่อ

ทริปวันเดียว-เที่ยวน้ำตก-นอนเต๊นท์-กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 October 201912 November 2019

เป็นอีกหนึ่งปุ้บปั้บทริป..คุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่าเสาร์นี้ไปกินข้าวกันมั้ย แค่ชวนกินข้าวร้านดีๆแถวบ้าน รู้ตัวอีกทีมากินข้าวกลางป่าที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสายน้ำและภูเขาซะแล้ว.. ที่หลับที่นอนคืนนี้อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีห่างจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 7 กิโลเมตรติดกับเขื่อนศรีนครินทร์ กางเต๊นท์บนผาที่มองด้านล่างลงมาเป็นเขื่อน ใกล้ๆกันมีน้ำตกที่ไม่ปรากฏชื่อในแผนที่!! สายน้ำเล็กๆที่ไหลผ่านหน้าเต๊นท์พวกเรา คือน้ำที่แบ่งสายมาจากน้ำตกซึ่งไหลลงมาจากภูเขาลงเขื่อน บรรยากาศต้องบอกว่าสุดๆจริงๆ   หลังจากกางเต๊นท์เสร็จก็ลองเดินสำรวจน้ำตกครับ ทีแรกนึกว่าน้ำตกเล็กๆ แต่พอเดินลัดเลาะไปตามเสียงน้ำตกก็พบว่า ไม่เล็กเลย แต่เนื่องจากทางที่เดินลงมาค่อนข้างลำบาก คนก็เลยไม่นิยมมาเล่น กอรปกับค่อนข้างอันตรายนิดนึ่งเพราะด้านล่างเป็นเขื่อน ถ้าลื่นมีหวังไหลลงเขื่อนแน่นอน หลังจากสำรวจเสร็จก็กลับไปทำอาหารกินกันที่เต๊นท์ครับ บรรยากาศทำอาหารกินเองหวนให้ระลึกถึงสมัยเข้าค่ายลูกเสือ สมัยนั้นได้มาม่าปลากระป๋องนี่ก็ถือว่าเลิศแล้ว คืนนี้มีฝนปรอยๆทำให้บรรยากาศเย็นลงนิดนึง นอนฟังเสียงฝนและเสียงน้ำตก บางคนอาจรำคาญ แต่สำหรับผมบอกเลยว่า ฟินนนนน เช้าประมาณตี 5 เปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดกีฬา ออกไปวิ่งที่เขื่อนศรีนครินท์ บรรยากาศต้องบอกว่าคุ้มค่าตื่นมากๆ..หมอกหนาเต็มพื้นที่ ราวกับวิ่งบนสวรรค์ หลังจากวิ่งเสร็จก็กลับมาทานอาหารเช้ากันที่เต๊นท์ และหลังจากนั้นสายๆ ก็เก็บเต๊นท์ และมุ่งหน้าไปหาน้ำตกอีกที่หนึ่ง เราออกเดินทางจากจุดกางเต๊นท์ประมาณ 40 กิโลเมตร ก็มาถึง “น้ำตกแม่ขมิ้น” น้ำตกแม่ขมิ้น เป็นอุทยานแห่งชาติครับ ดังนั้น จึงมีบริการจุดกางเต๊นท์ มีร้านค้าสวัสดิการ เรียกว่าเป็นอีกที่หนึ่งสำหรับคนที่ชอบกางพักแบบกางเต๊นท์ มีเต๊นท์ให้เช่าหรือจะเอาเต๊นท์มาเองก็สะดวก จบปุ้บปั้บทริปแต่เพียงเท่านี้ครับ

กาญจนบุรี น้ำตกแม่ขมิ้น
อ่านต่อ

กินปู กินหมึก ศึกษาธรรมชาติ..ที่หาดปราณบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 26 October 200923 September 2016

23 ตุลาคมปีนี้ นอกจากจะตรงกับวันที่รัฐบาลจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทที่หัวหินแล้ว ยังตรงกับวันศุกร์ นั่นหมายความว่า เราจะมีวันหยุดกันถึง 3 วันเลยทีเดียว (ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์) โอ้..เย หลังจากลากปากกา กากบาทบนปฏิทินในวันดังกล่าวไว้ว่า “เที่ยว” แล้ว  ก็เปิดเว็บไซต์หาข้อมูลที่เที่ยวทันที!! ได้รับความเห็นพ้องต้องการจากมวลสมาชิกนักเที่ยวว่า .. เราจะไปปราณบุรีกัน  หลังจากหาข้อมูลและจองที่พักผ่านเครือข่ายออนไลน์ เราก็ได้ที่พัก 2 คืน 2 ที่ด้วยกัน หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมต้อง 2 ที่ 2 วันด้วย ตอบแบบมีข้ออ้างก็คือ ที่พักที่เราต้องการและอุตส่าต่อราคาเขาเรียบร้อยแล้วนั้น มีที่ว่างให้เราแค่คืนเดียว เราต้องเอาด้วยเกรงใจตามมารยาทอันดีงามของคนไทย  และหาที่พักเพิ่มอีกหนึ่งที่ สำหรับอีกหนึ่งคืน ถ้าให้ตอบตามใจผม นั่นคือ ทำไมเราต้องพักในที่เดียวกันตั้ง 2 คืนละ ในเมื่อราคาก็เท่ากัน ไม่ลองไปเสพกลิ่น เสพอาหาร เสพบรรยากาศในบ้านอื่นบ้าง เวลาเรามีแค่ 2 วัน จะมามัวอยู่กับความรู้สึกเดิมๆทำไม จริงม๊ะ? ทริปนี้ผมแทบไม่ได้ถ่ายภาพภายในรีสอร์ทเลย ไม่อยากให้บล็อกเล็กๆแห่งนี้เป็นพื้นที่โฆษณาให้รีสอร์ทเขาสักเท่าไร แต่ก็จะเล่าและบอกข้อดีขอเสียของแต่ละที่ให้ฟังละกันนะ เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาที่จะไปอยู่ คืนแรก เราได้ที่พักที่ กาลาโมน่า รีสอร์ท มีทางเข้าได้ 2 ทาง แต่ผมจำไม่ได้ว่า ทางไหนดี และทางไหนแย่ มันมีอยู่เส้นหนึ่ง(ที่ต้องไปเสี่ยงเอาเอง) ทางค่อนข้างแย่อยู่ประมาณ 500 เมตร นั่งไปกระเทือนไป เป็นหลุมเป็นบ่อพอสมควร กาลาโมน่า เป็นรีสอร์ทที่อยู่ห่างจากคนอื่นพอสมควร ใครที่ต้องการบรรยากาศของความเงียบสงบ ติดชายหาด ก็ต้องที่นี่เลย กลางบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ลึกแค่คอของคนสูง 167 ซม. ข้อดีคือ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ส่วนข้อเสียคือ บ้านหลังที่ติดกัน (โดยเฉพาะหลังที่ผมพัก) มีฝาบ้านค่อนข้างบาง หรือเพราะอะไรยังไงก็ไม่รู้นะ ทำให้ได้ยินเสียงของห้องข้างๆชัด ห้องข้างๆจะเข้าห้องน้ำ เปิดประตู หรือคุยกัน ยังได้ยินเลย.. (แบบนี้ จะขัดแย้งกับข้อดีที่ว่า สงบ…

ปราณบุรี
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางอุ๋ง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 20 December 202024 September 2021

ปางอุ๋ง หลังจากออกจากปางมะผ้า ชุมชนหมู่บ้านจ่าโบ่ เราก็มุ่งหน้าสู่ปางอุ๋ง..เส้นทางที่แม้สวยงามเพียงใด แต่เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเส้นทางที่วิ่งไปตามเขา เราจึงขับรถไปด้วยความวิงเวียนพอสมควร ทั้งโค้งขึ้นและโค้งลงเขา จนในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง.. ปางอุ๋ง ปางอุ๋ง หรือชื่อเต็มก็คือ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนพม่ามีกองกำลังต่างๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระราชินีนาถจึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้น และพัฒนาความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ โดยมีพระราชประสงค์สร้างความมั่นคงแนวชายแดน พัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร ให้ดีขึ้นและฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไป ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ต้องไปปางอุ๋ง ไปเสพธรรมชาติและความงดงามของสายน้ำยามเช้า คอยลุ้นว่าจะมีหมอกบนสายน้ำมั้ย..อากาศที่ปางอุ๋งว่ากันว่าหนาวทั้งปี และครั้งนี้ก็หนาวจริง น้ำนี่เย็นเจี้ยบบบ ผมมาครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้พูดเต็มปากว่าได้มาแล้ว ที่ใครเคยพูดว่าปางอุ๋งสวย เราก็จะได้มาเห็นด้วยตัวเองว่าจริงมั้ย..ก็สวยจริงนะครับ แต่วันที่ผมมานั้นไม่มีหมอก T_T ข้อเสียอย่างหนึ่งของจุดกางเต๊นท์ที่นี่คือ ทำเลดีๆ สวยๆติดริมน้ำ ถูกเต๊นท์เช่าของเจ้าหน้าที่กางทิ้งไว้หมด จะมีนักท่องเที่ยวหรือไม่ก็ตาม เต๊นท์ก็จะกักที่ไว้อย่างนั้น วันที่ผมไปนักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมากนัก แต่เต๊นท์เช่าเหล่านั้นก็ถูกกางกักที่ไว้เช่นนั้น นอกจากจะกักที่ดีๆไว้แล้ว ยังมองดูเกะกะวิวสวยๆไปหมด เป็นไปได้ไหมครับว่าเต๊นท์เช่าเราไม่ต้องกางทิ้งไว้ รอเวลามีคนมาขอเช่าแล้วค่อยไปกางให้เขา ณ ตำแหน่งที่ผู้เช่าอยากให้กาง เต๊นท์เองก็จะไม่โทรมเร็ว และมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวคนอื่นบ้าง ครั้นจะไปกางเต๊นท์ในจุดที่ห่างจากผู้อื่น วิวสวย เงียบๆ แต่ก็จะไกลจากห้องน้ำมาก.. เช้าวันต่อมา หลังจากออกไปวิ่งเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร ผมกลับมาอาบน้ำในขณะที่น้ำเย็นมากกกกก ก .. แต่เหงื่อท่วมตัวแบบนี้ไม่อาบไม่ได้ครับ คนอื่นๆที่นั่งหนาวผิงไฟ ออกอากาศตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมอาบน้ำ หลังจากเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าเราก็บอกลาปางอุ๋ง.. ขากลับผมตั้งใจจะยิงยาวจากปางอุ๋ง ไปกรุงเทพเลยโดยไม่วนกลับมาทางเชียงใหม่ และเส้นทางที่เลือกนั่นคือ ไปทางแม่สะเหรี่ยง ถนนดี รถน้อย แต่ไกลกว่าและโค้งเยอะกว่ามากครับ ระหว่างทางก็เลยแวะร้านกาแฟเรื่อยๆ ออกเดินทางต่อเข้าสู่โหมดภูเขาและมหากาพย์โค้ง โค้งจนร้องขอชีวิต ในที่สุดก็มีจุดให้แวะเมื่อเราผ่านไปแล้วกว่าพันโค้ง!! ขับรถมาถึงแม่สอด ก็มืดค่ำพอดี ก็เลยต้องหาที่หลับที่นอนที่แม่สอดและระหว่างทางกว่าจะถึงที่พักนั่นก็ระทึกพอสมควรครับ แม่สอดเป็นอำเภอที่ติดกับชายแดนพม่า ถนนมืดสนิทด้านซ้ายเป็นเหว ด้านขวาเป็นภูเขาและราวกับว่าเราขับรถอยู่คนเดียวในหุบเขา นานๆจะมีรถสวนมาสักคัน..ถ้าใครกลับจากแม่ฮ่องสอนเพื่อเข้ากรุงเทพ ไม่แนะนำเส้นทางนี้นะครับ ~ เปลี่ยวเกิ้น จบละครับทริปแม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว เจอกันใหม่ทริปหน้า.. ปิดท้ายด้วยเส้นทางวิวสวยๆจากแม่สอด.

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน

ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน ผ่าน!!

ไดอารี่ 30 March 2010

หลังจากจองบ้านไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วันที่ 14 มีนานี้ก็เริ่มผ่อนดาวน์กันวันแรก ถึงจะเริ่มผ่อนดาวน์กันแล้ว แต่เรื่องยื่นกู้ธนาคารรยังเป็นเรื่องที่เรายังหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ ธนาคารกสิกรเจ้าแรกที่ปฏิเสธเป็นผู้สร้างฝันแล้วเราไปแล้ว ขณะนี้ธนาคารนครหลวงไทยกำลังพิจารณาอย่างเคร่งเครียดว่าจะให้ดีไหม หรืออย่างไร? อาทิตย์ที่แล้วเขาให้เราดีใจด้วยการให้กู้ 95% แต่อาทิตย์นี้หลังจากพบหลักฐานบางาอย่างในเครดิตบูโร เขาจึงขออนุญาตปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ..ซึ่งยังไม่รู้ผล ให้เราใจตุ่มๆต่อมๆรอๆเล่นๆไปก่อน ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนา..ขอให้ผ่านทีเถอะ เพราะหากธนาคารนี้ไม่ให้ ธนาคารอื่นๆเราคงไม่ได้เช่นกัน ช่วงนี้คงต้องนั่งภาวนาไปพลางๆก่อน ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน..ไม่ผ่าน..ผ่าน บ้านหลังแรกในชีวิตมันคงไม่ง่ายอย่างที่คิดเท่าไร และคิดไว้แล้วว่าคงไม่มีอะไรได้มาง่าย มันต้องต่อสู้ ฟันฟ่า แลกด้วยหยาดเหงื่อและอาจถึงหยาดน้ำตา สิ่งที่คาดหวังคือสิ่งที่ใจปรุงแต่งไว้ก่อนแล้ว และเมื่อปรุงแต่งไว้ดีแต่ผลที่ได้ไม่เหมือนอย่างที่ปรุงแต่งไว้ ย่อมมีแต่ความขัดเคืองใจ ไม่พอใจ ไม่่ชอบใจ ท้อใจ และสุดท้ายถ้าไม่ยกใจก็อาจล้มได้ในที่สุด ดังนั้น ต้องตามใจให้ทัน ใจปรุงแต่งไปถึงไหนแล้ว ถามใจ และตอบใจตามความเป็นจริง หลังจากที่ใจเข้าใจตามความเป็นจริงแล้ว ก็อยู่กับปัจจุบันอย่าให้ใจเผลอปรุงแต่งอะไรที่สวยหรูเกิน เพราะมันจะเจ็บปวดภายหลังหากไม่ได้ดั่งใจหวัง ตอนนี้ต้องเอาธรรมะเข้าปลอบใจตัวเองแล้วละ เพราะหากไม่ได้อย่างใจต้องการ เราต้องทำใจและเริ่มใหม่ให้เร็วที่สุด การฟูมฟายร้องไห้และพร่ำเพ้อถึงสิ่งที่จากไปแล้ว ก็ไม่ต่างจากเด็กที่ร้องไห้เอาดวงจันทร์ ไม่มีวันเป็นไปได้ มีแต่สิ่งที่สูญเสียไปคือ เวลา

ไม่ผ่าน

Thank You

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 7 August 2008

ได้หนังซีรีส์เกาหลี เรื่อง Thank You (ชื่อไทยไม่รู้ชื่ออะไร)มาจากที่ทำงาน เป็นแผ่นดีวีดี 5 แผ่นๆ หนึ่ง ประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ   ตั้งใจจะลองดูสักแผ่น อยากรู้ว่าละครเกาหลี แตกต่างจากละครไทยเรามากมั้ย เบื่อละครไทยเต็มที เน่าจนไม่รู้จะเน่าอย่างไร ทำซ้ำไปซ้ำมา ก็อปปี้บท ก็อปปี้เนื้อหา จนเอียนจนเลี่ยน จนไม่อยากจะดูละครไทยอีกแล้ว :p   เอาละ..บ่นละครไทยเป็นหอมปาก วกกลับมาที่ละครเกาหลีใหม่..   เรื่อง Thank You เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงบ้านนอกวัย 6 ขวบคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กธรรมดา แต่อยู่มาวันหนึ่งมีเรื่องราวที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว.. เธอประสบอุบัติเหตุ ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ด้วยความผิดพลาดของหมอ ทำให้เธอได้รับเชื้อเอดส์มา !!   เด็กหญิงซื่อๆ น่ารักๆ ช่างพูดจา เป็นที่รักของแม่ และทุกคนในหมู่บ้าน ได้รับเชื้อเอดส์โดยไม่รู้ตัว แต่แม่ของเธอทราบจากหมอ หัวใจแทบสลาย แต่ก็พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ลูกน้อยได้อยู่ในโลกนี้นานที่สุด และมีความสุขที่สุด   เธอเลือกที่จะไม่บอกใคร แม้แต่ลูกเอง ไม่บอกคนในหมู่บ้าน แต่ก็สอนลูกว่า ถ้ามีอุบัติที่โรงเรียนถึงขั้นเลือกออก ห้ามขอความช่วยเหลือจากใคร ห้ามให้ใครเห็นเลือดเด็ดขาด โดยโกหกว่า เธอเป็นนางฟ้าจากสวรรค์มาจุติ ไม่สามารถให้คนธรรมดาเห็นเลือดได้ และเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามบอกใครเด็ดขาด   เด็กหญิงก็เชื่ออย่างนั้นตามประสาเด็ก..   เด็กคนนี้เป็นเด็กที่โชคร้าย เพราะนอกจากได้รับเชื้อ เอซ ไอ วี มาแล้ว พ่อของเธอก็ยังไม่ปรากฏว่าเป็นใคร คือ เป็นเด็กที่ท้องไม่มีพ่อ ต้องอยู่กับแม่ แม่ต้องส่งเสียน้องชายเรียน และเลียงดูตาที่ความจำเสื่อม แถมต้องดูแลลูกที่มีเชื้อเอซ ไอ วี อีกด้วย..   อีกด้านหนึ่ง หมอ(เป็นผู้หญิง) ที่ทำผิดพลาดให้เด็กหญิงต้องได้รับเชื้อเอดส์นั้น รู้สึกผิดมาโดยตลอด อยากจะเข้าไปขอโทษ อยากจะอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษ แต่เธอไม่สามารถทำได้ เมื่อตรวจพบว่าตัวเธอเองเป็นมะเร็งในตับอ่อน จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน แต่ก่อนเธอจะสิ้นใจนั้น เธอได้ฝากบอกแฟนของเธอ ให้ช่วยสานฝันของเธอ ช่วยไปสารภาพผิดต่อเด็กหญิงผู้โชคร้ายคนนั้น..   เรื่องราวต่างๆก็เกิดขึ้นจากจุดนี้ครับ…..

อ่านต่อ

บาป-บุญ-คุณ-เธอ

สุขกะภาพ 3 April 2014

เมื่อตอนเด็กๆ พอยังจำความได้นิดๆหน่อยๆ แม่จะกระเตงผมไปวัดด้วย ขณะฟังพระท่านให้ศีลให้พรผมก็ปีนป่ายตามตัวแม่ แม่ก็พยายามจับมือผมพนมพร้อมกับดุว่าต่อหน้าพระอย่าซน ผมหยุดซนได้ไม่เกิน 10 วินาที ก็เริ่มซนใหม่ ตามประสาเด็ก   พอโตขึ้นมาหน่อย แม่ก็เริ่มสอนให้รู้จักใส่บาตรตอนเช้า ส่วนหนึ่งคือช่วยเป็นภาระแทนแม่ แม่มือไม่ว่าง ก็ได้ผมช่วยใส่บาตรแทน แม่ก็ได้บุญในฐานะคนจัดหาอาหารมาใส่บาตร ผมก็ได้บุญในฐานะตัวแทนมาทำบุญตักบาตร ความใกล้ชิดกับวัดวา พระสงฆ์องค์เจ้าตั้งแต่เด็กนี่เอง ทำให้เรากลัวในบาปบุญคุณโทษ เชื่อเรื่องกรรม ซึ่งอาจจะตรงข้ามกับคนในยุคปัจจุบันที่มองสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องขบขัน และมักมีคำถามแปลกๆ ว่า บาปบุญมีจริงเหรอ? นรกสวรรค์อยู่ตรงไหน? ทำดีได้ดีจริงหรือ? ฯลฯ ผมเองก็คงตอบไม่ได้ต่อคำถามเหล่านี้ เพราะตัวเองก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นคำถาม เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วในตัวของมัน มันจะค่อยๆชัดเจนเรื่อยๆ ตามวัย เห็นภาพนี้แล้วก็คิดถึงตัวเองตอนเด็กๆ ผมคงไม่นั่งเปะเหมือนเด็กในภาพ แต่วัย ณ ขณะนั้นคงไล่เลี่ยกัน คำอธิบายภาพ : ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ iphone 4s หน้าร้านข้าวแกง/อาหารตามสั่ง ติดกับโรงพยาบาลเพชรเวช เสื้อสีม่วงนั่นคือพนักงานของโรงพยาบาลเพชรเวช

พระ ใส่บาตร

แพงที่สุดในโลก

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

บ้านที่แพงที่สุดในโลก บ้านนี้ตั้งอยู่ในสวนของ Kensington Palace ใน London ตะวันตก  มีทั้งหมด 12 ห้องนอน เจ้าของคือ เศรษฐีค้าเหล็ก ชาวอินเดีย ชื่อว่า Lakshmi Mittal, ด้วยราคา US$128.3 ล้าน ซึ่งเป็นบ้านที่ มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ของ Guiness Book ด้วย รถขับเคลื่อนบนท้องถนนที่แพงที่สุดในโลก Pagani Zonda F  เป็นรถที่มีความโค้งมนอย่างลงตัว เปิดตัวครั้งแรกที่ Geneva Autoshow  ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ค่ะ รถคันนี้ใช้เครื่อง Mercedes  AMG-derived 7.3 L V12 ซึ่งมีความเร็วถึง 214 ไมล์ต่อชั่วโมง เมื่อเอา Top ลง (เป็นรถ convertable) ซึ่ง รถคันนี้ยังไม่มีการตีราคาที่แน่นอน แต่ทางบริษัท ได้พูดไว้ว่า มันจะเป็นรถขับเคลื่อนที่แพงที่สุดในโลกอย่างแน่นอน ซึ่งรถคันนี้จะจัดทำขึ้นจำนวนจำกัด แค่ 25 คันเท่านั้น… รองเท้าที่แพงที่สุดในโลก ราคา เน็ตๆ ที่ US$2 ล้าน  รองเท้าส้นเรียวแหลมสูง 4 นิ้ว  ประดับด้วย 565 Platinum set Kwiat Diamon ซึ่งชุดนี้รวมไปด้วย เพชรเม็ดใสๆ 55 กะรัต และเพชรเม็ดเบ้ง 5 กะรัตอีก 1 เม็ด ผู้ดีไซน์มีชื่อว่า Stuart Weitzman ซึ่งผู้มีโอกาสสวมใส่คนแรกคือ Alison Krauss นักร้องที่ถูก เสนอชื่อขึ้นรับ รางวัล เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เค้าร้องเพลงประกอบ Cold Mountain เค้าใส่ไปงานประกาศรางวัล ออสการ์ปี 2004   โรงแรมที่แพงที่สุดในโลก…

อ่านต่อ

ไหว้พระวัดโพธิ์

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 2 June 201520 October 2017

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ชาวต่างชาตินิยมชมชอบ คือถ้ามาเมืองไทยแล้วต้องไปให้ได้ (จะไปเองหรือถูกไกด์บังคับพาไปก็ตาม) เฉพาะในกรุงเทพนะ ถ้ามาถึงแล้วต้องไป นั่นคือ วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และวัดไตรมิตร เจอ 3 วัดเข้าไป ก็หมดวันละ เฉพาะวัดพระแก้วกับวัดโพธิ์นี่ก็แทบหมดแรงละครับ กว้างขวางแถมร้อนมากด้วยเช่นกัน แต่สำหรับชาวต่างชาติ ผมว่าคุ้มครับ กับการได้เข้าไปชมสถานที่ๆมีความสวยงามขนาดนั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจจะไปไหว้พระวัดโพธิ์ตามหัวเรื่องที่จั่วไว้ ไปทานข้าวริมแม่น้ำที่ปากคลอง ขากลับมีอันต้องผ่านวัดโพธิ์ พี่ที่ไปด้วยแกมาอยู่กรุงเทพหลายสิบปี แต่สาบานได้ว่าไม่เคยมาวัดโพธิ์เลย จึงต้องแวะพาแกไปไหว้พระสักหน่อย ถึงจะร้อนมากก็ตาม เดิมทีว่าจะข้ามไปฝั่งวัดอรุณฯด้วย แต่ดูท่าจะสู้แรงแดดไม่ไหว วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร อยู่ติดกับวัดพระแก้วชนิดรั้วเกือบติดกัน กั้นด้วยถนนเท่านั้นเอง แต่การจะเดินไปมาหาสู่กันไม่ใช่เรื่องสนุก เดินกันขาลากหัวเปียกเลยทีเดียว ประวัติวัดโพธิ์ใครใคร่รู้โดยละเอียดก็ไปหาจากอากู๋เอาเองนะครับ อัตราค่าบริการสำหรับคนไทยฟรี ต่างชาติต้องซื้อตั๋ว เอาภาพเล็กๆน้อยๆของวัดโพธิ์ในวันที่แดดแรงมาก มาให้ชมเพียงเท่านี้นะครับ แนะนำให้ไปเที่ยวชมด้วยตนเองดีกว่า ไปง่าย ถ่ายคล่อง รับรองอร่อย

วัดโพธิ์
อ่านต่อ

เที่ยวถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 September 202129 July 2022

หลังจากกักตัวอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่โควิดระบาดรอบ 2 รอบ 3 มาเป็นแรมเดือน..ก็ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2564 เป็นต้นมา จนถึงเดือนกันยายนี้ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนไกลเลย เต็มที่ก็แค่เซเว่นหน้าหมู่บ้าน อาการคิดถึงธรรมชาติ การเดินทางกำเริบเป็นระยะ จนกระทั่งรัฐบาลสั่งคลายล็อกเปิดจุดท่องเที่ยวบางแห่งได้ เราจึงเริ่มมองหาที่เที่ยวบ้าง และที่นี่คือที่แรกที่เราออกเที่ยว หลังการคลายล็อก ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดแบ่งเป็น ถ้ำธารลอดใหญ่และถ้ำธารลอดเล็ก ถ้ำธารลอดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดใหญ่มีลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ มีความกว้าง 60 เมตร ตัวถ้ำด้านล่างยาว 60 เมตร กว้าง 40 เมตร และสูง 40 เมตร บนเพดานถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ที่แสงแดดส่องลอดเข้ามาในถ้ำได้ ทำให้ภายในถ้ำสว่างและมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ ที่ฟากหนึ่งของผนังถ้ำมีภาพเขียนสีรูปพญานาค ซึ่งชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพญานาค นอกจากนี้แล้วยังมีหลักฐานปรากฏว่าบริเวณนี้เป็นที่ฝังศพของมนุษย์โบราณ จากการค้นพบโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนำไปจัดไว้ให้ชมที่พิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ โครงการพระราชดำริห้วยองคต อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้ออกเดินทางกัน 3 คนครับ (ก่อนหน้านี้มี 5 แต่ติดธุระมาได้แค่นี้) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าก็ถึงยังจุดหมายปลายทาง จัดการกางเต็นท์ที่พักเรียบร้อย ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็เตรียมตัวเดินเท้าท่องเที่ยวธรรมชาติ เสน่ห์ของที่นี่คือนอกจากมีที่บริการจุดกางเต๊นท์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำครบครันแล้ว ยังมีกิจกรรมเดินป่าขนาดกำลังน่ารักให้เราเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอีกด้วย จุดเริ่มต้นการเดินเริ่มจากถ้ำธารลอดเล็ก ภายในถ้ำกว้างขวางมืดแต่มีไฟติดตามจุดพอให้เห็นทางเดินได้ ภายในถ้ำมีสายน้ำไหลผ่าน และพอผ่านจุดนี้ไปก็จะเข้าสู่การเดินป่า เป็นป่าที่มีทางเดินสะดวกครับ เด็กเล็กตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไปสามารถเดินได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง เพราะมีบางจุดที่มีความเสี่ยง ทางเดินจะเป็นทางเรียบ และค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ แต่มีบันไดให้เดิน ไม่ลำบากมาก ตลอดทางก็จะมีน้ำตกเป็นระยะให้ได้ถ่ายภาพ หรือลงไปเล่นได้ตามใจชอบ บรรยากาศดีมาก ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆก็จะถึงจุดที่เรียกว่าถ้ำธารลอดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูงมีลักษณะคล้ายถ้ำพระยานคร แต่โปร่งกว่า มาถึงจุดนี้ถ้ามีเวลาก็สามารถเดินทางต่อไปอีกนิดหนึ่งจะถึงวัด (ขออภัยที่จำชื่อวัดไม่ได้) เราใช้เวลาในการเดินชมธรรมชาติไปและกลับประมาณ 4 ชั่วโมง กลับถึงเต็นท์ก็ได้เวลาสำหรับอาหารเย็นแล้ว ค่ำคืนนี้มีฝนพร่ำๆ พอให้นอนสบาย นอนฟังเสียงฝนคละเคล้ากับเสียงน้ำตกไกลๆได้บรรยากาศการมาพักผ่อน เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าครับ ประมาณตีห้าครึ่ง ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายไปที่น้ำตกสไลเดอร์ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอุทยานห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร วิ่งไปกลับก็จะได้ระยะ 10 กิโลเมตรพอดี ระยะทางที่ค่อนข้างเป็นเนินซะส่วนใหญ่ ประกอบกับความฟิตก็ไม่ได้มีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำการให้วิ่งในวันนี้เหนื่อยเป็นพิเศษ…

กาญจนบุรี ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์

เพลงสั้น

ไดอารี่ 3 March 2011

พึ่งเปิดหมวดหมู่ใหม่ ให้ชื่อว่า “เพลงสั้น” คอนเซ็ปต์คือเอาชื่อเพลงที่ดังๆ หรือที่ตัวเองชอบมาตั้งเป็นชื่อเรื่อง เขียนเรื่องสั้นให้สอดคล้องกับชื่อเรื่องในมุมมองของเรา ซึ่งไม่เหมือนเนื้อเพลงต้นฉบับ เช่น เพลงอกหัก ของบอดสี้สแลม ถ้าเขียนเป็นเรื่องสั้นในมุมของ “เพลงสั้น” อาจไม่ใช่เรื่องราวของการอกหักรักคุด แต่อาจเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ตกจากต้นไม้เมื่อสมัยเด็ก ทำให้อกหัก เดินตัวงอๆตลอดเวลา แต่ชีวิตของผู้ชายอกหักคนนี้ไม่ได้หักไปเสียทุกเรื่อง เขาหักแต่อก แต่รักเขาไม่เคยหัก เป็นต้น ปัจจุบันมีเรื่องสั้นที่อยู่ภายใต้ “เพลงสั้น” แล้ว 2 เรื่อง (คลิกไปอ่าน) การเขียนเรื่องสั้น คือ การผ่อนคลายอย่างหนึ่งจากหน้าที่การงานที่เคร่งเครียด ทุกเรื่องสั้นที่ผ่านหัวข้อเรื่อง “เพลงสั้น” ใช้เวลาเขียนไม่เกิน 1 ชั่วโมง ดังนั้น บางครั้งบางทีบางท่อนบางประโยคบางคำอาจมีตกหล่น ภาษาไม่สวยงามหรือไม่สมจริง ่ส่วนหนึ่งมาจากเวลาที่(ถูก)จำกัดโดยตัวของตัวเอง อีกส่วนหนึ่งคือฝีมือที่ยังไม่เข้าขั้นในการเขียนนั่นเอง แต่อย่างน้อยเพลงสั้นๆเหล่านี้ก็ช่วยให้ผมอารมณ์ดีขึ้น ฝาก “เพลงสั้น” ไว้ในอ้อมอกด้วยนะครับ

เพลง เพลงสั้น เรื่องสั้น
อ่านต่อ

ทริปวันเดียว-เที่ยวน้ำตก-นอนเต๊นท์-กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 October 201912 November 2019

เป็นอีกหนึ่งปุ้บปั้บทริป..คุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่าเสาร์นี้ไปกินข้าวกันมั้ย แค่ชวนกินข้าวร้านดีๆแถวบ้าน รู้ตัวอีกทีมากินข้าวกลางป่าที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสายน้ำและภูเขาซะแล้ว.. ที่หลับที่นอนคืนนี้อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีห่างจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 7 กิโลเมตรติดกับเขื่อนศรีนครินทร์ กางเต๊นท์บนผาที่มองด้านล่างลงมาเป็นเขื่อน ใกล้ๆกันมีน้ำตกที่ไม่ปรากฏชื่อในแผนที่!! สายน้ำเล็กๆที่ไหลผ่านหน้าเต๊นท์พวกเรา คือน้ำที่แบ่งสายมาจากน้ำตกซึ่งไหลลงมาจากภูเขาลงเขื่อน บรรยากาศต้องบอกว่าสุดๆจริงๆ   หลังจากกางเต๊นท์เสร็จก็ลองเดินสำรวจน้ำตกครับ ทีแรกนึกว่าน้ำตกเล็กๆ แต่พอเดินลัดเลาะไปตามเสียงน้ำตกก็พบว่า ไม่เล็กเลย แต่เนื่องจากทางที่เดินลงมาค่อนข้างลำบาก คนก็เลยไม่นิยมมาเล่น กอรปกับค่อนข้างอันตรายนิดนึ่งเพราะด้านล่างเป็นเขื่อน ถ้าลื่นมีหวังไหลลงเขื่อนแน่นอน หลังจากสำรวจเสร็จก็กลับไปทำอาหารกินกันที่เต๊นท์ครับ บรรยากาศทำอาหารกินเองหวนให้ระลึกถึงสมัยเข้าค่ายลูกเสือ สมัยนั้นได้มาม่าปลากระป๋องนี่ก็ถือว่าเลิศแล้ว คืนนี้มีฝนปรอยๆทำให้บรรยากาศเย็นลงนิดนึง นอนฟังเสียงฝนและเสียงน้ำตก บางคนอาจรำคาญ แต่สำหรับผมบอกเลยว่า ฟินนนนน เช้าประมาณตี 5 เปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดกีฬา ออกไปวิ่งที่เขื่อนศรีนครินท์ บรรยากาศต้องบอกว่าคุ้มค่าตื่นมากๆ..หมอกหนาเต็มพื้นที่ ราวกับวิ่งบนสวรรค์ หลังจากวิ่งเสร็จก็กลับมาทานอาหารเช้ากันที่เต๊นท์ และหลังจากนั้นสายๆ ก็เก็บเต๊นท์ และมุ่งหน้าไปหาน้ำตกอีกที่หนึ่ง เราออกเดินทางจากจุดกางเต๊นท์ประมาณ 40 กิโลเมตร ก็มาถึง “น้ำตกแม่ขมิ้น” น้ำตกแม่ขมิ้น เป็นอุทยานแห่งชาติครับ ดังนั้น จึงมีบริการจุดกางเต๊นท์ มีร้านค้าสวัสดิการ เรียกว่าเป็นอีกที่หนึ่งสำหรับคนที่ชอบกางพักแบบกางเต๊นท์ มีเต๊นท์ให้เช่าหรือจะเอาเต๊นท์มาเองก็สะดวก จบปุ้บปั้บทริปแต่เพียงเท่านี้ครับ

กาญจนบุรี น้ำตกแม่ขมิ้น

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH