Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

พงษ์พัฒน์

ชิงเถิดหมา อ่านต่อ

ชิงเถิดหมา

ไดอารี่ 20 February 2011

ถ้าพูดถึง “พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง” หลายๆคนก็คงจะคิดภาพผู้ชายดิบๆ เถื่อนๆ สมัยวัยรุ่นเป็นนักร้องร็อค เพลงกวนตีนอย่าง ครายจะทำมาย หรือเพลงที่โดนใจจิ๊กโก๋อย่าง หัวใจนักเลง เพลงซึ่งๆอย่าง สั่งเสีย และอื่นๆอีกมากมาย ภายหลังนักร้องร็อครุ่นใหญ่ได้มาเอาดีทางการแสดง ก็จัดได้ว่าเป็นนักแสดงขั้นเทพคนหนึ่ง จนปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเต็มตัว สร้างชื่อให้ตัวเองโด่งดังจากเรื่อง Be myself ขอให้รักจงเจริญ และเรื่อง Happy Birthday ส่วนงานละครก็มีให้ชมอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าฝีมือเป็นที่ถูกอกถูกใจคอหนังคอละครทีเดียว จนมาถึงเรื่องล่าสุด “ชิงหมาเถิด” ทีแรกก็คิดว่าเป็นหนังตลก เพราะดูจากตัวอย่างหนังที่ตัดมา มีแต่ฉากตลก แต่พอได้ดูจึงรู้ว่าเป็นหนังเสียดสีแดกดันประชดประชันสังคมแทบจะถูกอณูหนัง คือทุกฉากมีการแอบกัดแอบประชดสังคมตลอด อยู่ที่ว่าผู้ดูสามารถตีความหรือดูออกหรือไม่? หนังเล่าถึงยุคที่สังคมเป็นโรคบ้าเห่อ ในหนังทุกคนกำลังเห่อสัตว์ตัวหนึ่งที่เรียกกันว่าเป็น “หมาหิมะ” หมาหิมะเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ ยกเว้นสามคน คือ ลูกเจ้าของหมาหิมะที่พ่อสนใจแต่หมาจนไม่สนใจตน รู้สึกตัวเองว่าถูกหมาหิมะแย่งความรักไปจนหมด อีกคนคือ “เด่น” ผู้ถูกให้ออกจากงาน เพราะไม่เอาการเอางาน แต่พาลไปโกรธ “หมาหิมะ” พยายามประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ก็ไร้ผล และอีกคนคือ “อาท” เด็กอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ แต่แล้วทุกคนก็ลืมเขาผู้เป็นเด็กอัจฉริยะ หันไปสนใจและกล่าวถึงแต่หมาหิมะ จนเขารู้สึกมั่นไส้จึงเขียนประกาศในห้องน้ำชายว่า เขาจะลักหมาหิมะมาให้ดู หนังก็เล่าถึงระบบรักษาความปลอดภัยหมาหิมะขั้นสูง พอๆกับระบบรักษาความปลอดภัยของภาพโมนาลิซ่า หรือเพชรพันล้าน  ภาพตอนผ่านเข้าไปทีละขั้น ดูไฮเทคดี แต่พอตัดมาที่ฉากบัญชาการภายใต้ระบบที่โคตรไฮเทคนั้น โลเทคสิ้นดี มีคอมพิวเตอร์เก่าๆ 4-5ตัว และเจ้าหน้าที่หน้าตาโบราณเหมือนข้าราชการแก่ที่ไม่ค่อยรู้จักคอมพิวเตอร์นั่งบัญชาการอยู่ สภาพห้องยิ่งหดหู่ ฉากที่แดกดันประชดประชันมากที่สุดคงเป็นฉากที่ผู้บัญชาการตำรวจกำลังนำทีมสืบหาหมาหิมะที่หายไป แต่แล้วนายตำรวจท่านหนึ่งก็เข้ามารายงานว่า จังหวัดหนึ่งของประเทศกำลังถูกยึดไปแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวด้วยเสียงมีอารมณ์ว่า “ประเทศเรามีหลายจังหวัด เสียไปจังหวัดเดียวก็เท่ากับเสียไปแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเสียหมาหิมะที่มีแค่ตัวเดียวในโลกเท่ากับเสียไป 100 ปอร์เซ็นต์ เท่านี้พวกคุณก็เรียงลำดับความสำคัญไม่ได้!!” แต่โดยรวมแล้วหนังก็สนุกดี ส่วนหนึ่งเพราะได้นักแสดงคุณภาพอย่าง บอย ปกรณ์  โก๊ะตี๋ มีฉากซึ้งๆระหว่างพ่อกับลูกให้ซึ่งได้เหมือนกัน แต่ที่ยังสงสัยจนหนังจบแล้วยังไม่หายสงสัยคือ พี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ในเรื่องเป็นใคร??? ดูจนจบแล้วหนังก็ไม่บอกว่าพี่แกเป็นใครมาจากไหน ไล่ยิงชาวบ้านอย่างเดียว พอถามก็บอกแค่ว่า เป็นหน้าที่ !! ยังบอกไม่ได้ว่า หนังของพี่อ็อฟเรื่องเป็นหนังแนวไหน สันนิษฐานว่าเป็นหนังตามใจผู้กำกับที่พยายามจะถ่ายทอดสังคมปัจจุบันในมุมมองของพี่แกเอง ตอนจบเป็นยังไง ไม่ขอบอก เผื่อบางคนอยากไปดู แต่ถ้าใครดูแล้วได้คำตอบว่าพี่อ็อฟเป็นใคร รบกวนช่วยมาบอกด้วยนะ อยากรู้จริงๆ

ชิงหมาเถิด พงษ์พัฒน์
ศรีษะนี้..มอบแด่พระเจ้าแผ่นดิน!! อ่านต่อ

ศรีษะนี้..มอบแด่พระเจ้าแผ่นดิน!!

เรื่องทั่วไป 16 May 2010

พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง พูดในงานนาฏราช..ฟังแล้วขนลุก ดาราหลายคนน้ำตาคลอ มีดาราไม่กี่คนที่กล้าแสดงออกทางความคิดในเรื่องการเมือง ด้วยพวกเขาอยู่ในอาชีพที่ต้องอาศัยแรงศรัทธาจากผู้ชม หากชัดเจนว่าอยู่ฝั่งหนึ่ง แฟนานุแฟนที่อยู่อีกฝั่งคงจะไม่ชอบ ดาราจึงออกมาพูดเรื่องการเมืองน้อย และถึงพูดก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่การพูดของพี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ในครั้งนี้ ได้ใจคนทั้งสองฝั่ง

พงษ์พัฒน์
อ่านต่อ

ใขหย่าว…เขาใหญ่ มีอะไรดี!!

สุขกะภาพ 25 November 200815 June 2019

ทริปเขาใหญ่ครั้งนี้ วางแผนกันคร่าวๆล่วงหน้าประมาณ ๑ เดือน เพื่อเตรียมพบกับการเที่ยวครั้งใหญ่ในปีใหม่ จึงต้องมีทริปเล็กๆเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อน ทริปนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านสารวัตรสาธิต ที่ให้พักบ้านพักตากอากาศส่วนตัวที่ปากช่อง เป็นที่พักที่สวยงาม สะดวกเพราะอยู่ใกล้ตลาด แต่อย่าพึ่งเข้าใจว่า อยู่ใกล้ตลาดแล้วบ้านพักจะไม่น่าอยู่นะครับ ด้านหลังเป็นคลองยาว มองไปไกลๆเห็นภูเขาเป็นทิวแถว ด้านหน้าบ้านเป็นตีนเขา อากาศดี ทำเลดีทีเดียว..ขอบคุณท่านสารวัตรอีกครั้งครับ ทริปครั้งนี้ ไปด้วยรถส่วนตัว ๒ คัน คันแรกโดยคุณหมอนักวิชาการ และสองสาว แกขับคัมรี่ ส่วนผมไปอีกคัน ด้วยฮอนด้น ซีวิค นั่งกันสบายๆสองคน โดยผมเป็นเนวิเกเตอร์ คอยกางแผนที่บอกทาง! ออกเดินทางเช้าวันศุกร์ ทานข้าวเช้ากันที่บางปะอิน ก่อนจึงแวะกันที่เขื่อนป่าสัก งานนี้ไม่ได้ถ่ายรูปดอกทานตะวันเลย (ขี้เกียจว่อกแวกข้างทาง) ไปถึงปากช่องเที่ยงพอดี เลยแวะทานข้าวเที่ยงกันที่ระเบียงน้ำ ร้านนี้น่าจะให้บริการในช่วงเย็นซะส่วนใหญ่ เพราะคนไม่มีเลย นอกจากนี้ อาหารแต่ละอย่างนานมากกกกกก กว่าจะได้ ขนาดกาแฟยังปาไปเกือบสามสิบนาที! หลังจากเอากระเป๋าและข้าวของเก็บยังบ้านพักแล้ว ..เย็นนี้เราจะไปดูบ้านดินของคุณหมอชลอกัน บ้านแกอยู่ไกลพอสมควร ถนนหนทางเข้าไปในลีบเขา ถนนบางช่วงยังเป็นลูกรังอยู่เลย สร้างความสั่นสะเทือนมากเวลานั่งรถ สภาพตัวบ้านเป็นดินครับ เป็นบ้านสองชั้น ระหว่างชั้นกั้นด้วยไม้ ทำแบบหยาบและดิบ ดูจากไม้ที่ปูเป็นไม้ที่ไม่ได้ขัดเกลา เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ เลยมีสภาพรกเล็กน้อย แต่สภาพรอบบ้านน่าอยู่ทีเดียว มองไปด้านหน้าก็มีเทือกเขา รอบๆประกอบด้วยต้นไม้นานาชนิด มะขาม ละมุด มะละกอ ฯลฯ จากนั้นเราก็กลับที่พักครับ ระหว่างก่อนจะเข้าที่พัก มีเรื่องให้เครียดกันเล็กน้อย เรากำลังหาห้างโลตัสเพื่อซื้อของเข้าไปทำอาหารกินกันเอง แต่ขับวนไปวนมาอยู่หลายรอบกว่าจะเจอ .. เล่นซะเกือบถอดใจเหมือนกัน ขอนำชมตัวบ้านพักซะหน่อย.. ขอแนะนำผู้ที่ดูแลบ้านแห่งนี้… เย็นวันนั้นกว่าจะได้ทานข้าวกันก็เกือบสามทุ่มครับ เมนูเด็ดคือ มาม่าผัด หมูปิ้ง และลูกชิ้นปิ้ง พอเช้า..เราก็ทำอาหารกันเองอีกครั้ง งานนี้ไม่ต้องกลัวอด เรานำแม่ครัวมาเอง.. เสร็จจากมื้อเช้า..วันนี้เราจะไปเที่ยวเขาใหญ่กันแล้วววว ขึ้นเขาใหญ่ครั้งนี้ เราไปด้วยคัมรี่คันเดียว เพื่อประหยัดน้ำมัน แวะไปทานส้มตำกันที่ น้ำตกเหวสุวัต ไม่อร่อยเท่าไรนักครับ..เพราะตรงนี้ไม่มีร้านอาหารให้เลือก เป็นเคสบังคับต้องร้านสวัสดิการเท่านั้น!! ถ้าจะให้เวิร์ก ซื้อไปจากข้างล่างดีกว่า ถูกและอร่อยกว่าด้วย ไปดูนกกัน.. เส้นทางต้องเดินไปครับ ระยะทางน่าจะกิโลกว่าๆ ลำพังเดินก็เหนื่อยจะแย่แล้ว ..นี่คนถ่ายรูปดันให้ผมโดดอีก..กว่าจะถ่ายได้ก็ปาไปหลายเทคเหมือนกัน เอาซะเหนื่อยยยยย หอบ หลังจากนั้น ลงจากเขาใหญ่แวะไปทานกาแฟที่……

เขาใหญ่

รู้เขา (แต่)ไม่รู้เรา

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 18 February 2011

Facebook, Twitter หรือระบบ Social Network ตัวอื่นๆที่อนุญาตให้ผู้ใช้โพสต์ข้อความลงบนพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้เรารู้จักตัวตนของคนอื่นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบัน สามารถโพสต์ข้อความได้แบบ Everything Everywhere คือโพสต์อะไรจากที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ เมื่อเกิดอารมณ์ ความรู้สึก โกรธ โมโห ดีใจ เสียใจ ตอนไหนยังไง ก็แสดงออกออนไลน์มาได้เลย ข้อดี คือ ถ้าเจอเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน หรือที่ไหนก็ตาม เราก็โพสต์แจ้งข่าวสารแด่เพื่อนฝูงและชาวโลกได้เลย ณ ขณะนั้น เพื่อนและชาวโลกก็สามารถรับรู้ข่าวสารได้ในทันที ข้อเสีย คือ ถ้าโมโห โกรธ หรือเจอเหตุการณ์ที่น่าสนใจเข้า ไม่ทันได้พิจารณาให้ดีก็รีบโพสต์แจ้งชาวโลก บางข้อความอาจกลายเป็นการด่า ประจาน หรือนำความลับของคนอื่นมาเผยแพร่ เมื่อไม่นานมานี้ พนักงานต้อนรับในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีน เห็นดาราเข้ามาเช็คอินเพื่อพักในโรงแรมที่ตนทำงานอยู่ จึงรีบทวิตเตอร์บอกเพื่อนตัวเอง จากข้อความทวิตเตอร์นั่นเอง ทำให้มีแฟนคลับแห่มาขอลายเซ็นต์ จนดาราคนนั้นที่ตั้งใจจะมาพักผ่อนเงียบๆ ไม่ได้รับความสุขตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ความรู้ถึงผู้บริหาร พนักงานที่ทวิตเตอร์คนนั้นจึงถูกให้ออกจากงาน ข้อความที่ถูกโพสต์ผ่าน Facebook หรือ Twitter ส่วนใหญ่ออกมาจากความรู้สึกและอารมณ์สดๆร้อนๆของผู้โพสต์ เมื่อก่อนถ้าเราไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจบางอย่างเข้า ก็ต้องกลับมาถึงบ้าน > เปิดคอมพิวเตอร์ > ต่ออินเทอร์เนต > เปิดเว็บไซต์ > ล็อกอิน > โพสต์ข้อความ จะเห็นว่ากระบวนการกว่าจะถึงขั้นตอนของการโพสต์ข้อความมีมาก จนทำให้อารมณ์ที่คุกรุ่นเบาบาง หรือแทบจะหายไปหมดแล้ว และการปะติดปะต่อเรียบเรียงเรื่องราวก็เริ่มเลือนลางจำไม่ค่อยไ้ด้ แต่ปัจจุบันขั้นตอนการโพสต์ข้อความจาก 5-6 ขั้นตอนลดเหลือขั้นตอนเดียว คือ โพสต์ได้เลยทันที!! ดีใจ== โพสต์ เสียใจ== โพสต์ โกรธ == โพสต์ด่า เมื่อกระบวนการโพสต์สั้นลง มันจึงไม่ผ่านกระบวนการคิด ข้อความทุกอย่างที่เราโพสต์ มันจะบอกตัวตนของเราทั้งหมด!! ผม Follow นักข่าวหลายคน เพื่อหวังติดตามข่าวสารแบบใกล้ชิด จึงทำให้พบว่า นักข่าวที่เราเห็นเขานั่งอ่านข่าวหน้าทีวีทุกวันนั้น เขาอ่านอย่างเดียวตามสคริปต์ที่มีคนเขียนให้อย่างสวยหรู เพราะข้อความที่เขาโพสต์เองบนทวิตเตอร์ พบว่ามันไม่เหมือนเขาในจอทีวี ในโลก พ.ศ. 2554 เราสามารถเรียนรู้อุปนิสัยใจคอคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ผ่านตัวหนังสือไม่กี่ตัว คำถามต่อไปก็คือ คุณอยากให้คนอื่นๆรู้จักคุณในแง่ไหน?…

facebook twitter
อ่านต่อ

นิทานเรื่อง “กรุ๊บเลือด”

เรื่องทั่วไป 31 January 201428 October 2015

เมื่อคืนนั่งดูรายการเจาะใจ รายละเอียดรายการจะไม่ขอพูดถึง แต่จะพูดถึงบางเสี้ยวที่เขาพูดไว้ในรายการ เขาพูดถึงคนกรุ๊ปเลือดอะไร ควรเน้นบริโภคอาหารประเภทใด และเพื่อให้จำได้ จึงมีเรื่องเล่าสั้นๆ ให้จำได้ง่าย ต่อไปนี้ เมื่่อนานมาแล้ว ในครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก คน คือ สัตว์จำพวกแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ในยุคนั้นมีแต่พืชผลไม้ คนกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ชื่อว่า กลุ่ม A จึงนิยมกินพืชผลไม้ พระเจ้าสร้างคนกลุ่มที่สองขึ้นมา โดยเรียกว่า กลุ่ม B กลุ่มนี้เริ่มรู้จักปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด และเลี้ยงสัตว์ จึงนิยมกินอาหารประเภทแป้งได้ คนกลุ่มต่อมา คือ กลุ่ม AB กลุ่มนี้มาทีหลังจึงกินได้ทุกอย่างที่กลุ่ม A และกลุ่ม B ปลูกหรือเลี้ยงไว้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนกรุ๊ปเลือด A ควรเน้นบริโภคพืชผลไม้ คนกรุ๊ปเลือด B ควรเน้นบริโภคอาหารประเภทแป้ง ข้าว คนกรุ๊ปเลือด AB บริโภคได้ทุกอย่าง    

อ่านต่อ

ตะลุยแก่งกระจาน

ท่องเที่ยว 12 December 201514 June 2019
เพชรบุรี แก่งกระจาน

นวดเพื่อสุขภาพ

เรื่องทั่วไป 16 June 2008

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพึ่งไปนวดมาครับ ! ในชีวิตพึ่งเคยไปนวดจริงๆจังๆ 2 ครั้ง นวดที่ว่านี่ คือ นวดแผนโบราณ นวดตัว บีบ เค้น ดึง กด นะครับ ไม่ใช่ อาบ อบ นวด (ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยเที่ยวอาบ อบ นวด เลย แม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้แถวที่พักอาศัยจะรายล้อมด้วยสถานดังกล่าวอย่างมากมายก็ตาม) ครั้งแรกที่ใช้บริการนวด ตอนนั้นเรียกว่านวดคลายเครียด ไปเจอแถวห้างเซนทรัล รัตนาธิเบศร์ ชม.ละ 80 บาท เป็นผู้หญิงนวด นวดคลายเครียดจะนวดแค่ไหล่ขึ้นไป คือจะไม่มายุ่งกับส่วนขา หรือเอวของเรา นั่งบนเก้าอี้กึ่งนั่งกึ่งนอน ให้ป้าแกนวดอย่างเมามัน ..หลังนวดเสร็จ ก็จะสบายตัวไม่ค่อยระบมมาก ครั้งล่าสุดที่ไปนวด จริงจังและตั้งใจมาก ข่าวว่าที่นี่นวดดี สบายตัว อยู่แถวกระทรวงสาธารณสุข เป็นของกระทรวงเองเลย ที่นี่สนนราคาที่ชม.ละ 200 บาท ไปถึงมีชุดให้เปลี่ยน ก่อนนวดผมละอ๊าย อาย คือ จะมีคนเอาน้ำอุ่นมาล้างเท้าให้เรา..คนที่ล้างนี่ก็รุ่นแม่ ทั้งอาย ทั้งเกรงใจ การนวดครั้งนี้เป็นการนวดเพื่อสุขภาพครับ จึงต้องจริงจังกันซะหน่อย มีเตียงให้นอน หมอนให้หนุน แอร์เย็นๆ เริ่มด้วยการไล่ลมจากส่วนต่ำสุดของร่างกาย นั่นคือเท้า นวด ดึง กด ตั้งแต่ปลายเท้ายันหน่อง ส่วนอื่นพอทนได้ เจ็บๆปนสบายๆ แต่ตรงหน่องนี่ ผมแทบเอาเท้ายันคนนวดหลายครั้ง ก็มันจี๋นี่นา..ส่วนที่เจ็บปวดที่สุด คือ ส่วนไหล่ รุนแรงและเจ็บปวด ส่วนสุดท้ายคือส่วนหัว คลึงหน้า คลึงหัวจนผมเคลิ้ม.. หลังนวดเสร็จมีระบบนิดหน่อย แต่เป็นอาการธรรมดาของอาการหลังการนวด..ก็สบายตัวดีครับ แต่ผมว่า การนวดน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุของคนที่ปวดเมื่อย จริงๆวิธีแก้ที่ได้ผลที่สุด และตรงจุดที่สุดคือการออกกำลังกาย แค่วิ่ง หรือว่ายน้ำทุกวันๆละ 1 ชม. หรือ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย ร่างกายก็แข็งแรง สุขภาพดี กล้ามเนื้อก็ไม่เกร็ง ก็จะไม่มีการปวด ไม่ต้องเสียเงินไปนวด หรือหาหมอให้ยุ่งยากใจ วิธีง่ายๆ แต่ทำกันยาก เข้าทำนอง…

อ่านต่อ

ปีศาจหลับ

บ่น, ไดอารี่ 22 April 201422 April 2014

หลายๆคนโดยเฉพาะเด็กหงส์ คงกำลังคิดสมน้ำหน้าทีมคู่แค้นอย่างแมนฯยู ที่ตกต่ำอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายสิบปี หลังจากเปลี่ยนมือกุนชือมาเป็นเดวิดมอยส์ สถานการณ์ทีมก็ย่ำแย่ลงตามลำดับอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือทีมที่ยิ่งใหญ่ทีี่สุดในเกาะอังกฤษ ทีมที่มีคนไทยเชียร์เยอะที่สุด เยอะพอๆกับคนไม่เชียร์ (แถมเกลียดเข้าไส้) ถ้ามองอย่างคนอื่นที่ไม่ใช่เด็กผีมอง ก็จะรู้สึกเหมือนที่คนทั่วไปรู้สึก “มอยส์มือไม่ถึง” มอยส์นะเหรอมือไม่ถึง.. ลืมไปแล้วเหรอว่า ก่อนมอยส์จะมาแมนฯยู เขาได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้ทีมเอฟเวอร์ตันเพียงไร เอฟเวอร์ตันเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เป็นทีมเด็กหนุ่มหน้าใหม่ หัวใจว้าวุ่น นักเตะไม่ค่อยมีชื่อเสียงเรียงนาม ค่าตัวราคาถูก ประเภทซื้อมาไม่กี่ตังค์แถมข้าวสารให้อีก 6 กระสอบ  ใครเล่าปลุกเด็กหนุ่มเหล่านั้นให้มีมูลค่า เสกได้ราวกับพ่อมดดับเบิ้ลดอร์แห่งฮอกวอดส์ เอฟเวอร์ตันเล่นดีเกินค่าตัว จนไต่ขึ้นอันดับต้นๆของตารางพรีเมียร์ชีพ ขนาดนักเตะก็อกแก๊กโนเนมขนาดนั้น กุนชือหัวใจเบียร์ช้างอย่างเดวิด มอยส์ ยังสามารถปลุกปั้นจนกระฉ่อนได้ นับประสาอะไรกับนักเตะแมนฯยู ที่ฝีเท้าระดับเทพอยู่แล้ว มอยส์จะทำไม่ได้!! ทำไมนะเหรอครับ? “อเล็กเฟอร์กูสัน” คือ เหตุผล. อเล็กเฟอร์กูสันที่คุมทีมแมนฯยูมา 27 ปี พาทีมประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งถ้วยน้อยใหญ่ สถิติทั้งหลายเฟอร์กูสันทำลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา.. ความยิ่งใหญ่ของอเล็กมากมายขนาดนั้น จะต้องถูกลืมหลังเปลี่ยนมือกุนชือแค่นั้นเหรอ? หากมอยส์รับไม้ต่อ แล้วสร้างความยิ่งใหญ่กว่า หรืออย่างน้อยเท่าของเฟอร์กูสัน ชื่อของเฟอร์กูสันจะถูกลืมในชั่วข้ามคืน มันเป็นการไม่ให้เกียรติ.. สำหรับผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าเกียรติยศ ทันทีที่มอยส์พาทีมแมนฯยูหกล้ม ทุกคนจะรำลึกถึงเฟอร์กูสัน มอยส์ยอมให้ทุกคน เกลียดตัวเองในปีแรกที่เข้ารับหน้าที่ก่อน เพื่อสดุดีความยิ่งใหญ่ของเฟอร์กูสัน ให้ภาพของเฟอร์กูสันยังประทับอยู่ในจิตใจของเหล่าสาวกอย่างแนบแน่นเสียก่อน และหลังจากปีแรกผ่านไป นั่นแหละคือตัวตนที่ีแท้จริงของมอยส์ ชายผู้ยอมอดเปรี้ยวเพื่อกินหวาน แมนฯยูไม่มีแชมป์ติดมือเพียงปีเดียว ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต  แต่นับจากฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป ..ปีศาจที่หลับใหลกำลังจะตื่นเพื่อทวงบัลลังก์!!    

อเล็กเฟอร์กูสัน เดวิดมอยส์ แมนฯยู
อ่านต่อ

Solo Camping | กางเต็นท์คนเดียว

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 30 January 202213 March 2022

เป็นครั้งแรกของผมสำหรับการออกเที่ยวคนเดียว และโดยเฉพาะการเที่ยวแบบแคมป์หรือกางเต็นท์นอน เป็นความอยากที่เก็บไว้มานานแล้ว เมื่อมีโอกาสจึงขอลองสักครั้ง และครั้งนี้ผมเลือกที่นี่ครับ Lakeview Cafe กาญจนบุรี หลังจากดูรีวิจากที่คนอื่นเขาเคยมาแล้ว ภาพภูเขาที่สะท้อนกับทะเลสาปเหมือนภาพวาดดึงดูดใจราวกับมีเสียงเรียกร้องให้ผมมาเยือนทุกค่ำคืน ในที่สุดผมก็มาตามคำเรียกร้อง และก็ไม่ผิดหวังเลย ภาพในหัวที่คิดกับสถานที่จริงไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีไม่กี่ครั้งที่ความคาดหวังจะกลายเป็นความผิดหวังเมื่อเจอของจริง ที่เป็นเช่นนั้น เพราะคนส่วนใหญ่นำเสนอแต่มุมที่สวยงามและถ่ายภาพเฉพาะมุมที่สวยที่สุดเท่านั้น แต่ที่นี่ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมรับรองได้ กับราคาค่ากางเต็นท์คืนละ 300 บาท มีจุดให้ต่อไฟ มีห้องน้ำแยกชายหญิง ผมว่าคุ้มค่ามากครับ ทริปนี้ผมใช้เต็นท์ขนาดเล็กที่พกพาง่ายและเบาอย่าง naturehike หลังจากทำอาหารเย็นอย่างง่ายๆ กินเสร็จแล้ว ก็นั่งชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน แม้จะเริ่มย่างเข้าฤดูร้อน แต่พอหลังตะวันตกดินอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ จนกระทั่งก่อนเข้านอนในเวลา 5 ทุ่ม ผมเช็คสภาพอากาศอยู่ที่ 18 องศา นอนหลับสบาย การได้ใช้ชีวิตคนเดียวแบบเงียบๆ ทำให้ใจผมสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รอบตัวได้ยินเพียงเสียงสรรพสัตว์ ไม่มีเสียงรถราและผู้คน ค่ำคืนนี้มีแต่เราผู้เดียว ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าช้าโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น ลองไปเที่ยวแบบนี้ดูสักครั้งนะครับ แล้วจะพบว่าตัวเราที่เรารู้จัก อาจไม่ใช่ตัวเราที่เราเป็นก็ได้.

Lakeview กาญจนบุรี

เขาใหญ่ผู้โดดเดี่ยว

สุขกะภาพ 8 November 200928 August 2019

วันนี้มาอัพเดทเรื่องเจ้าเขาใหญ่ (อ่านเรื่องเจ้าเขาใหญ่ ครั้งแรก และครั้งที่สอง) ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ แดดค่อนข้างแรง กอรปกับกอพลูด่างที่เป็นบ้านชั่วคราวของเจ้าเขาใหญ่ไม่ได้น้ำเลย ตั้งแต่มันมาอาศัยอยู่ ไม่รู้จะรดน้ำไปในหลืบไหนได้ เพราะแค่ใส่น้ำไปบ้านของมันก็จะเจิ่งด้วยน้ำทันที งานนี้ต้องยอมเสียพลูด่างเพื่อรักษาชีวิตเจ้าเขาใหญ่ มีข่าวไม่ดีสำหรับเขาใหญ่ นั่นคือ เขาเล็กผู้น้อง ไม่สามารถลืมตาดูโลกได้แน่ๆแล้ว มันกลายเป็นไข่เน่าตายอยู่ภายใต้เปลือกไข่บางๆนั่น สาเหตุน่าจะเกิดจากการที่ได้รับความอบอุ่นจากอกแม่ไม่เพียงพอ อย่างที่เคยเล่าไปแล้วว่า ถ้ามีไข่ตัวหนึ่งฟักออกมาแล้ว แต่อีกตัวยังอยู่ การดูแลของแม่นกก็จะลำบากมากขึ้น กล่าวคือ ต้องไปหาอาหารเพื่อลูกนกที่ออกมาแล้ว จึงไม่ได้กกไข่อีกต่อไป ส่งผลให้ไข่ใบนั้น ก็คือเจ้าเขาเล็ก ไม่ได้รับการดูแลอย่างเพียงพอ วันนี้ผมได้เอาไข่ออกมาจากรัง และได้ทำการตรวจพิสูจน์โดยละเอียดแล้ว มั่นใจว่ามันเสียชีวิตแล้ว (วิธีทำคือ เอาไข่มาเขย่าดู ถ้ามีเสียงขลุกขลักๆ แสดงว่ามันเป็นไข่เน่าแล้ว วิธีนี้ใช้ได้กับไข่ไก่) เนื่องจากแดดแรง ประกอบกับต้นพลูด่างที่เคยให้ร่มเงาก็เฉาตายเกือบจะหมด ผมเลยหากระดาษไปกั้นแดดให้ พอมีสิ่งแปลกปลอมมาในบ้าน แม่นกก็เกิดความระแวง ไม่กล้าเข้ามาดูแลลูก หรือเข้ามาก็แป๊บเดียว แล้วก็หายไปทั้งวัน สร้างความว้าเหว่โโดดเดี่ยวแก่เจ้าเขาใหญ่ยิ่ง ผมเลยต้องไปเล่นกับมันบ่อยๆ ไปหยิบมันออกจากบ้านโทรมๆนั่นบ้าง เจ้าเขาใหญ่โตกว่าเมื่อครั้งก่อนนั้นมาก คาดว่าอาทิตย์หน้า ถ้าแม่มันดูแลดีๆ น่าจะมีขนที่หนากว่านี้เยอะ น่าสงสารเจ้าเขาใหญ่อยู่เหมือนกัน ที่ต้องมาเสียน้องไปตั้งแต่ยังเล็กๆ เป็นโจทก์ครั้งสำคัญสำหรับแม่นกที่จะต้องดูแลลูกคนเดียวนี้ให้ดีที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้…ว่าแต่ว่า ตอนนี้แม่นกไปอยู่ไหนแล้วนะ ทิ้งลูกอยู่คนเดียวทั้งคืนเลยยย..เอ หรือมันไปพบรักใหม่น่ะ?

อ่านต่อ

กินเหล้าคนเดียว

บ่น, เรื่องทั่วไป 12 September 201721 December 2017

รสชาติแห่งเหล้า ถึงจะเป็นที่ลุ่มหลงหรือถึงขั้นคลั่งไคล้ของใครหลายๆคน แต่รสชาติแห่งบรรยากาศในวงเหล้ากลับน่ารื่นรมย์กว่ามาก

hackaton MRT รถไฟฟ้าสายสีม่วง
อ่านต่อ

เที่ยวท่อง..ล่องเหนือ – Day 2 ดอยอ่างขาง

ท่องเที่ยว 15 December 201721 December 2017

เริ่มวันที่สอง ออกจากลำพูนมุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง.. ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 ไปทางเชียงดาว ระหว่างทางเจอที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ ก็ไม่พลาดที่จะแวะชมบรรยากาศ จุดแรก ม่อนชมดอย ติดกับถนนเห็นเด่นเป็นตระหง่าน ผมแวะทานอาหารเช้าที่นี่ ขับรถตามทางไปสักระยะ เห็นป้ายบ่อน้ำร้อน..แวะสิครับ ออกจากบ่อน้ำร้อน ประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีน้ำตกศรีสังวาลย์ สามารถใช้ตั๋วใบเดียวกับบ่อน้ำร้อนได้ ..แวะสิครับ สถานีต่อไปมุ่งหน้าอ่างขาง ครับ อ่างขางขึ้นได้ 2 ทาง คือทางฝั่งเชียงดาว และฝั่งฝาง ถ้าว่าด้วยระยทางฝั่งอำเภอฝางระยะสั้นกว่า แต่ถ้าว่าด้วยความโหด ฝั่งเชียงดาวโหดน้อยกว่า ฝั่งฝางความชันระดับ 5 ดาว รถไม่แรงพอไม่แนะนำให้ขึ้นทางนี้ มีโอกาสรถจะหงายหลังตกลงมาได้ ทางกรมทางแนะนำให้ขึ้นทางเชียงดาว และผมก็เลือกเส้นทางนี้ ความชันระดับกลางน่าจะพอๆกับเส้นทางไปอำเภอปาย โค้งเยอะหน่อย แต่ขับสบายและวิวสวย เจ้าตาลตาลของผมเครื่องพันห้า แต่ตัวหนาและน้ำหนักมากทางชันนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มออกอาการเร่งไม่ขึ้น ต้องอาศัยเกียร์ s ใช้แบบเกียร์ธรรมดาวิ่งเกียร์ต่ำขึ้นไปได้สบายๆ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงอ่างขาง แดดร้อนหน่อย แต่อากาศเย็นดี ตกกลางคืนก็น่าจะหนาวพอสมควร คืนนี้นอนเต๊นท์แน่นอน เต๊นท์มีแล้วถอยมาใหม่ หาแต่ที่กางเต๊นท์ บนดอยอ่างขางมีจุดให้กางเต๊นท์ 2 จุด จุดแรกห่างจากสถานีเกษตร์ 1 กิโลเมตร จุดที่สองห่างจากสถานีเกษตร์ 5 กิโลเมตร ถ้าพูดถึงความสวยงามวิวดี จุดที่ห่าง 5 กิโลเมตรสวยกว่า แต่พูดถึงความสะดวกสบาย พื้นที่กว้างขวางกว่า ต้องมาอีกที่หนึ่งที่ห่าง 1 กิโลเมตร ผมเลือกจุดที่ใกล้สถานีเกษตรอ่างขางมากที่สุด เพื่อตอนเช้าจะได้แวะไปที่สถานีเกษตรได้ สถานีเกษตรอ่างข่างถือว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่ มีความสวยงามด้วยพรรณไม้นานาชนิดของโครงการหลวง มีอัตราค่าเข้าบริการคนละ 50 บาท ผมแวะมาที่นี่ทั้งช่วงบ่ายและช่วงเช้า ไหนๆก็มาแล้วต้องจัดให้สาสม ตอนบ่ายคนเยอะหน่อย ถ้าเป็นไปได้ควรไปแต่เช้าตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า จะเจอหมอก และอากาศที่เย็นสบายมาก วันนี้นอนดูดาวที่ดอยอ่างขาง..วันต่อไปมุ่งหน้า ดอยแม่สลอง

สถานีเกษตรดอยอ่างข่าง อ่างขาง

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH