Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ภูเขาทอง

อ่านต่อ

โดดเดี่ยว..เที่ยวภูเขาทอง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 9 November 200823 September 2016

ตั้งใจมาหลายวันแล้วว่าวันนี้ จะไปบริจาคเลือด !! นับเป็นครั้งที่  35 แล้ว ภูมิใจเล็กน้อย เมื่อกล่าวถึงจำนวนครั้ง บริจาคครั้งละ 400 ซีซี ถึงวันนี้ผมบริจาคเลือดไปแล้ว 14,000 ซีซี น่าจะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไม่น้อย แม้ไม่รู้ว่าใครได้เลือดผมไป แต่ทุกครั้งที่มีคนได้เลือดผม นั่นคือชีวิตของเขา และบุญของผม การให้โดยไม่หวังคืนเช่นการบริจาคเลือดนี้ เปรียบเหมือนแม่ที่ให้ทุกอย่างแก่ลูก โดยไม่หวังสิ่งใดๆจากลูกเลย เราไม่รู้เลยว่าใครได้เลือดเราไป เช่นเดียวกัน พ่อแม่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อลูกโตแล้ว จะให้อะไรแก่พ่อแม่บ้าง วกมาถึงการเดินทางไปบริจาคเลือดในวันนี้ การเดินทางต้องมีการวางแผนครับ เพื่อประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ผมจะไปโดยเรือ ขึ้นเรือที่ท่าเรือคลองตัน โผล่ที่ท่าเรืองอโศกเพชรบุรี แล้วขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี ไปโผล่ที่สามย่านฝั่งตรงข้ามกับวัดหัวลำโพง หรือฝั่งจามจุรีสแควที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เดินตรงขึ้นไปก็จะถึงสถานเสาวภาหรือสวนงู หลังสวนงู คือสภากาชาด คาดว่าใช้เวลาไม่น่าจะถึงชั่วโมง (ปกติไปรถเมล์สาย 113 ใช้เวลาชม.กว่า) หลังจากบริจาคเลือดตั้งใจจะไปเดินเล่นที่วัดสระเกศ หรือวัดภูเขาทอง เวลาบ่ายโมงสี่สิบห้านาทีผมไปนั่งรอเรือที่ท่าเรือ วันนี้เรือมาช้ากว่าปกติ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการครับ ผมขึ้นจากเรือโผล่ที่เพชรบุรีต่อรถไฟ มาโผล่ที่สามย่าน ตรงหน้าจามจุรีสแควนี่เอง มีเรื่องให้พิจารณานิดหนึ่ง ขณะผมเดินด้านหน้าห้างนั่นเอง มีรถซีวิคฮอนด้านสีบรอนด์ ไม่ทราบเลขทะเบียน เพราะไม่สนใจ จอดริมฟุตบาทด้านหน้าผมไม่ถึงสิบเมตร พอรถจอด ก็มีชายคนหนึ่งรีบลงจากรถพร้อมด้วยถือสิ่งหนึ่งมาด้วย วางลงข้างฟุตบาทหน้าห้าง แล้วรีบขึ้นรถออกไป เมื่อผมเพ่งมองที่วัตถุที่ชายนิรนามนำมาวาง ปรากฏว่าเป็นสิ่งมีชีวิตครับ เป็นลูกแมวสีเทาตัวเล็กๆ ท่าทางอ่อนแรง และงงๆ กับชะตาชีวิต ร้องเหมียวๆท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า ผมจำใจเดินผ่านไป โดยไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าแมวนั่น ขณะที่เจ้าของที่ทิ้งก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลเพราะรถติดอยุ่ ผมพยายามมองทะลุกระจกเข้าไปในรถ อยากจะดูว่าหน้าตาไอ้คนใจดำระยำห่านั่น หน้าตามันเป็นอย่างไร มากันกี่คน น่าเสียดายกระจกมืดดำ เลยอดเห็น ผมเองก็รู้สึกตัวเองผิดที่ไม่ได้ดูดำดูดีกับลูกแมวตัวนั้น ไม่ได้ทำอะไรที่ดีกว่านี้เลย ถึงสภากาชาดในเวลาบ่ายสองห้าสิบ วันเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตตฤกษ์ ที่นี่จะปิดให้บริการเร็วคือจะปิดในเวลา 15.30 น. ดังนั้น ผมมีเวลาไม่่มาก เวลาขนาดนี้คนจะไม่เยอะเท่าไรแล้ว ไม่เหมือนตอนเช้าที่คนเนืองแน่นจนหน้ามืด ใช้เวลาในการบริจาคไม่ถึงสามสิบนาทีครับ (บริจาคจริงๆแค่สิบนาที ที่เหลือคือการรอคิว คิวตรวจเลือด คิวบริจาค) ออกจากสภากาชาด ตามแผนอย่างต่อเนื่องเลยครับ จับรถแท็กซี่ไปวัดสระเกศในทันที ด้วยราคามิเตอร์ 70 บาท ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็ได้…

ภูเขาทอง
อ่านต่อ

กินปู กินหมึก ศึกษาธรรมชาติ..ที่หาดปราณบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 26 October 200923 September 2016

23 ตุลาคมปีนี้ นอกจากจะตรงกับวันที่รัฐบาลจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทที่หัวหินแล้ว ยังตรงกับวันศุกร์ นั่นหมายความว่า เราจะมีวันหยุดกันถึง 3 วันเลยทีเดียว (ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์) โอ้..เย หลังจากลากปากกา กากบาทบนปฏิทินในวันดังกล่าวไว้ว่า “เที่ยว” แล้ว  ก็เปิดเว็บไซต์หาข้อมูลที่เที่ยวทันที!! ได้รับความเห็นพ้องต้องการจากมวลสมาชิกนักเที่ยวว่า .. เราจะไปปราณบุรีกัน  หลังจากหาข้อมูลและจองที่พักผ่านเครือข่ายออนไลน์ เราก็ได้ที่พัก 2 คืน 2 ที่ด้วยกัน หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมต้อง 2 ที่ 2 วันด้วย ตอบแบบมีข้ออ้างก็คือ ที่พักที่เราต้องการและอุตส่าต่อราคาเขาเรียบร้อยแล้วนั้น มีที่ว่างให้เราแค่คืนเดียว เราต้องเอาด้วยเกรงใจตามมารยาทอันดีงามของคนไทย  และหาที่พักเพิ่มอีกหนึ่งที่ สำหรับอีกหนึ่งคืน ถ้าให้ตอบตามใจผม นั่นคือ ทำไมเราต้องพักในที่เดียวกันตั้ง 2 คืนละ ในเมื่อราคาก็เท่ากัน ไม่ลองไปเสพกลิ่น เสพอาหาร เสพบรรยากาศในบ้านอื่นบ้าง เวลาเรามีแค่ 2 วัน จะมามัวอยู่กับความรู้สึกเดิมๆทำไม จริงม๊ะ? ทริปนี้ผมแทบไม่ได้ถ่ายภาพภายในรีสอร์ทเลย ไม่อยากให้บล็อกเล็กๆแห่งนี้เป็นพื้นที่โฆษณาให้รีสอร์ทเขาสักเท่าไร แต่ก็จะเล่าและบอกข้อดีขอเสียของแต่ละที่ให้ฟังละกันนะ เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาที่จะไปอยู่ คืนแรก เราได้ที่พักที่ กาลาโมน่า รีสอร์ท มีทางเข้าได้ 2 ทาง แต่ผมจำไม่ได้ว่า ทางไหนดี และทางไหนแย่ มันมีอยู่เส้นหนึ่ง(ที่ต้องไปเสี่ยงเอาเอง) ทางค่อนข้างแย่อยู่ประมาณ 500 เมตร นั่งไปกระเทือนไป เป็นหลุมเป็นบ่อพอสมควร กาลาโมน่า เป็นรีสอร์ทที่อยู่ห่างจากคนอื่นพอสมควร ใครที่ต้องการบรรยากาศของความเงียบสงบ ติดชายหาด ก็ต้องที่นี่เลย กลางบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ลึกแค่คอของคนสูง 167 ซม. ข้อดีคือ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ส่วนข้อเสียคือ บ้านหลังที่ติดกัน (โดยเฉพาะหลังที่ผมพัก) มีฝาบ้านค่อนข้างบาง หรือเพราะอะไรยังไงก็ไม่รู้นะ ทำให้ได้ยินเสียงของห้องข้างๆชัด ห้องข้างๆจะเข้าห้องน้ำ เปิดประตู หรือคุยกัน ยังได้ยินเลย.. (แบบนี้ จะขัดแย้งกับข้อดีที่ว่า สงบ…

ปราณบุรี

สติมา อย่าประมาท

เรื่องทั่วไป 27 June 2008

To love and to be loved is the greatest happiness of existence. การรักและมีคนรักคือความสุขทิ่ยิ่งใหญ่ของการมีชีวิตอยู่. พูดถึงความสุข แต่ละคนก็มีความสุขแตกต่างกัน สุขมากสุขน้อย แตกต่างกันไป เมื่อไรที่มีความสุข ความทุกข์ก็รอโอกาสจะเข้ามาแทนทีอยู่ร่ำไป เหมือนกับมีกลางวัน ก็มีกลางคืน มีมืดก็มีสว่าง มีร้อนก็มีเย็น ฯลฯ  ไม่ค่อยจะมีความพอดีแบบ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เลย มีแต่สุขนิดหน่อย ทุกข์นิดหนึ่ง แต่หลายคนบอกว่าความสุขนะไม่มีหรอก มีแต่ความทุกข์มาก กับความทุกข์น้อยเท่านั้นแหละ ตรงที่มีความทุกข์น้อยนี่เอง บางคนเรียกว่า “ความสุข” แต่จะสุขหรือทุกข์ ก็ไม่สำคัญเท่า ความอยู่อย่างรู้ตัว ที่พระท่านเรียกว่า สติ การมีชีวีตอยู่อย่างมีสติรู้เท่าทันความคิดทุกขณะ ทุกอิริยาบถ เป็นการมีชีวิตอยู่ที่ประเสริฐ ธรรมะอีกข้อหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน นั่นคือ ความประมาท  อยากให้ดูรูปด้านล่างนี้ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนะครับ พระท่านว่า ความประมาท เป็นหนทางแห่งความตาย ภาพนี้อธิบายได้ชัดเจนทีเดียว ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาทกันนะครับ.   ป.ล. เดี๋ยวนี้จะเขียนอะไรสักที ทำไมมันฝืดนักนะ ~ ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขียนได้เป็นคุ้งเป็นแคว 🙁

อ่านต่อ

ทริปลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ (ตอนที่ ๒)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 16 February 201616 February 2016
พระธาตุหริภุญชัย ลำพูน
อ่านต่อ

Oh my ghost

ไดอารี่ 10 October 20163 November 2017

หลังจากโบกลาละครไทยอย่างไม่ใยดี ผมหันมาดูซีรีย์ต่างประเทศอย่าง Walking dead, CSI , NCIS  etc. แต่บางครั้งซีรีย์แนวสืบสวนฆาตกรรมของต่างประเทศ ดูบ่อยๆเข้าก็จำเจและเริ่มจะจำทางได้ ผมจึงหันมาทางซีรีย์เกาหลีบ้าง หลายคนเตือนว่าอย่าดู ..เพราะจะติด! เหี้ย! ซีรีย์เกาหลีนะไม่เว้ย ไม่ใช่บุหรี่ จะติดกันง่ายๆได้ยังไง โดยพื้นฐานผมเป็นคนชอบดูละครมาก โดยเฉพาะละครไทย ผมดูตามแม่พี่ป้าน้าอาที่พาดูตั้งแต่เด็กๆ แต่เชื่อเถอะครับ ละครไทยที่ผมเคยดูเมื่อตอนเด็กๆ กับละครไทยในปัจจุบันยุคที่อวดอ้างว่าล้ำหนักหนา ยุคโซเชี่ยล ยุคดิจิตอล ยุคห่าเหวอะไรนั่น .. ละครไทยยังคงมีบทเดิมๆ เนื้อเรื่องเดิมๆ พล็อตเดิมๆ ตัวอิจฉาตบตีแย่งพระเอก อีตัวอิจฉาต้องแต่งตัวแร่ดๆ ยั่วๆ ทำหน้าทำตาแบบอิจฉ๊า อิจฉา นี่แค่พูดถึงตัวอิจฉานะ อย่าให้ต้องพูดถึงนางเอกพระเอก หรือแม้แต่คนทำสวน คนขับรถ ฯลฯ ไม่อยากจะพูด ละครไทย! กลับมาที่ซีรีย์เกาหลีดีกว่า ผมเลือกดูเรื่อง Oh my ghost ดูน่าจะเป็นซีรีย์แนวผี ตลกๆ .. ดูได้ 3 ตอนติดครับ ติดงอมแงมเลยจริงๆ มีผลทำให้ซีรีย์เกาหลีเรื่องอื่นๆ มึงโดนกูเสพแน่ เรื่อง Oh my ghost ดูแรกๆเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นซีรีย์เบาสมองสบายๆ แต่สไตล์เกาหลีครับ ทำซีรีย์ทั้งทีจะให้ง่ายๆ เดาทางถูกนั้นมันง่ายไป ตอนแรกๆดูเบาๆ สบายๆ แต่พอถึงกลางเรื่องจนจบจะเข้มข้นจนไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว Oh my ghost เป็นเรื่องราวของผีตนหนึ่งที่ตายแล้วยังไปเกิดไม่ได้ เพราะมีเรื่องที่เป็นบ่วงติดไว้ในโลกมนุษย์ จึงเป็นผีร่อนเร่สิงคนโน้นทีคนนี้ที จนกระทั่งมาเจอกับนางเอก (นางเอกในเรื่องนี้ชื่ออะไรไม่รู้ ..แต่น่ารักมากครับ ทั้งหน้าตา น้ำเสียงและบุคลิก) นางเอกมีความสามารถพิเศษตั้งแต่เด็กคือสามารถเห็นผีได้ และโดยที่เป็นคนเห็นผีนี่เอง จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีเพื่อน และขาดความมั่นใจ ร่างกายอ่อนแอ พอมาเจอกับผีเร่ร่อนจึงถูกผีสิงโดยง่าย นางเอกทำงานในร้านอาหารของพระเอก ..นางเอกถูกผีสิง ก่อนถูกผีสิงนางเอกก็แอบรักพระเอกซึ่งเป็นเชฟสุดหล่ออยู่แล้ว พอผีมาเจอพระเอกได้รับความรู้สึกดีๆจากพระเอก ก็เกิดหลงรักพระเอกเข้าไปอีก จึงเกิดรักสามเส้า ระหว่างคนและผี เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆครับ เมื่อผีเร่ร่อนที่เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ..การสืบสวนหาสาเหตุการตายก็เริ่มขึ้น … ผมเล่าไว้แค่นี้ละกัน เผื่อใครผ่านมาอ่านจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกสปอยล์ บอกได้เลยว่า…

oh my ghost เกาหลี
อ่านต่อ

ทริป-เที่ยงท่อง-ล่องแพ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 12 February 201415 June 2019

พูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียงแค่ 128 กิโลเมตร (ระยะจากกรุงเทพถึงเขตจังหวัดกาญจนบุรี) แต่บรรยากาศและสถานที่เที่ยวของจังหวัดนี้มีเยอะครับ และถ้าพูดถึงกาญจน์ หลายคนก็จะคิดถึงเขื่อน แพ และน้ำตก ..ทริปนี้เราไปเขื่อนครับ ได้ที่พักที่ อนันตาริเวอร์ฮิลส์รีสอร์ท ซึ่งที่พักมีทั้งแบบแพ แบบห้องพัก และกางเต๊นท์ เราไปครั้งนี้ได้ทั้งแบบห้องแพ ห้องพักบนสันเขื่อน และกางเต๊นท์ครับ กลางวันอาจจะร้อนไปหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าพอตะวันตกดินเท่านั้นละครับ..ความหนาวเย็นเริ่มมาเยือนทันที จุดแข็งของที่นี่นอกจากมีเครื่องเล่นในน้ำแล้ว อาหารรสชาตถือว่าเด็ดครับ ถ้าไปเป็นหมู่คณะที่นี่ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี .. เล่นน้ำเหนื่อยๆ ขึ้นมาแล้วได้ทานข้าวอร่อยๆ ..แค่นี้ก็มีความสุขละครับ 🙂

อนันตาริเวอร์ฮิลส์รีสอร์ท เที่ยวกาญจนบุรี
อ่านต่อ

กินเหล้าคนเดียว

บ่น, เรื่องทั่วไป 12 September 201721 December 2017

รสชาติแห่งเหล้า ถึงจะเป็นที่ลุ่มหลงหรือถึงขั้นคลั่งไคล้ของใครหลายๆคน แต่รสชาติแห่งบรรยากาศในวงเหล้ากลับน่ารื่นรมย์กว่ามาก

hackaton MRT รถไฟฟ้าสายสีม่วง

ตรุษเลนไทน์

บ้านบ้าน, ไดอารี่ 15 February 2010

วันอาทิตย์อันเป็นวันตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ ผมมีนัดต้องไปทำสัญญาซื้อบ้านกับพฤกษาทาวน์ !! ทางเซลล์โดยคุณปรีชา นำเอกสารสำหรับกู้ธนาคารมาให้ 4- 5 ธนาคาร งานนี้กรอกเอกสารกันมือหงิก หงิกจริงๆ ..ธนาคารที่เสนอกู้ มีธอส. , ไทยพาณิชย์ , ออมสิน และ นครหลวงไทย แต่ละธนาคารมีรายละเอียดที่ต้องกรอกไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะให้กรอกมาก  ต้องขอเอกสารนำมากรอกรายละเอียดที่บ้านกันเลยทีเดียว ก่อนจะกรอกเอกสารขนาดมหึมา และเซ็นต์กำกับเอกสารต่างๆนานาๆ ขอหาอะไรรองท้องก่อน แวะร้านไก่ตระกร้า สั่งๆ ๆๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา พอทุกอย่างมาครบบนโต๊ะ..โอ๊ะแม่จ๋า นี่จะกินกันแค่ 2 คนจริงๆเหรอ!!! จากมื้อเที่ยงอันหฤโหด ดิ่งมานั่งกรอก และเซ็นต์เอกสารจนพลบค่ำ นำเอกสารไปยังโครงการพฤกษาทาวน์ วันนี้เสียค่าทำสัญญาไป 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) จากนี้อีก 7 วัน รอฟังข่าวจากเซลล์ว่าธนาคารไหน จะให้กู้เท่าไร ให้กี่เปอร์เซ็นต์ ทำธุรกรรมเกี่ยวกับบ้านเสร็จ วันนี้มีนัดทานข้าวเย็น กับชมรม คน น. หนู อันประกอบด้วย นัท น้อง นงค์ น้อย(แม่นัท) นกและผม  เป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่าง ทานกันจนพุงกาง หน้ามัน จนร้านปิด ห้างปิด ..  สรุปว่าวันนี้ ทานหนักทั้งมื้อเที่ยงและมื้อค่ำ ออกกำลังกายทั้งอาทิตย์ น้ำหนักหายไป 2 โล ตรุษจีนวันเดียวโผล่มาอีก 5 ..เฮ้อ

สายใย..บางบาง

ไดอารี่ 20 September 2010

โลกเดี๋ยวนี้เราเชื่อมทุกอย่างเข้าใกล้กันมากขึ้น มากขึ้น และง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่กลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เสียแล้วของ ‘สยามมนุษย์’ นั่นคือ “โทรศัพท์มือถือ” เดี๋ยวนี้มันไม่ได้เป็นแค่โทรศัพท์สำหรับติดต่อกันอย่างเดียว ไม่ว่าจะติดต่อด้วยเสียง ข้อความ รูปภาพ หรือเดี๋ยวนี้กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกสามจี สามารถติดต่อกันด้วยภาพเคลื่อนไหวสดๆได้ โทรศัพท์มือถือกลายสภาพเป็นเครื่องประดับชิ้นเอก เป็นเครื่องวัดมาตรฐานของคนได้ในระดับหนึ่ง หากเมื่อไรที่หนุ่มหรือสาวนางไหน ควักไอโฟนหรือบีบีขึ้นเซย์ฮัลโหล สถานภาพทางสังคมดูดีขึ้นทันที ได้รับการต้อนและไมตรีจากผู้อื่นได้ง่ายขึ้น ชายหนุ่มที่ริจะขอเบอร์สาวๆ หากเดินปรี่ไปหาแล้วหยิบโทรศัพท์ไอโฟนหรือบีบี เพื่อบันทึกเบอร์สาวเจ้า เปอร์เซ็นต์ที่จะได้เบอร์ย่อมมีสูงกว่าพวกที่หยิบโทรศัพท์โนเนมหน้าจอสีขาวดำขึ้นมาบันทึกอย่างแน่นอน โทรศัพท์รุ่นใหม่ๆออกมา นอกจากเน้นประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ดีไซน์ต้องสวยเลิศ เมื่อหยิบขึ้นมาโทรในที่สาธารณะแล้ว ทุกคนต้องมองแล้วร้องวู้ววว..ว  รับโทรศัพท์ได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่ต้องแอบๆซ่อนๆใครเพียงเพื่อจะรับโทรศัพท์รุ่นกระติกน้ำโบร่ำโบราณ!! บริการต่างๆที่แฝงมาในโทรศัพท์สามารถดูดเงินในกระเป๋าผู้ใช้ได้อย่างสบายมือ โทรศัพท์ที่ว่าแพงแล้ว บริการต่างๆรายวัน รายเดือน หรือรายปีแพงกว่าอีก!! แน่นอนโทรศัพท์มือถือ ใช้ง่าย สะดวกสบาย คิดถึงใคร ติดต่องานไหน หรือไม่คิดถึง ไม่ได้ติดต่องาน อยากคุยกับเพื่อนที่อยู่ชั้น 2 (ตัวเองนั่งอยู่ชั้น 1) ก็กดโทรคุยได้ง่ายๆ คุยง่าย จ่ายหน้ามืด!! ยิ่งใช้ง่าย สะดวกสบายเพียงไร เงินก็หลุดหายไปได้ง่ายเช่นกัน อย่าลืมว่า..คำพูดทุกคำของเราที่พูดผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นคำพูดมีค่าทั้งสิ้น แม้เรื่องที่พูดอาจจะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าพูดผ่านโทรศัพท์..เรื่องไร้สาระจะมีมูลค่าขึ้นมาทันที!! ยิ่งเดี๋ยวนี้มีบริการ เสียงเพลงรอสาย เปลี่ยนเพลงได้ทุกชั่วโมง, เล่นอินเทอร์เนต เฟสบุค ทวิตเตอร์ผ่านมือถือ , ดูดวง, เล่นเกมส์ , จองตั๋วหนัง, จองตั๋วเครื่องบิน, จองศาล จองโลง!!! ฯลฯ บริการเยอะดีจังนะครับ แต่ทุกบริการมีค่าบริการทั้งนั้น และแพงเสียด้วย!! บริการทั้งหลายทั้งปวงที่มีมาในมือถือใช่ว่า ผมจะบอกว่าไม่ดี ดีครับ ดีมาก ..แต่ไม่ใช่จะดีกับทุกคน แล้วดีสำหรับใคร? ดีสำหรับทุกคนที่มีธุระใช้มันจริงๆ ไม่ใช้พร่ำเพรื่อในเรื่องไร้สาระ ถ้าอยากจะไร้สาระหรือบันเทิง ก็ต้องไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านแทน ประหยัดกว่า อินเทอร์เนตผ่านมือถือ มันสะดวกง่าย ค่าบริการก็จึงแพงตามมาด้วยนะ พูดเรื่องโทรศัพท์มาเยอะแยะมากมาย เข้าสู่เรื่องตัวเองซักที ผมใช้โทรศัพท์ถูกๆมาหลายปีแล้วครับ ถูกที่ว่านี่คือถูกจริงๆ เพราะได้มาฟรี ใช้รับสาย โทรออก รับข้อความ และฟังเพลงได้เท่านั้น และผมก็ใช้เท่านั้น ค่าโทรศัพท์รายเดือนไม่เคยเกิน 200 บาท!! ในโทรศัพท์มีเบอร์แม่…

เทคโนโลยี โทรศัพท์

เมื่อเสือสิ้นลาย

เรื่องทั่วไป 8 December 2009

หลังจากข่าวไทเกอร์วูดเตียงหัก ตามมาด้วยประดาหญิงทั้งหลายกว่า 10 คนออกมาแฉว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับไทเกอร์ กาละแมร์หญิงตัวดำปากกล้าด่าผู้ชายจนได้ดีรีบทวีตบอกประดา followers ของตนว่า “ผู้ชายไม่ว่าใครมีเรื่องที่ทำให้ตกม้าตายอยู่แค่ 3 เรื่อง : เงิน อำนาจ และผู้หญิง !!!” ผมรีบตอบกลับในทันที “แต่ผู้หญิงมักตกม้าตายด้วย 2 เรื่อง”  ผมไม่ได้ระบุไปว่า  2 เรื่องคืออะไรบ้าง แต่ก็คงพอเดาๆกันได้ เรื่องผัวๆเมียๆ รักๆเลิกๆนี่ เป็นที่ชอบอกชอบใจกันนัก ไม่ว่าจะชาติไทยหรือชาติไหน จะเห็นว่าข่าวดาราได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทย จากการจัดอันดับ(ของสถาบันใดไม่ได้เปิดเผย)  การที่คนชอบข่าวดารา เพราะติต่างว่าตัวเองรู้จักดาราคนโน้นคนนี้ดี ถามว่ารู้จักจากไหน รู้จักจากทีวี !!! รู้จักแค่นั้น ไปสรุปเขาได้เหรอ ว่าเขาดีหรือไม่ดี? ไทเกอร์วู้ด นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมาเป็นข่าวเพราะประสบอุบัติเหตุขับรถคาดิแล็ค SUVชนหัวท่อดับเพลิง หลังจากทะเลาะกับภรรยาเรื่องที่เขาแอบไปนอกใจ และหลังจากเป็นข่าวก็มีประดาหญิงสาวกว่า 10 นางออกมาแฉกันอย่างออกรสว่ามีความสัมพันธ์กับวู้ดส์อย่างลึกซึ้งทั้งนั้น (อยากรู้ว่า ทั้ง 10นางนั้น มีหน้าตาอย่างไรบ้าง คลิกที่นี่จ๊ะ) รวมรายชื่อกิ๊ก 10 คนของไทเกอร์  วูดส์ 1. ราเชลล์  อูชิเทลล์ คลับโปรโมเตอร์สาวจากลาสเวกัสและนิวยอร์ค 2. จาไมอี  กรับบ์ สาวเสริฟจาก VH1 academy 3. คาลิคา  โมควิน สาวเสริฟจากลาสเวกัส ไนท์คลับเอ็กคลูซีฟ 4. แจมมี  จังเกอร์ สาวเสริฟจากลาสเวกัส 5. มินดี  ลอว์ตัน สาวเสริฟจากออร์ลันโด 6. โคลี่  ลิสต์ นางแบบจากNYC 7. ฮอลลี่  แซมสัน เอมมานูเอล ดาราภาพยนตร์วาบหวิว 8.-10. ไม่เปิดเผยชื่อ ท่าทางเจ้าสือดำวู้ด ชื่นชอบหญิงสาวที่มีอาชีพเป็นพนักงานเสริฟเป็นพิเศษ เพราะ 4 ใน 10 คนของวู้ดนั้น มีอาชีพเป็นสาวเสริฟ นี่ถ้าวู้ดมาตีกอล์ฟที่เมืองไทยสัก 1-2 เดือน ผมว่าคงมีรายชื่อพนักงานเสริฟจากร้านลาบยโสพ่วงท้ายไปด้วยแน่ๆ ข่าวว่าตอนนี้ภรรยาสุดเลิฟของวู้ดได้ขนของออกจากคฤหาสน์วินเดอร์แมร์ ที่มีมูลค่า 91 ล้านบาทแล้ว…

ไทเกอร์วูด

เลือดชาวนา

เรื่องทั่วไป 5 March 2010

หลังจากเปิดหมวดหมู่ใหม่ ก็เลยอัดแต่เรื่องในหมวดหมู่ใหม่ไปเยอะ..วันนี้มาเข้าเรื่องที่อยู่ในหัวตามเดิมบ้าง หลายอย่างเกิดขึ้นและดับไปในหัว บางอย่างดับไปแล้วแต่ยังมั่นอยู่ในสัญญา คือยังจำได้อยู่ แต่บางอย่างได้หายไปแล้วกับกาลเวลา ไอเดีย หรือแรงบันดาลใจเกิดขึ้นในใจผมหลายครั้งมาก แต่น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถรักษาพวกเขาให้อยู่กับเราตลอดไป .. แต่มันต้องมีวิธีสิ ต้องมีวิธีที่จะรักษาไอเดียและแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นในใจ ณ เวลานั้นๆ ให้อยู่กับเราตลอดไป เพื่อใช้เป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องตามครรลอง อังคารที่ผ่านมา มีความรู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพบรรพบุรุษของผมเกิดขึ้น ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่ามันเกิดขึ้นน้อย และหลังๆแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยกับอาชีพนี้ นั่นคือ อาชีพชาวนา !! ชาวนาผู้น่าสงสาร ทำงานหนักทั้งปี แต่มีหนี้ท่วมตัว ฝนไม่ตกข้าวก็พัง ฝนตกมากข้าวก็เน่า มีลูกสาวลูกชาว ประดาลูกๆ ก็ไม่อยากเป็นชาวนา ไม่มีความภาคภูมิใจในอาชีพบรรบุรุษนี้แล้ว อยากเรียนต่อ เรียนสูงๆ ..ชาวนาผู้น่าสงสาร จะเอาเงินที่ไหนส่งลูกเรียน ในเมื่อข้าวราคาแสนถูก ผลิตผลแต่ละปีก็ย่ำแย่ ไม่น้ำแห้ง ก็น้ำท่วม แต่สุดท้ายด้วยความรักลูก ก็ต้องยอมสละสมบัติชิ้นสุดท้ายอันเป็นที่ทำงานมาทั้งชีวิต นั่นคือ ที่นา !! ชาวนาผุ้น่าสงสารทำนาเหมือนเดิม แตกต่างแต่ว่า นานั้นไม่ใ่ช่ของตนอีกต่อไป ความหวังสุดท้ายอยู่ที่ลูกชายลูกสาวที่ส่งเสียไปร่ำเรียนถึงในกรุง ชาวนาผู้น่าสงสารยังมีสัตว์เลี้ยงที่น่าสงสารยิ่งกว่าอีก นั่นคือ ควาย  ~ โง่เหมือนควาย ไอ้ควาย!! คนฉลาดในเมืองหลวงคอยตักตวงเอาผลประโยชน์จากชาวนาผุ้น่าสงสารที่พลัดหลงเข้ามาในเมืองหลวง กดขี่ข่มเหง คนที่ทนต่อสภาพกดดันนั้นได้ กลายเป็นอดีตชาวนาผู้มีประสบการณ์ทางมิจฉาชีพในเมืองหลวงสูง เขาผันตัวเองเป็นผู้ตักตวงผลประโยชน์ หลอกลวงคนอื่นบ้าง นั่นคือ ผลผลิตจากอดีตที่เจ็บปวดของเขา ชาวนาผู้น่าสงสารที่ไม่เข้าในเมืองหลวง ก็กลับถูกผู้อยู่ในเมืองดั้นด้นไปจนถึงชายทุ่ง หลอกลวงขอซื้อที่ด้วยราคาที่แทบจะถูกกว่าล้อรถยนต์ ความภาคภูมิใจในอาชีพชาวนาเมื่อในอดีตสูญสิ้น เมื่อกล่าวถึงอาชีพนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า “จน” และค่อนข้าง “โง่” จนเมื่ออังคารที่ผ่านมา ผมดูรายการคนค้นฅน ตอน  ตุ๊หล่าง เลือดชาวนา ความภาคภูมิใจในอดีตค่อนก่อตัวขึ้นใหม่ ตุ๊หล่าง เป็นผู้ที่ไม่หยุดคิดในการพัฒนาตนเองและวิชาชีพชาวนาเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง อาชีพชาวนาเป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่ในความคิดของตุ๊หล่าง และเขาทำให้ทุกคนรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ตุ๊หล่างทำให้ทุกคนรู้ว่า ชาวนา ไม่ใช่อาชีพที่ยากจนหรือถึงจนก็จนแค่ภายนอก แต่ภายในใจนั้นเปี่ยมสุขอย่างล้นเหลือ ชาวนาอย่างตุ๊หล่างมิได้ทำแค่นา แต่ได้ทำหน้าที่ของนักอนุรักษ์ อนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้สารพิษเพื่อฆ่าแมลงในนา แต่เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาเพื่อให้ช่วยฆ่าแมลงแทน ให้ธรรมชาติปรับธรรมชาติอย่างสมดุล โดยมนุษย์เป็นแค่ผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด  ตุ๊หล่างบอกว่า รู้สึกตัวเองด้อยพัฒนาลงทันที หากปีไหนไม่ได้ทำนา ทุกปีที่ลงมือทำนา นั่นหมายถึงการได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ตุ๊หล่างเลี้ยงข้าวด้วยความรัก…

คนค้นฅน ชาวนา

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH