Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

มนญา

อ่านต่อ

หมาแก่และดอกทิวลิปเดี่ยวดาย บทที่ 3

เรื่องสั้นสั้น 27 November 202227 November 2022

เคยคิดไหมว่าชีวิตเราที่ดำเนินมาจนถึงวันนี้ เพราะมีพระเจ้าคอยกำหนดไว้ หรือมันแค่ดำเนินไปตามเหตุปัจจัยที่ควรจะเป็น?

ทิวลิป มนญา หมาแก่
อ่านต่อ

เขาใหญ่..รีเทิร์น

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 February 20099 November 2017

ครั้งนี้ไปแบบกางเต๊นท์ มวลสมาชิกที่ร่วมทริปด้วย เป็นเพื่อนที่ทำงานที่ลงขันกันคนละ 1,500 บาท ได้รถตู้ขนาดใหญ่ใหม่ป้ายแดง Toyota Commuter  เมื่อคนพร้อม รถพร้อม อุปกรณ์ (เต๊นท์, เตา, อาหารแห้ง/อาหารเปียก)พร้อม..เวลาก็พร้อม ออกเดินทางกันเล้ย

เขาใหญ่

อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ

เรื่องทั่วไป 9 May 2009

วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของพวกเราชาวพุทธอย่างยิ่ง ด้วยว่าเป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธองค์ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน. บางทีก็มีน้อยใจคนไทยนิดหน่อย ตรงที่ว่าไม่ค่อยจำได้เลยว่าวันวิสาขนี้มีความสำคัญอย่างไร ที่ยิ่งไปกว่านั้นบางคนจำไม่ค่อยได้เลยว่าวันนี้ของทุกปีตรงกับวันไหน..ทีวันวาเลนไทน์ละจำแม๊น แม่น ความสำคัญของวันนี้ที่เราๆชาวพุทธควรยึดถือปฏิบัติ คือ การบำเพ็ญทาน ศีล และภาวนา อันเป็นหัวใจของพุทธศาสนิกชน การแค่จำได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร ยังไม่พอ ต้องปฏิบัติและยึดมั่นในคำสอนด้วย ถึงจะได้ชื่อว่าพุทธศาสนิกตัวจริง..   เมื่อคืนไปเวียนเทียนที่วัดชลประทานฯ จ.นนทบุรี มาครับ วัดที่หลวงพ่อปัญญานันทะ ท่านอยู่นะครับ คนเยอะมาก เลยต้องยืนฟังเทศน์ด้านนอกพระอุโบสถ  เห็นคนมาเวียนเทียนแล้วก็ชื่นใจ มีตั้งแต่เด็กเล็กๆ คนหนุ่มสาว คนวัยกลางคน คนแก่ จนกระทั่งคนพิการเดินไม่ได้ คนพิการแขนขาดทั้งสองข้างก็ยังมา เห็นแล้วก็อิ่มเอมใจ แอบอนุโมทนาบุญกับเขาในใจ หลังจากเทศน์จบก็จะมีพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เดินเวียนสามรอบ ขณะเดินเวียนเทียนให้สวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ (อิติปิโส) ไปด้วย ที่นี่ จะไม่มีพระนำสวด ดังนั้น เราต้องเดินสวดไปเองเท่าที่จำได้ ผมจำได้แม่นสวดได้เองโดยไม่ต้องเปิดหนังสือ บทพระพุทธคุณ ผ่านไปสบาย บทพระธรรมคุณก็ได้ แต่พอมาถึงบทพระสังฆคุณ ตรงท่อนสุดท้าย หลังจาก อัญชลีกรณีโย แล้วอะไรต่อ สวดไม่ได้..ลืม เป็นแบบนี้มาสองครั้งแล้ว ครั้งแรกที่อัมพวา ไปเที่ยวแล้วเวียนเทียนที่นั่น สวดๆไปก็ติดตรงนี้เหมือนกัน ต้องไปถามพระท่านเอา ครั้งนี้เป็นอีกแล้ว..เดินๆคิดไปจนครบสองรอบ แต่พอรอบสามถึงคิดได้.. ท่อนที่ลืมทุกครั้งนั่นคือ ท่อนนี้ครับ อะนุตตะรัง ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ ท่อนสุดท้ายตอนใกล้จบ  วันนี้ก็เลยเอาบทสรรเสริญพระพุทธคุณมาลงซะเลย จะได้จำแม่นๆ ใครจะลองสวดก่อนนอนก็ดีนะครับ จะได้ฝันดี และมีแต่สิ่งดีๆในชีวิต บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ. บทสรรเสริญ พระธรรมคุณ สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง…

หลับตา..หาสติ

ไดอารี่ 29 April 2011

เวลาเกิดอุบัติเหตุสิ่งที่ต้องรีบทำที่สุดนอกจากควานหาสติ นั่นคือต้องระงับอารมณ์ อุบัติเหตุที่ว่าหมายถึงอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ หลายครั้งที่คนอารมณ์ดีๆ กลับต้องหงุดหงิดเสียอารมณ์ถึงขั้นทำร้ายทุบตีหรือยิงกันตายด้วยสาเหตุแค่รถยนต์เฉี่ยวกัน อุบัติเหตุบนถนน ทำให้รถติด เสียเวลา เสียเวลาสำคัญที่สุด เพราะไม่ใช่แค่เสียเวลาบนถนนที่ต้องรอประกันมาเคลมเท่านั้น แต่หมายถึงต้องเสียเวลาต้องนำรถไปซ่อมอู่อีกเป็นอาทิตย์ หรือก็เป็นเดือนๆ แล้วระหว่างที่รถกำลังซ่อมอยู่ละ?? ไม่ได้เป็นเศรษฐีมีโชว์รูมในบ้าน จันทร์ขับวอลโว่ อังคารขับเบนซ์ พุธขับบีเอ็ม พฤหัสขับมินิ ศุกร์ขับปอเช่ซะที่ไหน มีรถเพียงคันเดียว พอมันมีปัญหาก็เป็นปัญหากันหมด อุบัติเหตุ บางครั้งเกิดขึ้นเพียงนิดเดียว แต่ด้วยความไม่รู้จักระงับอารมณ์ และควานหาสติไม่เจอ จึงเกิดความสูญเสียที่ร้ายแรงขึ้น เมื่อเกิดอุบัติ(ที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด) ตั้งสติ ระงับอารมณ์โทสะ ถึงเราจะผิดหรือไม่ก็ตาม ถึงอีกฝ่ายจะบันดาลโทสะมากก็ตาม ปั้นหน้าให้ปกติแล้วรีบกล่าวขอโทษถ้ารู้ตัวว่าผิด ลองคิดภาพว่าทั้งสองฝ่า่ยบันดาลโทสะระเบิดอารมณ์ใส่กัน ..กลางถนนอันร้อนระอุ อารมณ์ที่ร้อนเร่า มันจะจบอย่างไร? ปล. พึ่งเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งใน 1 อาทิตย์ ถูกชนท้าย กับ ถูกถอยมาชนหน้า ควานหาสติแทบไม่ทัน..เฮ้อ

อุบัติเหตุ
อ่านต่อ

Oh my ghost

ไดอารี่ 10 October 20163 November 2017

หลังจากโบกลาละครไทยอย่างไม่ใยดี ผมหันมาดูซีรีย์ต่างประเทศอย่าง Walking dead, CSI , NCIS  etc. แต่บางครั้งซีรีย์แนวสืบสวนฆาตกรรมของต่างประเทศ ดูบ่อยๆเข้าก็จำเจและเริ่มจะจำทางได้ ผมจึงหันมาทางซีรีย์เกาหลีบ้าง หลายคนเตือนว่าอย่าดู ..เพราะจะติด! เหี้ย! ซีรีย์เกาหลีนะไม่เว้ย ไม่ใช่บุหรี่ จะติดกันง่ายๆได้ยังไง โดยพื้นฐานผมเป็นคนชอบดูละครมาก โดยเฉพาะละครไทย ผมดูตามแม่พี่ป้าน้าอาที่พาดูตั้งแต่เด็กๆ แต่เชื่อเถอะครับ ละครไทยที่ผมเคยดูเมื่อตอนเด็กๆ กับละครไทยในปัจจุบันยุคที่อวดอ้างว่าล้ำหนักหนา ยุคโซเชี่ยล ยุคดิจิตอล ยุคห่าเหวอะไรนั่น .. ละครไทยยังคงมีบทเดิมๆ เนื้อเรื่องเดิมๆ พล็อตเดิมๆ ตัวอิจฉาตบตีแย่งพระเอก อีตัวอิจฉาต้องแต่งตัวแร่ดๆ ยั่วๆ ทำหน้าทำตาแบบอิจฉ๊า อิจฉา นี่แค่พูดถึงตัวอิจฉานะ อย่าให้ต้องพูดถึงนางเอกพระเอก หรือแม้แต่คนทำสวน คนขับรถ ฯลฯ ไม่อยากจะพูด ละครไทย! กลับมาที่ซีรีย์เกาหลีดีกว่า ผมเลือกดูเรื่อง Oh my ghost ดูน่าจะเป็นซีรีย์แนวผี ตลกๆ .. ดูได้ 3 ตอนติดครับ ติดงอมแงมเลยจริงๆ มีผลทำให้ซีรีย์เกาหลีเรื่องอื่นๆ มึงโดนกูเสพแน่ เรื่อง Oh my ghost ดูแรกๆเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นซีรีย์เบาสมองสบายๆ แต่สไตล์เกาหลีครับ ทำซีรีย์ทั้งทีจะให้ง่ายๆ เดาทางถูกนั้นมันง่ายไป ตอนแรกๆดูเบาๆ สบายๆ แต่พอถึงกลางเรื่องจนจบจะเข้มข้นจนไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว Oh my ghost เป็นเรื่องราวของผีตนหนึ่งที่ตายแล้วยังไปเกิดไม่ได้ เพราะมีเรื่องที่เป็นบ่วงติดไว้ในโลกมนุษย์ จึงเป็นผีร่อนเร่สิงคนโน้นทีคนนี้ที จนกระทั่งมาเจอกับนางเอก (นางเอกในเรื่องนี้ชื่ออะไรไม่รู้ ..แต่น่ารักมากครับ ทั้งหน้าตา น้ำเสียงและบุคลิก) นางเอกมีความสามารถพิเศษตั้งแต่เด็กคือสามารถเห็นผีได้ และโดยที่เป็นคนเห็นผีนี่เอง จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีเพื่อน และขาดความมั่นใจ ร่างกายอ่อนแอ พอมาเจอกับผีเร่ร่อนจึงถูกผีสิงโดยง่าย นางเอกทำงานในร้านอาหารของพระเอก ..นางเอกถูกผีสิง ก่อนถูกผีสิงนางเอกก็แอบรักพระเอกซึ่งเป็นเชฟสุดหล่ออยู่แล้ว พอผีมาเจอพระเอกได้รับความรู้สึกดีๆจากพระเอก ก็เกิดหลงรักพระเอกเข้าไปอีก จึงเกิดรักสามเส้า ระหว่างคนและผี เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆครับ เมื่อผีเร่ร่อนที่เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ..การสืบสวนหาสาเหตุการตายก็เริ่มขึ้น … ผมเล่าไว้แค่นี้ละกัน เผื่อใครผ่านมาอ่านจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกสปอยล์ บอกได้เลยว่า…

oh my ghost เกาหลี

ชิงเถิดหมา

ไดอารี่ 20 February 2011

ถ้าพูดถึง “พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง” หลายๆคนก็คงจะคิดภาพผู้ชายดิบๆ เถื่อนๆ สมัยวัยรุ่นเป็นนักร้องร็อค เพลงกวนตีนอย่าง ครายจะทำมาย หรือเพลงที่โดนใจจิ๊กโก๋อย่าง หัวใจนักเลง เพลงซึ่งๆอย่าง สั่งเสีย และอื่นๆอีกมากมาย ภายหลังนักร้องร็อครุ่นใหญ่ได้มาเอาดีทางการแสดง ก็จัดได้ว่าเป็นนักแสดงขั้นเทพคนหนึ่ง จนปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเต็มตัว สร้างชื่อให้ตัวเองโด่งดังจากเรื่อง Be myself ขอให้รักจงเจริญ และเรื่อง Happy Birthday ส่วนงานละครก็มีให้ชมอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าฝีมือเป็นที่ถูกอกถูกใจคอหนังคอละครทีเดียว จนมาถึงเรื่องล่าสุด “ชิงหมาเถิด” ทีแรกก็คิดว่าเป็นหนังตลก เพราะดูจากตัวอย่างหนังที่ตัดมา มีแต่ฉากตลก แต่พอได้ดูจึงรู้ว่าเป็นหนังเสียดสีแดกดันประชดประชันสังคมแทบจะถูกอณูหนัง คือทุกฉากมีการแอบกัดแอบประชดสังคมตลอด อยู่ที่ว่าผู้ดูสามารถตีความหรือดูออกหรือไม่? หนังเล่าถึงยุคที่สังคมเป็นโรคบ้าเห่อ ในหนังทุกคนกำลังเห่อสัตว์ตัวหนึ่งที่เรียกกันว่าเป็น “หมาหิมะ” หมาหิมะเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ ยกเว้นสามคน คือ ลูกเจ้าของหมาหิมะที่พ่อสนใจแต่หมาจนไม่สนใจตน รู้สึกตัวเองว่าถูกหมาหิมะแย่งความรักไปจนหมด อีกคนคือ “เด่น” ผู้ถูกให้ออกจากงาน เพราะไม่เอาการเอางาน แต่พาลไปโกรธ “หมาหิมะ” พยายามประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ก็ไร้ผล และอีกคนคือ “อาท” เด็กอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ แต่แล้วทุกคนก็ลืมเขาผู้เป็นเด็กอัจฉริยะ หันไปสนใจและกล่าวถึงแต่หมาหิมะ จนเขารู้สึกมั่นไส้จึงเขียนประกาศในห้องน้ำชายว่า เขาจะลักหมาหิมะมาให้ดู หนังก็เล่าถึงระบบรักษาความปลอดภัยหมาหิมะขั้นสูง พอๆกับระบบรักษาความปลอดภัยของภาพโมนาลิซ่า หรือเพชรพันล้าน  ภาพตอนผ่านเข้าไปทีละขั้น ดูไฮเทคดี แต่พอตัดมาที่ฉากบัญชาการภายใต้ระบบที่โคตรไฮเทคนั้น โลเทคสิ้นดี มีคอมพิวเตอร์เก่าๆ 4-5ตัว และเจ้าหน้าที่หน้าตาโบราณเหมือนข้าราชการแก่ที่ไม่ค่อยรู้จักคอมพิวเตอร์นั่งบัญชาการอยู่ สภาพห้องยิ่งหดหู่ ฉากที่แดกดันประชดประชันมากที่สุดคงเป็นฉากที่ผู้บัญชาการตำรวจกำลังนำทีมสืบหาหมาหิมะที่หายไป แต่แล้วนายตำรวจท่านหนึ่งก็เข้ามารายงานว่า จังหวัดหนึ่งของประเทศกำลังถูกยึดไปแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวด้วยเสียงมีอารมณ์ว่า “ประเทศเรามีหลายจังหวัด เสียไปจังหวัดเดียวก็เท่ากับเสียไปแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเสียหมาหิมะที่มีแค่ตัวเดียวในโลกเท่ากับเสียไป 100 ปอร์เซ็นต์ เท่านี้พวกคุณก็เรียงลำดับความสำคัญไม่ได้!!” แต่โดยรวมแล้วหนังก็สนุกดี ส่วนหนึ่งเพราะได้นักแสดงคุณภาพอย่าง บอย ปกรณ์  โก๊ะตี๋ มีฉากซึ้งๆระหว่างพ่อกับลูกให้ซึ่งได้เหมือนกัน แต่ที่ยังสงสัยจนหนังจบแล้วยังไม่หายสงสัยคือ พี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ในเรื่องเป็นใคร??? ดูจนจบแล้วหนังก็ไม่บอกว่าพี่แกเป็นใครมาจากไหน ไล่ยิงชาวบ้านอย่างเดียว พอถามก็บอกแค่ว่า เป็นหน้าที่ !! ยังบอกไม่ได้ว่า หนังของพี่อ็อฟเรื่องเป็นหนังแนวไหน สันนิษฐานว่าเป็นหนังตามใจผู้กำกับที่พยายามจะถ่ายทอดสังคมปัจจุบันในมุมมองของพี่แกเอง ตอนจบเป็นยังไง ไม่ขอบอก เผื่อบางคนอยากไปดู แต่ถ้าใครดูแล้วได้คำตอบว่าพี่อ็อฟเป็นใคร รบกวนช่วยมาบอกด้วยนะ อยากรู้จริงๆ

ชิงหมาเถิด พงษ์พัฒน์

รู้เขา (แต่)ไม่รู้เรา

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 18 February 2011

Facebook, Twitter หรือระบบ Social Network ตัวอื่นๆที่อนุญาตให้ผู้ใช้โพสต์ข้อความลงบนพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้เรารู้จักตัวตนของคนอื่นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบัน สามารถโพสต์ข้อความได้แบบ Everything Everywhere คือโพสต์อะไรจากที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ เมื่อเกิดอารมณ์ ความรู้สึก โกรธ โมโห ดีใจ เสียใจ ตอนไหนยังไง ก็แสดงออกออนไลน์มาได้เลย ข้อดี คือ ถ้าเจอเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน หรือที่ไหนก็ตาม เราก็โพสต์แจ้งข่าวสารแด่เพื่อนฝูงและชาวโลกได้เลย ณ ขณะนั้น เพื่อนและชาวโลกก็สามารถรับรู้ข่าวสารได้ในทันที ข้อเสีย คือ ถ้าโมโห โกรธ หรือเจอเหตุการณ์ที่น่าสนใจเข้า ไม่ทันได้พิจารณาให้ดีก็รีบโพสต์แจ้งชาวโลก บางข้อความอาจกลายเป็นการด่า ประจาน หรือนำความลับของคนอื่นมาเผยแพร่ เมื่อไม่นานมานี้ พนักงานต้อนรับในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีน เห็นดาราเข้ามาเช็คอินเพื่อพักในโรงแรมที่ตนทำงานอยู่ จึงรีบทวิตเตอร์บอกเพื่อนตัวเอง จากข้อความทวิตเตอร์นั่นเอง ทำให้มีแฟนคลับแห่มาขอลายเซ็นต์ จนดาราคนนั้นที่ตั้งใจจะมาพักผ่อนเงียบๆ ไม่ได้รับความสุขตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ความรู้ถึงผู้บริหาร พนักงานที่ทวิตเตอร์คนนั้นจึงถูกให้ออกจากงาน ข้อความที่ถูกโพสต์ผ่าน Facebook หรือ Twitter ส่วนใหญ่ออกมาจากความรู้สึกและอารมณ์สดๆร้อนๆของผู้โพสต์ เมื่อก่อนถ้าเราไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจบางอย่างเข้า ก็ต้องกลับมาถึงบ้าน > เปิดคอมพิวเตอร์ > ต่ออินเทอร์เนต > เปิดเว็บไซต์ > ล็อกอิน > โพสต์ข้อความ จะเห็นว่ากระบวนการกว่าจะถึงขั้นตอนของการโพสต์ข้อความมีมาก จนทำให้อารมณ์ที่คุกรุ่นเบาบาง หรือแทบจะหายไปหมดแล้ว และการปะติดปะต่อเรียบเรียงเรื่องราวก็เริ่มเลือนลางจำไม่ค่อยไ้ด้ แต่ปัจจุบันขั้นตอนการโพสต์ข้อความจาก 5-6 ขั้นตอนลดเหลือขั้นตอนเดียว คือ โพสต์ได้เลยทันที!! ดีใจ== โพสต์ เสียใจ== โพสต์ โกรธ == โพสต์ด่า เมื่อกระบวนการโพสต์สั้นลง มันจึงไม่ผ่านกระบวนการคิด ข้อความทุกอย่างที่เราโพสต์ มันจะบอกตัวตนของเราทั้งหมด!! ผม Follow นักข่าวหลายคน เพื่อหวังติดตามข่าวสารแบบใกล้ชิด จึงทำให้พบว่า นักข่าวที่เราเห็นเขานั่งอ่านข่าวหน้าทีวีทุกวันนั้น เขาอ่านอย่างเดียวตามสคริปต์ที่มีคนเขียนให้อย่างสวยหรู เพราะข้อความที่เขาโพสต์เองบนทวิตเตอร์ พบว่ามันไม่เหมือนเขาในจอทีวี ในโลก พ.ศ. 2554 เราสามารถเรียนรู้อุปนิสัยใจคอคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ผ่านตัวหนังสือไม่กี่ตัว คำถามต่อไปก็คือ คุณอยากให้คนอื่นๆรู้จักคุณในแง่ไหน?…

facebook twitter
อ่านต่อ

นั่งรถไฟไปขุนตาล 2 วัน 1 คืน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 30 September 202212 October 2022

นานเท่าไรแล้วที่เราไม่ได้นั่งรถไฟ..ทริปนี้เลยออกเที่ยวด้วยการนั่งรถไฟไปขุนตาล

ขุนตาล รถไฟ ลำปาง
อ่านต่อ

จิ๊กกี๋ในวัย 70 กะรัต

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 23 September 20163 November 2017

เข้าสู่วัย 10 ขวบแล้วสำหรับจิ๊กกี๋ ถ้าเป็นคนก็เริ่มเข้าสู่วัย 70 นิสัยเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม ขี้อ้อน ขี้กลัว กลัวฝนกลัวฟ้าร้องกลัวฝนตก สายตาเริ่มพร่ามัว มองไกลๆไม่ค่อยเห็นตามประสาหมาสูงอายุ แต่ยังเป็นหมาที่กินยาก ฉี่ยาก อึยากเช่นเคย เอาภาพมาอัพเดตไว้เท่านี้แหละ

จิ๊กกี๋

อดีตนายกของไทยคนที่ ๒๕

เรื่องทั่วไป 25 November 2009

หน้าหนังสือพิมพ์วันนี้ข่าวใหญ่พาดหัวคือ การถึงแก่อสัญกรรมของ ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกคนที่ 25 ของประเทศไทย ประวัติและความยิ่งใหญ่ของท่าน คงไม่ต้องมาเล่าซ้ำกันมากมาย เพราะหลายบล็อกหลายเว็บ หลายหน้าหนังสือพิมพ์ตลอดจนหน้าจอทีวีหลายช่องก็ได้นำเสนออย่างครบถ้วนกระบวนความ ผมแค่อยากบันทึกส่วนหนึ่งนี้ไว้ในความทรงจำของบล็อกนี้เท่านั้น จำได้ว่าในบล็อกของผมได้กล่าวถึงท่านสมัครแค่ครั้งเดียวสั้นๆ ในตอนที่ท่านเป็นนายก(อ่าน) แม้เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆที่ท่านเป็นนายก แต่ก็สร้างปรากฏการณ์อะไรหลายๆอย่าง แม้ในอดีตท่านจะมีความยิ่งใหญ่ในการสร้างประโยชน์แก่บ้านเมือง ตำแหน่งแห่งหนที่ใหญ่โต แต่ตำแหน่งสุดท้ายที่ถือว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิต(คือตำแหน่งนายก)นั้น กลับไม่ค่อยสง่างามเท่าที่ควรในสายตาของคนไทยหลายๆคน เพราะท่านประกาศชัดเจนว่าเป็นนอมินีของอดีตนายกทักษิณ และหลังจากที่ท่านได้ตำแหน่งนายก ท่านก็ได้แสดงตัวชัดเจนว่าเป็นนอมินี แต่ที่แปลกคือท่านกลับปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นนอมินีให้ใคร ไม่ได้ปกป้องใคร ฯลฯ ท่านเป็นนายกที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นสื่อ แต่พอเป็นนายกกลับประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับสื่อ คงจำกันได้ในสมัยนั้น ท่านด่าสื่อชนิดไม่ไว้หน้า ด่าออกทีวี ด่าออกโทรทัศน์ ถ้าสามารถด่าออกตู้เย็นและเครื่องซักผ้าได้ ท่านก็คงทำ   ความดุเด็ดเผ็ดมันส์ของคำด่านั้น ไม่ต้องบรรยายให้น่ากลัวซ้ำ ว่ากันว่า นักข่าวแทบทิ้งไมค์วิ่งร้องไห้กลับบ้าน (ถ้าสติไม่ดีพอ) เพราะนอกจากคำพูดที่ดุดันแล้ว สีหน้าสีตาท่าน ทำราวกับจะกินเลือดกินเนื้อผู้สื่อข่าวให้ได้ นั่นคือส่วนหนึ่งเล็กๆในช่วงที่ท่านเป็นนายก แต่ก่อนนั้นท่านได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย ท่านยังมีสถิติเสียงสูงสุดในการเลือกตั้งผู้ว่า ที่ยังหาใครมาทำลายสถิตินี้ไม่ได้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่ท่านสมัคร วันนี้จึงขอนำคลิปเพลงที่ท่านเคยร้องมาแปะไว้ เพลงของสุนทราภรณ์ วงดนตรีที่ท่านโปรดปราน มีเนื้อหาที่ให้คติและแนวคิดสอนใจได้อย่างดี ขอให้ท่านไปสู่สุคติ ณ ดินแดนแห่งความสงบ

นายก

ทองขาว

ไดอารี่ 18 June 2011

หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่คือ “พฤกษาทาวน์” อยู่ถนนราชพฤกษ์และเป็นโครงการของพฤกษา บริษัทที่สร้างบ้านเยอะที่สุดและมีเรื่องให้พูดถึงในแง่ลบเยอะที่สุดเช่นกัน บ้านผมเป็นทาวน์โฮมครับ ถ้านึกภาพไม่ออกว่าทาวน์โฮมเป็นยังไง ก็ให้นึกถึงทาวน์เฮาทส์ ต่างแต่ว่าทาวน์โฮมสร้างไว้สำหรับอยู่อาศัยเป็นหลัก แต่ทาวน์เฮ้าสท์สร้างไว้ขายของและนิยมปลูกริมถนนใหญ่ แน่นอนทาวน์โฮมก็มีบ้านติดๆกันใช้กำแพงและฝาบ้านร่วมกัน ข้างบ้านผมเป็นคุณลุงคุณป้าวัยเกษียณใจดีทั้งคู่เอ็นดูเราเป็นลูกเป็นหลาน บ้านเราเลี้ยงหมาไทย แต่ชื่อฝรั่งชื่อจิกกี๋ ตัวสีดำ ส่วนลุงกะป้าเลี้ยงหมาบางแก้ว ชื่อไทยๆว่า “ทองขาว” แน่นอนตัวขาวอวบ ทั้งสองไม่ใช่เพื่อนรักกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกลียดกันมีคำรามใส่กันบ้างบางครั้ง ทองขาวอายุมากกว่าจิ๊กกี๋ 2  ปี ทั้งสองตัวแม้จะมีสีต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันมากนั่นคือ ความหวงบ้านและรักเจ้าของ ทุกครั้งที่มีใครมา ไม่ว่าจะเป็นหมาด้วยกันหรือคนแปลกหน้าผ่านมาหน้าบ้าน ทั้งสองจะกระโจนเห่าแสดงท่าทีดุร้ายใส่ทันที ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงต้องถูกล่ามไว้ในยามเจ้าของไม่อยู่ ทองขาวกับจิ๊กกี๋พึ่งย้ายมาอยู่บ้านนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งสองไม่ได้โตที่นี่ แต่ก็รักและหวงแหนที่นี่มาก ก่อนหน้านี้หน้าบ้านลุงกะป้าเป็นพื้นดิน ทองขาวจึงมาอาศัยอยู่หน้าบ้านได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าบ้านได้ถูกปรับปรุงเป็นพื้นระแนง ทองขาวจึงถูกจำกัดพี้นที่ให้อยู่จำเพาะข้างบ้าน และนับตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอและไม่ค่อยได้ยินเสียงทองขาวอีกเลย ใครจะรู้เล่าว่าเราไม่มีโอกาสได้ยินเสียงมันอีกแล้วตลอดไป ทองขาวมีโรคแทรกซ้อนประกอบกับกำลังก้าวสู่วัยชรา เมื่อคืนนี้หลังจากลุงกับป้ากลับจากทำธุระนอกบ้าน พบว่าทองขาวได้นอนสิ้นใจแล้ว นับจากนี้หน้าที่ดูแลบ้านทั้งสองหลังคงมอบหมายภาระหน้าที่ให้แก่จิกกี๋แต่เพียงผู้เดียว ปล.ภาพประกอบจากFlickr

จิ๊กกี๋ ทองขาว

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH