Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

มอไซต์รับจ้าง

โบราณว่า อ่านต่อ

โบราณว่า

ไดอารี่ 9 February 2011

โบราณว่า ‘ไม้ล้ม..อย่าข้าม’ แต่วันนี้ผมเจอคนชอบฉวยโอกาส รายแรกที่เคยเจอคือ คนขับรถตู้ ถ้าผู้โดยสารโนเนมคือไม่รู้อัตราค่าโดยสารมาก่อน จะแอบบวกเข้าไปอีก 5 – 10 บาท เิงินเท่านั้นจะทำให้รวยขึ้นเท่าไรกัน มันคุ้มมั้ยกับคำว่า “โกง” ที่ปรากฏบนหน้าผาก “มึง” รายที่สองมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ถ้าวันไหนรถติดเยอะๆ คนกลัวไปทำงานไม่ทันก็ต้องทิ้งรถเมล์ สละแท็กซี่ เพื่อปรี่ไปหามอ’ไซต์รับจ้าง มันเริ่มเล่นตัวทันที จากเคยคิด 20 บวกไปอีก 10 – 20 บาท หรือมากกว่านั้น พวกแบบนี้ยังมีอยู่เยอะ ไม่ได้เสียดายเงินที่ต้องเพิ่มให้ แต่เสียความรู้สึกที่ถูกโกง ขึ้นรถเมล์จะขึ้นเวลาไหนวันไหนก็ยังราคาเดียวตลอด เข้าเซ่เว่น ไม่ว่าจะเข้าเช้า สาย บ่าย เย็น ดึกๆดื่นๆ ของก็ยังราคาเดิม ไม่เคยเห็นพนักงานขายบอกว่า ดึกแล้วขอค่าล่วงเวลาอีก 5 บาท เศษเงินไม่เท่ากับความรู้สึกที่ต้องเสียไปหรอก โบราณว่าไว้ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

มอไซต์รับจ้าง รถตู้ เหี้ย โกง
อ่านต่อ

ทริปลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ (ตอนที่ ๓)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 17 February 20163 November 2017

ออกเดินทางจากลำพูนตอนบ่ายโมงกว่าๆ มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทอง เชียงใหม่ จุดหมายคือ “ขุนวาง”

ขุนวาง เชียงใหม่
อ่านต่อ

ตะลุยแก่งกระจาน

ท่องเที่ยว 12 December 201514 June 2019
เพชรบุรี แก่งกระจาน
อ่านต่อ

น้องพฤกษ์

say, สุขกะภาพ 31 May 201523 September 2021

น้องพฤกษ์เป็นลูกชายขององอาจ เพื่อนข้างๆบ้านนี่เอง ถ้าผมมีลูก ก็จะไล่เลี่ยกันกับน้องพฤกษ์นี่แหละครับ กำลังน่ารักน่าชังน่าตี และซุกซนตามประสาเด็ก เรื่องที่เคยกังวลว่า จิ๊กกี๋จะเป็นปัญหาหรือจะรังแกน้องหรือไม่นั้น ดูจากภาพนี้คงหายกังวลครับ ปกติกี๋จะหวงบ้านมาก แต่วันนี้น้องพฤกษ์เดินต๊อกแต๊กๆ เข้าบ้าน นอกจากกี๋จะไม่เห่าแล้ว ยังเดินตามมาส่งกระดิกหางดุกดิกหมามันฉลาดครับ, มันรู้ใครมาดี ใครมาร้าย “จิตใจแม้จะซ่อนไว้ข้างใน แต่หมามันรู้ครับ“

ระลึกถึงเพื่อน..ณ ดินแดนแสนไกล

ไดอารี่ 24 June 200820 March 2020

ไปงานศพเพื่อน ณ เมรุ(อ่านว่า เมน)วัดสระเกศ นั่งดูหนังสือที่ระลึกที่เขาแจกในงาน ยิ่งดู ก็ยิ่งคิดถึงเพื่อน ร่างกายที่กำยำสง่า พูดจาไพเราะ เป็นมิตรกับทุกคน มาพร้อมกับเสียงหัวเราะอารมณ์ดีตลอดเวลา คนที่เพียบพร้อมด้วยลักษณะเช่นนี้เหรอ คือ คนที่นอนอยู่ในโลงศพนั่น ผมไม่อยากจะเชื่อจริงๆ แค่หลับตา ภาพเพื่อนก็โผล่ขึ้นมาในหัว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะยังก้องอยู่ไม่หาย บรรยากาศในงานศพวันนี้ ถึงแม้จะเป็นงานศพ แต่ก็พบรอยยิ้มจากพวกเรา พวกเราเหล่าเพื่อนๆที่มีโอกาสได้พบปะ พูดคุยกัน ถึงแม้ไม่พร้อมหน้ากันทุกคน แต่ก็ได้พบหลายคน ไม่อยากให้งานศพของเพื่อนคนหนึ่ง เป็นงานนัดเจอของเหล่าเพื่อนๆเลย แต่ผมมีความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ  ด้วยหน้าที่การงาน พวกเราได้ห่างๆกันไป ไม่ได้พบ ไม่ได้พูดคุย ไม่ได้เจอ หรือไม่ได้เที่ยวกันเหมือนแต่ก่อน การเจอเพื่อนๆอีกครั้ง ทำให้เรามีเสียงหัวเราะในที่ๆไม่ควรมี เพราะเรากำลังอยู่ในงานศพของเพื่อน พอถึงเวลาจะนำศพเข้าเมรุ ผมมองไปที่ศพและภาพเพื่อนที่ตั้งอยู่ข้างๆศพนั้น ให้ความรู้สึกหดหู่ เงียบเหงา คิดถึงเพื่อน อย่างบอกไม่ถูก.. ขอทิ้งท้ายด้วยกลอนในหนังสือที่ระลึก                     มีเกิดก็บ่พ้น          ความตาย หนุ่มแก่ก็มิวาย                มอดม้วย ให้ตายแต่เพียงกาย          ดีอยู่ ฝากนา ดั่งท่านอาจารย์โก้ด้วย       ร่างม้วยชื่อยัง ฯ 

สังคหเฮติ

เรื่องทั่วไป 19 January 2010

ประเทศที่คนไม่ค่อยรู้จักอย่าง เฮติ ก็กลายเป็นประเทศที่ทั่วโลกกล่าวถึงและระดมความช่วยเหลือเข้าอย่างเต็มที่  เพราะเมื่อ วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลาท้องถิ่น 16:53:09 (หรือตรงกับเช้าวันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ.2553 เวลา 04.53 นาฬิกา ตามเวลาประเทศไทย) ได้เกิดแผ่นดินไหวใน เฮติที่มีความรุนแรง 7.0 ตามมาตราริกเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศไปราว 25 กิโลเมตร (หรือ 16 ไมล์) ซึ่งนับเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปี เฮติ (Haiti) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐเฮติ (Republic of Haiti) เป็นประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่บนเกาะฮิสปันโยลาในทะเลแคริบเบียน โดยมีเกาะเล็ก ๆ ใกล้เคียงด้วย คือ ลาโกนาฟว์ (La Gonâve) ลาตอร์ตู (La Tortue) เลกาเยอมีต (Les Cayemites) อีลาวาช (Île à Vache) ลากรองด์เก (La Grande Caye) และนาวาส (Navasse) โดยประเทศเฮติแบ่งครึ่งเกาะฮิสแปนิโอลากับสาธารณรัฐโดมินิกัน มีพื้นที่ 10,714 ตารางไมล์ (27,750 ตารางกิโลเมตร) มีเมืองหลวงคือกรุงปอร์โตแปรงซ์ (ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org) ประเทศไทยเราเอง ในส่วนรัฐบาล และหลายหน่วยงานก็เร่งระดมช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงินไปช่วยเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากประเทศเฮติอยู่ไกล หากบริจาคเป็นสิ่งของอาจจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก เพื่อการขนส่งสิ่งของเหล่านั้น ดังนั้น การบริจาคเป็นเงินจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากใครได้อ่านบล็อกของผม ก็อยากให้ร่วมอนุโมทนาด้วยกันด้วย เมื่อวานนี้ผมได้ร่วมบริจาคด้วยการโอนเงินไปสมทบทุนกับช่อง 3 จำนวน 500 บาท แม้เป็นเงินไม่มาก แต่หากหลายๆคนรวมกันเข้าก็กลายเป็นเงินจำนวนมหาศาลได้เช่นกัน การร่วมอนุโมทนาเมื่อมีผู้ทำบุญ เราเรียกว่าอนุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนา ขอเพียงเรากล่าวสาธุ และชื่นชมยินดีในการทำบุญของผู้อื่น บุญก็จะสำเร็จแก่เราด้วยเช่นกัน คนไทยเรามีนิสัยที่น่ารักอีกอย่างหนึ่งคือ ชอบช่วยเหลือ ขี้สงสาร…

เฮติ

สู่สุคติ..

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 June 200829 May 2015

สัจธรรมหนึ่งที่แม้จะเข้าใจ แต่ก็ยากจะทำใจเมื่อเกิดขึ้นกับตัว นั่นคือ ความพลัดพราก ผมมีเพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนป.ตรีด้วยกันหลายคน และหนึ่งในนั้น คือ นพดล นพดลเป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี สุภาพ เรียบร้อย มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเพื่อน เก่ง แข็งแรง หลายครั้งที่เราไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ก็ได้นพดลเป็นคนนำทาง และวางแผนการเที่ยวได้อย่างเรียบร้อยทุกครั้ง นพดลเป็นคนที่ไม่ซีเรียสในทุกๆเรื่อง ครั้งหนึ่งเมื่อกูเกิ้ลกำลังเริ่มบูมในเมืองไทย ใครหาอะไรไม่เจอ คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องบอกกูเกิ้ล และกูเกิ้ลก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ผมได้บอกศักยภาพของกูเกิ้ลให้นพดลฟังว่า “เนี่ยะ แค่ใส่ชื่อ และนามสกุลของคนที่เราอยากค้นหาไป กูเกิ้ลก็จะหาให้จนเจอ” นพดลแสดงอาการตื่นเต้น และบอกว่า ลองใส่ชื่อพ่อของเขาลงไปสิ ขณะที่ผมกำลังจะพิมพ์ชื่อของเขา ปากก็ถาม “พ่อไปไหนแล้วละ” นพดลตอบด้วยสีหน้าปกติว่า “ตอนเด็ก พ่อลงเรือไปหาปลา พอกลับมา บอกแม่ว่าไม่สบาย ขอเงินแม่ไปหาหมอ 200 บาท พ่อไปหาหมอด้วยเงิน 200 บาท จนป่านนี้ยังไม่กลับมา” ผมฟังแล้วนึกสงสารในใจอย่างบอกไม่ถูก จากเรื่องกูเกิ้ลกลายมาเป็นเรื่องความพลัดพรากไปเสียได้ แต่นพดลก็ไม่ได้มีสีหน้าเศร้าใจอะไร แต่อาจจะผ่านความรู้สึกนั้นมานานแล้วจนเคยชิน ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้น ได้ใส่ชื่อพ่อของนพดลเพื่อค้นหาในกูเกิ้ลหรือเปล่า หรือว่าค้นหาแล้วแต่ไม่เจอ.. ผมเคยชวนนพดลไปบริจาคเลือดที่สภากาชาด ครั้งนั้นหลังจากบริจาคเสร็จแล้ว เดินไปเที่ยวในสวนงูต่อ นพดลเป็นลมในสวนงู ขณะนอนเอาแรงในสวนงู นพดลยังอารมณ์ดีเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยไปบริจาคเลือดกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ด้วยความคะนองเลยแข่งกันว่าใครจะบริจาคเสร็จก่อนกัน พอเข็มแทงแขนเพื่อนบริจาคเลือดเท่านั้น ทั้งคู่ก็พยายามบีบมือเพื่อให้เลือดออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อนอีกคนบีบแรงจัด จนเข็มที่เสียบที่แขนกระเด็นออก เลือดพุ่งกระฉูด ฟังนพดลเล่าไป ก็หัวเราะกันไป นพดลเป็นคนอารมณ์ดีได้ทุกสถานการณ์ สมัยเรียนต้องทำงานกลุ่มกันดึกๆดื่นๆ กลับบ้านตี 3 ตี 4 นพดลก็ไปด้วย แม้จะไม่ค่อยได้ช่วยเพื่อนมากมายนัก แต่ก็ไปให้กำลังใจ ช่วยเรื่องอาหารการกินบ้าง ไปหลับบ้าง จนงานเสร็จถึงกลับ   หลังจากเรียนจบป.ตรี ก็แยกย้ายกัน นพดลเรียนโทต่อที่ศิลปากร ก็ยังหวังว่าสักวันเราจะไปเที่ยวทะเลด้วยกันอีก แต่เมื่อคืนนี้ ได้รับโทรศัพท์จากหมีว่า นพดลเสียชีวิตมา 3 วันแล้ว! ด้วยโรคลูคีเมีย หรือมะเร็งในเม็ดเลือดขาว หมีบอกว่า นพดลไม่ได้บอกใครเลยว่าตัวเองเป็นโรคร้าย กลัวคนอื่นจะตกใจ อดทนต่อสู้กับโรคร้ายเพียงลำพัง จนในที่สุดก็ต้านแรงของโรคร้ายนี้ไม่ไหว เสียชีวิตลงในที่สุด…

อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก

เรื่องทั่วไป 22 March 2010

ใช้ชีวิตในโลกอินเทอร์เนตมาเกือบๆ 10 ปี ชีวิตผมจึงถูกเปลี่ยนให้อยู่ในระบบของโลกออนไลน์มากขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริง (จริงๆ อินเทอร์เนตก็คือโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนกัน แต่จริงน้อยกว่า)  มี 3 ช่องทางการสื่อสาร คือ อ่าน พูด และเขียน  โลกอินเทอร์เนต ก็สามารถสื่อสารได้ทั้ง 3 ช่องทางเช่นกัน คือ ทั้งอ่าน พูด และเขียน แต่ช่องทางพูดอาจจะน้อยกว่า เราอาศัยพูดกันผ่านตัวหนังสือ !! ตัวหนังสือสื่อสาร ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการพูดกันสักเท่าไร หากทั้งคู่(หมายถึงคู่สนทนา) รู้จักกัน(ดี)มาก่อน เคยคุยกันมาก่อน เพียงเห็นตัวหนังสือก็จะสามารถจินตนาการถึงเสียงของคู่สนทนาชัดเจนอยู่ในหัว เหมือนคุยกันอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว หากแต่ว่่าถ้าไม่เคยคุยกันมาก่อน ไม่เคยได้ยินเสียง หรือไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน เพียงตัวหนังสือแม้สื่อมาด้วยคำธรรมดาๆ ก็อาจถูกอีกฝ่ายตีความหมายเป็นอื่นได้ !! ปัญหานี้ อาจทำให้เราเสียเพื่อน หรือร้ายกว่านั้น เพื่อนอาจกลายมาเป็นศัตรูได้อย่างน่ากลัว เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นกับผม ในฐานะบล็อกแห่งนี้เป็นบล็อกส่วนตัว จึงไม่แปลกที่ผมจะเล่าเรื่องส่วนตัว.. เรื่องมันเกิดขึ้นจากการคุยกันผ่านตัวหนังสือนี่แหละ.. ผมคุยกับเพื่อนแฟนที่อยู่ต่างประเทศผ่านโปรแกรมยอดฮิต Facebook คุยกันบนกระดานหน้าบ้านเขาเลย  ก่อนหน้าที่เขาจะไปอยู่ต่างประเทศ เราก็เคยไปเที่ยว กิน ดูหนังด้วยกันระยะหนึ่ง จนผมทึกทักเอาเองว่า เออ..เพื่อนแฟนก็เพื่อนเราด้วยคนหนึ่ง วันที่เขาบิน เราก็ไปส่งที่สนามบิน ผมแอบชื่นชนกับแฟนว่า เพื่อนหญิงคนนี้ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ทึ่งกับความกล้าที่่จะบินไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศโดยลำพัง ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังไม่สามารถขนาดนั้น .. หลังจากที่เขาไปต่างประเทศก็หลายปีที่ไม่ได้คุยกัน แต่ก็ได้แอดไว้ใน facebook จนล่าสุดเมื่อวันศูกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 ผมได้ทักทายเขาไปในfacebook และก็ได้การตอบกลับมาด้วยไมตรี ถามสารทุกข์สุขดิบประสาคนที่ไม่ได้คุยกันมาเป็นปี ๆ มันเป็นการสนทนาผ่านตัวหนังสือที่ใช้คนละภาษา คือ เขาพิมพ์อังกฤษมา ผมตอบภาษาไทยไป .. ด้วยความคิดมากของผมเอง ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่เขาใช้สามารถพิมพ์หรืออ่านภาษาไทยได้ไหม? จึงถามไปว่า อ่านภาษาไทยได้ไหม? ความหมายคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่อ่า่นภาษาไทยได้ใช่ไหม? เมื่อเขาตอบว่าได้ ..ผมก็ตอบว่า “อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก” ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกหรือประชดประชันแดกดันอะไรแต่อย่างใดเลย เป็นน้ำเสียงตอบบประสาสื่ออย่างเพื่อนคุยกับเพื่อนเท่านั้นเอง แต่คำตอบที่ผมได้หลังจากนั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เขาไม่พอใจมากกับประโยคนั้น เขาบอกน้ำเสียงของผมมันเย้ยหยันถึงขั้นดูถูก .. เบื้องต้นผมไม่ทราบว่าเขาโกรธผมจากประโยคไหนที่เราคุยกัน ผมถูกบล็อกไม่ให้ติดต่อใน facebook ยิ่งทำให้ร้อนใจยิ่งกว่าเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมให้เพื่อน…

หนึ่ง

ไว้อาลัย..ไมเคิล

เรื่องทั่วไป 26 June 2009

ปีนี้มีคนดังๆตายกันเยอะ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีดาราดังแห่งฮอลลีวูดมาสิ้นใจตายที่เมืองไทย ด้วยความตายที่สร้างความกังขา ผ่านไปไม่นานก็มาถึงความตายของคนดังอีกคน วันนี้ ทุกสื่อต่างพูดถึงข่าวการตายของราชาเพลงป็อบอย่าง ไมเคิล แจ็คสัน หลายคนช็อคกับข่าวนี้ครับ โดยเฉพาะคนอเมริกันคลั่งไคล้ไมเคิลมาก บูชาเป็นดั่งเทพ ถ้าได้ศึกษาประวัติของไมเคิลตั้งแต่เด็ก จนถึงเติบใหญ่ ได้เห็นความสามารถของเขา ก็ไม่น่าแปลกใจที่คนเหล่านั้นบูชาไมเคิลขนาดนั้น ไมเคิล คือ อัจฉริยบุรุษ เขาเริ่มต้นอาชีพนักดนตรีในฐานะนักร้องนำของวง The Jackson 5 เมื่ออายุได้เพียง 7 ปี และได้ออกงานเดี่ยวชิ้นแรกในอัลบั้ม Got to Be There ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2514 ในขณะที่ยังเป็นสมาชิกของวง The Jackson 5 อยู่และมีอายุเพียง 11 ปี ไมเคิล แจ็กสันก็สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงมาครองได้มากถึง 3 เพลงฮิตแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของราชาเพลงป็อบที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุดที่สุดของชีวิตที่คนๆหนึ่งจะพึงถึงได้ แต่จะอย่างไร ไมเคิลก็ไม่สามารถล่วงพ้นกฏของไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ไปได้ เมื่อถึงจุดสูงสุด ก็เริ่มร่วงโรย ไมเคิลมีข่าวอื้อฉาวมากมาย จนแทบจะล้มละลายหลายต่อหลายครั้ง ด้วยหนี้สินที่มากมาย การใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย การใช้เงินไปกับการดูแลรักษาความงาม การรักษาโรคประจำตัว และที่อื้อฉาวที่สุดคือดคีล่วงละเมิดเด็ก แต่ถึงจะอย่างไร คนอเมริกันหรือแฟนคลับของไมเคิลทั่วโลก ก็ยังชื่นชอบคลั่งไคล้ไมเคิลอย่างไม่สร่างซา ณ วันนี้ ถึงแม้ไมเคิลจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ตำนานราชาเพลงป็อบของเขาคงจะอยู่คู่กับโลกไปอีกนาน ควบคู่กับตำนานเพลงร็อคของ เอวิส เพรสลีย์ ข่าวคราวและประวัติของไมเคิลหลายคนรู้จักมามากแล้ว วันนี้ไม่ได้เขียนถึงเพื่อเล่าประวัติ เพียงแค่อยากสลักไว้ในบล็อกถึงตำนานอันยิ่งใหญ่ของไมเคิล เพื่อเป็นเกียรติแก่บล็อกเล็กๆแห่งนี้เท่านั้น.. ขอไว้อาลัย แด่…ราชาเพลงป็อบผู้ยิ่งใหญ่ ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน ป.ล. ตอนนี้คนทั้งโลกกำลังไว้อาลัยแด่ไมเคิล ด้วยการใส่ผ้าปิดหน้าเหมือนไมเคิล

'สาระแนสิบล้อ' ติดอันดับหนังเสียดายตังค์แห่งปี

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 April 2010

พอดีไปอ่านบทวิจารณ์หนังเรื่อง “สาระแนสิบล้อ” มา  ก็เลยรู้สึกเห็นด้วย เพราะพึ่งไปดูมาเหมือนกัน !! เขาวิจารณ์ประมาณนี้อ่ะครับ “..ที่หนังโปรโมตตัวเองว่า “มีบท” นั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้จริงจังอะไร คือโดยตัวหนัง มันก็มีหัวมีท้าย แบบว่าจะเริ่มเรื่องยังไงและจะไปจบตรงไหนยังไง พูดง่ายๆ ก็คือหนังเขียนบทไว้แบบหลวมๆ เพื่อจะอัดสถานการณ์พิลึกพิลั่นลงไป เปรียบเทียบกัน มันก็คงคล้ายๆ กับหนังของของคุณหม่ำ จ๊กม๊ก อย่าง “วงษ์คำเหลา” ที่คิดพล็อตคร่าวๆ ให้มันมีตอนต้นตอนท้าย แล้วในระหว่างทางก็ “ตบมุก” ไปเรื่อยๆ หรือถ้าจะพูดให้ชัดขึ้น ผมว่า บางที ทีมสาระแนอาจจะแจ่มแจ้งแก่ตัวเองดีว่าไม่มี “ความสนใจ” มากพอที่จะสร้างสรรค์หนังที่ดีๆ เนียนๆ ได้ ก็เลย “หาทางออก” ด้วยการเลือกที่จะทำมันออกมาในลักษณะแบบบ้าๆ บวมๆ และมั่วแหลกกันไปเลย และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความหลุดโลกสุดเพี้ยน เพี้ยนตั้งแต่เนื้อหาที่พ่วงมากับวิธีคิดแบบทื่อๆ ตื้นๆ อย่างเช่น การจะเป็นลูกผู้ชายได้ต้องใช้ชีวิตหยาบๆ เถื่อนๆ อย่างการไปเที่ยวซ่อง หรือใช้กำลังตัดสิน (กระทืบคนแก่!!) เพี้ยนทั้งตัวละครและสิ่งของ ที่มีตั้งแต่ “แฝดนรกหัวติดกัน” (เสนาหอย, โก๊ะตี๋ อารามบอย) หรือแม้แต่รถสิบล้อที่กลายร่างเป็นหุ่นยนต์คนเหล็ก (ยืมวิชามาจาก Transformers แบบเต็มๆ) และเพี้ยนแม้กระทั่งสถานการณ์ในเรื่อง อย่างเช่น มีดกระเด็นไปเฉาะปากของน้าเชจนฟันหน้าหลุดหลอ, มีดเล่มเดิมนั้นผ่าลงหัวของคู่แฝดทำให้ทั้งคู่หลุดออกเป็นอิสระจากกัน และที่ต้องบอกว่า “บ้า” อย่างสุดกู่ ก็คือผีสาวเข้าสิงรถสิบล้อแล้วทำให้รถสิบล้อพูดได้แถมร้องไห้ซิกๆ นั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิด กว่าจะได้ไอเดียนี้มา (อันนี้ไม่ได้แขวะนะครับ แต่ทึ่งจริงๆ ว่าคิดได้ไง)..” สรุปง่ายๆว่า..เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้ว รู้สึกสึกเสียดายตังค์มากกกกๆๆ ..และตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ดูหนังของค่าย Luck film อีกแล้ว

อ่านต่อ

เขาใหญ่..ในคลิป

ท่องเที่ยว 13 May 200913 June 2019

ตั้งแต่ได้ Macbook มาจนครบปีละ ยังไม่เคยใช้เจ้าโปรแกรมที่แถมมากับเครื่องอย่าง imovie เลย ไม่รู้มันมีคุณสมบัติใดบ้าง วันนี้จึงนั่งมั่วๆดู ปรากฏว่า มันก็คือ โปรแกรมไว้ตัดต่อวีดีโอ ทำสไลด์ แบบง่ายๆ นั่นเอง ทราบดังนั้น เลยตัดต่อเติมแต่งง่ายๆ ด้วยทริปเขาใหญ่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไม่มีภาพเคลื่อนไหว เลยหยิบคลิปของ รุจ ที่ถ่ายโดยกล้องของmacbook ใส่ประกอบด้วยซะเลย.. ภาพคลิปอาจคมชัดสู้ไฟล์ต้นฉบับไม่ได้ อันนี้เข้าใจ เพราะเงื่อนไขของขนาด และชนิดของไฟล์ที่ถูกบีบอัดจนร้องโอย.. แต่ถึงจะอย่างไร ให้พอเห็นภาพก็ใช้ได้ละ เขาใหญ่ไปกี่ครั้งก็สนุก.. ว่างๆลองไปเที่ยวกันดู รับรองว่า ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

เขาใหญ่

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (87)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH