Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

รัก

อ่านต่อ

จส.100 รัก

เรื่องสั้นสั้น 6 February 201431 July 2015

เบื้องหน้าของเขาคือถนน 3 เลนที่คลาคล่ำด้วยฝูงรถซึ่งกระเถิบกันไปเต็มพื้นที่ถนนจนหาเลนไม่เจอ ใช้คำกิริยาว่า “กระเถิบ” คงไม่ผิดนัก เพราะรถค่อยๆ ไปทีละสเต็ป ช้ากว่ารถมอเตอร์ไซต์หรือแม้แต่จักรยาน ดีกว่าหน่อยตรงที่มีแอร์เย็นๆ และเพลงเพราะๆ  เขาเลือกที่จะฟังช่องรายงานจราจรแทนที่จะฟังเพลง  มิใช่เพราะอยากรู้เส้นทางไหนรถติดจะได้หลีกเลี่ยง หรือใคร่รู้ในข่าวสารจราจร เขาเพียงอยากได้ยินเสียง ‘เธอ’ ในทุกๆเช้าที่ขับรถฝ่ารถติดไปทำงาน! เวลา 07.00 น. จนถึง 09.00 น. เขาจำช่วงเวลาที่เธอจัดรายการได้ดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องนั่งนิ่งๆอยู่บนรถในถนนอันคับแคบ เขาเฝ้าฟังคนที่โทรไปรายงานผลจราจรจากจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพ น้ำเสียงที่เธอเจรจากับแท็กซี่ หน่วยกู้ภัย ตำรวจจราจร หรือแม้แต่คนทั่วๆไปที่โทรมารายงานผล ช่างไพเราะ น้ำเสียงสดใส แฝงด้วยความเป็นห่วงใยเมื่อสมาชิกโทรมาแจ้งอุบัติเหตุ เธอช่วยติดต่อประสานงานให้ผู้ใช้รถบนท้องถนนที่ประสบปัญหา สามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดี เธอ คือ ‘นางฟ้าจราจร’ เขาเฝ้าฝันสักครั้งหนึ่ง อยากจะโทรเข้าไปในรายการบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโทรไปรายงานผลอะไร รายงานผลจราจรรึ? เขากังวลที่จะใช้ศัพท์เทคนิคทางจราจร ไม่ว่าจะเป็นขาเข้า ขาออก รถขาเข้าคือทางไหน และรถขาออกคือจากไหนออกไปไหน แล้วถ้าเธอถามกลับมาว่า เราอยู่ในช่วงไหน เราจะตอบเธอยังไงดี? ช่วงกำลังรัก หรือช่วงกำลังคิดถึง ถ้าเธอไม่ตลกกับมุขนี้ละ? เราไม่เก่งเรื่องการจราจร รู้แต่ว่า ณ จุดตรงนี้รถติด แต่ข้างหน้าอีก 100 เมตร 200 เมตร หรือ 500 เมตรจะติดไหม? ถ้ารถไม่ติด แต่เราแจ้งว่าติดจะผิดไหม? เรื่องจะโทรรายงานผลจราจร เป็นอันต้องยกเลิกความคิด รายงานอุบัติเหตุ  ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นรถกระบะชนท้ายรถเก๋ง ส่งผลให้รถติดเพิ่มความติดทวีคูณยิ่งหนักกว่าเดิม คู่กรณีทั้ง 2 ยังไม่ยอมเอารถออกจากจุดเิกิดเหตุ ต่างโยนความผิดใส่กันไปมา ต้องรอตำรวจมาเจรจาตั้งนานสองนาน รถจากถนน 3 เลนเหลือ  2 เลน ค่อยๆขยับไปจนถึงจุดเกิดเหตุ เขาพยายามเพ่งมองความเสียหายที่เกิดจากการเฉี่ยวชน มีเพียงรอยถลอกเล็กๆจากกันชนหน้า แผลเท่านี้เอาน้ำฉีดแรงๆ ก็หาย แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ยอม เขาละอายที่จะโทรแจ้งอุบัติเหตุที่เล็กน้อยแต่ส่งผลให้รถติดได้มหาศาลนี้ และเขาช้ากว่าคนอื่นเสมอ ไม่นานจากเหตุเกิดเขาได้ยินเสียงคนโทรเข้าไปรายงานผลแล้ว เขาคงเหมาะที่จะฟังเธออย่างเดียวจริงๆ สักครั้ง เขาอยากจะฟังเสียงเธอที่คุยกับเขา ไม่ใช่ฟังเธอผ่านวิทยุอย่างนี้ แว่บความคิดหนึ่งเกิดขึ้น เขารีบหยิบโทรศัพท์ รู้สึกมีความสุขเมื่อกดหาเบอร์ที่คุ้น แต่ไม่เคยกดหาแม้แต่ครั้งเดียว…

จราจร จส.100 รัก
อ่านต่อ

รักข้ามมิติ (ตอนจบ)

เรื่องยาว 18 July 201116 June 2019

ในค่ำคืนแห่งวันที่พระจันทร์เต็มดวง ทิวเขายามสัมผัสกับแสงแห่งพระจันทร์ดูราวกับเงาปีศาจยืนเรียงราย

รัก
รักหาย..วาเลนไทน์เดย์</strong data-lazy-src=

รักหาย..วาเลนไทน์เดย์

เรื่องสั้นสั้น 13 February 200931 July 2015

ความรัก..ขณะที่ฉันเฝ้าหามาแสนนาน จนถอดใจ แล้วอยู่ๆ มันก็เป็นฝ่ายมาหาฉันเอง เหมือนวิ่งไล่เงาตัวเอง ยิ่งวิ่งตาม ยิ่งไกลออกไป พอหยุดมันก็อยู่ใกล้ๆนี่เอง มีคนให้คำนิยามความรักไว้มากมาย บ้างก็ว่าเหมือนไฟที่ใกล้ก็ร้อน ไกลก็หนาว รักคือ…ความซื่อสัตย์ ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ก้อคงไปด้วยกันไม่ได้ รักคือ…ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจกันก็จะทำให้ทะเลาะกัน รักคือ…อิสระ ถ้าเราไม่ให้อิสระกับคนที่เรารัก คนที่เรารักเขาก็จะไม่รักเรา รักคือ…การเสียสละ ถ้าเราเสียสละแล้วทำให้เขามีความสุขก็ต้องเสียสละ รักคือ…การให้ ให้ในสิ่งที่เราคิดว่ามีเขาความสุข ฯลฯ รักครั้งแรกของฉันเกิดขึ้นเมื่อฉันก้าวสู่รั้วมหาลัย..ชายคนนั้นที่ฉันไม่กล้าแม้จะเดินผ่าน ฉันมีความสุขในสมุดบันทึกที่ได้มีเขามาร่วมบันทึกไว้ด้วย ฉันเขียนถึงเขาวันแล้ววันเล่า จนรู้สึกเหมือนว่าเขาได้มาเป็นแฟนฉันแล้วจริง ๆ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า เมื่อเรามีใจจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ สิ่งนั้นจะกลายเป็นจริง ในที่สุดเมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 สิ่งที่ฉันจดจ่อมาตลอดก็กลายเป็นจริง ด้วยความบังเอิญที่เหมือนกามเทพดลใจ เขากับฉันอยู่ในกลุ่มที่ต้องทำรายงานด้วยกัน ในกลุ่มมี 4 คน สองคนต้องทำงานคู่ไปกับการเรียน จึงไม่มีเวลามาช่วยงานกลุ่ม มีเพียงเขาและฉัน..และนั่นคือจุดเริ่มต้น เขาเริ่มออกจากสมุดไดอารี่มาสู่ชีวิตจริงของฉัน ยิ่งรู้จักกันมากขึ้น ฉันยิ่งรักเขามากขึ้น ขณะเดียวกันความรู้สึกเล็กๆที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อนก็เกิดขึ้นด้วย ฉันเริ่มรู้สึกว่า ฉันเกลียดเขา!! ความใกล้ชิดทำให้ฉันรู้ว่า.. เขาสูบบุหรี่ ซึ่งฉันแพ้กลิ่นบุหรี่อย่างรุนแรง แต่เขาเป็นคนสะอาด เรียบร้อย พูดจาเพราะ เขาไม่ชอบอ่านหนังสือนอกเวลา แต่ฉันขาดหนังสือไม่ได้ ฯลฯ ฉันอาจจะรู้จักเขาในแบบของไดอารี่ของฉันมากเกินไป เมื่อรู้จักตัวตนของเขาจริงๆ จึงรู้ว่าเขาไม่ใช่ ความจริง ลบกับความคาดหวัง เท่ากับความผิดหวัง ฉันผิดหวังที่เขาไม่อาจะเป็นอย่างที่ฉันหวัง แต่ก็ไม่พร้อมจะเสียเขาไป เหมือนไฟที่ใกล้ก็ร้อน ไกลก็หนาว แต่เราก็ขาดมันไม่ได้ ความรักครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อฉันก้าวเข้าสู่วัยทำงาน..วัยที่มีความคิดและความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ขณะที่ฉันเป็นพนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาในชีวิตโดยที่ฉันไม่ได้เชื้อเชิญ แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นความบังเอิญเหมือนรักครั้งแรก เขาแสดงตัวอย่างชัดเจนว่าสนใจฉัน เสนอตัวช่วยงาน ของฝาก ดอกไม้ กระทั่งเลี้ยงข้าว ในทีแรก ฉันไม่ได้แสดงทีท่าว่าชอบเขา แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเกลียด ในที่สุดฉันก็พ่ายแพ้ต่อความดีและความสม่ำเสมอของเขา ฉันพึ่งรู้ในตอนหลังว่าเขามีฐานะการงานในบริษัทค่อนข้างสูง แต่น่าเสียดายที่มีบางอย่างที่ฉันพึ่งรู้หลังจากนี้เหมือนกัน เมื่อเราตกลงเป็นแฟนกัน เขาทุ่มเท รับส่ง เอาใจฉัน ทำราวกับฉันเป็นเจ้าหญิง นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดี เขาไม่สูบบุหรี่ และชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน ดูเหมือนว่าอะไรๆของเราคล้ายกัน เขาดูเป็นผู้ใหญ่ที่ปกป้องฉันได้ ฉันคิดไกลไปถึงอนาคตที่เราจะแต่งงานกัน ฉันไว้ใจ ให้ใจอย่างไม่มีเหลือ รักคือ…ความซื่อสัตย์ ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ก้อคงไปด้วยกันไม่ได้ รักคือ…ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจกันก็จะทำให้ทะเลาะกัน…

รัก วาเลนไทน์
รักข้ามมิติ อ่านต่อ

รักข้ามมิติ

เรื่องยาว 14 October 200616 June 2019

ชายชราสีหน้าเปื้อนยิ้ม เสยผมที่ขาวโพลน ก่อนเอ่ยปากเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี “ข้าอกหัก” ผู้ที่ใครๆรู้จักในนามลุงมา ผ่านโลกมาแล้วกว่า ๖๐ ปี กว่าครึ่งของอายุแกใช้ชีวิตในชุดสีเขียวเข้ม นั่นคือ เครื่องแบบทหาร ไม่ใช่ข้าราชการทหารทั่วไป แต่ทว่า แกคือทหารป่าลาดตระเวน เมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว แกถูกเกณฑ์ทหาร ไม่ต้องรอให้ใครบังคับ แกเลือกที่จะสมัครไปเป็นทหาร แกเชื่อว่าแกเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ และแกจะซื่อสัตย์ต่อคำตอบท่ีเคยตอบครูไปเมื่อสมัยอนุบาลว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร นักเรียนชายเกือบทั้งห้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากเป็นทหาร แต่เอาเข้าจริง เห็นมีแกอยู่คนเดียวที่สมัครเป็นทหาร ลุงมาเข้ารับการฝึกซ้อม เป็นทหารผู้มีระเบียบวินัยเคร่งครัดคนหนึ่ง เมื่อจวนเจียนจะครบกำหนด ๒ ปีที่ต้องอำลาชีวิตทหาร เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติที่ชายแดน ทหารทุกหน่วยถูกเรียกให้ไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ นั่นรวมถึงลุงมาด้วย เลือดนายทหารผู้พึ่งผ่านการฝึกฝนอย่างทรหดปะทุเต็มที่ เหตุการณ์ไม่ปกติกลับเข้าสู่ความปกติภายใน ๑ เดือน ทหารฝ่ายลุงมาได้รับชัยชนะ แต่ต้องสูญเสียทหารหาญไปมิใช่น้อย ศพนายทหารหาญทุกนายล้วนถูกลำเลียงมาบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ ทุกอย่างเกือบจะปกติ แต่เมื่อตรวจเช็คตามรายชื่อ มีชื่อตกหล่น ลุงมา ยังไม่กลับมา ลุงมามีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตแล้ว ไม่มีใครทราบ แต่ทุกคนมีความเห็นอย่างเดียวกันว่า เสียชีวิตแล้ว ในการบำเพ็ญกุศลศพนายทหารหาญครั้งนั้น จึงมีรูปลุงมาตั้งอยู่ แต่ไม่ปรากฏศพ “ลุงไปอยู่ไหนมา” ผู้ที่รอคำตอบอย่างจดจ่อ คือ ทิดลั่น ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองหน้าไปยังท้องทุ่งอันเขียววจี ต้นตาลริมถนนที่มุ่งหน้าไปยังทุ่ง ตั้งเป็นแถวเรียงราย สายลมพัดต้นข้าวโอนเอนราววงดุริยางค์ประโคมดนตรีขับขาน “ข้าหนึข้าศึกเข้าป่าใหญ่ แต่แกรู้ไหม ที่ป่าใหญ่นั้นมีอะไรรอข้าอยู่” “ไม่รู้” “ข้าได้พบกับโลกใหม่” “ยังไงละลุง” “ที่นั่นนะ ผู้คนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ถักกันเองอย่างเรียบๆ ปลูกบ้านหลังเล็กๆ ทั้งหมู่บ้านไม่น่าจะถึง ๕๐ คน ทุกคนล้วนสื่อสารด้วยภาษาที่ข้าไม่เข้าใจ” “แล้วลุงทำไง” “ข้านั่งอยู่สักพัก เขาก็เอาผลไม้มาให้ข้า คล้ายๆลูกพุทรานะ แต่ลูกใหญ่เท่าส้มโอ” “โอ้โห..แล้วรสชาติเป็นไงลุง?” ทิดลั่นทำท่าตื่นเต้น “เหมือนมันแกว แต่หวานกว่า” “แล้วไงต่อ..ลุง” “ข้าใช้ชีวิตที่นั่นตามวิถีของคนที่นั่น ข้าลืมบ้านเมืองเราโดยสิ้น เพราะที่นั่นไม่มีเสียงรถ เสียงก่นด่า ไม่มีข่าวโหดร้าย ไม่มีคนโกง ไม่มีคำหยาบ ไม่มีควันบุหรี่ ไม่มี..” “พอๆๆ ลุง แล้วลุงอยู่ได้เหรอ ก็ไอ้ที่ไม่มีๆที่ลุงพูดมานั่นนะ มันมีในตัวลุงทั้งนั้นเลยนา”…

รัก

น้องพฤกษ์

say, สุขกะภาพ 31 May 201520 March 2020

น้องพฤกษ์เป็นลูกชายขององอาจ เพื่อนข้างๆบ้านนี่เอง ถ้าผมมีลูก ก็จะไล่เลี่ยกันกับน้องพฤกษ์นี่แหละครับ กำลังน่ารักน่าชังน่าตี และซุกซนตามประสาเด็ก เรื่องที่เคยกังวลว่า จิ๊กกี๋จะเป็นปัญหาหรือจะรังแกน้องหรือไม่นั้น ดูจากภาพนี้คงหายกังวลครับ ปกติกี๋จะหวงบ้านมาก แต่วันนี้น้องพฤกษ์เดินต๊อกแต๊กๆ เข้าบ้าน นอกจากกี๋จะไม่เห่าแล้ว ยังเดินตามมาส่งกระดิกหางดุกดิกหมามันฉลาดครับ, มันรู้ใครมาดี ใครมาร้าย “จิตใจแม้จะซ่อนไว้ข้างใน แต่หมามันรู้ครับ“

Thank You

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 7 August 2008

ได้หนังซีรีส์เกาหลี เรื่อง Thank You (ชื่อไทยไม่รู้ชื่ออะไร)มาจากที่ทำงาน เป็นแผ่นดีวีดี 5 แผ่นๆ หนึ่ง ประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ   ตั้งใจจะลองดูสักแผ่น อยากรู้ว่าละครเกาหลี แตกต่างจากละครไทยเรามากมั้ย เบื่อละครไทยเต็มที เน่าจนไม่รู้จะเน่าอย่างไร ทำซ้ำไปซ้ำมา ก็อปปี้บท ก็อปปี้เนื้อหา จนเอียนจนเลี่ยน จนไม่อยากจะดูละครไทยอีกแล้ว :p   เอาละ..บ่นละครไทยเป็นหอมปาก วกกลับมาที่ละครเกาหลีใหม่..   เรื่อง Thank You เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงบ้านนอกวัย 6 ขวบคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กธรรมดา แต่อยู่มาวันหนึ่งมีเรื่องราวที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว.. เธอประสบอุบัติเหตุ ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ด้วยความผิดพลาดของหมอ ทำให้เธอได้รับเชื้อเอดส์มา !!   เด็กหญิงซื่อๆ น่ารักๆ ช่างพูดจา เป็นที่รักของแม่ และทุกคนในหมู่บ้าน ได้รับเชื้อเอดส์โดยไม่รู้ตัว แต่แม่ของเธอทราบจากหมอ หัวใจแทบสลาย แต่ก็พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ลูกน้อยได้อยู่ในโลกนี้นานที่สุด และมีความสุขที่สุด   เธอเลือกที่จะไม่บอกใคร แม้แต่ลูกเอง ไม่บอกคนในหมู่บ้าน แต่ก็สอนลูกว่า ถ้ามีอุบัติที่โรงเรียนถึงขั้นเลือกออก ห้ามขอความช่วยเหลือจากใคร ห้ามให้ใครเห็นเลือดเด็ดขาด โดยโกหกว่า เธอเป็นนางฟ้าจากสวรรค์มาจุติ ไม่สามารถให้คนธรรมดาเห็นเลือดได้ และเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามบอกใครเด็ดขาด   เด็กหญิงก็เชื่ออย่างนั้นตามประสาเด็ก..   เด็กคนนี้เป็นเด็กที่โชคร้าย เพราะนอกจากได้รับเชื้อ เอซ ไอ วี มาแล้ว พ่อของเธอก็ยังไม่ปรากฏว่าเป็นใคร คือ เป็นเด็กที่ท้องไม่มีพ่อ ต้องอยู่กับแม่ แม่ต้องส่งเสียน้องชายเรียน และเลียงดูตาที่ความจำเสื่อม แถมต้องดูแลลูกที่มีเชื้อเอซ ไอ วี อีกด้วย..   อีกด้านหนึ่ง หมอ(เป็นผู้หญิง) ที่ทำผิดพลาดให้เด็กหญิงต้องได้รับเชื้อเอดส์นั้น รู้สึกผิดมาโดยตลอด อยากจะเข้าไปขอโทษ อยากจะอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษ แต่เธอไม่สามารถทำได้ เมื่อตรวจพบว่าตัวเธอเองเป็นมะเร็งในตับอ่อน จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน แต่ก่อนเธอจะสิ้นใจนั้น เธอได้ฝากบอกแฟนของเธอ ให้ช่วยสานฝันของเธอ ช่วยไปสารภาพผิดต่อเด็กหญิงผู้โชคร้ายคนนั้น..   เรื่องราวต่างๆก็เกิดขึ้นจากจุดนี้ครับ…..

อ่านต่อ

สำราญมากเว่อร์…เมื่อได้มาเที่ยวที่หาดเจ้าสำราญ

ท่องเที่ยว 5 August 201814 June 2019

มีเวลาพักแค่เพียงน้อยนิดแต่อยากเที่ยวทะเล เล่นน้ำให้ชื่นใจ สูดกลิ่นอายธรรมชาติ โอบล้อมด้วยหาดทราย สายลม น้ำทะเล ไม่ต้องเสียเวลาหาโปรแกรมเที่ยวให้เหนื่อย แนะนำให้มาที่หาดเจ้าสำราญ เพราะให้ความสำราญเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจใน 1 วันมากจริงๆ แต่ถ้าใครมาเที่ยวแล้วเกิดอาการอินบรรยากาศดีๆ และอาหารอร่อยๆ จนต้องค้างคืนเพื่อดื่มด่ำความสุขต่อไปก็สามารถ กดคลิก จองที่พักหาดเจ้าสำราญกับ Traveloka ก่อนเดินทางได้เลย รับรองว่าเที่ยวได้เพลินๆ เรื่องที่พักไม่ต้องกังวลอีกต่อไป “หาดเจ้าสำราญ” ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นชายหาดสีนวลสะอาดตาความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร โดยหาดเจ้าสำราญเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ มาแต่สมัยโบราณ โดดเด่นชวนประทับใจด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย มีสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ทั้ง ปูเสฉวน หอย แมงกะพรุน อีกด้านหนึ่งติดภูเขา มีบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยรอบโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย อากาศช่วงค่ำเย็นสบาย ได้กลิ่นไอทะเลช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายพร้อมที่พักหลากหลายสไตล์ให้เลือกมากมาย เริ่มด้วยการเดินทาง สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพ บอกเลยว่าสะดวกมากๆ เพราะมีวิธีการเดินทางให้เลือกถึง 4 วิธี ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เข้าสู่อำเภอปากท่อ จากนั้นแยกเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี และจากอำเภอเมืองเพชรบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3177 ผ่านสถาบันราชภัฎเพชรบุรี ไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร จะผ่านสถานีตำรวจภูธรหาดเจ้าสำราญ เมื่อถึงสี่แยกให้ตรงไปก็จะถึงหาดเจ้าสำราญ ส่วนรถโดยสารประจำทางแนะนำให้ไปใช้บริการจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี สำหรับใครที่ชอบควรรวดเร็วสามารถเลือกใช้บริการรถตู้ได้เช่นกัน โดยรถตู้ สายอนุสาวรีย์ชัย – เพชรบุรี วิ่งตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 หรืออยากเดินทางแบบชิลล์ๆ ก็ขึ้นรถไฟได้จ้า มีรถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) และสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ให้บริการหลายขบวน ทั้งรถธรรมดา รถด่วน รถเร็ว และรถด่วนพิเศษ นั่งรถกันมาอาจจะเมื่อยล้าบ้างอะไรบ้าง แต่ทันทีที่มาถึงหาดสำราญ ความเหน็ดเหนื่อยน่าจะลดน้อยถอยลงกว่าครึ่ง เพราะมีความสวยงามของหาดมาดึงดูดความประทับใจไปแทน ด้วยบรรยากาศสงบเงียบ ร่มรื่น ชวนเย็นตาและสบายอารมณ์ แถมชายหาดแห่งนี้ยังมีความพิเศษเนื่องจากทรายถูกพัดถมขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีทรายที่ละเอียดมากในส่วนของต้นหาด เหมาะแก่การถอดรองเท้าเดินทอดน่องย่ำทรายพร้อมเดินรับลมชมวิวเป็นที่สุด นอกจากนี้ด้วยธรรมชาติที่งดงามอันมีทิวสนน้อยใหญ่ตลอดแนวหาดจึงเหมาะแก่การมาปูเสื่อนั่งรับลมฟังเสียงคลื่นชิลล์ๆ หรือจะสั่งอาหารทะเลอร่อยๆ บริเวณหาดเจ้าสำราญก็มีร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงของกินเล่น…

หาดเจ้าสำราญ

'สาระแนสิบล้อ' ติดอันดับหนังเสียดายตังค์แห่งปี

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 April 2010

พอดีไปอ่านบทวิจารณ์หนังเรื่อง “สาระแนสิบล้อ” มา  ก็เลยรู้สึกเห็นด้วย เพราะพึ่งไปดูมาเหมือนกัน !! เขาวิจารณ์ประมาณนี้อ่ะครับ “..ที่หนังโปรโมตตัวเองว่า “มีบท” นั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้จริงจังอะไร คือโดยตัวหนัง มันก็มีหัวมีท้าย แบบว่าจะเริ่มเรื่องยังไงและจะไปจบตรงไหนยังไง พูดง่ายๆ ก็คือหนังเขียนบทไว้แบบหลวมๆ เพื่อจะอัดสถานการณ์พิลึกพิลั่นลงไป เปรียบเทียบกัน มันก็คงคล้ายๆ กับหนังของของคุณหม่ำ จ๊กม๊ก อย่าง “วงษ์คำเหลา” ที่คิดพล็อตคร่าวๆ ให้มันมีตอนต้นตอนท้าย แล้วในระหว่างทางก็ “ตบมุก” ไปเรื่อยๆ หรือถ้าจะพูดให้ชัดขึ้น ผมว่า บางที ทีมสาระแนอาจจะแจ่มแจ้งแก่ตัวเองดีว่าไม่มี “ความสนใจ” มากพอที่จะสร้างสรรค์หนังที่ดีๆ เนียนๆ ได้ ก็เลย “หาทางออก” ด้วยการเลือกที่จะทำมันออกมาในลักษณะแบบบ้าๆ บวมๆ และมั่วแหลกกันไปเลย และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความหลุดโลกสุดเพี้ยน เพี้ยนตั้งแต่เนื้อหาที่พ่วงมากับวิธีคิดแบบทื่อๆ ตื้นๆ อย่างเช่น การจะเป็นลูกผู้ชายได้ต้องใช้ชีวิตหยาบๆ เถื่อนๆ อย่างการไปเที่ยวซ่อง หรือใช้กำลังตัดสิน (กระทืบคนแก่!!) เพี้ยนทั้งตัวละครและสิ่งของ ที่มีตั้งแต่ “แฝดนรกหัวติดกัน” (เสนาหอย, โก๊ะตี๋ อารามบอย) หรือแม้แต่รถสิบล้อที่กลายร่างเป็นหุ่นยนต์คนเหล็ก (ยืมวิชามาจาก Transformers แบบเต็มๆ) และเพี้ยนแม้กระทั่งสถานการณ์ในเรื่อง อย่างเช่น มีดกระเด็นไปเฉาะปากของน้าเชจนฟันหน้าหลุดหลอ, มีดเล่มเดิมนั้นผ่าลงหัวของคู่แฝดทำให้ทั้งคู่หลุดออกเป็นอิสระจากกัน และที่ต้องบอกว่า “บ้า” อย่างสุดกู่ ก็คือผีสาวเข้าสิงรถสิบล้อแล้วทำให้รถสิบล้อพูดได้แถมร้องไห้ซิกๆ นั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิด กว่าจะได้ไอเดียนี้มา (อันนี้ไม่ได้แขวะนะครับ แต่ทึ่งจริงๆ ว่าคิดได้ไง)..” สรุปง่ายๆว่า..เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้ว รู้สึกสึกเสียดายตังค์มากกกกๆๆ ..และตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ดูหนังของค่าย Luck film อีกแล้ว

อ่านต่อ

จุดเปลี่ยนของชีวิต..คุณลิขิตเองได้(นะ)

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 29 January 201030 June 2016

ผมชอบดูรายการที่เขาสัมภาษณ์คนใหญ่คนโต หรือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต คำว่า คนใหญ่คนโต ไม่ใช่เฉพาะ นายกรัฐมนตรี, สส. หรือคนร่ำรวมมหาศาลอย่างเดียว แต่หมายถึงคนที่มีความสุขในชีวิต มีอาชีพที่มั่นคง และได้ชื่อว่าประสบแล้วซึ่งความสำเร็จในชีวิต รายการแบบนี้มีน้อยเต็มทีในทีวีบ้านเรา เห็นมีเจาะใจที่ยังยืนยันยึดมั่นทำรายการแบบนี้มา ส่วนวู้ดดี้ เป็นรายการสัมภาษณ์เช่นกัน แต่สัมภาษณ์ดารา อิงกระแส เน้นถามแรงๆ แปลกๆ .. ส่วนสาระนั้นแทบไม่มี เมื่อวานนี้ผมได้ดูรายการสัมภาษณ์แบบนี้ 2 รายการ ไหนๆ ก็บอกไว้แล้วว่ารายการทำนองนี้มีสาระ ก็จึงต้องหาสาระจากการดูมาเล่าสู่กันฟังซะหน่อย รายการแรกบังเอิญได้ดูเมื่อตอนหัวค่ำ คม ชัด ลึก โดยพิธีกรน่ารัก อายุเท่ากันกับผม จอมขวัญ กัลยา แกได้ไปสัมภาษณ์คุณประเสริฐ รุ่งโรจน์ ผู้เป็นเจ้าของหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ” คำว่าแกะดำในความหมายของคุณประเสริฐ คือ การทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามคนหมู่มาก การสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่ชีวิต การเลี้ยวขวาขณะที่คนหมู่มากเลี้ยวซ้าย ไม่ใช่คนขวางโลก แต่เป็นการคิดและการทำอย่างมีเหตุผลซึ่งแกทำและประสบความสำเร็จมากว่า 20 ปีแล้ว ..แกะดำของคุณประเสริฐน่าสนใจมั้ย? คุณประเสริฐเริ่มต้นชีวิตการทำงานจากศูนย์ แกจบวิศวะ แต่มาเริ่มทำงานด้านโฆษณาตอนอายุ 29 แกเริ่มต้นงานโฆษณาจากศูนย์จริงๆ เพราะแกไม่รู้จักกระทั่งคำว่า “อาร์ตเวิร์ก” คืออะไร แต่ 2 ปีผ่านไปทุกอย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จอย่างล้นลามอย่า่งในปัจจุบัน จุดเปลี่ยนของคุณประเสริฐคือ ตอนที่ท่านประสบอุบัติเหตุ ต้องนอนนิ่งๆอยู่ในห้องไอซียูถึง 3 อาทิตย์ ตรงนั้นเองทำให้ท่านคิด และพิจารณาถึงวงจรชีวิตที่เป็นวงกลมอันนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จากหลังมือเป็นหน้ามือ คุณประเสริฐบอกว่า คีย์เวิร์ดสำคัญของการประสบความสำเร็จ คือ การตั้งคำถามอย่างถูกต้อง การตั้งคำถามอย่างถูกต้อง จะนำไปสู่การหาคำตอบที่ถูกต้องเช่นกัน เมื่อตั้งคำถามผิด คำตอบก็จะหาไม่ได้ เมื่อไม่ได้คำตอบในชีวิต การดำเนินชีวิตจะดีได้อย่างไร แกะดำ ไม่ได้สอนให้ทำธุรกิจด้วยตัวเองอย่างเดียว แต่สอนให้รู้จักคิดต่าง เพื่อสร้างความสุขในชีวิต ในหน้าที่การงาน ให้ออกจากวงกลมของชีวิตของแกะขาว กล่าวคือ ตื่นเช้า ไปทำงาน พักเที่ยงกินข้าว เย็นกลับบ้าน นอน เช้าวันใหม่ ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ..นั่นคือ แกะขาวของคุณประเสริฐ จากการได้ดูการสัมภาษณ์ ทำให้ผมเริ่มอยากรู้จักวิถีชีวิตของแกะดำมากขึ้น วันนี้เลยสั่งซื้อหนังสือของคุณประเสริฐมา 1 เล่มก่อน…

แกะดำ
อ่านต่อ

KMUTNB Run Walk 2017

วิ่ง, สุขกะภาพ 21 August 20172 November 2017

เป็นรายการวิ่งที่พลาดเมื่อปีที่แล้ว เพราะตรงกับรายการวิ่งบนทางด่วนศรีรัช ปีนี้เลยบอกน้องที่หมู่บ้านไปว่า ถ้าหาเบอร์วิ่งได้หาให้ด้วย และเมื่อถึงวันวิ่งน้องก็หามาให้จนได้สมใจ

กาลามสูตรบอกว่าอย่าเชื่อ..เพราะ..!!??

เรื่องทั่วไป 22 January 2010

ช่วงนี้มีข่าวแปลกๆ เกิดขึ้นทางภาคเหนือ และกำลังจะแพร่ระบาดไปในภาคอื่นๆ นั่นคือ ข่าวเรื่อง “โทรศัพท์มรณะ” เชื่อกันว่า หากมีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ เป็นเลขตองเรียงกันโทรเข้ามา หากรับสายจะตายทันที!! ฟังดูเป็นเรื่องเหลวไหลและหาเหตุผลไม่ได้เลย แต่ทางภาคเหนือก็เชื่อกันอย่างเป็นตุเป็นตะ เป็นคุ้งเป็นแคว ขนาดมีการปิดป้ายเตือนกันตามที่ต่างๆ และมีการบอกต่อด้วยความหวังดีอย่างแพร่หลาย ผมไม่แน่ใจว่ามีคนตายจากการรับโทรศัพท์บ้างรึยัง ชาวบ้านถึงกลัวกันขนาดนี้ หรือตาย ก็อาจจะตายด้วยสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่เพราะรับโทรศัพท์แน่ๆ แต่อาจจะบังเอิญ พอเหมาะพอเจาะกับก่อนหน้านั้นคนตายได้รับโทรศัพท์จากเบอร์แปลกๆอีกด้วย เรื่องราวก็เลย เลยเถิดกันไปใหญ่.. เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ถ้าใช้หลักของพระพุทธศาสนา ก็จะสามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งไหนควรเชื่อ และสิ่งไหนไม่ควรเชื่อ ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยพุทธกาล ก็มีเรื่องราวทำนองนี้ เรื่องมีอยู่ว่า คนกลุ่มหนึ่งได้ทูลถาม สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงข้อที่เขากำลังงงไปหมด โดยไม่อาจจะทราบได้ว่า ข้อปฏิบัติอย่างไร จะเป็นไปเพื่อความดับทุกข์โดยตรง ครูบาอาจารย์ หรือศาสดาพวกนี้มาก็สอนได้อย่างหนึ่ง พวกโน้นมาก็สอนอีกอย่างหนึ่ง จนมากมายหลายพวกด้วยกันจนงง จนไม่รู้ว่าอันไหนจะเป็นที่เชื่อถือได้ ขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้า ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัส ตอบคนเหล่านั้นว่า อย่าได้เชื่อถือด้วยเหตุผลต่างๆดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกต่อๆกันมา อย่าได้เชื่อ ถือ โดยเหตุที่สักแต่ว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ทำตามๆกันมา อย่า ได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันเล่าลือกันกระฉ่อนไปหมด แล้วมันต้องเป็นความจริง อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันมีอ้างไว้ หรือเขียนไว้ในตำรับตำรา อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการเดาของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการตรึกเอาตามเหตุผลส่วนตัวของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือ ด้วยความคาดคะเนของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือว่า นี่มันเข้ากันได้กับลัทธิ ที่เรากำลังปฏิบัติอยู่เป็นประจำ อย่า ได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ผู้พูด ผู้กล่าว ผู้สอนนั้น อยู่ในฐานะที่พอจะเชื่อถือได้ อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ท่านผู้กล่าว ผู้สอนนั้นเป็นครูบาอาจารย์ของเรา ทั้ง  10 ข้อนี้เรียกว่า กาลามสูตร ถ้ามีสติปัญญา พิจารณาด้วยเหตุและผล ก็จะเห็นได้ว่า สิ่งไหนควรเชื่อ และสิ่งไหนเป็นสิ่งไร้สาระ แต่ในปัจจุบันสิ่งลวงตามีมากกว่าก่อนเยอะ หลายเรื่องเราไม่สามารถแยกแยะได้จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องที่คุณนักการเมืองที่เคารพทั้งหลาย ออกมาพูดกันก่อนเลือกตั้งให้เราเคลิ้มเนี่ยะ แยกไม่ออกจริงๆ ว่าอันไหนจริง อันไหนโกหก อันไหนทำได้…

อ่านต่อ

เที่ยวสัตหีบ หาดเตยงาม อ่าวดงตาล

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 10 July 201917 March 2020

ทะเลที่ไม่ไกลกรุงเทพมากนัก เดินทางไปสะดวก ที่สำคัญทะเลสวย น้ำใส สะอาด และสงบ ขอแนะนำที่นี่เลยครับ หาดเตยงาม สัตหีบ  น้ำทะเลใสมาก..ถ้าจะเล่นน้ำทะเล ก็สามารถลงเล่นได้เลยที่หาดเตยงาม แต่ถ้าจะนั่งชิวริมทะเล บรรยากาศสบายๆ นั่งทานข้าวชมวิวสวยๆ แนะนำอ่าวดงตาล ผมเดินเล่นจากหาดเตยงาม และขับรถต่อไปอีกนิดเดียวก็ถึงอ่าวดงตาล เวลาตอนเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตก เป็นบรรยากาศที่สบาย วิวสวยมากครับ อ่าวดงตาล เป็นชายหาดที่อยู่ในพื้นที่ของกองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ แต่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปเที่ยว พักผ่อนได้ บริเวณริมอ่าวมีต้นสนและ ต้นตาลสูงเรียงรายเป็นแถว ที่ปลูกไว้อย่างหนาแน่นจนกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชายหาดแห่งนี้ และเป็นที่มาของชื่ออ่าวดงตาล

สัตหีบ หาดเตยงาม อ่าวดงตาล

ตรุษเลนไทน์

บ้านบ้าน, ไดอารี่ 15 February 2010

วันอาทิตย์อันเป็นวันตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ ผมมีนัดต้องไปทำสัญญาซื้อบ้านกับพฤกษาทาวน์ !! ทางเซลล์โดยคุณปรีชา นำเอกสารสำหรับกู้ธนาคารมาให้ 4- 5 ธนาคาร งานนี้กรอกเอกสารกันมือหงิก หงิกจริงๆ ..ธนาคารที่เสนอกู้ มีธอส. , ไทยพาณิชย์ , ออมสิน และ นครหลวงไทย แต่ละธนาคารมีรายละเอียดที่ต้องกรอกไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะให้กรอกมาก  ต้องขอเอกสารนำมากรอกรายละเอียดที่บ้านกันเลยทีเดียว ก่อนจะกรอกเอกสารขนาดมหึมา และเซ็นต์กำกับเอกสารต่างๆนานาๆ ขอหาอะไรรองท้องก่อน แวะร้านไก่ตระกร้า สั่งๆ ๆๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา พอทุกอย่างมาครบบนโต๊ะ..โอ๊ะแม่จ๋า นี่จะกินกันแค่ 2 คนจริงๆเหรอ!!! จากมื้อเที่ยงอันหฤโหด ดิ่งมานั่งกรอก และเซ็นต์เอกสารจนพลบค่ำ นำเอกสารไปยังโครงการพฤกษาทาวน์ วันนี้เสียค่าทำสัญญาไป 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) จากนี้อีก 7 วัน รอฟังข่าวจากเซลล์ว่าธนาคารไหน จะให้กู้เท่าไร ให้กี่เปอร์เซ็นต์ ทำธุรกรรมเกี่ยวกับบ้านเสร็จ วันนี้มีนัดทานข้าวเย็น กับชมรม คน น. หนู อันประกอบด้วย นัท น้อง นงค์ น้อย(แม่นัท) นกและผม  เป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่าง ทานกันจนพุงกาง หน้ามัน จนร้านปิด ห้างปิด ..  สรุปว่าวันนี้ ทานหนักทั้งมื้อเที่ยงและมื้อค่ำ ออกกำลังกายทั้งอาทิตย์ น้ำหนักหายไป 2 โล ตรุษจีนวันเดียวโผล่มาอีก 5 ..เฮ้อ

กิจกรรมใหม่..รับปี 2554

ไดอารี่ 17 January 2011

เริ่มมีเสียงหนาหูขึ้นว่า ผมอ้วน แรกก็รู้สึกเฉยๆ อ้วนขึ้นก็ดีจะได้มีบุคลิกไปอีกแบบ แต่เอาเข้าจริงมันชักจะรับไม่ได้ เพราะร่างกายก็จะดูไม่ฟิต ทำอะไรเหนื่อยง่าย เสื้อผ้าก็แน่น ฯลฯ บวกกับตั้งแต่เข้าสู่ปีใหม่มายังไม่มีกิจกรรมอะไรที่ทำให้เป็นพิเศษเพื่อตัวเอง จึงคิดกิจกรรมเพื่อตัวเองขึ้นอย่างนึง นั่นคือ “กิจกรรมรีดน้ำหนักภายใน 1 เดือน” กิจกรรมก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่จะลดอาหารมื้อเย็น หรือทานเพียงผักและผลไม้ และจะออกกำลังกายทุกวัน ถ้าไม่ได้ออกวิ่งตอนเช้า ก็ต้องออกวิ่งในตอนเย็น ถ้าไม่ได้วิ่งเย็น ก็ต้องวิ่งเช้า .. กิจกรรมนี้จะทำต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือนเพื่อประเมินผลก่อน และหากได้ผลดีไม่ลำบากจนเกินไป จะทำต่อไปเรื่อยๆ ที่สำคัญและที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้น จะเริ่มต้นเมื่อไร และเริ่มต้นได้ไหม.? โอกาสหน้าจะมาแจ้งให้ทราบ สวัสดีปีใหม่ 2554

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (50)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (62)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH