Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

รัก

อ่านต่อ

จส.100 รัก

เรื่องสั้นสั้น 6 February 201431 July 2015

เบื้องหน้าของเขาคือถนน 3 เลนที่คลาคล่ำด้วยฝูงรถซึ่งกระเถิบกันไปเต็มพื้นที่ถนนจนหาเลนไม่เจอ ใช้คำกิริยาว่า “กระเถิบ” คงไม่ผิดนัก เพราะรถค่อยๆ ไปทีละสเต็ป ช้ากว่ารถมอเตอร์ไซต์หรือแม้แต่จักรยาน ดีกว่าหน่อยตรงที่มีแอร์เย็นๆ และเพลงเพราะๆ  เขาเลือกที่จะฟังช่องรายงานจราจรแทนที่จะฟังเพลง  มิใช่เพราะอยากรู้เส้นทางไหนรถติดจะได้หลีกเลี่ยง หรือใคร่รู้ในข่าวสารจราจร เขาเพียงอยากได้ยินเสียง ‘เธอ’ ในทุกๆเช้าที่ขับรถฝ่ารถติดไปทำงาน! เวลา 07.00 น. จนถึง 09.00 น. เขาจำช่วงเวลาที่เธอจัดรายการได้ดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องนั่งนิ่งๆอยู่บนรถในถนนอันคับแคบ เขาเฝ้าฟังคนที่โทรไปรายงานผลจราจรจากจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพ น้ำเสียงที่เธอเจรจากับแท็กซี่ หน่วยกู้ภัย ตำรวจจราจร หรือแม้แต่คนทั่วๆไปที่โทรมารายงานผล ช่างไพเราะ น้ำเสียงสดใส แฝงด้วยความเป็นห่วงใยเมื่อสมาชิกโทรมาแจ้งอุบัติเหตุ เธอช่วยติดต่อประสานงานให้ผู้ใช้รถบนท้องถนนที่ประสบปัญหา สามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดี เธอ คือ ‘นางฟ้าจราจร’ เขาเฝ้าฝันสักครั้งหนึ่ง อยากจะโทรเข้าไปในรายการบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโทรไปรายงานผลอะไร รายงานผลจราจรรึ? เขากังวลที่จะใช้ศัพท์เทคนิคทางจราจร ไม่ว่าจะเป็นขาเข้า ขาออก รถขาเข้าคือทางไหน และรถขาออกคือจากไหนออกไปไหน แล้วถ้าเธอถามกลับมาว่า เราอยู่ในช่วงไหน เราจะตอบเธอยังไงดี? ช่วงกำลังรัก หรือช่วงกำลังคิดถึง ถ้าเธอไม่ตลกกับมุขนี้ละ? เราไม่เก่งเรื่องการจราจร รู้แต่ว่า ณ จุดตรงนี้รถติด แต่ข้างหน้าอีก 100 เมตร 200 เมตร หรือ 500 เมตรจะติดไหม? ถ้ารถไม่ติด แต่เราแจ้งว่าติดจะผิดไหม? เรื่องจะโทรรายงานผลจราจร เป็นอันต้องยกเลิกความคิด รายงานอุบัติเหตุ  ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นรถกระบะชนท้ายรถเก๋ง ส่งผลให้รถติดเพิ่มความติดทวีคูณยิ่งหนักกว่าเดิม คู่กรณีทั้ง 2 ยังไม่ยอมเอารถออกจากจุดเิกิดเหตุ ต่างโยนความผิดใส่กันไปมา ต้องรอตำรวจมาเจรจาตั้งนานสองนาน รถจากถนน 3 เลนเหลือ  2 เลน ค่อยๆขยับไปจนถึงจุดเกิดเหตุ เขาพยายามเพ่งมองความเสียหายที่เกิดจากการเฉี่ยวชน มีเพียงรอยถลอกเล็กๆจากกันชนหน้า แผลเท่านี้เอาน้ำฉีดแรงๆ ก็หาย แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ยอม เขาละอายที่จะโทรแจ้งอุบัติเหตุที่เล็กน้อยแต่ส่งผลให้รถติดได้มหาศาลนี้ และเขาช้ากว่าคนอื่นเสมอ ไม่นานจากเหตุเกิดเขาได้ยินเสียงคนโทรเข้าไปรายงานผลแล้ว เขาคงเหมาะที่จะฟังเธออย่างเดียวจริงๆ สักครั้ง เขาอยากจะฟังเสียงเธอที่คุยกับเขา ไม่ใช่ฟังเธอผ่านวิทยุอย่างนี้ แว่บความคิดหนึ่งเกิดขึ้น เขารีบหยิบโทรศัพท์ รู้สึกมีความสุขเมื่อกดหาเบอร์ที่คุ้น แต่ไม่เคยกดหาแม้แต่ครั้งเดียว…

จราจร จส.100 รัก
อ่านต่อ

รักข้ามมิติ (ตอนจบ)

เรื่องยาว 18 July 201116 June 2019

ในค่ำคืนแห่งวันที่พระจันทร์เต็มดวง ทิวเขายามสัมผัสกับแสงแห่งพระจันทร์ดูราวกับเงาปีศาจยืนเรียงราย

รัก
รักหาย..วาเลนไทน์เดย์</strong data-lazy-src=

รักหาย..วาเลนไทน์เดย์

เรื่องสั้นสั้น 13 February 200931 July 2015

ความรัก..ขณะที่ฉันเฝ้าหามาแสนนาน จนถอดใจ แล้วอยู่ๆ มันก็เป็นฝ่ายมาหาฉันเอง เหมือนวิ่งไล่เงาตัวเอง ยิ่งวิ่งตาม ยิ่งไกลออกไป พอหยุดมันก็อยู่ใกล้ๆนี่เอง มีคนให้คำนิยามความรักไว้มากมาย บ้างก็ว่าเหมือนไฟที่ใกล้ก็ร้อน ไกลก็หนาว รักคือ…ความซื่อสัตย์ ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ก้อคงไปด้วยกันไม่ได้ รักคือ…ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจกันก็จะทำให้ทะเลาะกัน รักคือ…อิสระ ถ้าเราไม่ให้อิสระกับคนที่เรารัก คนที่เรารักเขาก็จะไม่รักเรา รักคือ…การเสียสละ ถ้าเราเสียสละแล้วทำให้เขามีความสุขก็ต้องเสียสละ รักคือ…การให้ ให้ในสิ่งที่เราคิดว่ามีเขาความสุข ฯลฯ รักครั้งแรกของฉันเกิดขึ้นเมื่อฉันก้าวสู่รั้วมหาลัย..ชายคนนั้นที่ฉันไม่กล้าแม้จะเดินผ่าน ฉันมีความสุขในสมุดบันทึกที่ได้มีเขามาร่วมบันทึกไว้ด้วย ฉันเขียนถึงเขาวันแล้ววันเล่า จนรู้สึกเหมือนว่าเขาได้มาเป็นแฟนฉันแล้วจริง ๆ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า เมื่อเรามีใจจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ สิ่งนั้นจะกลายเป็นจริง ในที่สุดเมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 สิ่งที่ฉันจดจ่อมาตลอดก็กลายเป็นจริง ด้วยความบังเอิญที่เหมือนกามเทพดลใจ เขากับฉันอยู่ในกลุ่มที่ต้องทำรายงานด้วยกัน ในกลุ่มมี 4 คน สองคนต้องทำงานคู่ไปกับการเรียน จึงไม่มีเวลามาช่วยงานกลุ่ม มีเพียงเขาและฉัน..และนั่นคือจุดเริ่มต้น เขาเริ่มออกจากสมุดไดอารี่มาสู่ชีวิตจริงของฉัน ยิ่งรู้จักกันมากขึ้น ฉันยิ่งรักเขามากขึ้น ขณะเดียวกันความรู้สึกเล็กๆที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อนก็เกิดขึ้นด้วย ฉันเริ่มรู้สึกว่า ฉันเกลียดเขา!! ความใกล้ชิดทำให้ฉันรู้ว่า.. เขาสูบบุหรี่ ซึ่งฉันแพ้กลิ่นบุหรี่อย่างรุนแรง แต่เขาเป็นคนสะอาด เรียบร้อย พูดจาเพราะ เขาไม่ชอบอ่านหนังสือนอกเวลา แต่ฉันขาดหนังสือไม่ได้ ฯลฯ ฉันอาจจะรู้จักเขาในแบบของไดอารี่ของฉันมากเกินไป เมื่อรู้จักตัวตนของเขาจริงๆ จึงรู้ว่าเขาไม่ใช่ ความจริง ลบกับความคาดหวัง เท่ากับความผิดหวัง ฉันผิดหวังที่เขาไม่อาจะเป็นอย่างที่ฉันหวัง แต่ก็ไม่พร้อมจะเสียเขาไป เหมือนไฟที่ใกล้ก็ร้อน ไกลก็หนาว แต่เราก็ขาดมันไม่ได้ ความรักครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อฉันก้าวเข้าสู่วัยทำงาน..วัยที่มีความคิดและความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ขณะที่ฉันเป็นพนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาในชีวิตโดยที่ฉันไม่ได้เชื้อเชิญ แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นความบังเอิญเหมือนรักครั้งแรก เขาแสดงตัวอย่างชัดเจนว่าสนใจฉัน เสนอตัวช่วยงาน ของฝาก ดอกไม้ กระทั่งเลี้ยงข้าว ในทีแรก ฉันไม่ได้แสดงทีท่าว่าชอบเขา แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเกลียด ในที่สุดฉันก็พ่ายแพ้ต่อความดีและความสม่ำเสมอของเขา ฉันพึ่งรู้ในตอนหลังว่าเขามีฐานะการงานในบริษัทค่อนข้างสูง แต่น่าเสียดายที่มีบางอย่างที่ฉันพึ่งรู้หลังจากนี้เหมือนกัน เมื่อเราตกลงเป็นแฟนกัน เขาทุ่มเท รับส่ง เอาใจฉัน ทำราวกับฉันเป็นเจ้าหญิง นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดี เขาไม่สูบบุหรี่ และชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน ดูเหมือนว่าอะไรๆของเราคล้ายกัน เขาดูเป็นผู้ใหญ่ที่ปกป้องฉันได้ ฉันคิดไกลไปถึงอนาคตที่เราจะแต่งงานกัน ฉันไว้ใจ ให้ใจอย่างไม่มีเหลือ รักคือ…ความซื่อสัตย์ ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ก้อคงไปด้วยกันไม่ได้ รักคือ…ความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจกันก็จะทำให้ทะเลาะกัน…

รัก วาเลนไทน์
รักข้ามมิติ อ่านต่อ

รักข้ามมิติ

เรื่องยาว 14 October 200616 June 2019

ชายชราสีหน้าเปื้อนยิ้ม เสยผมที่ขาวโพลน ก่อนเอ่ยปากเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี “ข้าอกหัก” ผู้ที่ใครๆรู้จักในนามลุงมา ผ่านโลกมาแล้วกว่า ๖๐ ปี กว่าครึ่งของอายุแกใช้ชีวิตในชุดสีเขียวเข้ม นั่นคือ เครื่องแบบทหาร ไม่ใช่ข้าราชการทหารทั่วไป แต่ทว่า แกคือทหารป่าลาดตระเวน เมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว แกถูกเกณฑ์ทหาร ไม่ต้องรอให้ใครบังคับ แกเลือกที่จะสมัครไปเป็นทหาร แกเชื่อว่าแกเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ และแกจะซื่อสัตย์ต่อคำตอบท่ีเคยตอบครูไปเมื่อสมัยอนุบาลว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร นักเรียนชายเกือบทั้งห้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากเป็นทหาร แต่เอาเข้าจริง เห็นมีแกอยู่คนเดียวที่สมัครเป็นทหาร ลุงมาเข้ารับการฝึกซ้อม เป็นทหารผู้มีระเบียบวินัยเคร่งครัดคนหนึ่ง เมื่อจวนเจียนจะครบกำหนด ๒ ปีที่ต้องอำลาชีวิตทหาร เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติที่ชายแดน ทหารทุกหน่วยถูกเรียกให้ไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ นั่นรวมถึงลุงมาด้วย เลือดนายทหารผู้พึ่งผ่านการฝึกฝนอย่างทรหดปะทุเต็มที่ เหตุการณ์ไม่ปกติกลับเข้าสู่ความปกติภายใน ๑ เดือน ทหารฝ่ายลุงมาได้รับชัยชนะ แต่ต้องสูญเสียทหารหาญไปมิใช่น้อย ศพนายทหารหาญทุกนายล้วนถูกลำเลียงมาบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ ทุกอย่างเกือบจะปกติ แต่เมื่อตรวจเช็คตามรายชื่อ มีชื่อตกหล่น ลุงมา ยังไม่กลับมา ลุงมามีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตแล้ว ไม่มีใครทราบ แต่ทุกคนมีความเห็นอย่างเดียวกันว่า เสียชีวิตแล้ว ในการบำเพ็ญกุศลศพนายทหารหาญครั้งนั้น จึงมีรูปลุงมาตั้งอยู่ แต่ไม่ปรากฏศพ “ลุงไปอยู่ไหนมา” ผู้ที่รอคำตอบอย่างจดจ่อ คือ ทิดลั่น ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองหน้าไปยังท้องทุ่งอันเขียววจี ต้นตาลริมถนนที่มุ่งหน้าไปยังทุ่ง ตั้งเป็นแถวเรียงราย สายลมพัดต้นข้าวโอนเอนราววงดุริยางค์ประโคมดนตรีขับขาน “ข้าหนึข้าศึกเข้าป่าใหญ่ แต่แกรู้ไหม ที่ป่าใหญ่นั้นมีอะไรรอข้าอยู่” “ไม่รู้” “ข้าได้พบกับโลกใหม่” “ยังไงละลุง” “ที่นั่นนะ ผู้คนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ถักกันเองอย่างเรียบๆ ปลูกบ้านหลังเล็กๆ ทั้งหมู่บ้านไม่น่าจะถึง ๕๐ คน ทุกคนล้วนสื่อสารด้วยภาษาที่ข้าไม่เข้าใจ” “แล้วลุงทำไง” “ข้านั่งอยู่สักพัก เขาก็เอาผลไม้มาให้ข้า คล้ายๆลูกพุทรานะ แต่ลูกใหญ่เท่าส้มโอ” “โอ้โห..แล้วรสชาติเป็นไงลุง?” ทิดลั่นทำท่าตื่นเต้น “เหมือนมันแกว แต่หวานกว่า” “แล้วไงต่อ..ลุง” “ข้าใช้ชีวิตที่นั่นตามวิถีของคนที่นั่น ข้าลืมบ้านเมืองเราโดยสิ้น เพราะที่นั่นไม่มีเสียงรถ เสียงก่นด่า ไม่มีข่าวโหดร้าย ไม่มีคนโกง ไม่มีคำหยาบ ไม่มีควันบุหรี่ ไม่มี..” “พอๆๆ ลุง แล้วลุงอยู่ได้เหรอ ก็ไอ้ที่ไม่มีๆที่ลุงพูดมานั่นนะ มันมีในตัวลุงทั้งนั้นเลยนา”…

รัก
อ่านต่อ

Oh my ghost

ไดอารี่ 10 October 20163 November 2017

หลังจากโบกลาละครไทยอย่างไม่ใยดี ผมหันมาดูซีรีย์ต่างประเทศอย่าง Walking dead, CSI , NCIS  etc. แต่บางครั้งซีรีย์แนวสืบสวนฆาตกรรมของต่างประเทศ ดูบ่อยๆเข้าก็จำเจและเริ่มจะจำทางได้ ผมจึงหันมาทางซีรีย์เกาหลีบ้าง หลายคนเตือนว่าอย่าดู ..เพราะจะติด! เหี้ย! ซีรีย์เกาหลีนะไม่เว้ย ไม่ใช่บุหรี่ จะติดกันง่ายๆได้ยังไง โดยพื้นฐานผมเป็นคนชอบดูละครมาก โดยเฉพาะละครไทย ผมดูตามแม่พี่ป้าน้าอาที่พาดูตั้งแต่เด็กๆ แต่เชื่อเถอะครับ ละครไทยที่ผมเคยดูเมื่อตอนเด็กๆ กับละครไทยในปัจจุบันยุคที่อวดอ้างว่าล้ำหนักหนา ยุคโซเชี่ยล ยุคดิจิตอล ยุคห่าเหวอะไรนั่น .. ละครไทยยังคงมีบทเดิมๆ เนื้อเรื่องเดิมๆ พล็อตเดิมๆ ตัวอิจฉาตบตีแย่งพระเอก อีตัวอิจฉาต้องแต่งตัวแร่ดๆ ยั่วๆ ทำหน้าทำตาแบบอิจฉ๊า อิจฉา นี่แค่พูดถึงตัวอิจฉานะ อย่าให้ต้องพูดถึงนางเอกพระเอก หรือแม้แต่คนทำสวน คนขับรถ ฯลฯ ไม่อยากจะพูด ละครไทย! กลับมาที่ซีรีย์เกาหลีดีกว่า ผมเลือกดูเรื่อง Oh my ghost ดูน่าจะเป็นซีรีย์แนวผี ตลกๆ .. ดูได้ 3 ตอนติดครับ ติดงอมแงมเลยจริงๆ มีผลทำให้ซีรีย์เกาหลีเรื่องอื่นๆ มึงโดนกูเสพแน่ เรื่อง Oh my ghost ดูแรกๆเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นซีรีย์เบาสมองสบายๆ แต่สไตล์เกาหลีครับ ทำซีรีย์ทั้งทีจะให้ง่ายๆ เดาทางถูกนั้นมันง่ายไป ตอนแรกๆดูเบาๆ สบายๆ แต่พอถึงกลางเรื่องจนจบจะเข้มข้นจนไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว Oh my ghost เป็นเรื่องราวของผีตนหนึ่งที่ตายแล้วยังไปเกิดไม่ได้ เพราะมีเรื่องที่เป็นบ่วงติดไว้ในโลกมนุษย์ จึงเป็นผีร่อนเร่สิงคนโน้นทีคนนี้ที จนกระทั่งมาเจอกับนางเอก (นางเอกในเรื่องนี้ชื่ออะไรไม่รู้ ..แต่น่ารักมากครับ ทั้งหน้าตา น้ำเสียงและบุคลิก) นางเอกมีความสามารถพิเศษตั้งแต่เด็กคือสามารถเห็นผีได้ และโดยที่เป็นคนเห็นผีนี่เอง จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีเพื่อน และขาดความมั่นใจ ร่างกายอ่อนแอ พอมาเจอกับผีเร่ร่อนจึงถูกผีสิงโดยง่าย นางเอกทำงานในร้านอาหารของพระเอก ..นางเอกถูกผีสิง ก่อนถูกผีสิงนางเอกก็แอบรักพระเอกซึ่งเป็นเชฟสุดหล่ออยู่แล้ว พอผีมาเจอพระเอกได้รับความรู้สึกดีๆจากพระเอก ก็เกิดหลงรักพระเอกเข้าไปอีก จึงเกิดรักสามเส้า ระหว่างคนและผี เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆครับ เมื่อผีเร่ร่อนที่เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ..การสืบสวนหาสาเหตุการตายก็เริ่มขึ้น … ผมเล่าไว้แค่นี้ละกัน เผื่อใครผ่านมาอ่านจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกสปอยล์ บอกได้เลยว่า…

oh my ghost เกาหลี
อ่านต่อ

เที่ยวท่อง..ล่องเหนือ – Day 2 ดอยอ่างขาง

ท่องเที่ยว 15 December 201721 December 2017

เริ่มวันที่สอง ออกจากลำพูนมุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง.. ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 ไปทางเชียงดาว ระหว่างทางเจอที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ ก็ไม่พลาดที่จะแวะชมบรรยากาศ จุดแรก ม่อนชมดอย ติดกับถนนเห็นเด่นเป็นตระหง่าน ผมแวะทานอาหารเช้าที่นี่ ขับรถตามทางไปสักระยะ เห็นป้ายบ่อน้ำร้อน..แวะสิครับ ออกจากบ่อน้ำร้อน ประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีน้ำตกศรีสังวาลย์ สามารถใช้ตั๋วใบเดียวกับบ่อน้ำร้อนได้ ..แวะสิครับ สถานีต่อไปมุ่งหน้าอ่างขาง ครับ อ่างขางขึ้นได้ 2 ทาง คือทางฝั่งเชียงดาว และฝั่งฝาง ถ้าว่าด้วยระยทางฝั่งอำเภอฝางระยะสั้นกว่า แต่ถ้าว่าด้วยความโหด ฝั่งเชียงดาวโหดน้อยกว่า ฝั่งฝางความชันระดับ 5 ดาว รถไม่แรงพอไม่แนะนำให้ขึ้นทางนี้ มีโอกาสรถจะหงายหลังตกลงมาได้ ทางกรมทางแนะนำให้ขึ้นทางเชียงดาว และผมก็เลือกเส้นทางนี้ ความชันระดับกลางน่าจะพอๆกับเส้นทางไปอำเภอปาย โค้งเยอะหน่อย แต่ขับสบายและวิวสวย เจ้าตาลตาลของผมเครื่องพันห้า แต่ตัวหนาและน้ำหนักมากทางชันนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มออกอาการเร่งไม่ขึ้น ต้องอาศัยเกียร์ s ใช้แบบเกียร์ธรรมดาวิ่งเกียร์ต่ำขึ้นไปได้สบายๆ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงอ่างขาง แดดร้อนหน่อย แต่อากาศเย็นดี ตกกลางคืนก็น่าจะหนาวพอสมควร คืนนี้นอนเต๊นท์แน่นอน เต๊นท์มีแล้วถอยมาใหม่ หาแต่ที่กางเต๊นท์ บนดอยอ่างขางมีจุดให้กางเต๊นท์ 2 จุด จุดแรกห่างจากสถานีเกษตร์ 1 กิโลเมตร จุดที่สองห่างจากสถานีเกษตร์ 5 กิโลเมตร ถ้าพูดถึงความสวยงามวิวดี จุดที่ห่าง 5 กิโลเมตรสวยกว่า แต่พูดถึงความสะดวกสบาย พื้นที่กว้างขวางกว่า ต้องมาอีกที่หนึ่งที่ห่าง 1 กิโลเมตร ผมเลือกจุดที่ใกล้สถานีเกษตรอ่างขางมากที่สุด เพื่อตอนเช้าจะได้แวะไปที่สถานีเกษตรได้ สถานีเกษตรอ่างข่างถือว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่ มีความสวยงามด้วยพรรณไม้นานาชนิดของโครงการหลวง มีอัตราค่าเข้าบริการคนละ 50 บาท ผมแวะมาที่นี่ทั้งช่วงบ่ายและช่วงเช้า ไหนๆก็มาแล้วต้องจัดให้สาสม ตอนบ่ายคนเยอะหน่อย ถ้าเป็นไปได้ควรไปแต่เช้าตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า จะเจอหมอก และอากาศที่เย็นสบายมาก วันนี้นอนดูดาวที่ดอยอ่างขาง..วันต่อไปมุ่งหน้า ดอยแม่สลอง

สถานีเกษตรดอยอ่างข่าง อ่างขาง

โบราณว่า

ไดอารี่ 9 February 2011

โบราณว่า ‘ไม้ล้ม..อย่าข้าม’ แต่วันนี้ผมเจอคนชอบฉวยโอกาส รายแรกที่เคยเจอคือ คนขับรถตู้ ถ้าผู้โดยสารโนเนมคือไม่รู้อัตราค่าโดยสารมาก่อน จะแอบบวกเข้าไปอีก 5 – 10 บาท เิงินเท่านั้นจะทำให้รวยขึ้นเท่าไรกัน มันคุ้มมั้ยกับคำว่า “โกง” ที่ปรากฏบนหน้าผาก “มึง” รายที่สองมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ถ้าวันไหนรถติดเยอะๆ คนกลัวไปทำงานไม่ทันก็ต้องทิ้งรถเมล์ สละแท็กซี่ เพื่อปรี่ไปหามอ’ไซต์รับจ้าง มันเริ่มเล่นตัวทันที จากเคยคิด 20 บวกไปอีก 10 – 20 บาท หรือมากกว่านั้น พวกแบบนี้ยังมีอยู่เยอะ ไม่ได้เสียดายเงินที่ต้องเพิ่มให้ แต่เสียความรู้สึกที่ถูกโกง ขึ้นรถเมล์จะขึ้นเวลาไหนวันไหนก็ยังราคาเดียวตลอด เข้าเซ่เว่น ไม่ว่าจะเข้าเช้า สาย บ่าย เย็น ดึกๆดื่นๆ ของก็ยังราคาเดิม ไม่เคยเห็นพนักงานขายบอกว่า ดึกแล้วขอค่าล่วงเวลาอีก 5 บาท เศษเงินไม่เท่ากับความรู้สึกที่ต้องเสียไปหรอก โบราณว่าไว้ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

มอไซต์รับจ้าง รถตู้ เหี้ย โกง

สามเซ็งซี้ดส์

ไดอารี่ 21 March 2011

วันอาทิตย์ประมาณบ่าย 3 โมงมีนัดกับช่างสวิส ช่างสวิสเป็นช่าง buit in ที่มีฝีมือและอัธยาศัยดีคนหนึ่ง นี่เป็นครั้งที่สองที่ใช้บริการจากแก ครั้งแรกใช้ให้ย้ายตู้ให้ เป็นการย้ายตู้ที่ไม่ธรรมดา เพราะต้องรื้อและต้องไปประกอบขึ้นใหม่ ครั้งนี้เป็นงานใหญ่กว่าครั้งแรก เพราะผมจะว่าจ้างให้แกรื้อและทาสีคอนโดใหม่!! คอนโดถูกปลวกยึดมาปีกว่า วันนี้ถึงเวลาที่ผมต้องขอคืนพื้นที่แล้ว นอกจากจะเรียกใช้บริการจากช่างสวิสแล้วผมได้เรียกบริษัทกำจัดปลวกมาอีกชุดหนึ่ง งานนี้ต้องขอคืนพื้นที่ชนิดไม่ให้เหลือ เซ็ง 1 ช่วงเช้าก่อนไปเจอกับช่างสวิส เลยมีเวลาว่างจึงไปดูหนังกันดีกว่า!! ตั้งใจไปดูเรื่อง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ ขับรถไปดูที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เนื่องจากยังไม่เที่ยง คนเลยยังไม่มากนักพอเลี้ยวเข้าห้าง ก็เจอที่ว่างทันที ผมกดไฟฉุกเฉินเตรียจอด!! ที่จอดเป็นทางเลี้ยวพอดี ที่จอดอยู่ขวามือ ผมหันหัวรถไปทางซ้ายเพื่อให้ท้ายเข้าทางขวา ขณะถอยเข้าซอง ก็มีเสียงแตรและเสียงชนดังขึ้นไล่ๆกัน ..ซวยแล้ว พอลงจากรถไปดูเหตุ สาวเจ้าของรถคันหลังใส่แว่นดำแต่งตัวหวือหวาไม่รับกับสภาพรถที่ค่อนข้างเก่าเลยสักนิด เจ๊แกตำหนิผมก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไร “ทางนี้เขาห้ามเลี้ยวซ้าย” น้ำเสียงเรียบแต่ท่าทีตำหนิเป็นเชิงสั่งสอนอยู่ในที “ผมไม่ได้จะเลี้ยวซ้าย ผมจะเ้ข้าจอด ไฟฉุกเฉินยังเปิดอยู่เลย” ผมพูดพร้อมชี้ให้ดูไฟกระพริบ เจ๊แกรู้ตัวว่าตัวเองผิด เดินกลับขึ้นรถหน้าตาเฉย ผมดูด้วยสายตา รถเจ๊แกไม่เป็นอะไรเลย ส่วนรถผมตรงกันโคลนหน้าเผยอขึ้นเล็กน้อย มองผิวเผินแทบไม่เห็นความเสียหาย ผมก็เลยไม่ติดใจเอาความ ด้วยมีรถติดจอดเป็นแถวยาวอยู่ “คุณจะมีปัญหาอะไรมั้ย” ผมถามเจ๊คู่กรณี เพราะถ้าเอาเข้าจริงผมก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย ที่ไม่ยอมมองหลังให้ดีก่อนถอย เจ๊แกนิ่ง ผมกล่าวขอบคุณ (ซึ่งไม่รู้จะขอบคุณทำไม) แล้วก็ขับรถออกไป พร้อมด้วยอารมณ์ที่เซ็งเล็กน้อย เซ็ง 2 ถึงมีเหตุการณ์เซ็งๆแบบนี้ ผมก็ไม่ละความตั้งใจที่จะดูหนังไทย..ซัคซี้ด พอเข้าไปซื้อตั๋ว ปรากฏว่าหนังเริ่มฉายพอดี ผมไม่รอช้า รีบซื้อตั๋วดิ่งเข้าโรง พอเข้าโรง ภาพยนตร์ตัวอย่างจบพอดี หนังกำลังเริ่ม ..แต่เอ่ะเดี๋ยวก่อน ทำไม เครดิตผู้สร้างเป็นภาษาอังกฤษ ผมดูหนังไทยไม่ใช่เหรอ คิดได้ดังนั้นก็รีบวิ่งออกมาหน้าโรง ตายห่า..ในตั๋วบอกโรงหก แต่ผมเข้าโรงห้า!! ในที่สุดก็ได้ดูหนังสมใจ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ หนังย้อนยุคสัก 3-5 ปี ช่วงชีวิตเด็กวัยรุ่นยุคม.ปลาย ยุคที่เด็กเกรงใจเพื่อนมากกว่าพ่อแม่และครู บูชานักร้องดังเทพเจ้า มีความใฝ่ฝัน อยากเป็นนักร้อง และมีความรักเป็นครั้งแรก หนังสะท้อนชีวิตเด็กประถมช่วงสั้นๆ และเด็กมัธยมได้อย่างได้รสได้ชาติมาก หนังมีสีสันด้วยได้นักร้องดังมาโผล่ในทุกฉากที่มีเสียงเพลง มีมุกตลกสอดแทรกอยู่เป็นระยะ นักแสดงหน้าใหม่อย่าง “ลูกพีช” เล่นดีบทเด่นแซงหน้า “ก้าว” พระเอกในเรื่อง…

suckseed รถ เซ็ง

อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก

เรื่องทั่วไป 22 March 2010

ใช้ชีวิตในโลกอินเทอร์เนตมาเกือบๆ 10 ปี ชีวิตผมจึงถูกเปลี่ยนให้อยู่ในระบบของโลกออนไลน์มากขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริง (จริงๆ อินเทอร์เนตก็คือโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนกัน แต่จริงน้อยกว่า)  มี 3 ช่องทางการสื่อสาร คือ อ่าน พูด และเขียน  โลกอินเทอร์เนต ก็สามารถสื่อสารได้ทั้ง 3 ช่องทางเช่นกัน คือ ทั้งอ่าน พูด และเขียน แต่ช่องทางพูดอาจจะน้อยกว่า เราอาศัยพูดกันผ่านตัวหนังสือ !! ตัวหนังสือสื่อสาร ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการพูดกันสักเท่าไร หากทั้งคู่(หมายถึงคู่สนทนา) รู้จักกัน(ดี)มาก่อน เคยคุยกันมาก่อน เพียงเห็นตัวหนังสือก็จะสามารถจินตนาการถึงเสียงของคู่สนทนาชัดเจนอยู่ในหัว เหมือนคุยกันอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว หากแต่ว่่าถ้าไม่เคยคุยกันมาก่อน ไม่เคยได้ยินเสียง หรือไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน เพียงตัวหนังสือแม้สื่อมาด้วยคำธรรมดาๆ ก็อาจถูกอีกฝ่ายตีความหมายเป็นอื่นได้ !! ปัญหานี้ อาจทำให้เราเสียเพื่อน หรือร้ายกว่านั้น เพื่อนอาจกลายมาเป็นศัตรูได้อย่างน่ากลัว เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นกับผม ในฐานะบล็อกแห่งนี้เป็นบล็อกส่วนตัว จึงไม่แปลกที่ผมจะเล่าเรื่องส่วนตัว.. เรื่องมันเกิดขึ้นจากการคุยกันผ่านตัวหนังสือนี่แหละ.. ผมคุยกับเพื่อนแฟนที่อยู่ต่างประเทศผ่านโปรแกรมยอดฮิต Facebook คุยกันบนกระดานหน้าบ้านเขาเลย  ก่อนหน้าที่เขาจะไปอยู่ต่างประเทศ เราก็เคยไปเที่ยว กิน ดูหนังด้วยกันระยะหนึ่ง จนผมทึกทักเอาเองว่า เออ..เพื่อนแฟนก็เพื่อนเราด้วยคนหนึ่ง วันที่เขาบิน เราก็ไปส่งที่สนามบิน ผมแอบชื่นชนกับแฟนว่า เพื่อนหญิงคนนี้ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ทึ่งกับความกล้าที่่จะบินไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศโดยลำพัง ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังไม่สามารถขนาดนั้น .. หลังจากที่เขาไปต่างประเทศก็หลายปีที่ไม่ได้คุยกัน แต่ก็ได้แอดไว้ใน facebook จนล่าสุดเมื่อวันศูกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 ผมได้ทักทายเขาไปในfacebook และก็ได้การตอบกลับมาด้วยไมตรี ถามสารทุกข์สุขดิบประสาคนที่ไม่ได้คุยกันมาเป็นปี ๆ มันเป็นการสนทนาผ่านตัวหนังสือที่ใช้คนละภาษา คือ เขาพิมพ์อังกฤษมา ผมตอบภาษาไทยไป .. ด้วยความคิดมากของผมเอง ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่เขาใช้สามารถพิมพ์หรืออ่านภาษาไทยได้ไหม? จึงถามไปว่า อ่านภาษาไทยได้ไหม? ความหมายคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่อ่า่นภาษาไทยได้ใช่ไหม? เมื่อเขาตอบว่าได้ ..ผมก็ตอบว่า “อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก” ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกหรือประชดประชันแดกดันอะไรแต่อย่างใดเลย เป็นน้ำเสียงตอบบประสาสื่ออย่างเพื่อนคุยกับเพื่อนเท่านั้นเอง แต่คำตอบที่ผมได้หลังจากนั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เขาไม่พอใจมากกับประโยคนั้น เขาบอกน้ำเสียงของผมมันเย้ยหยันถึงขั้นดูถูก .. เบื้องต้นผมไม่ทราบว่าเขาโกรธผมจากประโยคไหนที่เราคุยกัน ผมถูกบล็อกไม่ให้ติดต่อใน facebook ยิ่งทำให้ร้อนใจยิ่งกว่าเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมให้เพื่อน…

หนึ่ง
อ่านต่อ

ทริปม่วนใจ ม่อนจอง 2 วัน 1 คืน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 28 January 20235 February 2023

แบกเป้เที่ยวม่อนจอง ยอดเขาสวยในจังหวัดเชียงใหม่

ม่อนจอง เชียงใหม่ เดินป่า
อ่านต่อ

ทะเล..ทะลุ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 1 February 201417 March 2020

เป็นทริปที่เกือบจะปีแล้ว แต่ยังไม่ได้เอามาสาธยายในบล็อก ทริป “ทะเล..ทะลุ” เป็นทริปเล็กๆกับที่ออฟฟิส โดยมีเวลาแค่ 2 วัน คือเสาร์-อาทิตย์ แต่เกาะทะลุอยู่ประจวบฯที่ติดกับชุมพร ต้องใช้เวลาในการเดินทางร่วม 5 ชั่วโมง ดังนั้น เพื่อใช้เวลาในการเที่ยวให้มีค่ามากที่สุด ควรจะถึงที่ดำน้ำในเวลาไม่เกิน 9 โมงเช้าของวันเสาร์ ตอนบ่ายจะได้มีเวลาไปเที่ยวที่อื่นบ้าง และเที่ยงของวันอาทิตย์ก็จะเดินทางกลับ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้คร่าวดังกล่าวนั้น เย็นวันศุกร์จึงต้องมารวมตัวกัน เพื่อออกเดินทางแต่เช้ามืดของวันเสาร์ …กำหนดหมายที่ล้อหมุน คือ ตี 4 เย็นวันศุกร์จึงมีปาร์ตี้วงไพ่เล็กๆที่บ้านผม ณ บางกร่าง อาจจะแน่นไปนิดนึง ด้วยจำนวนสมาชิก 10 กว่าคน แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เช้ารุ่งขึ้น การเดินทางไม่เป็นไปตามแผนเท่าไรนัก เนื่องจากฝนลงเม็ดแต่เช้า การทำเวลาให้ทัน 8.30 ณ จุดดำน้ำจึงทำไม่ได้ แต่โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่รอ แม้จะเลทไป 1 ชั่วโมงก็ตาม จุดดำน้ำในเกาะทะลุ พูดถึงความใส ความสวยของทะเลก็พอรับได้ครับ ปลาอาจไม่ชุมเท่าเกาะสุรินทร์ หรือกระบี่ทางฝั่งอันดามัน แต่ถ้าไปกันสนุกๆ ที่ไม่ไกลมาก แถวนี้ก็พอดำผุดดำว่ายได้อย่างสบายๆ โชคดีที่ทางผู้ให้บริการเอง ก็จัดการกับนักท่องเที่ยวได้ดี ทั้งที่อาบน้ำ อาหารและผลไม้ หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ที่พักที่บ้านกรูดครับ .. ตอนเย็นมีปาร์ตี้ปิ้งย่างเล็กๆน้อยๆ เป็นโหมดกลางคืนเลยไม่ค่อยมีรูปมาฝาก ในวันอาทิตย์สายๆ ไปทานอาหารเกือบเที่ยงที่หน้าหนูโภชนาที่อยู่ริมทะเล ทางที่จะไปวัดทางสาย ร้านนี้ได้รับการการันตีถึงความอร่อย และก็อร่อยจริงๆ เสร็จจากการรับประทานอาหารก็ขึ้นไปไหว้พระที่วัดทางสาย ซึ่งเป็นไฮไลท์ของบ้านกรูด ใครมาแล้วต้องขึ้นไปกราบไหว้สักการะครับ ก่อนเดินทางกลับบ้าน ___ ถึงบ้าน 1 ทุ่มเป๊ะ

ทะเล เกาะทะลุ
อ่านต่อ

ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่

ไดอารี่ 11 July 201611 July 2016

ถึงวันนี้(11/07/59) ผมก้าวเข้าสู่การวิ่งมาแล้ว 5 เดือน วิ่งต่อเนื่องทุกอาทิตย์ เฉลี่ยอาทิตย์ละ 20 กิโลเมตร หากยังวิ่งแบบเดิมๆ ฝึกแบบเดิมๆ ก็จะได้ผลเท่าเดิม คือ วิ่งต่อเนื่องได้แค่ 10 กิโล มาถึงเดือนนี้ (กรกฏาคม) ซึ่งเป็นเดือนเกิดของผมเอง ตั้งใจว่าจะฝึกวิ่งทุกวัน อาจจะไม่ได้ถึง 10 กิโล แต่อยากให้ได้ความต่อเนื่อง เพื่อฝึกกำลังขา แต่พอเข้าเดือนกรกฏา ฝนก็ตกเกือบทุกวัน มีผลให้ความตั้งใจต้องล้มไม่เป็นท่า ถึงอย่างไร เมื่อมีโอกาสต้องรีบเข้าสู่โหมดความตั้งใจเดิมให้ได้ “ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปวิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข และนี่คือเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยวิ่งมา เราต้องดีขึ้นเรื่อยๆ

run วิ่ง ออกกำลังกาย
อ่านต่อ

เขาใหญ่..ในคลิป

ท่องเที่ยว 13 May 200913 June 2019

ตั้งแต่ได้ Macbook มาจนครบปีละ ยังไม่เคยใช้เจ้าโปรแกรมที่แถมมากับเครื่องอย่าง imovie เลย ไม่รู้มันมีคุณสมบัติใดบ้าง วันนี้จึงนั่งมั่วๆดู ปรากฏว่า มันก็คือ โปรแกรมไว้ตัดต่อวีดีโอ ทำสไลด์ แบบง่ายๆ นั่นเอง ทราบดังนั้น เลยตัดต่อเติมแต่งง่ายๆ ด้วยทริปเขาใหญ่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไม่มีภาพเคลื่อนไหว เลยหยิบคลิปของ รุจ ที่ถ่ายโดยกล้องของmacbook ใส่ประกอบด้วยซะเลย.. ภาพคลิปอาจคมชัดสู้ไฟล์ต้นฉบับไม่ได้ อันนี้เข้าใจ เพราะเงื่อนไขของขนาด และชนิดของไฟล์ที่ถูกบีบอัดจนร้องโอย.. แต่ถึงจะอย่างไร ให้พอเห็นภาพก็ใช้ได้ละ เขาใหญ่ไปกี่ครั้งก็สนุก.. ว่างๆลองไปเที่ยวกันดู รับรองว่า ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

เขาใหญ่

แพงที่สุดในโลก

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

บ้านที่แพงที่สุดในโลก บ้านนี้ตั้งอยู่ในสวนของ Kensington Palace ใน London ตะวันตก  มีทั้งหมด 12 ห้องนอน เจ้าของคือ เศรษฐีค้าเหล็ก ชาวอินเดีย ชื่อว่า Lakshmi Mittal, ด้วยราคา US$128.3 ล้าน ซึ่งเป็นบ้านที่ มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ของ Guiness Book ด้วย รถขับเคลื่อนบนท้องถนนที่แพงที่สุดในโลก Pagani Zonda F  เป็นรถที่มีความโค้งมนอย่างลงตัว เปิดตัวครั้งแรกที่ Geneva Autoshow  ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ค่ะ รถคันนี้ใช้เครื่อง Mercedes  AMG-derived 7.3 L V12 ซึ่งมีความเร็วถึง 214 ไมล์ต่อชั่วโมง เมื่อเอา Top ลง (เป็นรถ convertable) ซึ่ง รถคันนี้ยังไม่มีการตีราคาที่แน่นอน แต่ทางบริษัท ได้พูดไว้ว่า มันจะเป็นรถขับเคลื่อนที่แพงที่สุดในโลกอย่างแน่นอน ซึ่งรถคันนี้จะจัดทำขึ้นจำนวนจำกัด แค่ 25 คันเท่านั้น… รองเท้าที่แพงที่สุดในโลก ราคา เน็ตๆ ที่ US$2 ล้าน  รองเท้าส้นเรียวแหลมสูง 4 นิ้ว  ประดับด้วย 565 Platinum set Kwiat Diamon ซึ่งชุดนี้รวมไปด้วย เพชรเม็ดใสๆ 55 กะรัต และเพชรเม็ดเบ้ง 5 กะรัตอีก 1 เม็ด ผู้ดีไซน์มีชื่อว่า Stuart Weitzman ซึ่งผู้มีโอกาสสวมใส่คนแรกคือ Alison Krauss นักร้องที่ถูก เสนอชื่อขึ้นรับ รางวัล เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เค้าร้องเพลงประกอบ Cold Mountain เค้าใส่ไปงานประกาศรางวัล ออสการ์ปี 2004   โรงแรมที่แพงที่สุดในโลก…

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH