Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ลำปาง

อ่านต่อ

นั่งรถไฟไปขุนตาล 2 วัน 1 คืน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 30 September 202212 October 2022

นานเท่าไรแล้วที่เราไม่ได้นั่งรถไฟ..ทริปนี้เลยออกเที่ยวด้วยการนั่งรถไฟไปขุนตาล

ขุนตาล รถไฟ ลำปาง
อ่านต่อ

ทริปลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ (ตอนที่ ๑)

ท่องเที่ยว 5 February 201625 August 2022
พระธาตุลำปางหลวง ลำปาง อินทนนท์ เชียงใหม่

รู้เขา (แต่)ไม่รู้เรา

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 18 February 2011

Facebook, Twitter หรือระบบ Social Network ตัวอื่นๆที่อนุญาตให้ผู้ใช้โพสต์ข้อความลงบนพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้เรารู้จักตัวตนของคนอื่นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบัน สามารถโพสต์ข้อความได้แบบ Everything Everywhere คือโพสต์อะไรจากที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ เมื่อเกิดอารมณ์ ความรู้สึก โกรธ โมโห ดีใจ เสียใจ ตอนไหนยังไง ก็แสดงออกออนไลน์มาได้เลย ข้อดี คือ ถ้าเจอเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน หรือที่ไหนก็ตาม เราก็โพสต์แจ้งข่าวสารแด่เพื่อนฝูงและชาวโลกได้เลย ณ ขณะนั้น เพื่อนและชาวโลกก็สามารถรับรู้ข่าวสารได้ในทันที ข้อเสีย คือ ถ้าโมโห โกรธ หรือเจอเหตุการณ์ที่น่าสนใจเข้า ไม่ทันได้พิจารณาให้ดีก็รีบโพสต์แจ้งชาวโลก บางข้อความอาจกลายเป็นการด่า ประจาน หรือนำความลับของคนอื่นมาเผยแพร่ เมื่อไม่นานมานี้ พนักงานต้อนรับในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีน เห็นดาราเข้ามาเช็คอินเพื่อพักในโรงแรมที่ตนทำงานอยู่ จึงรีบทวิตเตอร์บอกเพื่อนตัวเอง จากข้อความทวิตเตอร์นั่นเอง ทำให้มีแฟนคลับแห่มาขอลายเซ็นต์ จนดาราคนนั้นที่ตั้งใจจะมาพักผ่อนเงียบๆ ไม่ได้รับความสุขตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ความรู้ถึงผู้บริหาร พนักงานที่ทวิตเตอร์คนนั้นจึงถูกให้ออกจากงาน ข้อความที่ถูกโพสต์ผ่าน Facebook หรือ Twitter ส่วนใหญ่ออกมาจากความรู้สึกและอารมณ์สดๆร้อนๆของผู้โพสต์ เมื่อก่อนถ้าเราไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจบางอย่างเข้า ก็ต้องกลับมาถึงบ้าน > เปิดคอมพิวเตอร์ > ต่ออินเทอร์เนต > เปิดเว็บไซต์ > ล็อกอิน > โพสต์ข้อความ จะเห็นว่ากระบวนการกว่าจะถึงขั้นตอนของการโพสต์ข้อความมีมาก จนทำให้อารมณ์ที่คุกรุ่นเบาบาง หรือแทบจะหายไปหมดแล้ว และการปะติดปะต่อเรียบเรียงเรื่องราวก็เริ่มเลือนลางจำไม่ค่อยไ้ด้ แต่ปัจจุบันขั้นตอนการโพสต์ข้อความจาก 5-6 ขั้นตอนลดเหลือขั้นตอนเดียว คือ โพสต์ได้เลยทันที!! ดีใจ== โพสต์ เสียใจ== โพสต์ โกรธ == โพสต์ด่า เมื่อกระบวนการโพสต์สั้นลง มันจึงไม่ผ่านกระบวนการคิด ข้อความทุกอย่างที่เราโพสต์ มันจะบอกตัวตนของเราทั้งหมด!! ผม Follow นักข่าวหลายคน เพื่อหวังติดตามข่าวสารแบบใกล้ชิด จึงทำให้พบว่า นักข่าวที่เราเห็นเขานั่งอ่านข่าวหน้าทีวีทุกวันนั้น เขาอ่านอย่างเดียวตามสคริปต์ที่มีคนเขียนให้อย่างสวยหรู เพราะข้อความที่เขาโพสต์เองบนทวิตเตอร์ พบว่ามันไม่เหมือนเขาในจอทีวี ในโลก พ.ศ. 2554 เราสามารถเรียนรู้อุปนิสัยใจคอคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ผ่านตัวหนังสือไม่กี่ตัว คำถามต่อไปก็คือ คุณอยากให้คนอื่นๆรู้จักคุณในแง่ไหน?…

facebook twitter
อ่านต่อ

น.ส. จิกกี๋

สุขกะภาพ 29 June 201328 October 2015

สมาชิกในบ้านที่่สร้างความปั่นป่วนได้ตลอดเวลา

อ่านต่อ

ทริปม่วนใจ ม่อนจอง 2 วัน 1 คืน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 28 January 20235 February 2023

แบกเป้เที่ยวม่อนจอง ยอดเขาสวยในจังหวัดเชียงใหม่

ม่อนจอง เชียงใหม่ เดินป่า

22.05.57

ไดอารี่ 23 May 201422 March 2020

บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ซะหน่อยเถอะ__ หลังจากเมื่อปี 2549 ที่บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุณยรัตน์กลินได้ยึดอำนาจจากทักษิณ ชินวัตร ครั้งนั้นเรียกเต็มปากว่า “ปฏิวัติ” แต่ครั้งนี้ยึดอำนาจโดยบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  แต่เรียกว่า “รัฐประหาร” แทน ปฏิวัติ (revoluton) หมายถึง การเปลี่ยนรูปแบบหรือระบอบการปกครองประเทศ จากรูปแบบหนึ่ง ไปสู่อีกรูปแบบหนึ่ง อย่างสิ้นเชิง เช่น การปฏิวัติฝรั่งเศส (เปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ)หรือ ในประเทศไทย ก็คือสมัย ร๗ ที่เปลี่ยนจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราช ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ) ส่วน รัฐประหาร(coup de ta) หมายถึง การใช้กำลัง เพื่อเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล โดยระบอบการปกครองยังคงเดิม เช่น การรัฐประหารสมัยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม หรือ สมัย พลเอก ชาติชาย ชุณหวัณ ซึ่งจะเห็นว่า เปลี่ยนแปลงเฉพาะคณะรัฐบาลเท่านั้น โดยที่ประเทศไทยยังคงระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเช่นเดิม เมื่อสองขั้วทางการเมือง คือ กปปส.(ประชาธิปัตย์) และ นปช. (เพื่อไทย) ต่างไม่ยอมกัน มุ่งจะห่ำหั่นให้ได้ซึ่งชัย โดยไม่คิดลดลาวาศอก หรือพบกันครึ่งทาง และหาข้อตกลงกันไม่ได้ ยิ่งยืดเยื้อยิ่งยากจะยุติ ประเทศชาติบอบช้ำครั้งแล้วครั้งเล่าจนยากจะเยียวยา  ทหารจึงออกมาทำหน้าที่อีกครั้ง โดยทหารเริ่มจากประกาศกฏอัยการศึก เพื่อเตือนทุกฝ่ายให้ยุติ แต่ดูเหมือนไม่มีใครเชื่่อในกฏนั้น และแล้วในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผอ.รส. กล่าวเสียงเข้มในที่ประชุมว่า คงปล่อยให้เกิดความขัดแย้งยืดเยื้อต่อไปโดยไม่มีทางออก จึงพร้อมทำทุกอย่างร่วมกับทุกเหล่าให้เกิดสันติสุขโดยเร็ว หวังว่าทุกท่านจะให้เกียรติกองทัพ และอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำทุกอย่างให้ดีขึ้น “สำหรับการประกาศกฎอัยการศึก เชื่อว่าขณะนี้คงเกิดข้อขัดแย้งในใจหลายฝ่าย แต่ขอให้เชื่อว่าผมได้ทำทุกอย่าง พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความสงบสุข ไม่ต้องคิดหรือกังวลแทนผม เพราะผมพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าจะถูกหรือผิด แต่ขอให้รู้ว่าที่ผมทำผมรับผิดชอบทุกประการ” ที่ผมทำเพราะผมเป็น คนที่เกิดในแผ่นดินนี้ และเป็นหนี้ในแผ่นดินนี้ ที่ผมจำเป็นต้องมามีส่วนร่วม เพราะผมรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก แต่ทว่ามันเกี่ยวข้องในหลายมิติ หากก้าวล่วงใคร ผมก็ขออภัยมา ใน โอกาสนี้ด้วย…

ปฏิวัติ รัฐประหาร

อกหัก

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 27 January 2010

อยู่ดีๆ ผมก็กลายเป็นผู้ชายใจร้าย หักอกผู้หญิงโดยไม่รู้ตัว ย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน ผมได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ ตอนนั้นยังไม่มีข่าว “โทรศัพท์มรณะ” ก็รับปกติ ปรากฏว่าเป็นหญิงสาวเสียงสดใส วัยน่ารัก พอรับโทรศัพท์ถึงได้รู้ว่า เธอโทรผิด (จะโดยตั้งใจโทรผิดหรือผิดจริง อันนี้ผมไม่ทราบ) แต่เธอก็ชวนผมคุยเป็นวรรคเป็นเวรเกือบชั่วโมง ตอนนั้นผมไม่มีธุระปะปังที่ไหน ก็เลยคุยด้วยได้ เป็นการคุยกับคนที่ไม่รู้จักชื่อและหน้าตามาก่อนนานที่สุดเป็นครั้งแรก เพราะโดยปกติถ้ามีคนโทรผิดมา ก็แค่ขอโทษและวางหูไป ไม่เคยมีใครมาเปิดประเด็นถามถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ อยู่ที่ไหนเหรอ? ทำงานอะไร? ชื่ออะไร ฯลฯ หลังจากวันนั้น เธอก็โทรมาอีกเป็นระยะ แต่ไม่ทุกวัน อาจจะเดือนละ 3-4 ครั้งอย่างต่อเนื่อง บางเดือนก็หายไป แล้วก็กลับมาใหม่ ครั้งล่าสุดเธอหายไปเกือบปี พอโทรอีกที เธอบอกว่า ไปแต่งงานมา ผมก็ตกใจ เพราะเธอพึ่งอายุ 17 และยังเรียนอยู่เลย เธอบอก “เรียนแล้วปวดหัว ……” (ให้ผู้อ่านเติมเอาเองนะครับ ลองตอบกันเล่นๆในคอมเมนต์ดู)  ผมก็แนะนำอย่างผู้ใหญ่แนะนำเด็กไปว่า มีสามีแล้ว ก็ประหยัดเน้อ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องโทรมา เดี๋ยวจะทะเลาะกับสามีเปล่าๆ เธอก็หายไปพักใหญ่ๆ แล้วก็โทรมาอีก คราวนี้บอกมีปัญหากับสามี และอาจรุนแรงถึงขั้นเลิกกัน ทราบมาว่าสามีเธอติดสารเสพติดครับ เธอบอกว่า สามีเธอติดกาว  (บางทีสารเสพติดนี่ก็บอกระดับของคนได้เหมือนกันนะ) ตอนนี้แหละที่เธอโทรบ่อยขึ้น เกือบทุกวันและวันละหลายๆรอบ ตื่นเช้าก่อนผมจะลุกอาบน้ำแปรงฟันไปทำงาน เธอก็โทรมาก่อนละ โทรมาก็ไม่มีอะไร ถามว่าตื่นรึยัง แต่ส่วนใหญ่ผมไม่ได้รับโทรศัพท์ แรกๆก็สอนก็บอกก็ปลอบใจ เพราะรู้พึ่งเลิกกับสามีที่อยู่กันมาปีกว่า แต่หลังๆชักรำคาญ เพราะเธอนอกจากจะไม่เสียใจต่อการเลิกรากับสามีแล้ว ยังมีนิสัยเป็นเด็กรักสนุก ขี้เหงา เอาแต่โทร ครั้งหนึ่งขณะที่คุยโทรศัพท์กับผมอยู่นั้น มีเพื่อนผู้หญิงเดินผ่านมาแล้วถามเธอว่าคุยกับใคร เธอตอบเขาไปว่า คุยกับกิ๊ก กิ๊ก? ผมเกลียดคำนี้ และที่ไม่เข้าใจสุดๆคือ ผมไปยินยอมพร้อมใจเป็นกิ๊กให้เธอตั้งแต่เมื่อไรกัน ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ตั้งใจจะไม่คุยกับเธอคนนี้อีกแล้วละ เธอโทรมาหลายครั้งผมก็ไม่รับ แต่เธอก็ยังโทรมาทุกวันๆ จนผมคิดว่า ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ต้องคุยกับเธอให้ชัดๆ ว่าไม่ต้องโทรมา ไม่ต้องคุยกันอีกแล้ว ไม่ชอบ พอรับโทรศัพท์ หลังจากที่ไม่รับมาหลายครั้ง เธอทำน้ำเสียงเหมือนคนเสียใจมากที่ผมหายไป ทำท่าจะร้องไห้ (เฮ้อ!!) ผมก็ว่าใส่เธอไปชุดใหญ่ เหตุผลคือไม่ต้องการให้เธอโทรมาอีก…

แสงดาว

องค์บาก 2

เรื่องทั่วไป 30 June 2008

  คิดว่าหลายๆคนก็คงเป็นเหมือนผม รอดูผลงานของพี่จา โทนี่ จา อยู่ โดยเฉพาะล่าสุด องค์บาก 2 พี่แกเล่นกำกับเองด้วย ยิ่งอยากดูใหญ่ ตย.หนังนี้ไปเอาจากเว็บต่างประเทศมา พี่แกเอาไปโปรโมทในเทศกาลหนังเมืองคานส์ แต่ตัวหนังองค์บาก 2 จริงๆ เห็นว่ายังถ่ายทำไม่เสร็จ ถ้าเมื่อไรเสร็จ..ก็จะไม่พลาดตีตั๋วไปดูแน่นอน

จา พนม องค์บาก

ได้เวลา..เอาเลือดบ้าออก

ไดอารี่ 12 January 2010

หยุดเสาร์-อาทิตย์ กิจกรรมออกกำลังกายและงดมื้อเย็นของผมก็มีอันต้องหยุดไปด้วย ตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าวันอาทิตย์นี้ จะไปบริจาคเลือดให้ได้ หลังจากปีที่แล้ว ไปแค่ครั้งเดียว และครั้งเดียวนั้นก็ถูกปฏิเสธจากสภากาชาดด้วยข้อหา “เลือดลอย”  ก่อนบริจาคเลือดจะมีกระบวนการวัดความดัน และเจาะเลือดตรวจก่อน หลังจากสูบเลือดจากปลายนิ้วเสร็จแล้ว เขาจะหยดแหมะลงในน้ำยาสีฟ้า ถ้าเลือดปกติมันจะดิ่งลงก้นขวดในทันที ถ้าเลือดจาง มันจะค่อยๆจม หรือไม่จมเลย ที่เราเรียกว่า “เลือดลอย” นั่นแหละครับ สาเหตุมาจาก นอนดึก พักผ่อนน้อย หรือเคยบริจาคเลือด แต่ไม่กินยาบำรุงเลือด ผมอยู่ในจำพวก ไม่กินยาบำรุงเลือดที่เขาาให้มา สาเหตุคือ ผมแพ้ยาวิตามินเม็ดสีแดงมันๆ หวานๆ นั่นอย่างรุนแรง ร่างกายจะสร้างปฏิกิริยาต่อต้น พะอืดพะอมจนจะอาเจียนพู่งปรี๊ดกลับมาทางเดิมให้ได้ ..อาการแพ้มันเกิดขึ้นเพราะผมอุตริเอง เมื่อสมัยบริจาคเลือดยุคแรกๆเมื่ออายุ 17-18 พอได้ยาบำรุงเลือดมา ก็กระดกหมดทั้งถุง ตั้งแต่บัดนั้นละครับ ผมเกลียดยานี้อย่างรุนแรง อย่าว่าแต่กินเลย เห็นหน้ายาก็เกิดอาการแล้วละ วันนี้ตั้งใจว่าจะบริจาคจริงๆ เย็นวันก่อนไปบริจาคเลยปฏิเสธแอลกอฮอลล์จากเพื่อนๆในงานแต่งจนสิ้น ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการบริจาคเลือดครับ ก่อนจะบริจาคเลือด นอกจากต้องนอนให้พอ กินอาหารให้อิ่ม ไม่กินยาพารา ยาแก้อักเสบแล้ว ภายในวันนั้นก่อนบริจาคเลือด ต้องอย่ากินอาหารมันๆ เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ฯลฯ วันนี้คนมาบริจาคเยอะพอสมควร เวลาบ่าย 2 โมงแล้ว คิวยังยาวเฟื้อย มีเทคนิคนิดหนึ่งสำหรับคนที่ไปบริจาคแล้ว พบว่ามีคิวยาวมาก แนะนำให้ว่า ก่อนกรอกรายละเอียดในการบริจาคเลือดให้ไปกดบัตรคิวก่อน กดบัตรคิวทั้งข้างบนและข้างล่าง คิวข้างล่างเพื่อเจาะตรวจเลือดวัดความดัน ส่วนคิวด้านบนเพื่อเจาะเก็บเืลือด เอาคิวทั้งสองที่มาก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการบริจาค อาจจะช่วยให้เร็วขึ้นอีกนิดนึง เลือดผมค่อนข้างดี เร็ว และแรง อาจเพราะอั้นมาทั้งปี หลังจากไปนอนกำแบๆ แป๊บเดียว ก็เต็มกระปุกแล้ว เต็มก่อนคนที่เข้าไปก่อนซะอีก  วันนี้เจอพวกแปลกๆมาบริจาคเลือด แบกกล้องตัวใหญ่มาด้วย แล้วก็เที่ยวถ่ายทุกช็อตตั้งแต่ทางเดิน จนกระทั่งบันไดเลื่อน ถ่ายๆ พอตัวเองต้องนอนให้เลือด ก็ยังอุตส่าห์หยิบกล้องตัวใหญ่กระเตงถ่ายแขนตัวเองที่มีเข็มปักอยู่อย่างยากลำบาก.. ไม่รู้ถ่ายไปอวดใคร แต่เอาเถอะ..ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แถมยังได้บุญด้วย ผมก็ขออนุโมทนาด้วยคนน่ะ หลังจากบริจาคเลือดแล้วว่าจะเข้าไปกราบพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตรฯ แต่วน 2 รอบ ยังหาที่จอดไม่ได้เลย แดดก็ร้อน รถก็เยอะ คนก็แยะ เลยถอดใจ วันหลังค่อยมาใหม่ละกัน…..

รถเมล์เหี้ย เหี้ย

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 19 January 2011

การขึ้นรถโดยสารสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถตู้ หรือรถแท็กซี่เหมือนการซื้อหวย!! ต้องลุ้นเสมอๆว่าจะเจอโชเฟอร์นิสัยดีมั้ย? ขับรถดีมั้ย รถเหม็นมั้ย ฯลฯ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยถูกหวย มีแต่เฉียดๆ อย่าไปคาดหวังถึงรางวัลที่หนึ่ง เพราะไม่รู้ว่ายังมีอยู่หรือเปล่า เท่าที่เคยขึ้นรถเมล์ รถตู้ และรถแท็กซี่มา คิดว่าเจอมาเกือบทุกประเภทแล้ว ตั้งแต่สูบบุหรี่บนรถ อันนี้นรกมากๆ เคยเจอทั้งบนรถแท็กซี่และบนรถเมล์(ร่วมบริการ) สาย 92 รถตู้ไม่เคยเจอสูบบุหรี่ เคยเจอแต่ขับเลวมากๆ ปาดซ้ายปาดขวา จี้ก้น เบรกหัวทิ่ม ออกตัวแรง ผู้โดยสารนั่งบนรถแทบจะอ๊วก เท่านั้นยังไม่พอ การพูดการจากับผู้โดยสารต้องบอกว่า “ต่ำ” และไม่ให้เกียรติเลย เคยเจอรถตู้ที่แอบขึ้นราคากับผู้โดยสารอย่างหน้าด้านๆ ก่อนซื้อหวยต้องอธิษฐานขอให้ถูก ก่อนขึ้นรถเมล์ก็คงต้องทำเช่นนั้นเหมือนกัน!! ปล. ชื่อเรื่องได้รับอิทธิพลจากน้าเน็ก

อ่านต่อ

หย่อนใจ ณ บ้านไร่ อุทัยธานี

ท่องเที่ยว 15 July 201813 June 2019

บรรยากาศต่างจังหวัด ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ช่วงเช้าน่าออกไปวิ่งเสมอครับ ..ลองออกไปสัมผัสดูสัก 10-20 โล

กระต่ายไล่โจร(?)

ไดอารี่ 11 November 200827 September 2016

เคยดูทีวีเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงๆ อุบัติเหตุจริงๆ อย่างเช่นรายการเรื่องจริงผ่านจอ ที่มักจะเอาภาพวงจรปิดการโจรกรรมบ้าง ลักขโมยของเล็กๆน้อยๆ ของในห้างร้านจนกระทั่งถึงของใหญ่ๆ เช่น รถ, บ้าน เป็นต้น เห็นแล้วก็กลัวอยู่เหมือนกัน แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า เหตุการณ์แบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นกับเรา แต่แล้ว..เหตุการณ์แบบในทีวีก็เกิดขึ้นจริงกับผม!!! เย็นวันนี้หลังจากเลิกงานในเวลาห้าโมงเย็น ผมก็กลับบ้านไวตามปกติ พอเดินมาถึงห้องขณะจะไขกุญแจ ก็เหลือบไปเห็นข้างๆประตูมีรอยงัดแงะ แว่บแรกคิดว่า..เอ ไอ้จุ๊บ(กระต่ายของผม) มันมาแทะประตูห้องตั้งแต่เมื่อไรหว่า คิดในเวลาติดๆกันต่อไปว่า นี่มันสูงเกินที่กระต่ายจะแทะได้ ใจคอเริ่มไม่ได้ ขณะเดียวกันผมก็เหลือบไปดูที่กุญแจ กุญแจคล้องถูกงัด กุญแจลูกบิดก็ถูกงัด! ผลักประตูเพียงเบาๆประตูก็เปิดอ้าออกโดยง่าย ผมตัวเย็น ใจหายวูบ รีบก้าวเข้าไปในห้อง สิ่งแรกที่ดูคือ macbook! ผมไม่ได้ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะคอม จะเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างมิดชิด จะใช้เมื่อไรถึงจะหยิบออกมา รีบเปิดตู้ดู ปรากฏว่าแมคบุคสุดเลิฟ ยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม ใจชื้นขึ้นมาหน่อย รีบสำรวจดูของอื่นๆ ปรากฏว่าของทุกอย่างยังอยู่อย่างเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยการถูกค้น รื้อ หรือปรากฏว่ามีอะไรหาย? ยังความปลาดใจให้เกิดแก่ผมยิ่งนัก ผมโทรเรียกเจ้าของหอมาดู แกมาถึงก็แสดงความกังวลที่เห็นประตูถูกงัดจนเสียหาย อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้ใครรู้ กลัวคนอื่นจะกลัวและจะย้ายออก ดูแกจะกังวลกว่าผมมาก รีบไปหาอุปกรณ์มาซ่อม และปลอบผมให้หายกังวลว่า ต่อจากนี้ไปตอนบ่ายๆคงต้องเดินมาตรวจบ่อยๆ เพราะปกติกลางวันจะเงียบ คนออกไปทำงานซะส่วนใหญ่ กลางคืนมียามคอยรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว นั่งดูแกซ่อมประตูพลางพยายามคิดกันว่า ขโมยคนนี้คือใคร เป็นคนใน(หอ)หรือคนนอก คนนอกก็อาจเข้ามาได้แม้ประตูหอจะมีระบบคีย์การ์ดก็เถอะ ขโมยอาจถือโอกาสที่มีคนเข้า แล้วเดินตามเข้าไป หรือถ้าเป็นคนใน เจ้าของหอให้ความคิดเห็นว่า แกสงสัยอยู่คนหนึ่ง ซึ่งพึ่งย้ายมาอยู่ไม่นาน อยู่ห้องริมในชั้นเดียวกันนี้ ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง ยังเป็นนักศึกษาเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ในเวลากลางวันก็จะมีเพียงเด็กคนนี้อยู่ในชั้นนี้คนเดียว แต่ก็ไม่สามารถปักใจเชื่อได้ เพราะไม่มีหลักฐาน ประเด็นที่ว่าใครคือขโมย ก็ยังสรุปไม่ได้ ประเด็นต่อไปคือ ทำไมขโมยคนนี้ถึงไม่เอาสิ่งของใดๆออกไป ถึงแม้เอาของใหญ่ไปไม่ได้ อย่างทีวี ตู้เย็น ของใคร คงเอาไปไม่ได้ เพราะจะเป็นที่สงสัยของคนปากซอย แต่กระนั้น ทำไมของเล็กๆน้อยๆ ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ ถึงไม่ได้ถูกรื้อค้นอย่างที่ควรจะเป็น สิ่งที่ผิดปกติเพียงนิดเดียวที่ผมเห็น คือ ปลั๊กทีวีถูกเสียบไว้ (ปกติก่อนออกไปทำงานทุกครั้งผมจะดึงปลั๊กออก) แต่อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อเช้าผมลืมถอด ข้อนี้ยังไม่แน่ใจนัก ปกติผมไม่เคยลืมจะถอดปลั๊ก ข้อสันนิษฐานที่ผมคุยกะเจ้าของหอ คือ เป็นไปได้ไหมที่ขณะเจ้าขโมยกำลังงัดห้องได้ พอดีมีคนเดินผ่านมา…

กระต่าย

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH