Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

วิ่ง

อ่านต่อ

นาวิกมาราธอน 2562 กับ มาราธอนครั้งที่ 5 ในชีวิต

วิ่ง 7 July 201910 July 2019

มาราธอนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 กับการเตรียมตัวเพียง 2 เดือน แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้าง ว่ากันตามจริง 2 เดือนนี่ก็ถือว่ามากพอสำหรับคนที่เคยผ่านมาราธอนมาแล้วตั้ง 4 ครั้ง!!! นาวิกมาราธอน เป็นสนามมาราธอนที่บรรดานักวิ่งยกให้เป็นสนามโหดอันดับที่ 2 รองจากเขาค้อ เนื่องจากเป็นทางวิ่งที่มีเนินเขาค่อนข้างเยอะ เป็นของแสลงสำหรับนักวิ่งอ่อนซ้อมอย่างผม ผมหมายหมั้นปั้นมือตั้งแต่ปีที่แล้วว่าอยากมาวิ่งงานนี้ให้จงได้ แต่เนื่องจากระบบการสมัครวิ่งที่อ่อนไหวต่อจำนวนคนมากมาย ทำให้ล่มแล้วล่มอีก จนไม่สามารถสมัครได้ ปีที่แล้วจึงพลาดการมาร่วมงาน ปีนี้จึงเอาใหม่ ทางทีมงานนาวิกมาราธอน เปลี่ยนการสมัครมาใช้ runlah.com จึงทำให้การสมัครวิ่งง่ายขึ้นเยอะ  การซ้อม อย่างที่บอก ผมมีเวลาซ้อม 2 เดือนหลังจากจบงานจอมบึงมาราธอนเมื่อต้นปี ก็หยุดวิ่งยาวจนเหลือเวลา 2 เดือนเพื่อไปนาวิกมาราธอน ดังนั้น 2 เดือนที่เหลือของผมจึงจำเป็นต้องซ้อมอย่างเข้มข้น!  แต่เอาเข้าจริง มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น.. ตั้งใจว่าการไปมาราธอนต้องซ้อมระยะอย่างน้อย 30 กิโลเมตร แต่ที่สุดก็ทำได้แค่ 25 กิโลเมตร แถม 2 อาทิตย์สุดท้ายฝนตกแทบทุกวันจนไม่มีโอกาสได้ซ้อม มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจ! มาราธอนต้องมีวินัย โดยไม่มีข้ออ้าง  ผลจากการหยุดไปนาน เมื่อเริ่มต้นวิ่งใหม่ ทำให้เหมือนแทบเริ่มใหม่หมดเลย .. เหนื่อยง่าย วิ่งไม่ทน และวิ่งช้า ผมโทษรองเท้า!!  ซื้อรองเท้าใหม่ Altra kayenta เบา สบายเท้า เพราะหน้ากว้างและพื้นเป็น Zero drop  แต่เมื่อมาใส่ซ้อมวิ่งแล้ว พบว่าความเร็วเท่าเดิม วิ่งช้า และเหนื่อยง่าย อีกครั้งที่ผมโทษรองเท้า  ซื้อรองเท้าใหม่ คราวนี้เอาแบบมีพื้นหนา ดีด เด้ง ได้รองเท้า on cloudtec มา เหยียบเมฆเลยมั้ยละมึง! ซ้อมวิ่งไป 100 KM ไม่เห็นความเร็วจะดีขึ้นเลย ไม่เกี่ยวกับรองเท้าละ เกี่ยวกับตัวเองนี่แหละ คือ ตัวเองอ่อนซ้อม!! ตารางซ้อมคือ วันธรรมดาวิ่ง 5-6 km 2-3 วัน วันเสาร์วิ่ง 10-12 km วันอาทิตย์วิ่ง…

นาวิกมาราธอน มาราธอน วิ่ง
อ่านต่อ

City run วิ่งชมเมือง สาทร – วงเวียนใหญ่

วิ่ง, สุขกะภาพ 24 April 201924 March 2020

City Run คือการวิ่งออกกำลังกายนอกสถานที่ครับ วิ่งไปตามตรอกซอกซอย หรือเส้นทางที่คับแคบไม่มีรถและคนจอแจ กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีตรอกซอกซอยจุดเล็กจุดน้อยเยอะมาก ถึงจะอยู่กรุงเทพเป็นสิบๆปีแต่รับรองเลยว่ามีอีกหลายที่ๆเราไม่เคยเห็นหรือไม่เคยไปถึง การวิ่ง city run จะทำให้เข้าถึงสถานที่เหล่านั้นได้ การวิ่ง city run ครั้งนี้เส้นทางเน้นเลียบไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาครับ เริ่มต้นที่สะพานสาทร ลัดเลาะไปตามแม่น้ำจนถึงวัดอรุณและไปจบที่วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์ชัยพระเจ้าตากสิน สำหรับท่านที่ไม่เคยไปกราบสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินที่วงเวียนใหญ่นะครับ วิธีเข้าไปข้างในต้องลอดใต้อุโมงค์ อุโมงค์อยู่ขวามือถ้าไปจากสะพานพุทธ ครั้งหน้าไปวิ่ง cityrun ที่ไหนค่อยว่ากันครับ

cityrun วิ่ง
อ่านต่อ

บ้านแพ้ว ฮาล์ฟมาราธอน 2018 สุนทรียะของการวิ่ง

วิ่ง 15 January 201815 January 2018

การวิ่งถ้าเปรียบกับควารัก มันไม่ใช่รักแรกพบ แต่เป็นรักที่มีแต่ความปรารถนาดีต่อกัน รักที่มีแต่ให้ และรักที่จะอยู่ด้วยกันจนวันตาย

บ้านแพ้ว วิ่ง
อ่านต่อ

ประสบการณ์มาราธอนแรก บางแสน42

วิ่ง 20 November 201722 November 2017

มาราธอนแรกมีแค่ครั้งเดียว และมาราธอนแรกของผม ผมเลือกที่บางแสน42 มาราธอนแห่งความสาหัส

บางแสน42 มาราธอน วิ่ง
อ่านต่อ

ครั้งแรกในการวิ่ง Half Marathon ณ อยุธยา

วิ่ง, สุขกะภาพ 30 August 20172 November 2017

นับตั้งแต่เข้าสู่วงการ “วิ่ง” การไปร่วมวิ่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่าเป็นการวิ่งที่ตื่นเต้นที่สุด ทั้งเส้นทางวิ่งที่รายล้อมด้วยวัดวาอารามที่ดูขลัง และสำคัญที่สุดการเดินทางเพื่อไปร่วมวิ่ง

half marathon พระนครศรีอยุธยา วิ่ง
อ่านต่อ

Thaicom 10k 2017

วิ่ง 5 February 20173 November 2017

งานวิ่งของไทยคมจัดที่สะพานพระราม ๘  นั่นคือสิ่งเดียวที่ทำให้ผมสนใจใคร่หยิบรองเท้าออกไปวิ่งด้วย สะพานพระราม ๘ เป็นสัญลักษณ์ของงานวิ่งหลายๆงานในกรุงเทพฯ และสักครั้งหนึ่งก็อยากไปสัมผัสบรรยากาศบนสะพานนั้นบ้าง การเปิดรับสมัครในรอบแรกเต็มไปตั้งนานแล้ว เพราะจำกัดจำนวนแค่ 2,000 เท่านั้น แต่เหมือนเทพแห่งการวิ่งได้ยินเสียงวิงวอนจากผม มีการรับเพิ่มอีก 500 ซึ่งผมไม่พลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอน พอถึงวันวิ่ง ..จุดปล่อยตัวอยู่ตรงสวนสาธารณะพระราม ๘ มุ่งหน้าไปแยกอรุณอัมรินทร์ แล้วเลี้ยวเข้าไปจุดกลับรถใต้สะพาน เนื่องจากวันนี้มีงานวิ่งของกรุงเทพมาราธอนด้วย แม้จะปล่อยตัวกันคนละจุด แต่ใช้สะพานเดียวกัน ดังนั้น การปล่อยตัวจึงต้องเลื่อนออกจากไป จากเดิม 6 โมง เลื่อนเป็น 6 โมงครึ่ง และปล่อยตัวจริงๆคือ 6 โมง 45 นาที การวิ่งในครั้งนี้ผมตั้งใจจะทำเวลาให้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แต่เหมือนสถานที่จะไม่ค่อยอำนวย คนเยอะบนสะพานแคบๆ การแซง การวิ่งเป็นไปด้วยความยากมากใน 2 – 3 กิโลเมตรแรก  การพยายามแซง การหลบ การเร่งสปีด การผ่อนช้าเมื่อเจอกลุ่มวิ่งแช่ ทำให้เหนื่อยง่าย บวกกับต้องวิ่งขึ้นสะพาน จึงทำให้ไม่สามารถทำลายสถิติเดิมของตัวเองได้ จบที่เวลา 59.23  นาที เสน่ห์ของที่นี่ คือ วิวดี บรรยากาศดี ปิดถนนได้ 100% จุดให้น้ำมีมากมายพอเพียง .. แต่งานนี้สำหรับผมในแง่ของการวิ่งโอเคครับ ถึงไม่สามารถทำลายสถิติตัวเองได้ แต่ในแง่ของภาพ พังมาก ไม่มีภาพดีๆ มุมสวยๆ อย่างที่ตั้งใจไว้เลย ไม่ถูกบัง ก็ไม่เข้ากล้องไปเลย .. งานครั้งหน้าที่เขาใหญ่มาราธอน ค่อยว่ากันใหม่.  

วิ่ง ไทยคมมินิมาราธอน
อ่านต่อ

Recon Run Challenge

วิ่ง 15 December 201616 June 2019

จากกิจกรรมการวิ่งของพี่ตูน บอดี้สแลม 10 วัน 400 กิโลเมตร เพื่อนำรายได้ไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล หลายคนได้ร่วมบริจาคกับกิจกรรมครั้งนี้ และอีกหลายๆคนเกิดแรงบันดาลใจในการออกไปวิ่ง “ก้าวเล็กๆ ที่ออกไปวิ่ง มาจากชัยชนะของจิตใจที่ยิ่งใหญ่” เมื่อต้นปี 59 มีการสร้างเพจเล็กๆ เพจหนึ่ง ชื่อ Recon Running เป็นการรวมกลุ่มเพื่อจัดวิ่งออกกำลังกาย และในฐานะเพจของคนส่งเสริมการวิ่ง จึงเกิดกิจกรรมชาเลนท์ตัวเอง 10 วัน 100 กิโลเมตร ทั้งนี้ กิจกรรมนี้ไม่มีการบริจาค ไม่มีเส้นทาง มีแต่ระยะทางที่ท้าทาย ว่าต้องทำให้ได้ภายใน 10 วัน 100 กิโลเมตร ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 3 – 12 ธันวาคม 2559 สิ่งที่ต้องต่อสู้และเอาชนะให้ได้ คือการต้องตื่นเช้าเพื่อมาวิ่ง ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 05.30 น. หลังจากเสร็จธุระส่วนตัวได้ออกสตาร์ทวิ่งจริงในเวลาประมาณ 05.45 น. อากาศกำลังดี เย็น สบาย 3 วันแรกแรงขายังดีอยู่ ทำเวลาได้ดี วิ่งจบแบบไม่เจ็บและไม่เหนื่อยจนเกินไป แต่พอเข้าวันที่ 4 เย็นวันก่อนนั้นไปตีแบด ทำให้เกิดอาการล้าสะสมหนักกว่าเดิม มีผลให้เช้าวันที่ 4 วิ่งได้ไม่ดีนัก จบที่ 6 กิโลเมตรเท่านั้น  ต้องมาวิ่งในตอนเย็นให้ครบ 10 กิโลเมตร วันที่ 5 ตรงกับวันพุธ แน่นอนทุกวันพุธมีนัดตีแบดในตอนเย็น เช้าวันนั้นจึงต้องตุนไว้ก่อนให้ได้ 10 กิโลเมตร และทำได้ไม่ยากนัก สิ่งที่น่ากลัวคือเช้าในวันต่อมา เพราะจะล้าสะสมจากวิ่งตอนเช้าและตีแบดในตอนเย็น วันที่ 6 เช้าวันนั้นก็เป็นไปตามคาด ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เพราะมีอาการท้องเสียทำให้เพลียหนักไปกว่าเดิม เช้าวันนั้นพลาด แต่ตอนเย็นกลับมาวิ่งได้ 10 กิโลเมตร วันที่  7 ตรงกับเช้าวันศุกร์ วิ่งได้แค่ 6 กิโลเมตร ถึงวันนี้ระยะทางรวม 60 กิโลเมตร วันที่  8  ตรงกับวันเสาร์เช้าวิ่ง…

Recon ReconRunChallenge วิ่ง
อ่านต่อ

ระยองมาราธอน 2016

วิ่ง 28 November 201613 June 2019

  เป็นการลงวิ่งในระยะฮาล์ฟ (21.5km) เป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้ทำเวลาดีกว่าเดิม ครั้งแรกวิ่งสามัคคีศรีรัช ทำเวลาได้ 2.25 นาที ครั้งนี้ทำเวลาได้ 2.23 นาที  ดีกว่าเดิมนิดหน่อยถือว่ามีการพัฒนาไปในทางที่ดี พูดถึงการจัดงาน ระยองมาราธอน แต่เดิมเป็นงานวิ่งของกลุ่มวิ่งชาวบ้านเพ ตอนหลังมาพอกลุ่มใหญ่ขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็นระยองมาราธอน แต่ก็ยังคงจัดที่บ้านเพเหมือนเดิม ด้วยความที่เป็นงานบ้านบ้าน ของชาวบ้านถึงแม้จะมีการจัดต่อเนื่องยาวนานมาถึง 16 ครั้งแล้วก็ตาม การจัดการก็ยังเป็นแบบบ้านบ้าน เริ่มตั้งแต่วันไปรับbib มีความช้า  ปล่อยให้คนเข้าแถวยาว ในสถานที่ที่คับแคบจนต้องยืนเข้าแถวตากแดด bib ต้องมาเขียนตัวเลขกันสดๆตรงหน้างานผิดบ้างถูกบ้าง ที่เลวร้ายไปกว่านั้น คือ มีการเปิดรับสมัครกันหน้างาน แต่..ผู้ที่สมัครหน้างานจะไม่ได้เสื้อ! และไม่ได้เหรียญ!! สำหรับนักวิ่ง สัญลักษณ์หนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของเขาคือเหรียญที่ระลึก พลาดมาก แต่มีพลาดมากกว่านั้นอีก ในรายการนี้เหรียญที่ระลึกสำหรับ มินิ ฮาล์ฟ และมาราธอนแตกต่างกัน มินิ เหรียญทองแดง ฮาล์ฟ เหรียญเงิน และมาราธอน เหรียญทอง แต่คนแจกเหรียญไม่รู้เรื่องด้วย ใครเข้าเส้นชัยก่อน กูให้เหรียญทอง ใครมาทีหลังก็ให้เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงตามลำดับ เหรียญทองจึงตกไปอยู่กับมือคนวิ่งระยะมินิหมด พังมากครับ มาพูดถึงบรรยากาศในงานบ้างดีกว่า ยกเว้นเรื่องความผิดพลาดในการจัดการที่มั่วข้างต้นนั้นแล้ว เรื่องอื่นๆ โอเคครับ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่วิ่งเลียบหาด แม้จะปิดถนนไม่ได้ 100% แต่รถราในช่วงเช้าก็มีไม่มากนัก โชคร้ายตรงที่ว่าในจำนวนรถที่ไม่มากนักนั้น มีรถบางคันที่ขับเร็วมาก เรื่องน้ำท่าตามจุดบริการต่างๆ ถือว่าทั่วถึงครับ สิ่งที่ขาดไปคือห้องน้ำ ตลอดเส้นทางวิ่ง ไม่มีรถห้องน้ำเคลื่อนที่เลย จึงเห็นภาพนักวิ่งบางท่านต้องวิ่งแวะข้างทาง อาศัยพุ่มไม้เป็นจุดปล่อยทุกข์ชั่วคราว ทุกข์เบาพอทำได้ แต่ถ้าเป็นทุกข์หนักละต้องทำไง..สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับผมตั้งแต่กิโลเมตรแรกจนถึงกิโลเมตรที่สิบ! งานนี้โชคดีอย่างหนึ่งคือที่พักใกล้จากจุดปล่อยตัวมาก ประมาณ 500 เมตร ตื่นเช้าเข้าห้องน้ำพยายามอึให้เสร็จ แต่ดูเหมือนมันไม่หมด พอไปถึงจุดสตาร์ทมวลสารที่ยังไม่หมดเริ่มมีปฏิกิริยา ก่อนถึงเวลาปล่อยตัว 10 นาที ผมวิ่งหาห้องน้ำ หาเจอครับ แต่เห็นจำนวนคนเข้าแถวเพื่อเข้าห้องน้ำแล้วต้องถอดใจ เริ่มปล่อยตัว วิ่งไปด้วยความรู้สึกตุ่ยๆที่ท้อง ตลอดระยะ 10 กิโลเมตรผมวิ่งไปมองหาห้องน้ำไป เจอพงป่าข้างทางเกือบตัดสินใจไปปลดปล่อยหลายรอบ แต่ทำใจไม่ได้ จึงต้องอดทนและวิ่งไปเรื่อยๆ มีบางจังหวะที่มันเริ่มมาถึงประตูหลัง นึกว่าเป็นแค่ลม แต่พอค่อยๆปล่อยออกมา มันจะออกมาทั้งกากใย…

ระยองมาราธอน วิ่ง
อ่านต่อ

ฝากรอยเท้า ณ บางแสน

ท่องเที่ยว, วิ่ง 30 August 20163 November 2017

สืบเนื่องจากคุณแฟนไปประชุมที่บางแสน ตั้งแต่วันศุกร์ ก็เลยผุดไอเดียไปเที่ยวบางแสนด้วยซะเลย ระยะทางแค่ 100 กว่ากิโลจากกรุงเทพไม่น่าเป็นปัญหา ออกเดินทางวันเสาร์ งานนี้ได้ชวนป้าและน้องแฟนไปด้วย โดยนัดหมายไปเจอกันที่บางแสนเลยทีเดียว การเดินทางไปบางแสน ถ้าจะให้เร็วก็ต้องใช้ทางด่วนบูรพาวิถี แต่ถ้าจะให้ง่ายก็ใช้มอเตอร์เวย์ยิ่งตรงไปจนถึงถนนข้าวหลาม เห็นถนนข้าวหลามแล้วออกซ้ายเพื่อยูเทิร์นแล้วเลี้ยวซ้ายแรกไปยังหาดบางแสน เดินทางง่าย   งานนี้ผมไม่พลาดที่จะหิ้วชุดและรองเท้าวิ่งไปด้วย กลางคืนวันเสาร์ฝนตกหนักมาก แต่ผมยังหวังว่าเช้าฝนจะหยุด จนกระทั่ง 6 โมงเช้านาฬิกาปลุก ผมแต่งตัวเตรียมออกไปวิ่ง …. แต่เมื่ออกจากตัวตึกกลับพบว่า ฝนยังคงโปรยปรายแม้ไม่หนักมาก แต่ก็ทำให้ไม่สามารถออกไปวิ่งได้แน่นอน กลับเข้ามานอนต่อ จนกระทั่ง 9 โมง จึงหิ้วรองเท้าออกไปใหม่ ฝนหยุดแล้ว และแดดยังไม่มา วิ่งสิครับรออะไร ริมหาดบางแสนแม้จะมีร้านรวงค่อนข้างหนาตา แต่ตรงกลางเขาได้เว้นทางเอาไว้ และปูด้วยหินอ่อน วิ่งไปจนสุดหาดจะมีระยะทางถึง 5-6 กิโลเมตร แม้ทางหินอ่อนจะกว้าง แต่ข้างทางเต็มไปด้วยร้านและผู้คน วิ่งต้องคอยหลบคอยระวังตลอดเวลา หินอ่อนหลังฝนตกก็มีความลื่น ต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ งานนี้วิ่ง 10 กิโลเมตรครับ งานหน้าจะไปฝากรอยเท้าไว้ที่ไหน ค่อยว่ากันอีกที

บางแสน วิ่ง
12
อ่านต่อ

น.ส. จิกกี๋

สุขกะภาพ 29 June 201328 October 2015

สมาชิกในบ้านที่่สร้างความปั่นป่วนได้ตลอดเวลา

ไล่ล่าสิ่งที่อยู่แสนไกล..จนลืมใจที่ใกล้เพียงเซนฯเดียว

เรื่องทั่วไป 23 January 2010

ไม่ใช่ของใหม่อะไร แต่กลัวตัวเองจะลืมเลยต้องบันทึกไว้ซะหน่อยก่อน เมื่อก่อนในหน้า all about me จะมีบ็อกของ msn ที่แสดงสถาานะของผมว่า ออนไลน์อยู่หรือไม่ ? หากออนไลน์อยู่ ท่านผู้มีเกียรติที่ผ่านเข้ามาก็สามารถทักทาย จุกกรู๊  ด่า ว่า ชม แช่ง ฯลฯ ได้ แต่เมื่อวานนี้พึ่งสังเกตุเห็นว่า เจ้าบ็อกดังกล่าวมันหายไป ทีนี้การจะไปหาโค๊ดเดิมจาก Microsof มาแปะนั้น ก็หาทางเข้าไม่เจอ เดือดรร้อนไปถึงเฮียกู(เกิ้ล)อีก  งานนี้เลยขอเน้นๆ เก็บไว้ในบล็อกส่วนตัวนี่ซะเลย เผื่อหลายคนยังไม่รู้จัก เลยจะขอแนะนำสู่กันฟังเลยครับ มันคือหน้าต่าง MSN บนเว็บ  ทำให้คนที่ต้องการติดต่อคุณ ไม่ต้องลง MSN หรือ WLM ก็สามารถติดต่อคุณได้เพียงแค่มี Browser ถ้าพยายามจินตนการตามแล้วยังนึกภาพไม่ออกเลยว่ะไอ้ทิด คลิกดูตัวอย่างจริงจากหน้านี้เลยขอรับ คลิกดูตัวอย่าง (ลากลงไปด้านล่าง ใต้ภาพสุดท้าย(ผู้ชายเสื้อแดงๆนั่นแหละครับ)) สำหรับเส้นทางไปสู่การได้มันมานั้น ง่ายเหลือหลาย คลิกที่ลิ้งด้านล่างนี่เลย แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย http://settings.messenger.live.com/applications/websettings.aspx สำหรับเว็บที่ขายของ หรือ support ออนไลน์ บริการนี้เหมาะอย่างยิ่งนะครับ จะจบห้วนๆแบบนี้ดูจะสั้นไป วันหนึ่งมีเรื่องมาบอกเ่่ล่ากันแค่นี้เหรอ เมื่อวันก่อนดูรายการเจาะใจ เขาเชิญ จับช่ายแมน หรือ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เรื่องราวของท่านน่าสนใจมาก และท่านเป็นคนที่มีความคิดไม่เหมือนใคร หลายประโยค เมื่อท่านพูด ทุกคนก็จะร้อง “เออ..เนอะ” หลายเรื่องที่เราไม่ทันคิด ด้วยความเคยชินของชีวิต แต่ท่านคิดทุกเม็ดทุกหน่วย รายการเจาะใจในวันนั้น เวลาไม่พอต้องต่อในอาทิตย์ถัดไป แต่แค่ตอนแรกก็รู้สึกได้ว่า ชีวิตท่านน่าสนใจ น่าศึกษา ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสไปร่วมงานกับนาซ่า ประมาณ 6-7 ปี พิธีกรถามว่า รู้สึกอยา่งไรที่ได้ไปร่วมงานกับนาซ่า? ท่านตอบว่า “รู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิตที่ได้ไปที่นั่น” นาซ่าพยายามค้นคว้าหาทางเพื่อไปนอกโลก นอกจักรวาลที่ไกลแสนไกล จนลืมค้นคว้าสิ่งที่อยู่ข้างในเพียงแค่เซนเดียว นั่นคือ หัวใจ คมครับคม ผมชอบ ป.ล. อยากรู้จักท่านมากกว่านี้ คลิกเลย

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

นวดเพื่อสุขภาพ

เรื่องทั่วไป 16 June 2008

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพึ่งไปนวดมาครับ ! ในชีวิตพึ่งเคยไปนวดจริงๆจังๆ 2 ครั้ง นวดที่ว่านี่ คือ นวดแผนโบราณ นวดตัว บีบ เค้น ดึง กด นะครับ ไม่ใช่ อาบ อบ นวด (ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยเที่ยวอาบ อบ นวด เลย แม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้แถวที่พักอาศัยจะรายล้อมด้วยสถานดังกล่าวอย่างมากมายก็ตาม) ครั้งแรกที่ใช้บริการนวด ตอนนั้นเรียกว่านวดคลายเครียด ไปเจอแถวห้างเซนทรัล รัตนาธิเบศร์ ชม.ละ 80 บาท เป็นผู้หญิงนวด นวดคลายเครียดจะนวดแค่ไหล่ขึ้นไป คือจะไม่มายุ่งกับส่วนขา หรือเอวของเรา นั่งบนเก้าอี้กึ่งนั่งกึ่งนอน ให้ป้าแกนวดอย่างเมามัน ..หลังนวดเสร็จ ก็จะสบายตัวไม่ค่อยระบมมาก ครั้งล่าสุดที่ไปนวด จริงจังและตั้งใจมาก ข่าวว่าที่นี่นวดดี สบายตัว อยู่แถวกระทรวงสาธารณสุข เป็นของกระทรวงเองเลย ที่นี่สนนราคาที่ชม.ละ 200 บาท ไปถึงมีชุดให้เปลี่ยน ก่อนนวดผมละอ๊าย อาย คือ จะมีคนเอาน้ำอุ่นมาล้างเท้าให้เรา..คนที่ล้างนี่ก็รุ่นแม่ ทั้งอาย ทั้งเกรงใจ การนวดครั้งนี้เป็นการนวดเพื่อสุขภาพครับ จึงต้องจริงจังกันซะหน่อย มีเตียงให้นอน หมอนให้หนุน แอร์เย็นๆ เริ่มด้วยการไล่ลมจากส่วนต่ำสุดของร่างกาย นั่นคือเท้า นวด ดึง กด ตั้งแต่ปลายเท้ายันหน่อง ส่วนอื่นพอทนได้ เจ็บๆปนสบายๆ แต่ตรงหน่องนี่ ผมแทบเอาเท้ายันคนนวดหลายครั้ง ก็มันจี๋นี่นา..ส่วนที่เจ็บปวดที่สุด คือ ส่วนไหล่ รุนแรงและเจ็บปวด ส่วนสุดท้ายคือส่วนหัว คลึงหน้า คลึงหัวจนผมเคลิ้ม.. หลังนวดเสร็จมีระบบนิดหน่อย แต่เป็นอาการธรรมดาของอาการหลังการนวด..ก็สบายตัวดีครับ แต่ผมว่า การนวดน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุของคนที่ปวดเมื่อย จริงๆวิธีแก้ที่ได้ผลที่สุด และตรงจุดที่สุดคือการออกกำลังกาย แค่วิ่ง หรือว่ายน้ำทุกวันๆละ 1 ชม. หรือ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย ร่างกายก็แข็งแรง สุขภาพดี กล้ามเนื้อก็ไม่เกร็ง ก็จะไม่มีการปวด ไม่ต้องเสียเงินไปนวด หรือหาหมอให้ยุ่งยากใจ วิธีง่ายๆ แต่ทำกันยาก เข้าทำนอง…

08-08-08

เรื่องทั่วไป 8 August 2008

ไม่ได้ใบ้หวยแต่อย่างใดครับ แต่ชื่อหัวข้อนั่นมาจากวัน เดือน และปีนี้ ชาวจีนถือว่าเลขแปด เป็นเลขมงคล เพราะแปดตามเสียงของภาษาจีนกลางออกเสียงว่า ปา ซึ่งมีความหมายว่ารวย เมื่อเลขแปดมารวมกันถึงสามตัว ก็มีความหมายว่า รวย รวย รวย แสดงว่าคนจีนถือเงินทอง ความร่ำรวยถือเป็นมงคล แต่คงไม่ใช่เฉพาะคนจีน เดี๋ยวนี้ใครต่อใครต่างถือว่า เงินทอง ความร่ำรวยเป็นมงคลทั้งนั้นแหละครับ ขัดแย้งกับพระพุทธศาสนาอย่างสิ้นเชิง ปากก็บอกว่านับถือพุทธๆ แต่เที่ยวถือเงินทองเป็นมงคลนี่ ขัดต่อพุทธเห็นๆ พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนว่า เงินทองเป็นมงคล แต่ได้สอนมงคล ๓๘ ประการไว้ เริ่มตั้งแต่ อเสวนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวนา..การไม่คบคนพาล๑ การคบหาแต่บัณฑิต๑..เป็นต้น ก่อนที่พระองค์จะทรงสอนมงคล ๓๘ ประการนั้น ก็มีการถกเถียงกันในหมู่นักปราชญ์มานานนมแล้ว ว่า อะไรกันแน่เป็นมงคล บ้างก็ว่า สิ่งที่ได้ฟังแล้วไพเราะหู นั่นแหละเป็นมงคล บ้างก็ว่า สิ่งที่ได้เห็นแล้วเกิดความปลาบปลื้มบันเทิงใจนั่นแหละเป็นมงคล บ้างก็ว่า อารมณ์ที่เกิดในจิตใจที่เป็นอารมณ์ที่เป็นกุศล นั่นแหละเป็นมงคล หากสนใจเนื้อหามงคล ๓๘ โดยละเอียด คลิกที่นี่เลยครับ วันนี้ไม่ได้ตั้งใจมาเล่าเรื่องมงคล แต่มากล่าวถึงเลขมหัศจรรย์ 08-08-08 อีกนานกว่าจะเวียนบรรจบมาพบกับเลขวัน เลขเดือน และเลขปีเช่นนี้อีก ส่วนเรื่องที่ว่าเลข 8 ถือว่าเป็นเลขมงคล มีความหมายว่า รวย รวย รวย นั้น ผมไม่สู้จะตื่นเต้นเท่าไรนัก พระพุทธเจ้าสอนอย่างชัดเจนแล้วครับ มงคล ๓๘ ประการดังกล่าวแล้วข้างตน วันนี้เป็นวันสุดยอดมงคลของจีน นอกจากจะเป็นวันมงคลดังกล่าวแล้ว วันนี้เป็นวันเปิดงานโอลิมปิกที่จีนอีกด้วย.. ยิ่งใหญ่ทีเดียว และนับจากนี้ ก็คงจะได้ติดตามมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ จะรอดูว่า ปีนี้เป็นปีอภิมหามงคลของจีนหรือไม่ ถ้าเป็นของจีนจริง จีนต้องได้เป็นจ้าวเหรียญทอง จะรอดูและรอเชียร์ ~

โชคดีที่เป็นหมา

ไดอารี่ 25 June 2011

จะดีก็ดี จะไม่ว่าไม่ดีก็ไม่รู้จะใช่หรือเปล่านะครับ ‘จิ๊กกี๋’ ยามสุภาพสตรีสีดำประจำบ้านที่ผมได้แนะนำให้รู้จักในบล็อกก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอซึมๆไป ผมได้พาไปให้หมอเจาะตรวจเลือด..ปรากฏผลออกมาว่า เธอเป็นโรค ‘ไต’ ระยะที่ 3  (โรคไตมี 4ระยะ) ระยะที่สามถือว่าเป็นระยะที่อันตรายพอสมควร จึงไม่แปลกใจที่เธอมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัด หมามันพูดไม่ได้ว่ามันเป็นยังไง มันรู้แต่ว่าเมื่อไม่สบายตัว มันก็จะไม่สนุกสนาน ไม่เล่น ไม่ร่าเริง ซึ่งจากอาการเหล่านี้ถ้าคนที่สนใจหมาสักนิ๊ดก็จะรู้ทันทีว่ามัน “ไม่ปกติ” จากการสันนิษฐาน จิ๊กกี๋เป็นโรคไตเพราะ 2 สาเหตุหลัก คือ 1. อาหาร อาหารที่มีรสจัดมาก ถูกปากหมาแต่ไม่ถูกต่อโรค 2. อั้นฉี่ น่าจะเป็นสาเหตุหลัก จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในรั้วบ้าน และนั่นหมายความว่ามันจะมีโอกาสได้อึฉี่วันละสองครั้งเท่านั้น คือ เช้ากะเย็น ก่อนผมออกไปทำงานและหลังผมเลิกงาน ยิ่งกว่านั้นจิ๊กกี๋เคยอั้นฉี่นานสุด 3 วัน!!! หลังจากนี้ก็เข้าสู่การรักษาตัว หมอบอกว่ามีโอกาสที่หายได้ แต่ต้องมีวินัยในการกินอาหาร กินยาอย่างสม่ำเสมอ และ..ต้องให้น้ำเกลือทุกวันๆละ 300 ซีซี เรื่องอาหารและยาไม่ยากเท่าไร ถึงแม้มันจะเคยบ้วนยาทิ้งก็ตาม แต่ก็สามารถบังคับขืนใจให้มันกินไปจนได้ แต่การให้น้ำเกลือถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม หมอได้ทำตัวอย่างให้ดู ก็เห็นว่าไม่ยาก เพราะแค่เจาะเข็มให้เข้าสู่ผิวหนัง หมาไม่รู้สึกเจ็บหรือขัดขืนแต่อย่างใด ..ดังนั้น ผมคิดว่าผมทำได้ เมื่อวานลองทำเป็นครั้งแรก..อืมมม ก็ไม่ยากเท่าไร ได้อยู่ จิ๊กกี๋เป็นโรคไตระยะที่สาม ถ้าเป็นคนก็คงจะเครียดพอสมควร แต่นี่เป็นหมา ข้อดีของการเป็นหมาคือมันไม่ต้องรับรู้หรอกว่ามันเป็นโรคอะไร เพราะฉะนั้น มันก็ไม่ต้องเครียด ซึ่งการไม่เครียดนี่เองมีผลดีต่อตัวหมามาก จะเห็นได้ว่าหลายๆคนพอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคโน่นโรคนี่ อาการของโรคยังไม่ได้กำเริบเท่าไร แต่อาการเครียดจิตจับจดอยู่กับโรคจนอาการทรุดกว่าที่ควร พอมานั่งคิดข้อนี้ก็จึงมานั่งคิดว่า.. “อืมม เป็นหมานี่ก็ดีเหมือนกันนะ”

จิ๊กกี๋ ไต

เบื่อม่ะ?

เรื่องทั่วไป 11 June 2008

เกิดความรู้สึกเบื่อขึ้นมาเฉยๆ..(ซะอย่างนั้น) พยายามสร้างความรู้สึกอื่นมาต่อต้านอย่างหนัก เพราะความรู้สึกเบื่อ เป็นความรู้สึกฝ่ายลบ ต้องสร้างความรู้สึกฝ่ายบวกมาต่อต้าน กำราบให้ได้ เมื่อถูกความรู้สึกเบื่อครอบงำ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความสุขก็ไม่มี การงานหน้าที่ก็ไม่คืบหน้า.. กำจัด ต้องรีบกำจัดเสีย คิดถึงงาน..เราจะทำงานในวันนี้ให้ดี ดีกว่าเดิม ดีที่สุด..คิดไป คิดมา ง่วง คิดถึงวันหยุดอันแสนสบาย เมฆสีฟ้า ทะเลสีคราม ..น้ำทะเลใส เสื้อลายดอก และกล้องถ่ายรูป…คิดไป คิดมา  พาลขี้เกียจทำงาน คิดถึงเรื่องดีๆที่ผ่านมา..คิดหนัก! คิดถึงเรื่องการเมือง ปัญหาบ้านเมือง น้ำมันแพง ค่ารถขึ้น ข้าวสารราคาขึ้น มาม่าห่อละ 8 บาท คนประท้วง ขโจรขโมยเต็มบ้านเต็มเมือง คนมีปัญหา..ฯลฯ คิดถึงเรื่องสุดท้ายนี่..หายง่วง แต่เริ่มจะเครียดแทนละ บ้านเมืองเข้าสู่ยุคอะไรฟ่ะเนี่ยะ..ทำไมมันมีอะไรวุ่นวายเยอะแยะไปหมด แต่อ่ะ จะรอดูๆๆๆ ..ว่าจะลงเอยอย่างไร  ทุกปัญหามีทางแก้ .. ก็หวังว่าจะแก้กันเร็วๆ ชาวบ้านจะแย่แล้วววคร้าบ  

ทะเลาะ..ทำไม

เรื่องทั่วไป, เรื่องสั้นสั้น 24 November 2009

สายน้ำไหลเลาะเซาะซอกเขาใหญ่น้อย รวมกันเป็นสายน้ำใหญ่ไหลลงมาล่อเลี้ยงชาวเมืองใหญ่ถึงสองเมือง แม่น้ำนี้จึงเปรียบดั่งชีวิตและจิตใจ คราใดที่ขาดน้ำผู้คนดุจจะสิ้นใจ คราวใดที่น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ผู้คนก็เปรมปรีด์มีความสุข แม่น้ำสายนี้จึงเปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ล่อเลี้ยงสองเมือง คือ เมืองกบิลพัสดุ์ และเมืองเทวทหะตลอดมา แม่น้ำแห่งนี้ชื่อว่าแม่น้ำโรหิณี เมืองกบิลพัสดุ์ซึ่งเป็นเมืองของบิดาของพระพุทธเจ้าของพวกเราตั้งอยูทางเหนือแม่น้ำ ส่วนเมืองเทวทหะซึ่งเป็นเมืองของมารดาของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำ  ทั้งสองเมืองเปรียบเหมือนเป็นเมืองพี่เมืองน้อง เป็นเมืองที่เป็นญาติถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และเป็นเช่นนี้มานานนับปี จนกระทั่งมาปีหนึ่งซึ่งน้ำในแม่น้ำน้อยลง แม่น้ำซึ่งทั้งสองเมืองยืดถือเป็นลมหายใจ ดุจจะลองใจคนทั้งสองเมืองให้สำนึกในบุญคุณ ว่ากันว่า ถ้าจะดูใจคนให้ดูในตอนที่เกิดเรื่อง เพราะในตอนนั้นธาตุแท้ของคนก็จะออกมาให้เราประจักษ์ ทั้งสองเมืองมีอาชีพทำนาเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อขาดน้ำก็เหมือนขาดข้าวไปด้วย เมืองที่อยู่ทางเหนือแม่น้ำ เริ่มแสดงความเป็นคนใจแคบโดยการกั้นน้ำไว้ ทดน้ำเข้านาของตน เมืองที่อยู่ทางใต้น้ำเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ จึงจำเป็นต้องมาเจรจากันระหว่างสองเมือง การเจรจาครั้งนี้ ไม่มีทีท่าเหมือนมาเจรจากันเลย เพราะทั้งสองเมืองได้ยกทัพมาประจันหน้า ณ แม่น้ำโรหิณี ความเป็นเมืองที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งปันกันในฐานะเมืองพี่เมืองน้อง เมืองญาติกันไม่เหลืออีกต่อไป   พระพุทธองค์ทรงเห็นถึงภัยร้ายแรงนี้ จึงเสด็จรุดไปในวันนั้น ท่ามกลางความขัดแย้งของทั้งสองเมือง พระองค์ทรงประทับยืนกลางแดด จนพระญาติทูลถามว่า “ไยพระองค์ถึงเสด็จยืนท่ามกลางแดดที่ร้อน” พระองค์ตรัสว่า “ถึงแดดจะร้อน แต่ร่มเงาของพระญาตินั้นเย็นกว่าร่มเงาใต้ต้นไม้นัก” เมื่อเห็นพระญาติทั้งสองฝ่ายเงียบ จึงตรัสถามต่อไปว่า  “มหาบพิตรทั้งสอง ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร” “เรื่องน้ำพระพุทธเจ้าข้า” “ระหว่างน้ำกับชีวิตคนนี่อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน” พระองค์ตรัสถาม  “ชีวิตคนมากกว่า  พระพุทธเจ้าข้า”  “ควรแล้วหรือที่ทำอย่างนี้”   พระญาติดุษณีภาพทุกคน   ไม่มีใครกราบทูลเลย   พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า      “ถ้าเราตถาคตไม่มาที่นี่วันนี้  ทะเลเลือดจะไหลนองดุจสายน้ำ”     เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้พระญาติทั้งสองเมืองได้สติ และไม่รบราฆ่าฟันกันในวันนั้น      วันนี้ยกพระพุทธประวัติบางส่วนมาเล่า เพราะเดี๋ยวนี้เกิดเรื่องทะเลาะ ขัดแย้งกันเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะทะเลาะกับเพื่อน แฟน ทะเลาะกับคนข้างบ้าน ทะเลาะกับคนที่ไม่รู้จักบนท้องถนนที่เราเห็นว่าเขาขับรถไร้มารยาท(แต่เราก็เคยทำแบบนั้นในวันที่รีบ) ทะเลาะกับแท็กซี่ ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน ทะเลาะกับเจ้านาย ทะเลาะกับพี่น้อง ทะเลาะกับญาติ ทะเลาะกับคนข้างประเทศ ฯลฯ     การทะเลาะกันเกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างมองว่าอีกฝ่ายไม่ถูกต้อง และฝ่ายเราถูกเอาเปรียบ   การทะเลาะยอดฮิต ก็คือ ทะเลาะด้วยเรื่องผลประโยชน์ ทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้มักจบไม่สวยและลุกลามใหญ่โตกลายเป็นทะเลาะเรื่องอื่นๆ สาวไส้มาทะเลาะมาเกลียด จนลืมต้นเค้าว่าเดิมเราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร    …

อ่านต่อ

คำสัญญาสุดท้ายจากเพื่อน

เรื่องทั่วไป 16 September 201429 May 2015

เควินกับแบรี่ เป็นเพื่อนสนิทกันมาก ทั้งคู่เป็นคนขี้เล่น วันหนึ่งเมื่อเควินซึ่งต่อมาได้สมัครไปเป็นทหาร ต้องไปประจำการที่อัฟกานิสถาน ได้พูดกับแบรี่ว่า “ถ้ากูตายในสนามรบ ในงานศพกู มึงต้องใส่ชุดผู้หญิงมานะเว้ย” และใครจะเชื่อว่าคำพูดนั่นเป็นคำพูดสั่งเสียของเควิน เควินถูกซุ่มโจมตีโดยกลุ่มกองโจรTaliban เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในงานศพเควิน แบรี่ไม่ลืมคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเพื่อนสนิท เขามาในชุดหญิงสาวสีสดใส แต่ทว่าในจิตใจเขาหดหู่ยิ่งนัก ชุดที่สดใสจึงดูขัดแย้งจากสีหน้าคนใส่ นอกจากจะไม่ใช่หญิงสาวแล้ว สีหน้ายังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา นี่คือสิ่งสุดท้าย ที่เพื่อนเท่านั้นถึงจะกล้าทำให้เพื่อน  

เพื่อน

หลับตา..หาสติ

ไดอารี่ 29 April 2011

เวลาเกิดอุบัติเหตุสิ่งที่ต้องรีบทำที่สุดนอกจากควานหาสติ นั่นคือต้องระงับอารมณ์ อุบัติเหตุที่ว่าหมายถึงอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ หลายครั้งที่คนอารมณ์ดีๆ กลับต้องหงุดหงิดเสียอารมณ์ถึงขั้นทำร้ายทุบตีหรือยิงกันตายด้วยสาเหตุแค่รถยนต์เฉี่ยวกัน อุบัติเหตุบนถนน ทำให้รถติด เสียเวลา เสียเวลาสำคัญที่สุด เพราะไม่ใช่แค่เสียเวลาบนถนนที่ต้องรอประกันมาเคลมเท่านั้น แต่หมายถึงต้องเสียเวลาต้องนำรถไปซ่อมอู่อีกเป็นอาทิตย์ หรือก็เป็นเดือนๆ แล้วระหว่างที่รถกำลังซ่อมอยู่ละ?? ไม่ได้เป็นเศรษฐีมีโชว์รูมในบ้าน จันทร์ขับวอลโว่ อังคารขับเบนซ์ พุธขับบีเอ็ม พฤหัสขับมินิ ศุกร์ขับปอเช่ซะที่ไหน มีรถเพียงคันเดียว พอมันมีปัญหาก็เป็นปัญหากันหมด อุบัติเหตุ บางครั้งเกิดขึ้นเพียงนิดเดียว แต่ด้วยความไม่รู้จักระงับอารมณ์ และควานหาสติไม่เจอ จึงเกิดความสูญเสียที่ร้ายแรงขึ้น เมื่อเกิดอุบัติ(ที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด) ตั้งสติ ระงับอารมณ์โทสะ ถึงเราจะผิดหรือไม่ก็ตาม ถึงอีกฝ่ายจะบันดาลโทสะมากก็ตาม ปั้นหน้าให้ปกติแล้วรีบกล่าวขอโทษถ้ารู้ตัวว่าผิด ลองคิดภาพว่าทั้งสองฝ่า่ยบันดาลโทสะระเบิดอารมณ์ใส่กัน ..กลางถนนอันร้อนระอุ อารมณ์ที่ร้อนเร่า มันจะจบอย่างไร? ปล. พึ่งเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งใน 1 อาทิตย์ ถูกชนท้าย กับ ถูกถอยมาชนหน้า ควานหาสติแทบไม่ทัน..เฮ้อ

อุบัติเหตุ
อ่านต่อ

รีวิวที่พัก ที่เที่ยวเขาใหญ่ ณ มายโอโซน My Ozone

ท่องเที่ยว 3 August 201918 March 2020

ขอต้อนรับสู่ my ozone ดินแดนดุจปราสาทในเทพนิยาย, พูดถึงเขาใหญ่ ที่นี่มีที่ให้เที่ยวหลายที่ แต่ถ้ามีเวลาแค่วันเดียวและที่พักของคุณคือที่ มาย โอโซน ขอแนะนำว่าตัดที่เที่ยวที่อื่นทิ้งให้หมด และใช้ชีวิตใน 1 วันของคุณที่มาย โอโซนเท่านั้น สืบเนื่องจากได้รับของสมนาคุณจากเพื่อนคนหนึ่ง ผู้ซึ่งมอบรางวัลแด่มิตรภาพด้วยที่พักดีๆ ที่เหมาะแก่การไปพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ ..ก็จึงเป็นที่มาของการมาที่พักที่หรูหราในครั้งนี้  ที่นี่จะมีที่พักทั้งแบบเป็นห้องและเป็นหลัง ราคาก็แตกต่างกันไป มีไฮไลท์ตรงปราสาทที่เด่นตระหง่าเป็นทั้งที่รับประทานอาหารเช้า ฟิสเนต และสระว่ายน้ำ แต่สำหรับผมสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านั้นคือ สนามหญ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา .. เช้านี้ต้องออกไปวิ่งซะหน่อยแล้ว พาไปชมห้องพักแบบ standard ซึ่งเป็นที่พักของคนในค่ำคืนนี้  ทุกอย่างในห้องพักดูดีมีราคา เตียงนุ่มสมราคา ตำแหน่งแสงไฟแต่ละจุดไม่แยงตา ไม่ทำร้ายสายตา นอนได้แม้ในเวลากลางวัน แง้มบานประตูด้านหลังออกไปจากเห็นทุ่งหญ้าสวยงาม แค่ใช้ชีวิตในห้องนอนนี้ก็คิดว่าคุ้มค่ามากแล้ว ..แต่อย่าเลยครับ ด้านนอกห้องยังมีอะไรให้เที่ยวชมอีกมาก นอนแต่พอหายเหนื่อย ออกไปเที่ยวรอบๆดีกว่า.. อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับที่นี่เลย นั่นคือ สระว่ายน้ำ นอกจากจะมีโซนที่นั่งริมสระหลากหลายทั้ง outdoor และ indoor แล้ว ขนาดของสระใหญ่พอที่จะให้กระโดดโลดเล่นว่ายได้จนเหนื่อยหอบเลยละครับ  ข้อดีของที่นี่อีกอย่างคือ ไม่หวงสนามหญ้า ด้านหน้าปราสาทและด้านหน้าที่พัก สามารถจอดบนสนามได้เลย อ้อมไปด้านหลังปราสาทจะพบดอกหญ้าเป็นกลุ่มแนวสวยงาม ซึ่งจะมีสนามหญ้าเป็นเนินสนับกันไปสวยงาม มองออกไปไกลๆเป็นแนวเขาใหญ่ ราวกับที่นี่เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าเขาในยุคเก่า หยุดใจที่วุ่นวายสักพัก หายใจอย่างช้าๆ และสะกดเวลาให้เดินช้าที่สุด ผมกับเจ้าขาววิ่งอ้อมออกด้านหลังปราสาทที่เป็นสนามกอล์ฟ สำหรับคนที่ชอบวิ่งหรือชอบปั่นจักรยาน นี่คือสวรรค์ชัดๆ ถนนคอนกรีตเล็กๆลัดเลาะไปตามเนินเขาเล็กๆ มองไปจนลับหูลับตาราวกับว่าเชิญชวนให้เราออกไปสัมผัสมัน รุ่งขึ้นอีกวัน ออกไปสำรวจโซนอื่นๆบ้าง เห็นว่ามีสวนดอกไม้อยู่ไกลๆด้านหน้าโน้น ส่วนร้านกาแฟเห็นมีคนเยอะ ก็เลยไม่ได้แวะครับ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืนที่รู้สึกว่ามีอะไรให้ค้นหาตลอดเวลาครับ ห้องก็น่านอนน่าอยู่ แต่ก็คิดว่ามีเวลาน้อยเกินที่จะนอนหลับเฉยๆแล้วตื่นขึ้นแต่งตัวออกจากที่พัก หากอยากหลับตาและตื่นขึ้นท่ามกลางปราสาทกลางป่าเขา ที่นี่คือคำตอบครับ

มายโอโซน เขาใหญ่

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (50)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (62)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH