Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

สมาธิ

อ่านต่อ

สมาธิมากีฬาเลิศ

บ่น 18 July 201328 October 2015

รู้สึกตีแบดเยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะ แต่ทำไม ยิ่งตียิ่งห่วย
สิ่งหนึ่งที่เข้าใจได้ด้วยตัวเองถึงสาเหตุความ “ห่วย”

สมาธิ แบดมินตัน
อ่านต่อ

โคราช-เขาใหญ่​..ครั้งที่เท่าไรไม่รู้

สุขกะภาพ 20 February 20173 November 2017

ไปพักผ่อนเฉยๆนี่แหละครับ แต่จะไปวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันเสาร์อาทิตย์นั้นนะหรือ คนก็เยอะเกิ๊น เลยเลือกเดินทางวันศุกร์และกลับบ่ายๆวันอาทิตย์ดีกว่า ไปโคราชไปเยี่ยมพี่กุ้ง พี่ต้อมผู้ดูแลรีสอร์ทอารมณ์ดี และวินดีรีสอร์ท วันแรกไปโคราชก่อน ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพี่กุ้งพี่ต้อมเช่นเคย ..ทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องกันที่น่าเอาตัวอย่างในเรื่องความรักพี่รักน้องและเรื่องการต้อนรับปฏิสันถาร ดูแลดีมาก ทั้งที่พัก อาหารการกิน กระทั่งพาไปเที่ยวในที่ๆพอจะไปได้ในเวลาอันจำกัด  การดูแลเอาใส่ใจต่อแขกนี้ ใช่ว่าจะทำกับคนรู้จักเท่านั้นนะครับ แกดูแลแขกที่มาพักที่รีสอร์ทด้วยอัธยาศัยอันดีเช่นกัน จึงทำให้รีสอร์ทเล็กๆ มีคนเข้ามาพักเต็มตลอดปี เช้าวันเสาร์แม้จะตื่นสายสักหน่อย แต่ผมก็ไม่ลังเลที่จะหยิบรองเท้าออกไปวิ่ง ..เมื่อตอนเย็นแอบเห็นแล้วละว่าแถวนี้มีสวนสาธารณะกว้างขวางและมีคนออกกำลังกายมากมาย สวนนี้มีชื่อว่่า “สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว” ตรงกลางเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รอบๆมีถนนอย่างดีสำหรับวิ่ง เดิน และปั่นจักรยาน แยกเลนสำหรับนักปั่นและนักวิ่งโดยเฉพาะครับ คือดีงามมาก กว้างพอสมควร วิ่ง 1 รอบระยะทาง 3.2 กิโลเมตร เช้าวันนั้นจัดไป 10 กิโลเมตร อยากจะวิ่งให้มากกว่านั้น แต่แดดเริ่มแยงตา เสียดายที่ตื่นสายไปหน่อย.. วันที่สองจากโคราชมา มุ่งหน้าเขาใหญ่ งานนี้จัดที่พักพรีเมี่ยมเลยครับ เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ สนนราคาที่พักคืนละ 4,200 บาท ถือว่าแพงที่สุดเท่าที่เคยพักมา ตัวโรงแรมอยู่ในถนนธนรัชต์ที่จะมุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่ไม่ห่างจากปาลิโอมากนัก ตัวโรงแรมอลังการอย่างที่เขาว่าจริงๆ สไตล์ยุโรป (ยุโรปไหนนี่ไม่รู้) บรรยากาศในตัวโรงแรมก็เหมือนอยู่ต่างประเทศ เปิดเพลงคันทรี่เบาๆ ทั่วโรงแรม แต่ละตึกเน้นปลูกต้นตีนตุ๊กแกให้เลื้อยไปทั่วตัวโรงแรม งานนี้เอาภาพมาโชว์อย่างเดียวดีกว่า เล่าแล้วบรรยายไม่ถูก..

เขาใหญ่ เทมส์ วัลลีย์

สาระแน..อำเป้ง

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

เข้าเรื่องแบบไม่ต้องอ้อมเลยละกัน วานนี้ผมไปดูหนัง สาระแนห้าวเป้งมา!! โดยส่วนตัวชื่นชอบรายการนี้ในจอทีวีมานานมแล้ว ตั้งแต่อยู่ช่องสามวันเสาร์แล้วระเห็ดไปอยู่ช่อง ไอทีวี เปลี่ยนชื่อเป็นสาระแนจังดึก อยู่ไอทีวีก็ไม่นิ่งสักที เดี๋ยวโผล่วันอังคาร เดี๋ยวโผล่วันพุธ เดี๋ยว 4 ทุ่ม เดี๋ยว 5 ทุ่ม จนไอทีวีมีอันต้องจบลง ก็เร่ร่อนมาอยู่ช่อง 5 ในเวลาเกือบเที่ยงคืน และล่าสุดก็ได้กลับบ้านเก่าช่อง 3 ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนของสาระแนคงหายไปเยอะเหมือนกัน จากการร่อนเร่อยู่ที่จุติไม่ได้เช่นนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็สามารถติดตามชมได้เป็นระยะๆ  แต่ก็ยังชื่นชอบรายการนี้เหมือนกับที่ชื่นชอบรายการชิงร้อยชิงล้าน!! ณ วันนี้สาระแนกลายเป็นหนังจอใหญ่แล้ว มีหรือที่ผมจะพลาด!! เย็นของวันแรงงานแห่งชาติ ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ คนเยอะมากกกกกก แต่เหมือนมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน เข้าไปจองตั๋วปุ๊บได้รอบที่ไม่ต้องนั่งรอเวลา และได้ที่นั่งแถว D แถวค่อนข้างดี ในขณะที่แถวอื่นๆ นับตั้งแต่สองแถวแรกจากหน้าจอเต็มหมด ด้วยความแปลกใจว่าทำไมที่นั่งตรงนี้ถึงว่าง มีผีสิง วิญญาณอาฆาตที่นั่งนั่นอยู่หรือเปล่า จึงถามคนขาย เจ้าหล่อนบอกว่า มีคนโทรมาจองล่วงหน้า แต่ไม่มา..โอ้ ~ แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ข้างๆที่ผมนั่ง มีผู้หญิงคนนึ่งมาดูหนังคนเดียว นั่งเงียบๆ เจียมๆอยู่ ผมก็เข้าใจนะ ความรู้สึกของคนมาดูหนังคนเดียว ต้องเจียมๆ เงียบๆหน่อย ถึงหนังจะสนุกสักปานใดก็ตาม แต่ที่ผมเข้าใจมาทั้งหมดนั้น ผิดถนัด ตลอดระยะเวลาที่ดูหนัง คุณหล่อนรับโทรศัพท์ 2 ครั้ง!! ดังด้วย แค่นั้นยังไม่พอ เสียงหัวเราะของคุณเธอ โคตรทุเรศศศศศศศศศศ…ไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่ไหนหัวเราะได้ทุเรศปานนี้ และที่สำคัญคุณเธอมักจะหัวเราะในมุกที่คนอื่นไม่หัวเราะ ตอนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาขำกันทั้งโรง คุณเธอนั่งเงียบ แต่พอมุกเสี่ยวๆ มุกที่ไม่ควร, ไม่น่า, ไม่ต้อง และไม่จำเป็นต้องขำ เธอขำ~ ย้ำอีกครั้งว่า เสียงหัวเราะเธอ อุบาทว์มากกกกก แต่ที่อุบาทว์กว่าเสียงหัวเราะของเธอคือ การรับโทรศัพท์ในโรงหนัง เธอแย่มากกก ขอประณามเธอเลย ยัยคนที่นั่งแถว D14 เรื่องสาระแนห้าวเป้ง รอบ 17.40 น. วันที่ 1 พ.ค. 2552 นั่งใกล้คนไม่ดี พลอยทำให้บรรยากาศการดูหนังมีประสิทธิภาพลดลง 30 เปอร์เซ็นต์!! บ่นซะจนลืมเลยว่า…

มั่นใจไทยแลนด์

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 21 July 2008

อาทิตย์นี้หยุดยาวกันถึง 4 วัน (วันอาสาฬหบูชา- วันเข้าพรรษา – วันเสาร์- วันอาทิตย์) หลายคนเลยเตลิดกันไปเที่ยวตจว.กันซะเพลิน ส่วนผมได้หยุดแค่ 2 วัน แล้ว 2 วันนั้น ก็เป็น 2 วันที่ไม่ติดกันเลยย (วันศุกร์ กะ วันอาทิตย์) โครงการที่จะไปเที่ยวมัลดีฟเลยเป็นอันต้องพักไว้ก่อน.. ไปงานนี้แทนครับ.. งานนี้เรียกตัวเองว่า “งานมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์” เป็นการจัดงานของรัฐ ที่นำเอาของถูก ของดี จากหลายๆหน่วยงานมานำเสนอ ณ อิมแพค เมืองทอง เดินไป ชมไป บ่นไป ดูรูปเอาละกันครับ ที่จริงอยากจะถ่ายทุกร้านน แต่ว่า..นำมาได้แค่เนี่ยะแหละครับ 2 ภาพสุดท้าย เจ้าของร้านเขาห้ามถ่าย แต่กว่าจะห้ามก็กดไป 2-3 ภาพแล้ว..เอาเป็นว่า ถึงผมถ่าย ก็ไม่ได้เอาไปทำอะไรเสียหายนะครับ แค่เอามาประดับบล็อก คงไม่ว่ากระไร เดินจนขาลากละครับ..ได้ตุ๊กตามาตัวเดียว เน้นหนักไปทางของกินมากกว่า คนล้นลามมากก ของก็เยอะ คนก็แยะ อากาศก็ดี๊ดี ไม่มีแดด.. ความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ผมอยู่แถวๆนี้ละครับ 🙂

ททท.
อ่านต่อ

Solo Camping | กางเต็นท์คนเดียว

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 30 January 202213 March 2022

เป็นครั้งแรกของผมสำหรับการออกเที่ยวคนเดียว และโดยเฉพาะการเที่ยวแบบแคมป์หรือกางเต็นท์นอน เป็นความอยากที่เก็บไว้มานานแล้ว เมื่อมีโอกาสจึงขอลองสักครั้ง และครั้งนี้ผมเลือกที่นี่ครับ Lakeview Cafe กาญจนบุรี หลังจากดูรีวิจากที่คนอื่นเขาเคยมาแล้ว ภาพภูเขาที่สะท้อนกับทะเลสาปเหมือนภาพวาดดึงดูดใจราวกับมีเสียงเรียกร้องให้ผมมาเยือนทุกค่ำคืน ในที่สุดผมก็มาตามคำเรียกร้อง และก็ไม่ผิดหวังเลย ภาพในหัวที่คิดกับสถานที่จริงไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีไม่กี่ครั้งที่ความคาดหวังจะกลายเป็นความผิดหวังเมื่อเจอของจริง ที่เป็นเช่นนั้น เพราะคนส่วนใหญ่นำเสนอแต่มุมที่สวยงามและถ่ายภาพเฉพาะมุมที่สวยที่สุดเท่านั้น แต่ที่นี่ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมรับรองได้ กับราคาค่ากางเต็นท์คืนละ 300 บาท มีจุดให้ต่อไฟ มีห้องน้ำแยกชายหญิง ผมว่าคุ้มค่ามากครับ ทริปนี้ผมใช้เต็นท์ขนาดเล็กที่พกพาง่ายและเบาอย่าง naturehike หลังจากทำอาหารเย็นอย่างง่ายๆ กินเสร็จแล้ว ก็นั่งชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน แม้จะเริ่มย่างเข้าฤดูร้อน แต่พอหลังตะวันตกดินอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ จนกระทั่งก่อนเข้านอนในเวลา 5 ทุ่ม ผมเช็คสภาพอากาศอยู่ที่ 18 องศา นอนหลับสบาย การได้ใช้ชีวิตคนเดียวแบบเงียบๆ ทำให้ใจผมสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รอบตัวได้ยินเพียงเสียงสรรพสัตว์ ไม่มีเสียงรถราและผู้คน ค่ำคืนนี้มีแต่เราผู้เดียว ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าช้าโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น ลองไปเที่ยวแบบนี้ดูสักครั้งนะครับ แล้วจะพบว่าตัวเราที่เรารู้จัก อาจไม่ใช่ตัวเราที่เราเป็นก็ได้.

Lakeview กาญจนบุรี
อ่านต่อ

เขาใหญ่..รีเทิร์น

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 February 20099 November 2017

ครั้งนี้ไปแบบกางเต๊นท์ มวลสมาชิกที่ร่วมทริปด้วย เป็นเพื่อนที่ทำงานที่ลงขันกันคนละ 1,500 บาท ได้รถตู้ขนาดใหญ่ใหม่ป้ายแดง Toyota Commuter  เมื่อคนพร้อม รถพร้อม อุปกรณ์ (เต๊นท์, เตา, อาหารแห้ง/อาหารเปียก)พร้อม..เวลาก็พร้อม ออกเดินทางกันเล้ย

เขาใหญ่

นวดเพื่อสุขภาพ

เรื่องทั่วไป 16 June 2008

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพึ่งไปนวดมาครับ ! ในชีวิตพึ่งเคยไปนวดจริงๆจังๆ 2 ครั้ง นวดที่ว่านี่ คือ นวดแผนโบราณ นวดตัว บีบ เค้น ดึง กด นะครับ ไม่ใช่ อาบ อบ นวด (ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยเที่ยวอาบ อบ นวด เลย แม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้แถวที่พักอาศัยจะรายล้อมด้วยสถานดังกล่าวอย่างมากมายก็ตาม) ครั้งแรกที่ใช้บริการนวด ตอนนั้นเรียกว่านวดคลายเครียด ไปเจอแถวห้างเซนทรัล รัตนาธิเบศร์ ชม.ละ 80 บาท เป็นผู้หญิงนวด นวดคลายเครียดจะนวดแค่ไหล่ขึ้นไป คือจะไม่มายุ่งกับส่วนขา หรือเอวของเรา นั่งบนเก้าอี้กึ่งนั่งกึ่งนอน ให้ป้าแกนวดอย่างเมามัน ..หลังนวดเสร็จ ก็จะสบายตัวไม่ค่อยระบมมาก ครั้งล่าสุดที่ไปนวด จริงจังและตั้งใจมาก ข่าวว่าที่นี่นวดดี สบายตัว อยู่แถวกระทรวงสาธารณสุข เป็นของกระทรวงเองเลย ที่นี่สนนราคาที่ชม.ละ 200 บาท ไปถึงมีชุดให้เปลี่ยน ก่อนนวดผมละอ๊าย อาย คือ จะมีคนเอาน้ำอุ่นมาล้างเท้าให้เรา..คนที่ล้างนี่ก็รุ่นแม่ ทั้งอาย ทั้งเกรงใจ การนวดครั้งนี้เป็นการนวดเพื่อสุขภาพครับ จึงต้องจริงจังกันซะหน่อย มีเตียงให้นอน หมอนให้หนุน แอร์เย็นๆ เริ่มด้วยการไล่ลมจากส่วนต่ำสุดของร่างกาย นั่นคือเท้า นวด ดึง กด ตั้งแต่ปลายเท้ายันหน่อง ส่วนอื่นพอทนได้ เจ็บๆปนสบายๆ แต่ตรงหน่องนี่ ผมแทบเอาเท้ายันคนนวดหลายครั้ง ก็มันจี๋นี่นา..ส่วนที่เจ็บปวดที่สุด คือ ส่วนไหล่ รุนแรงและเจ็บปวด ส่วนสุดท้ายคือส่วนหัว คลึงหน้า คลึงหัวจนผมเคลิ้ม.. หลังนวดเสร็จมีระบบนิดหน่อย แต่เป็นอาการธรรมดาของอาการหลังการนวด..ก็สบายตัวดีครับ แต่ผมว่า การนวดน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุของคนที่ปวดเมื่อย จริงๆวิธีแก้ที่ได้ผลที่สุด และตรงจุดที่สุดคือการออกกำลังกาย แค่วิ่ง หรือว่ายน้ำทุกวันๆละ 1 ชม. หรือ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย ร่างกายก็แข็งแรง สุขภาพดี กล้ามเนื้อก็ไม่เกร็ง ก็จะไม่มีการปวด ไม่ต้องเสียเงินไปนวด หรือหาหมอให้ยุ่งยากใจ วิธีง่ายๆ แต่ทำกันยาก เข้าทำนอง…

อ่านต่อ

เที่ยวถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 September 202129 July 2022

หลังจากกักตัวอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่โควิดระบาดรอบ 2 รอบ 3 มาเป็นแรมเดือน..ก็ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2564 เป็นต้นมา จนถึงเดือนกันยายนี้ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนไกลเลย เต็มที่ก็แค่เซเว่นหน้าหมู่บ้าน อาการคิดถึงธรรมชาติ การเดินทางกำเริบเป็นระยะ จนกระทั่งรัฐบาลสั่งคลายล็อกเปิดจุดท่องเที่ยวบางแห่งได้ เราจึงเริ่มมองหาที่เที่ยวบ้าง และที่นี่คือที่แรกที่เราออกเที่ยว หลังการคลายล็อก ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดแบ่งเป็น ถ้ำธารลอดใหญ่และถ้ำธารลอดเล็ก ถ้ำธารลอดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดใหญ่มีลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ มีความกว้าง 60 เมตร ตัวถ้ำด้านล่างยาว 60 เมตร กว้าง 40 เมตร และสูง 40 เมตร บนเพดานถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ที่แสงแดดส่องลอดเข้ามาในถ้ำได้ ทำให้ภายในถ้ำสว่างและมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ ที่ฟากหนึ่งของผนังถ้ำมีภาพเขียนสีรูปพญานาค ซึ่งชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพญานาค นอกจากนี้แล้วยังมีหลักฐานปรากฏว่าบริเวณนี้เป็นที่ฝังศพของมนุษย์โบราณ จากการค้นพบโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนำไปจัดไว้ให้ชมที่พิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ โครงการพระราชดำริห้วยองคต อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้ออกเดินทางกัน 3 คนครับ (ก่อนหน้านี้มี 5 แต่ติดธุระมาได้แค่นี้) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าก็ถึงยังจุดหมายปลายทาง จัดการกางเต็นท์ที่พักเรียบร้อย ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็เตรียมตัวเดินเท้าท่องเที่ยวธรรมชาติ เสน่ห์ของที่นี่คือนอกจากมีที่บริการจุดกางเต๊นท์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำครบครันแล้ว ยังมีกิจกรรมเดินป่าขนาดกำลังน่ารักให้เราเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอีกด้วย จุดเริ่มต้นการเดินเริ่มจากถ้ำธารลอดเล็ก ภายในถ้ำกว้างขวางมืดแต่มีไฟติดตามจุดพอให้เห็นทางเดินได้ ภายในถ้ำมีสายน้ำไหลผ่าน และพอผ่านจุดนี้ไปก็จะเข้าสู่การเดินป่า เป็นป่าที่มีทางเดินสะดวกครับ เด็กเล็กตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไปสามารถเดินได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง เพราะมีบางจุดที่มีความเสี่ยง ทางเดินจะเป็นทางเรียบ และค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ แต่มีบันไดให้เดิน ไม่ลำบากมาก ตลอดทางก็จะมีน้ำตกเป็นระยะให้ได้ถ่ายภาพ หรือลงไปเล่นได้ตามใจชอบ บรรยากาศดีมาก ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆก็จะถึงจุดที่เรียกว่าถ้ำธารลอดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูงมีลักษณะคล้ายถ้ำพระยานคร แต่โปร่งกว่า มาถึงจุดนี้ถ้ามีเวลาก็สามารถเดินทางต่อไปอีกนิดหนึ่งจะถึงวัด (ขออภัยที่จำชื่อวัดไม่ได้) เราใช้เวลาในการเดินชมธรรมชาติไปและกลับประมาณ 4 ชั่วโมง กลับถึงเต็นท์ก็ได้เวลาสำหรับอาหารเย็นแล้ว ค่ำคืนนี้มีฝนพร่ำๆ พอให้นอนสบาย นอนฟังเสียงฝนคละเคล้ากับเสียงน้ำตกไกลๆได้บรรยากาศการมาพักผ่อน เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าครับ ประมาณตีห้าครึ่ง ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายไปที่น้ำตกสไลเดอร์ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอุทยานห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร วิ่งไปกลับก็จะได้ระยะ 10 กิโลเมตรพอดี ระยะทางที่ค่อนข้างเป็นเนินซะส่วนใหญ่ ประกอบกับความฟิตก็ไม่ได้มีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำการให้วิ่งในวันนี้เหนื่อยเป็นพิเศษ…

กาญจนบุรี ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
อ่านต่อ

วันเพ็ญเดือน ๑๒ กับน้องเขาใหญ่

สุขกะภาพ 5 November 200921 September 2016

เมื่อวันเพ็ญเดือน 12 ที่น้ำนองเต็มตลิ่ง และเราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันยิ่งวันลอยกระทงนั้น ..ขณะที่ดอกไม้ไฟและพลุระเบิดทั่วท้องฟ้า เด็กแว๊นซ์ เด็กสก๊อยส์บิดมอเตอร์ไซต์ไปลอยกระทงกันนั้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้านกเขาลืมตาดูโลก อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว (อ่านเรื่องที่เคยเล่าแล้วนั้นคลิก) ว่าที่ระเบียงบ้าน มีนกเขามาอาศัยอยู่ด้วย ผู้พี่ลืมตามาดูโลกก่อนในวันลอยกระทง ผมตั้งชื่อให้ทันทีว่า “เขาใหญ่” ส่วนผู้น้องที่ยังคงนอนขดอยู่ในไข่ ผมตั้งชื่อให้ล่วงหน้าเลยว่า “เขาเล็ก” เมื่อทั้งสองพี่น้องลืมตาดูโลกในเวลาที่แตกต่างกันเช่นนี้ ย่อมสร้างความลำบากแก่แม่นกเขาไม่น้อย เนื่องจากจะต้องฟักอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตัวที่อยู่ในไข่ได้รับความอบอุ่นและพร้อมที่จะออกจากไข่ ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเวลาไปหาอาหารเพื่อลูกที่ฟักออกมาแล้วนั้นด้วย เพราะนกเขาไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนม แม้ผมจะพยายามหาข้าวสาร ไปโรยใกล้ๆบ้านของมัน แต่แม่นกเขาเป็นนกที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่แม้แต่จะชายตามอง มันทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า มุ่งหาอาหารตามวิถีของมัน ผมพยายามจะมองหานกเขาผู้สามีที่จะมาช่วยดูแล ก็ไม่เห็น เป็นไปได้ว่า เธอถูกพ่อแม่ฝ่ายชายกีดกัด  จึงถูกขับไล่ออกจากบ้านหลังใหญ่ เธอคงไม่ได้บอกเรื่องนี้ต่อคนรัก เพราะรู้ตัวว่าต่ำต้อยไม่คู่ควร เธออยากจะไปเสียให้ไกลๆ ให้พ้นจากนกใจร้ายเหล่านั้น  อยากจะไปให้พ้นหน้าเขา เขา นกผู้เป็นที่รัก ที่แม้เธอจะเจ็บช้ำน้ำใจเพียงไร ก็ต้องใจอ่อนทุกทีที่ปะหน้ากัน ป่านนี้ เขาคงบินหาเธออย่างท้อแท้ เขาคงยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อนก.. เรื่องนี้จะจบด้วยความแฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างละครเรื่อง น้ำตาลไหม้ หรือไม่นั้น ..ต้องติดตามต่อไป แต่วันนี้ผมอยากจะพาไปเยี่ยมชมบ้านเช่าของโบ เอ้ย ของนกเขาและลูกๆกัน พุ่มพลูด่างเป็นบ้านของ(นก)เขา แอบย่องไปดูภายในบ้านของ(นก)เขากัน..แม่มันไม่อยู่อีกตามเคย เขาใหญ่ ณ วันแรกที่ลืมตาดูโลก ข้างๆ นั่นคือเขาเล็ก ยังนอนคดอยู่ในไข่ ป.ล. ถ้าเขาเล็กลืมตาดูโลกเมื่อไร..จะถ่ายรูปมาให้ดูอีกทีละกันนะ

นกเขา เขาใหญ่
อ่านต่อ

เที่ยวชุมพร 3 วัน 2 คืน

ท่องเที่ยว 20 February 201916 June 2019

ชุมพรเป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคใต้ ถ้าเดินทางจากกรุงเทพ จังหวัดชุมพรถือว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ติดกับประจวบคีรีขันธ์ แต่จังหวัดประจวบฯ ถือว่าเป็นภาคกลางตอนล่าง ยังไม่นับเป็นภาคใต้ .. การเดินทางไปชุมพรครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการไปเที่ยวภาคใต้ในรอบหลายสิบปี (ครั้งก่อนโน้นไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ที่จังหวัดพังงา) เช่นเคยครับการเดินทางไปครั้งนี้ผมขับรถไปด้วยตัวเอง คืนแรกพักที่ ชลิชา รีสอร์ท  ตั้งอยู่กลางเมืองชุมพร เพราะตั้งใจว่าวันแรกจะเที่ยวในตัวเมืองชุมพรก่อน และคืนที่สองพักที่นานาบีช รีสอร์ท ติดทะเล ไหนๆก็มาทะเลแล้ว ก็ต้องลงทะเลซะหน่อย ชลิชา รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่เงียบสงบ สะอาด ราคาไม่แพง ข้อเสียคือไม่มีอาหารเช้า (หากต้องการอาหารเช้า ต้องเพิ่มเงิน) ที่นี่จึงเหมาะแก่การพักค้างหลังจากไปเที่ยวมาแล้ว  ไม่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเท่าไรนัก อยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 15 กิโลเมตร คืนที่สองนานาบีชรีสอร์ท มีที่พักทั้งแบบเป็นหลังและเป็นห้อง ราคาก็แตกต่างกันไป ..ผมได้แบบห้อง ข้อเสียคือ อยู่ชั้น 3 และแอร์ไม่ค่อยเย็น แต่ข้อดีคือมีสระว่ายน้ำ และติดทะเล! งานนี้จึงได้เล่นทั้งน้ำทะเลและน้ำในสระ มาทะเลทั้งทีก็ขออยู่กับทะเลให้หนำใจ ตอนเช้าๆ สำหรับคนที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย หาดทุ่งวัวแล่นที่มีระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร ถือเป็นที่วิ่งที่บรรยากาศดีไม่น้อย ทะเลอาจจะไม่สวยใสเท่าฝั่งอันดามัน แต่ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศทะเลที่ไม่พลุกพล่าน ขอแนะนำที่ชุมพรเลยครับ

ชุมพร หาดทุ่งวัวแล่น
อ่านต่อ

ไหว้พระวัดโพธิ์

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 2 June 201520 October 2017

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ชาวต่างชาตินิยมชมชอบ คือถ้ามาเมืองไทยแล้วต้องไปให้ได้ (จะไปเองหรือถูกไกด์บังคับพาไปก็ตาม) เฉพาะในกรุงเทพนะ ถ้ามาถึงแล้วต้องไป นั่นคือ วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และวัดไตรมิตร เจอ 3 วัดเข้าไป ก็หมดวันละ เฉพาะวัดพระแก้วกับวัดโพธิ์นี่ก็แทบหมดแรงละครับ กว้างขวางแถมร้อนมากด้วยเช่นกัน แต่สำหรับชาวต่างชาติ ผมว่าคุ้มครับ กับการได้เข้าไปชมสถานที่ๆมีความสวยงามขนาดนั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจจะไปไหว้พระวัดโพธิ์ตามหัวเรื่องที่จั่วไว้ ไปทานข้าวริมแม่น้ำที่ปากคลอง ขากลับมีอันต้องผ่านวัดโพธิ์ พี่ที่ไปด้วยแกมาอยู่กรุงเทพหลายสิบปี แต่สาบานได้ว่าไม่เคยมาวัดโพธิ์เลย จึงต้องแวะพาแกไปไหว้พระสักหน่อย ถึงจะร้อนมากก็ตาม เดิมทีว่าจะข้ามไปฝั่งวัดอรุณฯด้วย แต่ดูท่าจะสู้แรงแดดไม่ไหว วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร อยู่ติดกับวัดพระแก้วชนิดรั้วเกือบติดกัน กั้นด้วยถนนเท่านั้นเอง แต่การจะเดินไปมาหาสู่กันไม่ใช่เรื่องสนุก เดินกันขาลากหัวเปียกเลยทีเดียว ประวัติวัดโพธิ์ใครใคร่รู้โดยละเอียดก็ไปหาจากอากู๋เอาเองนะครับ อัตราค่าบริการสำหรับคนไทยฟรี ต่างชาติต้องซื้อตั๋ว เอาภาพเล็กๆน้อยๆของวัดโพธิ์ในวันที่แดดแรงมาก มาให้ชมเพียงเท่านี้นะครับ แนะนำให้ไปเที่ยวชมด้วยตนเองดีกว่า ไปง่าย ถ่ายคล่อง รับรองอร่อย

วัดโพธิ์

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (87)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH