Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

อาชญากร

อ่านต่อ

ฆาตกร

เรื่องสั้นสั้น 27 June 201614 June 2019

“กูแค่หลอกฟันเมียมึงเท่านั้นแหละ ไม่ได้จริงจังหรอก” หลังจากวางสาย ในหัวผมอื้ออึง เหล้าที่กินเข้าไปเกือบหมดขวดดูเหมือนจะน้อยกว่าความโกรธที่พุ่งพล่านทั่วร่าง สองปีที่ผมอยู่กินกับเธอมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เธอมีใจให้คนอื่นไม่โหดร้ายเท่าชายคนนั้นโทรมาเหยียบย่ำน้ำใจกันอีก ผมปิดมิตเตอร์ ไม่รับผู้โดยสาร บึ่งหน้าไปยังบ้านชายโฉดกับหญิงชั่วนั้นทันที! ไม่นานผมก็มาปรากฏกายหน้าห้องมัน ห้องไม่ได้ล็อค จะโดยบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม วันนี้มันได้เจอดีแน่ ผมเปิดประตูเข้าไป  ชายชู้กับหญิงชั่วยังนอนอยู่บนที่นอน โดยไม่รอช้า ผมคว้าขวดเป๊บซี่เปล่า ฟาดไปที่หัวสองที ก่อนที่มันจะตั้งตัว ผมใช้ขวดอันเดิมฟาดไปที่เสาบ้าน ขวดแตกครึ่งหนึ่งเป็นอาวุธชั้นดี  ผมรีบแทงไปที่ท้องมันสองที จนมันแน่นิ่งเลือดพุ่งท่วมตัว ขณะที่หญิงชั่วอดีตคนรักผม กรี๊ดร้องออกนอกห้องไป โชคไม่เข้าข้างที่มีสายตรวจอยู่หน้าหอพักพอดี ผมถูกตำรวจจับกุมอย่างงายดาย ผมยอมรับทุกข้อกล่าวหา เหตุจูงใจในการฆ่า คือ การถูกหยามหน้าอย่างรุนแรง “งั้น ทำไมถึงไม่ฆ่าผู้หญิงด้วย” ตำรวจถาม “ผมฆ่าไม่ทัน มันวิ่งออกจากห้องไปก่อน” ผมตอบสีหน้านิ่ง ผมถูกพิพากษาจำคุก 10  ปี แต่เนื่องจากไม่เคยทำผิดมาก่อน และยอมรับผิด เป็นประโยชน์ต่อศาล จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือแค่ 5 ปี.. “หมู่บ้านพี่อยู่ตรงไปใช่มั้ยครับ..” แท็กซี่คนดังกล่าวถามขึ้น หลังจากเล่าเรื่องราวในอดีตจบลง “ค..ครับ ใช่ ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย จอดตรงซอย 25” ผมตอบกลั้นเสียงสั่น “นี่ ครับค่าโดยสาร ไม่ต้องทอนก็ได้นะครับ” “ไม่ได้พี่ ตั้ง 5 บาท ยังไงผมต้องหาทอนจนได้ นี่ครับ เจอเหรียญแล้ว” อดีตฆาตกรคว้าเงินทอนได้ รีบยื่นให้ผม “ขอบคุณนะครับบ” แท็กซี่กล่าวขอบคุณก่อนบึ่งรถออกไป … จบบทสนทนากับแท็กซี่ อดีตฆาตกร กับเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงบนรถแท็กซี่ เหมือนได้ดูหนังจบหนึ่งเรื่อง หนังที่สร้างจากชีวิตจริงของคนๆหนึ่ง ความจริงยังมีรายละเอียดชีวิตในคุกอีกอีกนิดหน่อย แต่เรื่องไม่ปะติดปะต่อเท่าไร เป็นการตอบคำถามมากกว่า ผม : ในเรือนจำเป็นยังไงบ้างครับ? พี่แท็กซี่ : ตอนเข้าไปใหม่ๆ ลำบากมาก มีคนแกล้งทุกวัน ผม : แกล้งยังไง? พี่แท็กซี่ : มาตบหัวบ้าง มาขโมยของบ้าง เขาเห็นว่าเรามาใหม่ คิดว่าเราต้องมีตังค์ มีของ ก็จะมารีดเงิน ผม :…

อาชญากร แท็กซี่
อ่านต่อ

โดดเดี่ยว..เที่ยวภูเขาทอง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 9 November 200823 September 2016

ตั้งใจมาหลายวันแล้วว่าวันนี้ จะไปบริจาคเลือด !! นับเป็นครั้งที่  35 แล้ว ภูมิใจเล็กน้อย เมื่อกล่าวถึงจำนวนครั้ง บริจาคครั้งละ 400 ซีซี ถึงวันนี้ผมบริจาคเลือดไปแล้ว 14,000 ซีซี น่าจะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไม่น้อย แม้ไม่รู้ว่าใครได้เลือดผมไป แต่ทุกครั้งที่มีคนได้เลือดผม นั่นคือชีวิตของเขา และบุญของผม การให้โดยไม่หวังคืนเช่นการบริจาคเลือดนี้ เปรียบเหมือนแม่ที่ให้ทุกอย่างแก่ลูก โดยไม่หวังสิ่งใดๆจากลูกเลย เราไม่รู้เลยว่าใครได้เลือดเราไป เช่นเดียวกัน พ่อแม่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อลูกโตแล้ว จะให้อะไรแก่พ่อแม่บ้าง วกมาถึงการเดินทางไปบริจาคเลือดในวันนี้ การเดินทางต้องมีการวางแผนครับ เพื่อประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ผมจะไปโดยเรือ ขึ้นเรือที่ท่าเรือคลองตัน โผล่ที่ท่าเรืองอโศกเพชรบุรี แล้วขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี ไปโผล่ที่สามย่านฝั่งตรงข้ามกับวัดหัวลำโพง หรือฝั่งจามจุรีสแควที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เดินตรงขึ้นไปก็จะถึงสถานเสาวภาหรือสวนงู หลังสวนงู คือสภากาชาด คาดว่าใช้เวลาไม่น่าจะถึงชั่วโมง (ปกติไปรถเมล์สาย 113 ใช้เวลาชม.กว่า) หลังจากบริจาคเลือดตั้งใจจะไปเดินเล่นที่วัดสระเกศ หรือวัดภูเขาทอง เวลาบ่ายโมงสี่สิบห้านาทีผมไปนั่งรอเรือที่ท่าเรือ วันนี้เรือมาช้ากว่าปกติ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการครับ ผมขึ้นจากเรือโผล่ที่เพชรบุรีต่อรถไฟ มาโผล่ที่สามย่าน ตรงหน้าจามจุรีสแควนี่เอง มีเรื่องให้พิจารณานิดหนึ่ง ขณะผมเดินด้านหน้าห้างนั่นเอง มีรถซีวิคฮอนด้านสีบรอนด์ ไม่ทราบเลขทะเบียน เพราะไม่สนใจ จอดริมฟุตบาทด้านหน้าผมไม่ถึงสิบเมตร พอรถจอด ก็มีชายคนหนึ่งรีบลงจากรถพร้อมด้วยถือสิ่งหนึ่งมาด้วย วางลงข้างฟุตบาทหน้าห้าง แล้วรีบขึ้นรถออกไป เมื่อผมเพ่งมองที่วัตถุที่ชายนิรนามนำมาวาง ปรากฏว่าเป็นสิ่งมีชีวิตครับ เป็นลูกแมวสีเทาตัวเล็กๆ ท่าทางอ่อนแรง และงงๆ กับชะตาชีวิต ร้องเหมียวๆท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า ผมจำใจเดินผ่านไป โดยไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าแมวนั่น ขณะที่เจ้าของที่ทิ้งก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลเพราะรถติดอยุ่ ผมพยายามมองทะลุกระจกเข้าไปในรถ อยากจะดูว่าหน้าตาไอ้คนใจดำระยำห่านั่น หน้าตามันเป็นอย่างไร มากันกี่คน น่าเสียดายกระจกมืดดำ เลยอดเห็น ผมเองก็รู้สึกตัวเองผิดที่ไม่ได้ดูดำดูดีกับลูกแมวตัวนั้น ไม่ได้ทำอะไรที่ดีกว่านี้เลย ถึงสภากาชาดในเวลาบ่ายสองห้าสิบ วันเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตตฤกษ์ ที่นี่จะปิดให้บริการเร็วคือจะปิดในเวลา 15.30 น. ดังนั้น ผมมีเวลาไม่่มาก เวลาขนาดนี้คนจะไม่เยอะเท่าไรแล้ว ไม่เหมือนตอนเช้าที่คนเนืองแน่นจนหน้ามืด ใช้เวลาในการบริจาคไม่ถึงสามสิบนาทีครับ (บริจาคจริงๆแค่สิบนาที ที่เหลือคือการรอคิว คิวตรวจเลือด คิวบริจาค) ออกจากสภากาชาด ตามแผนอย่างต่อเนื่องเลยครับ จับรถแท็กซี่ไปวัดสระเกศในทันที ด้วยราคามิเตอร์ 70 บาท ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็ได้…

ภูเขาทอง
อ่านต่อ

น้องพฤกษ์

say, สุขกะภาพ 31 May 201523 September 2021

น้องพฤกษ์เป็นลูกชายขององอาจ เพื่อนข้างๆบ้านนี่เอง ถ้าผมมีลูก ก็จะไล่เลี่ยกันกับน้องพฤกษ์นี่แหละครับ กำลังน่ารักน่าชังน่าตี และซุกซนตามประสาเด็ก เรื่องที่เคยกังวลว่า จิ๊กกี๋จะเป็นปัญหาหรือจะรังแกน้องหรือไม่นั้น ดูจากภาพนี้คงหายกังวลครับ ปกติกี๋จะหวงบ้านมาก แต่วันนี้น้องพฤกษ์เดินต๊อกแต๊กๆ เข้าบ้าน นอกจากกี๋จะไม่เห่าแล้ว ยังเดินตามมาส่งกระดิกหางดุกดิกหมามันฉลาดครับ, มันรู้ใครมาดี ใครมาร้าย “จิตใจแม้จะซ่อนไว้ข้างใน แต่หมามันรู้ครับ“

Thank You

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 7 August 2008

ได้หนังซีรีส์เกาหลี เรื่อง Thank You (ชื่อไทยไม่รู้ชื่ออะไร)มาจากที่ทำงาน เป็นแผ่นดีวีดี 5 แผ่นๆ หนึ่ง ประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ   ตั้งใจจะลองดูสักแผ่น อยากรู้ว่าละครเกาหลี แตกต่างจากละครไทยเรามากมั้ย เบื่อละครไทยเต็มที เน่าจนไม่รู้จะเน่าอย่างไร ทำซ้ำไปซ้ำมา ก็อปปี้บท ก็อปปี้เนื้อหา จนเอียนจนเลี่ยน จนไม่อยากจะดูละครไทยอีกแล้ว :p   เอาละ..บ่นละครไทยเป็นหอมปาก วกกลับมาที่ละครเกาหลีใหม่..   เรื่อง Thank You เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงบ้านนอกวัย 6 ขวบคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กธรรมดา แต่อยู่มาวันหนึ่งมีเรื่องราวที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว.. เธอประสบอุบัติเหตุ ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ด้วยความผิดพลาดของหมอ ทำให้เธอได้รับเชื้อเอดส์มา !!   เด็กหญิงซื่อๆ น่ารักๆ ช่างพูดจา เป็นที่รักของแม่ และทุกคนในหมู่บ้าน ได้รับเชื้อเอดส์โดยไม่รู้ตัว แต่แม่ของเธอทราบจากหมอ หัวใจแทบสลาย แต่ก็พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ลูกน้อยได้อยู่ในโลกนี้นานที่สุด และมีความสุขที่สุด   เธอเลือกที่จะไม่บอกใคร แม้แต่ลูกเอง ไม่บอกคนในหมู่บ้าน แต่ก็สอนลูกว่า ถ้ามีอุบัติที่โรงเรียนถึงขั้นเลือกออก ห้ามขอความช่วยเหลือจากใคร ห้ามให้ใครเห็นเลือดเด็ดขาด โดยโกหกว่า เธอเป็นนางฟ้าจากสวรรค์มาจุติ ไม่สามารถให้คนธรรมดาเห็นเลือดได้ และเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามบอกใครเด็ดขาด   เด็กหญิงก็เชื่ออย่างนั้นตามประสาเด็ก..   เด็กคนนี้เป็นเด็กที่โชคร้าย เพราะนอกจากได้รับเชื้อ เอซ ไอ วี มาแล้ว พ่อของเธอก็ยังไม่ปรากฏว่าเป็นใคร คือ เป็นเด็กที่ท้องไม่มีพ่อ ต้องอยู่กับแม่ แม่ต้องส่งเสียน้องชายเรียน และเลียงดูตาที่ความจำเสื่อม แถมต้องดูแลลูกที่มีเชื้อเอซ ไอ วี อีกด้วย..   อีกด้านหนึ่ง หมอ(เป็นผู้หญิง) ที่ทำผิดพลาดให้เด็กหญิงต้องได้รับเชื้อเอดส์นั้น รู้สึกผิดมาโดยตลอด อยากจะเข้าไปขอโทษ อยากจะอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษ แต่เธอไม่สามารถทำได้ เมื่อตรวจพบว่าตัวเธอเองเป็นมะเร็งในตับอ่อน จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน แต่ก่อนเธอจะสิ้นใจนั้น เธอได้ฝากบอกแฟนของเธอ ให้ช่วยสานฝันของเธอ ช่วยไปสารภาพผิดต่อเด็กหญิงผู้โชคร้ายคนนั้น..   เรื่องราวต่างๆก็เกิดขึ้นจากจุดนี้ครับ…..

รู้เขา (แต่)ไม่รู้เรา

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 18 February 2011

Facebook, Twitter หรือระบบ Social Network ตัวอื่นๆที่อนุญาตให้ผู้ใช้โพสต์ข้อความลงบนพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้เรารู้จักตัวตนของคนอื่นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบัน สามารถโพสต์ข้อความได้แบบ Everything Everywhere คือโพสต์อะไรจากที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ เมื่อเกิดอารมณ์ ความรู้สึก โกรธ โมโห ดีใจ เสียใจ ตอนไหนยังไง ก็แสดงออกออนไลน์มาได้เลย ข้อดี คือ ถ้าเจอเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน หรือที่ไหนก็ตาม เราก็โพสต์แจ้งข่าวสารแด่เพื่อนฝูงและชาวโลกได้เลย ณ ขณะนั้น เพื่อนและชาวโลกก็สามารถรับรู้ข่าวสารได้ในทันที ข้อเสีย คือ ถ้าโมโห โกรธ หรือเจอเหตุการณ์ที่น่าสนใจเข้า ไม่ทันได้พิจารณาให้ดีก็รีบโพสต์แจ้งชาวโลก บางข้อความอาจกลายเป็นการด่า ประจาน หรือนำความลับของคนอื่นมาเผยแพร่ เมื่อไม่นานมานี้ พนักงานต้อนรับในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีน เห็นดาราเข้ามาเช็คอินเพื่อพักในโรงแรมที่ตนทำงานอยู่ จึงรีบทวิตเตอร์บอกเพื่อนตัวเอง จากข้อความทวิตเตอร์นั่นเอง ทำให้มีแฟนคลับแห่มาขอลายเซ็นต์ จนดาราคนนั้นที่ตั้งใจจะมาพักผ่อนเงียบๆ ไม่ได้รับความสุขตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ความรู้ถึงผู้บริหาร พนักงานที่ทวิตเตอร์คนนั้นจึงถูกให้ออกจากงาน ข้อความที่ถูกโพสต์ผ่าน Facebook หรือ Twitter ส่วนใหญ่ออกมาจากความรู้สึกและอารมณ์สดๆร้อนๆของผู้โพสต์ เมื่อก่อนถ้าเราไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่ถูกใจบางอย่างเข้า ก็ต้องกลับมาถึงบ้าน > เปิดคอมพิวเตอร์ > ต่ออินเทอร์เนต > เปิดเว็บไซต์ > ล็อกอิน > โพสต์ข้อความ จะเห็นว่ากระบวนการกว่าจะถึงขั้นตอนของการโพสต์ข้อความมีมาก จนทำให้อารมณ์ที่คุกรุ่นเบาบาง หรือแทบจะหายไปหมดแล้ว และการปะติดปะต่อเรียบเรียงเรื่องราวก็เริ่มเลือนลางจำไม่ค่อยไ้ด้ แต่ปัจจุบันขั้นตอนการโพสต์ข้อความจาก 5-6 ขั้นตอนลดเหลือขั้นตอนเดียว คือ โพสต์ได้เลยทันที!! ดีใจ== โพสต์ เสียใจ== โพสต์ โกรธ == โพสต์ด่า เมื่อกระบวนการโพสต์สั้นลง มันจึงไม่ผ่านกระบวนการคิด ข้อความทุกอย่างที่เราโพสต์ มันจะบอกตัวตนของเราทั้งหมด!! ผม Follow นักข่าวหลายคน เพื่อหวังติดตามข่าวสารแบบใกล้ชิด จึงทำให้พบว่า นักข่าวที่เราเห็นเขานั่งอ่านข่าวหน้าทีวีทุกวันนั้น เขาอ่านอย่างเดียวตามสคริปต์ที่มีคนเขียนให้อย่างสวยหรู เพราะข้อความที่เขาโพสต์เองบนทวิตเตอร์ พบว่ามันไม่เหมือนเขาในจอทีวี ในโลก พ.ศ. 2554 เราสามารถเรียนรู้อุปนิสัยใจคอคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ผ่านตัวหนังสือไม่กี่ตัว คำถามต่อไปก็คือ คุณอยากให้คนอื่นๆรู้จักคุณในแง่ไหน?…

facebook twitter
อ่านต่อ

ทริปวันเดียว-เที่ยวน้ำตก-นอนเต๊นท์-กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 October 201912 November 2019

เป็นอีกหนึ่งปุ้บปั้บทริป..คุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่าเสาร์นี้ไปกินข้าวกันมั้ย แค่ชวนกินข้าวร้านดีๆแถวบ้าน รู้ตัวอีกทีมากินข้าวกลางป่าที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสายน้ำและภูเขาซะแล้ว.. ที่หลับที่นอนคืนนี้อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีห่างจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 7 กิโลเมตรติดกับเขื่อนศรีนครินทร์ กางเต๊นท์บนผาที่มองด้านล่างลงมาเป็นเขื่อน ใกล้ๆกันมีน้ำตกที่ไม่ปรากฏชื่อในแผนที่!! สายน้ำเล็กๆที่ไหลผ่านหน้าเต๊นท์พวกเรา คือน้ำที่แบ่งสายมาจากน้ำตกซึ่งไหลลงมาจากภูเขาลงเขื่อน บรรยากาศต้องบอกว่าสุดๆจริงๆ   หลังจากกางเต๊นท์เสร็จก็ลองเดินสำรวจน้ำตกครับ ทีแรกนึกว่าน้ำตกเล็กๆ แต่พอเดินลัดเลาะไปตามเสียงน้ำตกก็พบว่า ไม่เล็กเลย แต่เนื่องจากทางที่เดินลงมาค่อนข้างลำบาก คนก็เลยไม่นิยมมาเล่น กอรปกับค่อนข้างอันตรายนิดนึ่งเพราะด้านล่างเป็นเขื่อน ถ้าลื่นมีหวังไหลลงเขื่อนแน่นอน หลังจากสำรวจเสร็จก็กลับไปทำอาหารกินกันที่เต๊นท์ครับ บรรยากาศทำอาหารกินเองหวนให้ระลึกถึงสมัยเข้าค่ายลูกเสือ สมัยนั้นได้มาม่าปลากระป๋องนี่ก็ถือว่าเลิศแล้ว คืนนี้มีฝนปรอยๆทำให้บรรยากาศเย็นลงนิดนึง นอนฟังเสียงฝนและเสียงน้ำตก บางคนอาจรำคาญ แต่สำหรับผมบอกเลยว่า ฟินนนนน เช้าประมาณตี 5 เปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดกีฬา ออกไปวิ่งที่เขื่อนศรีนครินท์ บรรยากาศต้องบอกว่าคุ้มค่าตื่นมากๆ..หมอกหนาเต็มพื้นที่ ราวกับวิ่งบนสวรรค์ หลังจากวิ่งเสร็จก็กลับมาทานอาหารเช้ากันที่เต๊นท์ และหลังจากนั้นสายๆ ก็เก็บเต๊นท์ และมุ่งหน้าไปหาน้ำตกอีกที่หนึ่ง เราออกเดินทางจากจุดกางเต๊นท์ประมาณ 40 กิโลเมตร ก็มาถึง “น้ำตกแม่ขมิ้น” น้ำตกแม่ขมิ้น เป็นอุทยานแห่งชาติครับ ดังนั้น จึงมีบริการจุดกางเต๊นท์ มีร้านค้าสวัสดิการ เรียกว่าเป็นอีกที่หนึ่งสำหรับคนที่ชอบกางพักแบบกางเต๊นท์ มีเต๊นท์ให้เช่าหรือจะเอาเต๊นท์มาเองก็สะดวก จบปุ้บปั้บทริปแต่เพียงเท่านี้ครับ

กาญจนบุรี น้ำตกแม่ขมิ้น
อ่านต่อ

Solo Camping | กางเต็นท์คนเดียว

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 30 January 202213 March 2022

เป็นครั้งแรกของผมสำหรับการออกเที่ยวคนเดียว และโดยเฉพาะการเที่ยวแบบแคมป์หรือกางเต็นท์นอน เป็นความอยากที่เก็บไว้มานานแล้ว เมื่อมีโอกาสจึงขอลองสักครั้ง และครั้งนี้ผมเลือกที่นี่ครับ Lakeview Cafe กาญจนบุรี หลังจากดูรีวิจากที่คนอื่นเขาเคยมาแล้ว ภาพภูเขาที่สะท้อนกับทะเลสาปเหมือนภาพวาดดึงดูดใจราวกับมีเสียงเรียกร้องให้ผมมาเยือนทุกค่ำคืน ในที่สุดผมก็มาตามคำเรียกร้อง และก็ไม่ผิดหวังเลย ภาพในหัวที่คิดกับสถานที่จริงไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีไม่กี่ครั้งที่ความคาดหวังจะกลายเป็นความผิดหวังเมื่อเจอของจริง ที่เป็นเช่นนั้น เพราะคนส่วนใหญ่นำเสนอแต่มุมที่สวยงามและถ่ายภาพเฉพาะมุมที่สวยที่สุดเท่านั้น แต่ที่นี่ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมรับรองได้ กับราคาค่ากางเต็นท์คืนละ 300 บาท มีจุดให้ต่อไฟ มีห้องน้ำแยกชายหญิง ผมว่าคุ้มค่ามากครับ ทริปนี้ผมใช้เต็นท์ขนาดเล็กที่พกพาง่ายและเบาอย่าง naturehike หลังจากทำอาหารเย็นอย่างง่ายๆ กินเสร็จแล้ว ก็นั่งชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน แม้จะเริ่มย่างเข้าฤดูร้อน แต่พอหลังตะวันตกดินอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ จนกระทั่งก่อนเข้านอนในเวลา 5 ทุ่ม ผมเช็คสภาพอากาศอยู่ที่ 18 องศา นอนหลับสบาย การได้ใช้ชีวิตคนเดียวแบบเงียบๆ ทำให้ใจผมสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รอบตัวได้ยินเพียงเสียงสรรพสัตว์ ไม่มีเสียงรถราและผู้คน ค่ำคืนนี้มีแต่เราผู้เดียว ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าช้าโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น ลองไปเที่ยวแบบนี้ดูสักครั้งนะครับ แล้วจะพบว่าตัวเราที่เรารู้จัก อาจไม่ใช่ตัวเราที่เราเป็นก็ได้.

Lakeview กาญจนบุรี
อ่านต่อ

พระเจ้าสร้างคนไทย(จริงหรือ)~

เรื่องทั่วไป 16 May 201114 May 2016

ก็ไม่รู้ว่าใครแต่งเรื่องนี้อ่ะนะครับ แต่หลายๆเรื่องในปัจจุบันที่เกิดในบ้านเมืองเรา เห็นแล้วก็ได้แต่ เฮ้อ ..ๆ ๆ  ๆ  บ้านเมืองอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่เคยไป แต่เมืองไทย มีข่าว ..ขโมยสายไฟ ขโมยเสาธง ขโมยพระพุทธรูป ขโมยล้อรถ ขโมย ๆ ๆ ๆ ..ๆ  มีข่าวแปลกๆ ข่าวห่าเหวอะไรมากมายในทุกวงการ เมืองไทยที่เมื่อก่อนเคยทัดเทียมกับญี่ปุ่น ก็ถูกญี่ปุ่นทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น ปัจจุบันกำลังจะถูกเวียดนามหรือลาวแซงหน้า และล่าสุดถูกเขมรตีหัว!! เมืองไทยเราโชคดี..แต่พวกเราๆเองไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี พออ่านเมล์ฟอร์เวิร์ด(ด้านล่างนี้) ก็เลยเกิดอาการเห็นด้วย ฤๅพระเจ้าสร้างเรามาแบบนั้นจริงๆ ..ลองอ่านดูครับ (ไม่รู้ใครแต่งแต่โดน) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ ทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกาแล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล แต่ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้ด้วย เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาลเพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้ด้วย ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ทั้งหมด…..จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน คราวนี้พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีนทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาดข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้าคิดว่าประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆจะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้ เมื่อคิดได้เพื่อเป็นการป้องกัน ประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้างคนไทยขึ้นมา!!

คนไทย พระเจ้า

เมมโมรี่

เรื่องทั่วไป 26 August 2008

พึ่งเช่าวีซีดีเรื่อง เมมโมรี่ รัก-หลอน มาดู หนังแนวลึกลับ ซ่อนเงื่อน มีปมอดีต เมมโมรี่ ในหนังเรื่องนี้ หมายถึงความทรงจำที่แย่ๆในอดีต ซึ่งมีผลในปัจจุบัน ทำให้คนๆหนึ่งมองโลกแปลกไป มองโลกในแง่ร้าย เกลียด กลัว สำหรับตัวละครที่รับบทนี้คือ คุณใหม่ เจริญปุระ   ใหม่เป็นอิงอร ที่ถูกพ่อข่มขื่นตั้งแต่เด็กจนเป็นสาว เธอจึงเกลียดพ่อ ลามไปถึงเกลียดผู้ชายทุกคน เกลียดแม่ตัวเองที่ไม่ห้ามพ่อ ปล่อยให้เรื่องเลวร้ายนี้เกิดขึ้นกับเธอ   เธอโตมาด้วยความรู้สึกแบบนี้ จนเธอมีโอกาสแต่งงานกับเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งแต่งไปด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอก็เจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบเดิมๆอีกครั้ง กล่าวคือ สามีของเธอชอบใช้ความรุนแรงกับเธอ ขืนใจเธอ จนเธอมีลูก เธอแบบวางยาพิษชนิดสะสมให้สามีกิน จนกระทั่งสามีตาย เธอจึงได้พาลูกไปอยู่ที่อื่น จนมาเจอกับอนันดา หมอโรคจิต (หมอรักษาคนโรคจิต) อิงอรมักทำร้ายลูก เมื่อลูกขัดใจเธอ แต่เมื่อทำร้ายแล้วก็รู้สึกผิด รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำ (อาการแบบนี้เกิดขึ้นกับหลายๆคน มากหรือน้อยเท่านั้น ผมก็คนหนึ่ง เคยเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง) ขณะที่หมออนันดาพยายามจะช่วยเธอกับลูก แต่ถูกปฏิเสธ อนันดาเองก็มีเมมโมรี่เล็กๆอยู่ในอดีตเช่นกัน เมื่อมาเจอกับอิงอร เขาจึงรู้สึกสงสาร เห็นใจ และเกิดความรักในที่สุด แต่อิงอร เธอไม่รู้สึกเช่นนั้น เธอเกลียดผุ้ชาย สุดท้ายเธอก็ลงมือทำแบบเดิมอีกครั้ง นั่นคือวางยาหมอ   แต่ครั้งนี้หมอยังไม่ถึงฆาต.. ปมประเด็นทั้งหมดจะถูกเปิดเผยออก ความลับ และเมมโมรี่ร้ายๆในอดีตของอิงอรน่ากลัวขนาดไหน และเมมโมรี่ของอนันดาคืออะไร …ลองแวะร้านเช่าวีซีดีมาชมดูกันครับ   ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่า ไม่เชื่อว่าโลกนี้มีผี สิ่งที่ทุกคนเรียกว่าผีนั้น เป็นโรคเมมโมรี่นี่เอง โรคของความทรงจำร้ายๆในอดีตคอยหลอกหลอน และเกิดภาพซ้อนในสมอง อยู่กับความจริงแท้ และความจริงเทียมจนแยกไม่ออกว่าอันไหนคือจริง อันไหนคือแท้ ท้ายที่สุดก็เป็นโรคประสาท โรคบ้า เห็นอะไรแปลกๆที่คนอื่นไม่เห็น   คนที่กลัวผีน่าจะลองดูหนังเรื่องนี้นะครับ ถ้าทฤษฏีของหนังเรื่องนี้ถูก ผีไม่น่าจะมีในโลก   ป.ล. เมื่อคืนนั่งดูรายการ จับเข่าคุย แขกรับเชิญคือคุณสมจิตร จงจอหอ ฮี่โร่โอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว สมจิตรก็มารายการนี้ แต่อารมณ์ตรงกันข้ามกับครั้งนี้ ตอนนั้นเขากลับจากโอลิมปิกอย่างผู้แพ้ เขาท้อ…

ทะเล-ทะเลาะ

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 20 October 200816 June 2019

ปีนี้ ถ้านับครั้งนี้ด้วย ก็จะเป็นแค่ครั้งที่สอง ที่ผมจะไปทะเลลลลลลลลลลล…ล พูดถึงทะเล ก็จะมีภาพเหล่านี้ลอยเข้ามาในหัว แน่นอนไปทะเลต้องมี..ทะเล ท้องฟ้าสีฟ้าสด.. ทราย.. สายลม.. เสียงหัวเราะ.. ความสุข.. นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวผมเมื่อนึกถึงทะเล อาทิตย์นี้ผมได้ไปทะเล กับที่ทำงาน ชั่งใจอยู่นานสองนาน สามนาน สี่นาน ห้านาน..ว่าจะไปดีหรือไม่ เพราะการไปครั้งนี้ค่อนข้างไปกันหลายชีวิต ใช่ว่าจะมีแต่แผนกเรา มีหลายๆแผนกไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และส่วนใหญ่ชอบกินเหล้า ผมตัดสินใจ ด้วยการอวดอ้างสรรพคุณความสนุกจากเพื่อนคนหนึ่ง “การไปทะเลกะคนเยอะๆๆ นี่สนุกนะ ทริปนี้มีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย รับรองๆ สนุกแน่ๆ สนุกจริง” ผมตัดสินใจอย่างยากเย็น ด้วยอยากพักผ่อนจริงๆ หลังจากที่เหนื่อยมาหลายวันมากแล้ว กลัวไม่สนุก กลัวไม่ได้พักผ่อน ~ และสุดท้ายก็ตัดสินใจ ไป… ~ ตามกำหนดการณ์ คือ ออกเดินทางเจ็ดโมง แต่เลทไปจนถึงแปดโมงกว่า ไม่เป็นไรไม่ถือสา แต่ที่ผมเริ่มจะรับไม่ได้ คือ การเดินทางครั้งนี้ไปด้วยรถทัวร์พัดลม โอ้วววว ไม่นะ ครั้งสุดท้ายที่ผมเดินทางด้วยรถทัวร์พัดลม คือเมื่อสัก 3 ปีก่อน เดินทางไปทอดผ้าป่าสามัคคีกับพิภพที่สกลนคร ครั้งนั้นทั้งเหนื่อย ร้อน และหนวกหู เพราะเครื่องเสียกระหึ่มรถมาก ครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากครั้งนั้นเลยยย เครื่องเสียงดังมาก ยิ่งกว่าในผับเสียอีก โอ้ ไปถึงทะเลเกือบบ่าย ทะเลที่ว่า คือหาดแม่รำพึง ระยองนี่เองครับ เลยไปไม่ไกล ภาพทะเล ความสนุกที่วาดไว้บนหัวหายหมดสิ้น ทะเลร้อนมาก หาดก็ไม่น่าลงเล่นเท่าไร ที่พักแย่ไปใหญ่ หาที่เป็นส่วนตัวไม่ได้เลย เพราะไปกันเยอะ กิจกรรมก็ขำๆดี แต่ผมไม่สนุกด้วย ตกกลางคืนงานเริ่มส่อแววล่ม เมื่อบรรดาขี้เมาเริ่มมีการกระทบกระทั่งกัน จอโปรเจกเตอร์ตัวใหญ่ที่ไว้ฉายคาราโอเกะ ภาพแจ่มดี แต่เครื่องเสียงห่วยชนิดไม่น่าให้อภัย เครื่องเสียงไม่ดีอยู่แล้ว คนร้องกลับเป็นขี้เมาอ้อแอ้ ผมทนกับสภาพนี้ไม่ไหวแล้ว จึงทิ้งกลุ่มออกมาเดินเล่นที่ชายหาดอย่างเงียบๆ คิดถึงความหฤโหดของการเดินทางในวันพรุ่งนี้ แดดร้อนๆ รถพัดลมอับๆ บวกกับเครื่องเสียนรกแตก กูตายแน่ๆ ผมกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปร่วม ได้แต่นั่งดูข้างนอก เริ่มเห็นความวุ่นวายลางๆ มีการกระทบกระทั่ง มีปากเสียงกันหลายคู่ หลายคน จนในที่สุดเมื่อเวลาห้าทุ่ม…

ทะเล ระยอง

ดอกไม้ใหญ่..แจกันเล็ก

ไดอารี่ 9 June 2011

คำถาม.. ดอกไม้จากป่าใหญ่ ประดับในแจกันเล็ก เงินกองโต……ในบ้านคนขี้เหนียว ความรักที่ยิ่งใหญ่..ในคนที่ไร้ใจ คำพูดมากมาย แต่ไร้ความจริง คำตอบ.. แห้งเหี่ยวไร้ความหมาย …หาประโยชน์ไม่ได้เน่าเปื่อย โดดเดี่ยวเดียวดายไร้คนแล และผู้แทนราษฏร.

ดอกไม้ ส.ส. แจกัน

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH