Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

อาชญากร

อ่านต่อ

ฆาตกร

เรื่องสั้นสั้น 27 June 201614 June 2019

“กูแค่หลอกฟันเมียมึงเท่านั้นแหละ ไม่ได้จริงจังหรอก” หลังจากวางสาย ในหัวผมอื้ออึง เหล้าที่กินเข้าไปเกือบหมดขวดดูเหมือนจะน้อยกว่าความโกรธที่พุ่งพล่านทั่วร่าง สองปีที่ผมอยู่กินกับเธอมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เธอมีใจให้คนอื่นไม่โหดร้ายเท่าชายคนนั้นโทรมาเหยียบย่ำน้ำใจกันอีก ผมปิดมิตเตอร์ ไม่รับผู้โดยสาร บึ่งหน้าไปยังบ้านชายโฉดกับหญิงชั่วนั้นทันที! ไม่นานผมก็มาปรากฏกายหน้าห้องมัน ห้องไม่ได้ล็อค จะโดยบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม วันนี้มันได้เจอดีแน่ ผมเปิดประตูเข้าไป  ชายชู้กับหญิงชั่วยังนอนอยู่บนที่นอน โดยไม่รอช้า ผมคว้าขวดเป๊บซี่เปล่า ฟาดไปที่หัวสองที ก่อนที่มันจะตั้งตัว ผมใช้ขวดอันเดิมฟาดไปที่เสาบ้าน ขวดแตกครึ่งหนึ่งเป็นอาวุธชั้นดี  ผมรีบแทงไปที่ท้องมันสองที จนมันแน่นิ่งเลือดพุ่งท่วมตัว ขณะที่หญิงชั่วอดีตคนรักผม กรี๊ดร้องออกนอกห้องไป โชคไม่เข้าข้างที่มีสายตรวจอยู่หน้าหอพักพอดี ผมถูกตำรวจจับกุมอย่างงายดาย ผมยอมรับทุกข้อกล่าวหา เหตุจูงใจในการฆ่า คือ การถูกหยามหน้าอย่างรุนแรง “งั้น ทำไมถึงไม่ฆ่าผู้หญิงด้วย” ตำรวจถาม “ผมฆ่าไม่ทัน มันวิ่งออกจากห้องไปก่อน” ผมตอบสีหน้านิ่ง ผมถูกพิพากษาจำคุก 10  ปี แต่เนื่องจากไม่เคยทำผิดมาก่อน และยอมรับผิด เป็นประโยชน์ต่อศาล จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือแค่ 5 ปี.. “หมู่บ้านพี่อยู่ตรงไปใช่มั้ยครับ..” แท็กซี่คนดังกล่าวถามขึ้น หลังจากเล่าเรื่องราวในอดีตจบลง “ค..ครับ ใช่ ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย จอดตรงซอย 25” ผมตอบกลั้นเสียงสั่น “นี่ ครับค่าโดยสาร ไม่ต้องทอนก็ได้นะครับ” “ไม่ได้พี่ ตั้ง 5 บาท ยังไงผมต้องหาทอนจนได้ นี่ครับ เจอเหรียญแล้ว” อดีตฆาตกรคว้าเงินทอนได้ รีบยื่นให้ผม “ขอบคุณนะครับบ” แท็กซี่กล่าวขอบคุณก่อนบึ่งรถออกไป … จบบทสนทนากับแท็กซี่ อดีตฆาตกร กับเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงบนรถแท็กซี่ เหมือนได้ดูหนังจบหนึ่งเรื่อง หนังที่สร้างจากชีวิตจริงของคนๆหนึ่ง ความจริงยังมีรายละเอียดชีวิตในคุกอีกอีกนิดหน่อย แต่เรื่องไม่ปะติดปะต่อเท่าไร เป็นการตอบคำถามมากกว่า ผม : ในเรือนจำเป็นยังไงบ้างครับ? พี่แท็กซี่ : ตอนเข้าไปใหม่ๆ ลำบากมาก มีคนแกล้งทุกวัน ผม : แกล้งยังไง? พี่แท็กซี่ : มาตบหัวบ้าง มาขโมยของบ้าง เขาเห็นว่าเรามาใหม่ คิดว่าเราต้องมีตังค์ มีของ ก็จะมารีดเงิน ผม :…

อาชญากร แท็กซี่

กาลามสูตรบอกว่าอย่าเชื่อ..เพราะ..!!??

เรื่องทั่วไป 22 January 2010

ช่วงนี้มีข่าวแปลกๆ เกิดขึ้นทางภาคเหนือ และกำลังจะแพร่ระบาดไปในภาคอื่นๆ นั่นคือ ข่าวเรื่อง “โทรศัพท์มรณะ” เชื่อกันว่า หากมีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ เป็นเลขตองเรียงกันโทรเข้ามา หากรับสายจะตายทันที!! ฟังดูเป็นเรื่องเหลวไหลและหาเหตุผลไม่ได้เลย แต่ทางภาคเหนือก็เชื่อกันอย่างเป็นตุเป็นตะ เป็นคุ้งเป็นแคว ขนาดมีการปิดป้ายเตือนกันตามที่ต่างๆ และมีการบอกต่อด้วยความหวังดีอย่างแพร่หลาย ผมไม่แน่ใจว่ามีคนตายจากการรับโทรศัพท์บ้างรึยัง ชาวบ้านถึงกลัวกันขนาดนี้ หรือตาย ก็อาจจะตายด้วยสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่เพราะรับโทรศัพท์แน่ๆ แต่อาจจะบังเอิญ พอเหมาะพอเจาะกับก่อนหน้านั้นคนตายได้รับโทรศัพท์จากเบอร์แปลกๆอีกด้วย เรื่องราวก็เลย เลยเถิดกันไปใหญ่.. เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ถ้าใช้หลักของพระพุทธศาสนา ก็จะสามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งไหนควรเชื่อ และสิ่งไหนไม่ควรเชื่อ ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยพุทธกาล ก็มีเรื่องราวทำนองนี้ เรื่องมีอยู่ว่า คนกลุ่มหนึ่งได้ทูลถาม สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงข้อที่เขากำลังงงไปหมด โดยไม่อาจจะทราบได้ว่า ข้อปฏิบัติอย่างไร จะเป็นไปเพื่อความดับทุกข์โดยตรง ครูบาอาจารย์ หรือศาสดาพวกนี้มาก็สอนได้อย่างหนึ่ง พวกโน้นมาก็สอนอีกอย่างหนึ่ง จนมากมายหลายพวกด้วยกันจนงง จนไม่รู้ว่าอันไหนจะเป็นที่เชื่อถือได้ ขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้า ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัส ตอบคนเหล่านั้นว่า อย่าได้เชื่อถือด้วยเหตุผลต่างๆดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกต่อๆกันมา อย่าได้เชื่อ ถือ โดยเหตุที่สักแต่ว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ทำตามๆกันมา อย่า ได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันเล่าลือกันกระฉ่อนไปหมด แล้วมันต้องเป็นความจริง อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันมีอ้างไว้ หรือเขียนไว้ในตำรับตำรา อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการเดาของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการตรึกเอาตามเหตุผลส่วนตัวของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือ ด้วยความคาดคะเนของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือว่า นี่มันเข้ากันได้กับลัทธิ ที่เรากำลังปฏิบัติอยู่เป็นประจำ อย่า ได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ผู้พูด ผู้กล่าว ผู้สอนนั้น อยู่ในฐานะที่พอจะเชื่อถือได้ อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ท่านผู้กล่าว ผู้สอนนั้นเป็นครูบาอาจารย์ของเรา ทั้ง  10 ข้อนี้เรียกว่า กาลามสูตร ถ้ามีสติปัญญา พิจารณาด้วยเหตุและผล ก็จะเห็นได้ว่า สิ่งไหนควรเชื่อ และสิ่งไหนเป็นสิ่งไร้สาระ แต่ในปัจจุบันสิ่งลวงตามีมากกว่าก่อนเยอะ หลายเรื่องเราไม่สามารถแยกแยะได้จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องที่คุณนักการเมืองที่เคารพทั้งหลาย ออกมาพูดกันก่อนเลือกตั้งให้เราเคลิ้มเนี่ยะ แยกไม่ออกจริงๆ ว่าอันไหนจริง อันไหนโกหก อันไหนทำได้…

แฮรี่ พ็อตเตอร์ ตอน เจ้าชายเลือดผสม

บ่น, ไดอารี่ 19 July 200914 June 2019

ของฟรีไม่มีในโลก..ของฟรีมักไม่ดี ของดีมักไม่ฟรี… คำนิยามนี้ ถูกต้อง 99 % อีก 1 เปอร์เซ็นต์ คือ มันมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้กับคนๆหนึ่งอย่างน้อย 1 ครั้ง แน่นอนไม่ใช่เรื่องของการพนันขันต่อ อย่างเช่นหวย แต่มันเป็นเรื่่องของโชค และอะไรสักอย่างที่บอกไม่ถูก แต่มันจะพอดิบพอดี และจะทำให้เรารู้สึกดีกับคำว่าของฟรีนั่น ผมเคยได้รับของฟรีชนิดดีเกินคาดมาอย่างน้อย 1 ครั้ง ที่จำได้แม่นที่สุดคือ ได้คูปองไปเที่ยวฟรีมูลค่า 2 หมื่นบาท 2 วัน 3 คืน จากการส่งเมสเสจไปร่วมในรายการวิทยุที่ผมพึ่งเคยฟังแค่ครั้งเดียว!! นอกจากนั้นยังเคยได้ตั๋วไปดูหนังฟรีหลายครั้ง แต่นั่นไม่นับว่าเป็นของดี เพราะส่วนใหญ่ได้นั่งแถวเกือบหน้าสุด และโรงหนังก็เล็กๆ อยู่ในที่ๆคนไม่ค่อยรู้จัก เช่น อาร์ ซี เอ, เซ็นจูรี่ มูฟวี่พลาซ่า อนุสาวรียชัย ฯลฯ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ได้ของฟรีอีกแล้ว ของฟรีชนิดดีเกินคาด คือ ได้ตั๋วฟรีของแฮรี่พ็อตเตอร์ โรงหนังขนาดใหญ่ในพารากอน  ได้ที่นั่งชนิดไม่ต้องแงนหน้าดูจอ คือได้แถว E ของฟรีจะมีมูลค่าราคาขึ้นมาทันที ถ้าของๆนั้น เป็นสิ่งที่เราอยากได้อยู่แล้ว และมันมีมูลค่าดีอยู่แล้วในตัวของมัน ผมตั้งใจจะดูอยู่แล้วแฮรี่พ็อตเตอร์ หลังจากอ่านจบทั้ง 7 เล่ม และติดตามดูมาตลอดทั้ง 5 ภาคที่ผ่านมา วันนี้ได้ดูหนังดี ที่นั่งดี และโรงหนังดีขนาดใหญ่ประมาณด้วยสายตาน่าจะสัก 800 ที่นั่ง (มั่วนิ) เข้าเรื่องหนังบ้างดีกว่า ถ้าใครได้อ่านแฮรี่พ็อตเตอร์มาก่อน จะได้อรรถรสในการชมภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าภาคไหน โดยเฉพาะภาคนี้ ทำได้เหมือนหนังสือมากที่สุดภาคหนึ่ง และคนที่อ่านเล่ม 6 จะรู้ว่าภาคนี้ เจ้าชายเลือดผสม เป็นภาคที่เศร้าสะเทือนใจที่สุด เป็นตอนที่มีความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการพ่อมด เหมือนต้นโพธิ์ที่เป็นที่อาศัยของเหล่าปักษาล้มลง เหมือนดวงอาทิตย์ไม่โผล่ขึ้นในตอนเช้าในวันที่ีหนาวเหน็บ อารมณ์ตอนอ่านเศร้ายังไง มาดูในภาพยนตร์ก็เศร้าอย่างนั้น ไม่ต่างกัน แสดงถึงหนังที่ทำอิงกับหนังสือได้ดีมากทีเดียว ภาคนี้ถือเป็นภาคเปิดศึกต่อท่อให้ภาคจบเป็นภาคที่มันส์ระทึก จำได้ว่าตอนอ่านแทบหยุดหายใจ สมกับเป็นนิยายที่ยิ่งใหญ่ จบได้อลังการและสมบูรณ์แบบทีเดียว หากใครที่ยังไม่ได้อ่านแฮรี่พ็ตอเตอร์ ผมว่าชีวิตนี้ยังขาดอะไรไปนะ คุณอาจเคยพลาดหลายสิ่งที่ดีๆในชีวิตหลายครั้ง และนี่ก็นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่คุณพลาด!! หลังจากหนังจบ ถัดจากแถวที่ผมนั่งไป 2 แถว…

รับปริญญา..มหานคร

เรื่องทั่วไป 15 November 2009

วันเสาร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.52) มีเพื่อนที่ประสบความสำเร็จในการศึกษาอีกขั้นหนึ่ง นั่นคือ สำเร็จการศึกษาในชั้นปริญญาโท เพื่อนคนนั้นคือ ตุ๋อึ่ง หรือวนสัณฑ์ (สายัณห์) ศรีสร้อย ถ้านับเพื่อนที่มีอยู่(อันน้อยนิด)ของผมที่สำเร็จการศึกษาถึงขั้นปริญญาโทนั่นน้อยมาก ดังนั้น เมื่อเพื่อนคนหนึ่งประสบสำเร็จ ผมจึงไม่ลังเลที่จะไปร่วมแสดงความยินดี และถือโอกาสได้พบปะเพื่อนๆในกลุ่มอีกด้วย (ลองทายสิว่า..มือที่ปิดตา คือมือใคร) สำหรับตุ๋อึ่ง ผมไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอคือวันที่ตุ๋อึ่งมาประกันตัวผม เปล่าๆ ผมไม่ได้ติดคุก ต้องเรียกว่ามาค้ำประกันเพื่อเข้าทำงานให้ผม ตุ๋อึ่งเป็นเพื่อนที่มีน้ำใจเสมอ ไม่ว่าเพื่อนจะมีอะไรและหนักหนาแค่ไหน เอ่ยปากเมื่อไร ตุ๋อึ่งก็จะยื่นมือช่วยอย่างเต็มใจ ผมเฝ้ามองความสำเร็จของตุ๋อึ่งอย่างชื่นชม ตั้งแต่เขาเริ่มทำงานจนกระทั่งเปลี่ยนงานสู่ตำแหน่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นคนที่ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเองอย่างน่าเอาเยี่ยงอย่าง ขณะที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่ ก็ไม่วายหาโอกาสไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ขณะที่ผมยังจมอยู่กับความขี้เกียจและความกลัวว่า จะเรียนไม่จบ? ไม่มีตังค์เรียน..หรืออีกเหตุผลร้อยแปด แต่จริงๆแล้วก้อคือขี้เกียจนั่นเอง..   มหาวิทยาลัยมหานคร เขารับปริญญากันที่ไบเทคบางนาครับ ข้อดีของการรับที่นี่คือ สถานที่กว้างขวาง ไม่ร้อนแดด ไม่กลัวฝนเปียก..(วันนั้นฝนก็ตกด้วย)  หลังรับปริญญาเสร็จมีการไปกินเลี้ยงที่ร้าน เลจ ฮิวจ์ อยู่ในถนนเกษตร นวมินทร์ ตรงข้ามกับร้าน the pool หรือถ้าให้ง่ายก็อยู่ใกล้ๆร้านกุ้งเต้น มีป้ายใหญ่ๆ สูงๆ เป็นตระหง่าน ร้านเลจ ฮิวจ์ เป็นร้านกลางแจ้งขนาดใหญ่ กว้างมาก อยู่บนคลอง ตัวโต๊ะอาหารตั้งอยู่บนแพที่ผูกติดๆกัน มีคาราโอเกะด้วย(ถ้าสนใจ)  บรรยากาศดี ลมเย็นดี อาหารก็ถูก. งานนี้ตุ๋อึ่ง(ผู้รับปริญญา) เป็นผู้เลี้ยง พวกเราๆไปแสดงความยินดีกลับได้กินฟรีครับ (แฮะๆ) อ้อ..ไม่ได้ไปแค่สี่ห้าคนตามที่ปรากฏในภาพนะครับ ไปกันสิบกว่าคนครับ งานนี้จ่ายไปเท่าไรไม่รู้ เพราะผมกลับก่อนตั้งแต่ทุ่มครึ่งแย้วว..

ซ่อมคอม

เรื่องทั่วไป 28 April 2011

ป้าข้างบ้าน : เจตป้าอยากให้ช่วยซ่อมคอมฯให้หน่อย พอซ่อมได้ไหม ผม : ต้องดูก่อนครับ ว่ามันเป็นอะไรมากมั้ย? ป้าข้างบ้าน : ไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว เห็นว่าตั้งอยู่เฉยๆ ช่วยดูให้หน่อยนะ ผม : ได้ครับ แต่คอมฯมันเป็นอะไรเหรอครับ ป้าข้างบ้าน : มันไม่มีจอ ผม : ..

ขำขำ ซ่อมคอม
อ่านต่อ

เที่ยว..วันธรรมดา

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 September 201713 June 2019

เกิดความประทับใจจากเมื่อปีที่แล้ว ที่ทุ่งดอกกระเจียวที่สระพรั่งด้วยดอกกระเจียวและกลุ่มหมอก ปีนี้ไปด้วยความคาดหวังว่าต้องสวยไม่แพ้ปีที่แล้ว ..ช่วงเดือนเดียวกันและวันก็ไม่ต่างกันมากนักจากปีที่แล้ว..

ชัยภูมิ ทุ่งดอกกระเจียว

ชิงเถิดหมา

ไดอารี่ 20 February 2011

ถ้าพูดถึง “พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง” หลายๆคนก็คงจะคิดภาพผู้ชายดิบๆ เถื่อนๆ สมัยวัยรุ่นเป็นนักร้องร็อค เพลงกวนตีนอย่าง ครายจะทำมาย หรือเพลงที่โดนใจจิ๊กโก๋อย่าง หัวใจนักเลง เพลงซึ่งๆอย่าง สั่งเสีย และอื่นๆอีกมากมาย ภายหลังนักร้องร็อครุ่นใหญ่ได้มาเอาดีทางการแสดง ก็จัดได้ว่าเป็นนักแสดงขั้นเทพคนหนึ่ง จนปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเต็มตัว สร้างชื่อให้ตัวเองโด่งดังจากเรื่อง Be myself ขอให้รักจงเจริญ และเรื่อง Happy Birthday ส่วนงานละครก็มีให้ชมอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าฝีมือเป็นที่ถูกอกถูกใจคอหนังคอละครทีเดียว จนมาถึงเรื่องล่าสุด “ชิงหมาเถิด” ทีแรกก็คิดว่าเป็นหนังตลก เพราะดูจากตัวอย่างหนังที่ตัดมา มีแต่ฉากตลก แต่พอได้ดูจึงรู้ว่าเป็นหนังเสียดสีแดกดันประชดประชันสังคมแทบจะถูกอณูหนัง คือทุกฉากมีการแอบกัดแอบประชดสังคมตลอด อยู่ที่ว่าผู้ดูสามารถตีความหรือดูออกหรือไม่? หนังเล่าถึงยุคที่สังคมเป็นโรคบ้าเห่อ ในหนังทุกคนกำลังเห่อสัตว์ตัวหนึ่งที่เรียกกันว่าเป็น “หมาหิมะ” หมาหิมะเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ ยกเว้นสามคน คือ ลูกเจ้าของหมาหิมะที่พ่อสนใจแต่หมาจนไม่สนใจตน รู้สึกตัวเองว่าถูกหมาหิมะแย่งความรักไปจนหมด อีกคนคือ “เด่น” ผู้ถูกให้ออกจากงาน เพราะไม่เอาการเอางาน แต่พาลไปโกรธ “หมาหิมะ” พยายามประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ก็ไร้ผล และอีกคนคือ “อาท” เด็กอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ แต่แล้วทุกคนก็ลืมเขาผู้เป็นเด็กอัจฉริยะ หันไปสนใจและกล่าวถึงแต่หมาหิมะ จนเขารู้สึกมั่นไส้จึงเขียนประกาศในห้องน้ำชายว่า เขาจะลักหมาหิมะมาให้ดู หนังก็เล่าถึงระบบรักษาความปลอดภัยหมาหิมะขั้นสูง พอๆกับระบบรักษาความปลอดภัยของภาพโมนาลิซ่า หรือเพชรพันล้าน  ภาพตอนผ่านเข้าไปทีละขั้น ดูไฮเทคดี แต่พอตัดมาที่ฉากบัญชาการภายใต้ระบบที่โคตรไฮเทคนั้น โลเทคสิ้นดี มีคอมพิวเตอร์เก่าๆ 4-5ตัว และเจ้าหน้าที่หน้าตาโบราณเหมือนข้าราชการแก่ที่ไม่ค่อยรู้จักคอมพิวเตอร์นั่งบัญชาการอยู่ สภาพห้องยิ่งหดหู่ ฉากที่แดกดันประชดประชันมากที่สุดคงเป็นฉากที่ผู้บัญชาการตำรวจกำลังนำทีมสืบหาหมาหิมะที่หายไป แต่แล้วนายตำรวจท่านหนึ่งก็เข้ามารายงานว่า จังหวัดหนึ่งของประเทศกำลังถูกยึดไปแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวด้วยเสียงมีอารมณ์ว่า “ประเทศเรามีหลายจังหวัด เสียไปจังหวัดเดียวก็เท่ากับเสียไปแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเสียหมาหิมะที่มีแค่ตัวเดียวในโลกเท่ากับเสียไป 100 ปอร์เซ็นต์ เท่านี้พวกคุณก็เรียงลำดับความสำคัญไม่ได้!!” แต่โดยรวมแล้วหนังก็สนุกดี ส่วนหนึ่งเพราะได้นักแสดงคุณภาพอย่าง บอย ปกรณ์  โก๊ะตี๋ มีฉากซึ้งๆระหว่างพ่อกับลูกให้ซึ่งได้เหมือนกัน แต่ที่ยังสงสัยจนหนังจบแล้วยังไม่หายสงสัยคือ พี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ในเรื่องเป็นใคร??? ดูจนจบแล้วหนังก็ไม่บอกว่าพี่แกเป็นใครมาจากไหน ไล่ยิงชาวบ้านอย่างเดียว พอถามก็บอกแค่ว่า เป็นหน้าที่ !! ยังบอกไม่ได้ว่า หนังของพี่อ็อฟเรื่องเป็นหนังแนวไหน สันนิษฐานว่าเป็นหนังตามใจผู้กำกับที่พยายามจะถ่ายทอดสังคมปัจจุบันในมุมมองของพี่แกเอง ตอนจบเป็นยังไง ไม่ขอบอก เผื่อบางคนอยากไปดู แต่ถ้าใครดูแล้วได้คำตอบว่าพี่อ็อฟเป็นใคร รบกวนช่วยมาบอกด้วยนะ อยากรู้จริงๆ

ชิงหมาเถิด พงษ์พัฒน์

สาระแน..อำเป้ง

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

เข้าเรื่องแบบไม่ต้องอ้อมเลยละกัน วานนี้ผมไปดูหนัง สาระแนห้าวเป้งมา!! โดยส่วนตัวชื่นชอบรายการนี้ในจอทีวีมานานมแล้ว ตั้งแต่อยู่ช่องสามวันเสาร์แล้วระเห็ดไปอยู่ช่อง ไอทีวี เปลี่ยนชื่อเป็นสาระแนจังดึก อยู่ไอทีวีก็ไม่นิ่งสักที เดี๋ยวโผล่วันอังคาร เดี๋ยวโผล่วันพุธ เดี๋ยว 4 ทุ่ม เดี๋ยว 5 ทุ่ม จนไอทีวีมีอันต้องจบลง ก็เร่ร่อนมาอยู่ช่อง 5 ในเวลาเกือบเที่ยงคืน และล่าสุดก็ได้กลับบ้านเก่าช่อง 3 ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนของสาระแนคงหายไปเยอะเหมือนกัน จากการร่อนเร่อยู่ที่จุติไม่ได้เช่นนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็สามารถติดตามชมได้เป็นระยะๆ  แต่ก็ยังชื่นชอบรายการนี้เหมือนกับที่ชื่นชอบรายการชิงร้อยชิงล้าน!! ณ วันนี้สาระแนกลายเป็นหนังจอใหญ่แล้ว มีหรือที่ผมจะพลาด!! เย็นของวันแรงงานแห่งชาติ ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ คนเยอะมากกกกกก แต่เหมือนมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน เข้าไปจองตั๋วปุ๊บได้รอบที่ไม่ต้องนั่งรอเวลา และได้ที่นั่งแถว D แถวค่อนข้างดี ในขณะที่แถวอื่นๆ นับตั้งแต่สองแถวแรกจากหน้าจอเต็มหมด ด้วยความแปลกใจว่าทำไมที่นั่งตรงนี้ถึงว่าง มีผีสิง วิญญาณอาฆาตที่นั่งนั่นอยู่หรือเปล่า จึงถามคนขาย เจ้าหล่อนบอกว่า มีคนโทรมาจองล่วงหน้า แต่ไม่มา..โอ้ ~ แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ข้างๆที่ผมนั่ง มีผู้หญิงคนนึ่งมาดูหนังคนเดียว นั่งเงียบๆ เจียมๆอยู่ ผมก็เข้าใจนะ ความรู้สึกของคนมาดูหนังคนเดียว ต้องเจียมๆ เงียบๆหน่อย ถึงหนังจะสนุกสักปานใดก็ตาม แต่ที่ผมเข้าใจมาทั้งหมดนั้น ผิดถนัด ตลอดระยะเวลาที่ดูหนัง คุณหล่อนรับโทรศัพท์ 2 ครั้ง!! ดังด้วย แค่นั้นยังไม่พอ เสียงหัวเราะของคุณเธอ โคตรทุเรศศศศศศศศศศ…ไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่ไหนหัวเราะได้ทุเรศปานนี้ และที่สำคัญคุณเธอมักจะหัวเราะในมุกที่คนอื่นไม่หัวเราะ ตอนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาขำกันทั้งโรง คุณเธอนั่งเงียบ แต่พอมุกเสี่ยวๆ มุกที่ไม่ควร, ไม่น่า, ไม่ต้อง และไม่จำเป็นต้องขำ เธอขำ~ ย้ำอีกครั้งว่า เสียงหัวเราะเธอ อุบาทว์มากกกกก แต่ที่อุบาทว์กว่าเสียงหัวเราะของเธอคือ การรับโทรศัพท์ในโรงหนัง เธอแย่มากกก ขอประณามเธอเลย ยัยคนที่นั่งแถว D14 เรื่องสาระแนห้าวเป้ง รอบ 17.40 น. วันที่ 1 พ.ค. 2552 นั่งใกล้คนไม่ดี พลอยทำให้บรรยากาศการดูหนังมีประสิทธิภาพลดลง 30 เปอร์เซ็นต์!! บ่นซะจนลืมเลยว่า…

อ่านต่อ

เขาใหญ่..รีเทิร์น

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 February 20099 November 2017

ครั้งนี้ไปแบบกางเต๊นท์ มวลสมาชิกที่ร่วมทริปด้วย เป็นเพื่อนที่ทำงานที่ลงขันกันคนละ 1,500 บาท ได้รถตู้ขนาดใหญ่ใหม่ป้ายแดง Toyota Commuter  เมื่อคนพร้อม รถพร้อม อุปกรณ์ (เต๊นท์, เตา, อาหารแห้ง/อาหารเปียก)พร้อม..เวลาก็พร้อม ออกเดินทางกันเล้ย

เขาใหญ่

ผีอำ

เรื่องทั่วไป 26 June 2008

ในโลกนี้มีหลายอย่าง ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบได้ และหนึ่งในหลายอย่างนั้น คือ เรื่อง ผี เมื่อตอนเด็กๆ เคยกลัว และเคยคิดว่าตัวเองเจอ ไม่สิ ไม่ได้เจอ เพียงแต่รู้สึกเหมือนว่า สิ่งๆนั้นเป็นผี! แต่พอโตขึ้น มานั่งพิจารณาดีๆ สิ่งๆนั้นๆ ที่เคยคิดว่าเป็นผีเมื่อตอนเด็กนั้น อาจไม่ใช่ผีก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าในตอนดึกข้างหน้าบ้าน ที่ผมเข้าใจว่าเป็นวิญญาณของยาย, เสียงคนเดินบนหลังคาบ้านตอนดึก รุ่งเช้าผมเป็นไข้, เท้าของทหารที่ยืนหน้าห้องที่โรงเรียน เมื่อครั้งที่ผมไปนอนค้าง และเมื่อฝนตกพร่ำๆ ฟ้าครึ้ม กลางบ่าย 3 โมง มีลุงแก่ๆยืนข้างทาง พอเดินเลยไปหน่อยหนึ่ง แล้วหันมาดูอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่มีแล้ว.. เหตุการณ์ที่กล่าวมานั้น คือ เหตุการณ์เมื่อตอนเด็ก ซึ่งในสมัยเด็กเราเข้าใจเหตุการณ์นั้นว่า ผีหลอก แต่เมื่อโตขึ้นมานั่งพิจารณา ก็ให้เกิดความสงสัยว่า นั่นเป็นผีจริงหรือเปล่า เสียงฝีเท้าข้างหน้าบ้านตอนดึกสงัด .. อาจจะเป็นใครก็ได้มาเดิน, เสียงคนเดินบนหลังคา อาจจะเป็นแมว, เท้าของทหารที่มายืนหน้าประตู (อันนี้คงนึกภาพไม่ออกกัน ลองคิดถึงประตูห้องเรียนที่ปิดสนิท แต่บานประตูมีขนาดสั้นกว่าขอบประตู เมื่อปิดจึงไม่มิด จะเห็นเฉพาะขา ถ้ามีคนมายืนหน้าห้อง) อาจจะเป็นใครก็ได้ บังเอิญผ่านมา และผมก็บังเอิญเห็น! และลุงแก่ๆที่มายืนข้างทางนั้น น่าจะเป็นลางอะไรสักอย่างที่มาช่วยผม เพราะวันนั้น ผมหนีฝน กำลังจะขึ้นกระท่อมร้าง แต่เมื่อเจอเหตุการณ์นี้เข้า จึงไม่กล้าขึ้นกระท่อมดังกล่าว แต่วันต่อมา เมื่อขึ้นไปบนกระท่อมนั้น ปรากฏว่ามีตะขาบตัวใหญ่มาก ซึ่งวันฝนตกนั้น ถ้าผมขึ้นไป อาจถูกมันต่อยเอาก็ได้.. นั่นคือเหตุการณ์ในวัยเด็ก จากวันนั้นมาถึงวันนี้ ผมยังไม่เคยมีประสบการณ์แนวๆนี้อีก ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ปรารถนาจะมีหรอกน่ะ มาวันนี้ผมได้มาเจออีกเหตุการณ์หนึ่ง  ที่ใครต่อใครเรียกมันว่า ผีอำ ผีอำ สำหรับคนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่สำหรับผม มันก็คือฝันร้ายเท่านั้นเอง เพียงแต่เป็นฝันที่คล้ายจะเป็นจริง คืนวันนั้น ผมฟังรายการ เดอะ ช็อก ซึ่งเป็นรายการผีๆ หลายคนรู้จักดี ในจินตนาการผมจึงมีเรื่องเหล่านี้อยู่ไม่น้อย พอหลับได้พักเดียวเท่านั้น ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้หลับ ยังนอนอยู่ และนอนตะแคงไปทางขวา ผมรู้สึกร้อน อยากจะลุกมากินน้ำ แต่พอจะขยับตัว มันขยับตัวไม่ได้  แต่ลืมตาได้ พอลืมตาเท่านั้นแหละ …ในห้องผมกลายเป็นห้องเก่าๆ หยากไย้เต็มไปหมด…

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ห้วยน้ำดัง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 17 December 202023 August 2022

กลายเป็นประเพณีของผมไปซะแล้วครับ สำหรับการท่องเที่ยงทางเหนือช่วงหน้าหนาว จุดเริ่มต้นก็จะคล้ายๆกันทุกปี นั่นคือไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายที่ลำพูน หลังจากนั้นค่อยเลือกเป้าหมายต่อไปว่าจะไปไหน ปีที่แล้วไปอินทนนท์ ส่วนสำหรับปีนี้เราเลือก “แม่ฮ่องสอน“ แม่ฮ่องสอน พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน และยังคงเป็นป่าไม้ตามธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีเนื้อที่ป่าไม้ ประมาณ 10,976.979104 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,860,611.94 ไร่) คิดเป็นร้อยละ 85.99 ของเนื้อที่จังหวัด มีทิวเขาเรียงตามแนวทิศเหนือ–ใต้ขนานกัน  ดูจากข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นของจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว บันเทิงแน่นอนครับ การขับรถขึ้นลงเขาอันสลับซับซ้อนคดเคี้ยวเป็นตัวเอส ต้องมีความระมัดระวังสูงมาก ไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากนัก ผู้ที่มีธาตุเบาอาจมีการมึนหัวและอาเจียนได้ หลังจากไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางจากลำพูนตัดเชียงใหม่มุ่งสู่แม่ฮ่องสอน เป้นหมายแรกของวันนี้คืออำเภอยอดฮิตนั่นคือ ปาย ก่อนถึงปายมีร้านกาแฟเล็กอยู่บนยอดเขาระหว่างทาง เราพักกินน้ำกินท่าพอให้หายเมารถก่อน หลังจากได้พักดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย ก็เริ่มเดินทางต่อ และจุดหมายต่อมาของเราก็คือจุดชมวิวยอดฮิตอีกเช่นกัน อยู่ก่อนถึงอำเภอปาย นั่นคือ “ห้วยน้ำดัง” ห้วยน้ำดัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 112,187.5 ไร่ ภูมิศาสตร์เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำที่มีทัศนียภาพงดงาม มีความสูงตั้งแต่ 400-1,962 เมตร จากระดับน้ำทะเล โพสต์นี้ต้องจบตรงนี้ก่อน เรามัวแต่ดื่มด่ำกับธรรมชาติจนลืมไปว่าคืนนี้เรายังไม่มีที่นอน! ตอนต่อไปเราจะไปหาที่หลับที่นอนในอำเภอปายกัน…

ปาย แม่ฮ่องสอน

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH