Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

อุทัยธานีมาราธอน

อ่านต่อ

21 กิโลเมตรแรกในรอบ 3 ปี

วิ่ง, สุขกะภาพ 17 July 202221 July 2022

อย่างที่ทราบกันดีว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาโลกของเราประสบกับปัญหาเดียวกัน นั่นคือ “โควิด” ทุกกิจกรรมที่ทำนอกบ้านต้องหยุดและเปลี่ยนมาทำในบ้านแทน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอน การทำงาน หรือแม้แต่การออกกำลังกาย อย่างอื่นพอทำในบ้านได้ครับ แต่สำหรับผมการออกกำลังกายต้องทำนอกบ้านเท่านั้น เพราะการออกกำลังกายของผมนั่นคือ “วิ่ง” นั่นเองถึงทำให้ผมมีข้ออ้างสำหรับการไม่ออกกำลังกายแบบต่อเนื่องตั้ง 3 ปี!! สำหรับคนที่วิ่งบ่อยๆ จะรู้เลยว่า ถ้าหยุดวิ่งนานๆ การกลับมาวิ่งใหม่มันเท่ากับการเริ่มนับหนึ่งใหม่ ความฟิตของร่างกายแทบไม่มี ความสนุกในการวิ่งที่เคยสัมผัสจะหายไป เราต้องเริ่มหัดวิ่งใหม่ตั้งแต่ระยะ 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร และจะผ่าน 10 กิโลเมตรแบบยากลำบากมาก การจะวิ่งด้วยตัวเองในระยะ 21 กิโลเมตรนั้นคงทำไม่ได้แน่ คิดได้ดังนั้นจึงเริ่มหางานวิ่งที่กำลังเริ่มกลับมาคึกคักใหม่..ผมไปเจองาน UTMUthaiThaniMarathon หลังจากสมัครก็เริ่มซ้อมวิ่งครับ เหมือนเริ่มวิ่งใหม่ ครั้งแรกได้ 5 กิโลเมตร วิ่งด้วยระยะนี้ 2-3 วันก่อนแล้วค่อยขยับไปกิโลเมตรที่ 10 เริ่มวิ่ง 10 กิโลเมตรแบบสบายๆได้ แต่แล้ว..ดันไปติดโควิด ทำให้การซ้อมที่กำลังต่อเนื่องต้องหยุดไปถึง 10 วัน หลังจากหายโควิดมีเวลาซ้อมแค่ 10 วันอีกต่างหาก งานนี้จึงซ้อมได้แค่ 10 กิโลเมตรก่อนงานวิ่งแค่ 5 วัน วันงาน งานนี้ฉายเดี่ยวอีกเช่นเคยครับ ผมจองห้องพักไว้ใกล้จุดสตาร์ทซึ่งก็คือสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ห่างแค่ 3 กิโลเมตร หลังจากไปรับบิบเสร็จเรียบร้อยก็เช็คอินเข้าที่พัก งานนี้ปล่อยตัวตอนตี 4.30 ดังนั้นเราต้องไปให้ถึงจุดปล่อยตัวในเวลาตี 4 หลังจากอาบน้ำ รับประทานอาหารเย็น เตรียมเสื้อผ้ารองเท้าสำหรับพรุ่งนี้ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 3.40 เสร็จแล้วเข้านอน ค่ำคืนนี้ฝนตกหนักมาก ถึงจะหลับๆตื่นๆ และฝันว่าตัวเองออกไปวิ่งแล้ว แต่ก็ยังดีที่ได้หลับบ้าง ก่อนนาฬิกาจะปลุก 5 นาที ผมลุกจากที่นอนเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาทำธุระส่วนตัวไม่นานก็พาตัวเองออกจากห้องพักไปยังจุดสตาร์ท ปล่อยตัว ตี 4.30 เมื่อสิ้นสุดสัญญาณปล่อยตัว นักวิ่งพันกว่าคนรวมระยะ 21 และ 42 ก็ทะยานออกจากเส้นสตาร์ท ขาแรงที่อยู่แนวหน้าทั้งหลายตะบึ่งวิ่งด้วยพลังทั้งหมดที่มีราวกับว่าจะวิ่งแค่ 400 เมตร แน่นอนสำหรับนักวิ่งขาแรงแล้ว 21 หรือ…

วิ่ง อุทัยธานีมาราธอน
อ่านต่อ

แอบดู..นกเขาขันกรู๊

สุขกะภาพ 21 October 200921 September 2016

ณ ระเบียงคอนโดแห่งหนึ่ง ที่หลังจากมั่นปลูกต้นไม้มาหลาหลายชนิด ก็ไม่ปรากฏว่ามีต้นไหน สามารถยืนหยัดชูช่อออกดอก หรืออย่างน้อยผลิใบให้สวยสด ที่มีรอดอยู่บ้าง ก็ด้วยความทุลักทุเล อยู่อย่างรวยระริน ผมในฐานะผู้ได้ A+ วิชาเกษตร เลยขออาสาวิเคราะห์ปัญหา และเปลี่ยนแปลงแผ่นดินอันแล้งแห้งแห่งนี้ให้ชะอุ่มชุ่มชื่นด้วยพืชนานาพันธ์ุ อันดับแรกเลย..ที่แห่งนี้โดนแดดช่วงบ่ายรุนแรงมาก ดังนั้น เราต้องหาต้นไม้ที่ทนต่อแดด ชอบแดด กินแดดเป็นของเล่น ซึ่งมีหลากหลายนานาพันธ์ุทีเดียว อันดับสอง เนื่องจากเจ้าของคอนโดเอง ไม่ได้ให้ความดูแลอย่างใกล้ชิดสนิทสนมชมเชย การให้ดอกไม้ ต้นไม้ใช้ชีวิตในกระถางเล็กๆเท่ากำมือ เหมือนการปล่อยให้ปลาอยู่ในหนองน้ำที่ไร้สายน้ำ ดังนั้น ต้องเปลี่ยนเป็นกระถางที่ใหญ่กว่า หรือ..ถมเดินบางส่วนลงระเบียง ใช้อิฐกั้นดินไว้ เห็นชอบปฏิบัติตามข้อหลังอย่างไม่ลังเล เมื่อมีดินมากๆ ดินจำนวนมากจะช่วยอุ้มน้ำไว้ได้นาน ดังนั้น ความชุ่มชื่นจึงเกิดมีแก่มวลต้นไม้ได้อย่างเพียงพอ บนหน้าดินเอง ก็จะเกิดหญ้าเล็กๆ วัชพืชตัวจ้อย ช่วยสร้างความชุ่มชื่นให้ดินยิ่งขึ้นอีก หลังจากดำเนินการดังกล่าวมาแล้วข้างต้น..ส่งผลดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ ต้นไม้ออกดอกออกใบสีสวยสดงดงาม และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ..ต้นไม้มา สัตว์ป่าก็มี ในพุ่มพลูด่าง นกเขาไม่ปรากฏสัญชาติ ได้ใช้พุ่มพลูด่างเป็นที่ีทำคลอด เดาว่า น่าจะพบรักกันที่ระเบียงแห่งนี้ ถึงเวลาคลอดจึงคลอดที่นี่ไว้ เป็นอนุสรณ์ให้ลุกหลานกล่าวขานกันสืบไป ผมแอบย่องๆไปดู ปรากฏว่าเป็นแฝดสองครับ มีกันอยู่สองใบ ยังไม่เป็นตัว เห็นแม่นกเขามาแอบกกไข่ทุกวัน แต่พอผมย่องจะไปถ่ายรูปทีไร ยัยแม่ก็บินหนีไปทุกที วันนี้ก็เลยได้ถ่ายแต่ไข่ไว้ดูต่างหน้าไปก่อน เดี๋ยวรอเมื่อไรฟักเป็นตัว จะถ่ายลูกนกตัวเล็กๆมาอวดกันอีกที ช่วงนี้ลมแรง ฝนตกบ่อย ก็แสนจะเป็นห่วง กลัวไข่จะร่วงไปเสียก่อน แม่นกเองก็กกไข่ตากฝนด้วย กลัวจะเป็นหวัดเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นั่งดูแม่นกกกไข่..ก็มีความสุขดีครับ ไม่รู้ว่าเมื่อถึงคราวตัวเองมีลูกบ้าง จะมีความสุขอย่างนี้ไมน๊ะ

นกเขา เขาใหญ่
อ่านต่อ

เสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย

ไดอารี่ 13 October 20163 November 2017

    * เป็นวันที่โลกมืดมิดและหยุดนิ่ง ได้ยินเพียงเสียงร่ำไห้

สวรรคต ในหลวง

ดอกไม้ใหญ่..แจกันเล็ก

ไดอารี่ 9 June 2011

คำถาม.. ดอกไม้จากป่าใหญ่ ประดับในแจกันเล็ก เงินกองโต……ในบ้านคนขี้เหนียว ความรักที่ยิ่งใหญ่..ในคนที่ไร้ใจ คำพูดมากมาย แต่ไร้ความจริง คำตอบ.. แห้งเหี่ยวไร้ความหมาย …หาประโยชน์ไม่ได้เน่าเปื่อย โดดเดี่ยวเดียวดายไร้คนแล และผู้แทนราษฏร.

ดอกไม้ ส.ส. แจกัน

วันนี้ของวัยเยาว์

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 January 2010

ช่วงนี้มีแต่บันทึกประจำวัน ไม่มีเรื่องสั้น หรือบทความบ่นว่าอะไร(อย่างที่เคย)สักเท่าไร ส่วนหนึ่งอาจเกิดเพราะความตั้งใจจะเขียนให้ได้ทุกวัน และอารมณ์ที่จะเขียนเรื่องสั้น หรือบทความนั้นมิได้เกิดขึ้นและไม่สามารถสร้างมันได้ทุกวัน ยกเว้นแต่การเขียนบันทึกแบบไดอารี่ที่มีให้เขียนให้พูดได้ทุกวัน หลังจากที่ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายหลังเลิกงาน และจะงดอาหารคาวในมื้อค่ำ เมื่อวานเป็นวันที่ 3 ของการอดมื้อค่ำและวันที่ 2 ของการวิ่ง .. วิ่งยังเหนื่อยเหมือนเดิม ยังไม่เข้าที่เท่าไร ส่วนมื้อค่ำก็ยังหิว และรู้สึกว่าจะหิวกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ กินแอปเปิ้ลไป 2 ลูก ช่วยได้นิดหน่อย พยายามจะดูทีวีเพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องกิน แต่คิดผิดอย่างถนัด ทีวีไทยนอกจากข่าวแล้ว มีแต่เรื่องกิน กิน กิน และกิน โดยเฉพาะละครไทย โอยย..สารพัดจะกิน พอโฆษณา ก็พบว่าโฆษณาถึงของกินเยอะกว่าอย่างอื่น แค่โฆษณามาม่าตัวเดียว ตบะผมก็เกือบแตกแล้ว เหมือนได้กลิ่นมาม่าโชยออกมาจากทีวี ไม่ไหวแล้ว..ปิด ~ ช่วง 2 – 3 วันมานี้ นอนเร็วกว่าที่เคย 1-2 ชั่วโมง ปกติไม่เที่ยงคืนไม่เข้านอน แต่เมื่อคืนแค่ 4 ทุ่ม ตาผมก็แทบปิดแล้ว อาจจะเหนื่อยจากการออกกำลังกาย กำลังคิดว่าควรจะตกแต่งห้องใหม่ให้น่าอยู่ ถึงไม่ใช่ห้องของตัวเอง(ห้องเช่า)ก็เถอะ เราก็สามารถตกแต่งและทำให้มันน่าอยู่ได้นี่นา .. บางทีบรรยากาศในห้องอาจทำใ้ห้เกิดจินตนาการเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆใหม่ๆ ก็ได้  🙂 พรุ่งนี้จะวันเด็กแล้ว ความจำในวัยเด็กเริ่มเลือนลาง วันนี้ของเราที่อายุ 7 ขวบ กำลังทำ คิด หรือพูดอะไร อยู่ที่ไหนนะ บางทีเราในตอนนั้นอาจคิด พูด หรือทำไม่แตกต่างจากตอนนี้ ต่างแต่จุดประสงค์ที่ทำ แต่การกระทำเหมือนเดิม การกระทำในตอนเด็ก อาจจะซื่อๆใสๆ ไร้จริต ทำเพื่อความสนุก ความซน ความอยากรู้อยากเห็น แต่การกระทำในตอนโต กระทำเพื่อจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เน้นผลประโยชน์เป็นหลัก เกมส์ยอดฮิตที่เด็กๆทุกยุคต้องเคยเ่ล่น คือ เกมส์ซ่อนหา วิธีเล่นก็ง่ายๆ ต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย 3 คนขึ้นไป ให้คนหนึ่งเป็นคนหา คนที่เหลือเป็นคนไปซ่อน ถ้าหาเจอจนครบคนที่ถูกเจอคนแรกก็จะเป็นผู้หาต่อไป สลับวนเวียนกันไปเรื่อยๆ นั่นคือวิธีการเล่นของเด็ก พอโตขึ้น เราก็จะพบผู้ใหญ่เล่นเกมส์ซ่อนหา พื้นที่ซ่อนอาจไม่ใช่แค่สนามเด็กเล่น แต่เป็นการซ่อนทั่วโลก ไม่จำกัดเวลาในการหา…

งานแต่งใครใคร..เป็นได้แค่แขกรับเชิญ..

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 27 August 20096 January 2016

ไม่รู้ว่าวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม เป็นวันฤกษ์ดีอะไร ขนาดไหน ยังไงนะ รู้แต่ว่า วันนี้มีงานของคนรู้จักที่ต้องไปร่วมด้วยช่วยกัน ถึง 2 งาน !! งานแรกเป็นงานแต่งของเพื่อน สิงห์ หรือ เนธิวรรธน์ สิงห์ทอง เริ่มงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า กินเลี้ยงกันตอนเที่ยงจนถึงเย็น งานที่สองเป็นงานทำบุญบ้าน พร้อมทำบุญให้ปู่ผู้ล่วงลับ งานเริ่ม 10 โมงเช้าเป็นต้นไป!! วันตรงกันพอไหว แต่นี่งานยังตรงกันอีก โชคดีตรงที่ว่า งานทั้งสองอยู่ไม่ห่างกันมากนัก งานหนึ่งเกิดขึ้นแถวสะพานพระนั่งเกล้า อีกงานหนึ่งอยู่ประชาชื่น 44 งานนี้ต้องวางแผนกันดีๆหน่อย ไม่อย่างนั้นอาจมีปัญหาได้ จังหวะนี้คิดถึงเพลงของทาทาขึ้นมาทันที “..อยากเก็บเธอไว้……ทั้งสองคน” หลังจากวางแผนไว้ในใจแล้ว เช้าวันอาทิตย์ก็ดำเนินตามแผนการณ์ทันที ผมต้องตื่นเช้าในเวลาปกติในวันทำงาน คือ 6 โมงครึ่ง อาบน้ำ แต่งตัว ไปงานแต่งในตอนเช้าก่อน บรรยากาศตอนเช้า มีทำบุญเลี้ยงเช้าพระ เสร็จแล้วมีแห่ขันหมากในเวลา 9.09 นาที บรรยากาศของงานแต่งละนะ ขาดไม่ได้เลยคือแอลกอฮอล์ ตอนเช้าด้วยความจำใจให้ดื่มไป 2 แก้ว หลังจากแห่ขันหมากเสร็จ ผมต้องขึ้นแท็กซี่เพื่อไปอีกบ้านหนึ่ง เพื่อทำบุญบ้าน งานนี้ได้รับความไว้วางใจให้เป็นทายก มีหน้าที่อาราธนาศีล, อาราธนาพระปริตร ถวายของพระ ฯลฯ หลายคนชมบอกว่าทำหน้าที่ได้ดี โดยหารู้ไม่ว่าเบื้องหลังนั้นระกำแสน ด้วยฤทธิ์เหล้าในงานแต่งแค่ 2 แก้ว ทำเอาสมองอลอึง อาราธนาศีลแบบมึนๆ  สมองสั่งการได้ช้ากว่าปกติ (เข้าใจเลยว่าตัวเองคออ่อน(มาก) และที่เข้าใจมากไปกว่านั้น คือ คนกินเหล้า เป็นคนอันตรายแค่ไหน หากต้องทำหน้าที่ขับรถ) ขณะที่เข่าทั้งสองข้างพอง ด้วยต้องคุกเข่าบนพื้นแข็งเป็นเวลานาน หลังจากทำหน้าที่ทายกเสร็จสิ้น ก็บึ่งกลับไปที่งานแต่งอีกครั้ง ครั้งนี้ยิงตรงไปยังสถานที่กินเลี้ยง นั่นคือ ร้านแดรี่ ควีน สะพานพระนั่งเกล้าฯ พอไปถึง เพื่อนๆหลายคนเมาล่วงหน้าไปแล้ว วันนี้อาจจะเมาเร็วกว่าปกติ ด้วยอากาศที่ร้อนระอุ บวกกับดีกรีของเหล้าแบบ on the rock (เหล้าเพียวๆไม่ผสมโซา น้ำอัดลม หรือน้ำแข็ง) พอผมย่างกรายไปถึง เพื่อนๆเหมือนกลัวเราจะเสียเปรียบที่ยังไม่เมา…

สิงห์ แต่งงาน

สาระแน..อำเป้ง

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

เข้าเรื่องแบบไม่ต้องอ้อมเลยละกัน วานนี้ผมไปดูหนัง สาระแนห้าวเป้งมา!! โดยส่วนตัวชื่นชอบรายการนี้ในจอทีวีมานานมแล้ว ตั้งแต่อยู่ช่องสามวันเสาร์แล้วระเห็ดไปอยู่ช่อง ไอทีวี เปลี่ยนชื่อเป็นสาระแนจังดึก อยู่ไอทีวีก็ไม่นิ่งสักที เดี๋ยวโผล่วันอังคาร เดี๋ยวโผล่วันพุธ เดี๋ยว 4 ทุ่ม เดี๋ยว 5 ทุ่ม จนไอทีวีมีอันต้องจบลง ก็เร่ร่อนมาอยู่ช่อง 5 ในเวลาเกือบเที่ยงคืน และล่าสุดก็ได้กลับบ้านเก่าช่อง 3 ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนของสาระแนคงหายไปเยอะเหมือนกัน จากการร่อนเร่อยู่ที่จุติไม่ได้เช่นนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็สามารถติดตามชมได้เป็นระยะๆ  แต่ก็ยังชื่นชอบรายการนี้เหมือนกับที่ชื่นชอบรายการชิงร้อยชิงล้าน!! ณ วันนี้สาระแนกลายเป็นหนังจอใหญ่แล้ว มีหรือที่ผมจะพลาด!! เย็นของวันแรงงานแห่งชาติ ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ คนเยอะมากกกกกก แต่เหมือนมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน เข้าไปจองตั๋วปุ๊บได้รอบที่ไม่ต้องนั่งรอเวลา และได้ที่นั่งแถว D แถวค่อนข้างดี ในขณะที่แถวอื่นๆ นับตั้งแต่สองแถวแรกจากหน้าจอเต็มหมด ด้วยความแปลกใจว่าทำไมที่นั่งตรงนี้ถึงว่าง มีผีสิง วิญญาณอาฆาตที่นั่งนั่นอยู่หรือเปล่า จึงถามคนขาย เจ้าหล่อนบอกว่า มีคนโทรมาจองล่วงหน้า แต่ไม่มา..โอ้ ~ แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ข้างๆที่ผมนั่ง มีผู้หญิงคนนึ่งมาดูหนังคนเดียว นั่งเงียบๆ เจียมๆอยู่ ผมก็เข้าใจนะ ความรู้สึกของคนมาดูหนังคนเดียว ต้องเจียมๆ เงียบๆหน่อย ถึงหนังจะสนุกสักปานใดก็ตาม แต่ที่ผมเข้าใจมาทั้งหมดนั้น ผิดถนัด ตลอดระยะเวลาที่ดูหนัง คุณหล่อนรับโทรศัพท์ 2 ครั้ง!! ดังด้วย แค่นั้นยังไม่พอ เสียงหัวเราะของคุณเธอ โคตรทุเรศศศศศศศศศศ…ไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่ไหนหัวเราะได้ทุเรศปานนี้ และที่สำคัญคุณเธอมักจะหัวเราะในมุกที่คนอื่นไม่หัวเราะ ตอนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาขำกันทั้งโรง คุณเธอนั่งเงียบ แต่พอมุกเสี่ยวๆ มุกที่ไม่ควร, ไม่น่า, ไม่ต้อง และไม่จำเป็นต้องขำ เธอขำ~ ย้ำอีกครั้งว่า เสียงหัวเราะเธอ อุบาทว์มากกกกก แต่ที่อุบาทว์กว่าเสียงหัวเราะของเธอคือ การรับโทรศัพท์ในโรงหนัง เธอแย่มากกก ขอประณามเธอเลย ยัยคนที่นั่งแถว D14 เรื่องสาระแนห้าวเป้ง รอบ 17.40 น. วันที่ 1 พ.ค. 2552 นั่งใกล้คนไม่ดี พลอยทำให้บรรยากาศการดูหนังมีประสิทธิภาพลดลง 30 เปอร์เซ็นต์!! บ่นซะจนลืมเลยว่า…

อ่านต่อ

City run วิ่งชมเมือง สาทร – วงเวียนใหญ่

วิ่ง, สุขกะภาพ 24 April 201924 March 2020

City Run คือการวิ่งออกกำลังกายนอกสถานที่ครับ วิ่งไปตามตรอกซอกซอย หรือเส้นทางที่คับแคบไม่มีรถและคนจอแจ กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีตรอกซอกซอยจุดเล็กจุดน้อยเยอะมาก ถึงจะอยู่กรุงเทพเป็นสิบๆปีแต่รับรองเลยว่ามีอีกหลายที่ๆเราไม่เคยเห็นหรือไม่เคยไปถึง การวิ่ง city run จะทำให้เข้าถึงสถานที่เหล่านั้นได้ การวิ่ง city run ครั้งนี้เส้นทางเน้นเลียบไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาครับ เริ่มต้นที่สะพานสาทร ลัดเลาะไปตามแม่น้ำจนถึงวัดอรุณและไปจบที่วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์ชัยพระเจ้าตากสิน สำหรับท่านที่ไม่เคยไปกราบสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินที่วงเวียนใหญ่นะครับ วิธีเข้าไปข้างในต้องลอดใต้อุโมงค์ อุโมงค์อยู่ขวามือถ้าไปจากสะพานพุทธ ครั้งหน้าไปวิ่ง cityrun ที่ไหนค่อยว่ากันครับ

cityrun วิ่ง

รำลึกถึงครู..วันครูแห่งชาติ..๒๕๕๓

เรื่องทั่วไป 16 January 2010

วันนี้เป็นครูแห่งชาติ (เสาร์ที่ 3 ของเดือนมกรา) ผมประเภทบล็อกกึ่งไดอารี่ ต้องไหลไปตามวันสำคัญของปฏิทิน ดังนั้น จะละเลยไม่กล่าวถึงความสำคัญของครูไม่ได้ ในอดีตกาล พระเถระที่ได้ชื่อว่ามีความกตัญญูจนได้รับการกล่าวขวัญคงไม่เกินพระติสสะเถระ หรือที่เรารู้จักกันในนามพระสารีบุตรนั่นเอง ครูที่สอนศิลปวิทยาคนแรกของท่านคือท่านสญชัย แต่ครูคนแรกที่สอนทางธรรมของท่านคือพระอัสสชิเถระ หนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ ขณะนั้นพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเที่ยวแสวงหาโมกขธรรมอยู่ จนที่สุดก็ได้พบกับพระอัสสชิเถระกำลังเดินบิณฑบาต ท่านก็มิได้แสดงปาฏิหาริย์หรือความอัศจรรย์ใดๆ หากแต่กิริยาที่ก้าวย่างอย่างสำรวมของท่าน ทำให้พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเกิดศรัทธา จนต้องเดินตาม และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ได้บวชในพระพุทธศาสนา ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้บรรลุธรรมชั้นสูงในที่สุด ตั้งแต่วันนั้นท่านก็นับถือพระอัสสชิตลอดมา แม้เดินทางไปในที่ไหน หาทราบว่าพระอัสสชิอยู่ทางทิศไหน ก็จะนอนหันศีรษะไปทางทิศนั้น สำหรับครูคนแรกของผมนั้น มีหลายท่านเหลือเกินครับ แต่ที่จำแม่นๆ คือ ครูศิริพร ครูสักการินทร์ ครูระเบียบ และครูบำเพ็ญ นาดี (ครูคนหลังนี่จำนามสกุลได้ เพราะพึ่งไปพบท่านเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง) ทั้ง 3 ท่าน น่าจะเกษียรแล้วในปีนี้นี่เอง ครูศิริพร เป็นครูคนเก่ง เก่งเชียร์กีฬา เก่งพละ เก่งเล่านิทาน  เรื่องเก่งเล่านิทานนี่เป็นที่ยอมรับของนักเรียนและครูด้วยกัน ผมจำได้ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักเรียนมาสายบ่อยๆ ครูใหญ่จึงมีนโยบายให้ครูศิริพรมาเล่านิทานใส่ไมโครโฟนให้ดังไปทั่วโรงเรียนแต่เช้า เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนรีบมาโรงเรียนเพื่อมาฟังนิทานของแก ก็ได้ผลอยู่นะครับ แต่โครงการนี้มีได้ไม่นานก็ยุติ ไม่ใช่ล้มเหลวหรือนักเรียนมาสายกว่าเดิม แต่ครูศิริพรแกไม่ไหวเอง เพราะต้องมาเช้ามาก โตขึ้นมาหน่อย(ป.1-ป.3)  ผมก็มารู้จักกับคุณครูระเบียบ และคุณครูบำเพ็ญ ทั้งสองท่าน เป็นครูที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของครูที่ดุร้าย น่ากลัว ให้เป็นครูใจดีที่นักเรียนสามารถจับต้อง พูดคุย และปรึกษาได้ ครูระเบียบนับว่าใจดีที่สุด ไม่เคยตีนักเรียน ทำผิดให้วิ่งรอบสนามฟุตบอลอย่างเดียว ส่วนครูบำเพ็ญ แกสามารถใจดีและใจร้ายอย่างมีเหตุมีผล ถ้านักเรียนทำตัวน่าัรักแกจะใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะเดียวกันหากนักเรียนทำตัวไม่น่ารัก แกพร้อมจะเป็นนางยักษ์ใจร้า้ยได้ทันที .. ในชีวิตของคนๆหนึ่งต้องพึ่งครูมากมายครับ ในศาสตร์แต่ละวิชาแต่ละแขนงล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยครูเป็นคนช่วยชี้แนะก่อน หากใครจะบอกว่าเก่งหรือเรียนด้วยตนเอง อย่างน้อยที่สุดก่อนจะเก่งหรือเรียนนั้น ย่อมต้องได้รับการชี้แนะหรือแรงบันดาลใจจากใครสักคน วันสำคัญเช่นนี้เหล่าศิษย์ควรมีจิตคารวะรำลึกถึงบุญคุณของท่าน ท่านมิใช่แค่เรือจ้าง หากแต่เป็นผู้เสกสรรค์ปลุกปั้นสร้างแรงบันดาลใจ ชี้ทางศิษย์ไปสู่ความสำเร็จ รำลึกถึงบุญคุณของคุณครูทุกท่านเสมอครับ

ครู

เมมโมรี่

เรื่องทั่วไป 26 August 2008

พึ่งเช่าวีซีดีเรื่อง เมมโมรี่ รัก-หลอน มาดู หนังแนวลึกลับ ซ่อนเงื่อน มีปมอดีต เมมโมรี่ ในหนังเรื่องนี้ หมายถึงความทรงจำที่แย่ๆในอดีต ซึ่งมีผลในปัจจุบัน ทำให้คนๆหนึ่งมองโลกแปลกไป มองโลกในแง่ร้าย เกลียด กลัว สำหรับตัวละครที่รับบทนี้คือ คุณใหม่ เจริญปุระ   ใหม่เป็นอิงอร ที่ถูกพ่อข่มขื่นตั้งแต่เด็กจนเป็นสาว เธอจึงเกลียดพ่อ ลามไปถึงเกลียดผู้ชายทุกคน เกลียดแม่ตัวเองที่ไม่ห้ามพ่อ ปล่อยให้เรื่องเลวร้ายนี้เกิดขึ้นกับเธอ   เธอโตมาด้วยความรู้สึกแบบนี้ จนเธอมีโอกาสแต่งงานกับเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งแต่งไปด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอก็เจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบเดิมๆอีกครั้ง กล่าวคือ สามีของเธอชอบใช้ความรุนแรงกับเธอ ขืนใจเธอ จนเธอมีลูก เธอแบบวางยาพิษชนิดสะสมให้สามีกิน จนกระทั่งสามีตาย เธอจึงได้พาลูกไปอยู่ที่อื่น จนมาเจอกับอนันดา หมอโรคจิต (หมอรักษาคนโรคจิต) อิงอรมักทำร้ายลูก เมื่อลูกขัดใจเธอ แต่เมื่อทำร้ายแล้วก็รู้สึกผิด รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำ (อาการแบบนี้เกิดขึ้นกับหลายๆคน มากหรือน้อยเท่านั้น ผมก็คนหนึ่ง เคยเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง) ขณะที่หมออนันดาพยายามจะช่วยเธอกับลูก แต่ถูกปฏิเสธ อนันดาเองก็มีเมมโมรี่เล็กๆอยู่ในอดีตเช่นกัน เมื่อมาเจอกับอิงอร เขาจึงรู้สึกสงสาร เห็นใจ และเกิดความรักในที่สุด แต่อิงอร เธอไม่รู้สึกเช่นนั้น เธอเกลียดผุ้ชาย สุดท้ายเธอก็ลงมือทำแบบเดิมอีกครั้ง นั่นคือวางยาหมอ   แต่ครั้งนี้หมอยังไม่ถึงฆาต.. ปมประเด็นทั้งหมดจะถูกเปิดเผยออก ความลับ และเมมโมรี่ร้ายๆในอดีตของอิงอรน่ากลัวขนาดไหน และเมมโมรี่ของอนันดาคืออะไร …ลองแวะร้านเช่าวีซีดีมาชมดูกันครับ   ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่า ไม่เชื่อว่าโลกนี้มีผี สิ่งที่ทุกคนเรียกว่าผีนั้น เป็นโรคเมมโมรี่นี่เอง โรคของความทรงจำร้ายๆในอดีตคอยหลอกหลอน และเกิดภาพซ้อนในสมอง อยู่กับความจริงแท้ และความจริงเทียมจนแยกไม่ออกว่าอันไหนคือจริง อันไหนคือแท้ ท้ายที่สุดก็เป็นโรคประสาท โรคบ้า เห็นอะไรแปลกๆที่คนอื่นไม่เห็น   คนที่กลัวผีน่าจะลองดูหนังเรื่องนี้นะครับ ถ้าทฤษฏีของหนังเรื่องนี้ถูก ผีไม่น่าจะมีในโลก   ป.ล. เมื่อคืนนั่งดูรายการ จับเข่าคุย แขกรับเชิญคือคุณสมจิตร จงจอหอ ฮี่โร่โอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว สมจิตรก็มารายการนี้ แต่อารมณ์ตรงกันข้ามกับครั้งนี้ ตอนนั้นเขากลับจากโอลิมปิกอย่างผู้แพ้ เขาท้อ…

องค์บาก 2

เรื่องทั่วไป 30 June 2008

  คิดว่าหลายๆคนก็คงเป็นเหมือนผม รอดูผลงานของพี่จา โทนี่ จา อยู่ โดยเฉพาะล่าสุด องค์บาก 2 พี่แกเล่นกำกับเองด้วย ยิ่งอยากดูใหญ่ ตย.หนังนี้ไปเอาจากเว็บต่างประเทศมา พี่แกเอาไปโปรโมทในเทศกาลหนังเมืองคานส์ แต่ตัวหนังองค์บาก 2 จริงๆ เห็นว่ายังถ่ายทำไม่เสร็จ ถ้าเมื่อไรเสร็จ..ก็จะไม่พลาดตีตั๋วไปดูแน่นอน

จา พนม องค์บาก

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH