ทริปม่วนใจ ม่อนจอง 2 วัน 1 คืน
แบกเป้เที่ยวม่อนจอง ยอดเขาสวยในจังหวัดเชียงใหม่
Find your Heart, Find the Happiness.
แบกเป้เที่ยวม่อนจอง ยอดเขาสวยในจังหวัดเชียงใหม่
หมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก อยู่บนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ ลำธาร และน้ำตกอยู่ในตัวหมู่บ้าน ที่นี่ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ อพยพมาจาก อ.ดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้แม่น้ำลำธาร สมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ลักษณะดอกสีเหลืองแดง ขึ้นอยู่ตามริมลำธาร เรียกว่า ดอกกำปอง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ตามชื่อของ ดอกไม้รวม กับแม่น้ำ เป็นบ้านแม่กำปอง นั่นเอง เดินชมหมู่บ้านแม่กำปองกันครับ บรรยากาศยามค่ำคืน เนื่องจากเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เที่ยวก็จึงมีไม่มากนัก เที่ยว 1 วัน 1 คืนก็น่าจะทั่วหมู่บ้านละ จริงๆน้ำตกแม่กำปองให้เที่ยวด้วย แต่ทริปนี้ขออนุญาตผ่านก่อนเพราะชุดไม่พร้อมเดิน การเดินทาง รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้น 1141 ข้ามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง และ ภนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จากนั้นตรงต่อไปยังเส้น 1317 และต่อด้วย 3005 แล้ววิ่งขึ้นไปทางตำบลห้วยแก้ว ทางศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ระยะทางรวมประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ หรือถ้าออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทางฝั่งช้างเผือกและตลาดวโรรส ให้ออกเส้น 118 ถนนเชียงใหม่ – ดอยสะก็ด แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้น 3005
ไร่ไฮเดรนเยียร์ที่ผมจะพาไปชมในครั้งนี้อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ครับ จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (สายเชียงใหม่ – ฮอด) ถึงกม. 82-83 บริเวณสามแยกไปบ้านแปะและวัดตอง ให้เลี้ยวขาวตรงไปผ่านบ้านแปะ บ้านทุ่งพัฒนา บ้านบนนา บ้านขุนแปะ ประมาณ 22 กิโลเมตร ถ้าท่านเคยไปเห็นจากที่อื่นอาจจะมีภาพไร่ดอกไฮเดรนเยียร์ที่สวยและเยอะกว่านี้มาก บังเอิญที่ผมไปเป็นช่วงหมดดอกพอดี (ผมไปช่วงเดือนธันวาคม) ดอกน่าจะสวยเต็มที่ช่วงหน้าฝน ถ้าให้ชัวร์ควรสอบถามก่อนเดินทางไปนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปชมดอกไฮเดรนเยียร์ แค่บังเอิญผ่าน .. เอาล่ะไปชมในแบบของผมกัน อย่างที่บอกครับ ถ้าจะมาชมความสวยงามของดอกไฮเดรนเยียร์ก็ต้องมาให้ถูกฤดูกาลของเขา และขอกระซิบเบาๆนิดนึงครับ ทางมานี่โหดเอาเรื่อง ทริปหน้าค่อยว่ากันใหม่ครับ
พอย้อนกลับไป ก็พบว่าผมไปเที่ยวทางภาคเหนือเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันแล้ว ไม่ไปก่อนปีใหม่ก็ไปหลังปีใหม่ มนต์เสน่ห์ของภาคเหนือมีให้เที่ยวกันตลอดปีไม่ซ้ำที่กัน ปีนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างต้องมีการวางแผน เรื่องเที่ยวก็เช่นกัน ถึงแม้โพสต์นี้ผมจะโฟกัสไปที่ขุนแปะ แต่ก็จะขอเล่าถึงแผนเล็กๆก่อนมาถึงที่นี่ ก่อนมาที่นี่ผมแวะไปงานวิ่งที่ลำพูนก่อน ระยะเพียง 21 กิโลเมตรไม่เหนื่อยมาก วิ่งเสร็จอาบน้ำทานข้าวเที่ยวต่อได้เลย จากลำพูนแว่บไปเที่ยวที่แม่กำปอง (ผมจะแยกเล่าถึงแม่กำปองอีกทริปหนึ่ง) ก่อนจะมาเที่ยวต่อที่นี่ ขุนแปะ กระท่อมตะวันไรวินทร์ ขุนแปะ ยอมรับว่าไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้ว่าขุนแปะหน้าตาเป็นอย่างไร เห็นภาพแว่บๆในกูเกิ้ลก็ประมาณว่าเป็นหมู่บ้านอยู่ในหุบเขา สงบเงียบ ไม่มีอินเทอร์เนต และไร้สิ่งอำนวยความสะดวก และตกลงใจจองแบบงงๆในหน้าเพจของเขา ดูจากแผนที่แล้วระยะทางห่างจากแม่กำปองเพียง 159 กิโลเมตร ใช้เวลาอย่างมากไม่เกิน 2 ชั่วโมง หลังจากศึกษาเส้นทางแล้วก็คิดในใจว่าเหลือๆ หลังจากเที่ยวแม่กำปองเสร็จจึงมุ่งหน้าไปขุนแปะ ขับตามทางหลวงหมายเลข 108 ก่อนจะแยกไปตามทางหลวงชนบทหมายเลข 1013 ทางค่อนข้างดี เนื่องจากไม่ใช่เทศกาล ถนนโล่งวิ่งชิว จนกระทั่งเห็นป้ายปากทางบอกว่า ขุนแปะเข้าไป 20 กิโลเมตร เวลาเหลือๆ ยังไม่เข้าที่พักขอขับเลยไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติออบหลวงก่อน .. หลังจากเที่ยวอุทยานแห่งชาติออบหลวงเสร็จ ก็จึงมุ่งหน้าไปขุนแปะ ทางเข้าไปจากถนนใหญ่เป็นทางเล็กๆพื้นคอนกรีต ..เมื่อขับเข้าไปเรื่อยๆ ทางก็เล็กลงเรื่อยๆ คอนกรีตหายไปเป็นถนนลูกรัง และทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆเข้าไปในหุบเขา ที่เลวร้ายไปกว่านั้น มีการทำถนนอีกนั้น นั่นหมายความว่าเราต้องเผชิญกับลูกรังแคบๆ ฝุ่น และทางชันมาก ขับเข้าไปเกือบ 1 ชั่วโมงตามแผนที่กูเกิ้ล อากู๋บอกใกล้จะถึงแล้วเจอทางแยกซ้ายขวา ทางขวาเป็นทางดี ทางซ้ายเป็นทางไม่ค่อยดี ค่อนข้างรก ชัน ผมแทบร้องไห้ อากู๋บอกให้ไปทางซ้าย T_T แทบจะวิ่งเข้าไปในป่า ทางแคบมากๆ กลับรถไม่ได้ต้องเดินหน้าไปอย่างเดียว จนในที่สุดเดินหน้าต่อไม่ได้ เพราะทางข้างหน้าสูงชันกว่า 45 องศา ที่สำคัญถนนเป็นหินกรวดนิ่ม ซึ่งล้อไม่สามารถเกาะวิ่งไปได้ ครั้งแรกผมพยายามเร่งเครื่องยนต์เพื่อปีนเนินนั้น แต่แล้วก็ไม่เป็นผล รถไหลลงมา ครั้งที่สองลองใหม่อีกครั้ง ผลก็เป็นเช่นเดิม รถไปต่อไม่ได้แล้ว .. กลับรถก็ดูจะลำบากมากด้านข้างเป็นหน้าผาสูง ผมตัดสินใจโทรหาเจ้าของรีสอร์ท และโชคดีมากที่โทรติด เพราะแถวนั้นสัญญาณโทรศัพท์หายากมาก ติดๆขัดๆ เจ้าของที่พักบอกว่ามันไปได้สองทาง ทางที่อากู๋แนะนำนั้นก็ไปได้และใกล้กว่าด้วยแต่ต้องเป็นรถโฟลวิลขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น (อากู๋มันไม่รู้ว่าผมขับรถอะไรมา…
ออกเดินทางจากลำพูนตอนบ่ายโมงกว่าๆ มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทอง เชียงใหม่ จุดหมายคือ “ขุนวาง”
ลืมตาดูโลกมาจนอายุปูนนี้ ผมพึ่งเคยไปเหนือสุดแค่พิษณุโลก ไปไหว้พระพุทธชินราช แต่นั่นไปด้วยความบังเอิญเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว..ปีใหม่ปีนี้(2552) เลยจะไปเหนือแบบจริงๆ จังๆ ซักที!! พลิกตำราว่าด้วยการท่องเที่ยวห้อง bluplanet ณ พันทิพย์ กล่าวอ้างกันอย่างหนาหูว่า ปาย สวย สงบ เลิศ ธรรมชาติ หนาว เย็น สบาย ได้อารมณ์ กล่าวอ้างพร้อมภาพประกอบ พลิกดูภาพแล้วต้องร้องหูวส์..สวย..แจ่ม..เงียบ..สบาย..สงบ นี่แหละคือสิ่งที่เราค้นหามาครึ่งชีวิต ผมเริ่มวางแผนการเดินทางตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้วก่อนสิ้นปี!! ไม่เวอร์ครับ ณ ที่แห่งนี้จองก่อน 4 เดือนยังจะช้าไป มีหลายแห่งแน่นและเต็มแล้ว ผมวางทริปคร่าว ๆ มีเวลา 4 วัน นั่งรถไฟนอน ไปลงเชียงใหม่แต่เช้าตรู่ รถโรงแรมมารับเช็คอินแต่เช้าเสร็จ เที่ยวเชียงใหม่ในวันนั้นเลย ค้างที่เชียงใหม่หนึ่งคืน เช้าอีกวันจับรถเช่าของนอร์ทวิลยิงตรงไปปาย ค้างที่นั่นสัก 2 คืน เที่ยวซะให้ทั่วปายเลย วันสุดท้ายมานอนที่เชียงใหม่ ก่อนจะขึ้นเครื่องบินกลับในตอนเช้าของอีกวัน ~ เหตุผลที่ต้องไปด้วยรถไฟนอน และกลับด้วยเครื่องบิน เพราะต้องการไปแบบหลับสบาย พร้อมที่จะเที่ยวในวันต่อมาได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาไปนอนพักเอาแรง และรถไฟนอนคือคำตอบ ส่วนขากลับต้องนั่งเครื่อง เพราะหลายครั้งที่ไปเที่ยว ขาไปมักสนุกสนานเฮฮา ไปยังไงก็ได้ แต่ขากลับมักเหงาหงอย เหนื่อยล้า เพราะฉะนั้น กลับยังไงให้เร็วที่สุด เครื่องบินคือคำตอบ อาจแพงไปนิ๊ด แต่สบายยย.. นั่นคือแผนที่วางไว้ แต่เอาเข้าจริง..รถไฟที่เปิดให้จองล่วงหน้าได้นานสุด 60 วัน และเต็มไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่อุตส่าแหกขี้ตาไปรอจองตั้งแต่ 6 โมงเข้า เมื่อแผนแรกพลาด ผมเลยมุ่งไปที่รถทัวร์แทน รถทัวร์ที่ขึ้นชื่อ อันดับต้นๆคือ นครชัยแอร์ ถัดมาคือ สยามเฟิร์สทัวร์ นครชัยแอร์เปิดจองล่วงหน้านาน 30 วัน ผมรอให้ถึงวันนั้นไม่ได้กลัวจะพลาดอีก เลยไปที่สยามเฟิร์สทัวร์..เรียบร้อย การเดินทางไปเรียบร้อยแล้ว การเดินทางกลับด้วยเครื่องบินก็จองเรียบร้อยแล้วด้วยแอร์เอเซีย..จองผ่านอินเทอร์เนต วันออกเดินทางจริง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยครับ สยามเฟิร์สทัวร์บริการดี ที่สำคัญไม่ต้องไปขึ้นรถที่หมอชิต ที่ขึ้นที่บริษัทเขาได้เลย จึงตัดปัญหารถติดตอนขึ้นรถ เบาะนั่งค่อนข้างสบาย ปรับนอนได้มาก เบาะนวดด้วย..อืมม เขาดีจริงๆ ไปถึงที่เชียงใหม่ในเวลา…