Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

แกะดำ

ของขวัญจากพระเจ้า! อ่านต่อ

ของขวัญจากพระเจ้า!

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 26 May 201128 October 2015

กำลังอ่านหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ ทุ่งหญ้าแห่งความรู้และความสุข” เขียนโดยคุณประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ แนวคิดในการทำธุรกิจ ในการมองโลก มีมุมที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สมกับที่เรียกตัวเองว่าเป็น “แกะดำ” แกะดำไม่ใช่แกะที่มีความผิดปกติ หรือมีความแปลกประหลากแตกต่างจากคนอื่น หากแต่ว่าเป็นแกะที่เลือกทำในสิ่งที่ดีกว่า แตกต่าง และให้ผลดีกว่า เลือกที่จะเลี้ยวขวา ขณะที่ทุกคนเลี้ยวซ้าย เลือกที่วิ่งในขณะที่ทุกคนเดิน เลือกที่สุขในขณะที่ทุกคนทุกข์ และอีกมากมาย.. อ่านได้ครึ่งเล่มขณะรถติด ได้ความคิดใหม่ว่าขณะรถติดคนส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมส์บนมือถือ เล่นเฟสบุค ทวิตเตอร์ บีบี ดูหนัง ฟังเพลง ล้วนแต่เป็นสิ่งสร้างความบันเทิงที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำไมเราไม่อ่านหนังสือ หรือทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์ขณะรถติดที่มากกว่านั้น ไม่เสียเงิน แถมได้ประโยชน์มหาศาล ..เลยตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือทุกครั้งที่รถติด!!! จะดูสิว่า เดือนหนึ่งจะอ่านได้กี่เล่ม.. ชอบใจประโยคเด็ดในหนังสือแกะดำฯ ที่คุณประเสริฐ ได้นำคำของ CEO หญิงของ HP มาเขียนไว้อีกที.. ใจความว่า “การที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่า่จะสูงต่ำดำขาว คือสิ่งวิเศษที่พระเจ้ามอบให้เรา ส่วนเราจะประพฤติตนอย่างไร คือสิ่งวิเศษที่เป็นของขวัญที่เราจะมอบแด่พระเจ้า” * อยากรู้จักแกะดำมากขึ้นคลิกไปที่ http://www.blacksheep.co.th/

ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ พระเจ้า แกะดำ
EMOTIONAL BANK ACCOUNT อ่านต่อ

EMOTIONAL BANK ACCOUNT

เรื่องทั่วไป 2 February 2010

อาทิตย์นี้ได้หนังสือมาสองเล่ม รู้สึก ว่าตัวเองอ่านหนังสือน้อยลง กลัวจะถูกจัดอยู่ในพวกปีหนึ่งอ่านหนังสือ 8 บรรทัด เลยต้องหาขวนขวายมาอ่านซะหน่อย เล่มแรก เป็นหนังสือของนักเขียนรางวัลซีไรต์อย่างคุณวินทร์ เหลียววารินทร์ที่ผมเป็นแฟนอยู่  ชื่อ หนังสือ “ฝนตกขึ้นฟ้า นวนิยาย ฟิล์มนัวร์” อีกเล่มสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เนต ชื่อหนังสือ Zig Zag เมื่อแกะดำทำธุรกิจ ของคุณประเสริญ เอี่ยมรุ่งโรจน์ ที่ผมรู้จักท่านจากรายการคม ชัด ลึก เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ในสองเล่มนั้น ของคุณวินทร์หนากว่า ดังนั้น จึงถูกวางไว้ก่อน แกะดำทำธุรกิจบางกว่า จึงถูกหยิบจับมาเปิดอ่านก่อน ผมพอเข้าใจแนวคิดของคุณประเสริฐมาบ้างจากรายการ คม ชัด ลึก  เป็นแนวคิดของการทำธุรกิจแบบแกะดำ กล่าวคือ ไม่เดินตามรอยคนอื่น ไม่เลี้ยวขวาไปตามทางที่คนหมู่มากเลี้ยวไป  สอนให้รู้จักคิดอย่างมีระบบ มีเหตุผล สอนวิธีคิดที่คุณประเสริฐเน้นว่าสำคัญที่สุดกว่าองค์ความรู้  ใชสมองทังสองด้านทำงาน โดยให้สมองซีกขวานำและตามด้วยสมองซีกซ้าย จากเนื้อหา 130 หน้า  31 บท แต่ละบทมีแนวคิด คำคม และปรัชญาการทำธุรกิจแบบแกะดำ มีกรณีศึกษาจากบริษัทใหญ่ๆทั่วโลก บอกตามตรงบางบริษัทที่คุณประเสริฐยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟัง ผมไม่รู้จักมาก่อนเลย  แต่ก็ ไม่ได้ทำให้อรรถรสในเนื้อหาด้อยลงนะครับ ด้วยลีลาการเขียนที่คุณประเสริฐแกออกตัวว่า แกคิดช้า เขียนช้า บทหนึ่งๆแกใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง จึงเป็นเนื้อหาที่ประกอบด้วยสาระ ได้เห็นความตั้งใจที่คุณประเสริฐพยายามอัดใส่ทุกบท ใช่แต่แกจะพูดถึงการทำธุรกิจอย่างเดียว การใช้ชีวิต การคิดและการตัดสินใจ คุณประเสริฐก็เขียนไว้อย่างน่าอ่าน ผมชอบเรื่อง EMOTIONAL BANK  ACCOUNT กล่าวถึงการฝากความรู้สึกดีๆไว้กับ คนอื่น โดยอาศัยแนวคิดจากการฝากเงินไว้ในธนาคาร เงินในธนาคารยิ่งฝากมากยิ่งมีเก็บมาก ความรู้สึกดีก็เช่นกัน ยิ่งฝากไว้กับคนอื่นไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร ฝากมากๆ เราก็ย่อมมีมาก เมื่อใดที่ชีวิตเราพบอุปสรรค อาจจะมีวันที่ความรู้สึกระหว่างเรากับคนรอบข้างอาจจะขุ่นมัว สิ่งที่เราฝากและสะสมบน Emotional Bank Account จะเป็นตัวช่ว่ย คุณประเสริฐ อธิบายการออมความรู้สึกดีๆ ว่า การฝาก คือ การที่เราเป็นคนมีน้ำใจ เปนคนรักษาคำมั่นสัญญา ดำรงตนเป็นคนน่าเชื่อถือ หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยที่คนอื่นไหว้วานก็ทำให้ การถอน…

แกะดำ
อ่านต่อ

จุดเปลี่ยนของชีวิต..คุณลิขิตเองได้(นะ)

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 29 January 201030 June 2016

ผมชอบดูรายการที่เขาสัมภาษณ์คนใหญ่คนโต หรือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต คำว่า คนใหญ่คนโต ไม่ใช่เฉพาะ นายกรัฐมนตรี, สส. หรือคนร่ำรวมมหาศาลอย่างเดียว แต่หมายถึงคนที่มีความสุขในชีวิต มีอาชีพที่มั่นคง และได้ชื่อว่าประสบแล้วซึ่งความสำเร็จในชีวิต รายการแบบนี้มีน้อยเต็มทีในทีวีบ้านเรา เห็นมีเจาะใจที่ยังยืนยันยึดมั่นทำรายการแบบนี้มา ส่วนวู้ดดี้ เป็นรายการสัมภาษณ์เช่นกัน แต่สัมภาษณ์ดารา อิงกระแส เน้นถามแรงๆ แปลกๆ .. ส่วนสาระนั้นแทบไม่มี เมื่อวานนี้ผมได้ดูรายการสัมภาษณ์แบบนี้ 2 รายการ ไหนๆ ก็บอกไว้แล้วว่ารายการทำนองนี้มีสาระ ก็จึงต้องหาสาระจากการดูมาเล่าสู่กันฟังซะหน่อย รายการแรกบังเอิญได้ดูเมื่อตอนหัวค่ำ คม ชัด ลึก โดยพิธีกรน่ารัก อายุเท่ากันกับผม จอมขวัญ กัลยา แกได้ไปสัมภาษณ์คุณประเสริฐ รุ่งโรจน์ ผู้เป็นเจ้าของหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ” คำว่าแกะดำในความหมายของคุณประเสริฐ คือ การทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามคนหมู่มาก การสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่ชีวิต การเลี้ยวขวาขณะที่คนหมู่มากเลี้ยวซ้าย ไม่ใช่คนขวางโลก แต่เป็นการคิดและการทำอย่างมีเหตุผลซึ่งแกทำและประสบความสำเร็จมากว่า 20 ปีแล้ว ..แกะดำของคุณประเสริฐน่าสนใจมั้ย? คุณประเสริฐเริ่มต้นชีวิตการทำงานจากศูนย์ แกจบวิศวะ แต่มาเริ่มทำงานด้านโฆษณาตอนอายุ 29 แกเริ่มต้นงานโฆษณาจากศูนย์จริงๆ เพราะแกไม่รู้จักกระทั่งคำว่า “อาร์ตเวิร์ก” คืออะไร แต่ 2 ปีผ่านไปทุกอย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จอย่างล้นลามอย่า่งในปัจจุบัน จุดเปลี่ยนของคุณประเสริฐคือ ตอนที่ท่านประสบอุบัติเหตุ ต้องนอนนิ่งๆอยู่ในห้องไอซียูถึง 3 อาทิตย์ ตรงนั้นเองทำให้ท่านคิด และพิจารณาถึงวงจรชีวิตที่เป็นวงกลมอันนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จากหลังมือเป็นหน้ามือ คุณประเสริฐบอกว่า คีย์เวิร์ดสำคัญของการประสบความสำเร็จ คือ การตั้งคำถามอย่างถูกต้อง การตั้งคำถามอย่างถูกต้อง จะนำไปสู่การหาคำตอบที่ถูกต้องเช่นกัน เมื่อตั้งคำถามผิด คำตอบก็จะหาไม่ได้ เมื่อไม่ได้คำตอบในชีวิต การดำเนินชีวิตจะดีได้อย่างไร แกะดำ ไม่ได้สอนให้ทำธุรกิจด้วยตัวเองอย่างเดียว แต่สอนให้รู้จักคิดต่าง เพื่อสร้างความสุขในชีวิต ในหน้าที่การงาน ให้ออกจากวงกลมของชีวิตของแกะขาว กล่าวคือ ตื่นเช้า ไปทำงาน พักเที่ยงกินข้าว เย็นกลับบ้าน นอน เช้าวันใหม่ ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ..นั่นคือ แกะขาวของคุณประเสริฐ จากการได้ดูการสัมภาษณ์ ทำให้ผมเริ่มอยากรู้จักวิถีชีวิตของแกะดำมากขึ้น วันนี้เลยสั่งซื้อหนังสือของคุณประเสริฐมา 1 เล่มก่อน…

แกะดำ
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปาย-หยุนไหล

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 December 202024 September 2021

หลังจากออกจากห้วยน้ำดัง จุดหมายที่ตั้งใจไว้คืออำเภอปาย เราไม่ได้จองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์และอุปกรณ์ปิ้งย่าง ดังนั้นจุดที่เรากำลังมองหาคือจุด กางเต๊นท์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งที่มาเที่ยวปายครั้งแรก ผมประทับใจจุดกางเต๊นท์ตรงโป่งน้ำร้อนท่าปายมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง และน่าจะมีเพื่อนกางเต๊นท์เยอะไม่เหงาไม่น่ากลัว คิดได้ดังนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ระหว่างทางมีป้ายเล็กๆข้างถนนก่อนถึงโป่งน้ำร้อนท่าปาย “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” แวะไปห้อยขาซะหน่อย.. หลังจากอิ่มท้องก็ออกจากร้านและมุ่งหน้าโป่งน้ำร้อนท่าปาย..รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย (จริงๆก็ผิดหวังมากเลยละ) ความเป็นธรรมชาติแบบเมื่อก่อนหายไปหมดละ โป่งน้ำร้อนได้รับการทำให้เป็นกิจจะลักษณะด้วยการก่อปูนทุกบ่อ ดูเหมือนจะเจริญขึ้น แต่ทำไมผมไม่รู้สึกประทับใจ บรรยากาศโดยรวมดูเงียบเหงา อาจจะเพราะโควิดด้วยส่วนหนึ่ง พื้นที่ดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ถ้าจะกางเต๊นท์นอนที่นี่คืนนี้คงมีแต่เต๊นท์เราหลังเดียวให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจ เมื่อภาพในหัวไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ จึงต้องรีบหาที่พักใหม่ก่อนจะมืดค่ำ เราต้องการที่พักแบบกางเต๊นท์ จนในที่สุดก็มาสะดุดกับคำว่า “หยุนไหลทะเลหมอก” คำว่า “หยุนไหล” ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับภาพประกอบ ภาพที่มีจุดกางเต๊นท์อยู่บนพื้นที่สูงวิวแบบ 360 องศา มองลงมาเห็นอำเภอปายทั้งอำเภอ ไม่รอช้า..มุ่งหน้าไปทันที ขับออกจากอำเภอปายมาทางหมู่บ้านสันติชลประมาณ 30 นาที ทะลุผ่านหมู่บ้านสันติชลเข้าไปอีกครับ จะมีทางเข้าที่ต้องขับผ่านหมู่บ้านเป็นถนนเล็กๆ และเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะเห็นป้ายคำว่า “หยุนไหล” อยู่บนเนินเขาเล็กๆ หยุนไหล..จุดชมวิวทะเลหมอก และจุดกางเต๊นท์ ที่นี่มีบริการทั้งเต๊นท์ให้เช่าและเต๊นท์นำมากางเองครับ ถ้านำเต๊นท์มาเองอย่างผมค่าบริการอยู่ที่คนละ 100 บาทเท่านั้น มีห้องน้ำ จุดล้างภาชนะ รวมถึงปลั้กไฟให้ใช้ ส่วนวิวรับรองว่าคุ้มค่ามาก.. เช้าวันรุ่งขึ้นผมตั้งใจจะวิ่งซิตี้รัน เพื่อชมวิถีชาวบ้านแถวนี้สักหน่อย ประมาณ 6 โมงเช้าฟ้าเริ่มสาง ผมก็เริ่มวิ่งจากเขาลงมา และภาพต่อไปนี้คือภาพที่ได้จากการวิ่งซิตี้รันประมาณ 6 กิโลเมตร กลับจากวิ่งประมาณ 9 โมงแล้ว แดดเริ่มมาต้องรีบเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าจุดมุ่งหมายของเราต่อไป นั่นคือ “ปางอุ๋ง” ออกจากหยุนไหลละครับ ใครชอบกางเต๊นท์ที่นี่คืออีกทางเลือกหนึ่ง ช่วงนี้ไปยังไม่หนาวมากนักตกกลางคืนแค่ 15 องศา ชาวบ้านบอกว่าช่วงหนาวมากๆ มีต่ำกว่า 10 องศาแนะ โพสต์หน้าเจอกันที่ “ปางอุ๋ง”

ปาย หยุนไหล แม่ฮ่องสอน

ธรรมะเสวนา #๒

เรื่องทั่วไป 17 January 2010

เช้าวันอาทิตย์แบบนี้ เข้าห้องเรียนธรรมะกันสักหน่อยท่าจะดี (ท่าจะดี มาจาก ท่าทางจะดี ไม่ใช่ ถ้าจะดี (เห็นหลายคนใช้ผิด)) ครั้งที่แล้วเราเรียนกัันในหมวด ๒ วันนี้จะพากระโดดไปหมวด ๔ เลย ใช่ว่าหมวด ๓ จะไม่มีธรรมะสำคัญ แต่เห็นว่าหมวด ๔ มีธรรมะน่าสนใจหลายอย่างที่คนทั่วๆไปมักไม่ค่อยรู้จัก ธรรมะ หากอ่าน พูด คิดบ่อยๆ จะทำให้ซึมเข้าในกมลสันดานได้ จิตใจเราจะได้ห่างจากอกุลมูล ๓ (โลภะ โทสะและโฆหะ) จะให้ไม่มีเลยเป็นไปไม่ได้ ได้แต่หวังให้น้อยลงเท่านั้น หมวด ๔ ธรรมะที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว และได้พูดถึงกันบ่อยๆ คือ อิทธิบาท ๔ สูตรแห่งความสำเร็จ (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา) หรือ พรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มิทิตา อุเบกขา) วันนี้เลยขอแนะนำธรรมะเพื่อนำไปสู่ความหมดจดจากบาป ทำตัวให้มีความบริสุทธิ์จากอกุศล  นั่นคือ ปธาน ๔ ปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง ๑.  สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน ๒.  ปหานปธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว ๓.  ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน ๔.  อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม ความเพียร ๔ อย่างนี้ เป็นความเพียรชอบควรประกอบให้มีในตน ผู้ที่พิจารณาตัวเองอยู่เนืองๆ จะเห็นความผิดพลาดของตัวเอง และพยายามที่จะระวังไม่ให้ตัวเองมีความผิดพลาดเช่นนั้นอีก การระวังบาปก็ดี ละบาปก็ดี บำเพ็ญกุศลก็ดี รักษาความดีก็ดี มิใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ต้องใช้ความเพียรพยายาม  สิ่งเหล่านี้หากปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์จนเกิดความเคยชิน  จะยากที่จะแก้ไขในภายหลัง ดังนั้น ความเพียร ๔ อย่างนี้..ต้องทำครับ นอกจากนี้แล้ว ธรรมอีก ๔ ข้อที่เราควรหมั่นพิจารณา นั่นคือ อธิษฐานธรรม ๔ อธิษฐานธรรม คือธรรมที่ความตั้งไว้ในใจ ๔ อย่าง…

ธรรม
อ่านต่อ

น่าน..งัย

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 February 201428 October 2015

จังหวัดน่านเป็นจังหวัดเล็กๆในภาคเหนือ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และภูเขาส่วนใหญ่ไม่มีต้นไม้ เนื่องจากเมื่อก่อนคนที่นั่นมีค่านิยมตัดไม้มาสร้างบ้าน บ้านต้องมีท่อนไม้ใหญ่ๆ ถึงจะแสดงถึงฐานะ ปัจจุบันค่านิยมนี้เริ่มหมดไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็นตามบ้านเก่าแก่ของคนน่าน ผลที่เกิดจากค่านิยมนี้ทำให้ภูเขาหลายๆลูกในจังหวัดน่านไม่มีต้นไม้!! ระยะทางจากรุงเทพไปน่านประมาณ 860 กิโลเมตร ถ้าจะไปเที่ยวแนะนำให้ไปในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลปีใหม่ ที่ไม่แนะนำเพราะผมเจอมาแล้วกับตัว! ถึงจังหวัดน่านจะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่การเดินทางไปทางเหนือยังไงเสียก็ต้องอาศัยทางเดียวกันอยู่ดี ดังนั้น ระหว่างทางทั้งไปและกลับผมรถติดเต็มๆ การท่องเที่ยวครั้งนี้ผมเลือกขับรถไปเองครับ โดยน้องพิงกี้ หรือมารชมพู ไปพร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน 2 คัน ไม่มีการจองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์ อาหาร และเครื่องนอนแล้ว ใยต้องกลัวอะไร? เดินทางวันแรกวันที่ 28 ธ.ค. 56 แต่เช้าตรู่ รถไม่เยอะมาก แต่ก็ใช้ความเร็วมากไม่ได้สักเท่าไร วันแรกเลยไปไม่ถึงน่าน ได้แค่จ.แพร่ อ.สูงเม่น อากาศยังไม่หนาวมากเท่าไร วันต่อมาออกเดินทางท่องเที่ยวเล็กๆน้อยๆในแพร่ก่อน แล้วมุ่งหน้าไปดอยเสมอดาว จ.น่าน ระหว่างทางไปดอยเสมอดาว วิวข้างทางสวยงามมากครับ แต่ไม่มีเวลาจอดถ่ายรูป ต้องรีบไปดอยเสมอดาวเพื่อหาที่นอนให้ได้ก่อนในคืนนี้ ณ ดอยเสมอดาว ปกติที่นี่จะแทบไม่มีคน หรือถ้ามีก็รับคนได้สูงสุดไม่เกิน 30-40 คน แต่วันนี้ที่เราเดินทางไปถึง คนร่วมร้อย!! จุดกางเต๊นท์ที่เจ้าหน้าที่จัดให้เต็มหมดแล้ว ที่เหลือต้องหาจุดกางเอง ซึ่งแทบจะไม่มีที่กางแล้ว ที่ๆเราได้อย่าใช้ชื่อว่าเป็นที่กางเต๊นท์เลยครับ เพราะมันเป็นพื้นที่ไม่เรียบ นั่งตรงๆไม่ได้จะไหล ไม่ต้องพูดถึงนอน นอนไม่หลับเลยทั้งคืน!! แต่อากาศหนาวมาก ตื่นเช้าเริ่มรู้สึกไม่สบาย … หลังจากเก็บเต็นท์เครื่องนอน และทานข้าวต้มที่ทำขึ้นเองในตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไป อ.บ่อเกลือ อ. บ่อเกลือตั้งอยู่บนดอยสูง ถนนถึงแม้จะดี แต่ก็มีความโค้ง เลี้ยวเยอะค่อนข้างน่ากลัว ต้องใช้เกียร์ต่ำตลอด และพอถึง อ.บ่อเกลือซึ่งอยู่บนดอย อากาศกลางวันกับกลางคืนต่างกันสุดขั้ว ส่งผลให้วันรุ่งขึ้น ผมป่วย 100% มีไข้ และไอรุ่นแรง วันต่อมาเดินทางลงจากบ่อเกลือเข้าเมืองน่าน เพื่อที่จะพักในตัวเมืองน่าน ก่อนออกเดินทางกลับในวันถัดไป …เรามาส่งท้ายปีเก่าที่เมืองน่านครับ ตัวเมืองน่านเองเป็นเมืองที่เงียบ ๆ เล็กๆ  แม้จะเป็นช่วงปีใหม่ก็ยังเงียบ แต่มีงานส่งท้ายปีใหม่ที่ศาลาว่าการน่าน เช้าของวันปีใหม่ อาการไข้ดีขึ้น…

อ่านต่อ

โคราช-เขาใหญ่​..ครั้งที่เท่าไรไม่รู้

สุขกะภาพ 20 February 20173 November 2017

ไปพักผ่อนเฉยๆนี่แหละครับ แต่จะไปวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันเสาร์อาทิตย์นั้นนะหรือ คนก็เยอะเกิ๊น เลยเลือกเดินทางวันศุกร์และกลับบ่ายๆวันอาทิตย์ดีกว่า ไปโคราชไปเยี่ยมพี่กุ้ง พี่ต้อมผู้ดูแลรีสอร์ทอารมณ์ดี และวินดีรีสอร์ท วันแรกไปโคราชก่อน ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพี่กุ้งพี่ต้อมเช่นเคย ..ทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องกันที่น่าเอาตัวอย่างในเรื่องความรักพี่รักน้องและเรื่องการต้อนรับปฏิสันถาร ดูแลดีมาก ทั้งที่พัก อาหารการกิน กระทั่งพาไปเที่ยวในที่ๆพอจะไปได้ในเวลาอันจำกัด  การดูแลเอาใส่ใจต่อแขกนี้ ใช่ว่าจะทำกับคนรู้จักเท่านั้นนะครับ แกดูแลแขกที่มาพักที่รีสอร์ทด้วยอัธยาศัยอันดีเช่นกัน จึงทำให้รีสอร์ทเล็กๆ มีคนเข้ามาพักเต็มตลอดปี เช้าวันเสาร์แม้จะตื่นสายสักหน่อย แต่ผมก็ไม่ลังเลที่จะหยิบรองเท้าออกไปวิ่ง ..เมื่อตอนเย็นแอบเห็นแล้วละว่าแถวนี้มีสวนสาธารณะกว้างขวางและมีคนออกกำลังกายมากมาย สวนนี้มีชื่อว่่า “สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว” ตรงกลางเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รอบๆมีถนนอย่างดีสำหรับวิ่ง เดิน และปั่นจักรยาน แยกเลนสำหรับนักปั่นและนักวิ่งโดยเฉพาะครับ คือดีงามมาก กว้างพอสมควร วิ่ง 1 รอบระยะทาง 3.2 กิโลเมตร เช้าวันนั้นจัดไป 10 กิโลเมตร อยากจะวิ่งให้มากกว่านั้น แต่แดดเริ่มแยงตา เสียดายที่ตื่นสายไปหน่อย.. วันที่สองจากโคราชมา มุ่งหน้าเขาใหญ่ งานนี้จัดที่พักพรีเมี่ยมเลยครับ เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ สนนราคาที่พักคืนละ 4,200 บาท ถือว่าแพงที่สุดเท่าที่เคยพักมา ตัวโรงแรมอยู่ในถนนธนรัชต์ที่จะมุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่ไม่ห่างจากปาลิโอมากนัก ตัวโรงแรมอลังการอย่างที่เขาว่าจริงๆ สไตล์ยุโรป (ยุโรปไหนนี่ไม่รู้) บรรยากาศในตัวโรงแรมก็เหมือนอยู่ต่างประเทศ เปิดเพลงคันทรี่เบาๆ ทั่วโรงแรม แต่ละตึกเน้นปลูกต้นตีนตุ๊กแกให้เลื้อยไปทั่วตัวโรงแรม งานนี้เอาภาพมาโชว์อย่างเดียวดีกว่า เล่าแล้วบรรยายไม่ถูก..

เขาใหญ่ เทมส์ วัลลีย์
อ่านต่อ

แวะฉี่ที่เขาใหญ่

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 20 July 20163 November 2017

ปกติจะไปเขาใหญ่ไม่ปลายปี ก็ต้นปี..แต่ครั้งนี้พอดีผ่าน และพอมีเวลาเหลือเลยแว่บไปซะหน่อย เห็นที่ป่าหญ้าโล่งๆ เขียวๆ เลยต้องแวะฉี่สักหน่อย หลังจากขับรถเที่ยวบนเขาใหญ่ได้สักพัก ก็แวะกลับมาทางเดิมซึ่งไม่ใช่ทางออกปากช่อง เลี้ยวซ้ายออกทางมวกเหล็ก ไปแวะทานข้าวที่ร้าน “ครัวภาคกลาง” ที่นี่อาหารอร่อย บรรยากาศดี แต่ถ้ามีคนเยอะอาหารจะได้ช้าหน่อย พึ่งมาเห็นว่าเคยถ่ายภาพที่นี่เมื่อหลายปีมาแล้ว ท่าอาจจะต่างกันนิดหน่อย แต่อารมณ์เดียวกันเด๊ะ หลังจากทานข้าวเสร็จซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มุ่งหน้ากลับบ้านทันทีครับ ทริปนี้เป็นทริปผ่านไม่ได้ค้าง มาไวไปไว ..แต่แค่อยากจะบอกว่า หน้าฝนเนี่ยะน่าเที่ยวไม่แพ้หน้าหนาวนะ เขียว สวย สดชื่น

เขาใหญ่

ทะเลาะ..ทำไม

เรื่องทั่วไป, เรื่องสั้นสั้น 24 November 2009

สายน้ำไหลเลาะเซาะซอกเขาใหญ่น้อย รวมกันเป็นสายน้ำใหญ่ไหลลงมาล่อเลี้ยงชาวเมืองใหญ่ถึงสองเมือง แม่น้ำนี้จึงเปรียบดั่งชีวิตและจิตใจ คราใดที่ขาดน้ำผู้คนดุจจะสิ้นใจ คราวใดที่น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ผู้คนก็เปรมปรีด์มีความสุข แม่น้ำสายนี้จึงเปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ล่อเลี้ยงสองเมือง คือ เมืองกบิลพัสดุ์ และเมืองเทวทหะตลอดมา แม่น้ำแห่งนี้ชื่อว่าแม่น้ำโรหิณี เมืองกบิลพัสดุ์ซึ่งเป็นเมืองของบิดาของพระพุทธเจ้าของพวกเราตั้งอยูทางเหนือแม่น้ำ ส่วนเมืองเทวทหะซึ่งเป็นเมืองของมารดาของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำ  ทั้งสองเมืองเปรียบเหมือนเป็นเมืองพี่เมืองน้อง เป็นเมืองที่เป็นญาติถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และเป็นเช่นนี้มานานนับปี จนกระทั่งมาปีหนึ่งซึ่งน้ำในแม่น้ำน้อยลง แม่น้ำซึ่งทั้งสองเมืองยืดถือเป็นลมหายใจ ดุจจะลองใจคนทั้งสองเมืองให้สำนึกในบุญคุณ ว่ากันว่า ถ้าจะดูใจคนให้ดูในตอนที่เกิดเรื่อง เพราะในตอนนั้นธาตุแท้ของคนก็จะออกมาให้เราประจักษ์ ทั้งสองเมืองมีอาชีพทำนาเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อขาดน้ำก็เหมือนขาดข้าวไปด้วย เมืองที่อยู่ทางเหนือแม่น้ำ เริ่มแสดงความเป็นคนใจแคบโดยการกั้นน้ำไว้ ทดน้ำเข้านาของตน เมืองที่อยู่ทางใต้น้ำเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ จึงจำเป็นต้องมาเจรจากันระหว่างสองเมือง การเจรจาครั้งนี้ ไม่มีทีท่าเหมือนมาเจรจากันเลย เพราะทั้งสองเมืองได้ยกทัพมาประจันหน้า ณ แม่น้ำโรหิณี ความเป็นเมืองที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งปันกันในฐานะเมืองพี่เมืองน้อง เมืองญาติกันไม่เหลืออีกต่อไป   พระพุทธองค์ทรงเห็นถึงภัยร้ายแรงนี้ จึงเสด็จรุดไปในวันนั้น ท่ามกลางความขัดแย้งของทั้งสองเมือง พระองค์ทรงประทับยืนกลางแดด จนพระญาติทูลถามว่า “ไยพระองค์ถึงเสด็จยืนท่ามกลางแดดที่ร้อน” พระองค์ตรัสว่า “ถึงแดดจะร้อน แต่ร่มเงาของพระญาตินั้นเย็นกว่าร่มเงาใต้ต้นไม้นัก” เมื่อเห็นพระญาติทั้งสองฝ่ายเงียบ จึงตรัสถามต่อไปว่า  “มหาบพิตรทั้งสอง ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร” “เรื่องน้ำพระพุทธเจ้าข้า” “ระหว่างน้ำกับชีวิตคนนี่อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน” พระองค์ตรัสถาม  “ชีวิตคนมากกว่า  พระพุทธเจ้าข้า”  “ควรแล้วหรือที่ทำอย่างนี้”   พระญาติดุษณีภาพทุกคน   ไม่มีใครกราบทูลเลย   พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า      “ถ้าเราตถาคตไม่มาที่นี่วันนี้  ทะเลเลือดจะไหลนองดุจสายน้ำ”     เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้พระญาติทั้งสองเมืองได้สติ และไม่รบราฆ่าฟันกันในวันนั้น      วันนี้ยกพระพุทธประวัติบางส่วนมาเล่า เพราะเดี๋ยวนี้เกิดเรื่องทะเลาะ ขัดแย้งกันเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะทะเลาะกับเพื่อน แฟน ทะเลาะกับคนข้างบ้าน ทะเลาะกับคนที่ไม่รู้จักบนท้องถนนที่เราเห็นว่าเขาขับรถไร้มารยาท(แต่เราก็เคยทำแบบนั้นในวันที่รีบ) ทะเลาะกับแท็กซี่ ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน ทะเลาะกับเจ้านาย ทะเลาะกับพี่น้อง ทะเลาะกับญาติ ทะเลาะกับคนข้างประเทศ ฯลฯ     การทะเลาะกันเกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างมองว่าอีกฝ่ายไม่ถูกต้อง และฝ่ายเราถูกเอาเปรียบ   การทะเลาะยอดฮิต ก็คือ ทะเลาะด้วยเรื่องผลประโยชน์ ทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้มักจบไม่สวยและลุกลามใหญ่โตกลายเป็นทะเลาะเรื่องอื่นๆ สาวไส้มาทะเลาะมาเกลียด จนลืมต้นเค้าว่าเดิมเราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร    …

อ่านต่อ

หนีความวุ่นวาย..ไปบ้านไร่โอโซน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 8 September 200914 May 2016

หลังสงกรานต์มา นอกจากทริปสั้นๆ แบบไปเช้าเย็นกลับแล้ว ผมยังไม่มีทริปไปเที่ยวแบบพักยาวๆ หรืออย่างน้อยได้ค้างสักคืนเลย อาทิตย์นี้เลยเข้าสู่ห้องBlueplanet แหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่และได้ประสิทธิภาพที่สุดในโลกไซเบอร์ ได้ความมาว่า หน้านี้ต้องไป ภูเขา ลำเนาไพร เพราะกำลังเขียวชะอุ่มได้ที่..ผมคิดถึงสวนผึ้ง ราชบุรี ป่าเขียวขจี รีสอร์ทแบบบูติก น่ารักๆ มีแกะกระโดดข้ามรั้วฯลฯ หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาทันที !! รีสอร์ทดีๆ เด็ดๆของสวนผึ้งถูกจับจองไปหมดแล้ว บางแห่ง เช่นเซนเนอรี่ , อ้อมกอดขุนเขา หรือ นากาย่า ถูกจองข้ามปีไปถึงปีหน้าโน่นแล้ว แอบเสียใจเล็กๆ แต่ไม่สิ้นหวัง สถานที่ๆให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน แต่อยู่กันคนละที่ นั่นคือ เขาใหญ่ ~ เนื่องจากเขาใหญ่ไปบ่อยแล้ว งานนี้เลยแฉล่บจากเขาใหญ่ไปหน่อย ผมจะไปวังน้ำเขียว !!!!!!!! วังน้ำเขียวมีอาณาเขตติดกันกับเขาใหญ่ ดังนั้น บรรยากาศจึงไม่แตกต่างกันเลย เพียงแต่ว่า เราไม่ต้องขึ้นไปบนเขาใหญ่ เราจะอยู่ริมเขา ลัดเลาะเลี้ยวสู่เขาเขียวในทันใด การเดินทางไปวังน้ำเขียว ก็ไปทางเดียวกับเขาใหญ่นั่นแหละครับ แต่ก่อนจะถึงด่านเก็บตั๋วขึ้นเขาใหญ่ เราแฉล่บไปทางซ้ายแทน มีป้ายบอกชัดเจน ไปวังน้ำเขียว บรรยากาศข้างทางสวยมากครับ เขียว สดชื่น ก่อนจะไปวังน้ำเขียวก็เป็นธรรมดา(ไปแล้ว) ของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย ว่าต้องแวะถ่ายรูปกันที่นี่ซะก่อน ร้านกาแฟ และขนมชื่อดังของเขาใหญ่เขาละ Primo Posto ระหว่างทางบรรยากาศดีมากครับ แว่บไปเห็นยอดเจดีย์กลางหุบเขา เลยหาทางเข้าไปจนเจอ พบว่าเป็นวัดสร้างใหม่ครับ เจดีย์ตั้งตระหง่านมาก ในอนาคตอันใกล้แสนใกล้นี้ น่าจะเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่คนต้องแวะไปกราบไหว้ (ขออภัย ผมจำชื่อวัดไม่ได้ ดูภาพแทนละกันนะครับ) ขณะที่ไปถึง ฟ้ากำลังปั่นป่วนครับ เริ่มจะเปลี่ยนจากฟ้าใสเป็นฟ้าสีดำ ท่าทางฝนจะตก ออกจากวัดดังกล่าว ก็ตรงดิ่งไปยังวังน้ำเขียวอันเป็นเป้าหมายสักที.. ~ ผมจะไปพักที่รีสอร์ท บ้านไร่โอโซน เป็นรีสอร์ทที่อยู่ไกลที่สุดของบรรดารีสอร์ทในวังน้ำเขียว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว งานนี้ผิดพลาดไปนิ๊ดนึงตรงที่ว่า วังน้ำเขียว ถ้าอยู่ทางฝั่งของเขาใหญ่ ถนนหนทางจะดีเลิศประเสริฐศรีมากครับ แต่ถ้าหากข้ามถนนอีกฟากไปยังหมู่บ้านไทยสามัคคีที่ผมกำลังจะไปนี้ ถนนหนทาง นรกมากครับ เป็นหลุมเป็นบ่อเรากับอยู่บนดวงจันทร์ งานนี้่ต้องขับรถราวกับเต่าคลาน ขับรถไปก็สงสารรถไป ด้วยรถเป็นแจ๊สสีชมพูหวานแหวว (เกิดมามันคงพึ่งเคยเจอกับสภาพที่เลวร้ายขนาดนี้ -_-“) แต่บรรยากาศรีสอร์ทก็ทำให้หายเหนื่อยได้ครับ เป็นส่วนตัว สงบ…

วังน้ำเขียว
อ่านต่อ

วันเพ็ญเดือน ๑๒ กับน้องเขาใหญ่

สุขกะภาพ 5 November 200921 September 2016

เมื่อวันเพ็ญเดือน 12 ที่น้ำนองเต็มตลิ่ง และเราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันยิ่งวันลอยกระทงนั้น ..ขณะที่ดอกไม้ไฟและพลุระเบิดทั่วท้องฟ้า เด็กแว๊นซ์ เด็กสก๊อยส์บิดมอเตอร์ไซต์ไปลอยกระทงกันนั้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้านกเขาลืมตาดูโลก อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว (อ่านเรื่องที่เคยเล่าแล้วนั้นคลิก) ว่าที่ระเบียงบ้าน มีนกเขามาอาศัยอยู่ด้วย ผู้พี่ลืมตามาดูโลกก่อนในวันลอยกระทง ผมตั้งชื่อให้ทันทีว่า “เขาใหญ่” ส่วนผู้น้องที่ยังคงนอนขดอยู่ในไข่ ผมตั้งชื่อให้ล่วงหน้าเลยว่า “เขาเล็ก” เมื่อทั้งสองพี่น้องลืมตาดูโลกในเวลาที่แตกต่างกันเช่นนี้ ย่อมสร้างความลำบากแก่แม่นกเขาไม่น้อย เนื่องจากจะต้องฟักอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตัวที่อยู่ในไข่ได้รับความอบอุ่นและพร้อมที่จะออกจากไข่ ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเวลาไปหาอาหารเพื่อลูกที่ฟักออกมาแล้วนั้นด้วย เพราะนกเขาไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนม แม้ผมจะพยายามหาข้าวสาร ไปโรยใกล้ๆบ้านของมัน แต่แม่นกเขาเป็นนกที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่แม้แต่จะชายตามอง มันทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า มุ่งหาอาหารตามวิถีของมัน ผมพยายามจะมองหานกเขาผู้สามีที่จะมาช่วยดูแล ก็ไม่เห็น เป็นไปได้ว่า เธอถูกพ่อแม่ฝ่ายชายกีดกัด  จึงถูกขับไล่ออกจากบ้านหลังใหญ่ เธอคงไม่ได้บอกเรื่องนี้ต่อคนรัก เพราะรู้ตัวว่าต่ำต้อยไม่คู่ควร เธออยากจะไปเสียให้ไกลๆ ให้พ้นจากนกใจร้ายเหล่านั้น  อยากจะไปให้พ้นหน้าเขา เขา นกผู้เป็นที่รัก ที่แม้เธอจะเจ็บช้ำน้ำใจเพียงไร ก็ต้องใจอ่อนทุกทีที่ปะหน้ากัน ป่านนี้ เขาคงบินหาเธออย่างท้อแท้ เขาคงยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อนก.. เรื่องนี้จะจบด้วยความแฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างละครเรื่อง น้ำตาลไหม้ หรือไม่นั้น ..ต้องติดตามต่อไป แต่วันนี้ผมอยากจะพาไปเยี่ยมชมบ้านเช่าของโบ เอ้ย ของนกเขาและลูกๆกัน พุ่มพลูด่างเป็นบ้านของ(นก)เขา แอบย่องไปดูภายในบ้านของ(นก)เขากัน..แม่มันไม่อยู่อีกตามเคย เขาใหญ่ ณ วันแรกที่ลืมตาดูโลก ข้างๆ นั่นคือเขาเล็ก ยังนอนคดอยู่ในไข่ ป.ล. ถ้าเขาเล็กลืมตาดูโลกเมื่อไร..จะถ่ายรูปมาให้ดูอีกทีละกันนะ

นกเขา เขาใหญ่

เวียงจันทน์เกมส์

เรื่องทั่วไป 14 December 2009

  ช่วงนี้ไม่ได้ไปไหน แต่ไม่เหงา ไม่เซ็ง อาศัยว่ามีถ่ายทอดกีฬาซีเกมส์ ถึงแม้กีฬาแห่งความภาคภูมิใจที่มีคนเล่นข้างตั้งละ 11 คน (แต่เวลาได้เหรียญเขานับแค่เหรียญเดียวเองนะ) ที่ไทยเราครองแชมป์มาตั้ง 8 สมัย มีอันต้องพังพินาศลงในพริบตาตกรอบแรก ด้วยการพ่ายต่อเสือเหลือง 1-2 อย่างน่าเจ็บใจ ..เจ็บใจอย่างไรนะเหรอ 1. เราแค่เสมอก็เข้ารอบ 2. เรายิงเขาได้ก่อน และ 3. เขายิงประตูชัยในเวลาทดเจ็บ นั่นหมายความว่า เราไม่มีสิทธิ์ทวงคืน  ข่าวว่า ซิโก้ ผู้ช่วยโค๊ช แสดงสปิริตลาออกทันที .. อยากจะบอกว่า นั่นไม่ได้เรียกว่าสปิริต เพราะซิโก้ประกาศไว้ตั้งแต่ก่อนซีเกมส์แล้วว่า หลังจบซีเกมส์จะไปทำงานที่เวียดนาม ตกรอบหรือไม่ ก็ไปอยู่ดี ไม่เกี่ยวกับสปิริต ส่วนผู้จัดการทีมที่มาจากประเทศผู้ดี  ไบรอัน ร็อบสัน ขอคุมทีมต่อ ขอโอกาสอีกสักครั้ง!! กีฬามีแพ้ มีชนะ ~ แต่ความพ่ายแพ้ตกรอบแรกในครั้งนี้ ว่ากันว่าเป็นจุดต่ำสุดของฟุตบอลไทยเลยทีเดียว น่าสยดสยองต่อคำพูดของใครบางคนที่ว่า “จะพาไทยไปบอลโลก”  รอให้ถึงปี 2012 ก่อนละกัน โลกแตกหมดเหลือแค่ไทย ลาว พม่า และปาปัวกินี ถึงตอนนั้นไทยคงได้เป็นแชมป์ !!   กีฬาซีเกมส์ไม่ได้มีแค่ฟุตบอล เรายังมีวอลเลย์บอลหญิงที่น่าภาคภูมิใจ ถึงปีนี้ เราเป็นแชมป์ 8 สมัยแล้ว ปีนี้จะไปในฐานะแชมป์เก่า และหวังจะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 9 ให้ได้ ความสนุกของเกมส์วอลเลย์บอลหญิง ก็ไม่ได้น้อยหน้าฟุตบอล สนุก ลุ้น มันส์ สะใจ ตบกันลูกบอลแทบระเบิด เมื่อวานนี้ไทยเจอกับเวียดนาม ว่ากันว่าเวียดนามคือม้ามืดที่พยายามเทียบชั้นมากระทบไหล่ไทย แต่ดูจากฟอร์มเมื่อวานแล้ว ยังห่างครับ เราชนะขาดลอย   กีฬาอีกประเภทที่เชียร์ทีไร มันส์สะใจทุกที ตระกร้อ ทีมที่เป็นคู่แข่งพอฟัดพอเหวี่ยงกับเรามาแต่ไหนแต่ไร มีทีมเดียว นั่นคือ มาเลเซีย เมื่อวานเป็นการแข่งขันประเภททีมชุดชาย ทีมชุด ก็คือ มีชุดเอ ชุดบี และชุดซี ต้องชนะ 2 ใน 3 ชุด ถึงจะชนะ…

อดีตนายกของไทยคนที่ ๒๕

เรื่องทั่วไป 25 November 2009

หน้าหนังสือพิมพ์วันนี้ข่าวใหญ่พาดหัวคือ การถึงแก่อสัญกรรมของ ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกคนที่ 25 ของประเทศไทย ประวัติและความยิ่งใหญ่ของท่าน คงไม่ต้องมาเล่าซ้ำกันมากมาย เพราะหลายบล็อกหลายเว็บ หลายหน้าหนังสือพิมพ์ตลอดจนหน้าจอทีวีหลายช่องก็ได้นำเสนออย่างครบถ้วนกระบวนความ ผมแค่อยากบันทึกส่วนหนึ่งนี้ไว้ในความทรงจำของบล็อกนี้เท่านั้น จำได้ว่าในบล็อกของผมได้กล่าวถึงท่านสมัครแค่ครั้งเดียวสั้นๆ ในตอนที่ท่านเป็นนายก(อ่าน) แม้เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆที่ท่านเป็นนายก แต่ก็สร้างปรากฏการณ์อะไรหลายๆอย่าง แม้ในอดีตท่านจะมีความยิ่งใหญ่ในการสร้างประโยชน์แก่บ้านเมือง ตำแหน่งแห่งหนที่ใหญ่โต แต่ตำแหน่งสุดท้ายที่ถือว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิต(คือตำแหน่งนายก)นั้น กลับไม่ค่อยสง่างามเท่าที่ควรในสายตาของคนไทยหลายๆคน เพราะท่านประกาศชัดเจนว่าเป็นนอมินีของอดีตนายกทักษิณ และหลังจากที่ท่านได้ตำแหน่งนายก ท่านก็ได้แสดงตัวชัดเจนว่าเป็นนอมินี แต่ที่แปลกคือท่านกลับปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นนอมินีให้ใคร ไม่ได้ปกป้องใคร ฯลฯ ท่านเป็นนายกที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นสื่อ แต่พอเป็นนายกกลับประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับสื่อ คงจำกันได้ในสมัยนั้น ท่านด่าสื่อชนิดไม่ไว้หน้า ด่าออกทีวี ด่าออกโทรทัศน์ ถ้าสามารถด่าออกตู้เย็นและเครื่องซักผ้าได้ ท่านก็คงทำ   ความดุเด็ดเผ็ดมันส์ของคำด่านั้น ไม่ต้องบรรยายให้น่ากลัวซ้ำ ว่ากันว่า นักข่าวแทบทิ้งไมค์วิ่งร้องไห้กลับบ้าน (ถ้าสติไม่ดีพอ) เพราะนอกจากคำพูดที่ดุดันแล้ว สีหน้าสีตาท่าน ทำราวกับจะกินเลือดกินเนื้อผู้สื่อข่าวให้ได้ นั่นคือส่วนหนึ่งเล็กๆในช่วงที่ท่านเป็นนายก แต่ก่อนนั้นท่านได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย ท่านยังมีสถิติเสียงสูงสุดในการเลือกตั้งผู้ว่า ที่ยังหาใครมาทำลายสถิตินี้ไม่ได้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่ท่านสมัคร วันนี้จึงขอนำคลิปเพลงที่ท่านเคยร้องมาแปะไว้ เพลงของสุนทราภรณ์ วงดนตรีที่ท่านโปรดปราน มีเนื้อหาที่ให้คติและแนวคิดสอนใจได้อย่างดี ขอให้ท่านไปสู่สุคติ ณ ดินแดนแห่งความสงบ

นายก

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH