Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

แหลมฉะบัง

อ่านต่อ

กินหอยที่แหลมฉบัง

สุขกะภาพ 8 July 201328 October 2015

ทะเล..ไม่ว่าจะเป็นทะเลที่ไหน มีมนต์เสน่ห์ให้น่าหลงใหลเสมอ

บางแสน แหลมฉะบัง
อ่านต่อ

น้ำท่วมบ้านนะเออ

บ้านบ้าน, สุขกะภาพ, ไดอารี่ 7 November 201128 June 2013

ขอคั่นทริปเที่ยวเมืองจีนด้วยสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้าน

น้ำท่วม บ้าน

สติมา อย่าประมาท

เรื่องทั่วไป 27 June 2008

To love and to be loved is the greatest happiness of existence. การรักและมีคนรักคือความสุขทิ่ยิ่งใหญ่ของการมีชีวิตอยู่. พูดถึงความสุข แต่ละคนก็มีความสุขแตกต่างกัน สุขมากสุขน้อย แตกต่างกันไป เมื่อไรที่มีความสุข ความทุกข์ก็รอโอกาสจะเข้ามาแทนทีอยู่ร่ำไป เหมือนกับมีกลางวัน ก็มีกลางคืน มีมืดก็มีสว่าง มีร้อนก็มีเย็น ฯลฯ  ไม่ค่อยจะมีความพอดีแบบ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เลย มีแต่สุขนิดหน่อย ทุกข์นิดหนึ่ง แต่หลายคนบอกว่าความสุขนะไม่มีหรอก มีแต่ความทุกข์มาก กับความทุกข์น้อยเท่านั้นแหละ ตรงที่มีความทุกข์น้อยนี่เอง บางคนเรียกว่า “ความสุข” แต่จะสุขหรือทุกข์ ก็ไม่สำคัญเท่า ความอยู่อย่างรู้ตัว ที่พระท่านเรียกว่า สติ การมีชีวีตอยู่อย่างมีสติรู้เท่าทันความคิดทุกขณะ ทุกอิริยาบถ เป็นการมีชีวิตอยู่ที่ประเสริฐ ธรรมะอีกข้อหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน นั่นคือ ความประมาท  อยากให้ดูรูปด้านล่างนี้ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนะครับ พระท่านว่า ความประมาท เป็นหนทางแห่งความตาย ภาพนี้อธิบายได้ชัดเจนทีเดียว ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาทกันนะครับ.   ป.ล. เดี๋ยวนี้จะเขียนอะไรสักที ทำไมมันฝืดนักนะ ~ ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขียนได้เป็นคุ้งเป็นแคว 🙁

อ่านต่อ

น่าน..งัย

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 February 201428 October 2015

จังหวัดน่านเป็นจังหวัดเล็กๆในภาคเหนือ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และภูเขาส่วนใหญ่ไม่มีต้นไม้ เนื่องจากเมื่อก่อนคนที่นั่นมีค่านิยมตัดไม้มาสร้างบ้าน บ้านต้องมีท่อนไม้ใหญ่ๆ ถึงจะแสดงถึงฐานะ ปัจจุบันค่านิยมนี้เริ่มหมดไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็นตามบ้านเก่าแก่ของคนน่าน ผลที่เกิดจากค่านิยมนี้ทำให้ภูเขาหลายๆลูกในจังหวัดน่านไม่มีต้นไม้!! ระยะทางจากรุงเทพไปน่านประมาณ 860 กิโลเมตร ถ้าจะไปเที่ยวแนะนำให้ไปในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลปีใหม่ ที่ไม่แนะนำเพราะผมเจอมาแล้วกับตัว! ถึงจังหวัดน่านจะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่การเดินทางไปทางเหนือยังไงเสียก็ต้องอาศัยทางเดียวกันอยู่ดี ดังนั้น ระหว่างทางทั้งไปและกลับผมรถติดเต็มๆ การท่องเที่ยวครั้งนี้ผมเลือกขับรถไปเองครับ โดยน้องพิงกี้ หรือมารชมพู ไปพร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน 2 คัน ไม่มีการจองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์ อาหาร และเครื่องนอนแล้ว ใยต้องกลัวอะไร? เดินทางวันแรกวันที่ 28 ธ.ค. 56 แต่เช้าตรู่ รถไม่เยอะมาก แต่ก็ใช้ความเร็วมากไม่ได้สักเท่าไร วันแรกเลยไปไม่ถึงน่าน ได้แค่จ.แพร่ อ.สูงเม่น อากาศยังไม่หนาวมากเท่าไร วันต่อมาออกเดินทางท่องเที่ยวเล็กๆน้อยๆในแพร่ก่อน แล้วมุ่งหน้าไปดอยเสมอดาว จ.น่าน ระหว่างทางไปดอยเสมอดาว วิวข้างทางสวยงามมากครับ แต่ไม่มีเวลาจอดถ่ายรูป ต้องรีบไปดอยเสมอดาวเพื่อหาที่นอนให้ได้ก่อนในคืนนี้ ณ ดอยเสมอดาว ปกติที่นี่จะแทบไม่มีคน หรือถ้ามีก็รับคนได้สูงสุดไม่เกิน 30-40 คน แต่วันนี้ที่เราเดินทางไปถึง คนร่วมร้อย!! จุดกางเต๊นท์ที่เจ้าหน้าที่จัดให้เต็มหมดแล้ว ที่เหลือต้องหาจุดกางเอง ซึ่งแทบจะไม่มีที่กางแล้ว ที่ๆเราได้อย่าใช้ชื่อว่าเป็นที่กางเต๊นท์เลยครับ เพราะมันเป็นพื้นที่ไม่เรียบ นั่งตรงๆไม่ได้จะไหล ไม่ต้องพูดถึงนอน นอนไม่หลับเลยทั้งคืน!! แต่อากาศหนาวมาก ตื่นเช้าเริ่มรู้สึกไม่สบาย … หลังจากเก็บเต็นท์เครื่องนอน และทานข้าวต้มที่ทำขึ้นเองในตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไป อ.บ่อเกลือ อ. บ่อเกลือตั้งอยู่บนดอยสูง ถนนถึงแม้จะดี แต่ก็มีความโค้ง เลี้ยวเยอะค่อนข้างน่ากลัว ต้องใช้เกียร์ต่ำตลอด และพอถึง อ.บ่อเกลือซึ่งอยู่บนดอย อากาศกลางวันกับกลางคืนต่างกันสุดขั้ว ส่งผลให้วันรุ่งขึ้น ผมป่วย 100% มีไข้ และไอรุ่นแรง วันต่อมาเดินทางลงจากบ่อเกลือเข้าเมืองน่าน เพื่อที่จะพักในตัวเมืองน่าน ก่อนออกเดินทางกลับในวันถัดไป …เรามาส่งท้ายปีเก่าที่เมืองน่านครับ ตัวเมืองน่านเองเป็นเมืองที่เงียบ ๆ เล็กๆ  แม้จะเป็นช่วงปีใหม่ก็ยังเงียบ แต่มีงานส่งท้ายปีใหม่ที่ศาลาว่าการน่าน เช้าของวันปีใหม่ อาการไข้ดีขึ้น…

อ่านต่อ

เที่ยวท่อง..ล่องเหนือ – Day 2 ดอยอ่างขาง

ท่องเที่ยว 15 December 201721 December 2017

เริ่มวันที่สอง ออกจากลำพูนมุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง.. ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 ไปทางเชียงดาว ระหว่างทางเจอที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ ก็ไม่พลาดที่จะแวะชมบรรยากาศ จุดแรก ม่อนชมดอย ติดกับถนนเห็นเด่นเป็นตระหง่าน ผมแวะทานอาหารเช้าที่นี่ ขับรถตามทางไปสักระยะ เห็นป้ายบ่อน้ำร้อน..แวะสิครับ ออกจากบ่อน้ำร้อน ประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีน้ำตกศรีสังวาลย์ สามารถใช้ตั๋วใบเดียวกับบ่อน้ำร้อนได้ ..แวะสิครับ สถานีต่อไปมุ่งหน้าอ่างขาง ครับ อ่างขางขึ้นได้ 2 ทาง คือทางฝั่งเชียงดาว และฝั่งฝาง ถ้าว่าด้วยระยทางฝั่งอำเภอฝางระยะสั้นกว่า แต่ถ้าว่าด้วยความโหด ฝั่งเชียงดาวโหดน้อยกว่า ฝั่งฝางความชันระดับ 5 ดาว รถไม่แรงพอไม่แนะนำให้ขึ้นทางนี้ มีโอกาสรถจะหงายหลังตกลงมาได้ ทางกรมทางแนะนำให้ขึ้นทางเชียงดาว และผมก็เลือกเส้นทางนี้ ความชันระดับกลางน่าจะพอๆกับเส้นทางไปอำเภอปาย โค้งเยอะหน่อย แต่ขับสบายและวิวสวย เจ้าตาลตาลของผมเครื่องพันห้า แต่ตัวหนาและน้ำหนักมากทางชันนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มออกอาการเร่งไม่ขึ้น ต้องอาศัยเกียร์ s ใช้แบบเกียร์ธรรมดาวิ่งเกียร์ต่ำขึ้นไปได้สบายๆ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงอ่างขาง แดดร้อนหน่อย แต่อากาศเย็นดี ตกกลางคืนก็น่าจะหนาวพอสมควร คืนนี้นอนเต๊นท์แน่นอน เต๊นท์มีแล้วถอยมาใหม่ หาแต่ที่กางเต๊นท์ บนดอยอ่างขางมีจุดให้กางเต๊นท์ 2 จุด จุดแรกห่างจากสถานีเกษตร์ 1 กิโลเมตร จุดที่สองห่างจากสถานีเกษตร์ 5 กิโลเมตร ถ้าพูดถึงความสวยงามวิวดี จุดที่ห่าง 5 กิโลเมตรสวยกว่า แต่พูดถึงความสะดวกสบาย พื้นที่กว้างขวางกว่า ต้องมาอีกที่หนึ่งที่ห่าง 1 กิโลเมตร ผมเลือกจุดที่ใกล้สถานีเกษตรอ่างขางมากที่สุด เพื่อตอนเช้าจะได้แวะไปที่สถานีเกษตรได้ สถานีเกษตรอ่างข่างถือว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่ มีความสวยงามด้วยพรรณไม้นานาชนิดของโครงการหลวง มีอัตราค่าเข้าบริการคนละ 50 บาท ผมแวะมาที่นี่ทั้งช่วงบ่ายและช่วงเช้า ไหนๆก็มาแล้วต้องจัดให้สาสม ตอนบ่ายคนเยอะหน่อย ถ้าเป็นไปได้ควรไปแต่เช้าตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า จะเจอหมอก และอากาศที่เย็นสบายมาก วันนี้นอนดูดาวที่ดอยอ่างขาง..วันต่อไปมุ่งหน้า ดอยแม่สลอง

สถานีเกษตรดอยอ่างข่าง อ่างขาง
อ่านต่อ

หมากับงูเห่า

say, ไดอารี่ 9 April 20209 April 2020

เมื่อวานขณะกำลัง Standup Meeting อยู่นั้น พลันได้ยินเสียงเจ้าม่อนเห่าแปลกๆ แบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนทั้งเห่าทั้งขู่ พอเบือนหน้าจากหน้าจอมีตติ้งหันไปดูเท่านั้นแหละ !!งูเห่ากำลังแผ่หัวชูคอฟ่อๆ หมาก็เห่างูก็เห่า ดูสถานการณ์แล้ว ไม่น่าจะอาจสามารถจัดการเองได้ จึงรีบไปตามยาม พอยามมาถึงก็ใช้วิธีวิสามัญฆาตกรรมแบบไม่ต้องมีหมายเรียก ปิดคดีภายในไม่ถึง 10 นาที งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้ม่อน หมาหน้ามึนตัวนี้ นี่ถ้าเราไม่มีหมาไว้สังเกตสังกาหน้าบ้าน สถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้ ฝั่งที่โชคร้ายอาจไม่ใช่งูเห่า แต่อาจเป็นใครสักคนภายในบ้าน

แซลม่อน

สุขสันต์วันเด็ก

ไดอารี่ 9 January 2010

เราซ้อมกันแล้วซ่อมกันเล่า เพื่อโชว์ในวันสำคัญของพวกเรา “วันเด็ก” เนื่องจากเป็นเด็กผู้ชาย ดังนั้น การโชว์ของพวกเราจึงไม่อยู่ในการควบคุมของครู ให้โจกทย์มาว่า ต้องไปหาการแสดงมาแสดงสักอย่างหนึ่ง พวกผู้หญิงเขามีการเต้นประกอบเพลงไปแล้ว พวกผู้ชายจะโชว์อะไร?? เราคุยกันอย่างเครียดร่วม 10 นาที ได้ข้อสรุปว่า เราจะเล่นละคร!! ผู้กำกับการแสดงคือ “ไอ้แก้ว” ผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จโดยเผด็จการ ไม่ได้รับการโหวต หรือการมอบหมายจากอาจารย์คนไหน ถืออำนาจอัตตาธิปไตย คือสามารถต่อยคนโน้นคนนี้ชนะ ผมเป็นสมุนคนสนิท กว่าจะได้รับการยอมรับได้ก็ต้องผ่านด่านต่อยตี และมีเกรดค่อนข้างดีด้วย (เพื่อให้มันลอกการบ้านได้) ละครที่เราจะเล่นกันในวันเด็ก มีชื่อเรื่องว่า “ศึกชิงนาง” ชื่อเรื่องก็บอกแล้วว่า บทเด่นก็คือนางเอก ต้องสวย เริ่ด ถึงกับต้องชิงกันจากสองเมือง แต่เราจะหานางเอกจากที่ไหนได้ละ พวกเรามีแต่ผู้ชาย..ทุกคนต่างเกี่ยงกัน ไม่ยอมรับ และรับไม่ได้ที่จะต้องแต่งหญิงผู้เลอโฉม สุดท้ายบทเจ้าหญิงผู้เลอโฉมจนเจ้าสองเมืองต้องยกทัพมาแย่งชิงก็ตกมาถึงมือผม ผมเป็นเจ้าหญิงที่เลอโฉมแบบประหลาดมาก มีบทที่ท้องเสีย ต้องวิ่งไปอึหน้าเวทีอีกต่างหาก ~ แน่ใจเหรอนั่นว่าเจ้าหญิงผู้เลอโฉม ผมไม่รู้ว่าตอนนั้น คนดูชื่นชอบมากน้อยแค่ไหน เพราะผมไม่ได้มองคนดูเลย เล่นมองแต่หน้ากันเองจนจบเืรื่อง ก็มันอายนี่หว่า.. จากบทนางเอกของเรื่อง “ศึกชิงนาง” เมื่อตอนประถมสี่นี่เอง ทำให้ในชั้นประถมห้า คุณครูได้ลงมากำกับการแสดงเอง โดยให้ผมและเพื่อนผู้ชายอีก 4-5 คนร่วมแต่งเป็นหญิงด้วย ครั้งนี้ไม่มีชื่อเรื่อง แต่จำลองเหตุการณ์การประกวดนางสาวไทย !!! ผมเป็นหนึ่งในผุ้เข้าประกวดด้วย .. เฮ้อ กูสวยตรงไหนว่ะ นั่นคือช่วงหนึ่งของวัยเด็ก ในวันเด็กที่แสนมีความสุข รางวัลของการแสดงทั้งสองครั้งนั้น คือขนมพวงโตที่พวกเราภาคภูมิใจมาก ความรู้สึกในวันนั้นมากกว่าขนม คือ คนดูหัวเราะ ผมมาทราบภายหลังจากวันนั้น เมื่อเดินไปทางไหนแล้วมีคนทักว่าเป็นหญิง (อุอุ) เด็กเขาไม่ต้องการอะไรมากกว่า การได้ร่วมสนุก และรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ ทั้งนี้ ต้องให้ความสำคัญในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าเราทำดี เราก็ต้องกระโจนไปแสดงความชื่นชน เล่นสนุก และคลุกคลีกับเขา ขณะเดียวกันถ้าเขาทำไม่ถูก เราก็ต้องให้ความสำัคัญ แต่ต้องให้ความสำคัญในทางให้ความรู้ว่าไม่ถูกต้อง ไม่ดีนะ .. อย่าปล่อยผ่านเลยไป ผมยังจำได้ ช่วงที่ผมมีความสุขที่สุดในวัยเด็ก มันเกิดขึ้นในบ้านเล็กๆของเรานั่นเอง ผมเด็กมาก พี่สาวพึ่งเข้าประถม เรามานั่งวาดรูปกัน พี่สาวเริ่มวาดรูปเป็น ขณะที่ผมได้แต่ขีดๆเขียนๆ แม่จึงมาวาดรูปให้เรา แม่นอนวาดรูปกับพื้นกับพวกเรา รูปที่แม่วาดน่ารักมาก…

อ่านต่อ

เที่ยวชุมพร 3 วัน 2 คืน

ท่องเที่ยว 20 February 201916 June 2019

ชุมพรเป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคใต้ ถ้าเดินทางจากกรุงเทพ จังหวัดชุมพรถือว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ติดกับประจวบคีรีขันธ์ แต่จังหวัดประจวบฯ ถือว่าเป็นภาคกลางตอนล่าง ยังไม่นับเป็นภาคใต้ .. การเดินทางไปชุมพรครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการไปเที่ยวภาคใต้ในรอบหลายสิบปี (ครั้งก่อนโน้นไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ที่จังหวัดพังงา) เช่นเคยครับการเดินทางไปครั้งนี้ผมขับรถไปด้วยตัวเอง คืนแรกพักที่ ชลิชา รีสอร์ท  ตั้งอยู่กลางเมืองชุมพร เพราะตั้งใจว่าวันแรกจะเที่ยวในตัวเมืองชุมพรก่อน และคืนที่สองพักที่นานาบีช รีสอร์ท ติดทะเล ไหนๆก็มาทะเลแล้ว ก็ต้องลงทะเลซะหน่อย ชลิชา รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่เงียบสงบ สะอาด ราคาไม่แพง ข้อเสียคือไม่มีอาหารเช้า (หากต้องการอาหารเช้า ต้องเพิ่มเงิน) ที่นี่จึงเหมาะแก่การพักค้างหลังจากไปเที่ยวมาแล้ว  ไม่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเท่าไรนัก อยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 15 กิโลเมตร คืนที่สองนานาบีชรีสอร์ท มีที่พักทั้งแบบเป็นหลังและเป็นห้อง ราคาก็แตกต่างกันไป ..ผมได้แบบห้อง ข้อเสียคือ อยู่ชั้น 3 และแอร์ไม่ค่อยเย็น แต่ข้อดีคือมีสระว่ายน้ำ และติดทะเล! งานนี้จึงได้เล่นทั้งน้ำทะเลและน้ำในสระ มาทะเลทั้งทีก็ขออยู่กับทะเลให้หนำใจ ตอนเช้าๆ สำหรับคนที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย หาดทุ่งวัวแล่นที่มีระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร ถือเป็นที่วิ่งที่บรรยากาศดีไม่น้อย ทะเลอาจจะไม่สวยใสเท่าฝั่งอันดามัน แต่ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศทะเลที่ไม่พลุกพล่าน ขอแนะนำที่ชุมพรเลยครับ

ชุมพร หาดทุ่งวัวแล่น

ของขวัญจากพระเจ้า!

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 26 May 201128 October 2015

กำลังอ่านหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ ทุ่งหญ้าแห่งความรู้และความสุข” เขียนโดยคุณประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ แนวคิดในการทำธุรกิจ ในการมองโลก มีมุมที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สมกับที่เรียกตัวเองว่าเป็น “แกะดำ” แกะดำไม่ใช่แกะที่มีความผิดปกติ หรือมีความแปลกประหลากแตกต่างจากคนอื่น หากแต่ว่าเป็นแกะที่เลือกทำในสิ่งที่ดีกว่า แตกต่าง และให้ผลดีกว่า เลือกที่จะเลี้ยวขวา ขณะที่ทุกคนเลี้ยวซ้าย เลือกที่วิ่งในขณะที่ทุกคนเดิน เลือกที่สุขในขณะที่ทุกคนทุกข์ และอีกมากมาย.. อ่านได้ครึ่งเล่มขณะรถติด ได้ความคิดใหม่ว่าขณะรถติดคนส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมส์บนมือถือ เล่นเฟสบุค ทวิตเตอร์ บีบี ดูหนัง ฟังเพลง ล้วนแต่เป็นสิ่งสร้างความบันเทิงที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำไมเราไม่อ่านหนังสือ หรือทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์ขณะรถติดที่มากกว่านั้น ไม่เสียเงิน แถมได้ประโยชน์มหาศาล ..เลยตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือทุกครั้งที่รถติด!!! จะดูสิว่า เดือนหนึ่งจะอ่านได้กี่เล่ม.. ชอบใจประโยคเด็ดในหนังสือแกะดำฯ ที่คุณประเสริฐ ได้นำคำของ CEO หญิงของ HP มาเขียนไว้อีกที.. ใจความว่า “การที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่า่จะสูงต่ำดำขาว คือสิ่งวิเศษที่พระเจ้ามอบให้เรา ส่วนเราจะประพฤติตนอย่างไร คือสิ่งวิเศษที่เป็นของขวัญที่เราจะมอบแด่พระเจ้า” * อยากรู้จักแกะดำมากขึ้นคลิกไปที่ http://www.blacksheep.co.th/

ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ พระเจ้า แกะดำ

สุดยอดภาพแห่งปี 2008

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 4 April 2009

ช่วงนี้มีแต่เรื่องเครียดๆ ทั้งการบ้านการเมือง, ผู้ชุมนุม, ปัญหาเศรษฐกิจ ไหนจะปัญหาระหว่างประเทศ (ไทยกะเขมรยิงกันสนั่นเมือง(เมื่อวานนี้)) ข่าวโน่นข่าวนี่ มีแต่ข่าวเครียดๆ เมื่อเป็นดังนี้แล้ว มาหาอะไรที่มันบันเทิงเริงใจ ดูแล้วทำให้ใจสดชื่น คิดไปในทิศทางบวกดีกว่า เว็บไซต์ต่างประเทศรายหนึ่ง เปิดให้ผู้ชมส่งภาพและโหวตภาพกัน และจากกิจกรรมนี่เองทำให้เราได้ชมภาพ น่ารักๆ ขำๆ จากทั่วโลก ภาพต่อไปนี้ที่ชนะโหวดนะครับ แต่ผมไม่ได้เรียงว่าอันไหนได้ที่ 1 ที่ 2 หรือที่ 3 แต่ละรางวัลเขามีชื่อด้วยนะครับ เช่น รางวัลภาพ  “Specail Animal world” เอามาดูกันเพื่อสร้างรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก .. (ถ้าภาพเล็กกรุณา Refresh หน้านี้ หรือกด F5)     เห็นภาพนี้แล้วคิดถึงภาพยนตร์ไทยเรื่อง “โคลิค เด็กเห็นผี”   จ๊ะ..เอ๋ อิริยาบถของเจ้าป่าอย่างสิงโตแบบนี้ ไม่เคยเห็นกันแน่ๆ   ภาพนี้น่ารักมั่กๆๆ.. ภาพอันสุดท้ายนี่เหลือเกินจริง ๆ แต่คงถูกใจคนที่เกลียดทหาร –_-“

อ่านต่อ

ไหว้พระวัดโพธิ์

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 2 June 201520 October 2017

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ชาวต่างชาตินิยมชมชอบ คือถ้ามาเมืองไทยแล้วต้องไปให้ได้ (จะไปเองหรือถูกไกด์บังคับพาไปก็ตาม) เฉพาะในกรุงเทพนะ ถ้ามาถึงแล้วต้องไป นั่นคือ วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และวัดไตรมิตร เจอ 3 วัดเข้าไป ก็หมดวันละ เฉพาะวัดพระแก้วกับวัดโพธิ์นี่ก็แทบหมดแรงละครับ กว้างขวางแถมร้อนมากด้วยเช่นกัน แต่สำหรับชาวต่างชาติ ผมว่าคุ้มครับ กับการได้เข้าไปชมสถานที่ๆมีความสวยงามขนาดนั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจจะไปไหว้พระวัดโพธิ์ตามหัวเรื่องที่จั่วไว้ ไปทานข้าวริมแม่น้ำที่ปากคลอง ขากลับมีอันต้องผ่านวัดโพธิ์ พี่ที่ไปด้วยแกมาอยู่กรุงเทพหลายสิบปี แต่สาบานได้ว่าไม่เคยมาวัดโพธิ์เลย จึงต้องแวะพาแกไปไหว้พระสักหน่อย ถึงจะร้อนมากก็ตาม เดิมทีว่าจะข้ามไปฝั่งวัดอรุณฯด้วย แต่ดูท่าจะสู้แรงแดดไม่ไหว วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร อยู่ติดกับวัดพระแก้วชนิดรั้วเกือบติดกัน กั้นด้วยถนนเท่านั้นเอง แต่การจะเดินไปมาหาสู่กันไม่ใช่เรื่องสนุก เดินกันขาลากหัวเปียกเลยทีเดียว ประวัติวัดโพธิ์ใครใคร่รู้โดยละเอียดก็ไปหาจากอากู๋เอาเองนะครับ อัตราค่าบริการสำหรับคนไทยฟรี ต่างชาติต้องซื้อตั๋ว เอาภาพเล็กๆน้อยๆของวัดโพธิ์ในวันที่แดดแรงมาก มาให้ชมเพียงเท่านี้นะครับ แนะนำให้ไปเที่ยวชมด้วยตนเองดีกว่า ไปง่าย ถ่ายคล่อง รับรองอร่อย

วัดโพธิ์

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (57)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (27)
  • สุขกะภาพ (70)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH