คนที่ถูกรัก
ใกล้เวลา 4 โมงเย็นนั่นหมายถึงเวลางานผมใกล้จะหมด การทำจะล่วงเวลาย่อมมีค่าใช้จ่าย คือต้องเสียค่าเช่ารถเพิ่มอีกกะหนึ่ง แต่ต้องเสี่ยงกับสภาพร่างกายที่อาจจะหลับในได้ผมจึงบึ่งแท็กซี่หาปั้มเพื่อทำความสะอาดรถก่อนส่งอู่ เพื่อนแท็กซี่หลายคนไม่ยอมปิดไฟสัญญาณว่า “ว่าง” ขณะขับกลับอู่ เผื่อเจอผู้โดยสารที่ไปทางเดียวกับตน จะได้เงินเพิ่มไม่เสียเที่ยว แต่ส่วนใหญ่เจอผู้โดยสารที่ไปคนละทาง นั่นย่อมหมายถึงการต้องขัดใจผู้โดยสารเมื่อกล่าวคำปฏิเสธ ผมปิดไฟสัญญาณ ว่าง บึ่งรถกลับอู่ โทรศัพท์nokiaรุ่นเก่าที่นอนสงบนิ่งมาทั้งวันเป็นปกติ วันนี้มาร่ำร้องขึ้นปรากฏเบอร์ที่ผมไม่รู้จัก!!“สวัสดีครับ..” ผมพูดเสียงเรียบ“อา นี่เราเองนะ” ปลายสายเป็นผู้หญิงเสียงกังวาล“โทษนะครับ ชื่ออะไรครับ”“เราเอง ปลาไง” ปลา ในชีวิตผม ผมรู้จักคนชื่อปลาเพียงคนเดียวเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไม่เพียงรู้จัก ผมและเธอถึงขั้นเป็นแฟน ตอนนั้นผมยังไม่ขับแท็กซี่ ยังครองชีวิตมนุษย์เงินเดือนเต็มขั้น ปลาทำบัญชีให้บริษัท ผมกับเธอสนิทกันได้ไม่นาน เราทั้งคู่ก็ยอมใช้สรรพนามเรียกกันว่า “แฟน” และเปลี่ยนสถานภาพในเฟสบุคว่า “มีแฟนแล้ว” ความรักของเราเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ทะเลสงบมักมีพายุใหญ่รออยู่ข้างหน้า ปลาขยับฐานะเป็นรองผู้จัดการในปีถัดมาที่เรารู้จักกันและจากวันนั้นเธอก็มีเวลาว่างสำหรับแฟนอย่างผมน้อยลง แต่เธอกลับมีเวลาให้ผู้จัดการหนุ่มมากขึ้น จากนั้นไม่นานผมแอบเห็นสถานภาพในเฟสบุคของเธอเปลี่ยนเป็น “โสด” ผมเอะใจ แต่ไม่เข้าใจ จนที่สุดข้อสงสัยทั้งหมดก็กระจ่าง คืนนั้นเป็นวันเกิดผม แต่เธอลืมโดยอ้างว่าต้องไปต่างจังหวัด เพื่อนที่สนิทและไว้ใจได้คนหนึ่งบอกว่า คืนนั้นเธอไปกับผู้จัดการหนุ่ม..ผมทนปวดใจอีก 2 เดือนจึงลาออก เธอไม่มาแม้เพื่อบอกลา “อ้อ ปลา..” การโทรศัพท์หาผมในครั้งนี้จึงทำให้ผมแปลกใจมาก เพื่อนสนิทหรือคนรู้จักที่ไม่ติดต่อเรามานานมากแล้ว แต่จู่ๆติดต่อกลับมา มีไม่กี่สาเหตุ 1.ยืมตังค์ 2.ขายตรง “อา สบายดีนะ ตั้งแต่อาไปครั้งนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยเนาะ” “สบายดีครับ ว่าแต่มีอะไร?” “เปล่า ไม่มีอะไร คิดถึงจึงโทรหานะ อยากเจออยากทานข้าวด้วย” “คงไม่สะดวกหรอกครับ” ผมกล่าวสวัสดีก่อนวางสายด้วยความมึนงง สงสัยเพราะภาวะโลกร้อน ถึงผมไม่มีแฟน แต่คงไม่อยากคืนดีกับคนอย่างเธอแน่นอน คนที่คบคนเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างเธอมันน่ารังเกียจ แต่ผมก็อดแปลกใจไม่ได้ ปลาหวังผลประโยชน์อะไรในตัวผมเหรอ คนที่ไม่มีอนาคตขับแท็กซี่อย่างผมเนี่ยะนะ !?! ยังไม่ทันวางโทรศัพท์ลง มันก็ส่งเสียร้องอีกครั้ง “สวัสดีครับพี่ยง ผมว่าจะเอาเงินไปคืน..พ” “ไม่เป็นไรอา ไม่ต้องรีบร้อน เย็นนี้ว่าจะชวนไปหาอะไรดีๆกินสักหน่อย” นี่ก็อีกรายที่ผมได้ยินคำพูดที่ไม่คาดว่าจะได้ยินจากปาก ยง หรือเฮียยง คนในอู่รู้จักดีว่าเป็นคนพูดเสียงดังโพงพาง เกือบทุกคนติดหนี้แก แม้จะปล่อยดอกที่สูงลิ่ว แต่หลายคนมีทางเลือกไม่มากนักทุกวันจะเจอแกทวงเงิน แต่วันนี้..แกไม่พูดถึงเงินแต่กลับชวนไปกินข้าว! ยังไม่ทันวางสายพี่ยง ก็มีสายซ้อนขึ้นมา ดังนั้น พอพี่ยงวางสายเสียงจากอีกสายก็แทรกเข้ามาในหูผมทันที“อา…