ครูฝึกสอน

นิดาหวั่นใจเล็กน้อย วันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะเป็นครูฝึกสอน ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดท้ายก่อนเธอจะจบจากรั้วมหาวิทยาลัย 

หลังจากเข้าพบอาจารย์ประจำชั้น และทราบว่าเธอจะต้องสอนวิชาอะไร นิดาเตรียมอุปกรณ์ประกอบการสอน กิจกรรม บทพูดระหว่างเรียน การพูดเข้าสู่เนื้อหา เกมส์ระหว่างเรียน (หากนักเรียนเริ่มจะเกเร) เธอหวังว่านักเรียนชั้นป. 6 คงไม่เกเรเท่าเด็กระดับมัธยมที่เริ่มจะก้าวสู่วัยรุ่น

นิดาก้าวเข้าสู่ห้องเรียนอย่างมั่นใจ แอบเก็บความตื่นเต้นไว้ข้างในอย่างมิดชิด

“สวัสดีค่ะ นักเรียนทุกคน..” เงียบ นักเรียนทุกคนกว่า 30 ชีวิตมองมาที่เธอเป็นตาเดียวกัน แบบนี้ท่าทางจะสอนไม่ยาก นักเรียนยังเห่อกับครูคนใหม่ นิดาเริ่มแนะนำตัวต่อทันที

“ครูเป็นครูฝึกสอนที่นี่ และจะสอนที่นี่เป็นเวลา 15 วัน ครูชื่อ นิดาภาสุ์(อ่านว่า นิ-ดา-พา) จันทร์เกษตร” เธอพูดพร้อมเขียนชื่อตัวเองบนกระดาน

“คุณครูค่ะ ชื่อครูทำไมต้องมี ส เสือ สระอุด้วย นิดาภา เฉยๆไม่ได้หรือค่ะ” งานเข้าตั้งแต่นาทีแล้วสิ แม่ก็ไม่เคยบอกเสียด้วยว่าทำไมต้องมี ส เสือ สระอุ และการันต์ เด็กระดับป.6 ถ้าจะแถไปข้างๆเหมือนเด็กอนุบาลไม่ได้ ต้องตอบอย่างมีเหตุมีผล มีหลักมีการ มีทักษ์มีสิน..

“ถ้าไม่มี ส เสือ สระอุ ความหมายจะไม่ค่อยดีจ๊ะ”

“ไม่ค่อยดียังไงครับครู” ด.ช.เนวิทย์ ชิดขอบถาม ทุกสายตาในห้องจ้องมองรอคำตอบอย่างจดจ่อ ราวกับว่าคำตอบจากเธอนั้น คือคำตัดสินว่าปราสาทพระวิหารเป็นของไทยหรือของเขมร

“คือ ครูเกิดวันศุกร์ ตามตำราว่าไว้ว่าวันศุกร์ต้องไม่มี ส เสือ หรือถ้ามีวต้องใส่การันต์ ไม่ให้เสือมีอำนาจ” อ้างตำรานักเรียนจะได้ไม่สนใจต่อ ปะติดปะต่อเอาเอง พอเอาตัวรอด นักเรียนคงไม่คาดคั้นต่อ จะได้นำเข้าสู่บทเรียนซะที นี่ ไม่ได้อยู่ในสคริปต์เลยนะเนี่ยะ มาได้ยังไง

“อ้อ ผมเข้าใจแล้ว อย่างนี้นี่เอง คุณอาทักสิน ถึงมีอำนาจ เพราะชื่อแกไม่มีการันต์อยู่บัน ส เสือ เสือจึงมีอำนาจใหญ่เลย” ด.ช.สณฒิ(อ่านว่า สน-ทิ) พูด “เด็ก-่าอะไรไม่รู้ ชื่ออย่างพิสดาร..”ครูนิดาคิด

“เอาละๆ ทีนี้เรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่า วันนี้ครูจะมาสอนวิธีปลูกมะละกอ ไหนใครรู้บ้างว่ามะละกอ ปลูกกันยังไง” นิดารีบดึงเข้าเรื่อง ก่อนที่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หก จะพาเธอคุยเรื่องการเมือง พร้อมชูมะละกอสุก อุปกรณ์ประกอบการสอนที่เธออุตส่าปีนป่ายเก็บจากข้างบ้าน

“เพาะชำค่ะ” ด.ญ.สุดาตอบ พร้อมเสียงฮาจากเพื่อนๆ

“ไม่ใช่ค่ะ” ครูนิดาตอบสวนไปทันที

“ตอนกิ่ง” ด.ช. เนวิทย์ตอบบ้าง พร้อมเสียงเฮฮาเป่าปากของเพื่อน

“ไม่ใช่ ตั้งใจกันหน่อยสิคะ”นิดาเริ่มอารมณ์เสีย มีใครไม่รู้บ้างว่ามะละกอปลูกยังไง คำถามนี้เธอไม่ต้องการคำตอบแบบนี้ ต้องการแค่การนำไปสู่บทเรียนที่ตั้งไว้ เด็กพวกนี้นี่..

“เอาละๆๆ พอแล้ว ครูจะเฉลยละ มะละกอนะ เขาปลูกโดยการเพาะเมล็ด และเมล็ดมะละกอจะอยู่ในลูกมะละกอที่สุกแล้ว” เธอพูดพร้อมชูมะละกอสุกอีกครั้ง

“เดี๋ยววันนี้เราจะผ่ามะละกอสุกลูกนี้”

“ครูจะชวนกินมะละกอเหรอครับ” ด.ช.เนวิทย์จอมป่วนคนเดิม

“ใช่แล้ว เอ้ยไม่ใช่ ~ เราจะผ่าเอาเมล็ดเพื่อไปเพาะไง นี่วิชาเกษตรนะ ไม่ใช่วิชา กพอ.” นิดาหันมาแว้ด แล้วก้มหน้าก้มตาผ่ามะละกอสุกต่อ โดยมีนักเรียนห้อมลุ้มมุงดู 

หลังจากผ่าเสร็จ การสอนก็จะสบายขึ้นละ เธอจะให้เมล็ดแก่นักเรียนไปเพาะที่สวนเกษตร ส่วนเธอจะนั่งกินมะละกอสุกในห้องนี้รอ

มีดอันคมเฉือนตรงกลางลูกมะละกอในแนวขวาง มะละกอสุก 2 ซีก แยกออกจากกัน

ร่องตรงกลางมะละกอว่างเปล่า !!

มะละกอไม่มีเม็ด? มะละกอGMO ตายละหว่า แล้วทีนี้จะสอนเด็กต่อไปยังไง เหตุการณ์อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ เหมือนเหตุการณ์ที่คนรักอุดรฝ่าแนวกั้นตำรวจไปทำร้ายพันธมิตร ตำรวจบอก มันอยู่เหนือการคาดการณ์จริงๆ 

นักเรียนเริ่มงง เมล็ดมะละกอหายไปไหน แล้วที่ครูบอกจะเอาเมล็ดไปเพาะ เมล็ดมันอยู่ในลูกมะละกอ แล้วทำไมไม่มี ครูโกหก ครูรู้ไม่จริง ครูพูดจาไม่อยู่ในร่องในรอย ไม่เชื่อครูแล้ว ครูแค่ครูฝึกสอน

เหตุการณ์เริ่มบานปลาย นักเรียนออกไปจับกลุ่มคุยกัน ไม่สนในครูฝึกสอน นิดาเริ่มเครียด ด้วยความที่เป็นเพียงครูฝึกสอน ประสบการณ์ก็ไม่ค่อยจะมี คิดอะไรไม่ออก จึงประกาศหน้าชั้นเรียนไปว่า

“ยุบสภา เอ้ย หยุดเรียนกันแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่” 

นักเรียนเฮลั่น ยุติการชุมนุม เอ้ย จับกลุ่ม หันมาอ่านหนังสือเรียนกันอย่างสงบ ~ 

….