จะให้นั่งรออย่างนี้อีกนานไหมนะ..แต่เอาเถอะ ถึงจะหนาว เหนื่อย เมื่อย และน่ากลัวขนาดไหน คงไม่เทียมเท่ากับความผิดที่เราทำ..
ความผิด มันเริ่มจากความเข้าใจผิด
เราเข้าใจผิดมาตลอดว่า สีที่เธอชอบคือสีเขียว อาหารที่เธอชอบ คือ สลัด และวันที่เธอเกิดคือ ๒๐ ตุลา
ข้อมูลที่ได้มานี่ ยืนยันจากเพื่อนเธอ เมื่อครั้งที่เราเริ่มจีบเธอแรกๆ ใครจะรู้ว่าข้อมูลเหล่านี้ ไม่ใช่ข้อมูลของเธอ แต่เป็นข้อมูลของเพื่อนเธอคนนั้น เมื่อครบ ๑ ปีที่คบหา และครบรอบวันเกิดเธอ (ที่เราเข้าใจผิดมาตลอด) ตั้งใจจะเซอรืไพร้สเธอเล็กๆ ด้วยของที่เธอชอบ ในวันที่เธอเกิด..
แผนการณ์เป็นไปตามคาดทุกอย่าง เธอตกใจ และหลังจากนั้นควรจะตื่นตันใจ แต่เธอโกรธ!
และหลังจากนั้น เราก็ไม่พบ ไม่ได้พูด ไม่ได้คุยกันอีกเลย..
อภัยให้เราเถิด..เราจะยืนท่ามกลางสายฝน ความหนาว ความน่ากลัวของค่ำคืนอันมืดมิด จนกว่าเธอจะเห็นใจ จนเธอจะเข้าใจ
หน้าบ้านติดถนนใหญ่ รั้วขนาดสูงบังจนไม่สามารถให้เธอมองลอดจากช่องหน้าต่างมาดูได้ว่า มีใครเขายืนสำนึกผิดอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่หัวค่ำ ที่ฝนยังไม่ลงเม็ด จนถึง ๕ ทุ่มที่ฝนกระหน่ำเทอย่างไม่ลืมหูลืมตาแล้ว เธอยังไม่สงสารเราอีกเหรอ เธอรู้ไหม…เราหิวเหลือเกิน เรากลัวเสียงฟ้าผ่า เสียงฟ้าร้อง มันเหมือนฟ้าจะลงโทษคนผิด เราผิด เราสำนึกแล้ว..ขอได้ผ่อนโทษจากหนักเป็นเบาด้วยเถิด อย่างน้อยแค่หันมามองสักหน่อยก็ยังดี
หลังจากที่ยืนมาเป็นเวลานาน อิริยาบถเปลี่ยนเป็นนั่ง และนอนลงกับพื้นข้างถังขยะในที่สุด
รุ่งเช้า..รถตำรวจ ๒-๓ วัน จอดอยู่หน้าบ้าน ผู้ที่ถูกจับ คือ ชายที่ยืนขอโทษทั้งคืนนอนหมดเรี่ยวแรง
ตำรวจระบุข้อหา : ฆ่าคนตาย
จำเลยให้สารภาพว่า : ผู้ตายหลอกลวง ทำให้คนรักต้องเข้าใจผิด ด้วยความโมโหถึงขีดสุด จึงทำร้ายร่างกายเธอจนเสียชีวิต
เหตุผลที่เธอคนนั้นไม่ให้อภัย คงไม่ใช่เพราะเข้าใจผิด แต่เพราะเหตุนี้ต่างหาก!
ตำรวจใส่กุญแจมือชายคนนั้น ล็อกคอดันตัวให้เข้าไปในรถ..เขาเหลือบมองหน้าต่างบานนั้นที่เขาเฝ้ามองมาแล้วทั้งคืน..
ปรากฏร่างของเธอคนนั้นยืนมองด้วยสีหน้าเย้ยหยันสมน้ำหน้า..อย่างน่าสมเพช
ก่อนประตูรถจะปิดลง..ผู้ต้องหาฆ่าคนตายตะโกนอย่างสุดเสียง
“ผมขอโทษ……ษ ผมรัก….คุ”
ปัง! ประตูรถปิดสนิท ไร้เสียงใดๆเล็ดลอดออกมา
รถตำรวจวิ่งหายไปจนลับตา ทุกอย่างปกติอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น