Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ท่องเที่ยว

อ่านต่อ

Solo Camping | กางเต็นท์คนเดียว

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 30 January 202213 March 2022

เป็นครั้งแรกของผมสำหรับการออกเที่ยวคนเดียว และโดยเฉพาะการเที่ยวแบบแคมป์หรือกางเต็นท์นอน เป็นความอยากที่เก็บไว้มานานแล้ว เมื่อมีโอกาสจึงขอลองสักครั้ง และครั้งนี้ผมเลือกที่นี่ครับ Lakeview Cafe กาญจนบุรี หลังจากดูรีวิจากที่คนอื่นเขาเคยมาแล้ว ภาพภูเขาที่สะท้อนกับทะเลสาปเหมือนภาพวาดดึงดูดใจราวกับมีเสียงเรียกร้องให้ผมมาเยือนทุกค่ำคืน ในที่สุดผมก็มาตามคำเรียกร้อง และก็ไม่ผิดหวังเลย ภาพในหัวที่คิดกับสถานที่จริงไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีไม่กี่ครั้งที่ความคาดหวังจะกลายเป็นความผิดหวังเมื่อเจอของจริง ที่เป็นเช่นนั้น เพราะคนส่วนใหญ่นำเสนอแต่มุมที่สวยงามและถ่ายภาพเฉพาะมุมที่สวยที่สุดเท่านั้น แต่ที่นี่ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมรับรองได้ กับราคาค่ากางเต็นท์คืนละ 300 บาท มีจุดให้ต่อไฟ มีห้องน้ำแยกชายหญิง ผมว่าคุ้มค่ามากครับ ทริปนี้ผมใช้เต็นท์ขนาดเล็กที่พกพาง่ายและเบาอย่าง naturehike หลังจากทำอาหารเย็นอย่างง่ายๆ กินเสร็จแล้ว ก็นั่งชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน แม้จะเริ่มย่างเข้าฤดูร้อน แต่พอหลังตะวันตกดินอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ จนกระทั่งก่อนเข้านอนในเวลา 5 ทุ่ม ผมเช็คสภาพอากาศอยู่ที่ 18 องศา นอนหลับสบาย การได้ใช้ชีวิตคนเดียวแบบเงียบๆ ทำให้ใจผมสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รอบตัวได้ยินเพียงเสียงสรรพสัตว์ ไม่มีเสียงรถราและผู้คน ค่ำคืนนี้มีแต่เราผู้เดียว ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าช้าโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น ลองไปเที่ยวแบบนี้ดูสักครั้งนะครับ แล้วจะพบว่าตัวเราที่เรารู้จัก อาจไม่ใช่ตัวเราที่เราเป็นก็ได้.

Lakeview กาญจนบุรี
อ่านต่อ

เที่ยวถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 September 202124 September 2021

หลังจากกักตัวอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่โควิดระบาดรอบ 2 รอบ 3 มาเป็นแรมเดือน..ก็ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2564 เป็นต้นมา จนถึงเดือนกันยายนี้ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนไกลเลย เต็มที่ก็แค่เซเว่นหน้าหมู่บ้าน อาการคิดถึงธรรมชาติ การเดินทางกำเริบเป็นระยะ จนกระทั่งรัฐบาลสั่งคลายล็อกเปิดจุดท่องเที่ยวบางแห่งได้ เราจึงเริ่มมองหาที่เที่ยวบ้าง และที่นี่คือที่แรกที่เราออกเที่ยว หลังการคลายล็อก ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดแบ่งเป็น ถ้ำธารลอดใหญ่และถ้ำธารลอดเล็ก ถ้ำธารลอดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดใหญ่มีลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ มีความกว้าง 60 เมตร ตัวถ้ำด้านล่างยาว 60 เมตร กว้าง 40 เมตร และสูง 40 เมตร บนเพดานถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ที่แสงแดดส่องลอดเข้ามาในถ้ำได้ ทำให้ภายในถ้ำสว่างและมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ ที่ฟากหนึ่งของผนังถ้ำมีภาพเขียนสีรูปพญานาค ซึ่งชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพญานาค นอกจากนี้แล้วยังมีหลักฐานปรากฏว่าบริเวณนี้เป็นที่ฝังศพของมนุษย์โบราณ จากการค้นพบโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนำไปจัดไว้ให้ชมที่พิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ โครงการพระราชดำริห้วยองคต อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้ออกเดินทางกัน 3 คนครับ (ก่อนหน้านี้มี 5 แต่ติดธุระมาได้แค่นี้) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าก็ถึงยังจุดหมายปลายทาง จัดการกางเต็นท์ที่พักเรียบร้อย ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็เตรียมตัวเดินเท้าท่องเที่ยวธรรมชาติ เสน่ห์ของที่นี่คือนอกจากมีที่บริการจุดกางเต๊นท์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำครบครันแล้ว ยังมีกิจกรรมเดินป่าขนาดกำลังน่ารักให้เราเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอีกด้วย จุดเริ่มต้นการเดินเริ่มจากถ้ำธารลอดเล็ก ภายในถ้ำกว้างขวางมืดแต่มีไฟติดตามจุดพอให้เห็นทางเดินได้ ภายในถ้ำมีสายน้ำไหลผ่าน และพอผ่านจุดนี้ไปก็จะเข้าสู่การเดินป่า เป็นป่าที่มีทางเดินสะดวกครับ เด็กเล็กตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไปสามารถเดินได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง เพราะมีบางจุดที่มีความเสี่ยง ทางเดินจะเป็นทางเรียบ และค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ แต่มีบันไดให้เดิน ไม่ลำบากมาก ตลอดทางก็จะมีน้ำตกเป็นระยะให้ได้ถ่ายภาพ หรือลงไปเล่นได้ตามใจชอบ บรรยากาศดีมาก ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆก็จะถึงจุดที่เรียกว่าถ้ำธารลอดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูงมีลักษณะคล้ายถ้ำพระยานคร แต่โปร่งกว่า มาถึงจุดนี้ถ้ามีเวลาก็สามารถเดินทางต่อไปอีกนิดหนึ่งจะถึงวัด (ขออภัยที่จำชื่อวัดไม่ได้) เราใช้เวลาในการเดินชมธรรมชาติไปและกลับประมาณ 4 ชั่วโมง กลับถึงเต็นท์ก็ได้เวลาสำหรับอาหารเย็นแล้ว ค่ำคืนนี้มีฝนพร่ำๆ พอให้นอนสบาย นอนฟังเสียงฝนคละเคล้ากับเสียงน้ำตกไกลๆได้บรรยากาศการมาพักผ่อน เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าครับ ประมาณตีห้าครึ่ง ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายไปที่น้ำตกสไลเดอร์ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอุทยานห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร วิ่งไปกลับก็จะได้ระยะ 10 กิโลเมตรพอดี ระยะทางที่ค่อนข้างเป็นเนินซะส่วนใหญ่ ประกอบกับความฟิตก็ไม่ได้มีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำการให้วิ่งในวันนี้เหนื่อยเป็นพิเศษ…

กาญจนบุรี ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
อ่านต่อ

เที่ยวหาดสามพระยา ประจวบคีรีขันธ์

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 1 January 202124 September 2021

ต้อนรับปีใหม่ด้วยการพาหมาม่อนไปเที่ยวทะเล ~ ถือว่าเป็นทริปเอาใจหมา เพราะก่อนหน้านี้หนีไปเที่ยวเหนือซะหลายวัน ทริปนี้เลยถือโอกาสพาหมาไปเอาบรรยากาศทะเล ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยพาไปหนหนึ่งแล้ว ครั้งนั้นไปหาดเจ้าสำราญนอนบ้าน ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนเพราะม่อนจะนอนเต็นททททททท์ หาข้อมูลอยู่นานพอสมควรว่าที่ไหนบ้างเขาต้อนรับน้องหมาและที่สำคัญคนต้องไม่เยอะวุ่นวายเกินไป เพราะหมาอาจจะตื่นคนได้ ที่สำคัญเกรงใจคนอื่นเขา (โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบหมา) จนได้ข้อมูลมาว่า หาดสามพระยา สามารถพาหมามาพักแรมได้ แต่กระนั้นก็ได้เผื่อแผนสองไว้แล้วว่า ถ้าที่สุดเจ้าหน้าที่เปลี่ยนกฏกระทันหันไม่ยอมให้หมาเข้าพัก ก็จะลอง walkin ตามรีสอร์ทหรือเลวร้ายที่สุดก็แค่ขับรถกลับบ้านเท่านั้นเอง.. แต่โชคดีที่นี่ต้อนรับหมา.. หาดสามพระยา หาดสามพระยา ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย และยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่นี่จะเป็นบริเวณของหาดทรายที่สวยงาม ร่มรื่น และเงียบสงบ ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จากเชิงเขาสูงไปจดปากคลองเขาแดง ที่สำคัญคือมีทิวสนขนานไปกับชายทะเลเป็นทิวแถว คอยให้ความร่มรื่น ทำให้ไม่ร้อนจนเกินไป.. อากาศช่วงปีใหม่นี้ถือว่าเย็นสบายมาก มีลมเบาๆ กลางคืนอากาศหนาวจับใจ..อยากจะอยู่ต่ออีกสักคืน แต่เจ้าหมาม่อนตื่นที่จนไม่เป็นอันนอน อาจจะแปลกที่นิดหน่อยกับการนอนเต็นท์ หลังจากสั่งอาหารจากร้านสวัสดิการมาทานเสร็จเรียบร้อย ก็เก็บของกลับบ้านครับ อ่อ..อาหารร้านสวัสดิการที่นี่รสชาติเป็นที่เลืองลือเลยนะครับว่าอร่อย และราคาไม่แพง ปิดท้ายด้วยบั้นท้ายลูกสาว..หมาม่อน ทริปหน้าว่ากันใหม่~

กางเต็นท์ ประจวบคีรีขันธ์ ม่อน หาดสามพระยา
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางอุ๋ง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 20 December 202024 September 2021

ปางอุ๋ง หลังจากออกจากปางมะผ้า ชุมชนหมู่บ้านจ่าโบ่ เราก็มุ่งหน้าสู่ปางอุ๋ง..เส้นทางที่แม้สวยงามเพียงใด แต่เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเส้นทางที่วิ่งไปตามเขา เราจึงขับรถไปด้วยความวิงเวียนพอสมควร ทั้งโค้งขึ้นและโค้งลงเขา จนในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง.. ปางอุ๋ง ปางอุ๋ง หรือชื่อเต็มก็คือ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนพม่ามีกองกำลังต่างๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระราชินีนาถจึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้น และพัฒนาความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ โดยมีพระราชประสงค์สร้างความมั่นคงแนวชายแดน พัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร ให้ดีขึ้นและฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไป ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ต้องไปปางอุ๋ง ไปเสพธรรมชาติและความงดงามของสายน้ำยามเช้า คอยลุ้นว่าจะมีหมอกบนสายน้ำมั้ย..อากาศที่ปางอุ๋งว่ากันว่าหนาวทั้งปี และครั้งนี้ก็หนาวจริง น้ำนี่เย็นเจี้ยบบบ ผมมาครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้พูดเต็มปากว่าได้มาแล้ว ที่ใครเคยพูดว่าปางอุ๋งสวย เราก็จะได้มาเห็นด้วยตัวเองว่าจริงมั้ย..ก็สวยจริงนะครับ แต่วันที่ผมมานั้นไม่มีหมอก T_T ข้อเสียอย่างหนึ่งของจุดกางเต๊นท์ที่นี่คือ ทำเลดีๆ สวยๆติดริมน้ำ ถูกเต๊นท์เช่าของเจ้าหน้าที่กางทิ้งไว้หมด จะมีนักท่องเที่ยวหรือไม่ก็ตาม เต๊นท์ก็จะกักที่ไว้อย่างนั้น วันที่ผมไปนักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมากนัก แต่เต๊นท์เช่าเหล่านั้นก็ถูกกางกักที่ไว้เช่นนั้น นอกจากจะกักที่ดีๆไว้แล้ว ยังมองดูเกะกะวิวสวยๆไปหมด เป็นไปได้ไหมครับว่าเต๊นท์เช่าเราไม่ต้องกางทิ้งไว้ รอเวลามีคนมาขอเช่าแล้วค่อยไปกางให้เขา ณ ตำแหน่งที่ผู้เช่าอยากให้กาง เต๊นท์เองก็จะไม่โทรมเร็ว และมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวคนอื่นบ้าง ครั้นจะไปกางเต๊นท์ในจุดที่ห่างจากผู้อื่น วิวสวย เงียบๆ แต่ก็จะไกลจากห้องน้ำมาก.. เช้าวันต่อมา หลังจากออกไปวิ่งเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร ผมกลับมาอาบน้ำในขณะที่น้ำเย็นมากกกกก ก .. แต่เหงื่อท่วมตัวแบบนี้ไม่อาบไม่ได้ครับ คนอื่นๆที่นั่งหนาวผิงไฟ ออกอากาศตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมอาบน้ำ หลังจากเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าเราก็บอกลาปางอุ๋ง.. ขากลับผมตั้งใจจะยิงยาวจากปางอุ๋ง ไปกรุงเทพเลยโดยไม่วนกลับมาทางเชียงใหม่ และเส้นทางที่เลือกนั่นคือ ไปทางแม่สะเหรี่ยง ถนนดี รถน้อย แต่ไกลกว่าและโค้งเยอะกว่ามากครับ ระหว่างทางก็เลยแวะร้านกาแฟเรื่อยๆ ออกเดินทางต่อเข้าสู่โหมดภูเขาและมหากาพย์โค้ง โค้งจนร้องขอชีวิต ในที่สุดก็มีจุดให้แวะเมื่อเราผ่านไปแล้วกว่าพันโค้ง!! ขับรถมาถึงแม่สอด ก็มืดค่ำพอดี ก็เลยต้องหาที่หลับที่นอนที่แม่สอดและระหว่างทางกว่าจะถึงที่พักนั่นก็ระทึกพอสมควรครับ แม่สอดเป็นอำเภอที่ติดกับชายแดนพม่า ถนนมืดสนิทด้านซ้ายเป็นเหว ด้านขวาเป็นภูเขาและราวกับว่าเราขับรถอยู่คนเดียวในหุบเขา นานๆจะมีรถสวนมาสักคัน..ถ้าใครกลับจากแม่ฮ่องสอนเพื่อเข้ากรุงเทพ ไม่แนะนำเส้นทางนี้นะครับ ~ เปลี่ยวเกิ้น จบละครับทริปแม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว เจอกันใหม่ทริปหน้า.. ปิดท้ายด้วยเส้นทางวิวสวยๆจากแม่สอด.

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางมะผ้า

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 19 December 202024 September 2021

วันที่ 3 ของการมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน หลังจากเก็บเต๊นท์และสัมภาระที่หยุนไหลใช้เวลาเกือบ 10 โมงกว่า เรามุ่งหน้าไปปางอุ๋งโดยปักหมุดพักกินข้าวเท่ียวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวยอดนิยมอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่” ระหว่างทางก็แวะเที่ยวแวะชิมกาแฟไปตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายนั่นคือ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ เวลาเที่ยงกว่าๆ จึงทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวจ่าโบ่คึกคัก มีลูกค้าหนาตา ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปายมากนัก ใช้เวลาเดินทางจากปายประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ขับรถจากปายตรงไปอีก 12 กิโลเมตร เจอแยกบ้านแม่ระนาเข้าไปยังหมู่บ้านขับรถตรงไปอีก 4 กิโลเมตร เส้นทางทำใหม่ราดยางตลอดทาง เมื่อมาถึงหมู่บ้านเราก็จะได้เจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของที่นี่ เพราะนอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยในราคาหลักสิบให้ได้ทานแล้ว มองไปรอบๆ จะเห็นว่าตั้งอยู่ในมุมที่เหมาะเจาะมองเห็นภูเขาที่สวยงามสลับซับซ้อน หลังจากอิ่มหน่ำสำราญทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวและกาแฟแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อ หนทางต่อจากนี้ไปปางอุ๋ง รับรองว่าใครธาตุอ่อนมีอ๊วกออกมาแน่นอน.. มันช่างคดเคี้ยวเลี้ยวลดจนเคลื่นไส้..

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่ จ่าโบ่ ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปาย-หยุนไหล

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 December 202024 September 2021

หลังจากออกจากห้วยน้ำดัง จุดหมายที่ตั้งใจไว้คืออำเภอปาย เราไม่ได้จองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์และอุปกรณ์ปิ้งย่าง ดังนั้นจุดที่เรากำลังมองหาคือจุด กางเต๊นท์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งที่มาเที่ยวปายครั้งแรก ผมประทับใจจุดกางเต๊นท์ตรงโป่งน้ำร้อนท่าปายมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง และน่าจะมีเพื่อนกางเต๊นท์เยอะไม่เหงาไม่น่ากลัว คิดได้ดังนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ระหว่างทางมีป้ายเล็กๆข้างถนนก่อนถึงโป่งน้ำร้อนท่าปาย “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” แวะไปห้อยขาซะหน่อย.. หลังจากอิ่มท้องก็ออกจากร้านและมุ่งหน้าโป่งน้ำร้อนท่าปาย..รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย (จริงๆก็ผิดหวังมากเลยละ) ความเป็นธรรมชาติแบบเมื่อก่อนหายไปหมดละ โป่งน้ำร้อนได้รับการทำให้เป็นกิจจะลักษณะด้วยการก่อปูนทุกบ่อ ดูเหมือนจะเจริญขึ้น แต่ทำไมผมไม่รู้สึกประทับใจ บรรยากาศโดยรวมดูเงียบเหงา อาจจะเพราะโควิดด้วยส่วนหนึ่ง พื้นที่ดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ถ้าจะกางเต๊นท์นอนที่นี่คืนนี้คงมีแต่เต๊นท์เราหลังเดียวให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจ เมื่อภาพในหัวไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ จึงต้องรีบหาที่พักใหม่ก่อนจะมืดค่ำ เราต้องการที่พักแบบกางเต๊นท์ จนในที่สุดก็มาสะดุดกับคำว่า “หยุนไหลทะเลหมอก” คำว่า “หยุนไหล” ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับภาพประกอบ ภาพที่มีจุดกางเต๊นท์อยู่บนพื้นที่สูงวิวแบบ 360 องศา มองลงมาเห็นอำเภอปายทั้งอำเภอ ไม่รอช้า..มุ่งหน้าไปทันที ขับออกจากอำเภอปายมาทางหมู่บ้านสันติชลประมาณ 30 นาที ทะลุผ่านหมู่บ้านสันติชลเข้าไปอีกครับ จะมีทางเข้าที่ต้องขับผ่านหมู่บ้านเป็นถนนเล็กๆ และเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะเห็นป้ายคำว่า “หยุนไหล” อยู่บนเนินเขาเล็กๆ หยุนไหล..จุดชมวิวทะเลหมอก และจุดกางเต๊นท์ ที่นี่มีบริการทั้งเต๊นท์ให้เช่าและเต๊นท์นำมากางเองครับ ถ้านำเต๊นท์มาเองอย่างผมค่าบริการอยู่ที่คนละ 100 บาทเท่านั้น มีห้องน้ำ จุดล้างภาชนะ รวมถึงปลั้กไฟให้ใช้ ส่วนวิวรับรองว่าคุ้มค่ามาก.. เช้าวันรุ่งขึ้นผมตั้งใจจะวิ่งซิตี้รัน เพื่อชมวิถีชาวบ้านแถวนี้สักหน่อย ประมาณ 6 โมงเช้าฟ้าเริ่มสาง ผมก็เริ่มวิ่งจากเขาลงมา และภาพต่อไปนี้คือภาพที่ได้จากการวิ่งซิตี้รันประมาณ 6 กิโลเมตร กลับจากวิ่งประมาณ 9 โมงแล้ว แดดเริ่มมาต้องรีบเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าจุดมุ่งหมายของเราต่อไป นั่นคือ “ปางอุ๋ง” ออกจากหยุนไหลละครับ ใครชอบกางเต๊นท์ที่นี่คืออีกทางเลือกหนึ่ง ช่วงนี้ไปยังไม่หนาวมากนักตกกลางคืนแค่ 15 องศา ชาวบ้านบอกว่าช่วงหนาวมากๆ มีต่ำกว่า 10 องศาแนะ โพสต์หน้าเจอกันที่ “ปางอุ๋ง”

ปาย หยุนไหล แม่ฮ่องสอน
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ห้วยน้ำดัง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 17 December 202024 September 2021

กลายเป็นประเพณีของผมไปซะแล้วครับ สำหรับการท่องเที่ยงทางเหนือช่วงหน้าหนาว จุดเริ่มต้นก็จะคล้ายๆกันทุกปี นั่นคือไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายที่ลำพูน หลังจากนั้นค่อยเลือกเป้าหมายต่อไปว่าจะไปไหน ปีที่แล้วไปอินทนนท์ ส่วนสำหรับปีนี้เราเลือก “แม่ฮ่องสอน“ แม่ฮ่องสอน พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน และยังคงเป็นป่าไม้ตามธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีเนื้อที่ป่าไม้ ประมาณ 10,976.979104 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,860,611.94 ไร่) คิดเป็นร้อยละ 85.99 ของเนื้อที่จังหวัด มีทิวเขาเรียงตามแนวทิศเหนือ–ใต้ขนานกัน  ดูจากข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นของจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว บันเทิงแน่นอนครับ การขับรถขึ้นลงเขาอันสลับซับซ้อนคดเคี้ยวเป็นตัวเอส ต้องมีความระมัดระวังสูงมาก ไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากนัก ผู้ที่มีธาตุเบาอาจมีการมึนหัวและอาเจียนได้ หลังจากไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางจากลำพูนตัดเชียงใหม่มุ่งสู่แม่ฮ่องสอน เป้นหมายแรกของวันนี้คืออำเภอยอดฮิตนั่นคือ ปาย ก่อนถึงปายมีร้านกาแฟเล็กอยู่บนยอดเขาระหว่างทาง เราพักกินน้ำกินท่าพอให้หายเมารถก่อน หลังจากได้พักดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย ก็เริ่มเดินทางต่อ และจุดหมายต่อมาของเราก็คือจุดชมวิวยอดฮิตอีกเช่นกัน อยู่ก่อนถึงอำเภอปาย นั่นคือ “ห้วยน้ำดัง” ห้วยน้ำดัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 112,187.5 ไร่ ภูมิศาสตร์เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำที่มีทัศนียภาพงดงาม มีความสูงตั้งแต่ 400-1,962 เมตร จากระดับน้ำทะเล โพสต์นี้ต้องจบตรงนี้ก่อน เรามัวแต่ดื่มด่ำกับธรรมชาติจนลืมไปว่าคืนนี้เรายังไม่มีที่นอน! ตอนต่อไปเราจะไปหาที่หลับที่นอนในอำเภอปายกัน…

ปาย แม่ฮ่องสอน
อ่านต่อ

บ้านสวนงาม 3 วัน 2 คืน

ท่องเที่ยว 1 October 20201 October 2020

หลังจากโควิดเข้ามาเมื่อต้นปี ทุกอย่างในประเทศหยุดชะงัก ทุกคนต้องถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย ช่วงเวลานั้นกินเวลาถึง 2-3 เดือน เราเรียกช่วงนั้นว่า “ช่วงกักกันตัว” ไม่ต้องพูดถึงการท่องเที่ยว เพราะแม้แต่ออกจากบ้านยังทำได้ยาก สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารทุกแห่งถูกสั่งปิดหมด และนี่คือทริปแรกหลังจากโควิดซาลง ร่วมคณะกับพี่ๆก๊วนตีแบดเบ็ดเสร็จชาวคณะรวมกันได้ 11 คน จุดหมายคือสวนงามรีสอร์ท สระบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอมวกเหล็กสระบุรีติดกับนครนายก แต่ก่อนจะเข้าพักนั้นแวะไปเที่ยวที่ตลาดหัวปลีของดีของจังหวัดสระบุรีก่อนครับ ที่นี่มีที่นั่งรับประทานอาหารกว้างขวาง ของกินพื้นบ้านมากมาย น่ามาเดินมาชิมมาช้อปครับ ประมาณบ่าย 3 โมงเข้ามาถึงที่พักครับ บรรยากาศก็เป็นไปตามภาพเลย ร่มรื่นเย็นสบาย.. สวนงามรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีบ้านให้พักแค่ 2 หลัง แต่มีกระเต๊นท์กระโจมรวมถึงรถบ้านให้บริการ เน้นให้คนมาเที่ยวแบบแคมปิ้ง กางเต๊นท์ทำอาหารกินเอง คณะเรามากันเยอะ เลยพักเป็นบ้านหลังใหญ่ กับรถบ้านอีกหนึ่งหลัง ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ เจ้าของใจดีและเป็นมิตรมากๆครับ เดินสอบถามพบปะกับผู้เข้ามาพักด้วยตัวเอง ดูแลอย่างทั่วถึง ใครขาดเหลืออะไรอยากสั่งหมูกระทะ ผ้าห่มที่หลับนอนไม่พอบอกแกได้ครับ 🙂

บ้านสวนงาม สระบุรี
อ่านต่อ

หมู่บ้านแม่กำปอง

ท่องเที่ยว 25 March 202025 March 2020

หมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก อยู่บนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ ลำธาร และน้ำตกอยู่ในตัวหมู่บ้าน ที่นี่ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ อพยพมาจาก อ.ดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้แม่น้ำลำธาร สมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ลักษณะดอกสีเหลืองแดง ขึ้นอยู่ตามริมลำธาร เรียกว่า ดอกกำปอง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ตามชื่อของ ดอกไม้รวม กับแม่น้ำ เป็นบ้านแม่กำปอง นั่นเอง เดินชมหมู่บ้านแม่กำปองกันครับ บรรยากาศยามค่ำคืน เนื่องจากเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เที่ยวก็จึงมีไม่มากนัก เที่ยว 1 วัน 1 คืนก็น่าจะทั่วหมู่บ้านละ จริงๆน้ำตกแม่กำปองให้เที่ยวด้วย แต่ทริปนี้ขออนุญาตผ่านก่อนเพราะชุดไม่พร้อมเดิน การเดินทาง รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้น 1141 ข้ามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง และ ภนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จากนั้นตรงต่อไปยังเส้น 1317 และต่อด้วย 3005 แล้ววิ่งขึ้นไปทางตำบลห้วยแก้ว ทางศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ระยะทางรวมประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ หรือถ้าออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทางฝั่งช้างเผือกและตลาดวโรรส ให้ออกเส้น 118 ถนนเชียงใหม่ – ดอยสะก็ด แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้น 3005

เชียงใหม่ แม่กำปอง
1 2 3 … 7

'สาระแนสิบล้อ' ติดอันดับหนังเสียดายตังค์แห่งปี

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 April 2010

พอดีไปอ่านบทวิจารณ์หนังเรื่อง “สาระแนสิบล้อ” มา  ก็เลยรู้สึกเห็นด้วย เพราะพึ่งไปดูมาเหมือนกัน !! เขาวิจารณ์ประมาณนี้อ่ะครับ “..ที่หนังโปรโมตตัวเองว่า “มีบท” นั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้จริงจังอะไร คือโดยตัวหนัง มันก็มีหัวมีท้าย แบบว่าจะเริ่มเรื่องยังไงและจะไปจบตรงไหนยังไง พูดง่ายๆ ก็คือหนังเขียนบทไว้แบบหลวมๆ เพื่อจะอัดสถานการณ์พิลึกพิลั่นลงไป เปรียบเทียบกัน มันก็คงคล้ายๆ กับหนังของของคุณหม่ำ จ๊กม๊ก อย่าง “วงษ์คำเหลา” ที่คิดพล็อตคร่าวๆ ให้มันมีตอนต้นตอนท้าย แล้วในระหว่างทางก็ “ตบมุก” ไปเรื่อยๆ หรือถ้าจะพูดให้ชัดขึ้น ผมว่า บางที ทีมสาระแนอาจจะแจ่มแจ้งแก่ตัวเองดีว่าไม่มี “ความสนใจ” มากพอที่จะสร้างสรรค์หนังที่ดีๆ เนียนๆ ได้ ก็เลย “หาทางออก” ด้วยการเลือกที่จะทำมันออกมาในลักษณะแบบบ้าๆ บวมๆ และมั่วแหลกกันไปเลย และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความหลุดโลกสุดเพี้ยน เพี้ยนตั้งแต่เนื้อหาที่พ่วงมากับวิธีคิดแบบทื่อๆ ตื้นๆ อย่างเช่น การจะเป็นลูกผู้ชายได้ต้องใช้ชีวิตหยาบๆ เถื่อนๆ อย่างการไปเที่ยวซ่อง หรือใช้กำลังตัดสิน (กระทืบคนแก่!!) เพี้ยนทั้งตัวละครและสิ่งของ ที่มีตั้งแต่ “แฝดนรกหัวติดกัน” (เสนาหอย, โก๊ะตี๋ อารามบอย) หรือแม้แต่รถสิบล้อที่กลายร่างเป็นหุ่นยนต์คนเหล็ก (ยืมวิชามาจาก Transformers แบบเต็มๆ) และเพี้ยนแม้กระทั่งสถานการณ์ในเรื่อง อย่างเช่น มีดกระเด็นไปเฉาะปากของน้าเชจนฟันหน้าหลุดหลอ, มีดเล่มเดิมนั้นผ่าลงหัวของคู่แฝดทำให้ทั้งคู่หลุดออกเป็นอิสระจากกัน และที่ต้องบอกว่า “บ้า” อย่างสุดกู่ ก็คือผีสาวเข้าสิงรถสิบล้อแล้วทำให้รถสิบล้อพูดได้แถมร้องไห้ซิกๆ นั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิด กว่าจะได้ไอเดียนี้มา (อันนี้ไม่ได้แขวะนะครับ แต่ทึ่งจริงๆ ว่าคิดได้ไง)..” สรุปง่ายๆว่า..เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้ว รู้สึกสึกเสียดายตังค์มากกกกๆๆ ..และตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ดูหนังของค่าย Luck film อีกแล้ว

อ่านต่อ

เที่ยวชุมพร 3 วัน 2 คืน

ท่องเที่ยว 20 February 201916 June 2019

ชุมพรเป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคใต้ ถ้าเดินทางจากกรุงเทพ จังหวัดชุมพรถือว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ติดกับประจวบคีรีขันธ์ แต่จังหวัดประจวบฯ ถือว่าเป็นภาคกลางตอนล่าง ยังไม่นับเป็นภาคใต้ .. การเดินทางไปชุมพรครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการไปเที่ยวภาคใต้ในรอบหลายสิบปี (ครั้งก่อนโน้นไปเที่ยวเกาะสุรินทร์ที่จังหวัดพังงา) เช่นเคยครับการเดินทางไปครั้งนี้ผมขับรถไปด้วยตัวเอง คืนแรกพักที่ ชลิชา รีสอร์ท  ตั้งอยู่กลางเมืองชุมพร เพราะตั้งใจว่าวันแรกจะเที่ยวในตัวเมืองชุมพรก่อน และคืนที่สองพักที่นานาบีช รีสอร์ท ติดทะเล ไหนๆก็มาทะเลแล้ว ก็ต้องลงทะเลซะหน่อย ชลิชา รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่เงียบสงบ สะอาด ราคาไม่แพง ข้อเสียคือไม่มีอาหารเช้า (หากต้องการอาหารเช้า ต้องเพิ่มเงิน) ที่นี่จึงเหมาะแก่การพักค้างหลังจากไปเที่ยวมาแล้ว  ไม่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเท่าไรนัก อยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 15 กิโลเมตร คืนที่สองนานาบีชรีสอร์ท มีที่พักทั้งแบบเป็นหลังและเป็นห้อง ราคาก็แตกต่างกันไป ..ผมได้แบบห้อง ข้อเสียคือ อยู่ชั้น 3 และแอร์ไม่ค่อยเย็น แต่ข้อดีคือมีสระว่ายน้ำ และติดทะเล! งานนี้จึงได้เล่นทั้งน้ำทะเลและน้ำในสระ มาทะเลทั้งทีก็ขออยู่กับทะเลให้หนำใจ ตอนเช้าๆ สำหรับคนที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย หาดทุ่งวัวแล่นที่มีระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร ถือเป็นที่วิ่งที่บรรยากาศดีไม่น้อย ทะเลอาจจะไม่สวยใสเท่าฝั่งอันดามัน แต่ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศทะเลที่ไม่พลุกพล่าน ขอแนะนำที่ชุมพรเลยครับ

ชุมพร หาดทุ่งวัวแล่น
อ่านต่อ

เที่ยวปราสาทหิน..ถิ่นพระเจ้าราเชนวรมัน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 January 201023 September 2016

ทริปเล็กๆ ในตอนปีใหม่ ระหว่างเดินทางไปตจว.ก็แวะเที่ยวเป็นระยะ ใครเคยไปคงพอเดาออกว่าที่ไหน ..ถ้าเดาไม่ออกจะเฉลยละกันนะครับ นี่คือ “ปราสาทพนมรุ้ง” ในวิกิพีเดีย กล่าวถึงพนมรุ้งไว้ว่า ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้งสูง 1,320 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชื่อพนมรุ้งแปลว่าภูเขาใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15-18 จารึกต่าง ๆ ที่นักวิชาการได้อ่านและแปลพอจะสรุปได้ว่า พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 3 กษัตริย์แห่งเมืองพระนคร (พ.ศ. 1487-1511) ได้สถาปนาเทวาลัยถวายพระอิศวรที่เขาพนมรุ้ง ซึ่งในสมัยแรก ๆ คงยังไม่ใหญ่โตนัก ต่อมาพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 (พ.ศ. 1511-1544) ได้ทรงอุทิศที่ดินและข้าทาสถวายแด่เทวสถานพนมรุ้ง ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 นเรนทราทิตย์ เจ้านายแห่งราชวงศ์มหิทรปุระที่ปกครองดินแดนแถบนี้ (ซึ่งเป็นต้นตระกูลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างนครวัด) ได้สร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นและได้ทรงบำเพ็ญพรตเป็นโยคี ณ ปราสาทพนมรุ้ง จากนั้นที่แวะยอดฮิตครับ วังน้ำเขียว พอดีเย็นมากแล้วยังไม่มีที่พัก ระหว่างทางแอบเห็นป้ายโฆษณารีสอร์ทต่างๆ เลยลองโทรสุ่มดู เผื่อยังมีที่ว่างให้ซุกหัวนอน ที่แรกก็ได้เลยครับ เจ้าของบอกว่า ความจริงไม่ว่าง แต่คนที่จองเขายกเลิก ห้องน้อยเลยตกเป็นของเรา ผมรีบบึ่งเข้าไปทันที .. นี่คือเจ้าของบ้าน เป็นแมวท้องโต เดินตามเราไม่หยุดเลย ถ้าจะถามว่า ปลายภูหมอก โอเคมั้ย เต็ม 10 ผมให้ 3 ครับ ทางเข้าก็แคบ ขรุขระ รถสวนกันไม่ได้เลย ถ้าบังเอิญมาปะกันระหว่างทางจะทำยังไง?? แอร์ไม่มี (แต่ตอนโทรคุยกันบอกมี) ไฟแสบตามาก อันนี้ผมรับไม่ได้สุดๆ พี่แกเน้นไฟสว่างรีสอร์ท รวมถึงตัวห้องแบบประหยัด ใช้ไฟตะเกียบ แบบสว่างจ้า แสบตามาก นอนดูทีวีบนเตียงต้องปิดไฟ จริงๆรีสอร์ทต้องมีไฟสลัวๆ หรี่ๆ แบบนุ่มๆ สบายตา อันนี้รับไม่ได้ๆ…

พนมรุ้ง
อ่านต่อ

KMUTNB Run Walk 2017

วิ่ง, สุขกะภาพ 21 August 20172 November 2017

เป็นรายการวิ่งที่พลาดเมื่อปีที่แล้ว เพราะตรงกับรายการวิ่งบนทางด่วนศรีรัช ปีนี้เลยบอกน้องที่หมู่บ้านไปว่า ถ้าหาเบอร์วิ่งได้หาให้ด้วย และเมื่อถึงวันวิ่งน้องก็หามาให้จนได้สมใจ

ทองขาว

ไดอารี่ 18 June 2011

หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่คือ “พฤกษาทาวน์” อยู่ถนนราชพฤกษ์และเป็นโครงการของพฤกษา บริษัทที่สร้างบ้านเยอะที่สุดและมีเรื่องให้พูดถึงในแง่ลบเยอะที่สุดเช่นกัน บ้านผมเป็นทาวน์โฮมครับ ถ้านึกภาพไม่ออกว่าทาวน์โฮมเป็นยังไง ก็ให้นึกถึงทาวน์เฮาทส์ ต่างแต่ว่าทาวน์โฮมสร้างไว้สำหรับอยู่อาศัยเป็นหลัก แต่ทาวน์เฮ้าสท์สร้างไว้ขายของและนิยมปลูกริมถนนใหญ่ แน่นอนทาวน์โฮมก็มีบ้านติดๆกันใช้กำแพงและฝาบ้านร่วมกัน ข้างบ้านผมเป็นคุณลุงคุณป้าวัยเกษียณใจดีทั้งคู่เอ็นดูเราเป็นลูกเป็นหลาน บ้านเราเลี้ยงหมาไทย แต่ชื่อฝรั่งชื่อจิกกี๋ ตัวสีดำ ส่วนลุงกะป้าเลี้ยงหมาบางแก้ว ชื่อไทยๆว่า “ทองขาว” แน่นอนตัวขาวอวบ ทั้งสองไม่ใช่เพื่อนรักกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกลียดกันมีคำรามใส่กันบ้างบางครั้ง ทองขาวอายุมากกว่าจิ๊กกี๋ 2  ปี ทั้งสองตัวแม้จะมีสีต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันมากนั่นคือ ความหวงบ้านและรักเจ้าของ ทุกครั้งที่มีใครมา ไม่ว่าจะเป็นหมาด้วยกันหรือคนแปลกหน้าผ่านมาหน้าบ้าน ทั้งสองจะกระโจนเห่าแสดงท่าทีดุร้ายใส่ทันที ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงต้องถูกล่ามไว้ในยามเจ้าของไม่อยู่ ทองขาวกับจิ๊กกี๋พึ่งย้ายมาอยู่บ้านนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งสองไม่ได้โตที่นี่ แต่ก็รักและหวงแหนที่นี่มาก ก่อนหน้านี้หน้าบ้านลุงกะป้าเป็นพื้นดิน ทองขาวจึงมาอาศัยอยู่หน้าบ้านได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าบ้านได้ถูกปรับปรุงเป็นพื้นระแนง ทองขาวจึงถูกจำกัดพี้นที่ให้อยู่จำเพาะข้างบ้าน และนับตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอและไม่ค่อยได้ยินเสียงทองขาวอีกเลย ใครจะรู้เล่าว่าเราไม่มีโอกาสได้ยินเสียงมันอีกแล้วตลอดไป ทองขาวมีโรคแทรกซ้อนประกอบกับกำลังก้าวสู่วัยชรา เมื่อคืนนี้หลังจากลุงกับป้ากลับจากทำธุระนอกบ้าน พบว่าทองขาวได้นอนสิ้นใจแล้ว นับจากนี้หน้าที่ดูแลบ้านทั้งสองหลังคงมอบหมายภาระหน้าที่ให้แก่จิกกี๋แต่เพียงผู้เดียว ปล.ภาพประกอบจากFlickr

จิ๊กกี๋ ทองขาว

อดีตนายกของไทยคนที่ ๒๕

เรื่องทั่วไป 25 November 2009

หน้าหนังสือพิมพ์วันนี้ข่าวใหญ่พาดหัวคือ การถึงแก่อสัญกรรมของ ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกคนที่ 25 ของประเทศไทย ประวัติและความยิ่งใหญ่ของท่าน คงไม่ต้องมาเล่าซ้ำกันมากมาย เพราะหลายบล็อกหลายเว็บ หลายหน้าหนังสือพิมพ์ตลอดจนหน้าจอทีวีหลายช่องก็ได้นำเสนออย่างครบถ้วนกระบวนความ ผมแค่อยากบันทึกส่วนหนึ่งนี้ไว้ในความทรงจำของบล็อกนี้เท่านั้น จำได้ว่าในบล็อกของผมได้กล่าวถึงท่านสมัครแค่ครั้งเดียวสั้นๆ ในตอนที่ท่านเป็นนายก(อ่าน) แม้เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆที่ท่านเป็นนายก แต่ก็สร้างปรากฏการณ์อะไรหลายๆอย่าง แม้ในอดีตท่านจะมีความยิ่งใหญ่ในการสร้างประโยชน์แก่บ้านเมือง ตำแหน่งแห่งหนที่ใหญ่โต แต่ตำแหน่งสุดท้ายที่ถือว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิต(คือตำแหน่งนายก)นั้น กลับไม่ค่อยสง่างามเท่าที่ควรในสายตาของคนไทยหลายๆคน เพราะท่านประกาศชัดเจนว่าเป็นนอมินีของอดีตนายกทักษิณ และหลังจากที่ท่านได้ตำแหน่งนายก ท่านก็ได้แสดงตัวชัดเจนว่าเป็นนอมินี แต่ที่แปลกคือท่านกลับปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นนอมินีให้ใคร ไม่ได้ปกป้องใคร ฯลฯ ท่านเป็นนายกที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นสื่อ แต่พอเป็นนายกกลับประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับสื่อ คงจำกันได้ในสมัยนั้น ท่านด่าสื่อชนิดไม่ไว้หน้า ด่าออกทีวี ด่าออกโทรทัศน์ ถ้าสามารถด่าออกตู้เย็นและเครื่องซักผ้าได้ ท่านก็คงทำ   ความดุเด็ดเผ็ดมันส์ของคำด่านั้น ไม่ต้องบรรยายให้น่ากลัวซ้ำ ว่ากันว่า นักข่าวแทบทิ้งไมค์วิ่งร้องไห้กลับบ้าน (ถ้าสติไม่ดีพอ) เพราะนอกจากคำพูดที่ดุดันแล้ว สีหน้าสีตาท่าน ทำราวกับจะกินเลือดกินเนื้อผู้สื่อข่าวให้ได้ นั่นคือส่วนหนึ่งเล็กๆในช่วงที่ท่านเป็นนายก แต่ก่อนนั้นท่านได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย ท่านยังมีสถิติเสียงสูงสุดในการเลือกตั้งผู้ว่า ที่ยังหาใครมาทำลายสถิตินี้ไม่ได้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่ท่านสมัคร วันนี้จึงขอนำคลิปเพลงที่ท่านเคยร้องมาแปะไว้ เพลงของสุนทราภรณ์ วงดนตรีที่ท่านโปรดปราน มีเนื้อหาที่ให้คติและแนวคิดสอนใจได้อย่างดี ขอให้ท่านไปสู่สุคติ ณ ดินแดนแห่งความสงบ

นายก

ไว้อาลัย..ไมเคิล

เรื่องทั่วไป 26 June 2009

ปีนี้มีคนดังๆตายกันเยอะ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีดาราดังแห่งฮอลลีวูดมาสิ้นใจตายที่เมืองไทย ด้วยความตายที่สร้างความกังขา ผ่านไปไม่นานก็มาถึงความตายของคนดังอีกคน วันนี้ ทุกสื่อต่างพูดถึงข่าวการตายของราชาเพลงป็อบอย่าง ไมเคิล แจ็คสัน หลายคนช็อคกับข่าวนี้ครับ โดยเฉพาะคนอเมริกันคลั่งไคล้ไมเคิลมาก บูชาเป็นดั่งเทพ ถ้าได้ศึกษาประวัติของไมเคิลตั้งแต่เด็ก จนถึงเติบใหญ่ ได้เห็นความสามารถของเขา ก็ไม่น่าแปลกใจที่คนเหล่านั้นบูชาไมเคิลขนาดนั้น ไมเคิล คือ อัจฉริยบุรุษ เขาเริ่มต้นอาชีพนักดนตรีในฐานะนักร้องนำของวง The Jackson 5 เมื่ออายุได้เพียง 7 ปี และได้ออกงานเดี่ยวชิ้นแรกในอัลบั้ม Got to Be There ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2514 ในขณะที่ยังเป็นสมาชิกของวง The Jackson 5 อยู่และมีอายุเพียง 11 ปี ไมเคิล แจ็กสันก็สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงมาครองได้มากถึง 3 เพลงฮิตแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของราชาเพลงป็อบที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุดที่สุดของชีวิตที่คนๆหนึ่งจะพึงถึงได้ แต่จะอย่างไร ไมเคิลก็ไม่สามารถล่วงพ้นกฏของไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ไปได้ เมื่อถึงจุดสูงสุด ก็เริ่มร่วงโรย ไมเคิลมีข่าวอื้อฉาวมากมาย จนแทบจะล้มละลายหลายต่อหลายครั้ง ด้วยหนี้สินที่มากมาย การใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย การใช้เงินไปกับการดูแลรักษาความงาม การรักษาโรคประจำตัว และที่อื้อฉาวที่สุดคือดคีล่วงละเมิดเด็ก แต่ถึงจะอย่างไร คนอเมริกันหรือแฟนคลับของไมเคิลทั่วโลก ก็ยังชื่นชอบคลั่งไคล้ไมเคิลอย่างไม่สร่างซา ณ วันนี้ ถึงแม้ไมเคิลจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่ตำนานราชาเพลงป็อบของเขาคงจะอยู่คู่กับโลกไปอีกนาน ควบคู่กับตำนานเพลงร็อคของ เอวิส เพรสลีย์ ข่าวคราวและประวัติของไมเคิลหลายคนรู้จักมามากแล้ว วันนี้ไม่ได้เขียนถึงเพื่อเล่าประวัติ เพียงแค่อยากสลักไว้ในบล็อกถึงตำนานอันยิ่งใหญ่ของไมเคิล เพื่อเป็นเกียรติแก่บล็อกเล็กๆแห่งนี้เท่านั้น.. ขอไว้อาลัย แด่…ราชาเพลงป็อบผู้ยิ่งใหญ่ ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน ป.ล. ตอนนี้คนทั้งโลกกำลังไว้อาลัยแด่ไมเคิล ด้วยการใส่ผ้าปิดหน้าเหมือนไมเคิล

อ่านต่อ

พระเจ้าสร้างคนไทย(จริงหรือ)~

เรื่องทั่วไป 16 May 201114 May 2016

ก็ไม่รู้ว่าใครแต่งเรื่องนี้อ่ะนะครับ แต่หลายๆเรื่องในปัจจุบันที่เกิดในบ้านเมืองเรา เห็นแล้วก็ได้แต่ เฮ้อ ..ๆ ๆ  ๆ  บ้านเมืองอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่เคยไป แต่เมืองไทย มีข่าว ..ขโมยสายไฟ ขโมยเสาธง ขโมยพระพุทธรูป ขโมยล้อรถ ขโมย ๆ ๆ ๆ ..ๆ  มีข่าวแปลกๆ ข่าวห่าเหวอะไรมากมายในทุกวงการ เมืองไทยที่เมื่อก่อนเคยทัดเทียมกับญี่ปุ่น ก็ถูกญี่ปุ่นทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น ปัจจุบันกำลังจะถูกเวียดนามหรือลาวแซงหน้า และล่าสุดถูกเขมรตีหัว!! เมืองไทยเราโชคดี..แต่พวกเราๆเองไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี พออ่านเมล์ฟอร์เวิร์ด(ด้านล่างนี้) ก็เลยเกิดอาการเห็นด้วย ฤๅพระเจ้าสร้างเรามาแบบนั้นจริงๆ ..ลองอ่านดูครับ (ไม่รู้ใครแต่งแต่โดน) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ ทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกาแล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล แต่ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้ด้วย เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาลเพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้ด้วย ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ทั้งหมด…..จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน คราวนี้พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีนทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาดข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้าคิดว่าประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆจะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้ เมื่อคิดได้เพื่อเป็นการป้องกัน ประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้างคนไทยขึ้นมา!!

คนไทย พระเจ้า

When We Were Just Kids

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 14 January 201019 September 2016

เก็บตกจาก “วันเด็กแห่งชาติ” ก่อนวันเด็กหนึ่งวัน ได้รับtweet จากคุณสุทธิชัย @suthichai ว่า ผู้ที่follows แก  หากใครมีรูปสมัยเป็นเด็กๆ ให้ส่งให้แกในวันนี้ จะได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ The Nation ฉบับวันเด็ก ผมรีบส่งไปร่วมสนุกทันที ด้วยภาพสมัยเด็กภาพเดียวที่มีอยู่  มันคือภาพนี้ ความจริงภาพไม่ได้เก่ากึ๊กขนาดนี้หรอกครับ ผมใช้โปรแกรม PhotoScape ช่วยอีกแรงหนึ่งให้มันเก่ายิ่งขึ้น ใครเห็นภาพนี้ก็มีแต่คนบอกว่า เหมือนเด็กพม่าหนีเข้าเมือง แบกกราวด์ด้านหลังเป็นเด็กนักเรียนเข้าแถวยาว ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่ ความจริงภาพนี้ ถ่ายโดยฝรั่งใจดีที่ปีหนึ่งเขาจะมาแถวหมู่บ้านสักครั้งหนึ่ง พร้อมด้วยผลไม้ ขนมมาแจกเด็กๆในวันคริสมาต์ ถ่ายปีนี้ แล้วนำรูปมาให้ในปีถัดไป ได้เจอแกอยู่ 3 ปี ได้ภาพแบบนี้มา 3 ใบ หลังจากนั้นไม่เจอแกอีกเลย วกมาเรื่องคุณสิทธิชัย ..หลังจากส่งรูปไป ก็ได้ตีลงในหนังสือพิมพ์ฉบับวันเด็กจริงๆครับ ได้ลงหนังสือพิมพ์ครั้งแรกในชีวิตก็ครั้งนี้แหละ (555) ถ้าอยากดูภาพหนังสือพิมพ์แบบเต็มๆ คลิกที่นี่เลยครับ

อ่านต่อ

City run วิ่งชมเมือง สาทร – วงเวียนใหญ่

วิ่ง, สุขกะภาพ 24 April 201924 March 2020

City Run คือการวิ่งออกกำลังกายนอกสถานที่ครับ วิ่งไปตามตรอกซอกซอย หรือเส้นทางที่คับแคบไม่มีรถและคนจอแจ กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีตรอกซอกซอยจุดเล็กจุดน้อยเยอะมาก ถึงจะอยู่กรุงเทพเป็นสิบๆปีแต่รับรองเลยว่ามีอีกหลายที่ๆเราไม่เคยเห็นหรือไม่เคยไปถึง การวิ่ง city run จะทำให้เข้าถึงสถานที่เหล่านั้นได้ การวิ่ง city run ครั้งนี้เส้นทางเน้นเลียบไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาครับ เริ่มต้นที่สะพานสาทร ลัดเลาะไปตามแม่น้ำจนถึงวัดอรุณและไปจบที่วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์ชัยพระเจ้าตากสิน สำหรับท่านที่ไม่เคยไปกราบสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินที่วงเวียนใหญ่นะครับ วิธีเข้าไปข้างในต้องลอดใต้อุโมงค์ อุโมงค์อยู่ขวามือถ้าไปจากสะพานพุทธ ครั้งหน้าไปวิ่ง cityrun ที่ไหนค่อยว่ากันครับ

cityrun วิ่ง

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (57)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (69)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH