ผู้ร่วมงาน

ผมเปิดประตูเข้าร้านเซเว่นสาขาเยาวราช พนักงานสาววัย 18 ดี หน้าตาดีคนเดิมร้องทักอย่างอัตโนมัติทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด ขณะที่กำลังง่วนกับการคิดเงินแก่ลูกค้าที่รอจ่ายตังค์อีกคนหนึ่ง

ผม เดินผ่านชั้นวางสินค้าทุกอย่างไปยืนหน้าตู้แช่น้ำกระป๋อง เปิดตู้อย่างช้า ๆ หยิบสิ่งที่ต้องการเสร็จสรรพ จ่ายตังค์ที่เคาน์เตอร์ และกล่าวคำว่า “ไม่” เมื่อพนักงานสาววัย 18 ปีคนเดิมยืนข้อเสนอเดิมๆ “รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มมั้ยค่ะ”

ผมเดินออกจากร้านเซเว่นโดยมีเครื่อง ดิ่มในมือ ทิ้งตัวลงนั่งข้างทางริมฟุธบาท เย็นนี้คนไม่เยอะ อาม่าแก่ ๆ วัย 70 ต้น ๆ ออกมาเดินออกกำลังกายแต่เช้า แกทักทายผมด้วยรอยยิ้ม ผมใช้นิ้วดึงสลักกระป๋องเครื่องดื่มยกมันจ่อริมฝีปาก ก่อนกระดกลงคออย่างกล้ำกลืน

ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม แม้เครื่องดื่มในมือจนแห้งกระป๋องแล้วก็ตาม คนเก็บขยะขายถือวิสาสะหยิบกระป๋องเปล่าจากมือผม แล้วใช้เท้าเหยียบให้บี้แบนต่อหน้าด้วยอาการอันกักขฬะ ก่อนเก็บกระป๋องอันบี้แบนเท่าฝ่ามือเด็กใส่ถุงสืบเท้าก้าวเดินต่อไปอย่างไม่สนใจ

ผมกลับเข้าไปในร้านเซเว่นอีกครั้งหนึ่ง เธอพนักงานสาววัย 18 ปีคนเดิมทักทายด้วยสายตา และสีหน้าที่ไม่ได้มองลูกค้าเช่นเดิม
“จะรับอะไรดีค๊า” เธอเอ่ยถามเมื่อผมยืนหน้าเคาน์เตอร์
“มีเงินเท่าไรเอามาให้หมด..” ผมกล่าวเสียงเรียบสีหน้านิ่ง
เธอประหวั่นพรันพรึ่ง ทำอะไรไม่ถูก มองหน้าผม เหมือนกับไม่เชื่อกับสิ่งที่ผมได้พูดออกไป พนักงานผู้ชายอีกคนกำลังจัดของในร้านโดยไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิด ขึ้น โชคดีในร้านยังไม่มีใคร ก็แหงละสิ จากข้อมูลที่ได้ ช่วงเวลานี้ คือช่วงเวลาที่คนเข้าน้อยที่สุด

พนักงานสาวสวยวัย 18 ปีเก็บเงินในลิ้นชักด้วยอาการสั่นงันงก บรรจงใส่ลงในกระเป๋าที่ผมเตรียมมาให้ ขณะที่เงินปึกสุดท้ายกำลังถูกยัดใส่ในกระเป๋า พนักงานชายอีกคนก็เดินเข้ามา
“ทำอะไรน่ะ”
“ไม่มีอะไร กูมาขอเงินใช้วะ มึงรีบไปช่วยน้องเขาเก็บเงิน” ผมพูดพลางชี้วัตถุสีดำในมือไปที่หน้าพนักงานชาย มันคือปืนอัดลมขนาดเท่าของจริง กระทั่งผมเองยังเชื่อว่ามันคือของจริง

ทันใด พนักงานชายเลือดนักสู้หยิบขวดน้ำอัดลมขนาดใหญ่ ฟาดใส่กลางศีรษะผมแต่มันง่ายไปผมเบี่ยงตัวลมอย่างรู้ทัน ขวดหลุดจากมือล่วงลงพื้น แตกกระจาย ผมใช้กระบอกปืนอัดลมฟาดไปที่ใบหน้าอย่างจัง จนร่างหงายไปข้างหลัง นอนแน่นิ่งไป ขณะจะหยิบกระเป๋าที่ถูกอัดแน่นด้วยแบงค์ ศีรษะผมก็ถูกฟาดด้วยวัตถุอันแข็ง แต่ไม่แรงนัก

เธอนั่นเอง พนักงานสาวสวยวัย 18 ปี แรงหญิงแม้ไม่หนักขนาดให้ผมสลบ แต่ก็ทำให้เลือดสดๆไหลมาได้ ผมรวบรวมสติ หยิบกระเป๋าสีดำ พยุงตัวเองยืนขึ้น พนักงานสาวสวยวัย 18 ปี วิ่งปรี่จากเคาน์เตอร์เพื่อหวังจะฟาดซ้ำสอง แต่ช้าไปเสียแล้ว ผมยืนตัวตรงจับข้อมือเธอไว้อย่างถนัด ท่อนเหล็กสีดำในมือเธอร่วงเคร้ง เธอจ้องหน้าผมอย่างประหวั่น ตัวสั่นเทา พยายามหนีจากการรั้งตัวไว้ อาการเจ็บบนศีรษะทำให้โทสะผมพล่าน หมัดดุ้นๆกระแทกลงที่ใบหน้าเธอ เธอถึงกับหงายหลังแน่นิ่งไปอีกคน

ผมหยิบกระเป๋าสีดำ แล้วเดินออกจากร้านไปคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือ เหตุการณ์เมื่อสักครู่ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที และใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ผมก็ถึงบ้านที่พัก จัดการเช็ดคราบเลือด และล้างแผลเสร็จสรรพก็มานั่งนับเงิน ไม่รู้วันนี้เงินจะคุ้มกับค่าทำแผลหรือเปล่า เพราะต้องแบ่งครึ่งกับเพื่อนร่วมงานอีกคน อีกไม่ถึงชั่วโมงเพื่อนร่วมงานคงเดินทางมาถึง คงอยากทราบแล้วใช่มั้ยละครับว่าเพื่อนร่วมงานของผมเป็นใคร

พูดยังไม่ขาดคำก็มาพอดีเลย

“อาม่า นี่ส่วนของม่านะ ขออั้วมาหน่อยนะวันนี้ ค่าทำแผลบนหัว”

อาม่าตอบรับด้วยสายตา และรอยยิ้ม แกหยิบเงินส่วนแบ่งแล้วเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ หน้าที่ของแกก็คือไปเฝ้าสังเกตการณ์เป้าหมายที่จะปล้นอย่างน้อย 1 อาทิตย์ ข้อมูลเวลาคนเข้าออกร้านทั้งหมดมีค่าอย่างยิ่งสำหรับมิจฉาชีพอย่างผม ..

ถ้าใครเห็นอาม่าแก่ ๆ ผมสีขาว ท่าทางใจดีเดินป้วนเปี้ยนๆอยู่แถวไหน ให้เดาได้เลย หลังจากนั้นไม่เกินอาทิตย์หนึ่งจะเกิดโจรกรรมเล็ก ๆ ขึ้น .

แล้วพบกันครับ

ภาพประกอบจาก : Scottie Scheid on Unsplash