.
.
– กระดาษ –
กระดาษแผ่นนั้นเองที่เธอถืออยู่ไม่ยอมวางตั้งแต่เช้า
เธอทะนุถนอมราวกับว่ามันจะปลิวหายไปกับสายลมเพียงเพราะถ้ามันหลุดออกจากมือ สีหน้าที่ประทินโฉมด้วยเครื่องสำอางบรรดามี กลับไม่สามารถปกปิดร่องรอยแห่งความกังวล
กระดาษใบนั้นมันแค่โพสอิทธรรมดา แต่ทว่าข้อความข้างในคงจะซ่อนเรื่องราวบางอย่างไว้จนทำให้เธอเครียดถึงเพียงนี้
เธอแอบเปิดดูเป็นครั้งคราวราวกับไม่แน่ใจในข้อความนั้น
ข้อความนี้คืออะไร ทำไมสร้างความลำบากใจมากมายเหลือเกิน
เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อเช้า..
เช้าที่เธอมาทำงานเหมือนเช่นทุกวัน ใครเลยจะรู้ว่าวันนี้มีบางอย่างรอเธออยู่
หลังจากลิฟท์พาเธอมายังชั้น 16 ที่เธอทำงานและเดินผ่านโต๊ะทำงานทั้งหลายจนมาหยุดที่โต๊ะทำงานตัวเอง เมื่อขยับเก้าอี้ออก สายตาเธอต้องสะดุดกับกระดาษโพสอิทที่หล่นอยู่ใต้โต๊ะ
เธอหยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัย นาทีนั้นเองที่เธอเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง แววตาเศร้า และแทนที่จะนั่งลงกลับผลุนผลันออกไปทันที
บัดนี้เบื้องหน้าเธอคือต้นชมพูขนาดใหญ่สองคนโอบกลางสวนสาธารณะที่คนมักใช้เป็นที่ผ่อนคลาย ออกกำลัง หรือนั่งเล่น
หญิงสาวยืนมือออกอย่างช้าๆ สัมผัสลงที่พื้นผิวอันขรุขระของต้นไม้ สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้า แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา เธอกำลังร้องไห้
และทันใดนั่นเอง กระดาษโพสอิทที่เธอถือมาด้วยหลุดหล่นจากมือ เผยให้เห็นข้อความบนกระดาษแผ่นนั้นอย่างขัดเจน
“ณ ที่แห่งนี้เป็นที่ของเรา”
.
.
.
.
– ความรัก –
เมื่อคนสองคนที่มีใจตรงกัน พูดภาษาเดียวกัน พร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้กันและกัน อุปสรรคใดๆดูจะเป็นเรื่องเล็ก เธอและเขาพร้อมจะก้าวข้ามมันไปด้วยกัน
ทุกๆวันที่ผ่านทั้งเธอและเขามอบแต่สิ่งดีให้กัน และสิ่งที่ดีที่สุดที่มีค่ามากกว่าเงินก็คือความรัก ทั้งสองพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความรักของเธอและเขานั้นบริสุทธิ์งดงาม และมีค่าแค่ไหน
วันหนึ่งขณะที่ทั้งคู่พักผ่อนใต้ต้นชมพูกลางสวนสาธารณะนั้น ฝ่ายชายเกิดคิดว่าเราควรจะมีสักขีพยานในความรักครั้งนี้ของเราสองคน และต้นชมพูใหญ่อันร่มรื่นนี้ดูจะมีอายุมากเปรียบกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้ความร่มเย็นแก่ลูกหลานมาเป็นเวลาช้านาน ดังนั้น ต้นชมพูใหญ่เป็นตัวแทนของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ขอจงเป็นสักขีพยานในความรักของเธอและเขาในครั้งนี้ด้วยเถิด
พูดจบทั้งคู่ก็โอบกอดต้นชมพู่ด้วยใจที่ชื่นบานมีความสุข
“ความรักของเราจะสวยงามและยั่งยืนยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับต้นชมพูนี้”
แทนการสลักข้อความลงบนต้นไม้ ชายหนุ่มหยิบกระดาษโพสอิทออกมา เขียนข้อความในใจ
แผ่นที่ 1
“รักของเรา..ตลอดไป”
แผ่นที่ 2
“เราจะไม่แยกจากกัน”
แผ่นที่ 3
“ณ ที่แห่งนี้เป็นที่ของเรา”
.
.
.
– ความเปลี่ยนแปลง –
โลกนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
สัจธรรมที่ทุกคนต้องพบเจอไม่ช้าก็เร็ว นั่นคือ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
เมื่อเวลาผ่านไปหญิงสาวก็เริ่มเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ชัดเจนขึ้น แต่ที่เธอไม่เข้าใจคือเร็วไปไหมกับเวลาเพียง 1 ปีที่เขาเปลี่ยนไป คิดอีกมุมหนึ่งก็ดี ที่เธอกับเขาจะไม่ต้องเสียเวลากันไปมากกว่านี้
เขาไม่เหมือนเดิม
เขาเปลี่ยนไป
จากเคยถามไถ่ กลับห่างเหิน
จากจับมือเดิน กลับต้องเดินคนเดียว
ในที่สุดทั้งคู่ก็สุดจะรั้งความสัมพันธ์นี้ไปได้ต่อ หญิงสาวแม้จะทำใจไว้นานแล้ว แต่ในวันที่จากลากลับไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ขณะที่ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาเดินหายไปในกลุ่มคนราวเป็นเรื่องปกติ
.
.
.
– การจากลา –
เมื่อเวลาผ่านไปชายหนุ่มก็เริ่มเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ชัดเจนขึ้น แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือเร็วไปไหมกับเวลาเพียง 1 ปีที่เขากำลังมีความสุขด้วยความรักซึ่งนับวันจะยิ่งเพิ่มขึ้นทุกที ทุกที
หลังได้รับการตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เขาบ่นตัดพ้อกับโชคชะตา ร้องไห้ฟูมฟายอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน เขาควรบอกเธอดีไหม เขาถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดก็ได้คำตอบให้กับตัวเองว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ เธอไม่ควรต้องมารับเคราะห์กับความโชคร้ายของเขา
เก็บเอาความเสียใจไว้ในใจแต่ผู้เดียว เพื่อให้การจากลาเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เขาต้องทำให้เธอตัดใจจากเขาให้เร็วที่สุด
เขาเริ่มไม่เหมือนเดิม
เขาเริ่มเปลี่ยนไป
จากที่เคยถามไถ่ ต้องข่มใจร้องไห้คนเดียว
จากที่เดินเคียงคู่ ต้องแอบเฝ้าดูอยู่ห่างๆ
หากน้ำตาสามารถเก็บบรรจุขวดใส่ขวดได้ ห้องพักของเขาคงเต็มไปด้วยขวดน้ำตาที่เขาหลั่งออกมาทุกค่ำคืนตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา
เมื่อถึงวันที่ต้องปิดฉากรัก หลังกล่าวอำลาเขารีบเบือนหน้าเดินหนีเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกและร่องรอยของน้ำตาที่ไม่อาจกลั้นได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถแม้แต่จะหันกลับมามอง เพราะเกรงว่าความพยายามที่ผ่านมาจะสูญเปล่า
โชคชะตานำพาเรามาได้เท่านี้
โชคดีนะ..ที่รัก
หลังจากลาจากเธอวันนั้น เพียงระยะเวลาไม่ถึงปี เขาก็ต้องลาจากร่างนี้ไปเช่นกัน ได้แต่หวังว่าความลับนี้จะตายไปพร้อมกับเขา
ชายหนุ่มอาจจะลืมไป
ความลับไม่มีในโลก โดยเฉพาะโลกของโซเชี่ยล
เมื่อหญิงสาวเห็นข่าวการตายของอดีตคนรักผ่านโซเชี่ยล รายละเอียดและสาเหตุการตายทำให้หญิงสาวสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ไม่ยากนัก โทรศัพท์หล่นจากมือโดยไม่รู้ตัว ตัวเย็น มือสั่น และพูดจาไม่รู้เรื่อง เหมือนโลกนี้หยุดนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
เธอหวนระลึกถึงคืนวันที่ผ่านมาที่เธอทั้งเสียใจ ทั้งรัก ทั้งเกลียดเขาผู้ทิ้งเธอไว้กลางทางเช่นนี้ แต่เมื่อรู้ความจริงว่าผู้ชายที่ทิ้งเธอไปนั้น เขาต้องเจ็บช้ำและปวดร้าวเพียงใด เขาต้องตายอย่างโดดเดี่ยวไร้คนรัก เพียงแค่หวังจะให้คนที่เขารักที่สุดได้พบชีวิตที่ดีที่สุด
โชคชะตาช่างโหดร้ายกับเขาเหลือเกิน ระยะเวลาที่รู้จักและได้รักกันแสนสั้นเหลือเกิน แต่เวลาที่ต้องลาจากกลับกลายเป็นนิรันดร์
พบกันน้อยนิด..จากกันเนิ่นนาน
แม้จะผ่านเวลามานาน แต่กระดาษโพสอิทแผ่นนั้นยังคงเตือนความทรงจำอยู่เสมอ เธอต้องเข้มแข้งและก้าวไปข้างหน้าให้สมกับที่เขาอยากให้เธอเป็น
เขาจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอเช่นกัน เธอรู้สึกเช่นนั้น.
.
.