ความขี้เกียจ ~ กิเลสที่นอนเนื่องในสันดาน

เสาร์นี้ เป็นเสาร์ที่น่าเบื่อ
นั่งทำงานด้วยความเบื่อ และขี้เกียจ ความรู้สึกขี้เกียจ ในหนังสือ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค ของทันตแพทย์สม สุจิรา บอกไว้ว่า เป็นความรู้สึกลบที่ต้องกำจัดทิ้ง
เพราะความรู้สึกลบ จะดึงดูดสิ่งที่ลบเข้ามาตามกฏแห่งการดึงดูด และที่ร้ายไปกว่านั้น ความรู้สึกลบนี้อาจจะถูกฝังไว้ในจิตใต้สำนึก นั่นหมายถึง ไอ้เจ้าความรู้สึกลบนี้อาจจะอยู่กับเราไปอีกนานเท่านั้น ข้ามภพข้ามชาติไปเลยทีเดียว

ทีนี้ กลับมาถามตัวเองต่อ เราชอบมั้ยละ ความขี้เกียจนี้
ปล่าวเลย เราไม่ชอบ และเรารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันไม่ดี ดังนั้น ต้องรีบสร้างความรู้สึกขยัน มุ่งมั่น  และที่สำคัญต้องสร้างแรงจูงใจ สร้างแรงขับให้ได้  ทันตแพทย์สม สุจิรา เขียนไว้ว่า

“โดยปกติการคิดถึงแรงจูงใจ จะเกิดความสุขมากกว่า การคิดถึงแรงขับ  ดังนั้นคนที่จมปลักอยู่กับความทุกข์ โดยไม่มีแรงจูงใจ  ยากที่จะประสบความสำเร็จ  แรงขับเพียงอย่างเดียว กำหนดทิศทางชีวิตในอนาคตยาก  เช่นเดียวกับการยิงขีปนาวุธ ถ้ายิงด้วยแรงขับจากดินปืนเพียงอย่างเดียว โอกาสไม่ถูกเป้าหมายมีสูงมาก เพราะควบคุมทิศทางไม่ได้  แต่เมื่อใดที่ใช้ขีปนาวุธนำวิถี ก็เหมือนกับ เป้าหมายเป็นตัวดูดให้ขีปนาวุธนั้นวิ่งเข้าไปหาด้วย  โอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก   แรงผลักกำหนดทิศทางยากกว่าแรงดูด  ดังนั้นในวิถีชีวิตก็เช่นกัน  พยายามมองหาแรงจูงใจให้พบ  มิฉะนั้นแรงขับที่มีอยู่ก็ปราศจากประโยชน์..”
(เนื้อความส่วนนี้ เป็นตัวอย่างหนังสือ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค เล่ม ๒ อยากอ่านคลิกที่นี่)

ช่วงนี้คลั่งหนังสือของทันตแพทย์สม สุจิรามาก ตั้งแต่ ตอบปัญหาวิชาโลก, ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น, เจาะตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค ตั้งใจจะอ่านให้ครบเซ็ตของแกซะหน่อย เหลืออีกไม่กี่เล่ม (ตอบปัญหาวิชาใจ, ตอบปัญหาวิชาชีวิต, เกิดเพราะกรรมหรือความซวย และทวารหก ศาสตร์แห่งการรู้ทันตนเอง)

วกเข้ามาเรื่องน่าเบื่อของวันเสาร์ต่อ
ถึงแม้เข้าใจดี ถึงกิเลสข้อที่ว่าด้วยความขี้เกียจ แต่กระนั้น วันนี้ผมยอมแพ้ต่อความขี้เกียจอย่างราบคาบ นอกจากไม่เร่งทำงานที่กองท่วมหัวให้เสร็จๆแล้ว ยังแอบมาเขียนบล็อก และทำภาพประกอบนี่อีก

ได้ภาพฮาๆ เหล่านี้มา เลยมานั่งรวบรวมไว้แก้เบื่อ..
ไม่รู้ช่วยได้หรือเปล่านะ แต่นั่งๆดูแล้ว บางภาพที่คนในภาพทำหน้าตาตลกๆ ธรรมชาติๆ ตามสัญชาตญาณของมนุษย์ ก็ขำดี

ป.ล. ภาพพระซ่อมมอไซต์ ผมว่า ฮาสุดนะ