Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

เรื่องทั่วไป

อ่านต่อ

“โพสต์”

say, เรื่องทั่วไป 12 May 201811 June 2019

-1- หลังจากกลับจากโรงเรียนเย็นวันนั้น เด็กชายตื่นเต้นมากกับสิ่งที่เขาได้มาจากโรงเรียน เขาหลงใหลกับสิ่งนี้มาก ในสายตาเขามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ สามารถวาดการ์ตูน เขียนตัวหนังสือสวยๆงามๆ บนกระดานได้ เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่ครูใช้มันสร้างสิ่งยิ่งใหญ่บนกระดาน และสำคัญว่ามันจะสามารถวาดหรือเขียนอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ มันคือสิ่งที่เรียกว่า “ชอล์ก” -2- ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือส่งตัวเองเข้าสู่โลกโซเชียล รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากเมื่อเห็นคลิปน่ารักๆ ที่เพื่อนเขาโพสต์ แต่พอนิ้วสไลด์ขึ้นขยับสายตาเลื่อนลงมาในโพสต์ถัดไป กลับเปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นนิ่งเฉย แววตาแฝงความอิจฉา เมื่อเห็นภาพเพื่อนๆที่ถ่ายตามที่ท่องเที่ยวต่างๆในท่าทีที่มีความสุข นึกถึงตัวเองที่ตอนนี้ยังคงทำงานหนัก แต่ยังไม่สามารถมีเงินไปเที่ยวที่ไหนเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่แม้แต่จะกดไลท์ และรีบเลื่อนมันพ้นๆไป สายตายิ่งแฝงความเคียดแค้นชิงชังหนักขึ้น เมื่อเลื่อนลงมาพบข่าวดาราที่เขาชื่นชอบถูกแฟนบอกเลิกทั้งๆที่มีลูกด้วยกันแล้ว -3- เด็กชายเสียใจนิดหน่อยที่พบว่า “ชอล์ก” ที่เขาได้มาจากโรงเรียนไม่สามารถเนรมิตตัวการ์ตูนหรือสิ่งสวยๆงามๆอย่างที่ครูทำได้ อีกทั้งพบว่า “ชอล์ก” ไม่ใช่ผู้สร้าง เป็นแต่เพียงเครื่องมือช่วยในการสร้างเท่านั้นหลังจากที่พยายามเที่ยววาดทั่วกำแพงบ้านและกำแพงวัดในหมู่บ้าน นอกจากภาพที่วาดจะไม่สวยงามแล้ว บางข้อความที่เด็กชายเขียนเป็นคำด่าหยาบคายระบายอารมณ์ส่วนตัว -4- ชายหนุ่มโพสต์ข้อความหยาบคายแสดงความคิดเห็นต่อข่าวดาราที่เขาชื่นชอบถูกแฟนบอกเลิกทั้งๆที่มีลูกด้วยกันแล้ว ทุกตัวอักษรที่เขาบรรจงพิมพ์แต่ละตัวเต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชังด้วยอารมณ์ส่วนตัว แต่ใช้พื้นที่ข่าวในการแสดงออก ดังนั้น ข้อความที่เขาโพสต์ลงไปจึงเต็มไปด้วยอคติและบิดเบือนความเป็นจริงแทบทั้งสิ้น และเมื่อกดเผยแพร่ ข้อความของเขาก็เข้าสู่โลกโซเชียลอันไม่มีที่สิ้นสุดเสียแล้ว เจ้าของบ้านทั้งก่นด่า สาปช่างเมื่อเห็นว่ากำแพงเลอะไปด้วยข้อขีดเขียนเต็มไปหมด พระเณรเองก็ต้องทำความสะอาดกำแพงวัดยกใหญ่ ด้วยฝีมือของเด็กชายผู้ไร้เดียงสา หลังจากกดเผยแพร่ไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง ชายหนุ่มเริ่มมีสติและคิดได้ว่าข้อความเหล่านั้นไม่ถูกต้อง รีบกลับไปลบ..แต่สายไปเสียแล้ว ข้อความของเขาถูกแค้ปเจอร์ไว้หมดแล้ว หลังจากนี้อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น การกระทำของทั้ง 2 คน ไม่แตกต่างกัน เป็นการกระทำแบบเด็กที่ไม่มีสติ แต่ความเสียหายเหมือนกัน เด็กทำยังเข้าใจว่าไร้เดียงสา แต่ถ้าผู้ใหญ่ทำเรียกว่าไร้ปัญญา!

อ่านต่อ

กินเหล้าคนเดียว

บ่น, เรื่องทั่วไป 12 September 201721 December 2017

รสชาติแห่งเหล้า ถึงจะเป็นที่ลุ่มหลงหรือถึงขั้นคลั่งไคล้ของใครหลายๆคน แต่รสชาติแห่งบรรยากาศในวงเหล้ากลับน่ารื่นรมย์กว่ามาก

hackaton MRT รถไฟฟ้าสายสีม่วง
อ่านต่อ

Morning Trail Run

วิ่ง, สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 18 July 20163 November 2017

ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสไปต่างจังหวัด ต้องไม่พลาดที่จะหยิบรองเท้าวิ่งและชุดสำหรับวิ่งไปด้วย เพราะเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสนามวิ่งใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ และที่สำคัญได้ออกกำลังกายด้วย ครั้งนี้เช่นกันครับ วิ่งรอบฝายเก็บน้ำที่มีระยะรอบประมาณ 1 กิโลเมตร เวลา 6 โมงเช้าแดดก็เริ่มมาละ ไม่ได้ถ่ายฝั่งที่เป็นฝายเก็บน้ำนะครับ ถ่ายแต่บรรยากาศรอบๆ ที่เป็นทุ่งนา ต้นไม้ นี่คือกองเชียร์ข้างทาง แต่บางจุดกองเชียร์ก็เข้ามาในเลนส์วิ่งแบบนี้! ดูเส้นทางสำหรับวิ่งซะก่อน ..นี่มันวิ่งเทรลชัดๆ แต่บางจุดถนนก็ดี มีต้นไม้เป็นซุ้ม บรรยากาศโดยรวมสดชื่น เขียวชะอุ่มครับ ต้นข้าวได้น้ำใหม่ กำลังเติบโตอยู่เต็มทุ่งสุดลูกหูลูกตา เวลาอาจไม่ดีนัก แต่ระยะทางเป็นที่น่าพอใจ ทริปหน้าไปวิ่งที่ไหนดี..

วิ่ง ออกกำลังกาย
อ่านต่อ

คำสัญญาสุดท้ายจากเพื่อน

เรื่องทั่วไป 16 September 201429 May 2015

เควินกับแบรี่ เป็นเพื่อนสนิทกันมาก ทั้งคู่เป็นคนขี้เล่น วันหนึ่งเมื่อเควินซึ่งต่อมาได้สมัครไปเป็นทหาร ต้องไปประจำการที่อัฟกานิสถาน ได้พูดกับแบรี่ว่า “ถ้ากูตายในสนามรบ ในงานศพกู มึงต้องใส่ชุดผู้หญิงมานะเว้ย” และใครจะเชื่อว่าคำพูดนั่นเป็นคำพูดสั่งเสียของเควิน เควินถูกซุ่มโจมตีโดยกลุ่มกองโจรTaliban เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในงานศพเควิน แบรี่ไม่ลืมคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเพื่อนสนิท เขามาในชุดหญิงสาวสีสดใส แต่ทว่าในจิตใจเขาหดหู่ยิ่งนัก ชุดที่สดใสจึงดูขัดแย้งจากสีหน้าคนใส่ นอกจากจะไม่ใช่หญิงสาวแล้ว สีหน้ายังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา นี่คือสิ่งสุดท้าย ที่เพื่อนเท่านั้นถึงจะกล้าทำให้เพื่อน  

เพื่อน
อ่านต่อ

นิทานเรื่อง “กรุ๊บเลือด”

เรื่องทั่วไป 31 January 201428 October 2015

เมื่อคืนนั่งดูรายการเจาะใจ รายละเอียดรายการจะไม่ขอพูดถึง แต่จะพูดถึงบางเสี้ยวที่เขาพูดไว้ในรายการ เขาพูดถึงคนกรุ๊ปเลือดอะไร ควรเน้นบริโภคอาหารประเภทใด และเพื่อให้จำได้ จึงมีเรื่องเล่าสั้นๆ ให้จำได้ง่าย ต่อไปนี้ เมื่่อนานมาแล้ว ในครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก คน คือ สัตว์จำพวกแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ในยุคนั้นมีแต่พืชผลไม้ คนกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ชื่อว่า กลุ่ม A จึงนิยมกินพืชผลไม้ พระเจ้าสร้างคนกลุ่มที่สองขึ้นมา โดยเรียกว่า กลุ่ม B กลุ่มนี้เริ่มรู้จักปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด และเลี้ยงสัตว์ จึงนิยมกินอาหารประเภทแป้งได้ คนกลุ่มต่อมา คือ กลุ่ม AB กลุ่มนี้มาทีหลังจึงกินได้ทุกอย่างที่กลุ่ม A และกลุ่ม B ปลูกหรือเลี้ยงไว้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนกรุ๊ปเลือด A ควรเน้นบริโภคพืชผลไม้ คนกรุ๊ปเลือด B ควรเน้นบริโภคอาหารประเภทแป้ง ข้าว คนกรุ๊ปเลือด AB บริโภคได้ทุกอย่าง    

หลุด4เหี้ย อ่านต่อ

หลุด4เหี้ย

เรื่องทั่วไป 26 June 2011

หลุด 4 หลุด เข้าโรงตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้พึ่งมีโอกาสเข้าร้านวีดีโอจึงเช่ามาเบิ่งชม.. หลุดสี่หลุดเป็นหนังสั้นสี่เรื่องจิตหลุดโดยสี่ผู้กำกับ ผมชอบหนังสั้นเพราะรวบรัดดี ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก ผีจะออกก็ออกตั้งแต่เนิ่น คนจะชั่วก็ชั่วได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ไม่ต้องปูพื้นมากมายเสียเวลา หลุดแรก “เกรียนล้างโลก” สั้นมาก สั้นจริงๆ มีฉากเดียวคือโต๊ะกลางแจ้ง นั่งคุยกันตามประสาวัยรุ่นที่ต้องเริ่มต้นประโยคด้วยเหี้ย และลงท้ายด้วยสัตว์..เหมือนเป็นโครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ ต้องเปิดประโยคด้วย “เหี้ย” หรือ “ห่า” และปิดประโยคด้วย “สัตว์” หรือ “แม่ง” หลุดแรกทำเอาผู้ชมหวั่นไหวกันเลยทีเดียว หวั่นไปถึงว่าหลุดต่อๆไปจะมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า เพราะมันสั้นและบอกตามตรงยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เหมือนหนังทำเล่นๆ หลุดที่สอง “ร้านของขวัญแด่คนที่คุณเกลียด” เรื่องนี้เปิดประเด็นได้น่าสนใจและสยองเล็กๆ แต่มันมีดีแค่นั้นเอง กลางเรื่องจืดชืด นิ่งสนิทจนต้องเผลอหลับ แถมตอนจบมีหักมุมแบบกวนตีน..เหี้ยเอ้ย ผมไม่ได้ด่าหนัง แต่พระเอกเขาพูดประโยคนี้เกือบทุกบทสนทนาอีกเช่นเคย โครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ๆ หลุดที่สาม “คืนจิตหลุด” ได้นักแสดงขั้นเทพอย่างอนันดานับว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย พี่แกเล่นหนังได้เทพจริงๆ บทโรคจิตพี่แกตีบทซะแตกกระจุย เรื่องนี้ถ้าดูในโรง แม่ที่พาลูกเล็กๆเข้าไปดูด้วย สงสัยต้องรีบพากลับบ้าน เพราะมีฉากสยองขวัญสั่นประสาทอย่างฉากตัดนิ้วตัวเองทีละนิ้วๆ ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเดียวบทอ่อนและการหักมุมแบบไม่น่าหักทำให้หนังสนุกน้อยลง จบแบบ..เหี้ยเอ้ยเช่นกัน และหลุดสุดท้าย “ฮู อา กง” เรื่องนี้อารมณ์เดียวกับบุปผาราตรีภาคแรก ขำก็ขำ พอบทจะน่ากลัวก็โคตรน่ากลัว แต่แล้ว..หนังก็จบแบบปัญญาอ่อนและเหี้ย..อีกเช่นกัน คือ ดูจะเป็นหนังครอบครัวๆ พูดจากันดีมีการศึกษากว่าสามตอนก่อนหน้านี้ แต่แล้วนางเอกที่หมวยใสน่ารักก็พูดคำว่า “เหี้ย” ซะเอง เท่านั้นไม่พอ ผีอากงที่พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย แต่พูด “เหี้ย” ชั๊ดชัด ผมว่าทั้งสี่เรื่อง ไม่น่าเรียกตัวเองว่าหลุดสี่หลุด น่าจะเรียกว่า “หลุดสี่เหี้ย” มากกว่า เหี้ยเต็มโรงไปหมด ไม่ได้จะถือสาคำๆนี้เท่าไรนะครับ ถ้าตัวละครมันเหมาะกับคำๆนี้ อย่างอนันดาหรือเด็กวัยรุ่นในตอน “เกรียนล้างโลก” ก็ไม่รู้สึกเท่าไร แต่นี่เหมือนตั้งใจให้ทั้งสี่เรื่อง มีเหี้ย เหี้ย และเหี้ยเต็มโรงไปหมด คุณไม่ได้ด่าคนดูใช่มั้ย

หลุด4หลุด
ของขวัญจากพระเจ้า! อ่านต่อ

ของขวัญจากพระเจ้า!

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 26 May 201128 October 2015

กำลังอ่านหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ ทุ่งหญ้าแห่งความรู้และความสุข” เขียนโดยคุณประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ แนวคิดในการทำธุรกิจ ในการมองโลก มีมุมที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สมกับที่เรียกตัวเองว่าเป็น “แกะดำ” แกะดำไม่ใช่แกะที่มีความผิดปกติ หรือมีความแปลกประหลากแตกต่างจากคนอื่น หากแต่ว่าเป็นแกะที่เลือกทำในสิ่งที่ดีกว่า แตกต่าง และให้ผลดีกว่า เลือกที่จะเลี้ยวขวา ขณะที่ทุกคนเลี้ยวซ้าย เลือกที่วิ่งในขณะที่ทุกคนเดิน เลือกที่สุขในขณะที่ทุกคนทุกข์ และอีกมากมาย.. อ่านได้ครึ่งเล่มขณะรถติด ได้ความคิดใหม่ว่าขณะรถติดคนส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมส์บนมือถือ เล่นเฟสบุค ทวิตเตอร์ บีบี ดูหนัง ฟังเพลง ล้วนแต่เป็นสิ่งสร้างความบันเทิงที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำไมเราไม่อ่านหนังสือ หรือทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์ขณะรถติดที่มากกว่านั้น ไม่เสียเงิน แถมได้ประโยชน์มหาศาล ..เลยตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือทุกครั้งที่รถติด!!! จะดูสิว่า เดือนหนึ่งจะอ่านได้กี่เล่ม.. ชอบใจประโยคเด็ดในหนังสือแกะดำฯ ที่คุณประเสริฐ ได้นำคำของ CEO หญิงของ HP มาเขียนไว้อีกที.. ใจความว่า “การที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่า่จะสูงต่ำดำขาว คือสิ่งวิเศษที่พระเจ้ามอบให้เรา ส่วนเราจะประพฤติตนอย่างไร คือสิ่งวิเศษที่เป็นของขวัญที่เราจะมอบแด่พระเจ้า” * อยากรู้จักแกะดำมากขึ้นคลิกไปที่ http://www.blacksheep.co.th/

ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ พระเจ้า แกะดำ
อ่านต่อ

พระเจ้าสร้างคนไทย(จริงหรือ)~

เรื่องทั่วไป 16 May 201114 May 2016

ก็ไม่รู้ว่าใครแต่งเรื่องนี้อ่ะนะครับ แต่หลายๆเรื่องในปัจจุบันที่เกิดในบ้านเมืองเรา เห็นแล้วก็ได้แต่ เฮ้อ ..ๆ ๆ  ๆ  บ้านเมืองอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่เคยไป แต่เมืองไทย มีข่าว ..ขโมยสายไฟ ขโมยเสาธง ขโมยพระพุทธรูป ขโมยล้อรถ ขโมย ๆ ๆ ๆ ..ๆ  มีข่าวแปลกๆ ข่าวห่าเหวอะไรมากมายในทุกวงการ เมืองไทยที่เมื่อก่อนเคยทัดเทียมกับญี่ปุ่น ก็ถูกญี่ปุ่นทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น ปัจจุบันกำลังจะถูกเวียดนามหรือลาวแซงหน้า และล่าสุดถูกเขมรตีหัว!! เมืองไทยเราโชคดี..แต่พวกเราๆเองไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี พออ่านเมล์ฟอร์เวิร์ด(ด้านล่างนี้) ก็เลยเกิดอาการเห็นด้วย ฤๅพระเจ้าสร้างเรามาแบบนั้นจริงๆ ..ลองอ่านดูครับ (ไม่รู้ใครแต่งแต่โดน) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ ทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกาแล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล แต่ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้ด้วย เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาลเพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้ด้วย ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ทั้งหมด…..จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน คราวนี้พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีนทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาดข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้าคิดว่าประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆจะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้ เมื่อคิดได้เพื่อเป็นการป้องกัน ประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้างคนไทยขึ้นมา!!

คนไทย พระเจ้า
ซ่อมคอม อ่านต่อ

ซ่อมคอม

เรื่องทั่วไป 28 April 2011

ป้าข้างบ้าน : เจตป้าอยากให้ช่วยซ่อมคอมฯให้หน่อย พอซ่อมได้ไหม ผม : ต้องดูก่อนครับ ว่ามันเป็นอะไรมากมั้ย? ป้าข้างบ้าน : ไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว เห็นว่าตั้งอยู่เฉยๆ ช่วยดูให้หน่อยนะ ผม : ได้ครับ แต่คอมฯมันเป็นอะไรเหรอครับ ป้าข้างบ้าน : มันไม่มีจอ ผม : ..

ขำขำ ซ่อมคอม
1 2 3 … 10

ใจหายไปเลย

ไดอารี่ 8 September 2008

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เขียนเลย ไม่อยากจะอ้างงาน อ้างโน่น อ้างนี่ ท้ายที่สุดแล้ว ก็คือความขี้เกียจและไร้วินัยในตัวเอง   สถานการณ์บ้านเมืองก็ยังคลุมเครือ จะไปต่อก็ไม่ได้ ถอยไปก็ยาก อยู่อย่างงงๆ กันต่อ ก็ต้องรอดูกันต่อไปอย่างมีสติ ช่วงนี้ต้องพิจารณาข่าวกันอย่างมีสติมากขึ้น ข่าวมาจากไหน เป็นกลางหรือเอนเอียงก็มีผลต่อการพิจารณา อย่าตื่นข่าวเกินเหตุ ~ บอกตัวเอง เมื่ออาทิตย์ก่อน (ประมาณวันที่ 31 สิงหาคม) พึ่งรู้ตัวว่า ATM หายไป รู้ตัวตอนที่จะกด ATM ตอนประมาณ 5 ทุ่ม รีบมานั่งทบทวนว่ามันหายนานแค่ไหนแล้ว โชคดีว่า มันพึ่งหายได้วันเดียว ที่ว่าโชคดี เพราะบางครั้ง ระยะเวลาระหว่างการกดเงินมันห่างกันเป็นอาทิตย์ กว่าจะรู้ตัวเงินอาจหมดจาก ATM แล้วก็ได้ รีบโทรไประงับบัตรและเช็คยอดเงินว่าอยู่ครบมั้ย   ตอนที่รอคำตอบจากคอลเซ็นเตอร์ตอนเช็คยอดเงิน ใจระทึกมาก อารมณ์ประมาณโทรไปถามผลสอบจากเพื่อนที่กำลังดูจากป้ายประกาศให้ ถึงแม้ ATM จะมีรหัสป้องกัน หากกดผิด 3 ครั้ง มันจะยึดบัตร แต่อย่าลืมว่าบัตร ATM ในปัจจุบันอยู่ในรูปของบัตร DEBIT ด้วย นั่นคือ สามารถใช้รูดเงินได้ .. ผมเริ่มใจคอไม่ดี   แต่สุดท้าย ยอดเงินในบัญชีก็อยู่ครบจากเหตุการณ์นี้ ผมเลยมานั่งตรึกตรองว่า ATM หายตอนไหน ที่ไหน ยังไง? เพราะปกติผมเป็นคนค่อนข้างรอบคอบในเรื่องนี้ คิดไปคิดมา ก็เลยจำได้ว่า น่าจะเกิดขึ้นที่ตลาดคลองตัน ขณะกดเงินอยู่นั้น บังเอิญโทรศัพท์เข้า ผมรับโทรศัพท์พร้อมกับหยิบเงินใส่กระเป๋า แต่ลืมหยิบบัตรมาด้วย!! ปัญหาจาก ATM หายที่ตามมาก็คือ การต้องไปธนาคารเพื่อทำ ATM ใหม่ ปกติของธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถไปทำใหม่ที่สาขาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาที่ได้ไปเปิดบัญชีไว้ก็ได้ ผมเปิดบัญชีไว้ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน แต่จะไปทำ ATM ใหม่ที่สาขาคลองตัน ปรากฏว่า สมุดบัญชีผมด้านหลังไม่มีลายเซ็นต์ของพนักงานที่เปิดบัญชีให้ จึงไม่สามารถทำได้ในสาขาอื่น ต้องไปที่สาขาที่เปิดบัญชีเท่านั้น !!   ถามว่ากรณีนี้ ผมผิดเหรอ?“คุณไม่ผิดหรอกครับ..เจ้าหน้าที่เขาลืมเอง” พนักงานชายตอบในเมื่อพวกคุณผิดเอง…

atm

ผู้ชนะสิบทิศ

เรื่องทั่วไป 26 May 2009

ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย จริงๆมีแผนจะไปเที่ยวสัตหีบกับเพื่อนๆที่ทำงานในวันเสาร์ที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่มีเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเดินทางไปกับเพื่อนๆได้ ฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้ไม่อยากคิดถึงการเดินทาง การเที่ยว คิดถึงสภาพท้องถนนที่คลาคลำด้วยรถ ถนนลื่น อุบัติก็เกิดขึ้นง่าย ทะเลคงไม่สวยนัก หากท้องฟ้าไม่สดใส น้ำตกเองคงขุ่นคลั่กหากมีฝน ภูเขาหินผาก็ลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ในหน้าฝน หน้าฝนจึงเป็นฤดูที่ไม่เหมาะแก่การเที่ยวเท่าไรนัก แล้วเหมาะแก่อะไรละ?? อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ผมเลือกของแรกเป็นหลัก ผสมด้วยข้อสอง และไม่ละข้อสาม!   เหตุที่ผมไม่สามารถไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้ นั่น เพราะติดงานศพครับ ผู้วายชนม์เป็นอดีตข้าราชการทหารผู้ยิ่งใหญ่ ทำคุณประโยชน์แก่สยามประเทศเป็นอเนกอนันต์ ในอดีตท่านเคยออกรบในสงครามเวียดนามในนาม “จงอางศึก” และทำคุณประโยชน์ในฐานะชายชาติทหารแก่ประเทศชาติอย่างมากมาย ด้วยคุณงามความดีนี่เอง ในงานศพถึงคลาคลำด้วยแขกมากหน้าหลายตา และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ ท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อพระองค์ท่านทราบข่าวก็เสียชีวิต ก็ทรงประทานพวงหรีด เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัว ผมได้มีโอกาสไปที่บ้านของอดีตนายทหารผู้ยิ่งใหญ่ จึงได้พบเบื้องหลังแห่งความยิ่งใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพความยิ่งใหญ่, บันทึกต่างๆที่ท่านเขียนบันทึกไว้ตลอด(ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทุกคนรักการอ่านและการบันทึก ข้อนี้ผมได้ยินมาจากหลายๆท่าน) รวมถึงหนังสือหลากหลาย และหนังสือกองหนึ่งที่สะดุดตาผมยิ่งนัก นั่นคือ หนังสือนิยาย “ผู้ชนะสิบทิศ” โดยยาขอบ แต่ละเล่มมีความหนากว่า 500 หน้า พิมพ์แบบเก่า หนังสือมีความเก่าแก่หน้ากระดาษออกสีเหลืองจนซีด รวมทั้งหมด 10 เล่ม ผมลองหยิบเล่มหนึ่งมาอ่านคำนำที่ยาวเกือบ 5 หน้า เป็นหนังสือที่มีคำนำจากผู้เขียนยาวมาก จึงพบว่า คำนำนี้มิใช่คำนำอย่างหนังสือทั่วๆไป แต่เป็นคำนำที่ผู้เขียนได้กล่าวแก้ต่างจากมีผู้โจมดีในสมัยนั้น เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านเขียน โดยถูกกล่าวหาว่าไปลอกคนอื่นบ้าง ไม่ได้คิดเองบ้าง ต่างๆนานาๆ ก็ไม่แปลกใจใครที่ดัง มีชื่อขึ้นมา มักจะเจอข้อกล่าวหาทั้งสิ้น อาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการกล่าวอ้าง นอกจากนี้ท่านยังได้กล่าวขอบคุณ กล่าวถึงความยากลำบากในการประพันธ์ รวมถึงการกล่าวฝากฝังหนังสือยิ่งใหญ่ไว้ในแผ่นดิน   พออ่านคำนำจบ ก็ให้เกิดความกระหายอยากอ่านเนื้อหา ก็เลยอ่าน ตั้งใจว่าจะอ่านฆ่าเวลา อ่านผ่านไปบทแรก บทสอง บทสาม ก็เกิดความติดใจในรสประพันธ์ประหนึ่งกวางติดใจในรสหญ้าอ่อน ศัพท์สำนวนล้วนเป็นภาษาเก่า ต้องทำความเข้าใจ แต่กระนั้นก็หาใช่อุปสรรคไม่ ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุก ยิ่งอ่านก็ยิ่งวางไม่ลง ใครที่เคยอ่านแฮรี่พ็อตเตอร์แล้วติดงอมแงมวางไม่ลง ก็คงจะเข้าใจอาการนี้ของผมได้อย่างดี วางไม่ลง พอหลับตาลงก็ฝันถึง..   ผู้ชนะสิบทิศ เคยเป็นละครที่ยิ่งใหญ่ในอดีต…

อ่านต่อ

โดดเดี่ยว..เที่ยวภูเขาทอง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 9 November 200823 September 2016

ตั้งใจมาหลายวันแล้วว่าวันนี้ จะไปบริจาคเลือด !! นับเป็นครั้งที่  35 แล้ว ภูมิใจเล็กน้อย เมื่อกล่าวถึงจำนวนครั้ง บริจาคครั้งละ 400 ซีซี ถึงวันนี้ผมบริจาคเลือดไปแล้ว 14,000 ซีซี น่าจะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไม่น้อย แม้ไม่รู้ว่าใครได้เลือดผมไป แต่ทุกครั้งที่มีคนได้เลือดผม นั่นคือชีวิตของเขา และบุญของผม การให้โดยไม่หวังคืนเช่นการบริจาคเลือดนี้ เปรียบเหมือนแม่ที่ให้ทุกอย่างแก่ลูก โดยไม่หวังสิ่งใดๆจากลูกเลย เราไม่รู้เลยว่าใครได้เลือดเราไป เช่นเดียวกัน พ่อแม่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อลูกโตแล้ว จะให้อะไรแก่พ่อแม่บ้าง วกมาถึงการเดินทางไปบริจาคเลือดในวันนี้ การเดินทางต้องมีการวางแผนครับ เพื่อประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ผมจะไปโดยเรือ ขึ้นเรือที่ท่าเรือคลองตัน โผล่ที่ท่าเรืองอโศกเพชรบุรี แล้วขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี ไปโผล่ที่สามย่านฝั่งตรงข้ามกับวัดหัวลำโพง หรือฝั่งจามจุรีสแควที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เดินตรงขึ้นไปก็จะถึงสถานเสาวภาหรือสวนงู หลังสวนงู คือสภากาชาด คาดว่าใช้เวลาไม่น่าจะถึงชั่วโมง (ปกติไปรถเมล์สาย 113 ใช้เวลาชม.กว่า) หลังจากบริจาคเลือดตั้งใจจะไปเดินเล่นที่วัดสระเกศ หรือวัดภูเขาทอง เวลาบ่ายโมงสี่สิบห้านาทีผมไปนั่งรอเรือที่ท่าเรือ วันนี้เรือมาช้ากว่าปกติ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการครับ ผมขึ้นจากเรือโผล่ที่เพชรบุรีต่อรถไฟ มาโผล่ที่สามย่าน ตรงหน้าจามจุรีสแควนี่เอง มีเรื่องให้พิจารณานิดหนึ่ง ขณะผมเดินด้านหน้าห้างนั่นเอง มีรถซีวิคฮอนด้านสีบรอนด์ ไม่ทราบเลขทะเบียน เพราะไม่สนใจ จอดริมฟุตบาทด้านหน้าผมไม่ถึงสิบเมตร พอรถจอด ก็มีชายคนหนึ่งรีบลงจากรถพร้อมด้วยถือสิ่งหนึ่งมาด้วย วางลงข้างฟุตบาทหน้าห้าง แล้วรีบขึ้นรถออกไป เมื่อผมเพ่งมองที่วัตถุที่ชายนิรนามนำมาวาง ปรากฏว่าเป็นสิ่งมีชีวิตครับ เป็นลูกแมวสีเทาตัวเล็กๆ ท่าทางอ่อนแรง และงงๆ กับชะตาชีวิต ร้องเหมียวๆท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า ผมจำใจเดินผ่านไป โดยไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าแมวนั่น ขณะที่เจ้าของที่ทิ้งก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลเพราะรถติดอยุ่ ผมพยายามมองทะลุกระจกเข้าไปในรถ อยากจะดูว่าหน้าตาไอ้คนใจดำระยำห่านั่น หน้าตามันเป็นอย่างไร มากันกี่คน น่าเสียดายกระจกมืดดำ เลยอดเห็น ผมเองก็รู้สึกตัวเองผิดที่ไม่ได้ดูดำดูดีกับลูกแมวตัวนั้น ไม่ได้ทำอะไรที่ดีกว่านี้เลย ถึงสภากาชาดในเวลาบ่ายสองห้าสิบ วันเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตตฤกษ์ ที่นี่จะปิดให้บริการเร็วคือจะปิดในเวลา 15.30 น. ดังนั้น ผมมีเวลาไม่่มาก เวลาขนาดนี้คนจะไม่เยอะเท่าไรแล้ว ไม่เหมือนตอนเช้าที่คนเนืองแน่นจนหน้ามืด ใช้เวลาในการบริจาคไม่ถึงสามสิบนาทีครับ (บริจาคจริงๆแค่สิบนาที ที่เหลือคือการรอคิว คิวตรวจเลือด คิวบริจาค) ออกจากสภากาชาด ตามแผนอย่างต่อเนื่องเลยครับ จับรถแท็กซี่ไปวัดสระเกศในทันที ด้วยราคามิเตอร์ 70 บาท ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็ได้…

ภูเขาทอง
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปาย-หยุนไหล

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 December 202024 September 2021

หลังจากออกจากห้วยน้ำดัง จุดหมายที่ตั้งใจไว้คืออำเภอปาย เราไม่ได้จองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์และอุปกรณ์ปิ้งย่าง ดังนั้นจุดที่เรากำลังมองหาคือจุด กางเต๊นท์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งที่มาเที่ยวปายครั้งแรก ผมประทับใจจุดกางเต๊นท์ตรงโป่งน้ำร้อนท่าปายมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง และน่าจะมีเพื่อนกางเต๊นท์เยอะไม่เหงาไม่น่ากลัว คิดได้ดังนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ระหว่างทางมีป้ายเล็กๆข้างถนนก่อนถึงโป่งน้ำร้อนท่าปาย “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” แวะไปห้อยขาซะหน่อย.. หลังจากอิ่มท้องก็ออกจากร้านและมุ่งหน้าโป่งน้ำร้อนท่าปาย..รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย (จริงๆก็ผิดหวังมากเลยละ) ความเป็นธรรมชาติแบบเมื่อก่อนหายไปหมดละ โป่งน้ำร้อนได้รับการทำให้เป็นกิจจะลักษณะด้วยการก่อปูนทุกบ่อ ดูเหมือนจะเจริญขึ้น แต่ทำไมผมไม่รู้สึกประทับใจ บรรยากาศโดยรวมดูเงียบเหงา อาจจะเพราะโควิดด้วยส่วนหนึ่ง พื้นที่ดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ถ้าจะกางเต๊นท์นอนที่นี่คืนนี้คงมีแต่เต๊นท์เราหลังเดียวให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจ เมื่อภาพในหัวไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ จึงต้องรีบหาที่พักใหม่ก่อนจะมืดค่ำ เราต้องการที่พักแบบกางเต๊นท์ จนในที่สุดก็มาสะดุดกับคำว่า “หยุนไหลทะเลหมอก” คำว่า “หยุนไหล” ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับภาพประกอบ ภาพที่มีจุดกางเต๊นท์อยู่บนพื้นที่สูงวิวแบบ 360 องศา มองลงมาเห็นอำเภอปายทั้งอำเภอ ไม่รอช้า..มุ่งหน้าไปทันที ขับออกจากอำเภอปายมาทางหมู่บ้านสันติชลประมาณ 30 นาที ทะลุผ่านหมู่บ้านสันติชลเข้าไปอีกครับ จะมีทางเข้าที่ต้องขับผ่านหมู่บ้านเป็นถนนเล็กๆ และเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะเห็นป้ายคำว่า “หยุนไหล” อยู่บนเนินเขาเล็กๆ หยุนไหล..จุดชมวิวทะเลหมอก และจุดกางเต๊นท์ ที่นี่มีบริการทั้งเต๊นท์ให้เช่าและเต๊นท์นำมากางเองครับ ถ้านำเต๊นท์มาเองอย่างผมค่าบริการอยู่ที่คนละ 100 บาทเท่านั้น มีห้องน้ำ จุดล้างภาชนะ รวมถึงปลั้กไฟให้ใช้ ส่วนวิวรับรองว่าคุ้มค่ามาก.. เช้าวันรุ่งขึ้นผมตั้งใจจะวิ่งซิตี้รัน เพื่อชมวิถีชาวบ้านแถวนี้สักหน่อย ประมาณ 6 โมงเช้าฟ้าเริ่มสาง ผมก็เริ่มวิ่งจากเขาลงมา และภาพต่อไปนี้คือภาพที่ได้จากการวิ่งซิตี้รันประมาณ 6 กิโลเมตร กลับจากวิ่งประมาณ 9 โมงแล้ว แดดเริ่มมาต้องรีบเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าจุดมุ่งหมายของเราต่อไป นั่นคือ “ปางอุ๋ง” ออกจากหยุนไหลละครับ ใครชอบกางเต๊นท์ที่นี่คืออีกทางเลือกหนึ่ง ช่วงนี้ไปยังไม่หนาวมากนักตกกลางคืนแค่ 15 องศา ชาวบ้านบอกว่าช่วงหนาวมากๆ มีต่ำกว่า 10 องศาแนะ โพสต์หน้าเจอกันที่ “ปางอุ๋ง”

ปาย หยุนไหล แม่ฮ่องสอน
อ่านต่อ

ทริปลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ (ตอนที่ ๒)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 16 February 201616 February 2016
พระธาตุหริภุญชัย ลำพูน

เป็นเหี้ย

ไดอารี่ 3 May 2011

หยุด 3 วันมีโอกาสอยู่บ้านแบบเต็มๆ จึงจัดชุดใหญ่ ‘บิ๊กคลีนนิ่งเดย์’ เริ่มจากหอมผ้าไปลงถัง, ถูกบ้าน และ.. ใส่ปุ่ยให้ต้นไม้ ตอนนี้ต้นลีลาวดีที่อยู่หลังบ้านกำลังหัดออกดอก หลังจากผลิตแต่ใบมากว่า 3 เดือนแล้ว ผมจึงหมั่นไปดูแลทุกค่ำเช้าราวกับพ่อที่รอลูกคนแรกคลอด ต้นองุ่นที่หน้าบ้านก็เบ่งบานเต็มที่ หลังจากได้น้ำฝนบวกกับปุ่ยชีวภาพตอนนี้กำลังเลื้อยขึ้นระแนง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีกประมาณ 8 เดือนนับจากนี้องุ่นจะมีลูกมาให้เราเชยชม ชวนชมที่ชวนกันมาจากคอนโดหลังถูกทิ้งตากแดดตัวเหี่ยว ตอนนี้มีใบสดชื่น แข่งกันออกดอกอย่างสนุกสนานเช่นเดียวกับอมรเบิกฟ้าที่พามาจากคอนโดตอนนี้ดอกสีขาวเบ่งบานและร่วงหลายครั้งแล้ว ขณะที่่ดอกสีชมพูมีเพียงใบให้ดูต่างหน้า คนขายบอกว่าสีชมพูออกดอกน้อย ต้อนม่วงมณีดอกสีม่วงเต็มต้นกำลังเป็นพุ่มสวย แต่ด้วยใบที่มีรสกรอบอร่อยจึงเชื้อเชิญบุ้งมากัดกินซะแหว่งหวิ่นเช่นเดียวกับส้มจี้ดถูกทั้งบุ้งและหนอนกัดกินกันอร่อย ต้นคล้ากับต้นกกได้น้ำไม่เคยขาด จึงเบ่งบานสวยสด มีอีกหลายต้นที่จำชื่อไม่ได้ เลยมิได้เอ่ยชื่อไว้ในที่นี้ ต้องกราบขออภัย ขณะตัดแต่งใส่ปุ่ยให้ต้นไม้นั่งเชยชมกับธรรมชาติอยู่นั้น แขกผู้มิได้รับเชิญก็แอบคลืบคลานเข้ามาในรั้วบ้าน!! ตัวไม่ใหญ่ขนาดเท่านิ้วโป้งผู้ใหญ่ วิ่งปรูดเข้ามาในซอกต้นไม้ในบ้าน ผมรีบวิ่งไล่เพื่อขับออกจากบ้านทันที พอเข้าไปใกล้ถึงได้รู้ว่ามันคือ “เหี้ย” ตัวน้อย น้องเหี้ยมาจากไหนไม่รู้วิ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามาในรั้วบ้าน จิ๊กกี๋หมาที่เห่าดุเหลือเกินกับทุกสิ่งที่อาจหาญละเมิดอาณาเขตเข้ามาแม้กระทั่งผีเสื้อที่เผลอบินเข้ามามันยังกระโดดงับจนปีกขาด!! แต่ครั้งนี้มันปล่อยน้องเหี้ยน้อยวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างหน้าตาเฉย ผมพยายามชี้ให้จิ๊กกี๋ดูให้มันไปช่วยจับ นอกจากไม่มาแล้วมันยังมองไปทางอื่นทำท่าไม่สนใจ เป็นหน้าที่เจ้าบ้านอย่างผม ต้องไล่จับอย่างทุลักทุเลได้รับความช่วยเหลือจากป้าข้างบ้านช่วยอีกแรงนึงทำให้จับได้เร็วขึ้น ผมนำมันไปปล่อยข้างนอกกำแพงหมู่บ้าน ..ให้มันไปสู่ที่ชอบๆ ไปในที่ๆมันชอบ อย่าชอบบ้านผมเลย ก็ไม่รู้ว่าเหี้ยมันเลวยังไงนะ ใครทำตัวไม่ดีถึงถูกด่าว่า “เหี้ย” ผมว่าถูกด่าว่า “ไอ้เหี้ย” ยังรู้สึกแย่น้อยกว่าถูกด่าว่า “ไอ้นักการเมือง” ผมจะโกรธมาก โกรธจริงๆ แค่คิดก็ขยะแขยง สะอิดสะเอียนเวียนหัวแล้ว

เหี้ย

สามเซ็งซี้ดส์

ไดอารี่ 21 March 2011

วันอาทิตย์ประมาณบ่าย 3 โมงมีนัดกับช่างสวิส ช่างสวิสเป็นช่าง buit in ที่มีฝีมือและอัธยาศัยดีคนหนึ่ง นี่เป็นครั้งที่สองที่ใช้บริการจากแก ครั้งแรกใช้ให้ย้ายตู้ให้ เป็นการย้ายตู้ที่ไม่ธรรมดา เพราะต้องรื้อและต้องไปประกอบขึ้นใหม่ ครั้งนี้เป็นงานใหญ่กว่าครั้งแรก เพราะผมจะว่าจ้างให้แกรื้อและทาสีคอนโดใหม่!! คอนโดถูกปลวกยึดมาปีกว่า วันนี้ถึงเวลาที่ผมต้องขอคืนพื้นที่แล้ว นอกจากจะเรียกใช้บริการจากช่างสวิสแล้วผมได้เรียกบริษัทกำจัดปลวกมาอีกชุดหนึ่ง งานนี้ต้องขอคืนพื้นที่ชนิดไม่ให้เหลือ เซ็ง 1 ช่วงเช้าก่อนไปเจอกับช่างสวิส เลยมีเวลาว่างจึงไปดูหนังกันดีกว่า!! ตั้งใจไปดูเรื่อง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ ขับรถไปดูที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เนื่องจากยังไม่เที่ยง คนเลยยังไม่มากนักพอเลี้ยวเข้าห้าง ก็เจอที่ว่างทันที ผมกดไฟฉุกเฉินเตรียจอด!! ที่จอดเป็นทางเลี้ยวพอดี ที่จอดอยู่ขวามือ ผมหันหัวรถไปทางซ้ายเพื่อให้ท้ายเข้าทางขวา ขณะถอยเข้าซอง ก็มีเสียงแตรและเสียงชนดังขึ้นไล่ๆกัน ..ซวยแล้ว พอลงจากรถไปดูเหตุ สาวเจ้าของรถคันหลังใส่แว่นดำแต่งตัวหวือหวาไม่รับกับสภาพรถที่ค่อนข้างเก่าเลยสักนิด เจ๊แกตำหนิผมก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไร “ทางนี้เขาห้ามเลี้ยวซ้าย” น้ำเสียงเรียบแต่ท่าทีตำหนิเป็นเชิงสั่งสอนอยู่ในที “ผมไม่ได้จะเลี้ยวซ้าย ผมจะเ้ข้าจอด ไฟฉุกเฉินยังเปิดอยู่เลย” ผมพูดพร้อมชี้ให้ดูไฟกระพริบ เจ๊แกรู้ตัวว่าตัวเองผิด เดินกลับขึ้นรถหน้าตาเฉย ผมดูด้วยสายตา รถเจ๊แกไม่เป็นอะไรเลย ส่วนรถผมตรงกันโคลนหน้าเผยอขึ้นเล็กน้อย มองผิวเผินแทบไม่เห็นความเสียหาย ผมก็เลยไม่ติดใจเอาความ ด้วยมีรถติดจอดเป็นแถวยาวอยู่ “คุณจะมีปัญหาอะไรมั้ย” ผมถามเจ๊คู่กรณี เพราะถ้าเอาเข้าจริงผมก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย ที่ไม่ยอมมองหลังให้ดีก่อนถอย เจ๊แกนิ่ง ผมกล่าวขอบคุณ (ซึ่งไม่รู้จะขอบคุณทำไม) แล้วก็ขับรถออกไป พร้อมด้วยอารมณ์ที่เซ็งเล็กน้อย เซ็ง 2 ถึงมีเหตุการณ์เซ็งๆแบบนี้ ผมก็ไม่ละความตั้งใจที่จะดูหนังไทย..ซัคซี้ด พอเข้าไปซื้อตั๋ว ปรากฏว่าหนังเริ่มฉายพอดี ผมไม่รอช้า รีบซื้อตั๋วดิ่งเข้าโรง พอเข้าโรง ภาพยนตร์ตัวอย่างจบพอดี หนังกำลังเริ่ม ..แต่เอ่ะเดี๋ยวก่อน ทำไม เครดิตผู้สร้างเป็นภาษาอังกฤษ ผมดูหนังไทยไม่ใช่เหรอ คิดได้ดังนั้นก็รีบวิ่งออกมาหน้าโรง ตายห่า..ในตั๋วบอกโรงหก แต่ผมเข้าโรงห้า!! ในที่สุดก็ได้ดูหนังสมใจ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ หนังย้อนยุคสัก 3-5 ปี ช่วงชีวิตเด็กวัยรุ่นยุคม.ปลาย ยุคที่เด็กเกรงใจเพื่อนมากกว่าพ่อแม่และครู บูชานักร้องดังเทพเจ้า มีความใฝ่ฝัน อยากเป็นนักร้อง และมีความรักเป็นครั้งแรก หนังสะท้อนชีวิตเด็กประถมช่วงสั้นๆ และเด็กมัธยมได้อย่างได้รสได้ชาติมาก หนังมีสีสันด้วยได้นักร้องดังมาโผล่ในทุกฉากที่มีเสียงเพลง มีมุกตลกสอดแทรกอยู่เป็นระยะ นักแสดงหน้าใหม่อย่าง “ลูกพีช” เล่นดีบทเด่นแซงหน้า “ก้าว” พระเอกในเรื่อง…

suckseed รถ เซ็ง

วันนี้ของวัยเยาว์

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 January 2010

ช่วงนี้มีแต่บันทึกประจำวัน ไม่มีเรื่องสั้น หรือบทความบ่นว่าอะไร(อย่างที่เคย)สักเท่าไร ส่วนหนึ่งอาจเกิดเพราะความตั้งใจจะเขียนให้ได้ทุกวัน และอารมณ์ที่จะเขียนเรื่องสั้น หรือบทความนั้นมิได้เกิดขึ้นและไม่สามารถสร้างมันได้ทุกวัน ยกเว้นแต่การเขียนบันทึกแบบไดอารี่ที่มีให้เขียนให้พูดได้ทุกวัน หลังจากที่ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายหลังเลิกงาน และจะงดอาหารคาวในมื้อค่ำ เมื่อวานเป็นวันที่ 3 ของการอดมื้อค่ำและวันที่ 2 ของการวิ่ง .. วิ่งยังเหนื่อยเหมือนเดิม ยังไม่เข้าที่เท่าไร ส่วนมื้อค่ำก็ยังหิว และรู้สึกว่าจะหิวกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ กินแอปเปิ้ลไป 2 ลูก ช่วยได้นิดหน่อย พยายามจะดูทีวีเพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องกิน แต่คิดผิดอย่างถนัด ทีวีไทยนอกจากข่าวแล้ว มีแต่เรื่องกิน กิน กิน และกิน โดยเฉพาะละครไทย โอยย..สารพัดจะกิน พอโฆษณา ก็พบว่าโฆษณาถึงของกินเยอะกว่าอย่างอื่น แค่โฆษณามาม่าตัวเดียว ตบะผมก็เกือบแตกแล้ว เหมือนได้กลิ่นมาม่าโชยออกมาจากทีวี ไม่ไหวแล้ว..ปิด ~ ช่วง 2 – 3 วันมานี้ นอนเร็วกว่าที่เคย 1-2 ชั่วโมง ปกติไม่เที่ยงคืนไม่เข้านอน แต่เมื่อคืนแค่ 4 ทุ่ม ตาผมก็แทบปิดแล้ว อาจจะเหนื่อยจากการออกกำลังกาย กำลังคิดว่าควรจะตกแต่งห้องใหม่ให้น่าอยู่ ถึงไม่ใช่ห้องของตัวเอง(ห้องเช่า)ก็เถอะ เราก็สามารถตกแต่งและทำให้มันน่าอยู่ได้นี่นา .. บางทีบรรยากาศในห้องอาจทำใ้ห้เกิดจินตนาการเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆใหม่ๆ ก็ได้  🙂 พรุ่งนี้จะวันเด็กแล้ว ความจำในวัยเด็กเริ่มเลือนลาง วันนี้ของเราที่อายุ 7 ขวบ กำลังทำ คิด หรือพูดอะไร อยู่ที่ไหนนะ บางทีเราในตอนนั้นอาจคิด พูด หรือทำไม่แตกต่างจากตอนนี้ ต่างแต่จุดประสงค์ที่ทำ แต่การกระทำเหมือนเดิม การกระทำในตอนเด็ก อาจจะซื่อๆใสๆ ไร้จริต ทำเพื่อความสนุก ความซน ความอยากรู้อยากเห็น แต่การกระทำในตอนโต กระทำเพื่อจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เน้นผลประโยชน์เป็นหลัก เกมส์ยอดฮิตที่เด็กๆทุกยุคต้องเคยเ่ล่น คือ เกมส์ซ่อนหา วิธีเล่นก็ง่ายๆ ต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย 3 คนขึ้นไป ให้คนหนึ่งเป็นคนหา คนที่เหลือเป็นคนไปซ่อน ถ้าหาเจอจนครบคนที่ถูกเจอคนแรกก็จะเป็นผู้หาต่อไป สลับวนเวียนกันไปเรื่อยๆ นั่นคือวิธีการเล่นของเด็ก พอโตขึ้น เราก็จะพบผู้ใหญ่เล่นเกมส์ซ่อนหา พื้นที่ซ่อนอาจไม่ใช่แค่สนามเด็กเล่น แต่เป็นการซ่อนทั่วโลก ไม่จำกัดเวลาในการหา…

สาระแน..อำเป้ง

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

เข้าเรื่องแบบไม่ต้องอ้อมเลยละกัน วานนี้ผมไปดูหนัง สาระแนห้าวเป้งมา!! โดยส่วนตัวชื่นชอบรายการนี้ในจอทีวีมานานมแล้ว ตั้งแต่อยู่ช่องสามวันเสาร์แล้วระเห็ดไปอยู่ช่อง ไอทีวี เปลี่ยนชื่อเป็นสาระแนจังดึก อยู่ไอทีวีก็ไม่นิ่งสักที เดี๋ยวโผล่วันอังคาร เดี๋ยวโผล่วันพุธ เดี๋ยว 4 ทุ่ม เดี๋ยว 5 ทุ่ม จนไอทีวีมีอันต้องจบลง ก็เร่ร่อนมาอยู่ช่อง 5 ในเวลาเกือบเที่ยงคืน และล่าสุดก็ได้กลับบ้านเก่าช่อง 3 ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนของสาระแนคงหายไปเยอะเหมือนกัน จากการร่อนเร่อยู่ที่จุติไม่ได้เช่นนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็สามารถติดตามชมได้เป็นระยะๆ  แต่ก็ยังชื่นชอบรายการนี้เหมือนกับที่ชื่นชอบรายการชิงร้อยชิงล้าน!! ณ วันนี้สาระแนกลายเป็นหนังจอใหญ่แล้ว มีหรือที่ผมจะพลาด!! เย็นของวันแรงงานแห่งชาติ ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ คนเยอะมากกกกกก แต่เหมือนมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน เข้าไปจองตั๋วปุ๊บได้รอบที่ไม่ต้องนั่งรอเวลา และได้ที่นั่งแถว D แถวค่อนข้างดี ในขณะที่แถวอื่นๆ นับตั้งแต่สองแถวแรกจากหน้าจอเต็มหมด ด้วยความแปลกใจว่าทำไมที่นั่งตรงนี้ถึงว่าง มีผีสิง วิญญาณอาฆาตที่นั่งนั่นอยู่หรือเปล่า จึงถามคนขาย เจ้าหล่อนบอกว่า มีคนโทรมาจองล่วงหน้า แต่ไม่มา..โอ้ ~ แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ข้างๆที่ผมนั่ง มีผู้หญิงคนนึ่งมาดูหนังคนเดียว นั่งเงียบๆ เจียมๆอยู่ ผมก็เข้าใจนะ ความรู้สึกของคนมาดูหนังคนเดียว ต้องเจียมๆ เงียบๆหน่อย ถึงหนังจะสนุกสักปานใดก็ตาม แต่ที่ผมเข้าใจมาทั้งหมดนั้น ผิดถนัด ตลอดระยะเวลาที่ดูหนัง คุณหล่อนรับโทรศัพท์ 2 ครั้ง!! ดังด้วย แค่นั้นยังไม่พอ เสียงหัวเราะของคุณเธอ โคตรทุเรศศศศศศศศศศ…ไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่ไหนหัวเราะได้ทุเรศปานนี้ และที่สำคัญคุณเธอมักจะหัวเราะในมุกที่คนอื่นไม่หัวเราะ ตอนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาขำกันทั้งโรง คุณเธอนั่งเงียบ แต่พอมุกเสี่ยวๆ มุกที่ไม่ควร, ไม่น่า, ไม่ต้อง และไม่จำเป็นต้องขำ เธอขำ~ ย้ำอีกครั้งว่า เสียงหัวเราะเธอ อุบาทว์มากกกกก แต่ที่อุบาทว์กว่าเสียงหัวเราะของเธอคือ การรับโทรศัพท์ในโรงหนัง เธอแย่มากกก ขอประณามเธอเลย ยัยคนที่นั่งแถว D14 เรื่องสาระแนห้าวเป้ง รอบ 17.40 น. วันที่ 1 พ.ค. 2552 นั่งใกล้คนไม่ดี พลอยทำให้บรรยากาศการดูหนังมีประสิทธิภาพลดลง 30 เปอร์เซ็นต์!! บ่นซะจนลืมเลยว่า…

สุดเขต..สเลดเป็ด

บ้านบ้าน, เรื่องทั่วไป 23 January 201128 October 2015

ไม่ได้ดูหนังในโรงนานพอสมควร 1.ไม่มีเวลา 2. ไม่มีเงิน 1. ไม่มีเวลา ก็น่าจะจริง การดูหนังมันต้องเข้าไปดูในโรง นั่งรถไป รถก็ติด..เสียเวลา ไปถึงห้างจองตั๋วดูหนัง ใช่ว่าถึงปุ๊บ จะได้ดูหนังปั๊บ ต้องรออย่างน้อยๆ 30 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วระหว่างนั้นทำอะไรละ เดินดูของ กินข้าว เสียเวลาและเสียตังค์ ในห้างมีของวางเรียงรายล่อกิเลสเรามากมาย ไม่ควักตังค์ซื้อบ้างถือเก่งโคตร 2.ไม่มีเงิน เงินสำหรับดูหนังนะมี แต่ไม่มีเงินสำหรับกิจกรรมระหว่างรอดูหนังและค่าโดยสารสำหรับไปดูหนัง!! ที่ผ่านมาก็เลยอาศัยดูหนังแผ่นจากร้านเช่า ถูกดีแผ่นละ 20 แต่ต้องรีบไปคืนภายใน 1 วัน!! ก่อนหน้าจะดูหนังในโรงครั้งล่าสุดนี้ ดูหนังแผ่นเรื่อง “กวน มึน โฮ” เป็นหนังไทยจากค่าย GTH ที่อยากดูตั้งแต่เข้าโรง แต่ติดปัญหาจาก 2 ข้อข้างต้น พึ่งได้ดูแผ่นก็ชอบ สนุก จนอยากจะดูซ้ำ แต่ยังไม่ได้ดู เพราะเช่ามาวันเดียว ดูได้รอบเดียวก็ต้องรีบเอาไปคืน เดี๋ยวเขาปรับ!! ล่าสุดดูหนังในโรงเรื่อง สนุกแบบไม่หยาบคาย ไม่ตลกพร่ำเพรื่อ แอบมีแง่คิดเล็กๆ ไม่ต้องมาก คนดูไม่ชอบหนังที่ต้องขบคิดเยอะชีวิตมันเครียดพอแล้ว ถ้าเข้าไปดูหนังแล้วต้องนั่งคิดตีโจทย์เหมือนหนังเรื่อง inception ก็ไม่ไหว เครียด ปวดหัว งง เหี้ย ห่าอะไรไม่รู้ ดูจบแล้วต้องมานั่งคิดต่อ แต่ก็ยังไม่หายงง หลายซีนในหนังเรื่องนี้มีแอบจิก กัดแบบน่ารักๆ การจิกกัดทำนองนี้เมื่่อก่อนเป็นแนวถนัดของยุทธเลิศ แต่ตอนหลังๆเฮียแกทิ้งไป หนังของแกแต่ละเรื่องเลยดูไม่จืด ไม่สนุก และไม่ใช่(สำหรับผม)อีกต่อไป ความเห็นสำหรับ..หนังเรื่องนี้ – ไหนว่าเป็นผู้ชายนับ 3 เจอนางเอกมากกว่า 3 ครั้ง แต่ยังพูดมาเต็มปากกว่า 3 ครั้ง – การจีบหญิงแบบพระเอก ก็แนวดีอยู่หรอก แต่ใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ – คนหน้าตาเหี้ยๆ ถึงไปบอกหญิงว่าใจโคตรหล่อ เขาก็ไม่เชื่อหรอก จริงๆ – ชอบที่นางเอกบอกว่าไม่ชอบดูหนังภาคต่อ แต่ชอบดูเรื่องใหม่ (ความคิดนี้ใช้ได้กับเรื่องคนเหล็ก 3 ภาคต่อทำได้ห่วยแตก…

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH