Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

จุ๊บจุ๊บ

อ่านต่อ

หลับให้สบายเถอะ..ลูกรัก

ไดอารี่ 19 July 200930 June 2016

ผมเลี้ยงกระต่ายมาปีกว่าแล้ว มันชื่อจุ๊บๆ น่ารัก เชื่อง ซน กัดแทะทุกอย่างในบ้าน ตั้งแต่ไม้กวาด สายไฟ กระเป๋า ผ้า จนถึงขนตัวเอง ผมเคยซื้อกระดิ่งผูกคอให้ มันรำคาญแต่กัดกระดิ่งออกไม่ได้ เลยกัดขนตรงคอที่มีกระดิ่งซะเกลี้ยงเลย เริ่มเชื่อรึยังว่ามันเป็นสัตว์สัญชาติแทะ ผมเลี้ยงจุ๊บจุ๊บแบบปล่อย ไม่เคยขังกรง ปล่อยให้อยู่ที่ระเบียงมีร่มเงา กรง และโพรงให้ จุ๊บจุ๊บอึฉี่เป็นที่เป็นทาง มันมักจะเข้าไปอึฉี่ในกรงที่ด้านล่างมีถาดรองอึมันอยู่ ด้วยความที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อย จุ๊บจุ๊บจะติดคนมาก เวลากลางคืนมักจะออกมาเล่นกับผม มาคลอเคลีย เอาหัวมาซบ (ส่วนใหญ่ซบขาเพราะผมนั่งบนเก้าอี้) จุ๊บจุ๊บชอบให้ลูบหัว ไม่ว่าสิ่งที่ลูบนั้นจะเป็นมือหรือเท้าก็ตาม อาหารที่ชอบที่สุด คือ ขนมปังฟาร์มเฮาส์ แต่อาหารที่ขาดไม่ได้คืออาหารเม็ดของซีพี พอได้ยินเสียงถุงพลาสติก จุ๊บจุ๊บเป็นต้องหูผึ่งวิ่งปรี่มาหา นึกว่ามีขนมให้กิน จุ๊บจุ๊บมักร่าเริงในเวลากลางคืน และหลับในเวลากลางวัน เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 52) ฝ้าในห้องผมพังลงมา ด้วยเจอลมแรง ผมไม่คิดเลยว่า ฝ้าที่ตกลงมานั้น เป็นสัญญาณแห่งความสูญเสียในครั้งนี้ ผมจำเป็นต้องพาจุ๊บจุ๊บไปอาศัยอยู่ที่อื่นก่อนสักพัก เพื่อเจ้าของหอจะได้มาซ่อมฝ้า เหตุที่ต้องพาไปที่อื่นก่อน เพราะจุ๊บจุ๊บไม่ถูกอนุญาตให้อยู่ในหอนี้ ..ใช่ มันเป็นแรงงานต่างด้าว ใช้ความน่ารักน่าเอ็นดูให้คนพอใจคลายเหงาแลกกับอาหารไปวันๆ ผมพาจุ๊บจุ๊บขึ้นรถเมล์โดยใส่ในกระเป๋าผ้า จุ๊บจุ๊บไม่ดิ้น ไม่งอแงเวลาอยู่ในกระเป๋าแม้จะต้องนอนคดอยู่ในนั้นร่วมชั่วโมง ผมเห็นแววตาซื่อและเศร้าของมันตลอดเวลาแห่งการเดินทางครั้งนี้ ณ ที่ๆจะฝากจุ๊บๆนั้น เป็นบ้านสองชั้น และมีสนามหญ้าอยู่หน้าบ้าน โดยสนามหญ้ามีรั้วกั้นมิดชิด แม้จะมีสุนัขอยู่ในบ้านก็หมดห่วง เพราะรั้วสูงและแข็งแรงพอที่จะปกป้องจุ๊บจุ๊บได้ พอเท้าแตะสนามหญ้า จุ๊บจุ๊บวิ่ง กระโจน และกัดกินยอดหญ้าอ่อนด้วยความสุข มันไม่เคยสัมผัสกับธรรมชาติแบบนี้มาก่อน อยู่แต่ในตึก มีแต่ปูนจนเข้าใจว่า นั่นคือพื้นโลก ไม่เคยรู้จักพื้นดินและต้นหญ้า จุ๊บจุ๊บมีความสุข นอนกลางวันอย่างที่เคย ผมเห็นดังนั้น ก็ดีใจ แม้จะเห็นพญามัจจุราชวิ่งอยู่รอบๆรั้วด้านนอก ก็ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ผมคิดแต่ว่าหมาเข้าไปทำอันตรายไม่ได้ แต่ลืมคิดไปว่า..กระต่ายมันอาจจะออกมาให้หมาทำอันตรายเสียเอง !! พออาทิตย์ตกดิน ความมืดเข้าปกคลุม จุ๊บจุ๊บเป็นกระต่ายขี้เหงา ชอบให้คนคลอเคลียลูบไล้  มันจึงออกจากรั้วอย่างไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา มันยังไม่เคยเจอใครที่คิดจะทำร้ายหรือเอาชีวิตมันเลย ทุกอย่างบนโลกนี้เป็นสิ่งสวยงามสำหรับจุ๊บจุ๊บ พอขาก้าวแรกพ้นรั้วเท่านั้น หมาที่อยู่ด้านนอก เหมือนเจอของเล่นมีชีวิต มันตระครุบ กัด ฟัด จนจุ๊บจุ๊บสิ้นใจ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย…

จุ๊บจุ๊บ

องค์บาก 2

เรื่องทั่วไป 30 June 2008

  คิดว่าหลายๆคนก็คงเป็นเหมือนผม รอดูผลงานของพี่จา โทนี่ จา อยู่ โดยเฉพาะล่าสุด องค์บาก 2 พี่แกเล่นกำกับเองด้วย ยิ่งอยากดูใหญ่ ตย.หนังนี้ไปเอาจากเว็บต่างประเทศมา พี่แกเอาไปโปรโมทในเทศกาลหนังเมืองคานส์ แต่ตัวหนังองค์บาก 2 จริงๆ เห็นว่ายังถ่ายทำไม่เสร็จ ถ้าเมื่อไรเสร็จ..ก็จะไม่พลาดตีตั๋วไปดูแน่นอน

จา พนม องค์บาก

มาม่า

ไดอารี่ 9 June 2008

ยุคนี้ยุคประหยัดครับ ใครๆต่างช่วยกันประหยัด หลายหน่วยงานมีกิจกรรมรณรงค์ส่งเสิรมกันมากมาย  มีกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ และทำคล้ายๆกันหลายองค์กร นั่นคือ การสมนาคุณลูกค้า ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่ว่าจะเป็น มาม่า หรือไวไว หากใครมีซองเปล่าครบ 10 ซองสามารถไปแลกฟรีได้ 1 ซอง ผมทานมาม่าเป็นจริงเป็นจัง ซองที่มีน่าจะมากกว่า 10 ซอง พอมีโปรโมชั่นนี้มา เลยไม่ช้าที่จะหอบซองมาม่าไปที่ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. (เซเว่นนะแหละ) ..ติ๊ง ต๊อง.. “เซเว่น อีเลเว่น รับอะไรดีค๋ะ” “เอ่อ..เอาซองเปล่ามาม่า มาแลกมาม่าครับ” ผมตอบอย่างมั่นใจ พนักงานขาย..มองหน้าอย่างเหยียดๆ พร้อมรวบรวมซองเปล่านับอย่างไม่ค่อยสนใจ เสร็จสรรพเธอหยิบมาม่าใส่ถุงให้ผม 3 ห่อ ผมรับถุงมาม่า พร้อมกับทำหน้าแปลกใจ..และพอผมก้าวขาออกจากเซเว่นเท่านั้นแหละ ผมก็ได้คำตอบของอาการของเธอนั้น..มีเสียงแว่วๆ ของพนักงานคุยกันเบาๆ ตามผมมา “หน้าตาก็ดี..แต่จ๊น จน กินแต่มาม่าได้ทั้งเดือนนน”

อ่านต่อ

เที่ยวไร่ไฮเดรนเยียร์ เชียงใหม่

ท่องเที่ยว 24 March 202024 March 2020

ไร่ไฮเดรนเยียร์ที่ผมจะพาไปชมในครั้งนี้อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ครับ จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (สายเชียงใหม่ – ฮอด) ถึงกม. 82-83 บริเวณสามแยกไปบ้านแปะและวัดตอง ให้เลี้ยวขาวตรงไปผ่านบ้านแปะ บ้านทุ่งพัฒนา บ้านบนนา บ้านขุนแปะ ประมาณ 22 กิโลเมตร ถ้าท่านเคยไปเห็นจากที่อื่นอาจจะมีภาพไร่ดอกไฮเดรนเยียร์ที่สวยและเยอะกว่านี้มาก บังเอิญที่ผมไปเป็นช่วงหมดดอกพอดี (ผมไปช่วงเดือนธันวาคม) ดอกน่าจะสวยเต็มที่ช่วงหน้าฝน ถ้าให้ชัวร์ควรสอบถามก่อนเดินทางไปนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปชมดอกไฮเดรนเยียร์ แค่บังเอิญผ่าน .. เอาล่ะไปชมในแบบของผมกัน อย่างที่บอกครับ ถ้าจะมาชมความสวยงามของดอกไฮเดรนเยียร์ก็ต้องมาให้ถูกฤดูกาลของเขา และขอกระซิบเบาๆนิดนึงครับ ทางมานี่โหดเอาเรื่อง ทริปหน้าค่อยว่ากันใหม่ครับ

ขุนแปะ เชียงใหม่ ไร่ไฮเดรนเยียร์

แพงที่สุดในโลก

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

บ้านที่แพงที่สุดในโลก บ้านนี้ตั้งอยู่ในสวนของ Kensington Palace ใน London ตะวันตก  มีทั้งหมด 12 ห้องนอน เจ้าของคือ เศรษฐีค้าเหล็ก ชาวอินเดีย ชื่อว่า Lakshmi Mittal, ด้วยราคา US$128.3 ล้าน ซึ่งเป็นบ้านที่ มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ของ Guiness Book ด้วย รถขับเคลื่อนบนท้องถนนที่แพงที่สุดในโลก Pagani Zonda F  เป็นรถที่มีความโค้งมนอย่างลงตัว เปิดตัวครั้งแรกที่ Geneva Autoshow  ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ค่ะ รถคันนี้ใช้เครื่อง Mercedes  AMG-derived 7.3 L V12 ซึ่งมีความเร็วถึง 214 ไมล์ต่อชั่วโมง เมื่อเอา Top ลง (เป็นรถ convertable) ซึ่ง รถคันนี้ยังไม่มีการตีราคาที่แน่นอน แต่ทางบริษัท ได้พูดไว้ว่า มันจะเป็นรถขับเคลื่อนที่แพงที่สุดในโลกอย่างแน่นอน ซึ่งรถคันนี้จะจัดทำขึ้นจำนวนจำกัด แค่ 25 คันเท่านั้น… รองเท้าที่แพงที่สุดในโลก ราคา เน็ตๆ ที่ US$2 ล้าน  รองเท้าส้นเรียวแหลมสูง 4 นิ้ว  ประดับด้วย 565 Platinum set Kwiat Diamon ซึ่งชุดนี้รวมไปด้วย เพชรเม็ดใสๆ 55 กะรัต และเพชรเม็ดเบ้ง 5 กะรัตอีก 1 เม็ด ผู้ดีไซน์มีชื่อว่า Stuart Weitzman ซึ่งผู้มีโอกาสสวมใส่คนแรกคือ Alison Krauss นักร้องที่ถูก เสนอชื่อขึ้นรับ รางวัล เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เค้าร้องเพลงประกอบ Cold Mountain เค้าใส่ไปงานประกาศรางวัล ออสการ์ปี 2004   โรงแรมที่แพงที่สุดในโลก…

พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง

เรื่องทั่วไป 9 November 200827 September 2016

สำหรับนักฟังเพลงในอดีตแล้ว ถ้าแนวลูกทุ่ง ต้องชอบ สายัณห์ สัญญา ถ้าแนวเพื่อชีวิตต้องแนว คาราบาว แนวสตริงคลาสิคหน่อย หลายๆคนก็ชอบหลายๆนักร้อง แต่ที่หลายๆคนชอบอีกคนคือ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง สายัณห์ สัญญานี่ไม่ต้องพูดถึง เพลงเพราะ หวานซึ้งจับใจ โดยเฉพาะลูกอ้อนหน้าเวที พูดทีไรแฟนเพลงต้องวิ่งหาพวงมาลัย หัวแทบชนกันตาย ด้วยภาพลักษณ์ที่ออกทางเวที และเสียงเพลงนี่เอง หลายคนปลื้ม ศรัทธา หลงรัก สะสมอัลบั้มเพลงทุกชุด บางชุดซื้อมากกว่าหนึ่งแผ่น เพื่อแจกจ่ายคนอื่นๆ เพื่อหวังให้มาเสพรสเพลงอันไพเราะเช่นตน วงคาราบาว เป็นจิตวิญญาณ ไอดอล เป็นแบบอย่างของดนตรีเพื่อชีวิตอีกหลายๆวง เป็นผู้ปลุกเร้าสิ่งที่สังคมลืม เป็นผู้นำแห่งเพลงสามช่า เป็นนักแต่งเพลงเสียดสี กระแทก แดกดันได้อรรถรส ด้วยภาษาที่สวยสดงดงาม ไม่หยาบคาย หยาบคายบ้าง แต่ดูดี คาราบาวถือเป็นศิลปินที่ผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังได้รับการต้อนรับที่ดีเสมอ ได้เสียงตอบรับอย่างเนืองแน่นทุกครั้งที่ออกคอนเสริต มีผลงานออกมาตลอดเวลามิได้ขาด เรียกได้ว่าทำงานอยู่ในวงการอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเฉไฉออกนอกเส้นทาง หลายๆเพลงของคาราบาว มีบางคนนำเอาไปเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ตลอดจนเป็นข้อตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ดังเช่นคุณสรยุทธ ที่ถือเพลงพระเจ้าตากเป็นเครื่องตัดสินใจ ในตอนที่จะออกจากเนชั่น ด้วยท่อนเพลงที่ว่า…เราจะทุบหม้อข้าว… อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ย้อนไปเมื่อสักสิบปีที่แล้ว เพลงของเขาหวาน ฟังสบาย หลายๆเพลงมีเนื้อหาเพื่อสังคม ถึงไม่ได้อยู่ในวงการเพลงยาวนานเหมือนสายัณห์ สัญญา หรือคาราบาว แต่เพลงของอริสมันต์นับว่าสร้างความนิยมชื่นชมแก่ผู้ที่ชื่นชอบมากมาย หลายๆเพลงกลายเป็นอมตะ มีการนำมาร้องใหม่ โดยนักร้องยุคปัจจุบัน ใส่ท่วงทำนองที่สามารถกระโดดโลดเต้นได้ ผิดวิสัยพี่กี้ อริสมันต์ ที่พูดถึงศิลปินนักร้องในวันนี้ เพื่อเข้าสู่ประเด็นนี้ครับ ณ ปัจจุบันศิลปินที่ผมกล่าวถึงทั้งสามนั้น สองในสามหลุดออกจากวงการเพลงเข้าสู่วงการการเมือง มีเพียงคาราบาวที่ยังคงอยู่ในวงการดนตรีเช่นเดิม ทั้งที่จริงๆแล้ว คาราบาวน่าจะเข้าสู่วงการการเมืองมากกว่า ด้วยเนื้อหาเพลงที่ประชดประชัน ดุ ด่า การเมืองอย่างเผ็ดร้อนกว่าใคร และออกตัวชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับนักการเมืองที่คอรับชั่น คาราบาวก็ยังเป็นนักดนตรีเพื่อชีวิตที่มีคนชื่นชอบทั่วประเทศอย่างปัจจุบัน รักมั่นศรัทธาต่อประชาชนนักรักเพลงเพื่อชีวิต อีกสองศิลปินนั้น เข้าสู่วงการการเมืองอย่างเต็มตัว การเมืองมันน่ากลัว จากภาพที่คนชื่นชอบสองศิลปินนี้ในอดีต ภาพความจริงค่อยๆปรากฏชัดเมื่อเข้าสู่วงการการเมือง การเมืองทำให้ทั้งสองหมดความไพเราะ นิ่มนวล และน่าเชื่อถือ ผมคิดว่า ..หน้าที่ใครก็หน้าที่มัน พระเจ้าให้ความสามารถของแต่ละคนแตกต่างกัน เพื่อไม่ต้องมาแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เมื่อได้พลังนั้นมาแล้ ก็ควรจะรักษาพลัง และทำหน้าที่ที่ตนได้รับให้ดียิ่งๆขึ้น อย่าไปแย่งหน้าที่คนอื่น…

ในวันที่ฤดูแตกต่าง

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 7 January 2010

ไม่น่าเืชื่อว่า ณ ตอนนี้เป็นหน้าหนาว เมื่อวานฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาติดต่อกันเกือบชั่วโมง มีผลทำให้น้ำเจิ่งนอง บนถนนรถราติด บ้านเรือนที่ติดถนนก็พลอยเดือดร้อน เพราะน้ำทะลักไหลเข้าสู่บ้าน..นับเป็นเรื่องใหม่ต้อนรับปีใหม่ของปีนี้ ผลกระทบต่อผมโดยตรงคือ ทำให้ผมไม่สามารถออกไปวิ่งออกกำลังกายได้นะเซ่ !! จะไปวิ่งตากฝน ก็กลัวฟ้าผ่า เผลอๆใครเห็นเข้าจะหาว่าบ้า วิ่งเป็นพระเอกมิวสิกอกหักอย่างนั้น แต่เอาเหอะเมื่อความตั้งใจเรายังเต็มเปี่ยมอยู่ วันฝนไม่ตกมีมากกว่าวันฝนตกอยู่แล้ว ~ เช่นเดียวกับชีวิต ช่วงที่ย่ำแย่เปรียบเหมือนวันที่ฝนตก ย่อมมีน้อยกว่าวันฝนไม่ตกเป็นไหนๆ ดังนั้น เราก็น่าจะมีความสุขกับชีวิตได้มากกว่าช่วงที่แย่ๆนะ เมื่อเจอปัญหา ต้องอยู่กับ 2 สิ่งให้มากที่สุด นั่นคือ อยู่กับ สติ และอยู่กับความอดทน สติมีมากขึ้นจะเกิดสมาธิจนทำให้เกิดปัญญา อันจะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาในที่สุด ส่วนความอดทน จะช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงที่แย่ๆไปได้ บางครั้งการอดทนอีกนิดหนึ่ง อาจให้ผลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คิด ความอดทนมีแต่ผลดี อดทนเพื่อผ่านพ้นสิ่งที่เลวร้าย ใช้สติให้เกิดปัญญาแก้ปัญหาด้วยความอดทน ตัวอย่างที่เห็นชัดในปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา พระองค์ทรงเป็นมหากษัตริย์ที่เป็นตัวอย่างในทุกเรื่องให้เราชาวไทย โดยเฉพาะความอดทนในการเสด็จเยือนปวงประชาราษฏร์ของพระองค์ในถิ่นธุรกันดารต่างๆ พระองค์ทรงเสด็จอย่างไม่มีความเหน็ดเหนื่อย เพื่อเยี่ยม เพื่อร่วมรับรู้สุขทุกข์ เพื่อแก้ปัญหาให้ราษฏรของพระองค์ในทุกๆหย่อมหญ้า.. ขอพระราชทานอนุญาตนำภาพที่ได้รับจากอีเมล์ฟอร์เวิร์ดมาประกอบ เพื่อเห็นภาพที่ชัดยิ่งขึ้น ขอพระองค์ทรงพระเจริญ.

ความขี้เกียจ ~ กิเลสที่นอนเนื่องในสันดาน

เรื่องทั่วไป 28 March 2009

เสาร์นี้ เป็นเสาร์ที่น่าเบื่อ นั่งทำงานด้วยความเบื่อ และขี้เกียจ ความรู้สึกขี้เกียจ ในหนังสือ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค ของทันตแพทย์สม สุจิรา บอกไว้ว่า เป็นความรู้สึกลบที่ต้องกำจัดทิ้ง เพราะความรู้สึกลบ จะดึงดูดสิ่งที่ลบเข้ามาตามกฏแห่งการดึงดูด และที่ร้ายไปกว่านั้น ความรู้สึกลบนี้อาจจะถูกฝังไว้ในจิตใต้สำนึก นั่นหมายถึง ไอ้เจ้าความรู้สึกลบนี้อาจจะอยู่กับเราไปอีกนานเท่านั้น ข้ามภพข้ามชาติไปเลยทีเดียว ทีนี้ กลับมาถามตัวเองต่อ เราชอบมั้ยละ ความขี้เกียจนี้ ปล่าวเลย เราไม่ชอบ และเรารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันไม่ดี ดังนั้น ต้องรีบสร้างความรู้สึกขยัน มุ่งมั่น  และที่สำคัญต้องสร้างแรงจูงใจ สร้างแรงขับให้ได้  ทันตแพทย์สม สุจิรา เขียนไว้ว่า “โดยปกติการคิดถึงแรงจูงใจ จะเกิดความสุขมากกว่า การคิดถึงแรงขับ  ดังนั้นคนที่จมปลักอยู่กับความทุกข์ โดยไม่มีแรงจูงใจ  ยากที่จะประสบความสำเร็จ  แรงขับเพียงอย่างเดียว กำหนดทิศทางชีวิตในอนาคตยาก  เช่นเดียวกับการยิงขีปนาวุธ ถ้ายิงด้วยแรงขับจากดินปืนเพียงอย่างเดียว โอกาสไม่ถูกเป้าหมายมีสูงมาก เพราะควบคุมทิศทางไม่ได้  แต่เมื่อใดที่ใช้ขีปนาวุธนำวิถี ก็เหมือนกับ เป้าหมายเป็นตัวดูดให้ขีปนาวุธนั้นวิ่งเข้าไปหาด้วย  โอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก   แรงผลักกำหนดทิศทางยากกว่าแรงดูด  ดังนั้นในวิถีชีวิตก็เช่นกัน  พยายามมองหาแรงจูงใจให้พบ  มิฉะนั้นแรงขับที่มีอยู่ก็ปราศจากประโยชน์..” (เนื้อความส่วนนี้ เป็นตัวอย่างหนังสือ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค เล่ม ๒ อยากอ่านคลิกที่นี่) ช่วงนี้คลั่งหนังสือของทันตแพทย์สม สุจิรามาก ตั้งแต่ ตอบปัญหาวิชาโลก, ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น, เจาะตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ เดอะ ท็อป ซีเคร็ค ตั้งใจจะอ่านให้ครบเซ็ตของแกซะหน่อย เหลืออีกไม่กี่เล่ม (ตอบปัญหาวิชาใจ, ตอบปัญหาวิชาชีวิต, เกิดเพราะกรรมหรือความซวย และทวารหก ศาสตร์แห่งการรู้ทันตนเอง) วกเข้ามาเรื่องน่าเบื่อของวันเสาร์ต่อ ถึงแม้เข้าใจดี ถึงกิเลสข้อที่ว่าด้วยความขี้เกียจ แต่กระนั้น วันนี้ผมยอมแพ้ต่อความขี้เกียจอย่างราบคาบ นอกจากไม่เร่งทำงานที่กองท่วมหัวให้เสร็จๆแล้ว ยังแอบมาเขียนบล็อก และทำภาพประกอบนี่อีก ได้ภาพฮาๆ เหล่านี้มา เลยมานั่งรวบรวมไว้แก้เบื่อ.. ไม่รู้ช่วยได้หรือเปล่านะ แต่นั่งๆดูแล้ว บางภาพที่คนในภาพทำหน้าตาตลกๆ ธรรมชาติๆ ตามสัญชาตญาณของมนุษย์ ก็ขำดี ป.ล. ภาพพระซ่อมมอไซต์…

หลุด4เหี้ย

เรื่องทั่วไป 26 June 2011

หลุด 4 หลุด เข้าโรงตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้พึ่งมีโอกาสเข้าร้านวีดีโอจึงเช่ามาเบิ่งชม.. หลุดสี่หลุดเป็นหนังสั้นสี่เรื่องจิตหลุดโดยสี่ผู้กำกับ ผมชอบหนังสั้นเพราะรวบรัดดี ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก ผีจะออกก็ออกตั้งแต่เนิ่น คนจะชั่วก็ชั่วได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ไม่ต้องปูพื้นมากมายเสียเวลา หลุดแรก “เกรียนล้างโลก” สั้นมาก สั้นจริงๆ มีฉากเดียวคือโต๊ะกลางแจ้ง นั่งคุยกันตามประสาวัยรุ่นที่ต้องเริ่มต้นประโยคด้วยเหี้ย และลงท้ายด้วยสัตว์..เหมือนเป็นโครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ ต้องเปิดประโยคด้วย “เหี้ย” หรือ “ห่า” และปิดประโยคด้วย “สัตว์” หรือ “แม่ง” หลุดแรกทำเอาผู้ชมหวั่นไหวกันเลยทีเดียว หวั่นไปถึงว่าหลุดต่อๆไปจะมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า เพราะมันสั้นและบอกตามตรงยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เหมือนหนังทำเล่นๆ หลุดที่สอง “ร้านของขวัญแด่คนที่คุณเกลียด” เรื่องนี้เปิดประเด็นได้น่าสนใจและสยองเล็กๆ แต่มันมีดีแค่นั้นเอง กลางเรื่องจืดชืด นิ่งสนิทจนต้องเผลอหลับ แถมตอนจบมีหักมุมแบบกวนตีน..เหี้ยเอ้ย ผมไม่ได้ด่าหนัง แต่พระเอกเขาพูดประโยคนี้เกือบทุกบทสนทนาอีกเช่นเคย โครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ๆ หลุดที่สาม “คืนจิตหลุด” ได้นักแสดงขั้นเทพอย่างอนันดานับว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย พี่แกเล่นหนังได้เทพจริงๆ บทโรคจิตพี่แกตีบทซะแตกกระจุย เรื่องนี้ถ้าดูในโรง แม่ที่พาลูกเล็กๆเข้าไปดูด้วย สงสัยต้องรีบพากลับบ้าน เพราะมีฉากสยองขวัญสั่นประสาทอย่างฉากตัดนิ้วตัวเองทีละนิ้วๆ ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเดียวบทอ่อนและการหักมุมแบบไม่น่าหักทำให้หนังสนุกน้อยลง จบแบบ..เหี้ยเอ้ยเช่นกัน และหลุดสุดท้าย “ฮู อา กง” เรื่องนี้อารมณ์เดียวกับบุปผาราตรีภาคแรก ขำก็ขำ พอบทจะน่ากลัวก็โคตรน่ากลัว แต่แล้ว..หนังก็จบแบบปัญญาอ่อนและเหี้ย..อีกเช่นกัน คือ ดูจะเป็นหนังครอบครัวๆ พูดจากันดีมีการศึกษากว่าสามตอนก่อนหน้านี้ แต่แล้วนางเอกที่หมวยใสน่ารักก็พูดคำว่า “เหี้ย” ซะเอง เท่านั้นไม่พอ ผีอากงที่พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย แต่พูด “เหี้ย” ชั๊ดชัด ผมว่าทั้งสี่เรื่อง ไม่น่าเรียกตัวเองว่าหลุดสี่หลุด น่าจะเรียกว่า “หลุดสี่เหี้ย” มากกว่า เหี้ยเต็มโรงไปหมด ไม่ได้จะถือสาคำๆนี้เท่าไรนะครับ ถ้าตัวละครมันเหมาะกับคำๆนี้ อย่างอนันดาหรือเด็กวัยรุ่นในตอน “เกรียนล้างโลก” ก็ไม่รู้สึกเท่าไร แต่นี่เหมือนตั้งใจให้ทั้งสี่เรื่อง มีเหี้ย เหี้ย และเหี้ยเต็มโรงไปหมด คุณไม่ได้ด่าคนดูใช่มั้ย

หลุด4หลุด
อ่านต่อ

ทะเล..ทะลุ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 1 February 201417 March 2020

เป็นทริปที่เกือบจะปีแล้ว แต่ยังไม่ได้เอามาสาธยายในบล็อก ทริป “ทะเล..ทะลุ” เป็นทริปเล็กๆกับที่ออฟฟิส โดยมีเวลาแค่ 2 วัน คือเสาร์-อาทิตย์ แต่เกาะทะลุอยู่ประจวบฯที่ติดกับชุมพร ต้องใช้เวลาในการเดินทางร่วม 5 ชั่วโมง ดังนั้น เพื่อใช้เวลาในการเที่ยวให้มีค่ามากที่สุด ควรจะถึงที่ดำน้ำในเวลาไม่เกิน 9 โมงเช้าของวันเสาร์ ตอนบ่ายจะได้มีเวลาไปเที่ยวที่อื่นบ้าง และเที่ยงของวันอาทิตย์ก็จะเดินทางกลับ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้คร่าวดังกล่าวนั้น เย็นวันศุกร์จึงต้องมารวมตัวกัน เพื่อออกเดินทางแต่เช้ามืดของวันเสาร์ …กำหนดหมายที่ล้อหมุน คือ ตี 4 เย็นวันศุกร์จึงมีปาร์ตี้วงไพ่เล็กๆที่บ้านผม ณ บางกร่าง อาจจะแน่นไปนิดนึง ด้วยจำนวนสมาชิก 10 กว่าคน แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เช้ารุ่งขึ้น การเดินทางไม่เป็นไปตามแผนเท่าไรนัก เนื่องจากฝนลงเม็ดแต่เช้า การทำเวลาให้ทัน 8.30 ณ จุดดำน้ำจึงทำไม่ได้ แต่โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่รอ แม้จะเลทไป 1 ชั่วโมงก็ตาม จุดดำน้ำในเกาะทะลุ พูดถึงความใส ความสวยของทะเลก็พอรับได้ครับ ปลาอาจไม่ชุมเท่าเกาะสุรินทร์ หรือกระบี่ทางฝั่งอันดามัน แต่ถ้าไปกันสนุกๆ ที่ไม่ไกลมาก แถวนี้ก็พอดำผุดดำว่ายได้อย่างสบายๆ โชคดีที่ทางผู้ให้บริการเอง ก็จัดการกับนักท่องเที่ยวได้ดี ทั้งที่อาบน้ำ อาหารและผลไม้ หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ที่พักที่บ้านกรูดครับ .. ตอนเย็นมีปาร์ตี้ปิ้งย่างเล็กๆน้อยๆ เป็นโหมดกลางคืนเลยไม่ค่อยมีรูปมาฝาก ในวันอาทิตย์สายๆ ไปทานอาหารเกือบเที่ยงที่หน้าหนูโภชนาที่อยู่ริมทะเล ทางที่จะไปวัดทางสาย ร้านนี้ได้รับการการันตีถึงความอร่อย และก็อร่อยจริงๆ เสร็จจากการรับประทานอาหารก็ขึ้นไปไหว้พระที่วัดทางสาย ซึ่งเป็นไฮไลท์ของบ้านกรูด ใครมาแล้วต้องขึ้นไปกราบไหว้สักการะครับ ก่อนเดินทางกลับบ้าน ___ ถึงบ้าน 1 ทุ่มเป๊ะ

ทะเล เกาะทะลุ

กาลามสูตรบอกว่าอย่าเชื่อ..เพราะ..!!??

เรื่องทั่วไป 22 January 2010

ช่วงนี้มีข่าวแปลกๆ เกิดขึ้นทางภาคเหนือ และกำลังจะแพร่ระบาดไปในภาคอื่นๆ นั่นคือ ข่าวเรื่อง “โทรศัพท์มรณะ” เชื่อกันว่า หากมีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ เป็นเลขตองเรียงกันโทรเข้ามา หากรับสายจะตายทันที!! ฟังดูเป็นเรื่องเหลวไหลและหาเหตุผลไม่ได้เลย แต่ทางภาคเหนือก็เชื่อกันอย่างเป็นตุเป็นตะ เป็นคุ้งเป็นแคว ขนาดมีการปิดป้ายเตือนกันตามที่ต่างๆ และมีการบอกต่อด้วยความหวังดีอย่างแพร่หลาย ผมไม่แน่ใจว่ามีคนตายจากการรับโทรศัพท์บ้างรึยัง ชาวบ้านถึงกลัวกันขนาดนี้ หรือตาย ก็อาจจะตายด้วยสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่เพราะรับโทรศัพท์แน่ๆ แต่อาจจะบังเอิญ พอเหมาะพอเจาะกับก่อนหน้านั้นคนตายได้รับโทรศัพท์จากเบอร์แปลกๆอีกด้วย เรื่องราวก็เลย เลยเถิดกันไปใหญ่.. เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ถ้าใช้หลักของพระพุทธศาสนา ก็จะสามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งไหนควรเชื่อ และสิ่งไหนไม่ควรเชื่อ ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยพุทธกาล ก็มีเรื่องราวทำนองนี้ เรื่องมีอยู่ว่า คนกลุ่มหนึ่งได้ทูลถาม สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงข้อที่เขากำลังงงไปหมด โดยไม่อาจจะทราบได้ว่า ข้อปฏิบัติอย่างไร จะเป็นไปเพื่อความดับทุกข์โดยตรง ครูบาอาจารย์ หรือศาสดาพวกนี้มาก็สอนได้อย่างหนึ่ง พวกโน้นมาก็สอนอีกอย่างหนึ่ง จนมากมายหลายพวกด้วยกันจนงง จนไม่รู้ว่าอันไหนจะเป็นที่เชื่อถือได้ ขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้า ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัส ตอบคนเหล่านั้นว่า อย่าได้เชื่อถือด้วยเหตุผลต่างๆดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกต่อๆกันมา อย่าได้เชื่อ ถือ โดยเหตุที่สักแต่ว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ทำตามๆกันมา อย่า ได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันเล่าลือกันกระฉ่อนไปหมด แล้วมันต้องเป็นความจริง อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันมีอ้างไว้ หรือเขียนไว้ในตำรับตำรา อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการเดาของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการตรึกเอาตามเหตุผลส่วนตัวของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือ ด้วยความคาดคะเนของตัวเอง อย่าได้เชื่อถือว่า นี่มันเข้ากันได้กับลัทธิ ที่เรากำลังปฏิบัติอยู่เป็นประจำ อย่า ได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ผู้พูด ผู้กล่าว ผู้สอนนั้น อยู่ในฐานะที่พอจะเชื่อถือได้ อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ท่านผู้กล่าว ผู้สอนนั้นเป็นครูบาอาจารย์ของเรา ทั้ง  10 ข้อนี้เรียกว่า กาลามสูตร ถ้ามีสติปัญญา พิจารณาด้วยเหตุและผล ก็จะเห็นได้ว่า สิ่งไหนควรเชื่อ และสิ่งไหนเป็นสิ่งไร้สาระ แต่ในปัจจุบันสิ่งลวงตามีมากกว่าก่อนเยอะ หลายเรื่องเราไม่สามารถแยกแยะได้จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องที่คุณนักการเมืองที่เคารพทั้งหลาย ออกมาพูดกันก่อนเลือกตั้งให้เราเคลิ้มเนี่ยะ แยกไม่ออกจริงๆ ว่าอันไหนจริง อันไหนโกหก อันไหนทำได้…

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH