Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ช่วยชิม

อ่านต่อ

ป่าก์ Cafe’ : คาเฟ่ลับบรรยากาศสวน

ช่วยชิม 10 June 202210 June 2022

ร้านกาแฟที่แอบอยู่ในสวนไม่ไกลจากวงเวียนพระราม 5 หรือบางคนรู้จักในชื่อวงเวียนนครอินทร์ แม้จะไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ เพราะต้องจอดรถไว้ด้านนอกและเดินตามทางเล็กๆเข้าไปในสวน แต่บอกเลยว่านี่คือเสน่ห์ของร้านแห่งนี้ ของดีแม้อยู่ในป่าลึกคนก็สามารถหาจนเจอ บรรยากาศที่เป็นสวนมีต้นไม้ร่มรื่นจึงเป็นที่มาของชื่อร้าน ป่าก์ Cafe’ นอกจากกาแฟและเค้ก ที่นี่ยังมีเมนูอาหารหลากหลายด้วยนะครับ ที่นั่งแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนห้องแอร์ และโซนบรรยากาศตามท้องร่องสวน ถือว่ามีที่นั่งเยอะอยู่นะครับ ถ้าไม่ชอบความแออัดก็ออกไปนั่งตามสวนได้

cafe ป่าก์คาเฟ่ ร้านกาแฟ
อ่านต่อ

Good Farm Cafe บ้านทุ่งนา

ช่วยชิม 16 December 20205 March 2021

ระหว่างเดินทางไปเที่ยวทางเหนือหลังจากผ่านนครสวรรค์มา เราก็เริ่มมองหาร้านกาแฟบรรยกาศดีๆ โดยมีโจทกย์ในใจว่าต้องไม่ใช่กาแฟในปั้ม อาจจะเพราะโจทกย์ยากเกินไป ขับจนพ้นนครสวรรค์แล้วยังไม่เจอร้านกาแฟที่น่าแวะ (หรืออาจเพราะขับไวไป) จนสุดท้ายมาถึงจังหวัดกำแพงเพชร ในเขตพื้นที่ที่เรียกตัวเองว่าบ้านสลกบาตร สายตาเหนือยๆง่วงๆ ก็แว่บไปเห็นป้าย “Good Farm” อีก 1 กิโลเมตรข้างหน้า พอถึงร้าน มองเห็นป้ายร้านเด่นชัดสะดุดตา บรรยากาศก็เชิญชวนให้เราแวะไปเยี่ยมชิม บรรยากาศดี รสกาแฟเข้ม สำหรับคนที่ชอบออกเดินทางเที่ยวต่างจังหวัดอย่างเราๆท่านๆ รสชาติกาแฟไม่ต้องมาที่หนึ่งก็ได้ แต่บรรยากาศของการได้พักหย่อนใจหลังจากขับรถมาไกลๆ นั่นมากกว่าที่เราต้องการที่สุด เราต้องการมากกว่ารสชาติกาแฟ ถ้าท่านผ่านไปทางเหนือก็อย่าลืมแวะครับ งีบสักหน่อยก็ยังได้ ค่อยขับต่อ..ถ้าท่านชอบเหมือนกัน แสดงว่าเรา ‘คอเดียวกัน’

ร้านกาแฟ
อ่านต่อ

5522 Cafe : ร้านกาแฟในสวน

ช่วยชิม 2 November 20202 November 2020

แถวนนทบุรีมีค่าเฟ่ที่น่านั่งหลายร้านมากครับ อยู่ในซอกในสวนอีกหลายร้าน อีกทั้งนนทบุรีเป็นจังหวัดที่อดีตเป็นพื้นที่ทำสวนเสียส่วนใหญ่ และปัจจุบันสวนเหล่านั้นก็ยังคงอยู่บ้าง พื้นที่ส่วนใหญ่กลายร่างเป็นบ้านจัดสรร แต่บางแห่งก็แปรสภาพเป็นคาเฟ่เก๋ๆ อย่างเช่น 5522 Cafe ซึ่งด้านหลังเป็นสวนมะม่วง การเดินทางไปง่ายครับ อยู่บนถนนราชพฤกษ์ ผมบอกพิกัดไม่ถูกลองจิ้มดูบนแผนที่ด้านล่างได้เลย อ่อ สำหรับคนที่อยากกินก๋วยเตี๋ยวก่อนชิมกาแฟ ร้านข้างๆติดกันกับร้านกาแฟเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือครับ รสชาติดีทีเดียว แนะนำให้สั่งเส้นเล็กแห้ง เส้นนุ่ม ละมุนลิ้น

cafe ร้านกาแฟ
อ่านต่อ

Cafe’ De Flore : ร้านร่มรื่นกาแฟรสละมุน

ช่วยชิม 31 October 202031 October 2020

สำหรับคอกาแฟแล้ว นอกจากรสชาติของกาแฟ นั่นคือ บรรยากาศของการดื่มกาแฟ นั่งกินกาแฟไปคุยกันไป หรือนั่งทำงานในบรรยากาศของร้านกาแฟ นับเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคอกาแฟ วันนี้จึงมาแนะนำร้านกาแฟน่ารักๆ บรรยากาศอบอุ่นในนนทบุรี ตั้งอยู่ตรงวงเวียนพระรามห้าหรือวงเวียนนครอินทร์แล้วแต่จะเรียก ชื่อร้านว่า Cafe’ De Flore รสชาติกาแฟของที่นี่ถือว่าผ่านครับ ได้กลิ่นได้รสกาแฟแบบถึงใจดี ละมุนทั้งรสชาติและบรรยากาศของร้าน ผ่านไปแถวนั้นก็แวะชิมแวะนั่งได้ ถ้าไปไม่ถูกก็ดูแผนที่ด้านล่างนี้ได้เลย

อ่านต่อ

ชวนชิม Spaghetti Bolognese

ช่วยชิม 10 April 202010 April 2020

ชวนชิมวันนี้ขอเสนอเมนู สปาเก็ตตี้ โบโลนีสขอรวบรัดขั้นตอนการเตรียมของวาร์ปไปถึงกระทะเลยก็แล้วกันนะครับ ..จากภาพนี้กลิ่นมาเตะจมูกกันบ้างมั้ยย ครั้งนี้ใช้เส้นสปาเกตตีเบอร์ 3 ปกติไม่ชอบใช้เส้นใหญ่ๆ เพราะขี้เกียจต้มนาน หิวแล้ว แต่ทำไมรอบนี้ใช้เบอร์นี้น่ะเหรอ เพราะตอนซื้อเส้นมากักตุน มันเหลือแต่เบอร์นี้อย่างเดียวเลย เวลาจะทานก็เอาเส้นใส่กระทะ เอาซอสลงใส่ คลุกบนไฟพอร้อนๆพร้อมเสิร์ฟแล้ว.. พร้อมทานแล้วครับ รสชาติของทำเองนี่ไม่ต่างจากซื้อตามร้านเลยนะครับบ :0

อ่านต่อ

เมนูข้าวโพดทอด..อร่อย ทำเองก็ได้ง่ายดี

ช่วยชิม 21 March 202022 March 2020

เนื่องจากสถานการณ์โควิด19 กำลังระบาด เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลที่ให้เน้นอยู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเขื้อโรค จึงเป็นที่มาของ “ข้าวโพดทอด” อาหารทานเล่นที่ทำง่ายด้วยของที่มีอยู่แล้วในบ้าน เมนูนี้ผมไม่เคยเห็นว่ามีขายที่ตลาดไหนนะครับ วัตถุดิบ มีดังนี้1. ข้าวโพด2. ไข่ (อัตราส่วน ไข่ 1 ฟองสำหรับข้าวโพด 1 ฝัก)3. พริกขี้หนู4. น้ำอาจาด หมายเหตุ น้ำอาจาดกับพริกขี้หนูใช้สำหรับราดบนข้าวโพดทอดตอนทาน วิธีทำ 1. นำข้าวโพดไปฝานลงบนภาชนะเท่าที่ต้องการ2. ตอกไข่ลงบนข้าวโพดแล้วตีให้เข้ากัน3. ตั้งน้ำมันบนกระทะ ใช้ไฟอ่อนๆ (ถ้าใช้ไฟแรงข้าวโพดจะไหม้)4. หลังจากน้ำมันเริ่มร้อนแล้ว ตักข้าวโพดที่ตีเข้ากับไข่แล้วขนาดไม่ใหญ่มาก ลงทอดบนกระทะ5. รอจนสุกด้านหนึ่งแล้วพลิกอีกด้านหนึ่ง (เหมือนทอดไข่)6. ทอดจนสุกตามต้องการแล้วตักขึ้นครับ เป็นอันทานได้7. เป็นขั้นตอนการทำน้ำอาจาด ใช้พริกขี้หนูบดพอแหลกเทลงในถ้วยน้ำอาจาด8. วิธีทาน น้ำนำอาจาดราดบนข้าวโพดทอดทาน .. ทานให้อร่อย เสร็จแล้วครับ เมนูง่ายๆทำได้เอง “ข้าวโพดทอด”

ข้าวโพดทอด
อ่านต่อ

The Glasshouse Cafe ร้านกาแฟและอาหารรสชาตดี

ช่วยชิม 18 March 20206 March 2021

ร้านกาแฟและอาหารติดถนนนครอินทร์มุ่งหน้าวงเวียนพระรามห้า บรรยกาศร้านร่มรื่นเย็นสบายเซิร์ฟทั้งเครื่องดื่มที่หลากหลายและอาหารก็มีหลายเมนูเช่นกัน ร้านสังเกตง่ายมากครับ มีต้นไม้ต้นใหญ่และตัวร้านเป็นกระจกรอบด้าน มีที่นั่งในห้องแอร์และนอกร้าน กาแฟร้านนี้ถือว่าผ่านครับ รสเข้ม ไม่เปรี้ยว กลิ่นกาแฟอ่อนไปนิดแต่รสชาติเข้มพอดี The Glasshouse Cafe ร้านอยู่แถววงเวียนพระรามห้า หรือวงเวียนนครอินทร์แล้วแต่จะเรียกนะครับ อยู่ทางด้านที่มาจากตลาดพระรามห้ามุ่งหน้ารัตนาธิเบศร์ ..ดูแผนที่เอาละกันน

cafe the glass house cafe ร้านกาแฟ
อ่านต่อ

British Cafe’ ร้านกาแฟบรรยากาศดี

ช่วยชิม 17 March 202020 March 2020

ถ้ามาจากเดอะมอลล์งามวงศ์วาน วิ่งข้ามแยกแครายมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ พอเห็นห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ซึ่งอยู่ด้านขวามือ ให้ออกทางคู่ขนานวิ่งช้าๆมาจนเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวนายใบ้ด้านซ้ายมือ จะมีซอยเล็กๆติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวให้เลี้ยวเข้าไปเลย ประมาณ 50 เมตรก็จะถึงร้าน หาทางจอดริมถนนได้เลย หรือถ้ามารถไฟฟ้าสายสีม่วง ก็ลงสถานีแยกนนทบุรี 1 ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์นะ แล้วเดินมุ่งหน้าไปหาแครายประมาณ 200  เมตรก็จะเจอซอยเล็กๆที่ว่า เข้าไป 50 เมตรก็จะเจอร้าน   เสียดายที่มาแค่คนเดียว เลยไม่ได้สั่งเมนูอื่นมาชิมกลัวกินไม่หมด วันหลังถ้าผ่านไปกับกลุ่มเพื่อนจะแวะไปโดนอีกแน่นอน ถ้าหากกำลังมองหาที่ประชุมทำงานที่นี่เหมาะมากครับ มาถึงแล้วไม่ต้องไปไหนต่อ มีทั้งอาหารคาว หวาน และกาแฟเสิร์ฟได้ทั้งวัน อ้อ ที่นี่เปิดตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น. นะครับ

bristish cafe' ร้านกาฟ
อ่านต่อ

Lullaby Coffee & Eatery

ช่วยชิม 10 July 201918 March 2020

มีโอกาสได้ไปสัตหีบเพื่อไปร่วมงานวิ่ง นาวิกมาธอน ซึ่งจะต้องหาที่พักหนึ่งคืน เลยมองหาที่พักราคาไม่แพงมากและไม่ไกลจากหาดเตยงามมากนัก เพื่อที่จะตื่นเช้าออกไปวิ่งได้ จึงมาเจอที่พักที่นี่เข้าครับ Lullaby Coffee & Eatery      ที่นี่มีทั้งอาหารคาวและหวาน กาแฟกำลังดี ขนมปังเย็นโอวัลตินภูเขาไฟ ขนมปังปิ้ง น้ำผลไม้หลากหลาย กับน้ำโซดาแบบต่างๆ มากมายจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว บรรยากาศของร้านสะอาดสะอ้านดี พนักงานดูแลทั่วถึง และอัธยาศัยดี.. ที่นี่เหมาะสำหรับไปนั่งดื่ม นั่งรับประทานอาหารได้ครับ แต่ไม่แนะนำให้ไปพัก ถึงแม้ราคาที่พักเพียงคืนละ 600 บาท แต่ห้องอยู่ชั้น 2 – 3 บันไดชันมากและขั้นบันไดก็ทำสเต็ปสูงกว่าปกติ เดินขึ้นลำบาก ยิ่งถ้ามีอายุมากแล้วไม่แนะนำที่นี่เลย เกรงจะตกบันไดซะก่อน

cafe ชลบุรี ที่พัก
1 2
อ่านต่อ

อิ่มท้อง อิ่มบรรยากาศ ณ เรือนรับรอง

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 31 July 200829 June 2016

ที่จริงจะเล่าหลายครั้งแล้ว ปรากฏว่าภาพประกอบอยู่ใน memory card แล้วเจ้าตัว card reader ดันเสีย ก็เลยไม่สามารถเอารูปในมือถือมาประกอบการเล่าได้ (ถ้าไม่มีภาพแล้ว ดูขาดความน่าเชื่อถือยังไงพิกล) เรื่องที่จะเล่า ก็คือ อยากจะแนะนำอาหารให้ไปชิมกันซะหน่อยครับ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดผมนี่แหละ อยากจะได้บรรยากาศดีๆ ไม่เอิกเกริก ก็จึงได้สถานที่แห่งหนึ่งครับ ตั้งอยู่ บนดาดฟ้าชั้น 12 พิศวิทย์ทาวเวอร์ ซ.พหลโยธิน 24 จากปากซอยพหลโยธิน 24 (ใกล้แดนเนรมิต) จะมีป้ายบอกทางมาเป็นระยะๆ ขับรถตามป้ายเข้ามาเรื่อยๆ พอถึงพิศวิทย์ทาวเวอร์ก็ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 12 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าเลย ร้านนี้ชื่อร้านเรือนรับรอง บรรยากาศที่มองจากชั้นบนดาดฟ้า ตรงกลางมีสระน้ำ รอบๆมีต้นไม้ และโต๊ะอาหาร (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป) อีกมุมหนึ่ง ดูภาพวิวรอบๆ พอแล้ว ทีนี้มาดูอาหารซึ่งเป็นไฮไลต์กัน วันนั้นสั่งไปหลายอย่างทีเดียว  แต่ละอย่างผมจำชื่อไม่ได้ แต่ที่จำได้คือรสชาติ รสชาติเยี่ยมเลยครับ ที่เห็นเป็นรูปลูกมะพร้าว นั่นคือห่อหมกยอดมะพร้าว ภาพล่างขวาปลาหมึกคลุกด้วยไข่เค็มทอด บนขวาไก่ทอด ที่นี่ทอดได้กำลังดีทีเดียว เนื้อนุ่ม ไม่แข็งไป ~ รวมๆแล้ว ถือว่าไม่เลวทีเดียว จากคะแนนเต็ม 10  บรรยากาศร้านให้ 7  รสชาติอาหารให้ 8 บรรยากาศบนดาดฟ้าดีทีเดียวครับ เป็นโอเพ่นแอร์ ~ ว่างๆลองไปชิมดูครับ

เรือนรับรอง
อ่านต่อ

เที่ยวเมืองต้าลี่-ลี่เจียง-แชงกรีล่า ตอนที่ 1

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 4 November 201128 June 2013

ช่วงที่กรุงเทพมหานครถูกรายล้อมด้วยข้าศึกคือน้ำ ผมมีโอกาสได้ละทิ้งความเครียดเรื่องน้ำท่วมมุ่งสู่มหาดินแดนอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ เมืองจีน !!

คุนหมิง ต้าลี่ ลิเจียง เมืองจีน แชงกรีล่า

กิจกรรมใหม่..รับปี 2554

ไดอารี่ 17 January 2011

เริ่มมีเสียงหนาหูขึ้นว่า ผมอ้วน แรกก็รู้สึกเฉยๆ อ้วนขึ้นก็ดีจะได้มีบุคลิกไปอีกแบบ แต่เอาเข้าจริงมันชักจะรับไม่ได้ เพราะร่างกายก็จะดูไม่ฟิต ทำอะไรเหนื่อยง่าย เสื้อผ้าก็แน่น ฯลฯ บวกกับตั้งแต่เข้าสู่ปีใหม่มายังไม่มีกิจกรรมอะไรที่ทำให้เป็นพิเศษเพื่อตัวเอง จึงคิดกิจกรรมเพื่อตัวเองขึ้นอย่างนึง นั่นคือ “กิจกรรมรีดน้ำหนักภายใน 1 เดือน” กิจกรรมก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่จะลดอาหารมื้อเย็น หรือทานเพียงผักและผลไม้ และจะออกกำลังกายทุกวัน ถ้าไม่ได้ออกวิ่งตอนเช้า ก็ต้องออกวิ่งในตอนเย็น ถ้าไม่ได้วิ่งเย็น ก็ต้องวิ่งเช้า .. กิจกรรมนี้จะทำต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือนเพื่อประเมินผลก่อน และหากได้ผลดีไม่ลำบากจนเกินไป จะทำต่อไปเรื่อยๆ ที่สำคัญและที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้น จะเริ่มต้นเมื่อไร และเริ่มต้นได้ไหม.? โอกาสหน้าจะมาแจ้งให้ทราบ สวัสดีปีใหม่ 2554

อ่านต่อ

แก้ปีชง

สุขกะภาพ 24 February 201428 October 2015

ตั้งแต่เด็กจนโต พึ่งเคยได้ยินคำว่า ชง หรือปีชง ก็เมื่อไม่กี่ปีนี่เองครับ กว่าจะเข้าใจว่ามันคืออะไร ยังไง และทำไมก็เมื่อได้ยินเขาพูด อ่านที่เขาเขียน เขาบอกมาหลายครั้งถึงกระจ่าง “ชง”  ถ้าทางบ้านๆ ก็จะเรียกว่า “เคราะห์” คล้ายๆกับเมื่ออายุเบญจเพศจะมีเคราะห์ แต่ปีชง นี่นับตามปีเกิด แต่นับอะไรยังไงนั้นไม่รู้ครับ เป็นการนับแบบจีน เบญจเพศนี่เข้าใจง่ายมาก อายุ 25 จะมีเคราะห์ …… ทุกคนสามารถมีอายุ 25 ทั้งนั้น และเกือบทุกคนก็ต้องมีอุบัติเหตุ มีเคราะห์กันบ้างใน 1 ปี แต่พอมีอุบัติหรือเคราะห์ในช่วง 25 ปุ๊บ นั่นไง เบญจเพศ! เช่นเดียวกับปีชง อะไรนิดหน่อย ป่วยบ่อย ไอ้โน่นหาย ไอ้นี่เสีย เสียเงินหาย เงินหมด งานหาย นั่นไง ปีชง เบญจเพศ ต้องไปทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปีชง ต้องทำไง? ต้องไปวัดจีน ไปบูชากระดาษเงินกระดาษทอง เขียนชื่อ อายุลงในกระดาษแล้วต้องไปทำพิธีอธิษฐานกับพระเจ้าไท่ ซื่อ เอี่ยะ พร้อมเอากระดาษปัดสิ่งชั่วร้ายออกจากตัว 13 ครั้ง เสร็จพิธี! ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องไปทำครับ เพราะผมไม่ใช่คนจีน ไม่ได้นับถือพระเจ้าอะไรใดๆทั้งนั้น แต่ก็ไป … คนเยอะและวุ่นวายกับการแก้ปีชงมาก ธุรกิจหากินกับความกลัวของคนยังจะเจริญเติบโตไปได้อีกเยอะ ..เพราะคนกลัวโดยเฉพาะกลัวต่อสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เชื่อว่ามีจริง ตอนเข้าแถวซื้อกระดาษแล้วมานั่งกรอกชื่อที่โต๊ะ อารมณ์สมัครงานหรือสมัครเรียนอะไรสักอย่าง ยัยคนขายกระดาษก็เร่งทำยอดมาก กระชากเงินออกจากมือเราอย่างรวดเร็วหลังจากส่งกระดาษให้เราเสร็จ ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะ…แก้แล้วนะ ปีชง

ปีชง มะเมีย
อ่านต่อ

บ้านกรูด ทะเล – สวย – สงบ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 17 April 200923 September 2016

ปีใหม่แบบไทยๆ สาดน้ำ ปะแป้ง รดน้ำ ดำหัว ยึดรถเมล์ เผารถ ไล่กระทึบ ยิง ฟัน ฆ่า ฯลฯ กลายเป็นวันประวัติศาสตร์ไปอีกวัน นอกจาก 6 ตุลา , 14 ตุลา, พฤษภาทมิฬ , 7 ตุลา และล่าสุดสดๆร้อนๆ 12 เมษา คนไทยแบ่งเป็นฟักฝ่ายโดยแยกตามสี สีใหญ่ๆมี 2 สี แต่ไม่แน่ใจในอนาคตจะมีสีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ สีน้ำเงินที่โผล่มาแค่วันเดียวก็หายไป อาจจะเป็นสีเฉพาะกิจ แต่จะสีไหนก็ตาม เสื้อผ้าทั้งสองสีของผม ถูกพับเก็บไว้ในตู้มิดชิด ไม่ยอมใส่มันอีกต่อไป (ถึงจะชอบแค่ไหนก็ตาม)   วกมาเรื่องตัวเองบ้างดีกว่า สงกรานต์ปีนี้ก็เหมือนทุกๆทีครับ ..ไปทะเล ผมไม่ได้ไปเยี่ยมแม่ พี่น้อง หรือญาติผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์นานแล้ว..(จนลืมไปแล้วว่า วันสงกรานต์ต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะถูกต้องตามจารีตประเพณี) จารีตประเพณีที่บังคับให้เราทำอะไรเหมือนๆกันในวันเดียวกันนี่เอง ทำให้เกิดปัญหา~ ปัญหารถติดเพราะต้องออกไปไหว้ผู้ใหญ่ในวันเดียวกัน ปัญหาสถิติคนตาย ปัญหาคนตกรถ อุบัติเหตุ ฯลฯ   เราถูกตั้งกฏ(โดยสื่อหรือใครก็ไม่รู้)ให้รักแม่รักพ่อปีละครั้ง รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ปีละ 3 วัน มีการรณรงค์ส่งเสริมให้ไปไหว้พ่อไหว้แม่ในวันดังกล่าว จนคนที่รักพ่อรักแม่อยู่ทุกวัน ไหว้พ่อไหว้แม่อยู่ทุกวัน รู้สึกไม่มั่นใจว่าที่ทำๆทุกวันนั่น ใช่รักพ่อรักแม่รึยัง? ต้องรีบไปไหว้เป็นพิเศษในวันนั้นให้ได้ ส่วนคนอื่นๆที่พ่อแม่อยู่ไกล ก็ต้องรีบออกจากบ้านออกเดินทางพร้อมกันในวันเดียวกัน จะไม่ไปก็ไม่ได้ เปิดทีวีช่องไหน ก็มีแต่ภาพดาราไหว้พ่อไหว้แม่ กอด จูบพ่อแม่อยู่นั่น จนคนดูเริ่มรู้สึก (แรกๆแค่รู้สึกคิดถึงพ่อแม่ แต่หลังๆชักรู้สึกมั่นไส้) ผมก็ไม่ได้แอนตี้ประเพณีแบบนี้กันหรอกนะครับ เพียงแต่ว่า ปีละครั้ง มันพอเหรอ?? รณรงค์ ส่งเสริมกันแค่ปีละครั้งเองเหรอ คนที่รักพ่อแม่จริงๆ ทำได้ทุกวันง่ายๆ ทำตัวให้เป็นคนดี จะทำอะไรไม่ดีก็ขอให้คิดถึงท่านก่อน ก่อนนอนกราบพระและระลึกถึงท่าน อุปัฏฐาก บำรุง ดูแล ตามสมควร ฯลฯ เอาละ พูดมาเยอะแยะนั่นนะ ความรู้สึก ความเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ ไม่ต้องเห็นร่วมก็ได้ เอาภาพที่หนีกรุงเทพฯไปเที่ยวทะเลมาฝาก (ต้องใช้คำว่าหนีจริงๆ เพราะวันที่ไปนั่นนะ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดแล้ว…

ทำไม..ฝนตกขึ้นฟ้า

เรื่องทั่วไป 4 February 2010

ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เป็นเหตุให้ไม่ได้รีวิว แนะนำที่ท่องเที่ยว มีภาำพถ่าย(สวยๆ)มาอวดเลย พึ่งรู้ว่าขาจรส่วนใหญ่ที่พลาดเข้าเว็บผมมาจาก google ด้วยคีย์เวิร์ดเรื่องท่องเที่ยวเป็นหลัก รู้สึกสิ่งที่ตัวเองทำมา 2 อาทิตย์ไม่ไร้ค่าเสียทีเดียว หลังจากอดอาหารคาวในมื้อเย็น และวิ่งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้น้ำหนักหายไป 2 กิโลกรัม !!!! ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้หายไปสักอย่างน้อย 5 กิโล วันนี้ตั้งใจจะเล่าเรื่องหนังสืออีกเล่มที่พึ่งอ่านจบไปของคุณวินทร์ เหลียววาริณ “ฝนตกขึ้นฟ้า” ชื่อเรื่องดูธรรมด๊า ธรรมดา จนแทบไม่น่าสนใจ แต่เนื้อหา และวิธีเล่าเรื่องสนุก ได้รสชาติยิ่ง ผมชอบผลงานของคุณวินทร์ ตรงที่แกมีอะไรแปลกๆมาเล่าให้เราอ่านอยู่เรื่อยๆ ด้วยวิธีที่ไม่ซ้ำ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เด่นชัดของคุณวินทร์ คือการตีแผ่สังคมอย่างตรงมาตรงไป ชัดเจน และแรง ประชดประชัน แดกดันได้สะใจ บทรักมีพอได้อรรถรสไม่ถึงกับลึกซึ้งกินใจ แต่พอทำให้ใจไม่ห่อเหี่ยวเกินไปนัก ฝนตกขึ้นฟ้า คุณวินทร์บอกว่า เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นแบบหนังฟิล์มนัว (ถ้าไม่เข้าใจคำว่าฟิล์มนัวก็คลิกดู) ทั้งบทพูด เนื้องเรื่อง เป็นในรูปของภาพยนตร์มากกว่าตัวหนังสือ ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าได้อ่านเรื่องนี้ เหมือนได้ดูหนังเรื่องหนึ่งทีเดียว บทพูด ฉากชัดเจนมาก และเสน่ห์ของงานเขียนคุณวินทร์อีกอย่างคือ แฝงปรัชญา ข้อคิด และคำคมในตัวละครมากมาย ไม่ว่าพระเอก หรือผู้ร้าย มีเหตุผลของตัวเองที่จะทำแบบนั้น ถ้าได้อ่านแค่เหตุผลของผู้ร้าย ผมก็เข้าข้างและเชื่อผู้ร้าย แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลจากทางฝั่งพระเอก ตรงนั้นจึงทำให้เราคิด และชั่งใจว่า เหตุผลข้างไหนน่าฟังกว่ากัน ผู้เขียนไม่ได้ชี้ชัดว่า เหตุผลของใครถูก ปล่อยให้ผู้อ่านไปคิดและตัดสินใจเอาเอง นี่ก็คือเสน่ห์อีกข้อของคุณวินทร์ ให้เกียรติผู้อ่านเสมอ  ผู้อ่าน 10 คน ไม่จำเป็นต้องมีความเห็นเหมือนกันในเรื่องเดียวกันนี้ มองอาร์ตเวิร์ดของเรื่อง “ฝนตกขึ้นฟ้า” แว่บแรกก็นึกแปลกใจ ทำไมภาพประกอบ และเลขหน้าต้องทำกลับหัวให้ผู้อ่านรำคาญใจด้วย แต่พอได้อ่านเนื้อเรื่องจึงเข้าใจ อยากรู้มั้ยครับ ทำไมคุณวินทร์ถึงจัดอาร์ตเวิร์กกลับหัวอย่างนั้น? ผมไม่บอกนะครับ อยากรู้ไปหาซื้ออ่านเอาเอง แต่ยืนยันนะครับว่า .. สนุกกว่าหนังบางเรื่องเสียอีก

'สาระแนสิบล้อ' ติดอันดับหนังเสียดายตังค์แห่งปี

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 April 2010

พอดีไปอ่านบทวิจารณ์หนังเรื่อง “สาระแนสิบล้อ” มา  ก็เลยรู้สึกเห็นด้วย เพราะพึ่งไปดูมาเหมือนกัน !! เขาวิจารณ์ประมาณนี้อ่ะครับ “..ที่หนังโปรโมตตัวเองว่า “มีบท” นั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้จริงจังอะไร คือโดยตัวหนัง มันก็มีหัวมีท้าย แบบว่าจะเริ่มเรื่องยังไงและจะไปจบตรงไหนยังไง พูดง่ายๆ ก็คือหนังเขียนบทไว้แบบหลวมๆ เพื่อจะอัดสถานการณ์พิลึกพิลั่นลงไป เปรียบเทียบกัน มันก็คงคล้ายๆ กับหนังของของคุณหม่ำ จ๊กม๊ก อย่าง “วงษ์คำเหลา” ที่คิดพล็อตคร่าวๆ ให้มันมีตอนต้นตอนท้าย แล้วในระหว่างทางก็ “ตบมุก” ไปเรื่อยๆ หรือถ้าจะพูดให้ชัดขึ้น ผมว่า บางที ทีมสาระแนอาจจะแจ่มแจ้งแก่ตัวเองดีว่าไม่มี “ความสนใจ” มากพอที่จะสร้างสรรค์หนังที่ดีๆ เนียนๆ ได้ ก็เลย “หาทางออก” ด้วยการเลือกที่จะทำมันออกมาในลักษณะแบบบ้าๆ บวมๆ และมั่วแหลกกันไปเลย และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความหลุดโลกสุดเพี้ยน เพี้ยนตั้งแต่เนื้อหาที่พ่วงมากับวิธีคิดแบบทื่อๆ ตื้นๆ อย่างเช่น การจะเป็นลูกผู้ชายได้ต้องใช้ชีวิตหยาบๆ เถื่อนๆ อย่างการไปเที่ยวซ่อง หรือใช้กำลังตัดสิน (กระทืบคนแก่!!) เพี้ยนทั้งตัวละครและสิ่งของ ที่มีตั้งแต่ “แฝดนรกหัวติดกัน” (เสนาหอย, โก๊ะตี๋ อารามบอย) หรือแม้แต่รถสิบล้อที่กลายร่างเป็นหุ่นยนต์คนเหล็ก (ยืมวิชามาจาก Transformers แบบเต็มๆ) และเพี้ยนแม้กระทั่งสถานการณ์ในเรื่อง อย่างเช่น มีดกระเด็นไปเฉาะปากของน้าเชจนฟันหน้าหลุดหลอ, มีดเล่มเดิมนั้นผ่าลงหัวของคู่แฝดทำให้ทั้งคู่หลุดออกเป็นอิสระจากกัน และที่ต้องบอกว่า “บ้า” อย่างสุดกู่ ก็คือผีสาวเข้าสิงรถสิบล้อแล้วทำให้รถสิบล้อพูดได้แถมร้องไห้ซิกๆ นั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิด กว่าจะได้ไอเดียนี้มา (อันนี้ไม่ได้แขวะนะครับ แต่ทึ่งจริงๆ ว่าคิดได้ไง)..” สรุปง่ายๆว่า..เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้ว รู้สึกสึกเสียดายตังค์มากกกกๆๆ ..และตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ดูหนังของค่าย Luck film อีกแล้ว

คนบ้าอำนาจ

เรื่องทั่วไป 17 June 20109 September 2019

เราชอบบอกกันว่า ผู้ใหญ่บ้าอำนาจ แต่ความจริงแล้ว เราเกือบทุกคนบ้าอำนาจ ขอให้มีอำนาจสักนิดนึง..ก็เริ่มจะใช้อำนาจ ตัวอย่าง.. ในวัด ไม่เด็กวัดก็มัคทายกวัด พวกนี้ทำตัวแก่วัด พอเราเลี้ยวรถเข้าวัดปุ๊บก็เริ่มใช้อำนาจกับเราทันที ตั้งแต่..ตรงนี้ห้ามจอด, วันนี้พระท่านไม่รับแขก(ซึ่งความจริงพระท่านอาจไม่รู้เรื่อง) ฯลฯ ในร้านอาหาร ..เจ้าของร้าน(บางคน)ก็บ้าอำนาจ ทำกับลูกค้าราวกับว่าเราไปขอมันกิน บนรถเมล์…โชเฟอร์-กระเป๋ารถเมล์ ชีวิตเราฝากกับมันไว้ เผลอกดปุ่มจอดป้าย 2 ครั้งก็ด่า บ้างก็ไม่ยอมจอดตรงป้าย บ้างก็ขับไปบ่น(ด่า)ไป คนบนรถต้องเงียบกริบให้มันบ้าอำนาจต่อไป บนรถแท็กซี่ บอกให้เีลี้ยวซ้ายจะได้เร็วมันก็ไปตรง บอกขับมา 30 กว่าปีแล้ว ขับไปโทรศัพท์ไป ขับไปด่าไป ฯลฯ บนรถตู้ ก็เหมือนกัน.. คนที่มีอาชีพขับรถจะมีลักษณะบ้าอำนาจคล้ายๆกัน จะดุจะด่าจะว่าผู้โดยสารทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจ ไม่อยากจะใช้คำว่าไร้การศึกษา เพราะความจริง บอกกันดีๆ นะทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องกระโชกโฮกฮาก ไม่ต้องบีบแตรไล่รถคันอื่น ไม่ต้องปาดหน้าใคร ไม่ต้องไปบี้ตูดใคร ่ทุกคนบนถนนรีบเหมือนกันหมด ต้องไม่ใช้อารมณ์กับผู้โดยสาร ต้องซื่อสัตย์กับอาชีพตัวเอง ผมเจอหลายครั้งที่ผู้ขับรถตู้แอบเก็บเกินราคา เราเองบ้าอำนาจในพื้นที่แม้จะเล็กๆก็ตามที่สามารถจะบ้าอำนาจได้ อย่างน้อยที่สุดก็ในบ้านตัวเอง ในสถานการณ์ที่เราต้องตกอยู่ภายใต้คนบ้าอำนาจเหล่านี้ มีคำสอนจากพระพุทธองค์เตือนสติไว้ว่า ‘ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง’ บางคนถามว่า ทำไมเราต้องทน? หลายครั้งที่เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเราไม่รู้จักอดทน ความอดทนเป็นการตอบโต้อย่างหนึ่ง และเป็นการยุติปัญหาที่ดีที่สุด ความอดทนที่สุดยอดคือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ การอดทนต่อคนที่สูงกว่าเรา เช่น ผู้ใหญ่กว่าเรา, เจ้านาย, นายจ้าง ถือว่าธรรมดา เพราะเราจำเป็นต้องทน การอดทนต่อผู้ที่เสมอกับเรา เช่น เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนบ้าน ฯลฯ ถือว่าดี แต่ไม่ใช่ดีที่สุด การอดทนต่อคนประเภทนี้เราต้องใช้คุณธรรมพอสมควร แต่การอดทนที่สุดยอดที่สุด คือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ เช่น คนขับรถเมล์, คนขายของ, คนขอทาน , คนจรจัด ฯลฯ การอดทนต่อคนพวกนี้ได้ต้องอาศัยการยับยั้งใจอย่างที่สุด และหากทำได้ ก็ถือว่าเราเข้าสู่ธรรมะได้อีกระดับหนึ่ง พระพุทธเ้จ้าและพระอานนท์ทนต่อถูกชาวบ้านด่ามาตั้ง 7 วัน โดยไม่ตอบโต้หรือหนีไปไหน แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็หายไปเอง และคนที่เดือดร้อนที่สุด ก็คือคนที่จ้างชาวบ้านมาให้ด่า นอกจากไม่ได้ผลแล้วยังเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ดังนั้น คนบ้าอำนาจ…

รำลึกถึงครู..วันครูแห่งชาติ..๒๕๕๓

เรื่องทั่วไป 16 January 2010

วันนี้เป็นครูแห่งชาติ (เสาร์ที่ 3 ของเดือนมกรา) ผมประเภทบล็อกกึ่งไดอารี่ ต้องไหลไปตามวันสำคัญของปฏิทิน ดังนั้น จะละเลยไม่กล่าวถึงความสำคัญของครูไม่ได้ ในอดีตกาล พระเถระที่ได้ชื่อว่ามีความกตัญญูจนได้รับการกล่าวขวัญคงไม่เกินพระติสสะเถระ หรือที่เรารู้จักกันในนามพระสารีบุตรนั่นเอง ครูที่สอนศิลปวิทยาคนแรกของท่านคือท่านสญชัย แต่ครูคนแรกที่สอนทางธรรมของท่านคือพระอัสสชิเถระ หนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ ขณะนั้นพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเที่ยวแสวงหาโมกขธรรมอยู่ จนที่สุดก็ได้พบกับพระอัสสชิเถระกำลังเดินบิณฑบาต ท่านก็มิได้แสดงปาฏิหาริย์หรือความอัศจรรย์ใดๆ หากแต่กิริยาที่ก้าวย่างอย่างสำรวมของท่าน ทำให้พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเกิดศรัทธา จนต้องเดินตาม และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ได้บวชในพระพุทธศาสนา ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้บรรลุธรรมชั้นสูงในที่สุด ตั้งแต่วันนั้นท่านก็นับถือพระอัสสชิตลอดมา แม้เดินทางไปในที่ไหน หาทราบว่าพระอัสสชิอยู่ทางทิศไหน ก็จะนอนหันศีรษะไปทางทิศนั้น สำหรับครูคนแรกของผมนั้น มีหลายท่านเหลือเกินครับ แต่ที่จำแม่นๆ คือ ครูศิริพร ครูสักการินทร์ ครูระเบียบ และครูบำเพ็ญ นาดี (ครูคนหลังนี่จำนามสกุลได้ เพราะพึ่งไปพบท่านเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง) ทั้ง 3 ท่าน น่าจะเกษียรแล้วในปีนี้นี่เอง ครูศิริพร เป็นครูคนเก่ง เก่งเชียร์กีฬา เก่งพละ เก่งเล่านิทาน  เรื่องเก่งเล่านิทานนี่เป็นที่ยอมรับของนักเรียนและครูด้วยกัน ผมจำได้ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักเรียนมาสายบ่อยๆ ครูใหญ่จึงมีนโยบายให้ครูศิริพรมาเล่านิทานใส่ไมโครโฟนให้ดังไปทั่วโรงเรียนแต่เช้า เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนรีบมาโรงเรียนเพื่อมาฟังนิทานของแก ก็ได้ผลอยู่นะครับ แต่โครงการนี้มีได้ไม่นานก็ยุติ ไม่ใช่ล้มเหลวหรือนักเรียนมาสายกว่าเดิม แต่ครูศิริพรแกไม่ไหวเอง เพราะต้องมาเช้ามาก โตขึ้นมาหน่อย(ป.1-ป.3)  ผมก็มารู้จักกับคุณครูระเบียบ และคุณครูบำเพ็ญ ทั้งสองท่าน เป็นครูที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของครูที่ดุร้าย น่ากลัว ให้เป็นครูใจดีที่นักเรียนสามารถจับต้อง พูดคุย และปรึกษาได้ ครูระเบียบนับว่าใจดีที่สุด ไม่เคยตีนักเรียน ทำผิดให้วิ่งรอบสนามฟุตบอลอย่างเดียว ส่วนครูบำเพ็ญ แกสามารถใจดีและใจร้ายอย่างมีเหตุมีผล ถ้านักเรียนทำตัวน่าัรักแกจะใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะเดียวกันหากนักเรียนทำตัวไม่น่ารัก แกพร้อมจะเป็นนางยักษ์ใจร้า้ยได้ทันที .. ในชีวิตของคนๆหนึ่งต้องพึ่งครูมากมายครับ ในศาสตร์แต่ละวิชาแต่ละแขนงล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยครูเป็นคนช่วยชี้แนะก่อน หากใครจะบอกว่าเก่งหรือเรียนด้วยตนเอง อย่างน้อยที่สุดก่อนจะเก่งหรือเรียนนั้น ย่อมต้องได้รับการชี้แนะหรือแรงบันดาลใจจากใครสักคน วันสำคัญเช่นนี้เหล่าศิษย์ควรมีจิตคารวะรำลึกถึงบุญคุณของท่าน ท่านมิใช่แค่เรือจ้าง หากแต่เป็นผู้เสกสรรค์ปลุกปั้นสร้างแรงบันดาลใจ ชี้ทางศิษย์ไปสู่ความสำเร็จ รำลึกถึงบุญคุณของคุณครูทุกท่านเสมอครับ

ครู
อ่านต่อ

โคราช-เขาใหญ่​..ครั้งที่เท่าไรไม่รู้

สุขกะภาพ 20 February 20173 November 2017

ไปพักผ่อนเฉยๆนี่แหละครับ แต่จะไปวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันเสาร์อาทิตย์นั้นนะหรือ คนก็เยอะเกิ๊น เลยเลือกเดินทางวันศุกร์และกลับบ่ายๆวันอาทิตย์ดีกว่า ไปโคราชไปเยี่ยมพี่กุ้ง พี่ต้อมผู้ดูแลรีสอร์ทอารมณ์ดี และวินดีรีสอร์ท วันแรกไปโคราชก่อน ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพี่กุ้งพี่ต้อมเช่นเคย ..ทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องกันที่น่าเอาตัวอย่างในเรื่องความรักพี่รักน้องและเรื่องการต้อนรับปฏิสันถาร ดูแลดีมาก ทั้งที่พัก อาหารการกิน กระทั่งพาไปเที่ยวในที่ๆพอจะไปได้ในเวลาอันจำกัด  การดูแลเอาใส่ใจต่อแขกนี้ ใช่ว่าจะทำกับคนรู้จักเท่านั้นนะครับ แกดูแลแขกที่มาพักที่รีสอร์ทด้วยอัธยาศัยอันดีเช่นกัน จึงทำให้รีสอร์ทเล็กๆ มีคนเข้ามาพักเต็มตลอดปี เช้าวันเสาร์แม้จะตื่นสายสักหน่อย แต่ผมก็ไม่ลังเลที่จะหยิบรองเท้าออกไปวิ่ง ..เมื่อตอนเย็นแอบเห็นแล้วละว่าแถวนี้มีสวนสาธารณะกว้างขวางและมีคนออกกำลังกายมากมาย สวนนี้มีชื่อว่่า “สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว” ตรงกลางเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รอบๆมีถนนอย่างดีสำหรับวิ่ง เดิน และปั่นจักรยาน แยกเลนสำหรับนักปั่นและนักวิ่งโดยเฉพาะครับ คือดีงามมาก กว้างพอสมควร วิ่ง 1 รอบระยะทาง 3.2 กิโลเมตร เช้าวันนั้นจัดไป 10 กิโลเมตร อยากจะวิ่งให้มากกว่านั้น แต่แดดเริ่มแยงตา เสียดายที่ตื่นสายไปหน่อย.. วันที่สองจากโคราชมา มุ่งหน้าเขาใหญ่ งานนี้จัดที่พักพรีเมี่ยมเลยครับ เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ สนนราคาที่พักคืนละ 4,200 บาท ถือว่าแพงที่สุดเท่าที่เคยพักมา ตัวโรงแรมอยู่ในถนนธนรัชต์ที่จะมุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่ไม่ห่างจากปาลิโอมากนัก ตัวโรงแรมอลังการอย่างที่เขาว่าจริงๆ สไตล์ยุโรป (ยุโรปไหนนี่ไม่รู้) บรรยากาศในตัวโรงแรมก็เหมือนอยู่ต่างประเทศ เปิดเพลงคันทรี่เบาๆ ทั่วโรงแรม แต่ละตึกเน้นปลูกต้นตีนตุ๊กแกให้เลื้อยไปทั่วตัวโรงแรม งานนี้เอาภาพมาโชว์อย่างเดียวดีกว่า เล่าแล้วบรรยายไม่ถูก..

เขาใหญ่ เทมส์ วัลลีย์

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (62)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (53)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH